ขอบตาดำ แก้ยังไง ก็ไม่หายสักที เรามีวิธีแก้! หลากหลาย และทำได้ง่ายมาก ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการปรับการนอน การใช้อายครีม และการบำรุงรอบดวงตาด้วยวิธีต่าง ๆ แม้จะเป็นปัญหาที่แก้ให้หายแบบถาวรได้ยาก แต่วิธีเหล่านี้จะช่วยให้ดีขึ้น
เพราะวิธีทำให้ขอบตาหายดำ จะได้ผลมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับลักษณะของการเกิดปัญหาขอบตาดำ เช่น การนอนดึกเป็นประจำ แต่บางคนนอนเร็วสุด ๆ ก็ยังขอบตาดำแบบงง ๆ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะภูมิแพ้นั่นเอง
ใครกำลังมีปัญหาขอบตาดำ เบื่อที่จะต้องคอยมานั่งใช้คอนซีลเลอร์กลบทุกวัน หายห่วงได้เลย เพราะวันนี้เราได้รวบรวม 7 วิธีแก้ขอบตาดำ มาแบ่งปันให้ทุกคนที่กำลังมองหาวิธีรีกษาขอบตาดำอยู่ ทำแล้วได้ผลจริง
ไม่ว่าสาเหตุของขอบตาดำจะเกิดจากอะไร ก็สามารถลดขอบตาดำได้ดีแน่นอน ไปดูกันเลย
วิธีแก้ขอบตาดำ [สรุป]
- นอนพักผ่อนให้เพียงพอและใช้หมอนสูง
- ใช้แตงกวาหรือถุงชามาประคบเย็น
- ใช้ส่วนผสมจาก Vitamin C
- ใช้อายครีมเรตินอล
- กู้ขอบตาดำด้วย Kojic acid และ Arbutin
- หมั่นทา Moisturizer สม่ำเสมอ
- ทาครีมกันแดดทุกวัน
ขอบตาดํา เกิดจากอะไร
ขอบตาดํา เกิดจาก หลายสาเหตุ Dr. Caren Campbell แพทย์ผิวหนัง ได้กล่าวว่า ปัจจัยเหล่านี้คือสาเหตุหลักของการเกิดขอบตาดำ ที่พบได้บ่อยที่สุด ได้แก่
- อายุ
- พันธุกรรม
- นอนน้อย
- ความเครียด
- การดื่มคาเฟอีน
- ดื่มแอลกอฮอล์
- การสูบบุหรี่
รวมถึงรอยดำหลังการอักเสบ (Post-Inflammatory Hyperpigmentation) ขอบตาดำที่เกิดจากสาเหตุนี้ มักจะมีอาการคัน หรือ อาการของภูมิแพ้ ที่ทำให้ต้องขยี้ตาบ่อย ๆ จนทำให้เกิดการอักเสบ และเกิดรอยคล้ำใต้ตา
ไลฟ์สไตล์มีส่วนทำให้ผิวของเราหมองคล้ำ และแก่ก่อนวัย เพราะในแต่ละวัน ต้องเจอทั้งแสงแดดซึ่งไม่เป็นมิตรกับคอลลาเจนและอีลาสติน ล้วนเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดขอบตาดำ
วิธีแก้ขอบตาดำ
1.นอนพักผ่อนให้เพียงพอและใช้หมอนสูง
เริ่มต้นลดขอบตาดำง่าย ๆ ด้วยการนอนให้ครบ 7-8 ชั่วโมง เพราะการพักผ่อนน้อย ทำให้ผิวดูเหนื่อยล้า ผิวซีดลง ส่งผลให้ขอบตามีสีเข้มขึ้นได้
และท่านอนที่จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด คือ เพิ่มหมอนให้สูงขึ้นเล็กน้อย จะช่วยลดตาบวมและแก้รอยคล้ำใต้ตา
2.ใช้แตงกวาหรือถุงชามาประคบเย็นเป็นประจำ
เป็นวิธีแก้ขอบตาดำที่ทำได้ง่ายมาก หาได้จากของในครัว วิธีนี้เพียงแค่
- นำแตงกวาไปฝานเป็นชิ้นบางพอดี
- นำไปแช่ตู้เย็น
- เอามาประคบเย็นใต้ตา ทำวันละ 10 นาที 2 ครั้ง/วัน สามารถลดรอยคล้ำใต้ตาได้ดี อุณหภูมิที่เย็นจากแตงกว่า ยังช่วยลดอาการบวมใต้ตาได้ด้วย
นอกจากแตงกวา ก็ยังมีถุงชา ที่สามารถนำไปแช่เย็นแล้วเอามาประคบเย็นใต้ตาได้ ขอแนะนำว่า ให้ใช้ถุงชาที่มีคาเฟอีน เพราะคาเฟอีนมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเรื่องการไหลเวียนโลหิต ช่วยรักษาขอบตาดำได้
ผู้เชี่ยวชาญ แนะนำว่า ตัวคาเฟอีนจะมีความอ่อนโยนกว่าพวกสารเรตินอล ลดอาการบวมและรอยคล้ำใต้ตาได้ โดยที่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองเหมือนเรตินอล เป็นวิธีที่สามารถทำเป็นประจำได้ทุกวัน
3.ส่วนผสมจาก Vitamin C ช่วยแก้ขอบตาดำได้ดี
ส่วนผสมดี ๆ สรรพคุณครอบจักรวาล ก็ต้องวิตามินซี ไม่ว่าจะมีอยู่ที่ไหน ก็ให้ประโยชน์แบบสาธยายไม่หมด ทั้งให้ความกระจ่างใส ลดเลือนรอยดำ รอยแดง
และจุดเด่นที่สามารถแก้ขอบตาดำได้ ก็คือ วิตามินซีมีหน้าที่กระตุ้นการผลิตคอลลาเจน ซึ่งจำเป็นต่อการรักษารอยคล้ำใต้ตามาก
จะสังเกตได้เลยว่า ยิ่งใช้สกินแคร์ที่มีวิตามินซีเข้มข้นสูง เช่น L-ascorbic acid ยิ่งสามารถลดรอยดำจากสิว ได้เร็ว
เป็นวิธีแก้ขอบตาดำเหมาะสำหรับชาวภูมิแพ้ เพราะวิตามินซีสามารถใช้รักษารอยดำหลังการอักเสบได้เช่นกัน เลือกอายครีมที่มีวิตามินซีเป็นส่วนประกอบ พร้อมกับดูแลตัวเอง ไม่ว่าขอบตาดำแค่ไหนก็เอาอยู่
4.ใช้อายครีมเรตินอลช่วยลดขอบตาดำ
เรตินอยด์ (Retinoid) เป็นส่วนผสมยอดฮิต ที่ถูกใช้ในครีมลดเลือนริ้วรอยต่าง ๆ แต่จุดเด่นของเขาไม่ได้มีเพียงเท่านั้น เพราะยังสามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้เช่นกัน
Dr. Justine Hextall กล่าวว่า การใช้เรตินอยด์สามารถช่วยให้บริเวณรอบดวงตาดูสว่างขึ้น ลดรอยลึก รอยย่น และลดรอยคล้ำใต้ตาได้
แต่โดยทั่วไป เรตินอยด์ ควรผ่านการแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะเรตินอยด์ไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน เพราะมีผลข้างเคียง คือ ระคายเคืองผิวง่าย
ในสกินแคร์ทั่วไป มักจะมีเรตินอล (Retinol) ซึ่งเป็นอนุพันธ์วิตามินเอ ตระกูลเดียวกับเรตินอยด์ ต่างกันที่จะเข้มข้นน้อยกว่า ทำให้อ่อนโยนกว่า และสามารถชื้อใช้ทั่วไปเองได้ อายครีมเรตินอล จึงเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ในการรักษาขอบตาดำและริ้วรอย
5.กู้ขอบตาดำด้วย Kojic acid และ Arbutin
กรดโคจิก (Kojic acid) ในสกินแคร์ มักจะเป็นส่วนผสมที่ใส่มาเพื่อช่วยรักษาฝ้า ปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ ที่เกิดจากการสร้างเมลานิน (Melanin) ที่มากเกินไป
จากการทดลองใช้รักษาภาวะการผลิตเม็ดสี ส่วนใหญ่ใช้ในความเข้มข้น 1-4% เพื่อประสิทธิภาพในการลดรอยคล้ำที่หวังผลได้
ส่วนอาร์บูติน (Arbutin) ก็สามารถใช้ลดรอยดำบนใบหน้าได้ รวมถึงขอบตาดำ แต่ข้อควรระวัง คือ อย่าใช้ที่มีความเข้มข้นสูงเกินไป เพราะอาจจะทำให้ระคายเคืองผิวรอบดวงตา
6.หมั่นทา Moisturizer อย่างสม่ำเสมอ
ไม่ว่าจะต้องการรักษาปัญหาผิวรูปแบบใดก็ตาม สิ่งที่ผิวขาดไม่ได้จริง ๆ คือ มอยส์เจอร์ไรเซอร์ โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตา ที่ทั้งบอบบาง และต้องการความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ
ยิ่งถ้าหากมีการใช้เรตินอลล ยิ่งจำเป็นต้องใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ เพราะถ้าไม่ใช้ เรตินอลอาจจะทำให้รู้สึกระคายเคืองผิวได้ สำหรับคนที่ผิวแพ้ง่าย
ให้ลองมองหาส่วนผสมอย่าง คาเฟอีน วิตามินอี ว่านหางจระเข้ กรดไฮยาลูโรนิก จะสามารถช่วยเรื่องรอยคล้ำใต้ตา ผิวหมอง แห้งโทรม จากอาการขาดน้ำได้
Beauty tips : ควรเลือกมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิว เช่น ผิวมัน ผิวแห้ง ผิวผสม เพื่อหลีกเลี่ยงการอุดตันผิว |
7. ทาครีมกันแดดทุกวัน ห้ามขาด!
เราต่างรู้ดีว่าครีมกันแดด เป็นอวัยวะที่ 33 ของทุกคน เพราะถ้าหากไม่ทาครีมกันแดด ผิวก็จะโดนแดดทำลายจนแห้งกร้าน รอบดวงตาก็เช่นกัน ยิ่งโดนแดดโดยตรง ยิ่งทำให้ผิวอ่อนแอ ทำให้ขอบตาดำได้
วิธีเลือกครีมกันแดด ก็สามารถเลือกตามสภาพผิว และ ส่วนผสมในครีมกันแดดเป็นหลัก
แต่ถ้าหากจะหาครีมกันแดดมาทารอบดวงตา อาจจะต้องระวังเป็นพิเศษ ต้องเลือกสูตรที่ไม่แสบตา ไม่หลุดง่าย เพราะหากเจอเหงื่อ อาจทำให้กันแดดไหลเข้าตาได้ระหว่างวัน
Dr. Rachel Nazarian แนะนำว่า ควรเลือกครีมกันแดดที่ปราศจากน้ำหอม และลองมองหาส่วนผสมของสังกะสีหรือไทเทเนียม ซึ่งก็คือ Physical sunscreen เพราะทำให้ระคายเคืองน้อยกว่าครีมกันแดดแบบเคมี
Tips แก้ขอบตาดํา เร่งด่วน
การลงคอนซีลเลอร์ คือการแก้ปัญหาตาคล้ำได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้ color corrector โทนสีพีช สีส้ม สีแดง กลบรอยคล้ำก่อนลงคอนซีลเลอร์สีปกติ
หรือ อีกวิธีคือปรึกษาคุณหมอเรื่องฉีดฟิลเลอร์ ก็เป็นอีกหนึ่งทางที่รักษาใต้ตาคล้ำเร่งด่วนได้เช่นกัน
จบไปแล้วกับ 7 วิธีรักษาขอบตาดำ ที่เราได้รวบรวมมาให้ สามารถใช้เป็นวิธีแก้ขอบตาดำจากการนอนดึก และแก้ขอบตาดำจากภูมิแพ้ได้ทั้งหมด ลองเอาไปใช้กันดูน้า
นอกจาก 7 ข้อด้านบน การรักษาขอบตาดำที่นิยม และได้ผลดีมาก ๆ เช่นกัน ก็คือ การหมั่นทาอายครีม ครีมบำรุงใต้ตา มาร์คใต้ตา เมื่อทำติดต่อกันเป็นประจำ สม่ำเสมอ ก็สามารถช่วยลดรอยคล้ำรอบดวงตา ให้กลับมาดูกระจ่างใส สุขภาพดีได้เช่นกัน สำคัญที่สุด อย่าลืมนอนพักผ่อนให้เพียงพอ
และสามารถดู Tips แก้ขอบตาดำ เจาะลึกส่วนผสมฉบับละเอียดเพิ่มเติมที่บทความ ใต้ตาดำใช้อะไรดี? กู้ตาคล้ำ โบกมือลาแพนด้ากัน
อ้างอิง
https://www.medicalnewstoday.com/articles/how-to-remove-dark-circles-under-eyes-permanently
https://www.healthline.com/health/how-to-get-rid-of-dark-circles-permanently
https://www.instyle.com/beauty/skin/how-to-treat-dark-circles