กลิ่นตัวแรง เหงื่อเยอะ ปัญหาสุดยี้ที่คนรอบข้างพร้อมจะถอยหนี ซึ่งหลาย ๆ คนไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเพศไหน ๆ ก็ตามแต่ นับได้ว่า เป็นปัญหาใหญ่ที่คอยกวนใจ อีกทั้งยังทำให้สูญเสียความมั่นใจเวลาออกไปข้างนอกอีกด้วย
สำหรับคนที่ลองทำมาแล้วสารพัดวิธีตามอินเทอร์เน็ต ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหากลิ่นตัวแรงได้ ในวันนี้ เราจึงได้รวบรวมข้อมูลที่มีประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้กลิ่นตัวแรง วิธีลดกลิ่นตัวแรง รวมไปถึงไอเทมลดกลิ่นตัวยอดนิยมมาฝากกัน ถ้าพร้อมแล้ว มาดูไขข้อข้องใจ “กลิ่นตัวแรง ใช้อะไรดี” ไปพร้อม ๆ กันเลย!
กลิ่นตัวแรง ใช้อะไรดี [สรุป]
- สบู่แอนตี้แบคทีเรีย
- ผลิตภัณฑ์ใต้วงแขน
- โบท็อกซ์
- ยาทาระงับเหงื่อ อะลูมิเนียมคลอไรด์
- Baking Soda
- ถุงชาเขียว
- แอปเปิ้ลไซเดอร์ น้ำมะนาว
กลิ่นตัวแรง เกิดจากอะไร
กลิ่นตัวแรง เกิดจากแบคทีเรียที่สะสมอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เมื่อเหงื่อออก แบคทีเรียเหล่านี้ได้ไปทำการสลายเป็นโปรตีน ทำให้เกิดฤทธิ์เป็นกรด และส่งผลให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้
หลายคนมักจะเข้าใจผิดว่า ปัญหากลิ่นตัวแรง เกิดจากการที่เหงื่อออก แต่ในความเป็นจริงแล้ว เหงื่อของคนเรานั้นไม่มีกลิ่นเลย
ซึ่งส่วนที่มักมีแบคทีเรียหมักหมมและก่อให้เกิดกลิ่นตัว ได้แก่
- เท้า
- ขาหนีบ
- รักแร้
- อวัยวะเพศ
- หลังหู
- ทวารหนัก
- สะดือ
- หัวหน่าว และขนอื่น ๆ
โดยการศึกษาหรืองานวิจัยจาก NIH ระบุไว้ว่า กลิ่นตัวจะชัดเจนขึ้น เมื่อคุณเข้าสู่ช่วงวัยแรกรุ่น เนื่องจากฮอร์โมน และต่อมเหงื่อทำงานมากขึ้น ผู้ที่เป็นโรคอ้วน และมีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคเบาหวาน มีแนวโน้มที่จะมีกลิ่นตัวได้ง่ายมากกว่าคนอื่น
นอกจากนี้ ปัญหากลิ่นตัวแรงยังสามารถเกิดขึ้นจากปัจจัยอื่น ๆ ได้เช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น
- ความเครียด ความวิตกกังวล
- การออกกำลังกาย
- สภาพอากาศที่ร้อน
- น้ำหนักเกิน
- พันธุกรรม
กลิ่นตัวแรง ใช้อะไรดี
1. สบู่แอนตี้แบคทีเรีย
โดยปกติแล้ว การอาบน้ำ ก็มีส่วนช่วยในการระงับกลิ่นกาย แต่ถ้ายังไม่สามารถแก้ปัญหากลิ่นตัวแรงได้ เราขอแนะนำให้คุณเลือกใช้ครีมอาบน้ำ ที่มีส่วนช่วยในการลดปริมาณของเชื้อแบคทีเรีย เช่น
- สบู่ดับกลิ่นตัวที่มีส่วนผสมในการต่อต้านแบคทีเรีย
- สบู่ที่มีส่วนผสมเบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide)
2. ผลิตภัณฑ์ใต้วงแขน
ผลิตภัณฑ์ใต้วงแขนนั้นถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
- แอนติเพอสไปแรนท์ (Antiperspirants) เป็นสารระงับเหงื่อ ซึ่งมีส่วนช่วยในการป้องกันไม่ให้เหงื่อออก จากการทำงานโดยการอุดต่อมเหงื่อ และลดความเข้มของกลิ่นกาย เหมาะสำหรับคนที่มีเหงื่อออกมาก
- ดีโอโดแรนท์ (Deodorants) ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย ช่วยลดกลิ่นตัวของร่างกายที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งทำละลายด้วยแอลกอฮอล์ แต่เหงื่อของเรายังคงออกปกติ จึงเหมาะสำหรับคนที่มีเหงื่อออกไม่มากนัก
3. โบท็อกซ์
โบท็อกซ์ (Botox) หรือโบทูลินัมท็อกซิน (Botulinum Toxin) มีส่วนช่วยในการลดเลือนริ้วรอย ช่วยในการคลายกล้ามเนื้อ ซึ่งในทางการแพทย์ด้านผิวหนัง มักจะนำโบท็อกซ์มาใช้ฉีดเข้าสู่ผิวหนังโดยตรง เพื่อระงับกลิ่นกาย
เนื่องจากโบท็อกซ์ยังมีส่วนช่วยในการขัดขวางสารเคมีที่กระตุ้นให้เหงื่อออก ซึ่งรายงานบางฉบับระบุว่า การฉีดโบท็อกซ์ที่บริเวณรักแร้ มีส่วนช่วยในการลดเหงื่อออกได้มากถึง 82 – 87%
4. ใช้ยาทาระงับเหงื่อ อะลูมิเนียมคลอไรด์
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังอาจะแนะนำให้ใช้ยาทาระงับเหงื่อ อะลูมิเนียมคลอไรด์ (Aluminum Chloride) ตามใบสั่งแพทย์ ซึ่งภายในยาระงับเหงื่อมักจะมีส่วนประกอบของอะลูมิเนียมคลอไรด์มากถึง 10 – 30% ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดปริมาณของเหงื่อ
5. Baking Soda
เบคกิ้งโซดา (Baking Soda) ช่วยปรับสมดุลกรดบนผิว การใช้เบกกิ้งโซดาผสมกับน้ำ พอกไว้บริเวณรักแร้ แล้วปล่อยให้แห้ง จะช่วยลดกลิ่นตัวเหม็น ๆ ตามร่างกายได้ดีเลยทีเดียว
6.ถุงชาเขียว
ชาเขียว ขึ้นชื่อเรื่องต้านอนุมูลอิสระและดีท็อกซ์ สามารถลดเหงื่อ ลดโอกาสการเกิดกลิ่นตัวได้ ใครกลิ่นรักแร้แรงมาก ลองใช้สมุนไพรกำจัดกลิ่นตัวด้วยวิธีนี้ดูนะ
- ใช้ถุงชาเขียว (Green Tea Bag) จุ่มลงในน้ำอุ่น
- เมื่อแช่ถุงชาจนชุ่มแล้ว นำไปกดลงบริเวณรักแร้
- รอประมาณ 5 นาที แล้วล้างออก
7.แอปเปิ้ลไซเดอร์ น้ำมะนาว
คุณสามารถรักษากลิ่นตัวแรงด้วยวิธีการรักษาแบบธรรมชาติ จากส่วนผสมเหล่านี้
- น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ (Apple Cider Vinegar)
- น้ำมะนาว (Lemon Juice)
วิธีใช้น้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ และ น้ำมะนาว ดับกลิ่นตัวแรง คือ นำแอปเปิ้ลไซเดอร์ หรือ น้ำมะนาว (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง) ผสมกับน้ำเปล่าปริมาณเล็กน้อยในขวดสเปรย์ ฉีดลงบนรักแร้ จะช่วยฆ่าแบคทีเรีย กำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้
วิธีแก้ปัญหากลิ่นตัวแรง
- อาบน้ำทุกวัน อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง แต่ถ้าหากอยู่ในบริเวณที่อากาศร้อนจัด ควรอาบน้ำวันละ 2 ครั้ง โดยให้ความสนใจกับบริเวณที่มีเหงื่อออกเป็นพิเศษ
- รักษาความสะอาดของเสื้อผ้า โดยสวมเสื้อผ้าที่สามารถระบายอากาศได้ดี
- โกนขนอยู่เป็นประจำ เพื่อลดการสะสมของแบคทีเรีย
- ทาโรลออนระงับกลิ่นกายเป็นประจำ และพกสเปรย์ดับกลิ่นตัวเผื่อไว้ ในกรณีที่มีกลิ่นแรงมากระหว่างวัน
- เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกิน เลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีรสเผ็ด กลิ่นฉุน ซึ่งอาหารเหล่านี้มีส่วนที่ทำให้เหงื่อออกมากขึ้น เช่น
- แกง
- หัวหอม
- กระเทียม
- กะหล่ำปลี
- บร็อคโคลี
- ยี่หร่า
- ผงชูรส
- คาเฟอีน
- แอลกอฮอล์
- การผ่าตัดส่องกล้องทรวงอก (An Endoscopic Thoracic Sympathectomy, ETS) ซึ่งเป็นการตัดเส้นประสาทที่ควบคุมเหงื่อใต้ผิวหนังบริเวณรักแร้
เป็นวิธีการแนะนำในกรณีที่ไม่สามารถแก้ปัญหากลิ่นตัวแรงได้จากการดูแลตัวเอง หรือการใช้ยารักษาตามใบสั่งแพทย์ ซึ่งการศึกษาในปี 2019 พบว่า ผู้คนมากกว่า 90% ที่ได้รับการรักษาโดยวิธีการ ETS มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น
แนะนำ ไอเทมลดกลิ่นตัว
สินค้า | เช็คส่วนลดที่ | จุดเด่น |
Kiehl's Superbly Efficient Anti-Perspirant & Deodorant Cream ราคา 1,050 บาท |
| |
Oriental Princess Oriental Beauty Anti-Perspirant/Deodorant ราคา 105 บาท |
| |
Old Spice ราคา 425 บาท |
| |
Erb Underarm Skin Toner ราคา 830 บาท |
| |
Facelabs Axill Dry Antiperspirant & Deodorant Spray ราคา 299 บาท |
|
ปัญหากลิ่นตัวแรงนั้น เกิดจากเชื้อแบคทีเรียเป็นหลัก เพราะฉะนั้น คุณควรที่จะรักษาความสะอาดของตัวเองอยู่เสมอ
หากคุณเป็นคนที่มีเหงื่อออกเยอะมาก และต้องการกำจัดกลิ่นตัวถาวร วิธีลดกลิ่นตัวแรงง่าย ๆ ที่เรานำมาฝากอย่างส่วนผสมจากธรรมชาติ ราคาไม่แพง ก็อาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้เพื่อน ๆ ลองนำไปปรับใช้กัน
นอกจากนี้ บางคนอาจจะมองข้ามในเรื่องของขนรักแร้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดที่รวมตัวของเชื้อแบคทีเรียได้ เราขอแนะนำให้คุณใช้เครื่องกำจัดขน หรือ มูสกำจัดขน ที่นอกจากจะช่วยดูแลให้บริเวณนั้นเรียบเนียนแล้ว ยังช่วยลดปัญหาการสะสมแบคทีเรียที่อาจก่อให้เกิดกลิ่นตัวได้อีกด้วยนะ
อ้างอิง
https://my.clevelandclinic.org/health/symptoms/17865-body-odor
https://www.medicalnewstoday.com/articles/173478
https://www.verywellhealth.com/what-causes-body-odor-4154534
https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/reduce-body-odor