‘รังแค’ ปัญหาเล็ก ๆ แต่ก็กวนใจ แถมสร้างความรำคาญได้ไม่น้อย บางทีแค่สางผมเบา ๆ หวีผมนิดหน่อย ก็มีพวกสะเก็ดขาว ๆ เล็ก ๆ คล้ายผงฝุ่น ร่วงลงมาเปื้อนเสื้อผ้า ยิ่งวันไหนใส่เสื้อสีเข้มยิ่งเห็นชัดเจน หากใครกำลังกลุ้มใจกับปัญหารังแค วันนี้เราก็มีเคล็ดลับดี ๆ มาบอก
อย่างที่หลาย ๆ คนคงรู้ดีว่า มียาสระผมแก้รังแคขายอยู่แทบทุกร้านค้าชั้นนำ ตั้งแต่ราคาถูกไปจนถึงแพงมาก แต่รู้หรือไม่ว่า วิธีขจัดรังแคให้หายขาด ไม่ใช่แค่นี้เท่านั้น แต่ต้องสระผมให้ถูกวิธี สะอาดหมดจดด้วยนะ
ส่วนวิธีสระผมไม่ให้มีรังแคกวนใจก็ไม่ยากเลย อยากรู้ว่ามีอะไรบ้างต้องอ่านบทความนี้ให้จบ พร้อมแล้วลุย!
วิธีสระผมไม่ให้มีรังแค [สรุป]
- สระผมสม่ำเสมอและนวดให้เข้าถึงหนังศีรษะ
- เลือกแชมพูรักษารังแคโดยเฉพาะ
- ปฏิบัติตามคำแนะนำบนขวดแชมพูขจัดรังแคให้ดีก่อนใช้
- ลงออยล์บำรุงผมก่อนสระผม
- ใช้ทรีตเมนต์ทุกครั้งหลังสระผม
- ใช้ผ้าขนหนูไมโครไฟเบอร์สำหรับเช็ดผม
วิธีสระผมไม่ให้มีรังแค
1.สระผมสม่ำเสมอและนวดให้เข้าถึงหนังศีรษะ
วิธีสระผมที่ถูกต้อง เพื่อประสิทธิภาพที่ดีในการขจัดรังแค คือ
- นวดเบา ๆ ให้แชมพูแทรกซึมไปถึงหนังศีรษะ
- หากคัน ไม่ควรเกาแรง ๆ ใช้ปลายนิ้วนวดแทน
- ล้างออกให้สะอาดหมดจด เพราะหากตกค้าง อาจระคายเคืองหนังศีรษะได้
อย่างที่ได้เล่าให้ฟังไปด้านบน รังแคเกิดได้จากหลายสาเหตุ และการสระผมน้อยเกินไปก็เป็นหนึ่งในนั้น ดังนั้น สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย ถ้าอยากมีหนังศีรษะที่สะอาด ปราศจากรังแค ต้องสระผมอย่างสม่ำเสมอ อย่าปล่อยให้ผมหมักหมมนานเกินไป เพราะจะยิ่งทำให้ปัญหารังแคแย่ลงได้
ส่วนใครที่กังวลว่า ถ้าสระผมแล้วต้องเป่าผมทุกวัน หัวเราโดนความร้อนบ่อย ๆ จะทำให้เกิดรังแคซ้ำซากไหม Orit Markowitz แพทย์ผิวหนัง ยืนยันไม่เป็นความจริง
แต่ถ้าใครยังกังวลผมแห้งเสียจากไดร์ สามารถใช้เซรั่มบำรุงผม หรือ สเปรย์ฉีดผมกันความร้อน เพื่อปกป้องเส้นผมจากความร้อน
2.เลือกแชมพูรักษารังแคโดยเฉพาะ
นอกจากการสระผมบ่อย ๆ จะเป็นวิธีรักษารังแคที่สำคัญแล้ว การเลือกใช้แชมพูก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยปกติ เรามักจะใช้แชมพูธรรมดา เน้นการบำรุงอย่างเดียว ซึ่งก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีแล้ว
แต่หากใครที่มีปัญหารังแค รักษาด้วยการใช้แชมพูธรรมดาแล้วไม่สามารถแก้รังแคได้ แนะนำว่าให้ใช้แชมพูรักษารังแคแทน
แต่ต้องเลือกแชมพูขจัดรังแคจากส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพ เช่น
- Nizoral 1% (สารที่ออกฤทธิ์ : Ketoconazole) ช่วยต้านการเกิดเชื้อรา หรือ ยีสต์ Malassezia หนึ่งในสาเหตุของการเกิดรังแคได้
- Salicylic acid และ Sulfur (หรือ Selenium Sulfide)
นอกจากนี้ ยังมีส่วนผสมที่มักจะเห็นได้บ่อย เช่น Pyrithione zinc, และ Coal tar แต่ไม่แนะนำให้ใช้ประจำ เพราะออกฤทธิ์รุนแรงเกินไป ไม่เป็นผลดีต่อหนังศีรษะเท่าไหร่นัก
เพราะแชมพูที่มี Coal tar ทำให้เส้นผมเปราะบาง และทำให้หนังศีรษะของเราไวต่อแสงแดดมากขึ้้น (อ้างอิง AAD) และยังมีข้อพึงระวังเยอะมาก เช่น ไม่ควรโดนแดดหลังจากใช้แชมพูชนิดนี้ 24-72 ชั่วโมง
3.ปฏิบัติตามคำแนะนำบนขวดแชมพูขจัดรังแคทุกครั้ง
มีแชมพูแก้รังแคมากมายบนท้องตลาด แต่ละแบบ ก็มีส่วนผสมที่แตกต่างกัน ออกฤทธิ์คนละรูปแบบ ดังนั้น เพื่อประสิทธิภาพในการกำจัดรังแค และผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แนะนำว่าต้องอ่านฉลากให้ดี และปฏิบัติตามคำแนะนำข้างขวดเสมอ
เช่น วิธีใช้แชมพูขจัดรังแคบางชนิด ต้องชโลมทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที ค่อยล้างออก แต่บางยี่ห้อที่มีสารออกฤทธิ์เร็ว ไม่ควรทิ้งไว้บนหนังศีรษะ เป็นต้น
4.ลงออยล์บำรุงผมก่อนสระผม
การชโลมผมด้วยน้ำมันใส่ผมก่อนสระผม นอกจากจะไม่ทำให้ผมพันกันยุ่งเหยิง ยังช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผมได้ด้วย
แนะนำให้ชโลมออยล์ไว้ก่อนอาบน้ำ นวดเบา ๆ ก่อนสระผม เพื่อบำรุงหนังศีรษะอย่างล้ำลึก จะให้ดีควรเป็นออยล์ที่มีส่วนผสมของ Tea Tree Oil, Neem Oil ที่มีคุณสมบัติลดการเกิดเชื้อราได้
5.ใช้ทรีตเมนต์ทุกครั้งหลังสระผม
นอกจากการสระผมทั่ว ๆ ไป โดยการใช้แชมพูลดรังแค ครีมนวดผมแล้ว วิธีสระผมไม่ให้มีรังแคอีกหนึ่งทริคที่อยากบอกต่อ คือ การบำรุงด้วยทรีตเมนต์
จริง ๆ เป็นวิธีที่สามารถทำได้ทุกคน จะมีรังแคหรือไม่มีก็ตาม การใช้ทรีตเมนต์ก็เหมือนการให้อาหารผม ทำให้ผมและหนังศีรษะแข็งแรง มีเส้นผมเงาสลวย
และยิ่งจำเป็นมาก ๆ ไปอีก สำหรับคนที่มีปัญหารังแค เพราะหนังศีรษะต้องการความชุ่มชื้นมากที่สุด
6.ใช้ผ้าขนหนูไมโครไฟเบอร์สำหรับเช็ดผม
ใครกำลังใช้ผ้าขนหนูไม่แห้งเช็ดผม หยุด! ต้องหยุดก่อน เหมือนจะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่การเช็ดผมก็ถือเป็นขั้นตอนสำคัญหนึ่งสำหรับวิธีสระผมไม่ให้มีรังแค เพราะคนส่วนใหญ่มักจะใช้ผ้าขนหนูอะไรก็ได้ แต่สังเกตกันไหม ยิ่งเช็ดไปเรื่อย ๆ ผ้าจะยิ่งชุ่ม อมน้ำ เสี่ยงต่อการเกิดเชื้อรามาก ๆ
แนะนำให้ใข้เป็นผ้าไมโครไฟเบอร์แทน เพราะมีความนุ่ม เบา ลดแรงเสียดสีกับเส้นผมได้ เพราะผมของเราจะอ่อนแอที่สุดตอนผมเปียก ยิ่งถ้าเช็ดผมแรง ๆ ผมก็จะหลุดร่วงได้ง่าย แถมพันกันยุ่งไปหมด จะให้ดี ต้องใช้ผ้าขนหนูไมโครไฟเบอร์มาช่วยถนอมหนังศีรษะของเรา
คำถามที่พบบ่อย
รังแค เกิดจากอะไร
รังแค เกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่สามารถระบุต้นตอได้อย่างชัดเจน แต่ปัจจัยเหล่านี้ มักจะเป็นต้นเหตุที่นำไปสู่การเกิดรังแคทั้งหมด ได้แก่
• การสระผมน้อยเกินไป ผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า การสะสมความมันนาน ๆ ทำให้เกิดรังแคได้
• การใช้แชมพูเยอะเกินไป
• การหวีผมบ่อยเกินไป ทำให้หนังศีรษะของเราบางจากการถูกเสียดสีบ่อย ๆ
• เชื้อราบนหนังศีรษะ (Malassezia)
• โดนแสงแดดมากเกินไป ทำให้หนังศีรษะเกิดความมัน
• ฮอร์โมนเพศ โดยผู้ชายมักจะเป็นรังแคมากกว่าผู้หญิง
เป็นรังแค ควรสระผมทุกวันไหม?
เป็นรังแค ควรสระผมทุกวัน จนกว่าอาการจะดีขึ้น โดยความถี่ในการสระผม ขึ้นอยู่กับสภาพหนังศีรษะ และลักษณะเส้นผมของแต่ละคน
ถ้ามีรังแคอ่อน ๆ แนะนำว่าควรสระผมทุกวัน จนกว่ารังแคจะหาย แต่ถ้าไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมมากเท่าไร ก็ไม่จำเป็นต้องสระทุกวันได้
หากผ่านไป 2–3 สัปดาห์แล้วอาการของรังแคยังไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์
เป็นรังแคใช้แชมพูอะไรดี
ควรใช้แชมพูที่มี Active Ingredients รักษารังแค ลดเชื้อรา เช่น Pyrithione zinc, Salicylic acid, Sulfur, Selenium sulfide, Ketoconazole เป็นต้น
วิธีสระผมไม่ให้มีรังแคไม่ยากเกินใจเราเลย ส่วนใหญ่ก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้เป็นประจำอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นแชมพู ครีมนวดผม หรือ ทรีตเมนต์ ไม่จำเป็นต้องใช้ของแพง แต่ให้มองหาส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพ และสระผมให้สะอาดเป็นประจำ เพียงเท่านี้ก็เป็นวิธีรักษารังแคให้หายขาดได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเองแล้ว
ส่วนใครที่ยังมีปัญหาหนังศีรษะแห้ง และ รังแคร่วมด้วย แนะนำให้เลือก แชมพูหนังศีรษะแห้ง สูตรขจัดรังแคโดยเฉพาะ มาบำรุงหนังศีรษะ และรักษารังแคไปพร้อม ๆ กัน
อ้างอิง
https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/understanding-dandruff-treatment
https://www.byrdie.com/how-to-get-rid-of-dandruff-fast-4842294
https://www.aad.org/public/everyday-care/hair-scalp-care/scalp/treat-dandruff
https://www.headandshoulders.co.in/en-in/healthy-hair-and-scalp/hair-care
https://www.healthline.com/health/dandruff-itchy-scalp#causes