สำหรับคนที่พึ่งเข้าวงการสกินแคร์มาไม่นาน อาจจะเกิดข้อสงสัยต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น สกินแคร์พื้นฐานมีอะไรบ้าง? สกินแคร์ที่ควรใช้ให้เหมาะสมกับผิวเลือกอย่างไร? สกินแคร์ที่สำคัญที่สุดคือตัวไหน? ควรใช้สกินแคร์กี่ตัว?
รวมไปถึงสกินแคร์รูทีน (Skincare Routine) คืออะไร? ซึ่งภายในบทความนี้ได้รวบรวมคำตอบที่คุณต้องการไว้เรียบร้อยแล้ว ถ้าหากพร้อมที่จะไปไขข้อสงสัย สกินแคร์ควรมีอะไรบ้าง มาดูไปพร้อม ๆ กันได้เลย
สกินแคร์ควรมีอะไรบ้าง [สรุป]
- โฟมล้างหน้า
- มอยส์เจอร์ไรเซอร์
- ครีมกันแดด
โดยทั่วไปแล้ว สกินแคร์พื้นฐานมักจะเป็นสกินแคร์เสริมชั้นผิว เปรียบเสมือนกับเกราะป้องกันมลภาวะภายนอก สิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่จะเข้ามาทำร้ายผิวของเรา ซึ่งสกินแคร์รูทีนที่คนใช้ในประจำวันนั้นก็แบ่งตามเกณฑ์ได้อย่างหลากหลาย
แต่ในวันนี้เราจะมาแนะนำตามสเต็ปของผู้ใช้งาน Skincare Routine ว่าสกินแคร์ที่ควรใช้มีอะไรบ้าง?
1.ระดับ Beginner
จะประกอบไปด้วยสกินแคร์พื้นฐาน 3 หมวด ได้แก่
- เริ่มต้นด้วยการใช้คลีนซิ่ง และคลีนเซอร์ เพื่อทำความสะอาดใบหน้าได้อย่างหมดจด เพราะการ Double Cleansing เป็นการทำความสะอาดผิวที่สำคัญ
- ลำดับถัดมา ใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ซึ่งเปรียบเสมือนกับหัวใจสำคัญใน Skincare Routine เลยก็ว่าได้
- ครีมกันแดด ซึ่งคุณควรจะใช้ทั้งครีมกันแดดทาหน้า และครีมกันแดดทาตัว เพื่อป้องกันแสงแดด และรังสี UV อย่างสูงสุด
และควรจะทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF ไม่ต่ำกว่า 30 SPF อย่างน้อยเป็นเวลา 15 นาทีก่อนออกจากบ้าน และที่สำคัญ คุณควรเลือกซื้อครีมกันแดดให้เหมาะสมกับผิวตนเองด้วย
2.ระดับ Intermediate
จะเป็นการขยับจากสกินแคร์พื้นฐาน เป็นสกินแคร์ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงอย่างล้ำลึก ประกอบด้วย
- โทนเนอร์ ซึ่งเป็นสกินแคร์เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า เพื่อเป็นการปรับสมดุลให้กับใบหน้า เติมความชุ่มชื้น เติมน้ำให้ผิว เป็นการฟื้นฟูผิวหน้า ล็อกความชุ่มชื้น และบำรุงผิวหน้าให้แข็งแรง
- เซรั่ม เป็นสกินแคร์ที่ควรใช้หลังจากโทนเนอร์ เนื่องจากเป็นสกินแคร์ที่มีส่วนช่วยแก้ไขปัญหาหลาย ๆ ด้าน ซึ่งควรจะเลือกเซรั่มที่ตอบโจทย์ปัญหาผิวหน้าที่ตนเองเจอมากที่สุด
ไม่ว่าจะเป็น เซรั่มลดริ้วรอย เซรั่มกระชับรูขุมขน เซรั่มลดสิว เซรั่มไฮยาลูรอน เซรั่มออร์แกนิคตัวช่วยในการเพิ่มความชุ่มชื้น แก้ปัญหาผิวต่าง ๆ
- อายครีม เป็นสกินแคร์ที่หลายคนละเลย และมองข้ามกันโดยส่วนใหญ่ ซึ่งอายครีมนี้เป็นตัวช่วยในการดูแล และบำรุงผิวบริเวณรอบดวงตา ช่วยลดความหมองคล้ำ ทำให้บริเวณใต้ตากระจ่างใสขึ้น ไม่เป็นขอบตาหมีแพนด้า อีกทั้งยังช่วยชะลอวัย ทำให้ใบหน้าดูเด็กอีกด้วย
- ไนท์ครีม เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์อีกประเภทหนึ่งที่มีความเข้มข้นสูง ซึ่งต่างจากเดย์ครีมตรงที่มีความหนากว่า และมีส่วนผสมที่เพิ่มความชุ่มชื้นสูงกว่า รวมไปถึงสารบำรุงที่มีส่วนในการซ่อมแซมผิว เหมาะสำหรับใช้ในช่วงก่อนนอน และเป็นสกินแคร์ลำดับสุดท้าย เพื่อผลลัพธ์ที่ดีสูงสุด
- สกินแคร์ผลัดเซลล์ผิว จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
- การผลัดเซลล์ผิวด้วยการสครับผิว หรือใช้ใยบวบขัดตัว มีข้อดีที่เราสามารถควบคุมน้ำหนักได้
- การผลัดเซลล์ผิวแบบเคมี ซึ่งโดยส่วนมากจะประกอบด้วย
- AHA ซึ่งเป็นสารที่สกัดจากธรรมชาติ เช่น ผลไม้ ละลายได้ดีในน้ำ อีกทั้งยังมีผลการศึกษาจาก NIH เผยว่า 90% ของคนที่ใช้มีผิวที่ดีขึ้น ริ้วรอยลดลง อีกทั้งยังมีผิวที่เรียบเนียนขึ้น
- BHA จะแตกต่างจาก AHA ตรงที่เป็นสารเคมีสังเคราะห์ ละลายได้ดีในไขมัน จึงทำให้ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ลึกกว่า AHA เหมาะสำหรับคนที่เป็นสิว หรือคนที่มีผิวหน้ามัน
- AHA ซึ่งเป็นสารที่สกัดจากธรรมชาติ เช่น ผลไม้ ละลายได้ดีในน้ำ อีกทั้งยังมีผลการศึกษาจาก NIH เผยว่า 90% ของคนที่ใช้มีผิวที่ดีขึ้น ริ้วรอยลดลง อีกทั้งยังมีผิวที่เรียบเนียนขึ้น
- การผลัดเซลล์ผิวด้วยการสครับผิว หรือใช้ใยบวบขัดตัว มีข้อดีที่เราสามารถควบคุมน้ำหนักได้
3.ระดับ Skincare Junkie
เพิ่มความแอดวานซ์ในการบำรุงผิวแบบจัดเต็ม ได้แก่
- มาสก์หน้า เป็นไอเทมเสริมที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ฟื้นฟูผิวหน้า ลดความหมองคล้ำ เพิ่มความกระจ่างใสให้กับใบหน้าของคุณได้เป็นอย่างดี ซึ่งมาสก์หน้าก็มีหลายแบบให้คุณได้เลือกใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นมาสก์เกาหลี มาสก์หน้าขาว หรือมาสก์ลดสิว
- ไอเทมบิวตี้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องทำความสะอาดใบหน้าอย่างแบรนด์ Foreo เครื่องนวดหน้ากัวชา แปรงลูกกลิ้งหินหยก และไอเทมที่มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของสกินแคร์อื่น ๆ อีกมากมาย
แนะนำสกินแคร์ที่ควรใช้ตามสภาพผิว
ผิวแห้ง
สกินแคร์ผิวแห้ง ควรเลือกสกินแคร์ที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ซึ่งสกินแคร์รูทีนสำหรับคนผิวแห้ง ประกอบด้วย
- คลีนเซอร์ที่มีส่วนประกอบสำคัญอย่าง กรดไฮยาลูโรนิก ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ขจัดคราบสิ่งสกปรก และไม่ทำลายผิวชั้นนอก
- โทนเนอร์ไม่มีแอลกอฮอล์ ที่ช่วยเติมน้ำให้ผิวพร้อมปรับค่า pH ให้มีความสมดุล
- เซรั่มที่คุณเลือกใช้ จะต้องตอบโจทย์หรือแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด เช่น ลดรอยดำ ลดรอยแดง ลดรอยสิว ลดกระ ฝ้า เป็นต้น
- เลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มี Emollients และ Occlusives เพื่อเคลือบผิวชุ่มชื้นยาวนานตลอดวัน ซึ่งทางที่ดีควรสังเกตจากฉลากว่า เป็นสกินแคร์ประเภท Non Comedogenic เพื่อไม่ให้เกิดการอุดตันตามมา
- ครีมกันแดดที่ดี ควรมีค่า SPF ไม่ต่ำกว่า 30
ผิวผสม
สกินแคร์ผิวผสม ควรเลือกสกินแคร์ที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว แต่ต้องไม่มันจนเกินไป ซึ่งสกินแคร์รูทีนสำหรับคนผิวผสม ประกอบด้วย
- เลือกคลีนเซอร์ที่สามารถกำจัดคราบสิ่งสกปรกตกค้างข้ามคืนได้อย่างสะอาดหมดจด
- ใช้โทนเนอร์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ เพื่อปรับค่าสมดุล pH ของผิว
- เลือกใช้เซรั่มที่มีกรดไฮยาลูโรนิก เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวของคุณ
- ใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ เนื้อเจลครีม หรือโลชั่นบางเบา ในบริเวณที่มีผิวมัน และหากผิวบริเวณ U-Zone แห้งมาก อาจเลือกใช้มอยเจอร์ไรเซอร์เนื้อครีมแทนได้
- เลือกครีมกันแดดที่บาลานซ์ความเบาสบาย โดยไม่ทำให้หน้าแห้งและมันจนเกินไป
ผิวมัน
สกินแคร์ผิวมัน คีย์เวิร์ดง่าย ๆ คือ Oil-Free และ Non-comedogenic เนื้อบางเบา ไม่อุดตันผิว ซึ่งสกินแคร์รูทีนสำหรับคนผิวมัน ประกอบด้วย
- ล้างหน้าให้สะอาดอย่างหมดจดด้วยคลีนเซอร์ที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก ซึ่งมีส่วนช่วยในการผลัดเซลล์ผิว ลดความหมองคล้ำ เพิ่มความกระจ่างใสของใบหน้า
- เลือกใช้โทนเนอร์หรือเซรั่มที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิก กรดไกลโคลิก หรือกรดแลคติก อาทิตย์ละ 1-2 ครั้งเพื่อลดการอุดตัน
- ใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ เนื้อเจล เจลครีม ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน
- อย่าลืมใช้ครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน ซึ่งควรเลือกสูตรที่มีเนื้อบางเบา Oil Control ฟินิช Matte เพื่อกันการเหนอะหนะบนใบหน้า อาจนำมาสู่ปัญหาสิวอุดตันได้
ผิวแพ้ง่าย
สกินแคร์ผิวแพ้ง่าย ควรเลือกที่อ่อนโยนต่อผิว ไม่ทำให้ผิวระคายเคือง ซึ่งสกินแคร์รูทีนสำหรับคนผิวแพ้ง่าย ประกอบด้วย 3 ชนิดง่าย ๆ
- เลือกคลีนเซอร์ และโฟมล้างหน้าที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีส่วนผสมของกรด และโซเดียมลอริลซัลเฟต เนื่องจากสารดังกล่าวจะดึงความชุ่มชื้นออกจากผิว
- มอยเจอร์ไรเซอร์ ไม่มีน้ำหอมและหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ น้ำมันหอมระเหย เพราะมีส่วนกระตุ้นการระคายเคือง รวมถึงควรหาส่วนผสมเสริมชั้นผิว เช่น Ceramides เพื่อเสริมเกราะป้องกันผิวหนังให้แข็งแรง เพื่อลดอาการระคายเคืองง่ายในอนาคต
- ครีมกันแดด Physical จะเหมาะกับผิวแพ้ง่าย และเป็นสิวที่สุด เพราะไม่มีสารเคมีที่กระตุ้นให้ผิวแพ้ แต่จะเคลือบป้องกันแสงยูวีแทน
คำถามที่พบบ่อย
สกินแคร์ตอนเช้าควรมีอะไรบ้าง?
สกินแคร์ตอนเช้าควรมี 3 ตัวพื้นฐาน นั่นคือ
1.โฟมล้างหน้า
2.มอยเจอร์ไรเซอร์
3.ครีมกันแดด
แต่ทางที่ดีควรแทรก เซรั่มวิตามินซี ก่อนทามอยเจอร์ไรเซอร์ในตอนเช้า เพื่อป้องกันอนุมูลอิสระจากแสงแดดและมลภาวะขณะใช้ชีวิตประจำวัน
สกินแคร์ก่อนนอนควรมีอะไรบ้าง?
สกินแคร์ก่อนนอนควรมีสกินแคร์ Step ที่เพิ่มจากตอนเช้า คือ
1.การทำความสะอาดใบหน้าแบบ Double Cleansing
2.เซรั่ม (หากมีปัญหาผิวที่ต้องการแก้)
3.มอยเจอร์ไรเซอร์
4.ปิดท้ายด้วยเรตินอล (หากอายุเริ่มเยอะและกังวลเรื่องริ้วรอย)
บทสรุป
แม้ว่า สกินแคร์จะเป็นไอเทมที่ช่วยดูแล บำรุง และฟื้นฟูผิวหน้าแล้ว แต่คุณก็อย่าลืมที่จะเลือกใช้สกินแคร์ที่เหมาะสมกับผิวตัวเอง อาจจะเป็นสกินแคร์เคาน์เตอร์แบรนด์ หรือสกินแคร์ถูกและดี เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตรงตามสภาพผิวที่ดีที่สุด รวมไปถึงการทำตาม Skincare Routine ในทุก ๆ วัน เพื่อผลลัพธ์ของสุขภาพผิวที่ปัง ไร้ที่ติ อีกด้วย
อ้างอิง
https://www.webmd.com/beauty/how-to-get-glass-skin
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4885180/
https://www.healthline.com/health/beauty-skin-care/how-to-moisturize-face#tips
https://www.nordstrom.com/browse/content/blog/skin-care-routine-order