ผิวดูแห้ง ขาดความชุ่มชื้น เป็นสัญญาณผิวขาดน้ำที่กำลังบ่งบอกว่า ผิวของคุณนั้นกำลังอ่อนแอ และต้องการได้รับการบำรุงผิวหน้าให้แข็งแรงโดยด่วน ซึ่งวิธีการนั้นก็ง่ายแสนง่าย คือ การเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้านั่นเอง
เมื่อรู้แล้วว่า ต้องเติมน้ำให้ผิว แต่ก็ยังไม่รู้ว่า ผิวขาดน้ำ ใช้อะไรดี? ในวันนี้ เรามีคำตอบมาฝากทุกคน
พร้อมกับบอกสาเหตุที่ทำให้ผิวขาดน้ำ รวมไปถึงแนะนำ สกินแคร์เติมความชุ่มชื้น บูสต์หน้าฉ่ำ อิ่มน้ำ ดูสุขภาพดี มาฝากเพื่อน ๆ กันด้วย ถ้าพร้อมแล้ว อย่ารอช้า มาดูไปพร้อม ๆ กันเลย!
ผิวขาดน้ำ ใช้อะไรดี [สรุป]
- Humectants
- Emollients
- Occlusives
- ไฮยาลูรอน+มอยเจอร์ไรเซอร์
ผิวขาดน้ำ คืออะไร? เกิดจากอะไร?
ผิวขาดน้ำ (Dehydrated skin) คือ อาการของน้ำใต้ผิวไม่เพียงพอ เกิดจากการดื่มน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการ, อากาศแห้ง (เช่น ช่วงฤดูหนาว), เหงื่อออกเยอะเกินไป รวมถึงผิวไหม้แดด ก็ทำให้น้ำใต้ผิวระเหยออกไปได้ง่าย ๆ เช่นกัน
ในร่างกายของมนุษย์ประกอบไปด้วยน้ำมากถึง 55 – 65% ดังนั้น เมื่อร่างกายของเราใช้น้ำในร่างกายจนหมดไป ส่งผลให้ร่างกายขาดน้ำ และทำให้อวัยวะภายในร่างกายทำงานได้อย่างไม่สมบูรณ์ และส่งผลต่อผิวหนังด้วย
แม้ว่าผิวแห้งกับผิวขาดน้ำ จะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน แต่ปัญหาผิวของทั้ง 2 แบบนั้นมีความแตกต่างกันอยู่มาก Dr.Amy Newburger และ Dr.Susan Massick แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ได้อธิบายความแตกต่างว่า
ผิวแห้ง เป็นประเภทของสภาพผิว เช่นเดียวกับผิวมัน และผิวผสม เกิดจากการที่ผิวหนังขาดน้ำมันตามธรรมชาติ หรือซีบัม (Sebum) ในชั้นหนังแท้ แต่ผิวขาดน้ำ เป็นปัญหาผิวที่เกิดจากการขาดน้ำในชั้นหนังแท้ ส่งผลให้ผิวขาดความชุ่มชื้น
อาการของผิวขาดน้ำ
อาการสูญเสียความรู้สึกกระหายน้ำ จะพบได้บ่อยขึ้นตามอายุที่มากขึ้น ซึ่งบ่งบอกได้ว่า ผู้สูงอายุหลาย ๆ คนจะดื่มน้ำไม่เพียงพอตามความต้องการของร่างกาย โดยสัญญาณของผิวขาดน้ำ ได้แก่
- อาจมีอาการคันตามผิวหนัง
- ใบหน้าหมองคล้ำ
- เห็นริ้วรอยเล็ก ๆ บนใบหน้าชัดขึ้น
- บริเวณรอบดวงตาดำ คล้ำ
- เกิดรอยดำหรือเงาทั่วบริเวณใบหน้า โดยเฉพาะรอบจมูก และใต้ตา
- ดวงตาจม
- แต่งหน้าไม่ติด
- สำหรับผิวมันขาดน้ำ ยังมีอาการหน้ามัน แต่ผิวดูหมอง แห้ง และระหว่างวัน อาจหน้ามันง่ายกว่าเดิม
ในกรณีที่ผิวขาดน้ำรุนแรง จะมีอาการเหล่านี้ร่วมด้วย
- ปากแห้ง
- วิงเวียนศีรษะ
- เหนื่อยล้า
- ปัสสาวะมีสีเข้มขึ้น และมีกลิ่นแรง
- ปัสสาวะน้อยกว่าปกติ
- เหงื่อน้อยกว่าปกติ
ในกรณีที่เกิดภาวะขาดน้ำรุนแรง แนะนำให้ไปพบแพทย์อย่างเร่งด่วน
ผิวขาดน้ำ ใช้อะไรดี
Dr.Hadley King แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังได้แนะนำให้ใช้ Skincare ผิวขาดน้ำ ที่มีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้น 3 ชนิด ดังต่อไปนี้
1. Humectants
สารฮิวเมกเตนท์ (Humectants) กลุ่มสารให้ความชุ่มชื้น เป็นสารที่มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ และกักเก็บน้ำ มีหน้าที่ในการดูดความชื้นจากอากาศมาใช้บนผิวหนังชั้นนอก ยกตัวอย่างเช่น
- กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid)
- กลีเซอรีน (Glycerin) เป็นต้น
2.Emollients
สารอีโมลเลียนต์ (Emollients) กลุ่มสารให้ความเนียนนุ่ม เป็นสารที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับเกราะป้องกันผิว ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นระหว่างเซลล์ผิว และช่วยปรับโครงสร้างของผิว ทำให้ผิวเรียบเนียน และอ่อนนุ่มมากขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น
- สควาเลน (Squalane)
- เซราไมด์ (Ceramides)
- กรดไขมัน (Fatty Acids) เป็นต้น
3.Occlusives
กลุ่มสารเคลือบผิว หรือ Occlusives เป็นสารที่ทำหน้าที่ป้องกันการสูญเสียน้ำทางผิวหนัง ปิดกั้นไม่ให้น้ำซึมออกนอกโครงสร้างผิว ช่วยล็อกความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง เหมาะกับผู้มีผิวแห้ง ขาดน้ำ
ยกตัวอย่างเช่น
- ปิโตรลาทัม (Petrolatum) หรือ ปิโตรเลียมเจลลี (Petroleum Jelly)
- ขี้ผึ้ง (Beeswax)
- น้ำมันแร่ (Mineral Oil) เป็นต้น
4. ไฮยาลูรอน+มอยเจอร์ไรเซอร์
หลายคนกำลังใช้ Hyaluronic Acid ผิด ๆ อยู่ และนี่คือทริควิธีใช้ที่ถูกต้อง คือ ใช้ไฮยาลูรอนแล้วตามด้วยมอยเจอไรเซอร์ทุกครั้ง
- ใช้ Hyaluronic Acid บนผิวที่หมาด ๆ
- ทามอยเจอไรเซอร์ปิดทับ เพื่อเคลือบกักเก็บน้ำบนผิวที่ไฮยาเติมเต็ม ไม่ให้ระเหยออก
หากไม่มีน้ำบนผิว และไม่เคลือบไว้ ในช่วงที่อากาศแห้ง ๆ อย่างหน้าหนาว เจ้าไฮยาลูรอนจะกลายเป็นตัวการดึงน้ำในผิวออกมา ทำให้ใบหน้าของคุณแห้งกว่าเดิม!
หรือหากต้องการแบบ 2in1 อย่างครีมที่มี Hyaluronic Acid ในส่วนประกอบในตัว สามารถหาได้ง่าย ๆ ในมอยเจอร์ไรเซอร์ ผิวมันขาดน้ำเลย
วิธีดูแลผิวขาดน้ำ
- ล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าที่อ่อนโยนต่อผิว
- ดื่มกาแฟ และเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนให้น้อยลง
- ดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่เหมาะสม
- หยุดสูบบุหรี่
- นอนหลับให้เพียงพอ
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- รับประทานอาหารประเภทผัก ผลไม้ และพืชตระกูลถั่วให้มากขึ้น
- จิบน้ำ 2 – 3 จิบ ทุก ๆ 20 นาทีเป็นอย่างน้อย
อีกหนึ่งเคล็ดลับสำหรับผิวขาดน้ำรุนแรง ต้องการเติมน้ำให้ผิวแบบเร่งด่วย คือ การใช้แผ่นมาสก์ที่มีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้น
Sleeping Mask เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยเติมน้ำให้ผิวได้เป็นอย่างดี ใช้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ซึ่งควรเลือกสูตรมาสก์ที่มีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้นอย่างน้อย 1 – 2 ชนิด ดังต่อไปนี้
- กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid)
- Niacinamide
- วิตามินอี (Vitamin E)
- ว่านหางจระเข้ (Aloe Vera)
- สารสกัดจากข้าวโอ๊ต (Oat Extract)
อีกทั้งเคล็ดลับของไอดอลเกาหลีหลาย ๆ คน ก็ใช้ Sheet Mask เป็นประจำ มาร์คหน้าเกาหลีเองก็มีสูตรเพิ่มความชุ่มชื้นอยู่หลายแบรนด์ ช่วยเติมน้ำให้ผิวเร่งด่วนดีมาก ๆ เลยทีเดียว
แนะนำ สกินแคร์ผิวขาดน้ำยอดนิยม
สินค้า | เช็คส่วนลดที่ | จุดเด่น |
Clinique Moisture Surge 100H Auto-Replenishing Hydrator ราคา 1,000 บาท |
| |
Hada Labo Premium Lotion ราคา 580 บาท |
| |
LANEIGE Water Bank Blue Hyaluronic Cream ราคา 1,550 บาท |
| |
La Roche-Posay HYALU B5 Serum ราคา 1,600 บาท |
| |
Round Lab Birch Juice Moisturizing Sunscreen SPF50+ PA++++ ราคา 700 บาท |
|
สำหรับใครที่กำลังเจอปัญหาผิวขาดน้ำแล้วไม่รู้ว่า ผิวหน้าขาดน้ำ ใช้อะไรดี? เราขอแนะนำให้คุณมองหา Skincare ผิวขาดน้ำ ที่มีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้น เนียนนุ่ม และเคลือบผิว เพื่อเติมน้ำให้ผิวหน้าฉ่ำวาว
นอกจากนี้ อย่าลืมใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีความเข้มข้นในช่วงกลางคืน หรือ ไนท์ครีมโดยเฉพาะ เพื่อล็อกความชุ่มชื้นให้ผิวหน้า หรือจะลองหาเซรั่มไฮยาลูรอน ซึ่งมีส่วนช่วยในการกระชับรูขุมขน ทำให้หน้าอิ่มฟูมาใช้เพิ่มเติม เพื่อเพิ่มความเป๊ะของใบหน้ามากยิ่งขึ้น
อ้างอิง
https://www.healthline.com/health/dehydrated-skin
https://www.medicalnewstoday.com/articles/dehydrated-skin
https://www.prevention.com/beauty/skin-care/a36292880/how-to-hydrate-skin/