สกินแคร์ที่ไม่ควรใช้ร่วมกัน! แชร์เคล็ดลับวิธีใช้ที่ถูกต้อง

การเลือกสกินแคร์บำรุงผิวหน้า ไม่ใช่อะไรก็ได้ เพื่อน ๆ น่าจะรู้ว่าส่วนผสมของสกินแคร์มีหลายประเภท และการจะใช้ครีมบำรุงหน้าหลายตัวในรูทีน ก็ควรจะต้องเลือกให้ดีเพราะมันจะมีสกินแคร์ที่ห้ามใช้ด้วยกัน ถ้าอยากหน้าปังต้องศึกษาด่วน!

Skincare ห้ามใช้ด้วยกันในบางตัว เนื่องจากส่วนผสมบางประเภทอาจทำปฏิกริยาที่หักล้างกัน หรืออาจทำให้ผิวหน้าของสาว ๆ เปราะบางจนเกิดอาการแพ้ได้

ดังนั้นการดูให้ดีก่อนนำมาใช้ร่วมกันจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก แน่นอนว่า นอกจากสกินแคร์ที่ห้ามใช้คู่กันแล้ว ก็ต้องมีสกินแคร์ที่ใช้ร่วมกันได้ในรูทีนด้วยนะ ใครกำลังสงสัยว่าสกินแคร์ที่ไม่ควรใช้ร่วมกันมีอะไรบ้าง รีบตามมาดูพร้อม ๆ กันได้เลย

สกินแคร์ที่ไม่ควรใช้ร่วมกัน [สรุป]

  • AHA ไม่ควรใช้คู่กับ Vitamin C
  • AHA BHA ไม่ควรใช้กับ Retinol
  • Vitamin C ห้ามใช้คู่กับ Retinol
  • Niacinamide ห้ามใช้กับ Vitamin C
  • Salicylic Acid ห้ามใช้กับ Retinol
  • Glycolic Acid ห้ามใช้กับ Retinol
  • Benzoyl Peroxide ห้ามใช้คู่กับ Retinol

สกินแคร์ที่ไม่ควรใช้ร่วมกัน มีอะไรบ้าง

1.AHA ไม่ควรใช้คู่กับ Vitamin C

สกินแคร์ที่ไม่ควรใช้ร่วมกัน

AHA ห้ามใช้กับอะไร คำตอบนี้ได้มีผู้เชี่ยวชาญอย่าง Dr. Kraffert กล่าวไว้ว่า Vitamin C เป็นกรดที่ไวต่อค่า pH หากผสมกับ AHA อาจทำให้ประสิทธิภาพลดลง เพราะกรดบางชนิดสามารถปรับเปลี่ยนค่า pH ของวิตามินซี ทำให้ทำงานไม่เสถียร อีกทั้งยังอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้หากผิวของคุณบอบบาง

ดังนั้น การแยกเวลาโดยใช้วิตามินซีตอนเช้า และสกินแคร์ผลัดเซลล์ผิวกลุ่ม AHA BHA ตอนเย็น จะช่วยสารสกัดออกฤทธิ์ได้ดีกว่าใช้พร้อม ๆ กันนะ

2.AHA BHA ไม่ควรใช้กับ Retinol

ทั้ง AHA BHA เป็น Active Ingredient ที่มีคุณสมบัติผลัดเซลล์ผิวเหมือนกัน และเรตินอลก็ช่วยเร่งสร้างเซลล์ผิวใหม่ ลองจินตนาการถึงการผลัดเซลล์ผิวพร้อมเร่งผิวใหม่ซ้ำ ๆ เป็นประจำ จะเห็นได้เลยว่าสร้างความเสียหายให้กับเกราะป้องกันผิวมากเกินไป ซึ่งนำไปสู่การระคายเคืองได้

ดังนั้น คำถามที่ว่า AHA BHA ห้ามใช้กับอะไร หากผิวของคุณ Sensitive อยู่แล้ว ก็ไม่ควรใช้คู่กับเรตินอลเลยล่ะ

3.Vitamin C ห้ามใช้คู่กับ Retinol

สกินแคร์ที่ไม่ควรใช้ร่วมกัน

วิตามินซี ห้ามใช้คู่กับอะไรบ้าง? คำตอบคือ Vitamin C ห้ามใช้คู่กับ Retinol ในรูทีนเดียวกัน แม้จะช่วยสร้างคอลลาเจนให้ผิวได้ทั้งคู่ แต่หากใช้ร่วมกันก็จะระคายเคืองผิวมากเกินไป

วิธีการใช้คู่นี้ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี คือ การแบ่งใช้รูทีนตอนเช้าและตอนเย็น โดยการใช้เซรั่มวิตามินซี ในตอนเช้าเพื่อให้ทำหน้าที่ต้านอนุมูลอิสระ และใช้เรตินอลในตอนกลางคืน เพราะเรตินอลไม่ค่อยถูกกับแสงแดดเท่าไหร่นัก

4. Niacinamide ห้ามใช้กับ Vitamin C

Niacinamide ห้ามใช้กับอะไร แม้ว่าไนอะซินาไมด์จะเป็นส่วนผสมที่ดี มีโอกาสแพ้หรือระคายเคืองต่ำมาก แต่ Niacinamide + Vitamin C เป็นสกินแคร์ที่ไม่ควรใช้ร่วมกัน

ไม่ควรใช้ร่วมกันในที่นี้ คือ ไม่ควรทาต่อกันทันที! ด้วยเหตุผล 2 ข้อ คือ

  1. อาจทำให้ประสิทธิภาพลดลง
  2. มีงานวิจัยเก่า ๆ ที่บอกว่าหากใช้ Niacinamide กับ วิตามินซีอนุพันธ์ Ascorbic Acid จะทำให้ผิวมีอุณหภูมิสูงขึ้น ซึ่งอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังได้

วิธีใช้ที่ถูกต้อง Dr. Marchbein ผู้เชี่ยวชาญท่านหนึ่ง กล่าวว่า Vitamin C และ Niacinamide สามารถใช้ร่วมกันได้ หากลงสกินแคร์บนผิวหน้าในช่วงระยะเวลาที่ห่างกัน ประมาณ 10 นาทีขึ้นไป

รวมถึงสกินแคร์ Vitamin C ที่ใส่ Niacinamide ในสูตรเดียวกัน ก็ให้ผลลัพธ์เรื่องต่อต้านสารอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงหน้าขาวใสที่ดีเลยทีเดียวนะ คู่นี้จัดว่าเลิศหากใช้อย่างถูกต้อง

5. Salicylic Acid ห้ามใช้กับ Retinol

สกินแคร์ที่ไม่ควรใช้ร่วมกัน

Salicylic Acid ไม่ควรใช้กับ Retinol ถึงแม้ว่ากรดซาลิไซลิก จะมีส่วนช่วยในการลดสิว ลดการอักเสบก็จริง แต่แน่นอนว่ายังมีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิวด้วยโมเลกุลที่เล็กมาก ซึ่งเรตินอลเองเดี่ยว ๆ เองก็ค่อนข้างออกฤทธิ์แรงอยู่แล้ว

หากสภาพผิวบอบบางแต่นำมาใช้ด้วยกัน อาจทำให้เกิดการอักเสบ แสบ และระคายเคืองต่อผิวของเพื่อน ๆ ได้ Salicylic Acid + Retinol จึงเป็นสกินแคร์ที่ห้ามใช้ด้วยกันนั่นเอง

6. Glycolic Acid ห้ามใช้กับ Retinol

Glycolic Acid ห้ามใช้กับ Retinol เนื่องจาก Glycolic Acid ก็คือ AHA ชนิดหนึ่ง มีความเป็นกรดค่อนข้างสูง ช่วยเรื่องลดเลือนจุดด่างดำและมีฤทธิ์ในการผลัดเซลล์ผิวคล้ายคลึงกันกับ Retinol

ดังนั้น หากใช้ส่วนผสมสองตัวนี้คู่กัน อาจทำให้ประสิทธิภาพของสกินแคร์ออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มที่ 

ในแง่ร้ายกว่านั้น เมื่อใช้ Glycolic + Retinol อาจทำร้ายผิวหน้าของเพื่อน ๆ ให้เกิดอาการแพ้และระคายเคืองได้ง่ายขึ้นด้วย จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ หรือเลี่ยงใช้ร่วมกันไปเลยจะดีที่สุด

7. Benzoyl Peroxide ห้ามใช้คู่กับ Retinol

สกินแคร์ที่ไม่ควรใช้ร่วมกัน

Benzoyl Peroxide ไม่ควรใช้คู่กับ Retinol เพราะเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์มีคุณสมบัติช่วยรักษาสิว จึงทำให้ผิวหน้าอาจเกิดอาการขาดความชุ่มชื้นและระคายเคืองง่าย

การใช้เรตินอลคู่กันอาจทำให้ผิวหน้ายิ่งแห้งและเปราะบาง ดังนั้น Benzoyl Peroxide + Retinol จึงถือเป็นอีกหนึ่ง Skincare ห้ามใช้ด้วยกันหากมีสภาพผิวบอบบางแพ้ง่าย เพราะเสี่ยงระคายเคืองสุด ๆ

บทสรุป

  • Retinol ห้ามใช้กับ Vitamin C, Benzoyl Peroxide, AHA และ BHA ในรูทีนเดียวกัน หากผิวบอบบาง
  • Niacinamide ไม่ควรใช้กับ Vitamin C ติดต่อกันทันที
  • Retinol และ Retinol ไม่ควรเลเยอร์ทับกันหนา ๆ เพราะ

จากบทสรุปจะเห็นได้เลยว่า หลัก ๆ แล้วสกินแคร์ห้ามใช้ด้วยกัน คือ สกินแคร์ผลัดเซลล์ผิวซ้ำซ้อน และมีค่า pH ที่ต่างกัน เพราะอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองจนเกินไป

โดยเฉพาะเรตินอลเป็น Active Ingredient ที่ออกฤทธิ์แรง แค่ใช้เดี่ยว ๆ ก็อาจส่งผลให้หน้าแดง คัน หรือผิวลอกได้อยู่แล้ว จึงควรระวังเป็นพิเศษ หากต้องการใช้นำมาเป็นส่วนหนึ่งใน Skincare Routine

การศึกษาสกินแคร์ห้ามใช้ร่วมกันก่อนเลือกซื้อครีมบำรุงผิวหน้า เป็นขั้นตอนที่หลาย ๆ คนมักมองข้าม แต่ถ้าได้ลองศึกษาแล้วจะรู้เลยว่า ส่วนผสมของสกินแคร์ที่เหมาะกับผิวของเรานั้นมีอะไรบ้าง

และยังได้รู้จักสกินแคร์ที่สามารถใช้ด้วยกันได้อีกด้วย ยิ่งเสริมความปัง หน้าใสไร้สิว ผิวสุขภาพดีในระยะยาวเลย หรือสาว ๆ คนไหนที่ผิวบอบบาง ต้องการบำรุงพื้นฐานผิวให้แข็งแรง แนะนำให้ลองดู มอยเจอร์ไรเซอร์ ยี่ห้อไหนดี จากบทความนี้ก่อนก็ได้เช่นกัน

อ้างอิง

  1. https://www.instyle.com/beauty/mixing-skincare-ingredients
  2. https://www.byrdie.com/skincare-ingredient-combinations-to-avoid 
  3. https://www.skin.software/journal/skincare-ingredients-that-dont-mix 
  4. https://www.dermstore.com/blog/best-skin-care-ingredients-pairing/
รินทร์วารี รัตนอัมพรโสภณ

รินทร์วารี รัตนอัมพรโสภณ

สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักสาวๆมิสซี่ทุกคนนะคะ :) มายด์เป็นหนึ่งในนักเขียน MizzyReview ที่จะมาแชร์ คอนเทนต์ Tips & Tricks เกี่ยวกับ สกินแคร์ เมคอัพ และไอเทมต่างๆ ที่จะช่วยให้ไลฟ์สไตล์ของเพื่อนๆ มีชีวิตชีวามากขึ้น อะไรที่เขาว่าเด็ดว่าดี มายด์เอามาบอกต่อสาว ๆ แน่นอนค่า