เพื่อน ๆ คนไหนกำลังประสบกับปัญหา ผมแห้ง ผมเสีย ฟังทางนี้! วันนี้มิสซี่มีตัวช่วยในการแก้ผมเสีย ในรูปแบบต่าง ๆ มาฝากทุกคนกันค่า และสิ่งนั้นก็คือ เคราติน นั่นเอง! หลายคนอาจจะเคยได้ยินเรื่อง เคราตินหมักผม หรือ ทรีตเมนต์ กันมาอยู่บ้างใช่ไหมคะ โดยเฉพาะสาว ๆ ที่ชื่นชอบการทำผม น่าจะต้องการตัวช่วยในการแก้ผมเสียกันเยอะพอสมควรเลย
เตรียมตัวบอกลาเส้นผมแห้งเสียได้เลย! วันนี้ปัญหาเรื่องเส้นผมของสาว ๆ จะต้องหมดไป เพราะมิสซี่มีแนะนำ เคราตินบำรุงผม ฉบับปี 2023 มาฝากกันแบบจุก ๆ 10 ยี่ห้อกันเลยทีเดียว พร้อมรีวิวข้อดีข้อเสียให้เพื่อน ๆ เหมือนเดิม! ใครที่กำลังเลือกซื้อ เคราติน ยี่ห้อไหนดี อยู่ล่ะก็ ถ้าพร้อมแล้ว ชวนเพื่อนชวนแฟนตามมาสืบกันได้เลยค่า
TOP 3 เคราตินหมักผมที่ดีที่สุด
#1 Tresemme Keratin Glazing Serum Conditioner
ราคา 229 บาท
#2 Lolane Intense Care Keratin Repair Mask for Dry & Damaged Hair in General
ราคา 129 บาท
#3 Mistine Keratin Hair TreatmentSung Renewing Serum EX 50ml
ราคา 179 บาท
เคราติน คืออะไร
เคราติน คือ โปรตีนชนิดหนึ่ง ที่เราสามารถพบได้ใน เส้นผม / เล็บ / ผิวหนัง / และขน เป็นอีกโปรตีนหนึ่งที่สำคัญสำหรับร่างกายมาก ๆ โดยในแต่ละบริเวณที่พบเคราติน โครงสร้างก็จะแตกต่างกันไป ประกอบไปด้วยกรดอะมิโนที่เชื่อมต่อกันอย่างแข็งแรง ทำให้เพื่อน ๆ มีผมเงา / ผมนุ่มสวย บางคนก็จะเน้นเคราตินที่ช่วยเร่งผมยาว ด้วยนั่นเองค่ะ
เคราติน ช่วยอะไร
ช่วยในเรื่องของ ขน / เล็บ / และ ผิวหนัง แต่หลายคนน่าจะคุ้นเคยกับคำว่า เคราตินแก้ผมเสีย เพราะคุณเขาช่วยในเรื่องของเส้นผมได้แบบเน้น ๆ และดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็น…
ช่วยให้ผมสวยดูเงางาม
เคราติน มีหน้าที่ทำให้เซลล์ในเส้นผมทับซ้อนกัน ส่งผลให้เส้นผมของเพื่อน ๆ เรียบขึ้น แน่นขึ้น ปัญหาผมชี้ฟูน้อยลง พร้อมกับทำให้เส้นผมดูเงางาม สุขภาพดีนั่นเองค่ะ
ช่วยให้ผมแข็งแรงขึ้น
นอกจากผมจะสุขภาพดีขึ้นแล้ว ยังทำหน้าที่ปกป้องเส้นผม และผิวหนัง จากรังสี UV ได้ดีอีกด้วย! เมื่อผมได้รับการความเสียหายจากมลภาวะน้อยลง เส้นผมของเพื่อน ๆ ก็จะแข็งแรงขึ้นนั่นเองค่า
ช่วยให้ผมยาวขึ้น
เคราติน ยังเป็นโปรตีนสำคัญที่ช่วยให้สารอาหารลำเลียงไปเลี้ยงเส้นผมได้ดี ทำให้เกิดผมเกิดใหม่ และผมยาวเร็วขึ้นด้วยนะคะ ใครมองหาตัวช่วยเร่งผมยาว ต้องจัดแล้วค่ะ
ช่วยสร้างความยืดหยุ่นให้เส้นผม
หยุดปัญหาผมขาดหลุดร่วงกันได้เลย! เพราะเคราติน ช่วยให้เส้นผมของเพื่อน ๆ ยืดหยุ่นขึ้น แข็งแรงขึ้น ส่งผลให้ผมของเราขาดร่วงน้อยลงนั่นเองค่ะ ใครที่ผมเปราะบางขาดง่าย ต้องใช้คุณเขาหมักผมด่วน ๆ เลยน้า
ตารางเปรียบเทียบ “เคราติน ยี่ห้อไหนดี”
ชื่อสินค้า | Tresemme Keratin Glazing Serum Conditioner | Lolane Intense Care Keratin Repair Mask for Dry & Damaged Hair in General | Mistine Keratin Hair Treatment | Schwarzkopf BC Bonacure Keratin Smooth Perfect Treatment | JOJI Secret Young Charcoal Keratin Treatment Mask | JOICO K-PAK Hydrator Intense Treatment | L’ORÉAL PARIS Elseve Keratin Smooth Perfecting Mask | Daeng Gi Meo Ri Dlaesoo Intensive Nourishing Pack | Daeng Gi Meo Ri Glamo Keratin Treatment | Dove Treatment Mask Intense Repair Dark Blue |
รูปสินค้า | ||||||||||
คุณสมบัติ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ราคาเต็ม | 229 บาท | 129 บาท | 179 บาท | 469 บาท | 189 บาท | 900 บาท | 199 บาท | 790 บาท | 1,190 บาท | 318 บาท |
ปริมาณ | 300 ml | 200 ml | 200 ml | 200 ml | 300 ml | 250 ml | 200 ml | 200 ml | 400 ml | 180 ml |
ตก ml ละ | 0.76 บาท | 0.65 บาท | 0.89 บาท | 2.34 บาท | 0.63 บาท | 3.6 บาท | 0.99 บาท | 3.95 บาท | 2.97 บาท | 1.76 บาท |
ความคุ้มค่า | ||||||||||
เช็คส่วนลดที่ |
จะเลือกซื้อ เคราติน ยี่ห้อไหนดี 2566
1. เคราติน โดยรวมที่ดีที่สุด : Tresemme Keratin Glazing Serum Conditioner
ราคา 229 บาท
ข้อดี
+ ล้างออกง่าย
+ ราคาไม่แพง
+ มีกลิ่นหอม
ข้อควรพิจารณา
– ควรใช้คู่กับแชมพูเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
เทรซาเม่ เคราติน ครีมนวดตัวดังของแบรนด์ Tresemme ที่มิสซี่บอกเลยว่า เหมาะกับคนที่เริ่มหัดดูแลผมที่สุดเลยค่ะ เพราะเขามาช่วยแก้ปัญหาโดยรวมของเส้นผมได้ดีมาก ๆ โดยสูตรนี้จะเน้นไปที่ช่วยให้ ผมเงา แก้ผมชี้ฟู หรือ ผมพันกัน ได้ดีมาก ๆ หมดปัญหาผมไม่มีน้ำหนัก และขาดหลุดร่วงในราคาที่เป็นมิตรด้วยนะคะ
นอกจากนี้เขายังเคลมว่า ช่วยล็อกเกล็ดผม ทำให้ผมนุ่มเงางามได้อย่างยาวนาน ในส่วนของเนื้อครีมก็จะค่อนข้างบางเบา ใช้ง่าย ล้างออกก็ง่ายไปอีก ใครกำลังมองหาไอเทมบำรุงผม ราคาย่อมเยา และช่วยแก้ปัญหาโดยรวมได้อย่างดี มิสซี่แนะนำแบรนด์เทรซาเม่เลยนะคะ
ปริมาณ 300 ml : ราคา 229 บาท (ตก ml ละ 0.76 บาท)
จุดเด่น | ช่วยล็อกเกล็ดผม |
เนื้อผลิตภัณฑ์ | ลิควิด |
เหมาะกับสภาพผม | ผมแห้งเสีย / ผมไม่มีน้ำหนัก |
2. เคราติน แก้ผมชี้ฟูที่ดีที่สุด : Lolane Intense Care Keratin Repair Mask for Dry & Damaged Hair in General
ราคา 129 บาท
ข้อดี
+ ราคาไม่แพง
+ มีหลายสูตรให้เลือก
+ ผมดีขึ้นจริง
ข้อควรพิจารณา
– ต้องใช้ควบคู่กับแชมพู อาจเพิ่มขั้นตอนในการสระผมมากขึ้น
ทรีตเมนต์ผมจาก Lolane มิสซี่เดาว่าเพื่อน ๆ ต้องเคยได้ยินชื่อแบรนด์ดันมาบ่อยมากเลยใช่ไหมคะ แน่นอนว่า โลแลนเคราติน เป็นทรีตเมนต์หมักผม ที่ค่อนข้างโด่งดัง และคนใช้เยอะมากเลยทีเดียว ด้วยราคาที่น่าคบหาสุด ๆ ทั้งยังมีมาให้เพื่อน ๆ เลือกใช้หลากหลายสูตรมาก ซึ่งแต่ละสูตรก็จะขึ้นอยู่กับเส้นผมของเพื่อน ๆ นั่นเองค่ะ แต่สำหรับสูตรผมแห้งเสียนี้ มิสซี่การันตีว่าใช้ได้ทุกคนและทุกสภาพผมเลย เพราะเขามาช่วยฟื้นฟูคนที่กำลังมีปัญหาผมได้อย่างดีเยี่ยมเลยค่ะ
ในส่วนของสูตรบำรุงผมแห้งเสียนี้ นอกจากเขาจะช่วยแก้ผมเสียแล้ว ยังช่วยแก้ผมชี้ฟูด้วย เหมาะกับสาว ๆ ที่ชอบเจอกับปัญหา ผมไร้น้ำหนัก ทำให้ชี้ฟูง่าย ไปจนถึงผมพันกัน บอกเลยว่าตัวนี้จบ หมดปัญหา ผมสวยแน่นอนค่า มิสซี่แนะนำตัวนี้เลยนะคะ
ปริมาณ 200 ml : ราคา 129 บาท (ตก ml ละ 0.65 บาท)
จุดเด่น | ผมนุ่มลื่นหวีง่ายด้วยไมโครเคราติน |
เนื้อผลิตภัณฑ์ | ลิควิด |
เหมาะกับสภาพผม | ผมแห้งเสียและชี้ฟู |
3. เคราติน สำหรับผมทำเคมีที่ดีที่สุด : Mistine Keratin Hair Treatment
ราคา 179 บาท
ข้อดี
+ เน้นบำรุงผมจากการทำเคมีโดยเฉพาะ
+ ราคาไม่แพง
+ เนื้อเป็นน้ำมัน ล้างออกง่าย
ข้อควรพิจารณา
– ต้องใช้คู่กับแชมพู อาจเพิ่มขั้นตอนในการสระผม
ใครทำผมบ่อย ๆ มิสซี่แนะนำ Mistine ตัวนี้เลยค่า ตัวนี้เขาเป็นสูตรสำหรับ บำรุงผมทำเคมี โดยเฉพาะ ด้วยนวัตกรรมที่ช่วยผลักเคราติน ให้ซึมลงสู่แกนผมได้อย่างล้ำลึก ทั้งยังเป็น น้ำมันโอเมก้าและมีกรดอะมิโน ที่ช่วยบำรุงผมเสียอย่างต่อเนื่อง ทำให้เส้นผมของสาว ๆ กลับมาแข็งแรง แก้ผมช็อต และลดอาการแห้งเสียจากการทำสารเคมีได้อย่างรวดเร็ว!
ในส่วนของเนื้อครีม จะแตกต่างจากตัวอื่นตรงที่เป็นเนื้อน้ำมัน ทำให้ตอนหมักผม น้องกระจายตัวได้เร็วและล้างออกง่าย สาว ๆ คนไหนกำลังเลือกซื้อ ที่หมักผม ราคาน่าคบ แถมยังเน้นบำรุงผมจากสารเคมีล่ะก็ มิสซี่ขอเชียร์ทรีตเมนต์เคราตินจากมิสทีนเลยค่า
ปริมาณ 200 ml : ราคา 179 บาท (ตก ml ละ 0.89 บาท)
จุดเด่น | บำรุงล้ำลึกด้วยน้ำมันโอเมก้าและกรดอะมิโน |
เนื้อผลิตภัณฑ์ | น้ำมัน |
เหมาะกับสภาพผม | ผมเสียจากการทำเคมี |
4. เคราติน ผมเรียบจัดทรงง่ายที่ดีที่สุด : Schwarzkopf BC Bonacure Keratin Smooth Perfect Treatment
ราคา 469 บาท
ข้อดี
+ มีนวัตกรรมเฉพาะที่ทำให้ผมเรียบลื่น
+ กลิ่มหอมติดทนนาน
+ ใช้เวลาหมักไม่นาน
ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างแรง
จบปัญหาผมจัดทรงยาก ด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผมแบรนด์ดัง Schwarzkopf กันได้เลยค่ะทุกคน แบรนด์นี้เขาโด่งดังในเรื่องของผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะตัวเคราตินหมักผมตัวนี้ ที่มีนวัตกรรมเฉพาะอย่าง “เซลล์เพอร์เฟ็คเตอร์” ช่วยในเรื่องของการล็อกเซลล์ในเส้นผมให้แน่น ทำให้ผมของเพื่อน ๆ เรียบลื่น จัดทรงง่าย ประหยัดเวลาแต่งตัวไปได้เยอะเลยค่ะ!
และไม่ใช่แค่นั้น ทรีทเม้นท์ผมของแบรนด์นี้ยังใช้เวลาหมักน้อยมาก ๆ เพียงไม่กี่นาที ผมก็นุ่มลื่น เรียบสวย จัดทรงง่าย ทันใจสุด ๆ เหมาะกับคนที่ชอบประหยัดเวลามากเลยค่ะ เพื่อน ๆ คนไหนมองหาครีมหมักผมที่ใช้เวลาไม่นาน ก็ได้ผมนุ่มสลวยตรงใจ Schwarzkopf เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ตอบโจทย์แน่นอนค่า
ปริมาณ 200 ml : ราคา 469 บาท (ตก ml ละ 2.34 บาท)
จุดเด่น | นวัตกรรมเซลล์เพอร์เฟ็คเตอร์ |
เนื้อผลิตภัณฑ์ | ลิควิด |
เหมาะกับสภาพผม | ผมกระด้าง / ผมเสีย / ผมชี้ฟูจัดทรงยาก |
5. เคราติน แก้ผมแตกปลายที่ดีที่สุด : JOJI Secret Young Charcoal Keratin Treatment Mask
ราคา 189 บาท
ข้อดี
+ ปริมาณเยอะใช้ได้นาน
+ เนื้อชาโคลบำรุงล้ำลึก
+ กลิ่นหอมเฉพาะ
ข้อควรพิจารณา
– ควรใช้ควบคู่กับแชมพูและครีมนวดเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
แบรนด์ JOJI เป็นทรีตเมนต์ผมเคราติน สูตรชาโคล ช่วยดูดซับสารเคมีที่ตกค้างและมลภาวะจากเส้นผม ทำให้ผมของเพื่อน ๆ แข็งแรงและสะอาดหมดจด แถมยังช่วยดูดซับความมันจากเส้นผมได้ด้วย! ตัวนี้จะค่อนข้างเหมาะกับเพื่อน ๆ ที่ชอบดัดผม หรือทำสีผมมาก ๆ เลยนะคะ พวกเส้นผมที่ผ่านการทำเคมีต่าง ๆ มา ขอบอกเลยว่ากระปุกนี้เอาอยู่แน่นอน!
ไม่หมดแค่นั้น ตัวนี้ เขายังแก้ผมแตกปลายได้ดีเยี่ยม ด้วยสารสกัดจากเมล็ดมะรุมและเคราตินเข้มข้น ส่งผลให้เส้นผมเรียบลื่น นุ่มสลวย หมดปัญหาผมชี้ฟู และแตกปลายเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง เพื่อน ๆ คนไหนผมเสียมาก ๆ ยี่ห้อโจจิ ตอบโจทย์แน่นอนค่ะ
ปริมาณ 300 ml : ราคา 189 บาท (ตก ml ละ 0.63 บาท)
จุดเด่น | สูตรชาโคลดูดซับสิ่งสกปรกจากเส้นผม |
เนื้อผลิตภัณฑ์ | ลิควิด |
เหมาะกับสภาพผม | ผมแตกปลาย / ผมที่ผ่านการทำเคมี |
6. เคราติน ผมนุ่มสวยที่ดีที่สุด : JOICO K-PAK Hydrator Intense Treatment
ราคา 900 บาท
ข้อดี
+ เหมาะกับผมที่แห้งเสียมากเป็นพิเศษ
+ มี official shop ช่องทางออนไลน์
+ แพคเกจจิ้งเป็นหลอด ใช้ง่าย
ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างแรง
เคราตินหมักผม จากแบรนด์ Joico ตัวนี้คือเหมาะกับคนที่ต้องการกู้ผมอย่างเร่งด่วนที่สุดเลยค่ะ! ด้วยสารสกัดจากน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส ช่วยฟื้นฟูพร้อมบำรุงเส้นผมของเพื่อน ๆ อย่างล้ำลึก นอกจากจะทำให้ผมที่แห้งเสียมาก กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งแล้ว เขายังทำให้ผมของเพื่อน ๆ นุ่มลื่น สลวย จัดทรงง่าย ผมนุ่มสวย อย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ!
ในส่วนของ น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส จะทำหน้าที่เสมือนโปรตีนที่เลียนแบบธรรมชาติของเส้นผม ช่วยปกป้องใยเส้นผมให้แข็งแรง เมื่อผมกลับมานุ่มสวยแล้ว โอกาสที่จะกลับไปแห้งเสียก็ยากขึ้นเช่นกันค่ะ ใครที่มองหาผลิตภัณฑ์กู้ผมเสียอย่างเร่งด่วนแล้ว มิสซี่แอบเชียร์แบรนด์นี้เลยน้า
ปริมาณ 250 ml : ราคา 900 บาท (ตก ml ละ 3.6 บาท)
จุดเด่น | กู้ผมเสียและบำรุงผมให้นุ่มด้วยน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส |
เนื้อผลิตภัณฑ์ | ลิควิด |
เหมาะกับสภาพผม | ผมแห้งเสียมาก |
7. เคราติน ผมเงางามที่ดีที่สุด : L’ORÉAL PARIS Elseve Keratin Smooth Perfecting Mask
ราคา 199 บาท
ข้อดี
+ ซึมลึกถึงแกนผม
+ ราคาไม่แพง
+ ผมเรียบลื่นขึ้นจริง
ข้อควรพิจารณา
– ต้องใช้คู่กับแชมพูและครีมนวดถึงจะได้ผลดีที่สุด
ทรีตเมนต์หมักผม ตัวดังจาก L’oreal Paris ให้ความรู้สึกผมนุ่มลื่นดุจใยไหมกันเลยทีเดียว! ด้วยนวัตกรรมเคราติน ที่มีขนาดเล็กกว่าเคราตินทั่วไป จึงทำให้ซึบซามเข้าสู่แกนผมได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ช่วยให้เส้นผมมีความชุ่มชื้น ยืดหยุ่น ผมแลดูเงางามและสุขภาพดี ผมเสียมากแค่ไหนกระปุกนี้เอาอยู่แน่นอนค่ะ!
นอกจากนี้ ตัวแบรนด์ยังเคลมว่า สามารถล็อกผม ให้จัดทรงง่าย แก้ผมชี้ฟู ได้ถึง 72 ชม. กันเลยทีเดียวค่ะ! เอาใจคนผมชี้ฟูสุด ๆ ใครผมจัดทรงยาก ผมแห้งเสีย อยากให้เส้นผมดูเงางามนุ่มสลวย สาว ๆ คนไหนผมชี้ฟู ตัวนี้เอาอยู่แน่นอนค่ะ มิสซี่รับประกันเลย
ปริมาณ 200 ml : ราคา 199 บาท (ตก ml ละ 0.99 บาท)
จุดเด่น | บำรุงล้ำลึกรวดเร็ว ลดผมชี้ฟู |
เนื้อผลิตภัณฑ์ | ลิควิด |
เหมาะกับสภาพผม | ผมชี้ฟู / ผมไร้น้ำหนัก |
8. เคราติน ลดผมร่วงที่ดีที่สุด : Daeng Gi Meo Ri Dlaesoo Intensive Nourishing Pack
ราคา 790 บาท
ข้อดี
+ ส่วนผสมเฉพาะจากสมุนไพร
+ แบรนด์มีชื่อเสียง น่าเชื่อถือ
ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างแรงเมื่อเทียบกับปริมาณ
เพื่อน ๆ คนไหน มีปัญหาผมขาดหลุดร่วง จนท้อใจมาทางนี้เลยค่ะ! มิสซี่แนะนำเแบรนด์ Daeng Gi Meo Ri แบรนด์ดังที่หลาย ๆ คนรู้จักกันดี โดยสูตรนี้เขาเน้นไปที่การซ่อมแซมเส้นผม แก้ผมเสีย ผมขาดหลุดร่วง พร้อมบำรุงหนังศีรษะไปในตัว ทำให้ผมแข็งแรง ส่งผลให้มีผมเกิดใหม่มากขึ้นด้วยนะคะ
ด้วยสารสกัดจากสมุนไพรกว่า 20 ชนิด พร้อมเข้าบำรุงเส้นผมของสาว ๆ อย่างล้ำลึก อัดแน่นไปด้วยคุณภาพ จึงมั่นใจได้เลยว่าผมของเพื่อน ๆ จะต้องแข็งแรง ลดอาการขาดร่วงได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้เขายังมี โปรตีนรังไหม และน้ำมันอาร์แกน ที่ทำหน้าที่เติมความชุ่มชื้นให้แก่เส้นผม หมดปัญหาผมเสียไม่พอ ผมยังนุ่มสลวยเงางามดุจใยไหมกันไปเลยค่ะ! บอกเลยว่าช่วยลดอาการผมขาดหลุดร่วงปัง ๆ สูตรนี้เป็นอะไรที่น่าลองมาก ๆ เลยนะคะ!
ปริมาณ 200 ml : ราคา 790 บาท (ตก ml ละ 3.95 บาท)
จุดเด่น | บำรุงด้วยสมุนไพรกว่า 20 ชนิด พร้อมโปรตีนรังไหม และน้ำมันอาร์แกน |
เนื้อผลิตภัณฑ์ | ลิควิด |
เหมาะกับสภาพผม | ผมเสีย / ผมขาดหลุดร่วง |
9. เคราติน อ่อนโยนต่อหนังศีรษะที่ดีที่สุด : Daeng Gi Meo Ri Glamo Keratin Treatment
ราคา 1,190 บาท
ข้อดี
+ อ่อนโยนต่อหนังศีรษะเป็นพิเศษ
+ สูตรสมุนไพรเฉพาะของทางแบรนด์
+ ขวดปั๊ม ใช้สะดวก
ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างแรงเมื่อเทียบกับปริมาณ
ที่หมักผมสูตรอ่อนโยนต่อหนังศีรษะ สุด ๆ ต้องยกให้ Daeng Gi Meo Ri สูตรนี้ ที่ยกเอาสมุนไพรเฉพาะแบบคัดมาเน้น ๆ ทั้ง 19 ชนิด มารวมไว้ในขวดเดียว! ไม่ว่าจะเป็น โสมเกาหลี / เมล็ดทานตะวัน / ใบต้นสน ฯลฯ พร้อมความหอมอ่อน ๆ จากดอกเบญจมาศป่าจากเกาะเชจู เหมือนเดินทางไปทรีตเมนต์ผมที่เกาหลีกันเลยทีเดียวค่า
โดยหลัก ๆ แล้วสูตรนี้เขาเน้นบำรุงหนังศีรษะอย่างอ่อนโยน แก้ผมเสียอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะผมเปราะบาง ขาดง่าย หรือชี้ฟู ไม่มีน้ำหนัก ตัวนี้สามารถกู้เส้นผมให้กลับมาเงางามและแข็งแรงขึ้นอีกครั้ง! และถึงแม้ว่าคุณภาพจะคับแน่นขนาดนี้ แต่เนื้อกลับมีความบางเบา ใช้ง่าย ล้างออกง่ายมาก ๆ ด้วยนะคะ ใครกำลังมองหา ครีมหมักผม อ่อนโยนต่อหนังศีรษะ และกู้ผมเสียได้อย่างครบวงจร มิสซี่อยากให้ลองยี่ห้อนี้ดูนะคะ
ปริมาณ 400 ml : ราคา 1,190 บาท (ตก ml ละ 2.97 บาท)
จุดเด่น | อ่อนโยนต่อหนังศีรษะ ด้วยสมุนไพรทั้ง 19 ชนิด |
เนื้อผลิตภัณฑ์ | ลิควิด |
เหมาะกับสภาพผม | หนังศีรษะบาง / ผมเปราะบาง / ผมเสีย |
10. เคราติน แก้ผมเสียที่ดีที่สุด : Dove Treatment Mask Intense Repair Dark Blue
ราคา 318 บาท
ข้อดี
+ แบรนด์ดัง หาซื้อง่าย
+ มีกลิ่นหอมเฉพาะ
+ ใช้เวลาหมักเพียงนิดเดียว
ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างแรงเมื่อเทียบกับปริมาณ
– ปริมาณน้อย
ไอเทมแก้ผมเสียได้อยู่หมัดที่สุด! คงต้องยกให้ Dove แบรนด์ดังที่มิสซี่เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จักแน่นอนค่ะ ด้วยสูตรหมักผมแบบ นูตริ-เคราติน เป็นการเข้าบำรุงเส้นผมที่เสียแบบเส้นต่อเส้น พร้อมช่วยให้ผมของสาว ๆ กลับมานุ่มสลวยทันทีหลังหมัก โดยใช้เวลาเพียงแป๊บเดียวเท่านั้น เหมาะกับคนที่ต้องการประหยัดเวลามาก ๆ เลยค่า
นอกจากเขาจะช่วยแก้ผมเสียแล้ว สูตรนี้ยังแก้ผมชี้ฟูได้ดีมากเลยนะคะ สาว ๆ หลายคนผมเสียจนแตกปลาย ไม่มีน้ำหนัก ทำให้จัดทรงยากไปอีก แต่พอใช้ตัวนี้รับรองว่าผมจะกลับมานุ่มจัดทรงง่าย ทำผมทรงไหนก็ไม่ต้องกลัวอีกต่อไปแล้ว! สำหรับผลิตภัณฑ์บำรุงผม กู้ผมเสีย มิสซี่ว่าแบรนด์โดฟ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่หาซื้อมาลองง่ายมากเลยค่า
ปริมาณ 180 ml : ราคา 318 บาท (ตก ml ละ 1.76 บาท)
จุดเด่น | บำรุงเส้นผมเส้นต่อเส้นด้วยสูตรเฉพาะ |
เนื้อผลิตภัณฑ์ | ลิควิด |
เหมาะกับสภาพผม | ผมแห้งเสีย / ผมชี้ฟู |
วิธีเลือก “เคราติน”
การจะเลือกไอเทมมาบำรุงเส้นผมของเรา สาว ๆ ก็ควรที่จะดูให้ดี บางแบรนด์อาจจะมีส่วนผสมที่ดีแต่ไม่เหมาะกับเส้นผมของเราก็เป็นได้ค่ะ หรือบางแบรนด์อาจจะราคาไม่แพงดูใช้ง่าย แต่พอใช้แล้วไม่เกิดผลลัพธ์ ดังนั้นมิสซี่อยากให้สาว ๆ เลือกจาก…
เลือกที่ช่วยแก้ปัญหาผมของเราอย่างตรงจุดที่สุด
เพื่อน ๆ ต้องรู้ก่อนว่าผมของเรากำลังเจอกับปัญหาอะไร เช่น ผมเสีย / ผมชี้ฟู / ผมขาดหลุดร่วง ฯลฯ จากนั้นให้เลือก ทรีตเมนต์เคราติน ด้วยสูตรที่ตรงกับปัญหาเส้นผมของเพื่อน ๆ เพื่อแก้ปัญหาผมให้ตรงจุด พร้อมกลับมาแข็งแรงเงางามดังเดิมค่า
เลือกที่เหมาะกับเส้นผมของเรามากที่สุด
เส้นผมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนผมเส้นเล็ก บางคนผมเส้นใหญ่ แม้แต่หนังศีรษะก็เช่นกันค่ะ บางคนอาจจะหนังศีรษะมัน ในขณะที่บางคนหนังศีรษะแห้ง ดังนั้น การเลือกสูตรผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับสภาพผมของเราจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ เพื่อเลี่ยงอาการแพ้ต่าง ๆ ด้วยนะคะ
เลือกสารสกัดที่เกิดผลลัพธ์กับเส้นผมของเราสูงสุด
สารสกัด ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่สาว ๆ ไม่ควรมองข้ามนะคะ พยายามเลือกสารสกัดที่เน้นบำรุงตรงตามความต้องการของเรา หรืออาจจะเลือกเป็นตัวที่ทำให้เกิดอาการแพ้น้อยที่สุด เพื่อความปลอดภัยของหนังศีรษะของเพื่อน ๆ และลดอาการผมหลุดร่วงนั่นเองค่า
วิธีหมักเคราติน ด้วยตัวเอง
การหมักผมด้วยตัวเองสามารถทำได้ง่าย ๆ ไม่ต้องง้อช่างทำผมเลยค่ะ! ด้วยการทำตามคำแนะนำของมิสซี่ด้านล่างนี้ได้เลยค่า
- ล้างผมให้หมาด ก่อนลงแชมพูตามปกติ
- หลังล้างแชมพูออกแล้ว ทำผมให้หมาดแบบกำลังดี
- ชโลมทรีตเมนต์เคราตินให้ทั่วผม โดยเน้นบริเวณที่ต้องการหมักเป็นพิเศษ
- ทิ้งเอาไว้ตามเวลาของแต่ละยี่ห้อที่ระบุเอาไว้ได้เลย โดยส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ที่ประมาณ 5-15 นาทีค่ะ
- ล้างออกด้วยน้ำน้ำสะอาด
การหมักเคราตินประมาณ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ จะช่วยฟื้นฟูผมเสียได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเลยค่ะ
คำถามที่พบบ่อย
ทรีทเม้นท์เคราติน ใช้ดีไหม?
ทรีทเม้นท์เคราติน ใช้ดีค่ะ เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม ที่เน้นฟื้นฟูผมเสีย พร้อมบำรุงให้ผมแข็งแรง เงางาม จัดทรงง่าย เหมือนเสริมอาหารผมให้กับเส้นผมของเรานั่นเอง
ทําเคราติน กี่วันสระผมได้?
หลังทำเคราตินแล้ว ส่วนใหญ่จะอยู่ได้ประมาณ 3 วัน โดยในช่วง 3 วันนั้น พยายามเลี่ยงกิจกรรมที่ทำร้ายเส้นผม หรือทำให้เส้นผมได้รับความร้อนมากจนเกินไป อย่างเช่น การหนีบผม ไดร์ผมร้อนๆ นะคะ
เคราตินสด อันตรายไหม?
เคราตินสด ในปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลว่า เป็นอันตรายร้ายแรงต่อเส้นผมของเราค่ะ เนื่องจากเขาเป็นโปรตีนที่มีหน้าที่ช่วยบำรุงเส้นผมอยู่แล้ว และยังรักษาปัญหาผมต่าง ๆ เป็นเสมือนวิตามินเส้นผม ที่ช่วยให้ผมของสาว ๆ แข็งแรงขึ้นนั่นเองค่ะ
แต่อาจจะมีอาการแพ้ส่วนบุคคล ที่หนังศีรษะไม่ถูกกับสารสกัดบางตัว อาจจะทำให้เกิดผื่นคัน หรือผมร่วงได้
มิสซี่แนะนำให้สังเกตอาการตัวเองอย่างละเอียด หากมีอาการแพ้ให้หยุดใช้และปรึกษาแพทย์ทันทีค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสาว ๆ สำหรับ พิกัด 10 เคราติน ยี่ห้อไหนดี ที่มิสซี่ยกขบวนมาแนะนำกันวันนี้ มีแบรนด์ไหนที่ถูกใจสาว ๆ กันบ้างไหมเอ่ย? มิสซี่หวังว่าเพื่อน ๆ จะมีตัวเลือกในการเลือกซื้อทรีตเมนต์เคราติน เพิ่มขึ้นกันไม่มากก็น้อยนะคะ ผู้หญิงเราอย่าหยุดสวย! นอกจากรูปร่างหน้าตาผิวพรรณแล้ว เส้นผมก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราห้ามมองข้ามเลยนะคะ ครั้งหน้าเราจะมีอะไรมาแนะนำกันอีกบ้าง รอติดตามกันได้เลย สำหรับวันนี้มิสซี่ต้องขอตัวไปก่อนนะคะ แล้วเจอกันใหม่ค่า
ที่มาข้อมูล