15 วิธีทำให้ผิวขาว เห็นผลจริง อัปเดต 2023 | มิสซี่รีวิว

แชร์เทคนิค 15 วิธีทำให้ผิวขาว อัพเดท 2023 มิสซี่จะมาแชร์ วิธีทำให้ผิวขาวแบบธรรมชาติ มีทั้งวิธีที่ทำด้วยตัวเองแบบง่าย เร่งผิวกระจ่างใส ปลอดภัย ไม่กลับมาคล้ำเสียอีก ไปดูกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง

1.ทาครีมกันแดดแม้จะอยู่ในร่ม

แดดประเทศไทยประมาทไม่ได้เลยนะคะสาวๆ เราจำเป็นต้องทากันแดดเพื่อปกป้องผิวของเราจากรังสียูวี ทั้งเมื่ออยู่ในบ้านและนอกบ้าน ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่แดดร้อนจัดระหว่าง 11โมง-บ่าย3 แต่หากจำเป็นจริงๆ แนะนำให้สวมเสื้อผ้ามิดชิด พกแว่นกันแดดและร่มกันยูวี ทากันแดดให้หนาพอ และควรทาซ้ำทุกๆ 4-6 ชั่วโมงค่ะ

วิธีทาครีมกันแดดที่ถูกต้อง

1.ทาก่อนออกบ้านประมาณ 30 นาที เพื่อการป้องกันแดดได้สูงสุด

2.เขย่าขวดครีมกันแดดก่อนใช้เสมอ

3.สำหรับใบหน้า บีบครีมกันแดดประมาณ 1 ข้อนิ้ว และทาให้ทั่ว

4.สำหรับส่วนอื่นๆให้ทาเหมือนโลชั่นปกติ ชโลมให้ทั่ว

แนะนำกันแดดไม่อุดตันผิว
La Roche Posay sunscreen
Cetaphil Sun SPF50+ PA++++ Light Gel
DRUNK ELEPHANT Umbra Sheer Physical Daily Defense SPF 30
SHISEIDO Global Suncare The Perfect Protector SPF 50+/PA++++
แนะนำกันแดดแห้งไว ไม่เหนอะหนะผิวตัว
EVERYDAY HUMANS Oh My Bod! SPF50 Body Sunscreen
SUPERGOOP! Play 100% Mineral Sunscreen Mist with Marigold Extract Broad Spectrum SPF 30

2.ทานอาหารเสริมบำรุงผิว

การเลือกทานอาหารเสริมเพื่อบำรุงผิว เป็นอีกวิธีในการเร่งผิวใส แบบด่วนจี๋ แต่สาวๆก็ต้องระมัดระวังกับทุกอย่างที่เลือกทานเข้าไปนะคะ ควรเลือกแบรนด์ที่มีคุณภาพ ผ่านมาตรฐาน 

  • วิตามินซี – เป็นวิตามินสำหรับผิวเลยก็ว่าได้ มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิส ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน บำรุงชั้นผิวหนังให้แข็งแรง และลดเลือนจุดด่างดำ ทำให้เม็ดสีผิวจางลง (อ่านเพิ่มเติม: วิตามินซี ยี่ห้อไหนดี)
  • วิตามินอี – มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันผิวหมองคล้ำจากการถูกทำร้ายจากแสงแดด ทำให้ผิวกระจ่างใสจากภายใน
  • คอลลาเจน – เพิ่มความยืดหยุ่นของผิวหนัง ลดริ้วรอย ช่วยชะลอวัย และช่วยให้ผิวขาวแบบสุขภาพดี ดูอิ่มน้ำ 
  • (อ่านเพิ่มเติม: คอลลาเจน ยี่ห้อไหนดี)

3.สครับผิว และพอกผิว

การสครับผิวเป็นการกำจัดเซลล์ผิวที่ตายออกจากผิวหนัง ที่สะสมในทุกๆวัน จึงควรทำการสครับผิวอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ เป็นการผลัดเซลล์ผิวใหม่ เมื่อทำต่อเนื่อง ผิวหนังจะค่อยๆเรียบเนียน กระจ่างใสขึ้น ครีมบำรุงผิวสามารถซึบซาบได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

อ่านเพิ่มเติม: สครับผิว ยี่ห้อไหนดี ช่วยผิวกระจ่างใส อ่อนโยนต่อผิว

4.นวดผิวหน้าด้วยน้ำมันมะกอกและน้ำผึ้ง

วิธีนี้สามารถทำได้ง่ายๆด้วยตัวเองที่บ้าน เป็นสูตรที่ไม่เสี่ยงต่อการแพ้ จะช่วยให้ผิวใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

  • ผสมน้ำมันมะกอก 2 ช้อนชาและน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา
  • นวดผิวหน้าให้ทั่วประมาณ 2-3 นาที 
  • หากใครที่มีผิวมันอาจผสมน้ำมะนาว 1-2 หยดลงไปด้วย 
  • ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นแต่ไม่ร้อน 

5.อังหน้าด้วยไอน้ำ

วิธีนี้ถือว่าเป็นการทำความสะอาดผิวหน้าแบบล้ำลึก เนื่องจากเป็นการเปิดรูขุมขน ช่วยให้สิ่งสกปรกที่อุดตันอยู่ข้างใต้รูขุมขนถูกขับออกมา

วิธีทำ

  • ต้มน้ำให้เดือด โดยผสมเปลือกมะนาวลงไปด้วย เนื่องจากวิตามินซีสามารถช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้นได้
  • จากนั้นอังใบหน้าบนไอน้ำแบบห่างๆ ควรระวังไม่ให้ใบหน้าใกล้จนเกินไป เนื่องจากไอน้ำมีความร้อนสูงมาก
  • ทำวนไป 2-3 ครั้ง จากนั้นเช็ดหน้าด้วยผ้าขนหนูเปียก

สามารถทำกับผิวตัวโดยการอบซาวน่า เพื่อช่วยในการกำจัดสิ่งสกปรก กระตุ้นการไหลเวียนเลือด และผลัดเซลล์ผิวได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

6.ทาโลชั่นบำรุงผิว

ควรทามอยเจอร์ไรเซอร์บำรุงผิวหน้าและผิวตัวอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ช่วยไม่ให้ผิวแห้งและไม่เกิดรอยแตกลายของผิว และช่วยให้มีผิวเรียบเนียน แลดูกระจ่างใสขึ้นมาได้ 

7.ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว

ปริมาณน้ำที่ควรดื่มให้เพียงพอต่อวัน อยู่ที่วันละ 2 ลิตรหรือ 8 แก้ว เนื่องจากการที่จะมีผิวดูอิ่มฟู สุขภาพดี เริ่มจากการดื่มน้ำ ที่ช่วยล้างสารพิษในร่างกาย กำจัดของเสีย ทำให้สุขภาพผิวดีตามมา และเมื่อผิวไม่แห้งน้ำ ก็จะทำให้แลดูเรียบเนียน กระจ่างใส ผ่องขึ้นอีกด้วย

8.มาส์กหน้าด้วยเปลือกส้ม

วิธีทำ

  • ผสมเปลือกส้มบดกับ นม  
  • ทาบริเวณหน้าและคอ

วิธีนี้จะช่วยให้ผิวค่อยๆกระจ่างใสขึ้น เนื่องจากในผิวส้มมีกรดผลไม้ และในน้ำนมมีกรดแลคติก ทั้ง2ส่วนผสม มีส่วนช่วยในการกระตุ้นในผิวขาวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

9.มาส์กผิวขาวสูตรธรรมชาติ ใช้ได้ทั้งผิวหน้าผิวตัว

มาส์กผิวส้ม/ผิวมะนาว > ช่วยสีผิวสม่ำเสมอและทำให้ผิวขาวใสขึ้น
วิธีทำ
• ผสมเปลือกส้ม และเปลือกมะนาวที่บดแล้ว+ผงฟู 1 ช้อนชา+น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา+น้ำมะนาว 2 ช้อนชา
ทาให้ทั่วใบหน้า
มาส์กอะโลเวร่า > ช่วยให้ผิวผ่อง และยืดหยุ่นมากขึ้น
วิธีทำ
ผสมอะโลเวร่า 2 ช้อนชา + กระเทียบ ½ ช้อนชา + น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา
ทาให้ทั่วใบหน้าและลำคอทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีเช็ดออกด้วยสำลีชุบน้ำนมรอจนแห้ง ค่อยล้างออกด้วยน้ำเปล่า
มาส์กแตงกวา > ช่วยให้ผิวโกลวและขาวขึ้น
วิธีทำ
• แตงกวาหั่นสับละเอียด+น้ำมะนาว 1 ช้อนชา + น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา
ทาให้ทั่วใบหน้าและลำคอทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที
ล้างออกด้วยน้ำสะอาด
มาส์กไข่ขาว > ช่วยให้ผิวขาวใสมีเลือดฝาดมากยิ่งขึ้นและผิวที่เป็นสิวยุบไวขึ้น
วิธีทำ
ผสมแป้งข้าวโพด 2 ช้อนชา + แยกไข่ขาว 1 ฟอง
ทาให้ทั่วใบหน้า โดยไข่ขาวจะมีคุณสมบัติในการกระชับรูขุมขน และทำให้ผิวขาวใสขึ้น
ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที
ล้างออกด้วยน้ำสะอาด
ใครที่มีรอยสิว แนะนำให้เพิ่มน้ำมะนาว 1-2 ลงไป เพื่อทำให้รอยสิวหายไวขึ้น

10.โทนเนอร์สูตรธรรมชาติ

วิธีทำ

  • ผสมน้ำส้มสายชูแอปเปิ้ล หรือ แอปเปิ้ลไซเดอร์ กับน้ำกุหลาบ ครึ่งต่อครึ่ง 
  • ใช้สำลีชุบและเช็ดทั่วใบหน้า
  • ทิ้งไว้ 2 นาที และล้างออก

วิธีนี้จะช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่ตายและสิ่งสกปรกออกจากผิวหนัง และทำให้ผิวค่อยๆกระจ่างใสขึ้น หากทำต่อเนื่องไประยะเวลาหนึ่ง

11.ทานผลไม้เป็นประจำทุกวัน

ผลไม้เป็นแห่งแหล่งคุณประโยชน์ และวิตามินชั้นยอด การทานผลไม้ทดแทนของหวานเป็นประจำนอกจากหุ่นดีแล้ว ยังผิวใสขึ้นอีกด้วย

12.อาบน้ำด้วยผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวดูขาวขึ้น

ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติเกาะผิวหลังอาบน้ำและทำให้ดูขาวใสขึ้น ก็ถือเป็นวิธีลัดแบบง่ายๆ สำหรับใครที่อยากออกงานและมีผิวขาวขึ้น การใช้โปรดักส์เหล่านี้ ก็ถือว่าแก้ปัญหาได้ดีเลยค่ะ

13.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

อาจจะฟังดูแปลกๆ แต่การนอนหลับอย่างเพียงพอ อย่างน้อย 7-9 ชั่วโมงต่อวันสามารถทำให้ผิวดูขาวใสจากภายในขึ้นได้ การนอนหลับเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายได้พักผ่อนและฟื้นฟูระบบไหลเวียนเลือด ทำให้เมื่อเราหลับเต็มอิ่ม เราก็จะตื่นมาแบบสดใส ผิวมีความเฮลตี้โกลว ผ่องจากภายในนั่นเองค่ะ

14.ใช้เรตินอยด์

เรตินอยด์ เป็นกรดวิตามินเอ ซึ่งมีคุณสมบัติในการทำให้ผิวขาวขึ้น โดยการผลัดชั้นผิวให้ไวขึ้น

นอกจากจะทำให้ผิวขาวขึ้นแล้ว เรตินอยด์ยังสามารถช่วยเรื่องจุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ริ้วรอยได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ทำให้ผลิตภัณฑ์เรตินอยด์นำมาใช้ในการลดรอยสิว

มีข้อดี ก็ย่อมมีข้อเสีย ผลข้างเคียงหลังใช้เรตินอยด์ ผิวบางขึ้น แห้ง ลอก ไวต่อแดด ทำให้ไม่ควรทาตอนเช้า แต่ควรทาก่อนนอน ดังนั้นการใช้เรตินอยด์จำเป็นต้องปรึกษา เภสัชกร หรือแพทย์ผิวหนัง เนื่องจากมีผลข้างเคียงที่ค่อนข้างรุนแรง

แต่อย่างไรก็ตาม ตัวเลือกแทน เรตินอยด์คือ เรตินอล ที่เป็นกรดวิตามินเอเช่นเดียวกัน ประสิทธิภาพอาจต่ำกว่า แต่ผลข้างเคียงก็น้อยกว่าเช่นกัน ซึ่งมีผลิตภัณฑ์บิวตี้ตามท้องตลาดหลายตัวที่มีเรตินอลเป็นองค์ประกอบ ซึ่งสามารถหาซื้อใช้ได้ง่ายกว่าและเซฟกว่าด้วยค่ะ

15.วิธี Microdermabrasion 

วิธีข้อถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีมาก ในการช่วยแก้หลุมสิว และทำให้ผิวขาวผ่องใสขึ้น ลดจุดด่างดำ และริ้วรอย ซึ่งเหมาะกับคนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายต่อครีมหรือสารเคมีต่างๆ 

โดยวิธี Microdermabrasion คือ การใช้หัวกลิ้งกรอผิวด้วยผลึกแร่ที่ละเอียดมาก เพื่อขัดผิวชั้นนอกเซลล์ผิวที่ตายออกออก เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมาก นอกจากจะได้ผิวที่ขาวเนียนใสขึ้นแล้ว ยังลดปัญหาริ้วรอย รอยสิวต่างๆได้เป็นอย่างดี ระยะเวลาที่ใช้ในการทำประมาณ 15-20 นาที หลังจากทำไปประมาณ 6-12 ครั้งจะเห็นผลชัดเจนเลยว่า ผิวขาวขึ้น และรอยต่างๆจางหายไปค่ะ

จบกันไปแล้วนะคะกับบทความ วิธีทำให้ผิวขาว ฉบับอัพเดท 2022 อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะสีผิวไหน หากเราดูแลตัวเอง บำรุงผิวพรรณให้เรียบเนียน ก็สามารถสวยในแบบของเรา การเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับผู้คนบนโลกโซลเชียลมีเดีย เป็นการสร้างค่านิยมผิดๆ ลดทอนความมั่นใจของเราเอง เพราะแท้ที่จริงแล้วภาพต่างๆที่เราเห็น ผ่านการแต่งมาแล้วไม่รู้กี่แอปต่อกี่แอป สิ่งที่เราสามารถทำได้คือ เราสามารถพัฒนาบุคลิก การแต่งตัว ความมั่นใจ ทำให้เป็นคนสวยในรูปแบบของเราได้ค่ะ 

สามารถติดตามบทความจากทางมิสซี่รีวิวได้เรื่อยๆ ทางเว็บไซต์ MIZZYREVIEW นะคะ xoxo

​​

Matchamonraya Pathinonpipat

Matchamonraya Pathinonpipat

มัชช์ จบการศึกษาจากคณะเภสัชศาสตร์ หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง
หรือ cosmetic science เป็นทั้งนักวิชาการด้านวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง และเป็นนักเขียนประจำของเว็บไซต์เรา มีประสบการณ์ทำงานร่วมกับแบรนด์สินค้าออแกนิคมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Skin1004 THREE Origins เป็นต้น โดยมีความสนใจและความรู้ความเข้าใจในสกินแคร์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมมาจากธรรมชาติเป็นหลัก เน้นสร้างคอนเทนต์รวบรวมสกินแคร์ดีๆ แชร์ทริคการรักษาสิว ดูแลผิวแพ้ง่าย การชะลอวัย รวมทั้งหาผลิตภัณฑ์ใหม่มาแนะนำทุกคนกันค่ะ