รีวิวแนะนำ 10 เคราติน ยี่ห้อไหนดี 2023 [ผมนุ่มสวย!]

เพื่อน ๆ คนไหนกำลังประสบกับปัญหา ผมแห้ง ผมเสีย ฟังทางนี้! วันนี้มิสซี่มีตัวช่วยในการแก้ผมเสีย ในรูปแบบต่าง ๆ มาฝากทุกคนกันค่า และสิ่งนั้นก็คือ เคราติน นั่นเอง! หลายคนอาจจะเคยได้ยินเรื่อง เคราตินหมักผม หรือ ทรีตเมนต์ กันมาอยู่บ้างใช่ไหมคะ โดยเฉพาะสาว ๆ ที่ชื่นชอบการทำผม น่าจะต้องการตัวช่วยในการแก้ผมเสียกันเยอะพอสมควรเลย 

เตรียมตัวบอกลาเส้นผมแห้งเสียได้เลย! วันนี้ปัญหาเรื่องเส้นผมของสาว ๆ จะต้องหมดไป เพราะมิสซี่มีแนะนำ เคราตินบำรุงผม ฉบับปี 2023 มาฝากกันแบบจุก ๆ 10 ยี่ห้อกันเลยทีเดียว พร้อมรีวิวข้อดีข้อเสียให้เพื่อน ๆ เหมือนเดิม! ใครที่กำลังเลือกซื้อ เคราติน ยี่ห้อไหนดี อยู่ล่ะก็ ถ้าพร้อมแล้ว ชวนเพื่อนชวนแฟนตามมาสืบกันได้เลยค่า

TOP 3 เคราตินหมักผมที่ดีที่สุด

#1 Tresemme Keratin Glazing Serum Conditioner

Tresemme Keratin Glazing Serum Conditioner

ราคา 229 บาท

#2 Lolane Intense Care Keratin Repair Mask for Dry & Damaged Hair in General

Lolane Intense Care Keratin Repair Mask for Dry & Damaged Hair in General

ราคา 129 บาท

#3 Mistine Keratin Hair TreatmentSung Renewing Serum EX 50ml

Mistine Keratin Hair Treatment

ราคา 179 บาท

เคราติน คืออะไร

เคราติน คือ โปรตีนชนิดหนึ่ง ที่เราสามารถพบได้ใน เส้นผม / เล็บ / ผิวหนัง / และขน เป็นอีกโปรตีนหนึ่งที่สำคัญสำหรับร่างกายมาก ๆ  โดยในแต่ละบริเวณที่พบเคราติน โครงสร้างก็จะแตกต่างกันไป ประกอบไปด้วยกรดอะมิโนที่เชื่อมต่อกันอย่างแข็งแรง ทำให้เพื่อน ๆ มีผมเงา / ผมนุ่มสวย บางคนก็จะเน้นเคราตินที่ช่วยเร่งผมยาว ด้วยนั่นเองค่ะ

เคราติน ช่วยอะไร

ช่วยในเรื่องของ ขน / เล็บ / และ ผิวหนัง แต่หลายคนน่าจะคุ้นเคยกับคำว่า เคราตินแก้ผมเสีย เพราะคุณเขาช่วยในเรื่องของเส้นผมได้แบบเน้น ๆ และดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็น…

ช่วยให้ผมสวยดูเงางาม

เคราติน มีหน้าที่ทำให้เซลล์ในเส้นผมทับซ้อนกัน ส่งผลให้เส้นผมของเพื่อน ๆ เรียบขึ้น แน่นขึ้น ปัญหาผมชี้ฟูน้อยลง พร้อมกับทำให้เส้นผมดูเงางาม สุขภาพดีนั่นเองค่ะ

ช่วยให้ผมแข็งแรงขึ้น

นอกจากผมจะสุขภาพดีขึ้นแล้ว ยังทำหน้าที่ปกป้องเส้นผม และผิวหนัง จากรังสี UV ได้ดีอีกด้วย! เมื่อผมได้รับการความเสียหายจากมลภาวะน้อยลง เส้นผมของเพื่อน ๆ ก็จะแข็งแรงขึ้นนั่นเองค่า

ช่วยให้ผมยาวขึ้น

เคราติน ยังเป็นโปรตีนสำคัญที่ช่วยให้สารอาหารลำเลียงไปเลี้ยงเส้นผมได้ดี ทำให้เกิดผมเกิดใหม่ และผมยาวเร็วขึ้นด้วยนะคะ ใครมองหาตัวช่วยเร่งผมยาว ต้องจัดแล้วค่ะ

ช่วยสร้างความยืดหยุ่นให้เส้นผม

หยุดปัญหาผมขาดหลุดร่วงกันได้เลย! เพราะเคราติน ช่วยให้เส้นผมของเพื่อน ๆ ยืดหยุ่นขึ้น แข็งแรงขึ้น ส่งผลให้ผมของเราขาดร่วงน้อยลงนั่นเองค่ะ ใครที่ผมเปราะบางขาดง่าย ต้องใช้คุณเขาหมักผมด่วน ๆ เลยน้า

ตารางเปรียบเทียบ “เคราติน ยี่ห้อไหนดี”

ชื่อสินค้า

Tresemme Keratin Glazing Serum Conditioner

Lolane Intense Care Keratin Repair Mask for Dry & Damaged Hair in General

Mistine Keratin Hair Treatment

Schwarzkopf BC Bonacure Keratin Smooth Perfect Treatment

JOJI Secret Young Charcoal Keratin Treatment Mask

JOICO K-PAK Hydrator Intense Treatment

L’ORÉAL PARIS Elseve Keratin Smooth Perfecting Mask

Daeng Gi Meo Ri Dlaesoo Intensive Nourishing Pack

Daeng Gi Meo Ri Glamo Keratin Treatment

Dove Treatment Mask Intense Repair Dark Blue

รูปสินค้า

คุณสมบัติ

  • กลิ่นหอมนาน

  • ล้างออกง่าย

  • แก้ผมพันกันได้ดี

  • แก้ผมชี้ฟู

  • ราคาไม่แพง

  • มีหลายสูตรให้เลือก

  • เน้นบำรุงผมจากการทำเคมี

  • แก้ผมช็อต

  • ล้างออกง่าย

  • กลิ่มหอมติดทนนาน

  • ผมเรียบลื่นขึ้นจริง

  • ใช้เวลาหมักไม่นาน

  • ชาโคลบำรุงล้ำลึก

  • แก้ผมแตกปลาย

  • เหมาะกับผมทำสี

  • เหมาะกับผมที่แห้งเสียมาก

  • เป็นหลอด ใช้ง่าย

  • ผมจัดทรงง่าย

  • เข้าสู่แกนผมได้ดี

  • กลิ่นหอมอ่อนๆ

  • แก้ผมชี้ฟู

  • ลดผมร่วง

  • สมุนไพรกว่า 20 ชนิด

  • ผมนุ่มสลวยเงางาม

  • อ่อนโยนต่อหนังศีรษะ

  • สูตรสมุนไพร

  • ขวดปั๊ม ใช้สะดวก

  • มีกลิ่นหอมเฉพาะ

  • ใช้เวลาหมักไม่นาน

  • แก้ผมเสียดี

ราคาเต็ม

229 บาท

129 บาท

179 บาท

469 บาท

189 บาท

900 บาท

199 บาท

790 บาท

1,190 บาท

318 บาท

ปริมาณ

300 ml

200 ml

200 ml

200 ml

300 ml

 250 ml

200 ml

200 ml

400 ml

180 ml

ตก ml ละ

0.76 บาท

0.65 บาท

0.89 บาท

2.34 บาท

0.63 บาท

3.6 บาท

0.99 บาท

3.95 บาท

2.97 บาท

1.76 บาท

ความคุ้มค่า

เช็คส่วนลดที่

จะเลือกซื้อ เคราติน ยี่ห้อไหนดี 2566 

1. เคราติน โดยรวมที่ดีที่สุด : Tresemme Keratin Glazing Serum Conditioner

Tresemme Keratin Glazing Serum Conditioner เคราติน ยี่ห้อไหนดี

ราคา 229 บาท

ข้อดี
+ ล้างออกง่าย
+ ราคาไม่แพง
+ มีกลิ่นหอม

ข้อควรพิจารณา
– ควรใช้คู่กับแชมพูเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

เทรซาเม่ เคราติน ครีมนวดตัวดังของแบรนด์ Tresemme ที่มิสซี่บอกเลยว่า เหมาะกับคนที่เริ่มหัดดูแลผมที่สุดเลยค่ะ เพราะเขามาช่วยแก้ปัญหาโดยรวมของเส้นผมได้ดีมาก ๆ โดยสูตรนี้จะเน้นไปที่ช่วยให้ ผมเงา แก้ผมชี้ฟู หรือ ผมพันกัน ได้ดีมาก ๆ หมดปัญหาผมไม่มีน้ำหนัก และขาดหลุดร่วงในราคาที่เป็นมิตรด้วยนะคะ

นอกจากนี้เขายังเคลมว่า ช่วยล็อกเกล็ดผม ทำให้ผมนุ่มเงางามได้อย่างยาวนาน ในส่วนของเนื้อครีมก็จะค่อนข้างบางเบา ใช้ง่าย ล้างออกก็ง่ายไปอีก ใครกำลังมองหาไอเทมบำรุงผม ราคาย่อมเยา และช่วยแก้ปัญหาโดยรวมได้อย่างดี มิสซี่แนะนำแบรนด์เทรซาเม่เลยนะคะ

ปริมาณ 300 ml : ราคา 229 บาท (ตก ml ละ 0.76 บาท)

จุดเด่นช่วยล็อกเกล็ดผม
เนื้อผลิตภัณฑ์ลิควิด
เหมาะกับสภาพผมผมแห้งเสีย / ผมไม่มีน้ำหนัก

2. เคราติน แก้ผมชี้ฟูที่ดีที่สุด : Lolane Intense Care Keratin Repair Mask for Dry & Damaged Hair in General

Lolane Intense Care Keratin Repair Mask for Dry & Damaged Hair in General เคราติน ยี่ห้อไหนดี

ราคา 129 บาท

ข้อดี
+ ราคาไม่แพง
+ มีหลายสูตรให้เลือก
+ ผมดีขึ้นจริง

ข้อควรพิจารณา
– ต้องใช้ควบคู่กับแชมพู อาจเพิ่มขั้นตอนในการสระผมมากขึ้น

ทรีตเมนต์ผมจาก Lolane มิสซี่เดาว่าเพื่อน ๆ ต้องเคยได้ยินชื่อแบรนด์ดันมาบ่อยมากเลยใช่ไหมคะ แน่นอนว่า โลแลนเคราติน เป็นทรีตเมนต์หมักผม ที่ค่อนข้างโด่งดัง และคนใช้เยอะมากเลยทีเดียว ด้วยราคาที่น่าคบหาสุด ๆ ทั้งยังมีมาให้เพื่อน ๆ เลือกใช้หลากหลายสูตรมาก ซึ่งแต่ละสูตรก็จะขึ้นอยู่กับเส้นผมของเพื่อน ๆ นั่นเองค่ะ แต่สำหรับสูตรผมแห้งเสียนี้ มิสซี่การันตีว่าใช้ได้ทุกคนและทุกสภาพผมเลย เพราะเขามาช่วยฟื้นฟูคนที่กำลังมีปัญหาผมได้อย่างดีเยี่ยมเลยค่ะ

ในส่วนของสูตรบำรุงผมแห้งเสียนี้ นอกจากเขาจะช่วยแก้ผมเสียแล้ว ยังช่วยแก้ผมชี้ฟูด้วย เหมาะกับสาว ๆ ที่ชอบเจอกับปัญหา ผมไร้น้ำหนัก ทำให้ชี้ฟูง่าย ไปจนถึงผมพันกัน บอกเลยว่าตัวนี้จบ หมดปัญหา ผมสวยแน่นอนค่า มิสซี่แนะนำตัวนี้เลยนะคะ

ปริมาณ 200 ml : ราคา 129 บาท (ตก ml ละ 0.65 บาท)

จุดเด่นผมนุ่มลื่นหวีง่ายด้วยไมโครเคราติน
เนื้อผลิตภัณฑ์ลิควิด
เหมาะกับสภาพผมผมแห้งเสียและชี้ฟู

3. เคราติน สำหรับผมทำเคมีที่ดีที่สุด : Mistine Keratin Hair Treatment

Mistine Keratin Hair Treatment เคราติน ยี่ห้อไหนดี

ราคา 179 บาท

ข้อดี
+ เน้นบำรุงผมจากการทำเคมีโดยเฉพาะ
+ ราคาไม่แพง
+ เนื้อเป็นน้ำมัน ล้างออกง่าย

ข้อควรพิจารณา
– ต้องใช้คู่กับแชมพู อาจเพิ่มขั้นตอนในการสระผม

ใครทำผมบ่อย ๆ มิสซี่แนะนำ Mistine ตัวนี้เลยค่า ตัวนี้เขาเป็นสูตรสำหรับ บำรุงผมทำเคมี โดยเฉพาะ ด้วยนวัตกรรมที่ช่วยผลักเคราติน ให้ซึมลงสู่แกนผมได้อย่างล้ำลึก ทั้งยังเป็น น้ำมันโอเมก้าและมีกรดอะมิโน ที่ช่วยบำรุงผมเสียอย่างต่อเนื่อง ทำให้เส้นผมของสาว ๆ กลับมาแข็งแรง แก้ผมช็อต และลดอาการแห้งเสียจากการทำสารเคมีได้อย่างรวดเร็ว! 

ในส่วนของเนื้อครีม จะแตกต่างจากตัวอื่นตรงที่เป็นเนื้อน้ำมัน ทำให้ตอนหมักผม น้องกระจายตัวได้เร็วและล้างออกง่าย สาว ๆ คนไหนกำลังเลือกซื้อ ที่หมักผม ราคาน่าคบ แถมยังเน้นบำรุงผมจากสารเคมีล่ะก็ มิสซี่ขอเชียร์ทรีตเมนต์เคราตินจากมิสทีนเลยค่า

ปริมาณ 200 ml : ราคา 179 บาท (ตก ml ละ 0.89 บาท)

จุดเด่นบำรุงล้ำลึกด้วยน้ำมันโอเมก้าและกรดอะมิโน
เนื้อผลิตภัณฑ์น้ำมัน
เหมาะกับสภาพผมผมเสียจากการทำเคมี

4. เคราติน ผมเรียบจัดทรงง่ายที่ดีที่สุด : Schwarzkopf BC Bonacure Keratin Smooth Perfect Treatment

Schwarzkopf BC Bonacure Keratin Smooth Perfect Treatment เคราติน ยี่ห้อไหนดี

ราคา 469 บาท

ข้อดี
+ มีนวัตกรรมเฉพาะที่ทำให้ผมเรียบลื่น
+ กลิ่มหอมติดทนนาน
+ ใช้เวลาหมักไม่นาน

ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างแรง

จบปัญหาผมจัดทรงยาก ด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผมแบรนด์ดัง Schwarzkopf กันได้เลยค่ะทุกคน แบรนด์นี้เขาโด่งดังในเรื่องของผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะตัวเคราตินหมักผมตัวนี้ ที่มีนวัตกรรมเฉพาะอย่าง “เซลล์เพอร์เฟ็คเตอร์” ช่วยในเรื่องของการล็อกเซลล์ในเส้นผมให้แน่น ทำให้ผมของเพื่อน ๆ เรียบลื่น จัดทรงง่าย ประหยัดเวลาแต่งตัวไปได้เยอะเลยค่ะ!

และไม่ใช่แค่นั้น ทรีทเม้นท์ผมของแบรนด์นี้ยังใช้เวลาหมักน้อยมาก ๆ เพียงไม่กี่นาที ผมก็นุ่มลื่น เรียบสวย จัดทรงง่าย ทันใจสุด ๆ เหมาะกับคนที่ชอบประหยัดเวลามากเลยค่ะ เพื่อน ๆ คนไหนมองหาครีมหมักผมที่ใช้เวลาไม่นาน ก็ได้ผมนุ่มสลวยตรงใจ Schwarzkopf เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ตอบโจทย์แน่นอนค่า

ปริมาณ 200 ml : ราคา 469 บาท (ตก ml ละ 2.34 บาท)

จุดเด่นนวัตกรรมเซลล์เพอร์เฟ็คเตอร์
เนื้อผลิตภัณฑ์ลิควิด
เหมาะกับสภาพผมผมกระด้าง / ผมเสีย / ผมชี้ฟูจัดทรงยาก

5. เคราติน แก้ผมแตกปลายที่ดีที่สุด :  JOJI Secret Young Charcoal Keratin Treatment Mask

JOJI Secret Young Charcoal Keratin Treatment Mask เคราติน ยี่ห้อไหนดี

ราคา 189 บาท

ข้อดี
+ ปริมาณเยอะใช้ได้นาน
+ เนื้อชาโคลบำรุงล้ำลึก
+ กลิ่นหอมเฉพาะ

ข้อควรพิจารณา
– ควรใช้ควบคู่กับแชมพูและครีมนวดเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

แบรนด์ JOJI เป็นทรีตเมนต์ผมเคราติน สูตรชาโคล ช่วยดูดซับสารเคมีที่ตกค้างและมลภาวะจากเส้นผม ทำให้ผมของเพื่อน ๆ แข็งแรงและสะอาดหมดจด แถมยังช่วยดูดซับความมันจากเส้นผมได้ด้วย! ตัวนี้จะค่อนข้างเหมาะกับเพื่อน ๆ ที่ชอบดัดผม หรือทำสีผมมาก ๆ เลยนะคะ พวกเส้นผมที่ผ่านการทำเคมีต่าง ๆ มา ขอบอกเลยว่ากระปุกนี้เอาอยู่แน่นอน!

ไม่หมดแค่นั้น ตัวนี้ เขายังแก้ผมแตกปลายได้ดีเยี่ยม ด้วยสารสกัดจากเมล็ดมะรุมและเคราตินเข้มข้น ส่งผลให้เส้นผมเรียบลื่น นุ่มสลวย หมดปัญหาผมชี้ฟู และแตกปลายเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง เพื่อน ๆ คนไหนผมเสียมาก ๆ ยี่ห้อโจจิ ตอบโจทย์แน่นอนค่ะ

ปริมาณ 300 ml : ราคา 189 บาท (ตก ml ละ 0.63 บาท)

จุดเด่นสูตรชาโคลดูดซับสิ่งสกปรกจากเส้นผม
เนื้อผลิตภัณฑ์ลิควิด
เหมาะกับสภาพผมผมแตกปลาย / ผมที่ผ่านการทำเคมี

6. เคราติน ผมนุ่มสวยที่ดีที่สุด : JOICO K-PAK Hydrator Intense Treatment

JOICO K-PAK Hydrator Intense Treatment เคราติน ยี่ห้อไหนดี

ราคา 900 บาท

ข้อดี
+ เหมาะกับผมที่แห้งเสียมากเป็นพิเศษ
+ มี official shop ช่องทางออนไลน์ 
+ แพคเกจจิ้งเป็นหลอด ใช้ง่าย

ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างแรง

เคราตินหมักผม จากแบรนด์ Joico ตัวนี้คือเหมาะกับคนที่ต้องการกู้ผมอย่างเร่งด่วนที่สุดเลยค่ะ! ด้วยสารสกัดจากน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส ช่วยฟื้นฟูพร้อมบำรุงเส้นผมของเพื่อน ๆ อย่างล้ำลึก นอกจากจะทำให้ผมที่แห้งเสียมาก กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งแล้ว เขายังทำให้ผมของเพื่อน ๆ นุ่มลื่น สลวย จัดทรงง่าย ผมนุ่มสวย อย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ! 

ในส่วนของ น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส จะทำหน้าที่เสมือนโปรตีนที่เลียนแบบธรรมชาติของเส้นผม ช่วยปกป้องใยเส้นผมให้แข็งแรง เมื่อผมกลับมานุ่มสวยแล้ว โอกาสที่จะกลับไปแห้งเสียก็ยากขึ้นเช่นกันค่ะ ใครที่มองหาผลิตภัณฑ์กู้ผมเสียอย่างเร่งด่วนแล้ว มิสซี่แอบเชียร์แบรนด์นี้เลยน้า

ปริมาณ 250 ml : ราคา 900 บาท (ตก ml ละ 3.6 บาท)

จุดเด่นกู้ผมเสียและบำรุงผมให้นุ่มด้วยน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส
เนื้อผลิตภัณฑ์ลิควิด
เหมาะกับสภาพผมผมแห้งเสียมาก

7. เคราติน ผมเงางามที่ดีที่สุด : L’ORÉAL PARIS Elseve Keratin Smooth Perfecting Mask

L'ORÉAL PARIS Elseve Keratin Smooth Perfecting Mask เคราติน ยี่ห้อไหนดี

ราคา 199 บาท

ข้อดี
+ ซึมลึกถึงแกนผม
+ ราคาไม่แพง
+ ผมเรียบลื่นขึ้นจริง

ข้อควรพิจารณา
– ต้องใช้คู่กับแชมพูและครีมนวดถึงจะได้ผลดีที่สุด

ทรีตเมนต์หมักผม ตัวดังจาก L’oreal Paris ให้ความรู้สึกผมนุ่มลื่นดุจใยไหมกันเลยทีเดียว! ด้วยนวัตกรรมเคราติน ที่มีขนาดเล็กกว่าเคราตินทั่วไป จึงทำให้ซึบซามเข้าสู่แกนผมได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ช่วยให้เส้นผมมีความชุ่มชื้น ยืดหยุ่น ผมแลดูเงางามและสุขภาพดี ผมเสียมากแค่ไหนกระปุกนี้เอาอยู่แน่นอนค่ะ!

นอกจากนี้ ตัวแบรนด์ยังเคลมว่า สามารถล็อกผม ให้จัดทรงง่าย แก้ผมชี้ฟู ได้ถึง 72 ชม. กันเลยทีเดียวค่ะ! เอาใจคนผมชี้ฟูสุด ๆ ใครผมจัดทรงยาก ผมแห้งเสีย อยากให้เส้นผมดูเงางามนุ่มสลวย สาว ๆ คนไหนผมชี้ฟู ตัวนี้เอาอยู่แน่นอนค่ะ มิสซี่รับประกันเลย

ปริมาณ 200 ml : ราคา 199 บาท (ตก ml ละ 0.99 บาท)

จุดเด่นบำรุงล้ำลึกรวดเร็ว ลดผมชี้ฟู
เนื้อผลิตภัณฑ์ลิควิด
เหมาะกับสภาพผมผมชี้ฟู / ผมไร้น้ำหนัก

8. เคราติน ลดผมร่วงที่ดีที่สุด :  Daeng Gi Meo Ri Dlaesoo Intensive Nourishing Pack

Daeng Gi Meo Ri Dlaesoo Intensive Nourishing Pack เคราติน ยี่ห้อไหนดี

ราคา 790 บาท

ข้อดี
+ ส่วนผสมเฉพาะจากสมุนไพร
+ แบรนด์มีชื่อเสียง น่าเชื่อถือ

ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างแรงเมื่อเทียบกับปริมาณ

เพื่อน ๆ คนไหน มีปัญหาผมขาดหลุดร่วง จนท้อใจมาทางนี้เลยค่ะ! มิสซี่แนะนำเแบรนด์ Daeng Gi Meo Ri แบรนด์ดังที่หลาย ๆ คนรู้จักกันดี โดยสูตรนี้เขาเน้นไปที่การซ่อมแซมเส้นผม แก้ผมเสีย ผมขาดหลุดร่วง พร้อมบำรุงหนังศีรษะไปในตัว ทำให้ผมแข็งแรง ส่งผลให้มีผมเกิดใหม่มากขึ้นด้วยนะคะ

ด้วยสารสกัดจากสมุนไพรกว่า 20 ชนิด พร้อมเข้าบำรุงเส้นผมของสาว ๆ อย่างล้ำลึก อัดแน่นไปด้วยคุณภาพ จึงมั่นใจได้เลยว่าผมของเพื่อน ๆ จะต้องแข็งแรง ลดอาการขาดร่วงได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้เขายังมี โปรตีนรังไหม และน้ำมันอาร์แกน ที่ทำหน้าที่เติมความชุ่มชื้นให้แก่เส้นผม หมดปัญหาผมเสียไม่พอ ผมยังนุ่มสลวยเงางามดุจใยไหมกันไปเลยค่ะ! บอกเลยว่าช่วยลดอาการผมขาดหลุดร่วงปัง ๆ สูตรนี้เป็นอะไรที่น่าลองมาก ๆ เลยนะคะ!

ปริมาณ 200 ml : ราคา 790 บาท (ตก ml ละ 3.95 บาท)

จุดเด่นบำรุงด้วยสมุนไพรกว่า 20 ชนิด พร้อมโปรตีนรังไหม และน้ำมันอาร์แกน
เนื้อผลิตภัณฑ์ลิควิด
เหมาะกับสภาพผมผมเสีย / ผมขาดหลุดร่วง

9. เคราติน อ่อนโยนต่อหนังศีรษะที่ดีที่สุด : Daeng Gi Meo Ri Glamo Keratin Treatment

Daeng Gi Meo Ri Glamo Keratin Treatment เคราติน ยี่ห้อไหนดี

ราคา 1,190 บาท

ข้อดี
+ อ่อนโยนต่อหนังศีรษะเป็นพิเศษ
+ สูตรสมุนไพรเฉพาะของทางแบรนด์
+ ขวดปั๊ม ใช้สะดวก

ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างแรงเมื่อเทียบกับปริมาณ

ที่หมักผมสูตรอ่อนโยนต่อหนังศีรษะ สุด ๆ ต้องยกให้ Daeng Gi Meo Ri สูตรนี้ ที่ยกเอาสมุนไพรเฉพาะแบบคัดมาเน้น ๆ ทั้ง 19 ชนิด มารวมไว้ในขวดเดียว! ไม่ว่าจะเป็น โสมเกาหลี / เมล็ดทานตะวัน / ใบต้นสน ฯลฯ พร้อมความหอมอ่อน ๆ จากดอกเบญจมาศป่าจากเกาะเชจู เหมือนเดินทางไปทรีตเมนต์ผมที่เกาหลีกันเลยทีเดียวค่า

โดยหลัก ๆ แล้วสูตรนี้เขาเน้นบำรุงหนังศีรษะอย่างอ่อนโยน แก้ผมเสียอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะผมเปราะบาง ขาดง่าย หรือชี้ฟู ไม่มีน้ำหนัก ตัวนี้สามารถกู้เส้นผมให้กลับมาเงางามและแข็งแรงขึ้นอีกครั้ง! และถึงแม้ว่าคุณภาพจะคับแน่นขนาดนี้ แต่เนื้อกลับมีความบางเบา ใช้ง่าย ล้างออกง่ายมาก ๆ ด้วยนะคะ ใครกำลังมองหา ครีมหมักผม อ่อนโยนต่อหนังศีรษะ และกู้ผมเสียได้อย่างครบวงจร มิสซี่อยากให้ลองยี่ห้อนี้ดูนะคะ

ปริมาณ 400 ml : ราคา 1,190 บาท (ตก ml ละ 2.97 บาท)

จุดเด่นอ่อนโยนต่อหนังศีรษะ ด้วยสมุนไพรทั้ง 19 ชนิด
เนื้อผลิตภัณฑ์ลิควิด
เหมาะกับสภาพผมหนังศีรษะบาง / ผมเปราะบาง / ผมเสีย

10. เคราติน แก้ผมเสียที่ดีที่สุด : Dove Treatment Mask Intense Repair Dark Blue

Dove Treatment Mask Intense Repair Dark Blue เคราติน ยี่ห้อไหนดี

ราคา 318 บาท

ข้อดี
+ แบรนด์ดัง หาซื้อง่าย
+ มีกลิ่นหอมเฉพาะ
+ ใช้เวลาหมักเพียงนิดเดียว

ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างแรงเมื่อเทียบกับปริมาณ
ปริมาณน้อย

ไอเทมแก้ผมเสียได้อยู่หมัดที่สุด! คงต้องยกให้ Dove แบรนด์ดังที่มิสซี่เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จักแน่นอนค่ะ ด้วยสูตรหมักผมแบบ นูตริ-เคราติน เป็นการเข้าบำรุงเส้นผมที่เสียแบบเส้นต่อเส้น พร้อมช่วยให้ผมของสาว ๆ กลับมานุ่มสลวยทันทีหลังหมัก โดยใช้เวลาเพียงแป๊บเดียวเท่านั้น เหมาะกับคนที่ต้องการประหยัดเวลามาก ๆ เลยค่า

นอกจากเขาจะช่วยแก้ผมเสียแล้ว สูตรนี้ยังแก้ผมชี้ฟูได้ดีมากเลยนะคะ สาว ๆ หลายคนผมเสียจนแตกปลาย ไม่มีน้ำหนัก ทำให้จัดทรงยากไปอีก แต่พอใช้ตัวนี้รับรองว่าผมจะกลับมานุ่มจัดทรงง่าย ทำผมทรงไหนก็ไม่ต้องกลัวอีกต่อไปแล้ว! สำหรับผลิตภัณฑ์บำรุงผม กู้ผมเสีย มิสซี่ว่าแบรนด์โดฟ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่หาซื้อมาลองง่ายมากเลยค่า

ปริมาณ 180 ml : ราคา 318 บาท (ตก ml ละ 1.76 บาท)

จุดเด่นบำรุงเส้นผมเส้นต่อเส้นด้วยสูตรเฉพาะ
เนื้อผลิตภัณฑ์ลิควิด
เหมาะกับสภาพผมผมแห้งเสีย / ผมชี้ฟู 

วิธีเลือก “เคราติน”

การจะเลือกไอเทมมาบำรุงเส้นผมของเรา สาว ๆ ก็ควรที่จะดูให้ดี บางแบรนด์อาจจะมีส่วนผสมที่ดีแต่ไม่เหมาะกับเส้นผมของเราก็เป็นได้ค่ะ หรือบางแบรนด์อาจจะราคาไม่แพงดูใช้ง่าย แต่พอใช้แล้วไม่เกิดผลลัพธ์ ดังนั้นมิสซี่อยากให้สาว ๆ เลือกจาก…

เลือกที่ช่วยแก้ปัญหาผมของเราอย่างตรงจุดที่สุด

เพื่อน ๆ ต้องรู้ก่อนว่าผมของเรากำลังเจอกับปัญหาอะไร เช่น ผมเสีย / ผมชี้ฟู / ผมขาดหลุดร่วง ฯลฯ จากนั้นให้เลือก ทรีตเมนต์เคราติน ด้วยสูตรที่ตรงกับปัญหาเส้นผมของเพื่อน ๆ เพื่อแก้ปัญหาผมให้ตรงจุด พร้อมกลับมาแข็งแรงเงางามดังเดิมค่า

เลือกที่เหมาะกับเส้นผมของเรามากที่สุด

เส้นผมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนผมเส้นเล็ก บางคนผมเส้นใหญ่ แม้แต่หนังศีรษะก็เช่นกันค่ะ บางคนอาจจะหนังศีรษะมัน ในขณะที่บางคนหนังศีรษะแห้ง ดังนั้น การเลือกสูตรผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับสภาพผมของเราจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ เพื่อเลี่ยงอาการแพ้ต่าง ๆ ด้วยนะคะ

เลือกสารสกัดที่เกิดผลลัพธ์กับเส้นผมของเราสูงสุด

สารสกัด ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่สาว ๆ ไม่ควรมองข้ามนะคะ พยายามเลือกสารสกัดที่เน้นบำรุงตรงตามความต้องการของเรา หรืออาจจะเลือกเป็นตัวที่ทำให้เกิดอาการแพ้น้อยที่สุด เพื่อความปลอดภัยของหนังศีรษะของเพื่อน ๆ และลดอาการผมหลุดร่วงนั่นเองค่า

วิธีหมักเคราติน ด้วยตัวเอง

การหมักผมด้วยตัวเองสามารถทำได้ง่าย ๆ ไม่ต้องง้อช่างทำผมเลยค่ะ! ด้วยการทำตามคำแนะนำของมิสซี่ด้านล่างนี้ได้เลยค่า

  1. ล้างผมให้หมาด ก่อนลงแชมพูตามปกติ
  2. หลังล้างแชมพูออกแล้ว ทำผมให้หมาดแบบกำลังดี
  3. ชโลมทรีตเมนต์เคราตินให้ทั่วผม โดยเน้นบริเวณที่ต้องการหมักเป็นพิเศษ
  4. ทิ้งเอาไว้ตามเวลาของแต่ละยี่ห้อที่ระบุเอาไว้ได้เลย โดยส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ที่ประมาณ  5-15 นาทีค่ะ
  5. ล้างออกด้วยน้ำน้ำสะอาด

การหมักเคราตินประมาณ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ จะช่วยฟื้นฟูผมเสียได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเลยค่ะ

คำถามที่พบบ่อย

ทรีทเม้นท์เคราติน ใช้ดีไหม?

ทรีทเม้นท์เคราติน ใช้ดีค่ะ เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม ที่เน้นฟื้นฟูผมเสีย พร้อมบำรุงให้ผมแข็งแรง เงางาม จัดทรงง่าย เหมือนเสริมอาหารผมให้กับเส้นผมของเรานั่นเอง

ทําเคราติน กี่วันสระผมได้?

หลังทำเคราตินแล้ว ส่วนใหญ่จะอยู่ได้ประมาณ 3 วัน โดยในช่วง 3 วันนั้น พยายามเลี่ยงกิจกรรมที่ทำร้ายเส้นผม หรือทำให้เส้นผมได้รับความร้อนมากจนเกินไป อย่างเช่น การหนีบผม ไดร์ผมร้อนๆ นะคะ

เคราตินสด อันตรายไหม?

เคราตินสด ในปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลว่า เป็นอันตรายร้ายแรงต่อเส้นผมของเราค่ะ เนื่องจากเขาเป็นโปรตีนที่มีหน้าที่ช่วยบำรุงเส้นผมอยู่แล้ว และยังรักษาปัญหาผมต่าง ๆ เป็นเสมือนวิตามินเส้นผม ที่ช่วยให้ผมของสาว ๆ แข็งแรงขึ้นนั่นเองค่ะ

แต่อาจจะมีอาการแพ้ส่วนบุคคล ที่หนังศีรษะไม่ถูกกับสารสกัดบางตัว อาจจะทำให้เกิดผื่นคัน หรือผมร่วงได้

มิสซี่แนะนำให้สังเกตอาการตัวเองอย่างละเอียด หากมีอาการแพ้ให้หยุดใช้และปรึกษาแพทย์ทันทีค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะสาว ๆ สำหรับ พิกัด 10 เคราติน ยี่ห้อไหนดี ที่มิสซี่ยกขบวนมาแนะนำกันวันนี้ มีแบรนด์ไหนที่ถูกใจสาว ๆ กันบ้างไหมเอ่ย? มิสซี่หวังว่าเพื่อน ๆ จะมีตัวเลือกในการเลือกซื้อทรีตเมนต์เคราติน เพิ่มขึ้นกันไม่มากก็น้อยนะคะ ผู้หญิงเราอย่าหยุดสวย! นอกจากรูปร่างหน้าตาผิวพรรณแล้ว เส้นผมก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราห้ามมองข้ามเลยนะคะ ครั้งหน้าเราจะมีอะไรมาแนะนำกันอีกบ้าง รอติดตามกันได้เลย สำหรับวันนี้มิสซี่ต้องขอตัวไปก่อนนะคะ แล้วเจอกันใหม่ค่า

ที่มาข้อมูล

  1. https://www.healthline.com/health/keratin 
  2. https://www.byrdie.com/best-professional-keratin-lines-348327 
Chalita Chamnanmueang

Chalita Chamnanmueang

เบสท์จบการศึกษาจากคณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ปัจจุบันเป็น Editor และ Content writer ประจำ Mizzyreview มีประสบการณ์เขียน copywriting, แปลบทความอังกฤษ-ไทย และรับผิดชอบตรวจสอบเนื้อหา และตีพิมพ์บทความผ่าน WordPress คอยอัปเดตเนื้อหาหลายๆ ด้าน ทั้งบิวตี้ไอเทม สกินแคร์ อาหารเสริม และเทคโนโลยีต่างๆ ให้สาวๆ ได้เข้าถึงทุกเทรนด์ ทุกไอเทมเด็ดกันค่ะ