วันนี้มิสซี่มีเคล็ดลับดีๆ อยากบอกสาวๆ ที่สนใจเริ่มดูแลตัวเองอย่างง่ายด้วย “อาหารเสริมไลโคปีน” ที่มีคุณสมบัติช่วยต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มความกระจ่างใส และลดการเกิดริ้วรอยได้! แล้วเราต้องทานไลโคปีนเสริม แล้ว lycopene ยี่ห้อไหนดีล่ะ?
มิสซี่เลยจะบอกเคล็ดลับผิวใส ไลโคปีน คืออะไร รวมถึงประโยชน์ของไลโคปีน รวมไปถึงวิธีเลือกซื้อไลโคปีนมาฝากทุกคน และที่สำคัญคือการป้ายยาอย่างตอบคำถามว่าซื้อ ไลโคปีน ยี่ห้อไหนดี ให้สาวๆ เลือกช้อปกันอีกเช่นเคย จะเป็นยังไงไปอ่านกันเล้ยย
TOP 3 ไลโคปีนที่ดีที่สุด
#1 Hi-balanz Lycopene
ราคา 690 บาท
#2 Healthy Origins Lycopene
ราคา 994 บาท
#3 VISTRA Tomato Extract Plus Beta-Carotene
ราคา 595 บาท
ไลโคปีน คืออะไร
ไลโคปีน (lycopene) คือ สารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งในตระกูลแคโรทีนอยด์ พบได้ในผัก ผลไม้สีแดง ส้ม เหลืองอย่างเช่น มะเขือเทศ ทับทิม แตงโม ฝรั่งสีชมพู เบอร์รี่ แคร์รอต มะละกอ ฯลฯ สารไลโคปีนนับว่าเป็นตัวช่วยสำคัญที่มี Anti-Oxidant ช่วยชะลออายุผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง ชะลอความเสื่อมของเซลล์ได้
อีกทั้งสารไลโคปีนเป็นสารที่ร่างกายไม่สามารถสร้างสารไลโคปีนขึ้นมาเองได้ เราจึงจำเป็นที่จะต้องเติมไลโคปีนเข้าไป โดยการทานผัก ผลไม้ แต่สำหรับคนที่ไม่ชอบทานผัก ก็สามารถมอง อาหารเสริมไลโคปีน เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับ การดูแลสุขภาพก็ได้เช่นกัน
ประโยชน์ของไลโคปีน
ไลโคปีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สูงมากกว่าวิตามินอื่นๆ โดยประโยชน์ของไลโคปีนที่เด่นๆคือช่วยบำรุงผิวพรรณ สิ่งนี้ทำให้ไลโคปีนถูกนำมาทำเป็นอาหารเสริมผิวขาว เพราะช่วยเรื่องความกระจ่างใส ผิวอ่อนเยาว์ บำรุงผิวพรรณ หรือป้องกันผิวจากแสงแดด ให้สู้แดดได้นานขึ้น (ควรทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดโอกาสผิวหมองคล้ำ ผิวไหม้แดด และโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนัง)
นอกจากเรื่องผิวแล้วจากผลวิจัยพบว่าประโยชน์ของไลโคปีนช่วยป้องกันการเสื่อมสมรรถภาพในผู้ชาย, โรคต่อมลูกหมากโต, โรคกระดูกพรุนในผู้หญิง ช่วยในการมองเห็นได้ดีขึ้น แม้ว่าจะพบสาร lycopene ในผักผลไม้สีแดงแล้ว ก็ยังพบว่า เรามักจะพบสารไลโคปีนในมะเขือเทศมากที่สุด ในบรรดาผักผลไม้ชนิดอื่นๆ ด้วย ดังนั้น ไลโคปีน จากมะเขือเทศจึงเป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่ทานอาหารเสริมไลโคปีน หรือผู้ที่กำลังดูแลสุขภาพ
บางครั้งอาจจะได้ยินบางคน เรียกอาหารเสริมไลโคปีน ว่า สารสกัดจากมะเขือเทศ นั่นเอง
จากการศึกษาพบว่า การทานผลิตภัณฑ์จากมะเขือเทศที่ผ่านการปรุง หรือผ่านกระบวนการผลิตมาแล้ว จะได้รับปริมาณสารไลโคปีนได้มากกว่าการทานมะเขือเทศแบบสด ซึ่งเราจะทานในรูปแบบซอสมะเขือเทศ น้ำมะเขือเทศ หรือในอาหารทั่วไปอย่างพิซซ่า ก็จะได้รับสารไลโคปีนได้มากกว่าแบบทานสดอยู่ดีค่ะ |
ตารางเปรียบเทียบ “ไลโคปีน” แต่ละยี่ห้อ
ชื่อสินค้า | Hi-balanz Lycopene | Healthy Origins Lycopene | VISTRA Tomato Extract Plus Beta-Carotene | Puritan's Pride Lycopene | Colly Collagen Plus Lycopene | Morgen Lycopene | POSITIF Lycopene | 21st Century, Lycopene | Amsel Lycopene Plus | DHC vitamin Lycopene |
รูปสินค้า | ||||||||||
คุณสมบัติ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ราคาเต็ม | 690 บาท | 994 บาท | 595 บาท | 950 บาท | 469 บาท | 795 บาท | 800 บาท | 590 บาท | 450 บาท | 490 บาท |
ปริมาณ | 30 เม็ด | 60 เม็ด | 30 เม็ด | 60 เม็ด | 15 ซอง | 90 เม็ด | 15 เม็ด | 60 เม็ด | 30 เม็ด | 30 เม็ด |
ตกเม็ด/ซองละ | 23 บาท | 16.5 บาท | 19.8 บาท | 15.8 บาท | ซองละ 31.2 บาท | 8.8 บาท | 53.3 บาท | 9.83 บาท | 15 บาท | 16.3 บาท |
ความคุ้มค่า | ||||||||||
เช็คส่วนลดที่ |
จะเลือกซื้อ ไลโคปีน ยี่ห้อไหนดี 2566
1. อาหารเสริมไลโคปีน โดยรวมดีที่สุด : Hi-balanz Lycopene
ราคา 690 บาท
ข้อดี
+ แคปซูลทานง่าย
+ แบรนด์ดัง น่าเชื่อถือ
+ หาซื้อง่าย
ข้อควรพิจารณา
– ราคาต่อเม็ดค่อนข้างสูง
ไฮบาลานซ์ไลโคปีน เป็นยี่ห้ออาหารเสริมที่มี สารสกัดเข้มข้นจากมะเขือเทศมากถึง 60 มก. เลยค่ะ ไอเท็มที่สาวๆ ต้องทานถ้าอยากมีผิวพรรณที่สดใส แก้มอมชมพูระเรื่อ ดูเหมือนสาวทานมะเขือเทศวันละสวน นอกจากนี้ก็ยังมีคุณสมบัติที่ช่วยดูดซับแสงรังยูวี ช่วยให้ผิวทนแดดได้มากขึ้น และเมื่อทาน lycopene อย่างต่อเนื่องก็จะช่วยชะลออายุของผิวได้ ด้วยการทานไลโคปีนวันละ 1 ครั้ง หลังอาหารเย็น แถมบอกเลยแบรนด์ hi balanz lycopene รีวิวเยอะมาก ใครที่กำลังมองหา ไลโคปีนยี่ห้อไหนดี หรือกำลังเล็งๆ อยู่ต้องลองแล้วนะ แนะนำมากเลยค่ะตัวนี้!
ทริคอีกนิด หากทานร่วมกับวิตามินอี จะช่วยเสริมฤทธิ์กันในการปกป้องผิวจากการถูกทำร้ายจากอนุมูลอิสระ (เช่น การเจอฝุ่น ควัน แสงแดด การทานปิ้งย่าง ก็ล้วนเป็นอนุมูลอิสระทั้งนั้นเลยค่ะ) และฟื้นฟูผิวไหม้จากแดดให้ดีขึ้น สาวๆ คนไหนที่เป็นสายท้าแดด ต้องมีสักกล่องแล้วนะ มิสซี่รับรองไม่ผิดหวังจ้า
ปริมาณ 30 เม็ด : ราคา 690 บาท (ตกเม็ดละ 23 บาท)
รูปแบบ | แคปซูล |
ความเข้มข้น Lycopene | 60 มิลลิกรัม |
ขนาดรับประทานต่อวัน | 1 เม็ดหลังอาหารเย็น |
2. อาหารเสริมไลโคปีน ผิวอมชมพูดีที่สุด : Healthy Origins Lycopene
ราคา 994 บาท
ข้อดี
+ พอทานแล้วรู้สึกผิวกระจ่างใสขึ้น
+ หน้าดูอิ่ม มีความชุ่มชื้นมากขึ้น
+ ทานไปเรื่อยๆ แล้วรู้สึกแก้มอมชมพู
ข้อควรพิจารณา
– หาซื้อค่อนข้างยาก
อาหารเสริมไลโคปีน healthy origin ตัวดังที่มีรีวิวเยอะมากใครที่อยากมีผิวสุขภาพดี แก้มอมชมพู ลดริ้วรอยเล็กๆ บอกเลยต้องเริ่มทานได้แล้วตอนนี้ค่ะ โดยปกติแล้วร่างกายเราจะไม่สามารถสร้างไลโคปีนเองได้ใช่ไหมล่ะ เราเลยจำเป็นต้องทานตัวนี้เสริมเข้าไป ให้ร่างกายได้นำสารอาหารเหล่านี้ไปช่วยเสริม และชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิวของเรา
และนอกจากช่วยให้ผิวองค์รวมดูดีแล้ว ก็ยังช่วยให้ผิวเราไบร์ทสู้แดดได้มากขึ้นด้วย ใครกำลังมองหาอาหารเสริมไลโคปีน ยี่ห้อไหนดี ตัวนี้แหละ เริ่ดมากมิสซี่แนะนำเลยค่าา
ปริมาณ 60 เม็ด : ราคา 994 บาท (ตกเม็ดละ 16.5 บาท)
รูปแบบ | ซอฟต์เจล |
ความเข้มข้น Lycopene | 15 มิลลิกรัม |
ขนาดรับประทานต่อวัน | 1 เม็ดพร้อมมื้ออาหาร |
3. ไลโคปีน ทานง่ายที่สุด : VISTRA Tomato Extract Plus Beta-Carotene
ราคา 595 บาท
ข้อดี
+ เม็ดเล็ก กลืนง่าย
+ ไม่มีกลิ่น ทานได้สบาย
+ หาซื้อง่าย
ข้อควรพิจารณา
– มีปริมาณสารสกัดไลโคปีนค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น
มาต่อกันที่ไลโคปีนเม็ดยี่ห้อไหนดี มิสซี่เชียร์แบรนด์นี้เลย วิสตร้า ซึ่งแบรนด์เขามีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ค่อนข้างเยอะ อย่างตัวสูตรนี้เองก็จะเป็นสารสกัดจากมะเขือเทศที่มีสารไลโคปีนเข้มข้น และยังมีเบต้าเคโรทีน รวมไปถึงวิตามินอี ที่ครบในเม็ดเดียว คุณสมบัติจึงมาพร้อมในเรื่องของการลดปัญหาผิวต่างๆ ปรับผิวให้กระจ่างใส ลดปัญหาริ้วรอยเมื่อทานอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ยังช่วยเรื่องความชุ่มชื้นผิวไปอีก ด้วยความที่เขาเป็นแบรนด์ไทย ที่เอาจริงๆ ก็ทำอาหารเสริมออกมาตอบโจทย์คนไทยหลายอย่างมากๆ และราคาย่อมเยา ไม่เกินเอื้อมใครที่กำลังมองหา อาหารเสริมไลโคปีน ยี่ห้อไหนดี มิสซี่คิดว่าแบรนด์นี้ต้องลอง พลาดไม่ได้แล้วน้าา
ปริมาณ 30 เม็ด : ราคา 595 บาท (ตกเม็ดละ 19.8 บาท)
รูปแบบ | เม็ด |
ความเข้มข้น Lycopene | 6 มิลลิกรัม |
ขนาดรับประทานต่อวัน | 1 เม็ดพร้อมมื้ออาหาร |
4. ไลโคปีน ลดรอยสิว ได้ดีที่สุด: Puritan’s Pride Lycopene
ราคา 950 บาท
ข้อดี
+ รู้สึกว่าผิวกระจ่างใสขึ้น
+ รอยสิวจางลง
+ ซอฟเจล เหมาะกับคนทานยายาก
ข้อควรพิจารณา
– ไม่มี official store ในไทย ต้องเลือกร้านวิตามินนำเข้าดีๆ
มาต่อกันที่แบรนด์อาหารเสริมไลโคปีน จากอเมริกาที่ดังมากๆ อย่าง puritan’s pride lycopene รีวิวเยอะมากอีกหนึ่งยี่ห้อ ที่เป็นที่นิยมสำหรับสาวๆ ที่รักสุขภาพผิว อย่างตัวนี้เขามีสารไลโคปีนมากถึง 40 มก. ซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงแบบเน้นๆ ช่วยเสริมให้ผิวดูดีสุด เหมาะสำหรับคนที่ผิวอ่อนแอ เป็นสิวแล้วมีริ้วรอย จุดด่างดำ ก็สามารถทานตัวนี้ช่วยเสริมให้ผิวได้ฟื้นตัวไวขึ้นก็ได้ค่ะ
นอกจากทานเพื่อผิวแล้ว ก็ทานเพื่อช่วยลดการเกิดความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็ง หรือเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจด้วย แต่ทั้งนี้เป็นการทานเพื่อลดโอกาสเป็นนะคะ ไม่ได้มีผลในการรักษาใดๆ หากผู้ใดที่มีโรคประจำตัว มิสซี่แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนทานนะ ส่วนใครที่กำลังมองหา อาหารเสริมไลโคปีน ดีๆ สักแบรนด์ มิสซี่ว่าแบรนด์นี้ตอบโจทย์ น่าเชื่อถือ ไว้ใจได้ค่ะ
ปริมาณ 60 เม็ด : ราคา 950 บาท (ตกเม็ดละ 15.8 บาท)
รูปแบบ | ซอฟต์เจล |
ความเข้มข้น Lycopene | 40 มิลลิกรัม |
ขนาดรับประทานต่อวัน | 1 เม็ดพร้อมมื้ออาหาร |
5. ไลโคปีน รูปแบบผงที่ดีที่สุด : Colly Collagen Plus Lycopene
ราคา 469 บาท
ข้อดี
+ รสชาติหอม อร่อย ไม่หวานมาก ทานง่าย
+ ช่วยผิวขาวใส ลดริ้วรอย
+ ผสมคอลลาเจน
ข้อควรพิจารณา
– คนที่ชอบทานอาหารเสริมแบบเป็นเม็ด อาจไม่ตอบโจทย์
จะดีสักแค่ไหน ถ้าเราทานอาหารเสริมเรื่องผิว แต่จบในยี่ห้อเดียว ไม่ต้องทานหลายๆ ตัวให้เหนื่อยใจ อยากทานทั้งไลโคปีน คอลลาเจน และซิงค์ ก็ต้องทานแบรนด์ colly plus lycopene รีวิวจากพรีเซนเตอร์อย่างน้องวินยังแนะนำเลยนะ มีเหรอที่มิสซี่จะพลาดมาบอกต่อให้สาวๆ มาทานด้วยกัน เรียกว่าเป็นไลโคปีนสิวหายได้ หากทานเป็นประจำทุกวันเลยค่ะ เพราะมีส่วนผสมของซิงก์ที่ช่วยลดความมัน ที่เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวด้วย
ที่สำคัญ จุดไฮต์ไลท์ ทางแบรนด์ก็เคลมว่าทานคอลลี่ 1 ซอง = ทานมะเขือเทศ 20 ลูก เลยนะ แถมคอลลาเจนก็เยอะตั้ง 6500 มก. คือเชื่อเถอะว่า น่าลองจริงๆ ใครที่กำลังมองหา ไลโคปีน ยี่ห้อไหนดี บอกเลยทานคอลลี่แล้วคุ้มมาก ครบจบในซองเดียวจ้า มิสซี่เป็นปลื้ม
ปริมาณ 15 ซอง : ราคา 469 บาท (ตกซองละ 31.2 บาท)
รูปแบบ | ผง |
ความเข้มข้น Lycopene | 60 มิลลิกรัม |
ขนาดรับประทานต่อวัน | ทานเช้า – ก่อนนอน วันละ 1-2 ซอง |
6. ไลโคปีน ทานแล้วผิวนุ่มที่สุด : Morgen Lycopene
ราคา 795 บาท
ข้อดี
+ ผิวลื่นขึ้นมาก รูขุมขนเล็กลง ผิวละเอียด
+ ราคาคุ้มค่ามาก
+ ทานง่าย เม็ดเล็ก
ข้อควรพิจารณา
– หาซื้อจากทางออนไลน์ได้เป็นหลัก
morgen lycopene รีวิวอาหารเสริมไลโคปีนมะเขือเทศ แบรนด์นำเข้าจากฝรั่งเศสเจ้าดัง เรียกได้ว่ามารอบนี้จัดสูตรใหม่มาให้สาวๆ ได้ลองกัน ได้รับไลโคปีนจุกๆ ถึง 300 มก. แอบกระซิบว่าก็แอบเยอะว่าแบรนด์ในตลาดอยู่นะว่าไป นอกจากตัวมะเขือเทศก็มี Fish Collagen,Grape Seed ที่ช่วยดูแลผิวให้ใสขึ้น นุ่มลื่นขึ้น และลดจุดด่างดำได้อย่างดี
โดยเฉพาะที่ยกมา เขามีสารต้านอนุมูลอิสระเยอะมาก หมายความว่าหากเราทานเป็นประจำ ผิวเราก็จะแข็งแรงขึ้น ไม่แห้งกร้าน มองดูแล้วสดใส นุ่มชุ่มชื้นขึ้น และยิ่งจะเห็นผลลัพธ์ได้ชัดขึ้นเมื่อทานอย่างต่อเนื่องนะ ใครที่กำลังมองหาไลโคปีนเม็ดยี่ห้อไหนดี บอกเลยยี่ห้อนี้คุ้มสุด ในท้องตลาดไลโคปีนเลยค่ะ
ปริมาณ 90 เม็ด : ราคา 795 บาท (ตกเม็ดละ 8.8 บาท)
รูปแบบ | แคปซูล |
ความเข้มข้น Lycopene | 300 มิลลิกรัม |
ขนาดรับประทานต่อวัน | วันละ 1-2 เม็ด สามารถทานขณะท้องว่าง หรือช่วงตื่นเช้า และก่อนนอน |
7. ไลโคปีน จากญี่ปุ่นที่ดีที่สุด: POSITIF Lycopene
ราคา 800 บาท
ข้อดี
+ กินไปได้ประมาณ 20 วันได้ มีความรู้สึกว่ารอยสิวจางไวกว่าปกติ
+ รีวิวเยอะ น่าเชื่อถือ
+ นำเข้าจากญี่ปุ่น
ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างสูง
lycopene รีวิวอีกหนึ่งตัวที่ไม่รีวิวไม่ได้ ยี่ห้อนี้เป็นอาหารเสริมไลโคปีนของญี่ปุ่น ที่จะมาช่วยบูสต์ผิวเราให้ใสปิ๊ง นอกจากนี้ก็มีแร่ธาตุอีกหลาย อย่างที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระที่เราเจอในแต่ละวัน และป้องกันการเสื่อมของเซลล์ในร่างกายได้ จุดเด่นพิเศษของแบรนด์นี้คือ มะเขือเทศที่ใช้สกัด ก็ปลูกแบบระบบปิดในโรงเรือนที่ฮอกไกโด มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยได้เลย
หากเทียบวัตถุดิบ = ว่าทาน POSITIF Lycopene 1 แคปซูลเทียบเท่ากับทานมะเขือเทศสดๆ ถึง 33 ลูกเลยด้วย ตัวเม็ดก็ทานง่าย เป็นแบบซอฟต์แคปซูล กลิ่นดี ไม่เหม็น ใครที่กำลังมองหาอาหารเสริมไลโคปีน ยี่ห้อไหนดี มิสซี่บอกเลยว่าครบสูตรขนาดนี้ ถ้าไม่ลองต้องเสียดายมากแน่ๆ ค่า เตือนแล้วนะ
ปริมาณ 15 เม็ด : ราคา 800 บาท (ตกเม็ดละ 53.3 บาท)
รูปแบบ | แคปซูล |
ความเข้มข้น Lycopene | 100 มิลลิกรัม |
ขนาดรับประทานต่อวัน | วันละ 1 แคปซูล หลังอาหาร หรือพร้อมอาหาร |
8. ไลโคปีน ผิวกระจ่างใสที่สุด : 21st Century, Lycopene
ราคา 590 บาท
ข้อดี
+ ทานแล้วรู้สึกผิวใสขึ้น
+ ไม่มีกลิ่นยา
+ ราคาไม่แพง
ข้อควรพิจารณา
– วิตามินเม็ดใหญ่ไปนิด
อาหารเสริมไลโคปีนแบรนด์ดังจากประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่ผู้ที่ดูแลตัวเอง อย่างตัวนี้เป็นอาหารเสริมไลโคปีนที่สกัดจากมะเขือเทศสีแดงสุก ทำให้ในแต่ละเม็ดของแบรนด์นี้มีความเข้มข้นสูงสุด 25 มิลลิกรัม (25,000 ซีซี) ของไลโคปีนเลยทีเดียว ทำให้ผลลัพธ์เมื่อทานอย่างพอดี จะช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง และช่วยให้ผิวทนแดดมากขึ้น เหมือนกับเราทานผักผลไม้ปริมาณที่เยอะ แต่ความจริงเพียงแค่เราทานอาหารเสริมไลโคปีนเป็นประจำทุกวันเท่านั้นเอง
แต่นอกจากนี้มิสซี่ก็อยากแนะนำว่า ควรทานตามคำแนะนำของทางแบรนด์ให้เคร่งครัด หรือถ้าคนไหนมีโรคประจำตัว ก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทานจะดีที่สุดค่ะ ใครที่กำลังมองหาอาหารเสริมไลโคปีน ยี่ห้อไหนดี มิสซี่ก็อยากให้มองแบรนด์นี้เป็นอีกทางเลือก สำหรับสุขภาพที่ดีนะคะ
ปริมาณ 60 เม็ด : ราคา 590 บาท (ตกเม็ดละ 9.83 บาท)
รูปแบบ | เม็ด |
ความเข้มข้น Lycopene | 25 มิลลิกรัม |
ขนาดรับประทานต่อวัน | วันละ 1 แคปซูล หลังอาหาร หรือพร้อมอาหาร |
9. ไลโคปีน ถูกและดีที่สุด : Amsel Lycopene Plus
ราคา 450 บาท
ข้อดี
+ ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น
+ ผิวอมชมพูหลังทาน
+ ราคาจับต้องได้
ข้อควรพิจารณา
– มีกลิ่นเฉพาะตัว
ไลโคปีนมะเขือเทศธรรมชาติอีกหนึ่งยี่ห้อที่มีราคาน่ารัก และมีส่วนผสมที่ไม่ใช่แค่สารไลโคปีน แต่ยังมีAscobic Acid (วิตามินซี), Vitamin E, Vitamin A รวมอยู่ในแคปซูลเดียว พอทานแล้วนอกจากได้ความกระจ่างใส ผิวก็ยังมีเกราะป้องกันจากมลภาวะ และรังสียูวี ลดความเสี่ยงมะเร็งผิวหนัง และตัววิตามินก็ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ เพิ่มความชุ่มชื้น และกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย
เรียกว่าครบ จบ ใน 1 เม็ดเลยใช่ไหมคะ ใครที่อยากมีผิวพรรณที่สดใส อ่อนเยาว์ ลดอายุผิวแล้วล่ะก็ ลองหาซื้อมาทานดูก็ได้นะคะ มิสซี่แนะนำเพิ่มให้ลองทานอย่างน้อย 4-16 สัปดาห์เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้นนะ ใครที่กำลังมองหาอาหารเสริม ไลโคปีน ยี่ห้อไหนดี มิสซี่หวังว่ายี่ห้อนี้จะช่วยลดปัญหาผิวให้กับสาวๆ ได้น้าา
ปริมาณ 30 เม็ด : ราคา 450 บาท (ตกเม็ดละ 15 บาท)
รูปแบบ | แคปซูล |
ความเข้มข้น Lycopene | 60 มิลลิกรัม |
ขนาดรับประทานต่อวัน | 1 เม็ดพร้อมมื้ออาหาร |
10. ไลโคปีน กินแล้วขาวใสที่ดีที่สุด : DHC vitamin Lycopene
ราคา 490 บาท
ข้อดี
+ ผิวขาว นุ่มลื่นขึ้นหลังทาน
+ แบรนด์วิตามินน่าเชื่อถือ
+ ทานเม็ดเดียว ได้ครบ
ข้อควรพิจารณา
– แพจเกจไม่เหมาะกับพกพา
ไลโคปีนจากแบรนด์ญี่ปุ่นอีกหนึ่งยี่ห้อ ที่อยากพูดถึงของแบรนด์ DHC ตัวนี้มีสารสกัดจากมะเขือเทศ นอกจากนี้ก็ยังมีวิตามิน E จากน้ำมันมะกอก ที่มีส่วนช่วยในการต้านอนุมูลอิสระสูง และยังช่วยให้ผิวเนียนนุ่มจากภายใน และทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง สดใส และดูสุขภาพดีได้ วิธีการทานก็ตามแต่ช่วงที่เราสะดวก เพียงแค่ทานมื้ออาหาร 1 เม็ดเท่านั้น แต่แนะนำให้ทานเป็นประจำ อย่างน้อย 10 สัปดาห์ เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
มิสซี่ขอเสริมอีกนิดว่า การทานอาหารเสริมไลโคปีน สามารถทานได้ทั้งผู้ชาย และผู้หญิงเลยค่ะ เพราะนอกจากเรื่องผิวพรรณแล้ว ก็ช่วยเรื่องการป้องกันอัตราการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก และโรคมะเร็งปากมดลูกของผู้หญิงอย่างเราๆ นี่เองค่ะ (แต่ไลโคปีนไม่สามารถรักษาได้ แต่ป้องกันโอกาสที่จะเกิดได้เท่านั้นน้าา) ใครที่กำลังมองหาอาหารเสริมไลโคปีน ยี่ห้อไหนดี มิสซี่ขอแนะนำแบรนด์นี้ เลยถูกและดี เป็นแบรนด์ที่ทานง่ายมากๆ เลยค่ะ
ปริมาณ 30 เม็ด : ราคา 490 บาท (ตกเม็ดละ 16.3 บาท)
รูปแบบ | แคปซูล |
ความเข้มข้น Lycopene | ไม่ระบุ |
ขนาดรับประทานต่อวัน | 1 เม็ดพร้อมมื้ออาหาร |
วิธีเลือกซื้อ “ไลโคปีน”
หลายคนอ่านมาถึงตรงนี้แล้วรู้สึกว่า อาหารเสริมไลโคปีนน่าลองมากๆ แต่ทีนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะซื้ออย่างไร หรือทานยังไงให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด วันนี้มิสซี่เลยมีเคล็ดลับดีๆ มาแนะนำวิธีการเลือกซื้อ “ไลโคปีน” มาฝากทุกคนด้วย มาดูกันเล้ยยย
เลือก อาหารเสริมไลโคปีน จากรูปแบบที่ทานง่าย
ปัจจุบันอาหารเสริมไลโคปีนมีหลายรูปแบบให้เราเลือกทานให้เหมาะกับเราอย่าง ประเภทแคปซูลหรือแบบอัดเม็ด หรือแบบซอฟต์แคปซูล (ที่ทานง่ายกว่าแคปซูลปกติ) รูปแบบนี้จะเหมาะกับคนที่ไม่ชอบทานผัก หรือมะเขือเทศแน่นอน เพราะส่วนมากแล้ว จะไม่ค่อยมีกลิ่นรบกวนเวลาทาน เป็นเม็ด กลืนง่าย เลยหมดปัญหาไม่ชอบทานผักผลไม้ ก็ทานได้
เลือกอาหารเสริมไลโคปีน จากความเข้มข้นของไลโคปีน
เพื่อเลือกตามปริมาณความเข้มข้นที่เหมาะสมกับตัวเราเอง แต่ทั้งนี้ต่อให้ไลโคปีนมีประโยชน์สูงมาก แต่หากได้รับปริมาณที่มากเกินไป ก็อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้เช่นกัน ดังนั้นจึงไม่ควรทานเกิน 75 มิลลิกรัมต่อวันค่ะ แต่ทั้งนี้การทานอาหารเสริมไลโคปีน ก็ต้องขึ้นอยู่กับการแนะนำของแพทย์ด้วย ซึ่งการใช้ไลโคปีนเพื่อป้องกัน จะขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์เท่านั้น
เลือก อาหารเสริมไลโคปีน ที่มีสารอาหารเพิ่มเติม
นอกเหนือจากสารไลโคปีน เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารจากวิตามินได้ในครั้งเดียว โดยไม่จำเป็นต้องทานอาหารเสริมเป็นกำมือ นอกจากมองหาสารไลโคปีนแล้ว อาจจะมองว่ามีวิตามินซี, วิตามินอี หรือสารอาหารอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากทีเดียวค่ะ และเรียกว่าช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า ที่ต้องมาใช้ซื้อวิตามินหลายๆ ตัวด้วยค่ะ
เลือก อาหารเสริมไลโคปีน จากความน่าเชื่อถือของแบรนด์
อย่างที่มิสซี่บอกมาตลอดว่า การซื้อสินค้าทุกชนิด ควรดูที่ความปลอดภัยเป็นหลัก เช่น มีอย. หรือเปล่า แหล่งที่ผลิตชัดเจนหรือไม่ เพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต เผื่อเราทานแล้วเกิดอาการข้างเคียง ก็สามารถกลับไปติดต่อสอบถามได้
ปริมาณที่ควรทานไลโคปีนต่อวัน
ปริมาณที่ควรทานไลโคปีนต่อวัน คือ ทานไลโคปีนที่มีความเข้มข้น 6.5, 15 และ 30 มิลลิกรัม/วัน เป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ หรืออีกทางเลือกคือ ทานวันละ 15 มิลลิกรัม เป็นระยะเวลา 8 สัปดาห์ก็ได้ หรือหากต้องการแบ่งทานวันละ 2 ครั้ง แนะนำว่าควรทานแบบ 2 ครั้ง ครั้งละ 15 มิลลิกรัม เป็นเวลา 4 เดือน
การทานแบบนี้จะเป็นปริมาณที่เหมาะสมในการทานเพื่อต้านอนุมูลอิสระค่ะ ทั้งนี้การทานอาหารเสริมไลโคปีนจะต้องอยู่ในการควบคุมโดยแพทย์ หรือเภสัชกรเท่านั้น
โทษของการกินไลโคปีน มากเกินไป
โดยปกติ อาหารเสริมไลโคปีน มักจะพบผลข้างเคียงค่อนข้างน้อย แต่ในบางรายที่ทานเกินปริมาณที่กำหนด โทษของการกินไลโคปีน มากเกินไปอาจส่งผลให้เกิดอาการข้างเคียงอย่าง คลื่นไส้ อาเจียน ตัวเหลือง หรือท้องอืดได้ หนักสุดก็ถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งโดยปกติแล้วจะระบุไว้ไม่ควรเกิน 75 กรัมต่อวัน ก็แต่ทั้งนี้ก็มีข้อกำหนดในการใช้ไลโคปีนอย่างเช่น ไม่เหมาะกับหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร คนที่แพ้ไลโคปีน หรือกำลังรักษาโรคมะเร็ง รวมไปถึงเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบไม่ควรทานอาหารเสริมไลโคปีนโดยขาดการสั่งจ่ายจากเภสัชกร หรือแพทย์เท่านั้น
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับไลโคปีน
ไลโคปีน กินตอนไหนดี?
อาหารเสริมไลโคปีน ควรกินช่วงเช้า 1 แคปซูล และช่วงเย็น 1 แคปซูล พร้อมมื้ออาหารหรือหลังอาหาร เนื่องจากอาหารเสริมไลโคปีนจะสามารถดูดซึมได้ดีที่สุดคือ การถูกละลายในน้ำมันที่มีอยู่ในอาหาร แล้วจึงดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย แต่ทั้งนี้การทานอาหารเสริมไลโคปีน สามารถบริโภคตามคำแนะนำจากแพทย์ หรือทางแบรนด์แนะนำจะดีต่อผู้ทานที่สุด เพื่อลดความสับสนว่าอ่านจากที่นี่บอกทานเท่านี้ ไปดูอีกที่ทานอีกแบบหนึ่ง ให้ยึดตามที่ทางแบรนด์บอกได้เลย เพราะแต่ละแบรนด์จะมีความเข้มข้นของไลโคปีน ที่ต่างกัน เวลาทานก็จะมีโดสในการทานที่ต่างกันด้วย
ไลโคปีน ควรกินกี่ mg?
อาหารเสริมไลโคปีน ควรกิน 15-30 mgต่อวัน โดยแบ่งเป็นแคปซูลละ 15 มิลลิกรัม เป็นเวลาเช้า 1 แคปซูล เย็น 1 แคปซูล โดยเริ่มทานในระยะเวลา 8 สัปดาห์ แต่ไม่ควรเกิน 75 มิลลิกรัมต่อวัน เพื่อลดอาการระคายเคืองที่อาจจะเกิดขึ้นได้
ไลโคปีน กันแดดได้จริงไหม?
ไลโคปีนสามารถกันแดดได้จริง เพราะสารไลโคปีนจัดเป็นวิตามินบำรุงผิว ที่สามารถปกป้องผิวจากการถูกทำร้ายจากแสงแดดได้ อีกทั้งสารไลโคปีน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระสูงมาก มีคุณสมบัติช่วยดูดซับรังสียูวีเอ ยูวีบี จึงทำให้ผิวทนแสงแดดได้มากขึ้น ลดอาการแสบร้อนจากการไหม้แดด หรือช่วยลดความหมองคล้ำจากแสงแดดได้
แต่ทั้งนี้การทาครีมกันแดด ก็ยังเป็นเรื่องจำเป็น และต้องทาทุกวันในปริมาณ 2 ข้อนิ้วทั้งใบหน้า และลำคอ ทางที่ดีมิสซี่ขอแนะนำว่าควรทาครีมกันแดดควบคู่ไปกับการทานอาหารเสริมไลโคปีน ก็จะยิ่งช่วยให้ผิวของเราได้รับการปกป้อง x 2 ไปเลยค่ะ
ไลโคปีนช่วยเรื่องอะไร?
ไลโคปีนช่วยเรื่องผิวพรรณให้กระจ่างใส ลดความหมองคล้ำ ช่วยให้ผิวทนแสงแดดได้มากขึ้น และลดริ้วรอยก่อนวัย รวมไปถึงช่วยลดจุดด่างดำที่เกิดจากสิว เนื่องจากเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีปริมาณสูงมากเมื่อเทียบกับวิตามินอื่นๆ
และด้านการที่ช่วยดูแลสุขภาพ อย่างการทานไลโคปีนเพื่อดูแลป้องกันภาวะสุขภาพเช่น มะเร็งต่อมลูกหมาก ลดน้ำตาลในเลือด มะเร็งผิวหนัง มะเร็งทางเดินอาหาร มะเร็งกระเพาะอาหาร โรคหัวใจ โรคหอบหืด ต้อกระจก มะเร็งเต้านม ฯลฯ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การทานอาหารเสริมไลโคปีน เป็นทางเลือกหนึ่ง ที่แค่ช่วยป้องกันเท่านั้น ไม่ได้มีผลต่อการรักษาโรคใดๆ ซึ่งควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกรเท่านั้น
เป็นอย่างไรบ้างคะกับ รีวิวไลโคปีน ยี่ห้อไหนดี 2023 ที่มิสซี่นำมาฝากวันนี้ หวังว่าเพื่อนๆ สาวๆ อ่านแล้วต้องอยากเริ่มสนใจสุขภาพกันมากขึ้นอย่างแน่นอนเลยใช่ไหม แต่อย่างที่บอกกันมาข้างต้นแล้วว่า การทานอาหารเสริมไลโคปีนก็เป็นเพียงอีก 1 ทางเลือกสำหรับคนที่มีเวลาดูแลตัวเองน้อย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการหันกลับมาดูแลตัวเอง นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำเยอะๆ ทานอาหารให้ครบมื้อ ครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการ และเลือกใช้สกินแคร์ที่เป็นมิตรต่อผิว ก็จะช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดีจากทั้งภายใน สู่ภายนอกเลยล่ะค่ะ
อ้างอิง
– What is beta carotene? What are the benefits? (medicalnewstoday.com)
– Tomatoes: Benefits, facts, and research (medicalnewstoday.com)
– Tomatoes 101: Nutrition Facts and Health Benefits (healthline.com)