พูดถึง สิว ไม่ว่าใครก็รู้จักดี แต่ถ้าจะให้ดีก็ขออยู่ห่าง ๆ อย่าได้พบเจอกันคงจะดีที่สุด ซึ่งสิวก็มีหลายชนิด แบ่งได้หลากหลายรูปแบบ มีตั้งแต่ไม่รุนแรง จนถึงอันตราย
สิวที่เกิดขึ้นได้บ่อย และไม่รุนแรงมาก แต่ก็น่ารำคาญไม่น้อย คือ สิวอุดตัน ซึ่งยังจำแนกออกไปได้อีก ทั้งสิวอุดตันหัวปิด และหัวเปิด
บทความนี้จะมาชวนทำความรู้จักกันว่า สิวอุดตันหัวปิด ใช้อะไรดี รวมถึงสาเหตุการเกิดสิว ไปจนถึงวิธีขับสิวอุดตันให้หลุดง่าย การดูแลรักษา เพื่อให้เราสามารถจัดการกับสิวชนิดนี้ได้อย่างเหมาะสม
สิวอุดตันหัวปิด ใช้อะไรดี [สรุป]
- สกินแคร์ Non-Comedogenic
- BHA
- Glycolic Acid
- Benzoyl Peroxide
- ยากลุ่ม Retinoids
สิวอุดตันหัวปิด เกิดจากอะไร?
สิวอุดตันหัวปิด เกิดจากการทับถมของเซลล์ผิวเสื่อมสภาพกับน้ำมันส่วนเกินที่ตกค้างภายในรูขุมขน สะสมไปเรื่อย ๆ จนก่อตัวเป็นตุ่มนูนเล็ก ๆ ไม่อักเสบ บวมแดงใดๆ
ซึ่งการสะสมของสิ่งเหล่านี้ มักจะมาจากการล้างเครื่องสำอางไม่สะอาด, การใช้สกินแคร์ผิดประเภท, ส่วนผสมของครีมแต่งผม, ฮอร์โมนที่แปรปรวน, การทานอาหารที่มีไขมัน น้ำตาลสูง แอลกอฮอล์ เป็นต้น
สิวอุดตันหัวปิด มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Closed Comedones หรือ สิวหัวขาว (Whiteheads) แต่หากรูขุมขนปิดไม่สนิท หัวสิวจะถูกอากาศ ทำให้เปลี่ยนเป็นสีเข้มคล้ำ เรียกว่า สิวหัวดำ (Blackheads) หรือ สิวอุดตันหัวเปิด
แต่เมื่อรูขุมขนปิดสนิทจนไม่สัมผัสกับอากาศ หัวสิวจึงเป็นสีขาว สีเหลือง หรือสีเดียวกับผิว เรียกว่าสิวอุดตันหัวปิด และหากมีน้ำมันสะสมอยู่มาก จะก่อให้เกิดแบคทีเรีย และอาจพัฒนากลายเป็นสิวอักเสบได้ในอนาคต
สิวอุดตันหัวปิด ใช้อะไรดี
1.สกินแคร์ Non-Comedogenic
อย่างแรกเลย ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ระบุชัดเจนว่า ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน เพราะอย่างน้อยก็มั่นใจได้ว่า จะมีเปอร์เซ็นต์ที่ก่อให้เกิดการอุดตันได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
มอยเจอร์ไรเซอร์ สำหรับคนเป็นสิว หรือ สกินแคร์ผิวมัน แพ้ง่าย เป็นสิว ก็มักจะเป็นสูตรไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน จึงเหมาะที่จะใช้ช่วงรักษาสิวมาก ๆ เลย
และควรผลัดเซลล์ผิวบ้างแต่ไม่ต้องบ่อยเกินไป และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน เพื่อผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และขจัดสิ่งสกปรกให้หลุดออก ป้องกันไม่ให้อุดตันรูขุมขน โดยเลือกผลิตภัณฑ์ขัดผิวที่มีส่วนผสมของ
2.BHA หรือ กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid)
BHA เป็นกรดที่ช่วยละลายน้ำมันในรูขุมขน และผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว จึงช่วยจัดการกับสิวอุดตันหัวปิดได้ดี โดยจะมีประสิทธิภาพเมื่อใช้ความเข้มข้นประมาณ 1 – 2%
การใช้ BHA อาจดันสิวอุดตันใต้ผิวหนังที่มองไม่เห็นขึ้นมาได้ หากมีสิวเห่อ ดันขึ้นมา อย่าเพิ่งตกใจ เพราะเป็นกระบวนการรักษาของการอุดตันตั้งแต่ต้นตอ เมื่อดันสิวหมด ผิวจะค่อย ๆ ดีขึ้น หน้าใสไร้สิวระยะยาวเลย
3.กรดไกลโคลิก (Glycolic Acid)
เป็น AHA ชนิดหนึ่ง ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า และขจัดสิ่งอุดตันในรูขุมขน ช่วยลดจุดด่างดำ ลดสิวอุดตัน และรอยสิวได้
นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมหลายอย่าง ที่สามารถใช้รักษาสิวอุดตันได้ ซึ่งการเลือกสกินแคร์เพื่อดูแลผิวที่เป็นสิวอุดตันหัวปิด ให้ลองดูส่วนผสมที่น่าสนใจ เช่น
4.Benzoyl Peroxide
เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ เป็นยาทารักษาสิว ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย และทำให้ผิวแห้ง จึงช่วยกำจัดน้ำมันส่วนเกินและสิ่งอุดตันรูขุมขนได้
5.ยากลุ่มเรตินอยด์ (Retinoids)
เช่น
- Adapalene อะดาพาลีน ใช้รักษาสิว และฟื้นฟูผิวจากการอักเสบ รวมถึงช่วยขัดผิว และกำจัดสิ่งอุดตันในรูขุมขนได้ ซึ่งความเข้มข้นที่ใช้อยู่ที่ 0.1 – 0.3%
- Tretinoin ช่วยรักษาสิวเช่นกัน แต่จะช่วยต่อต้านริ้วรอยได้ดีกว่า
- Tazarotene ตัวนี้จะช่วยลดจุดด่างดำและผิวหมองคล้ำด้วย แต่ควรหลีกเลี่ยงแสงแดด เพราะจะทำให้ผิวไวต่อแดดมากขึ้น
แต่ขอเตือนว่า ยากลุ่มเรตินอยด์ล้วนเป็นตัวยา ที่จำเป็นต้องใช้อย่างถูกวิธี บางตัวสามารถเลือกซื้อได้ตามเคาน์เตอร์สกินแคร์ทั่วไป แต่ก็ควรใช้ตามแพทย์สั่ง
ดังนั้น หากไม่แน่ใจว่าอาการที่เป็นอยู่นั้น ควรใช้อะไรบ้าง แนะนำให้ปรึกษาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเลือกผลิตภัณฑ์และส่วนผสมที่เหมาะสมจะดีที่สุด
ส่วนผสมที่ควรหลีกเลี่ยง
นอกจากนี้ ยังมีส่วนผสมจากน้ำมันต่าง ๆ ที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะอาจก่อให้เกิดสิวอุดตันไม่มีหัวได้ เช่น
- Cocoa Butter
- Lanolin
- Coconut Oil
- Wheat germ Oil
- Mineral Oil
- Oleic Acid
- Algae Extracts
- SLS (สารลดแรงตึงผิว) เป็นต้น
วิธีรักษาสิวอุดตันไม่มีหัว
- ล้างหน้าให้สะอาด เลือกใช้คลีนเซอร์ที่อ่อนโยนต่อผิว
- ใช้ยาทารักษา ยาละลายสิวอุดตันหัวปิด เช่น เจลแต้มสิวที่มีส่วนผสมของสารในกลุ่มเรตินอยด์ / BHA เปอร์เซ็นต์เข้มข้นบริเวณนั้นเรื่อย ๆ เพื่อดันหัวสิวให้หลุดออกมาง่าย
- กดสิวเมื่อหัวสิวดันออกมาแล้ว แต่ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความสะอาดและปลอดภัย
แต่ถ้าใครอยากกดสิวด้วยตัวเอง ควรรักษาความสะอาดมาก ๆ ล้างมือให้สะอาด ควรพันนิ้วมือด้วยกระดาษทิชชู หรือใช้คัตตอนบัด ซึ่งถ้ากดแล้วสิวไม่หลุดออก ควรหยุดกดสิวจุดนั้น
- เลเซอร์รักษาสิว เพื่อเปิดหัวสิวใต้ผิวหนังออก และกดออกมาให้หลุดไปในที่สุด
- การรับประทานยา แพทย์อาจจ่ายยาปฎิชีวนะ ยาปรับฮอร์โมน ตามอาการ
วิธีป้องกันสิวอุดตันหัวปิด
แน่นอนว่าวิธีรักษาสิวอุดตันไม่มีหัวที่ดีที่สุด คือการป้องกันไม่ให้เกิดสิวตั้งแต่แรก การดูแลผิวหน้าจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดสิวอุดตัน ไม่ว่าจะหัวปิด หรือหัวเปิดก็ตาม ลองทำตามวิธีเหล่านี้เพื่อป้องกันผิวหน้าของคุณจากสิวอุดตันดู
- รักษาความสะอาดบริเวณใบหน้า และเส้นผม
- เลือกใช้สกินแคร์ และเครื่องสำอางให้เหมาะกับสภาพผิว
- ใช้สกินแคร์ผลัดเซลล์ผิวอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อลดหน้ามัน และการสะสมของเชื้อโรค
- งดแคะ แกะ เกา หรือบีบสิวอุดตันหัวปิด
- ใส่ใจเรื่องอาหารการกิน ลดแป้ง น้ำตาล และไขมัน
- ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
- พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงความเครียด
- ซักเครื่องนอน ปลอกหมอน ทำความสะอาดโทรศัพท์เป็นประจำ
แนะนำ ไอเทมรักษาสิวอุดตันหัวปิด
สินค้า | เช็คส่วนลดที่ | จุดเด่น |
La Roche-Posay Effaclar Serum ราคา 1,350 บาท |
| |
Eucerin Pro Acne Solution A.I. Clearing Treatment ราคา 1,100 บาท |
| |
COSRX The Retinol 0.1 Cream ราคา 920 บาท |
| |
PAULA’S CHOICE Skin Perfecting 2% BHA Liquid Exfoliant ราคา 1,600 บาท |
| |
CERAVE Blemish Control Cleanser ราคา 550 บาท |
|
เพราะปัญหาหลัก ๆ ของสิวอุดตันหัวปิด คือสิ่งอุดตันในรูขุมขน หากคุณกำลังมองหาสกินแคร์เหมาะ ๆ ล่ะก็ ลองดูที่มีส่วนผสม BHA ที่เป็นเหมือนยาละลายหัวสิว คลิกดูเพิ่มเติมได้เลยที่ รีวิว BHA ยี่ห้อไหนดี
ขึ้นชื่อว่าสิวอุดตัน ไม่ว่าจะแบบไหน ชนิดไหน ก็บอกเลยว่าเป็นปัญหาจุกจิกกวนใจ และบางครั้งต้องใช้ระยะเวลานานในการรักษา แต่หากเราเรียนรู้ถึงสาเหตุ และวิธีปฏิบัติตัวที่ถูกต้องในการจัดการกับสิวเหล่านี้
รู้จักเลือกใช้สิ่งที่ดีและเหมาะสมกับสภาพผิว อาการสิวที่เป็นก็จะลดลงได้เร็ว รวมไปถึงรู้วิธีป้องกันไม่ให้เกิดสิวใหม่ขึ้นอีก แม้อาจจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดสิวอุดตัน และช่วยให้ผิวหน้าเนียนใสไร้สิวกวนใจได้แน่นอน
อ้างอิง
https://www.verywellhealth.com/closed-comedo-15712