7 วิธีแก้หน้ามัน เปิดโพยรูทีนลดหน้ามันง่ายๆ [ฉบับเห็นผล]

ใครหน้ามันเชิญทางนี้ เข้ามามุงด่วน ๆ เลย หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีปัญหาหน้ามัน หน้าฉ่ำน้ำมันสุด ๆ ต้องพกแป้งฝุ่น แป้งพัฟ แผ่นซับมัน เอาไว้เติมแก้หน้ามันระหว่างวันตลอด จะพลาดบทความนี้ไม่ได้เด็ดขาด

ไม่ว่าใคร ก็คงเบื่อปัญหาหน้ามันทั้งนั้น เพราะไม่ใช่แค่หน้ามันอย่างเดียว เดี๋ยวสิว เดี๋ยวปัญหาผิวก็ตามมาตาม ๆ กัน ดังนั้น มาแก้ปัญหาหน้ามัน ตั้งแต่ต้นตอของสาเหตุหน้ามันกัน 

เรารวบรวม Tips ดี ๆ 7 วิธีแก้หน้ามัน มาให้คุณได้เอาไปลองใช้กัน ต้องมีสักวิธีที่ใช่ของตัวเอง พร้อมเคล็ดลับดี ๆ ตอบคำถามยอดฮิตอย่าง หน้ามัน ใช้อะไรดี ทำอย่างไรดี ไขหมดทุกข้อข้องใจ หากใครที่กำลังกังวลอยู่ อ่านให้จบ! ได้เทคนิคดี ๆ ไปใช้แน่นอน มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

วิธีแก้หน้ามัน [สรุป]

• ล้างหน้าให้สะอาด 
• ใช้โทนเนอร์ BHA ช่วยขจัดความมันส่วนเกิน
• ทามอยส์เจอไรเซอร์ Oil-free เติมความชุ่มชื้น
• รักษาความชุ่มชื้นด้วย HYA
• ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับผิวมัน โดยเฉพาะกันแดด
• มาสก์โคลนหน้าแก้หน้ามัน
• ใช้แป้งฝุ่นแก้หน้ามันระหว่างวัน

วิธีแก้หน้ามันแบบง่ายๆ ฉบับเห็นผล

1.ล้างหน้าให้สะอาด 

วิธีลดหน้ามันแบบง่าย ๆ เริ่มต้นได้จากการล้างหน้า หากใครผิวมัน สิวขึ้นบ่อย ลองสังเกตตัวเองว่า ได้ให้เวลากับการทำความสะอาดใบหน้าแล้วหรือยัง หรือรักษาความสะอาดของใบหน้าได้ดีไหม ถ้าหากยัง ควรปรับพฤติกรรมนี้ก่อน เป็นอันดับแรก 

ผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า วิธีแก้หน้ามัน ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด คือ การทำความสะอาดผิวหน้าสม่ำเสมอ ทั้งเช้า และก่อนนอน และควรใช้โฟมล้างหน้า หรือคลีนซิ่งสูตรอ่อนโยนเสมอ เพราะถ้าหากใช้ตัวที่มีสารรุนแรง อาจเป็นการกระตุ้นให้ผิวหนังผลิตเพิ่มการผลิตน้ำมันได้

การล้างหน้าด้วยสบู่ล้างหน้า หรือโฟมล้างหน้าสูตรอ่อนโยน มีสมดุลค่า pH ในทุกเช้าและเย็น ถือเป็นสิ่งสำคัญในการบำรุงผิวให้สะอาดและมีสุขภาพดี

แนะนำให้มองหา โฟมล้างหน้า ที่มีส่วนผสมต่อไปนี้ เช่น 

• เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ 
• กรดซาลิไซลิก 
• กรดไกลโคลิก
• กรดเบต้าไฮดรอกซี 

ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ที่มีส่วนผสมหล่านี้ มักเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับรักษาสิว เช่น คลีนซิ่งเจล คลีนซิ่งสำหรับคนเป็นสิว โฟมล้างหน้าไม่มีฟอง จะเหมาะสำหรับผู้ที่เป็นสิว แต่ก็ใช้ได้ดีสำหรับผู้ที่มีปัญหาแค่ผิวมัน

ผู้เชี่ยวชาญ แนะนำว่า ส่วนผสมบางชนิดอาจทำให้ระคายเคืองได้ ดังนั้น ให้ซื้อขนาดเล็ก หรือขนาดทดลองมาก่อน เพื่อดูว่าผิวของคุณตอบสนองอย่างไร หากไม่แพ้ ไม่ระคายเคือง ก็ใช้ต่อได้ และควรล้างด้วยน้ำอุ่น ไม่ร้อน เพราะอุณหภูมิที่สูงเกินไปอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้

2.ใช้โทนเนอร์ BHA ช่วยขจัดความมันส่วนเกิน

วิธีลดหน้ามัน นอกจากจะใช้โฟมล้างหน้าสูตรอ่อนโยน ที่มีค่า pH ที่สมดุลแล้ว การใช้โทนเนอร์ ก็เป็นเหมือนการช่วยปรับสมดุลผิวเช่นกัน ซึ่งดีกว่าการล้างหน้าแบบรุนแรงมาก 

หากคุณหน้ามันหนักมาก ควรใช้โทนเนอร์ BHA ร่วมด้วยใน Skincare routine เพราะ BHA ช่วยขจัดความมันส่วนเกิน ลดการอุดตันได้

โดย ผู้เชี่ยวชาญ แนะนำให้ทาโทนเนอร์เฉพาะบริเวณที่มีผิวมัน เช่น หน้าผาก จมูก และคาง หลีกเลี่ยงการใช้ในบริเวณที่มีแนวโน้มว่าจะแห้ง หรืออีกหนึ่งวิธี คือ เทโทนเนอร์ใส่ Cotton pad แล้วแปะเฉพาะบริเวณที่หน้ามันเป็นพิเศษ 

หลายคนที่หน้ามัน อาจจะมีสภาพผิวที่แตกต่างกัน คุณอาจมองหาโทนเนอร์ BHA ที่เหมาะกับสภาพผิวตัวเองดูก่อน ในท้องตลาดมีโทนเนอร์หลายสูตร เช่น โทนเนอร์ลดสิว ผิวแพ้ง่าย เป็นต้น

3.ทามอยส์เจอไรเซอร์ Oil-free เติมความชุ่มชื้น

ถ้าอยากแก้หน้ามัน ก็ต้องเติมความชุ่มชื้นให้ผิว เพราะบางที สาเหตุหนึ่งที่ทำให้คุณหน้ามัน อาจจะเกิดจากการที่ผิวขาดน้ำก็ได้เช่นกัน ดังนั้น ควรให้ความชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอ ด้วยการทามอยส์เจอร์ไรเซอร์เป็นประจำ

ผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า ปัญหาผิวมัน มักจะเกิดจากการผิวที่ขาดน้ำ ต่อมน้ำมันจึงพยายามชดเชยการสูญเสียความชุ่มชื้น โดยการผลิตน้ำมันส่วนเกินออกมา 

การเติมความชุ่มชื้นด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ จึงเป็นเหมือนการลดปริมาณการผลิตน้ำมัน ทำให้ผิวมันน้อยลงนั่นเอง แนะนำว่าควรเลือกใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ ผิวมัน ผิวขาดน้ำ และต้อง Oil-free จะดีที่สุด

หรือถ้าใครต้องการคุณสมบัติคุมมันด้วย หน้ามันมากไม่ไหวจะเคลียร์จริง ๆ เน้นครีมบำรุงผิวหน้า ฟินิช Matte หรือที่มีมีส่วนผสมช่วยลดน้ำมันส่วนเกิน

4.รักษาความชุ่มชื้นด้วย HYA 

นอกจากมอยส์เจอไรเซอร์แล้ว ผู้เชี่ยวชาญ แนะนำว่า หากใบหน้ารู้สึกแห้ง ตึง หมองคล้ำ มีริ้วรอยเล็ก ๆ แต่หน้ายังมันอยู่ ให้ใช้เซรั่มไฮยาลูรอนเสริม

เพราะ Hyaluronic acid ช่วยดึงความชุ่มชื้นกลับสู่ผิว โดยที่ไม่เพิ่มความมันเงาให้ใบหน้า แถมส่วนใหญ่ยังซึมง่ายมากอีกด้วย

5.ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับผิวมัน

วิธีลดหน้ามันแบบง่าย ๆ อีกหนึ่งวิธี คือ การมองหาสกินแคร์ผิวมันโดยเฉพาะ หลายคนคงเคยสังเกตเห็นเลยว่าแต่ละผลิตภัณฑ์สำหรับผิวหน้า ส่วนใหญ่จะมีระบุเอาไว้ว่าเหมาะสำหรับใคร

วิธีกรองสกินแคร์สำหรับคนผิวมันง่าย ๆ ในเบื้องต้น โดยในการเลือกผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ คุณควรมองหาสิ่งที่ระบุว่า “Oil-free” “Oil control” หรือ “Non-comedogenic” เอาไว้ก่อน

คำโปรยเหล่านี้ จะช่วยคัดได้ว่าดูแลผิวในด้านใด ซึ่งส่วนใหญ่ที่ระบุไว้แบบนี้ มักจะสามารถดักจับน้ำมันในรูขุมขนได้ดี ทำให้หน้ามันน้อยลง และอ่อนโยน ไม่ทำให้ระคายเคืองผิว 

6.มาสก์โคลนหน้าแก้หน้ามัน

คุณอาจจะเคยสังเกตเห็น ว่ามาส์กหน้าตามท้องตลาด มีหลายสูตรมากมาย ไม่ว่าจะเป็นมาสก์หน้าใส ลดสิว ผิวขาว และจริง ๆ แล้ว ก็มีมาส์กหน้าที่เหมาะกับคนหน้ามันโดยเฉพาะเช่นกัน

ผลการวิจัย ระบุว่า การมาส์กหน้าที่เหมาะที่สุด สำหรับการช่วยแก้ปัญหาหน้ามัน ได้แก่ การมาสก์หน้าแบบโคลน (Clay mask) และพาร์สลีย์ 

• มาสก์โคลน : โดยเฉพาะดินเหนียวสีเขียว มีประโยชน์หลายอย่าง เช่น การดูดซับความมัน และขจัดสิ่งสกปรก ออกจากผิว

• พาร์สลีย์ : มีส่วนผสมของวิตามิน และแร่ธาตุที่หลากหลาย ซึ่งช่วยควบคุมการผลิต และการดูดซึมไขมัน มาส์กที่มีผงพาร์สลีย์ประมาณ 4% อาจมีประสิทธิภาพ ในการจัดการน้ำมันส่วนเกินได้

วิธีแก้หน้ามันด้วย Clay mask ให้ผลลัพธ์เรื่องลดหน้ามันได้ดี และทำความสะอาดรูขุมขนได้ดีจริง แต่ก็มีข้อกังวล เรื่องที่อาจทำให้ผิวแห้งเกินไปด้วย

ผู้เชี่ยวชาญ จึงแนะนำ ให้ใช้เป็นครั้งคราว ในโอกาสสำคัญ ๆ เช่น งานแต่ง ดินเนอร์ หรือโอกาสอื่น ๆ ที่ต้องการลดหน้ามันเร่งด่วนก็พอ และควรทามาส์กเฉพาะบริเวณที่มีปัญหาเท่านั้น 

7.ใช้แป้งฝุ่นแก้หน้ามันระหว่างวัน

How to ลดความมันเร่งด่วน วิธีแก้หน้ามันระหว่างวัน ทริคไหนจะไปปังได้เท่าแป้งฝุ่น บอกเลยว่าเป็นไอเทมเด็ด สำหรับคนหน้ามันจริง ๆ เพราะใช้งานง่ายที่สุด สะดวกที่สุด

หากคุณมีปัญหาหน้ามัน ต้องการลดความมันเร่งด่วน วิธีนี้ได้ผลดีที่สุดแล้ว อาจจะใช้แป้งฝุ่นคุมมัน แป้งฝุ่นโปร่งแสง หรือ แป้งฝุ่นเคาน์เตอร์แบรนด์ก็ย่อมได้ ถ้าหากไม่อยากใช้แป้งพัฟ หรือแป้งผสมรองพื้น ฟินิช Matte

แต่แนะนำว่า แป้งฝุ่นจะดีที่สุด เพราะมีโอกาสน้อยที่จะอุดตันรูขุมขนและเป็นคราบ ใช้ได้แบบสบายใจกว่า ไม่ต้องห่วงเรื่องสิวตามมาด้วย

คำถามที่พบบ่อย

จบไปแล้ว กับ 7 วิธีแก้หน้ามัน ใครเคยใช้วิธีไหน หรือค้นพบวิธีไหนที่น่าสนใจบ้าง ลองเอาใช้กันดูได้เลย เพราะปัญหาหน้ามัน คงไม่อยู่กับเราตลอดไป ถ้าหากคุณลองทำตาม 7 วิธีสำคัญ ๆ เหล่านี้ อาจจะสามารถช่วยลดหน้ามันได้บ้าง 

แต่ถ้าใครรักษามาหมดแล้ว ลองทำทุกวิธีแล้ว ไม่มีท่าทีดีขึ้น ขอแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง เพื่อหาวิธีแก้ไขที่เหมาะสมกับคุณที่สุด

อ้างอิง

https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/acne/features/oily-skin

https://www.medicalnewstoday.com/articles/how-to-get-rid-of-oily-skin

https://www.cosmopolitan.com/style-beauty/beauty/a36741415/how-to-get-rid-of-oily-skin/