วิธีพักหน้า เป็นอีกหนึ่ง Tips ยอดฮิต สำหรับการดูแลผิวหน้า ที่ผู้หญิงแทบทุกคนน่าจะเคยลองทำ ในช่วงที่ต้องเปลี่ยนสกินแคร์ใหม่ยกเซต หรือต้องการให้ผิวหน้าพักผ่อน โดยไม่ต้องมีอะไรมารบกวน
หากคุณกำลังสงสัย อ่านหัวข้อแแล้วเกิดคำถาม ว่าการพักหน้าคืออะไร แล้วการไม่ทาอะไรเลย มันจะยิ่งทำให้ผิวหน้าแย่ลงหรือเปล่า และควรพักกี่วันถึงจะดี ควรอ่านบทความนี้ให้จบ
รวมทุกคำตอบ ของข้อสงสัยมากมาย พร้อมบอกต่อ เคล็ดลับดี ๆ วิธีพักหน้าแบบธรรมชาติ ที่นำไปปรับใช้ได้จริง เตรียมจด แล้วไปดูพร้อมกันเลยว่ามีอะไรบ้าง!
วิธีพักหน้าแบบธรรมชาติ [สรุป]
- พักหน้าจากทุก Skincare routine
- เลือกใช้แค่สกินแคร์ที่จำเป็น
- ปล่อยให้ผิวได้เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟู
พักหน้าคืออะไร
พักหน้า คือ การรีเซตผิว โดยหยุดกิจกรรมบนผิวหน้าทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสกินแคร์ Make up หรือแม้แต่โฟมล้างหน้า เพื่อให้ผิวของเราได้พักผ่อน
โดยปกติแล้ว ในหนึ่งวัน ผู้หญิงเรามักจะมีกิจวัตรประจำวันในการดูแลผิว ไปจนถึงการแต่งหน้า ซึ่งแปลว่าต้องทาทั้งสกินแคร์หลายตัว บางคนก็มีเป็น 10 ขั้นตอน แถมยังมีการแต่งหน้าอีก จบหนึ่งวันด้วยการใช้คลีนเซอร์ ต่อด้วยการล้างหน้า แล้วลงสกินแคร์อีกรอบก่อนนอน
พอคิดภาพตามแล้ว ก็เห็นได้ชัดว่าผิวไม่มีเวลาได้พักเลย Dr. Lindsey Zubritsky กล่าวว่า การพักหน้า จะช่วยให้ผิวได้ทำงานตามธรรมชาติ อย่างที่ควรจะเป็น โดยไม่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์อะไรเลย หรือใช้น้อยที่สุด
วิธีพักหน้าแบบธรรมชาติ
1.พักหน้าจากทุก Skincare routine
Dr. Niketa Sonavane กล่าวว่า วิธีพักหน้าแบบธรรมชาติ คือ การ Back to basic หยุดประโคมทุกอย่างลงบนผิว เน้นแค่การซ่อมแซม ให้ความชุ่มชื้น ปกป้อง และทำความสะอาดผิวเท่านั้น
ในระหว่างที่พักหน้า ควรเลือกใช้โฟมล้างหน้าที่จะไม่ดึงความชุ่มชื้นออกจากผิว และควรทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ ที่ไม่จำเป็นต้องเข้มข้นมาก เพราะอาจอุดตันผิวได้
ให้มองหาตัวที่มีส่วนผสมในการช่วยเรื่องปลอบประโลมผิว ใช้สกินแคร์ให้ความชุ่มชื้นอย่างอ่อนโยน เช่น เซราไมด์ Hyaluronic Acid
และในระหว่างพักผิว 1-2 สัปดาห์ ควรเลี่ยงเจอแสงแดด เพราะผิวอาจจะระคายเคืองได้
2.เลือกใช้แค่สกินแคร์ที่จำเป็น
การพักหน้าที่ถูกวิธี จริง ๆ แล้ว อาจไม่จำเป็นต้องเลิกใช้ Skincare ทุกตัวเสมอไป เพราะคนเรามีปัญหาผิวที่แตกต่างกัน ดังนั้น แม้จะผ่านขั้นตอนแรก ที่เริ่มพักหน้าจากทุกสกินแคร์มาสักระยะแล้ว อาจเริ่มต้นการหาสกินแคร์ ที่เหมาะกับผิวเราจริง ๆ มาลองใช้ดู
โดย ผู้เชี่ยวชาญ แนะนำว่า ถ้าอยากรู้ว่าสกินแคร์ตัวไหนไม่จำเป็นต้องใช้ ให้ลองเซ็ต Skincare routine ของตัวเองขึ้นมาใหม่ หลังจากที่พักทุกสกินแคร์มาแล้ว เมื่อใช้สกินแคร์เซ็ตใหม่ จะเห็นได้ชัดว่าผิวเรามีปัญหาตรงไหนบ้าง และสกินแคร์ตัวไหนจำเป็นต้องใช้จริง ๆ
ส่วนสกินแคร์ที่อาจจะไม่จำเป็นต่อผิว เช่น วิตามินซี ไนอาซินาไมด์ และกรดไกลโคลิก อาจงดชั่วคราวได้ แล้วสังเกตดูว่าสร้างความแตกต่างหรือไม่
Dr. Patel แนะนำ 3 สิ่งที่ขาดไม่ได้เด็ดขาด อย่างไม่มีข้อยกเว้น แม้ว่าต้องพักผิวหน้า ได้แก่
- โฟมล้างหน้า : ต้องปราศจากสาร SLS เลือกสูตรที่อ่อนโยนที่สุด เท่าที่จะหาได้ ส่วนใหญ่จะเป็นโฟมล้างหน้าไม่มีฟอง หรือเจลล้างหน้า และควรมีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นด้วย เช่น กลีเซอรีน ไม่ทำให้ผิวลอก
- มอยส์เจอร์ไรเซอร์ : เน้นตัวที่บางเบา ไม่เกิดการอุดตัน นอกจากเซราไมด์ และ Hyaluronic Acid ก็ควรมองหาตัวที่มีเปปไทด์ด้วยก็ได้เช่นกัน
- ครีมกันแดด : ขาดไม่ได้เด็ดขาด และไม่ควรมีน้ำหอม ไม่อุดตันผิว เลือกสูตรที่เป็น Physical sunscreen จะอ่อนโยนกว่า Chemical sunscreen
สำคัญที่สุด คือ พยายามใช้ไลน์สกินแคร์ที่อ่อนโยนเอาไว้ก่อน โดยเฉพาะคนที่ผิวแพ้ง่าย
3.ปล่อยให้ผิวได้เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟู
หลังจากการพักหน้าด้วยการงดสกินแคร์ทั้งหมด และเริ่มหาสกินแคร์ที่จำเป็นแล้ว ประมาณ 1 สัปดาห์ต่อมา ผิวจะเริ่มสงบลง และเริ่มเข้าที่ ให้ลองเพิ่มการใช้เซรั่มบำรุงผิว ที่มีสรรพคุณในการต่อต้านอนุมูลอิสระ เพื่อช่วยซ่อมแซมผิว เป็นเกราะป้องกันมลภาวะ และแสงแดด
Dr. Patel แนะนำว่า ไม่ควรใช้เรตินอยด์ ในระหว่างที่ใช้เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์, AHA, BHA และวิตามินซี เพราะอาจจะทำให้ผิวระคายเคืองได้
ผิวพังแบบนี้ ต้องพักหน้ายังไง
หัวใจหลัก ๆ ของการพักหน้า มีแค่ 3 ขั้นตอน ที่ได้เขียนไว้แล้วด้านบน เพราะผิวของคนเราไม่เหมือนกัน ปัญหาผิวต่างกัน Tips ต่อไปนี้ จะเป็นวิธีการพักหน้าอย่างตรงจุด เมื่อมีปัญหาผิวแบบนี้ จะต้องพักหน้าแบบไหนถึงจะดีที่สุด ไปดูกันเลย
1) วิธีพักหน้ารักษาสิว : ถ้าหากอยู่ ๆ มีสิวเห่อขึ้นมา แบบไร้สาเหตุ มักจะเป็นสิวติดสาร วิธีพักหน้าติดสาร ต้องใช้แค่สกินแคร์ที่อ่อนโยน
แนะนำว่า ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี Niacinamide ลดการอักเสบตามธรรมชาติ ลดอาการบวม และรอยแดง
2) วิธีพักหน้าจากอาการแดงและแสบร้อน : มักเป็นสัญญาณอาการของการแพ้อะไรบางอย่าง วิธีพักหน้าแบบธรรมชาติที่ดีที่สุด คือ ทำตาม 3 ขั้นตอนด้านบนได้เลย หาตัวร้ายที่ทำให้เกิดการแพ้ เน้นการให้ความชุ่มชื้นอย่างอ่อนโยน และเริ่มซ่อมบำรุงผิว จนกว่าผิวจะดีขึ้น
3) วิธีพักหน้าที่แห้งและลอก : แนะนำว่า ต้องค่อย ๆ ขจัดผิวที่แห้งเป็นขุยออกก่อน ด้วยวิธีที่อ่อนโยนที่สุด และเติมความชุ่มชื้นให้ผิว
โดยใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของเซราไมด์ สามารถช่วยได้เยอะมาก ที่สำคัญห้ามขาด! ต้องดื่มน้ำเยอะ ๆ และล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำเย็นจะดีที่สุด
คำถามที่พบบ่อย
พักหน้าใช้อะไรได้บ้าง
พักหน้า ยังควรใช้คลีนซิ่ง มอยส์เจอไรเซอร์ และครีมกันแดดอยู่ แม้ในทางทฤษฎี ที่ผู้เชี่ยวชาญ กล่าวไว้ว่า เพื่อทำให้ผิวได้ปรับสมดุลอย่างรวดเร็วที่สุด จำเป็นต้องหยุดการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวทั้งหมด ปล่อยให้ผิวหน้าได้เป็นไปตามธรรมชาติจะดีกว่า
แต่ก็ยังมี ผู้เชี่ยวชาญ หลายคน ที่ยังสนับสนุนให้ใช้ 3 ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ เพราะถ้าจะหักดิบ เลิกใช้ทั้งหมด อาจจะส่งผลเสียต่อผิวได้มากกว่าที่คิด
เพราะยุคนี้ เต็มไปด้วยมลภาวะ ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าอย่างเดียว มีแต่จะกระตุ้นให้เกิดสิวมากขึ้นไปอีก อย่างน้อย ๆ ควรมีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และปกป้องผิวเอาไว้ด้วย
พักหน้ากี่วัน
Dr. Simran Sethi แนะนำให้ลองพักหน้า 2-3 สัปดาห์ พร้อมกับสังเกตการเปลี่ยนแปลง
ใครที่ควรลองพักหน้า
ใครก็สามารถพักหน้าได้ ถ้ารู้สึกว่าผิวควรได้รับการ Reboot โดย ผู้เชี่ยวชาญ แนะนำว่า ผู้ที่มีผิวแห้ง ผิวบอบบาง แพ้ง่าย ควรลองพักหน้าดูบ้าง จะเห็นผลดีกว่ากลุ่มคนผิวมัน
หรือใครก็ตาม ที่มีปัญหาผิว เช่น สิวติดสาร สิวที่เกิดจากการแพ้ แล้วไม่รู้ตัวต้นเหตุ การพักหน้าเปลี่ยนครีม พักหน้าเพื่อหาสาเหตุการแพ้ครีม ช่วยให้เจอต้นตอปัญหาได้
วิธีพักหน้า เป็นอีกหนึ่งแนวทาง ในการทำให้หน้าใสด้วยวิธีธรรมชาติ จะพักหน้าแบบหักดิบ ไม่ทาอะไรเลย ปล่อยให้ผิวได้ทำงานตามที่ควรจะเป็น หรือจะเป็นวิธีที่ไม่หักดิบมาก ใช้วิธีแบบ less is more ใช้แค่สกินแคร์ที่จำเป็นจริง ๆ ระหว่างพักหน้าก็ได้เช่นกัน
เราใช้คำว่าทางเลือก เพราะอาจจะเป็นแนวทางที่ไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน แต่ถึงอย่างนั้น การได้ Detox ผิว ก็ส่งผลดีแน่ ๆ อย่างน้อยผิวของเราก็ได้พักผ่อนชั่วคราว แม้จะเป็นระยะสั้น ๆ
หากใครสนใจพักหน้าก็ลองไปทำตามกันดูได้
