ไขข้อข้องใจ “เวชสําอาง กับ สกินแคร์ ต่างกันอย่างไร?”

การบำรุง ดูแล ฟื้นฟูผิวพรรณของตนเองให้แข็งแรง เป็นสิ่งที่ควรจะทำให้กลายเป็นกิจวัตรประจำวันอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้ภาพลักษณ์ภายนอกของคุณดูดีขึ้นได้ อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับตนเองได้เป็นอย่างดี

หลาย ๆ คนคงรู้จักตัวช่วยมากมายในการช่วยบำรุงผิวตนเอง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอาง สกินแคร์ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์เวชสำอาง ในหลากหลายยี่ห้อ หลากหลายแบรนด์ แต่คุณรู้ไหมว่า สิ่งเหล่านี้แตกต่างกันอย่างไร ?

เวชสําอาง กับ สกินแคร์ ต่างกันอย่างไร? [สรุป]

เวชสําอาง กับ สกินแคร์ ต่างกันตรงที่ เวชสําอาง คือสกินแคร์ที่มีสรรพคุณในการรักษาปัญหาผิว เรียกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของสกินแคร์ ส่วนคำว่าสกินแคร์เฉยๆ คือผลิตภัณฑ์ดูแล บำรุงผิวหน้าทุกชนิด

เวชสําอาง กับ สกินแคร์ ต่างกันอย่างไร

ทำความรู้จักกับ เวชสําอางกับสกินแคร์

ก่อนที่จะรู้ว่า เวชสำอาง กับ สกินแคร์ ต่างกันอย่างไร? เราควรที่จะรู้จักความหมายหรือนิยามของคำ ๆ นั้นก่อน เพื่อทำให้เกิดการเปรียบเทียบ และเห็นภาพความแตกต่างที่ชัดเจนมากขึ้น

สกินแคร์ คืออะไร ?

สกินแคร์ คือ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนช่วยในการดูแล บำรุง และฟื้นฟูผิว ซึ่งจะไม่มีการอ้างอิงถึงการ “รักษา“ หรือเปลี่ยนสภาพผิวทางการแพทย์ใดๆ อาจจะ มี หรือ ไม่มี Active Ingredient ในส่วนประกอบสำคัญของผลิตภัณฑ์ก็ได้

โดยเน้นไปที่การดูแลผิวพื้นฐาน เช่น การทำความสะอาดสิ่งสกปรก คงสภาพผิวให้ชุ่มชื้น เป็นต้น

เวชสำอาง คืออะไร ?

เวชสำอาง คือ สกินแคร์รูปแบบหนึ่งที่มี Active Ingredient ช่วยในการแก้ไขปัญหาผิวต่าง ๆ โดยการปรับโครงสร้างเซลล์ผิวและ Texture ผิวหนังให้มีการเปลี่ยนแปลงไปตามคุณสมบัติของ Active Ingredient นั้น ๆ 

ยกตัวอย่างเช่น เซรั่มวิตามินซี มีคุณสมบัติลดรอยดำ ลดรอยสิว ลดกระ ฝ้า กระตุ้นคอลลาเจน ตัวสารสกัดทำหน้าที่ “เปลี่ยน” เซลล์ผิวหมองคล้ำ มีริ้วรอย ให้ขาวกระจ่างใส เรียบเนียนขึ้น ซึ่งเป็นผลลัพธ์ตามงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ จึงเรียกได้ว่าเป็น เวชสำอาง

เวชสำอาง สามารถเรียกได้เป็นภาษาอังกฤษได้ 2 คำ คือ Cosmeceutical และ Medical-Grade Skincare แต่แอบมีความแตกต่างกันอยู่เล็กน้อย

เวชสําอาง กับ สกินแคร์ ต่างกันอย่างไร

Medical-Grade Skincare หรือ สกินแคร์เกรดการแพทย์ มีความแอดวานซ์ตรงที่มีระดับความเข้มข้นของ Active Ingredient มากกว่า

พร้อมได้รับการทดสอบประสิทธิภาพตามมาตรฐานทางการแพทย์ จึงจัดอยู่ใน Medical-Grade ซึ่งมีแนวโน้มที่จะให้ผลลัพธ์ดีกว่า และภาพลักษณ์ของแบรนด์ ก็มีความน่าเชื่อถือมากเช่นกัน

เกร็ดน่ารู้ : คำว่า เวชสำอาง มีชื่อเรียกภาษาอังกฤษว่า Cosmeceutical มาจาก Cosmetic ที่แปลว่า “เครื่องสำอาง” และ Pharmaceutical ที่แปลว่า “ยา” ถูกบัญญัติเป็นครั้งแรกในปี 1980 โดย Albert Montgomery Kligman แพทย์ผิวหนังชาวอเมริกัน ผู้คิดค้น Retin A (เรติน เอ)

สกินแคร์ มีอะไรบ้าง

สกินแคร์ มีหลากหลายชนิดมาก ซึ่งการแบ่งประเภทนั้นก็มีเกณฑ์การแบ่งที่หลากหลายเกณฑ์ แตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเช่น

ตามสภาพผิวของตนเอง ก็จะมีสกินแคร์ผิวผสม สกินแคร์ผิวแพ้ง่าย สกินแคร์ผิวมัน สกินแคร์ผิวแห้ง แต่สกินแคร์พื้นฐานโดยทั่วไปที่ทุกคนควรจะให้ความสำคัญ ถูกแบ่งออกเป็น 5 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้

เวชสําอาง กับ สกินแคร์ ต่างกันอย่างไร
  1. คลีนเซอร์ (Cleanser) หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อของโฟมล้างหน้า หรือ เจลล้างหน้า ซึ่งคุณควรจะเลือกคลีนเซอร์ที่มีความอ่อนโยนต่อผิวหน้า รวมไปถึงการล้างหน้าอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
  1. โทนเนอร์ น้ำตบ เอสเซนส์ เป็นสกินแคร์เนื้อเหลวคล้ายน้ำ บำรุงผิวแตกต่างกันตามส่วนผสม โดยรวมแล้วสามารถลดอักเสบ ลดระคายเคือง ผิวแดงง่าย รวมถึงเพิ่มความชุ่มชื้น และลดสิวได้ด้วย
  1. เซรั่ม (Serums) เป็นสกินแคร์เนื้อบางเบา ซึมไว มักจะมี Active Ingredient และสารบำรุงที่เข้มข้น เหมาะสำหรับแก้ปัญหาผิวต่าง ๆ
  1. มอยส์เจอร์ไรเซอร์ (Moisturisers) เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เป็นการเติมน้ำให้ผิว ซึ่งมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ดี ควรมีส่วนผสมกักเก็บความชุ่มชื้นด้วย แนะนำให้คุณใช้มอยเจอร์ไรเซอร์อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ในช่วงเช้าหลังอาบน้ำ และก่อนนอน
  1. สกินแคร์สำหรับดูแลผิวเป็นพิเศษ เช่น อายครีม แผ่นมาร์คหน้า Sleeping Mask เป็นต้น

เวชสำอาง มีอะไรบ้าง

เวชสําอาง กับ สกินแคร์ ต่างกันอย่างไร

ก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์เวชสำอางมาใช้ คุณควรจะสังเกตจากส่วนผสมของครีมเวชสำอางว่า มีส่วนประกอบสำคัญเหล่านี้หรือไม่?

  • กรด AHAs (Alpha Hydroxy Acids) มีส่วนช่วยในการผลัดเซลล์ผิวที่ตายไปแล้ว ทำให้ผิวของคุณเรียบเนียน นุ่มนวล และกระจ่างใสขึ้น
  • กรด BHA (Beta Hydroxy Acid) ช่วยลดสิวอุดตัน กระชับรูขุมขน
  • กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ช่วยทำให้ผิวของคุณเรียบเนียนจากการเติมน้ำให้ผิว ทำให้ผิวของคุณชุ่มชื้น
  • เซราไมด์ (Ceramides) ช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิว ลดการสูญเสียน้ำทางผิว และลดริ้วรอย
  • ไนอะซินาไมด์ (Niacinamide) มีส่วนช่วยในการปรับสมดุลผิว ลดรอยดำ ลดรอยแดง ลดความหมองคล้ำ ทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น เรียกว่าดูแลภาพรวมของผิวได้ครอบจักรวาล
  • เปปไทด์ (Peptides) ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว ลดริ้วรอย กระชับรูขุมขนและผิว
  • วิตามินซี (Vitamin C) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนช่วยในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยชะลอวัย ลดริ้วรอยบนใบหน้า 
  • วิตามินอี (Vitamin E) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว 
  • เรตินอล (Retinol) สาร Anti-aging ชื่อดัง ที่มีส่วนช่วยลดริ้วรอย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวให้กลับมาตึงกระชับ เนียนละเอียดอีกครั้ง

บทสรุป

ไขข้อข้องใจ เวชสําอาง กับ สกินแคร์ ต่างกันอย่างไร กันไปแล้ว แม้ว่าสกินแคร์เวชสำอางจะมีส่วนช่วยในการบำรุง รักษา และฟื้นฟูผิว ทั้งทางผิวกายและผิวหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากมีสรรพคุณทางยา แต่ครีมเวชสำอางยังไม่ใช่ยารักษา

ทางที่ดี หากเกิดปัญหาทางผิวที่รุนแรงเกินกว่าสกินแคร์จะช่วยได้ แนะนำให้คุณพบและปรึกษาแพทย์ผิวหนังก่อนเป็นลำดับแรกจะดีที่สุด เพื่อไม่ให้เสียเวลาลองผิด ลองถูก และยังช่วยประหยัดงบได้อีกด้วย

อ้างอิง

https://www.glamourmagazine.co.uk/article/cosmeceutical-medical-grade-skincare

https://www.sciencedirect.com/topics/medicine-and-dentistry/skin-care

https://www.verywellhealth.com/cosmescueticals-in-skin-care-safety-and-benefits-4146439

https://www.webmd.com/beauty/features/what-are-cosmeceuticals

https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6188460/

Matchamonraya Pathinonpipat

Matchamonraya Pathinonpipat

มัชช์ จบการศึกษาจากคณะเภสัชศาสตร์ หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง
หรือ cosmetic science เป็นทั้งนักวิชาการด้านวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง และเป็นนักเขียนประจำของเว็บไซต์เรา มีประสบการณ์ทำงานร่วมกับแบรนด์สินค้าออแกนิคมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Skin1004 THREE Origins เป็นต้น โดยมีความสนใจและความรู้ความเข้าใจในสกินแคร์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมมาจากธรรมชาติเป็นหลัก เน้นสร้างคอนเทนต์รวบรวมสกินแคร์ดีๆ แชร์ทริคการรักษาสิว ดูแลผิวแพ้ง่าย การชะลอวัย รวมทั้งหาผลิตภัณฑ์ใหม่มาแนะนำทุกคนกันค่ะ