ไหน ใครกำลังประสบปัญหาเรื่องผม ๆ ทั้งผมแห้ง ผมเสีย ผมแตกปลาย ผมพังจากการกัดสี ทำเคมี ยืด ดัด ลอน ลองแก้มาหลายวิธีแล้ว แต่ไม่มีวี่แววว่าผมจะกลับมาสวยเหมือนเดิม ไม่ต้องเครียดไป เพราะที่นี่ เรามีคำตอบ!
แต่เราต้องเข้าใจตรงกันก่อน ว่าผมที่พังแล้ว ก็เหมือนต้นไม้ที่ใบเหลือง ใกล้ตาย รดน้ำไปแค่ระยะสั้น ๆ แล้วหวังผล ให้มันกลับมาโตเหมือนเดิม ก็ดูจะยากเกินไป ซึ่งก็เหมือนกันกับผมของเรา ต้องค่อย ๆ บำรุงไปเรื่อย ๆ ถึงจะฟื้นคืนกลับมาได้
บทความนี้ รวม 7 วิธีรักษาผมเสีย คัดมาแล้วว่าทำง่าย ได้ผลจริง มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
วิธีรักษาผมเสีย [สรุป]
- ใช้แชมพู และครีมนวด สูตร Damage Hair
- ลดอุณหภูมิความร้อนเมื่อต้องจัดแต่งทรงผม
- เล็มผมที่แตกปลายออกบ้าง
- ใช้ Oil บำรุงผม
- ห้ามนอนตอนที่ผมเปียก
- ทรีตเมนต์หมักผม
- หวีผมอย่างระมัดระวัง
วิธีรักษาผมเสีย
1.ใช้แชมพู และครีมนวด สูตร Damage Hair
ขั้นตอนแรก ของการกู้คืนผมเสีย ให้กลับมาสวยเงางามเหมือนเดิม ให้เริ่มจากการเลือกใช้แชมพู ครีมนวด ซึ่งเป็นตัวช่วยหลัก ในการดูแลเส้นผมเปราะบางของเรา
ดังนั้น การเลือกสูตรแชมพูจึงสำคัญมาก ไม่ว่าจะแชมพูผมแห้งเสีย แชมพูหนังศีรษะแห้ง แชมพูลดผมร่วง ก็สามารถใช้ได้หมด
เพิ่มเติมคือ ผู้เชี่ยวชาญ แนะนำว่า เคราติน, วิตามิน D3, E และ B5 ล้วนทำหน้าที่แตกต่างกัน แต่ช่วยบำรุงผมเสีย และหนังศีรษะได้ดี เหมาะสำหรับช่วยรักษาผมเสียโดยเฉพาะ
หรืออาจจะมองหา Peppermint oil ด้วยก็ได้ เพราะช่วยในการสร้างและบำรุงหนังศีรษะ ช่วยให้ผมแข็งแรง กักเก็บความชุ่มชื้นจากส่วนผสมอื่น ๆ และช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีด้วย
2.ลดอุณหภูมิความร้อนเมื่อต้องจัดแต่งทรงผม
ความร้อน กับ ผมเสีย มาเจอกันก็คือพัง! พังได้อีก ถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็ดีกว่า ในช่วงที่ผมเสีย เป็นช่วงเวลาที่ผมอ่อนแอมากที่สุด ดังนั้น การให้ผมโดนความร้อน แม้กระทั่งแสงแดด ยังถือว่าอันตราย เสี่ยงผมพังกว่าเดิม
วิธีรักษาเส้นผมแห้งเสีย ที่พอจะทำได้ โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรเลย คือ การลองหาทรงผมใหม่ ๆ ที่ไม่ต้องใช้ความร้อน เช่น ดังโงะ มัดหางม้า หรือเปียผมน่ารัก ๆ และปรับอุณหภูมิความร้อนให้ต่ำลง พร้อมกับใช้สเปรย์ฉีดผมกันความร้อนร่วมด้วย
เป็นวิธีการรักษาผมเสียที่ดีที่สุด ปล่อยให้เส้นผมได้พัก และฟื้นฟูตัวเองบ้าง เป็นวิธีที่ดีพอ ๆ กับการประโคมเครื่องบำรุงผมเลย ถ้าพักผมของเราได้พักจากความร้อนบ้าง ผมก็จะไม่เสียเพิ่ม และพร้อมรับการบำรุงได้ดีขึ้นด้วย
3.เล็มผมที่แตกปลายออกบ้าง
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ แต่วิธีรักษาผมเสีย แห้ง แตกปลาย สามารถทำได้ด้วยการเล็มผมเสียเป็นประจำ ไม่ต้องเล็มจนสั้นเตียน แต่เล็มส่วนที่ผมมันแตกปลายออกไป เพื่อขจัดปลายที่แห้ง แตก วิธีนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้ผมแตกปลายเพิ่ม และลดผมขาดร่วงได้เยอะขึ้น
ซึ่ง Meri Kate O’Connor แนะนำไว้ว่า การที่ไม่เล็มผมแตกปลายเลย อาจทำให้เส้นผมเสียหายกว่าเดิม เพราะเมื่อเวลาผ่านไป ปลายผมที่แตกอยู่แล้ว จะยิ่งเคลื่อนสูงขึ้นไปอีก ทำให้เส้นผมอ่อนแอ และขาดง่ายมาก
Aspen Rae Tengler แนะนำให้เล็มผมแตกปลายทุก ๆ 4-6 สัปดาห์ หรืออาจจะ 6-8 สัปดาห์ก็ได้ เป็นวิธีรักษาผมแห้งฟูได้ดีด้วย เพราะถ้าหากไม่มีผมแตกปลาย ปัญหาผมแห้ง ชี้ฟู ก็จะน้อยลง ดังนั้นขอแนะนำให้สาว ๆ เล็มผมแตกปลายออกบ้าง เพื่อสุขภาพผมที่ดี
4.ใช้ Oil บำรุงผม
จากผลการศึกษา น้ำมัน สามารถช่วยรักษาผมเสียได้ เพราะสามารถแทรกซึมเข้าสู่เส้นผมได้ดี ลดปริมาณน้ำที่เส้นผมดูดซับเอาไว้ได้ ทำให้ลดอาการแห้ง แตก ขาด ของเส้นผมได้
แถมยังมีสรรพคุณมากมาย เช่น บำรุงล้ำลึกถึงชั้นหนังกำพร้า ปกป้องเส้นผมจากสารต่าง ๆ ที่มีฤทธิ์รุนแรง ไม่ว่าจะเป็น น้ำยาย้อมผม น้ำยากัดผม และยังช่วยหล่อลื่นแกนผมด้วย
การใช้ Oil หรือ น้ำมันใส่ผม เป็นวิธีรักษาผมเสียจากการทำสี ผมเสียจากการกัดสีผม ที่ทั้งดี และประหยัดอีกวิธีหนึ่ง ขอแนะนำให้ใช้เป็นน้ำมันมะพร้าว จะดีที่สุด เพราะได้รับความนิยมสุด หาซื้อง่าย ช่วยลดการสูญเสียโปรตีนของเส้นผมด้วย แถมซึมเข้าสู่เส้นผมง่าย
นอกจากน้ำมันมะพร้าว สามารถใช้น้ำมันมะกอกได้เช่นกัน จากผลการวิจัย ระบุว่า มีคุณสมบัติช่วยปกป้องผมจากความร้อนได้ และยังคงความชุ่มชื้นให้เส้นผมด้วย
แนะนำให้ใช้ Argan Oil เพราะมีกรดไขมัน และวิตามินอี ช่วยให้ผมนุ่มขึ้น จัดทรงง่าย
5.ห้ามนอนตอนที่ผมเปียก
มีใครขี้เกียจรอผมแห้งกันไหม โดยเฉพาะสาว ๆ ผมยาว สระผมแต่ละที ใช้เวลาเป็นชั่วโมง ไหนจะต้องรอผมแห้งอีก ยิ่งยาวยิ่งแห้งช้า แถมบวกปัญหาผมเสียเข้าไปอีก ช้ากว่าเดิม X2 กว่าจะได้นอน เรียกว่าถอดจิตไปอยู่ที่เตียงแล้วเรียบร้อย
ถ้าไปแค่จิตก็ยังพอทน แต่ถ้ากายหยาบไปด้วย ในขณะที่ผมยังเปียก เป็นเรื่องแน่! เพราะการนอนในตอนที่ผมยังเปียก มีข้อเสียเยอะมาก ทั้งไม่ดีต่อสุขภาพ เสี่ยงเชื้อรา และสำหรับคนที่ต้องการรักษาผมเสีย ไม่ควรทำมากที่สุด เพราะตอนผมเปียก เป็นตอนที่ผมอ่อนแอมากที่สุด
การนอนทั้งที่ผมยังเปียกอยู่ อาจทำให้เกิดการเสียดสี ทำให้เส้นผมอ่อนแอลง และขาดได้ง่ายมากเมื่อเวลาผ่านไป
6.ทรีตเมนต์หมักผม
ตามร้านค้าชั้นนำ มีทั้งแชมพู ครีมนวด เคราติน ทรีตเมนต์มากมาย ที่ช่วยแก้ปัญหาผมแห้งเสียได้ และถึงแม้ว่าจะใช้ครีมนวดผมเป็นประจำอยู่แล้ว แต่สำหรับผมที่แห้งเสียจำเป็นต้องได้รับการบำรุงอย่างล้ำลึกขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญ แนะนำให้มาส์กผมเป็นประจำทุกสัปดาห์ มองหาสูตรเพิ่มความชุ่มชื้น ที่มีส่วนผสมจาก
- เชียบัตเตอร์
- น้ำมันมะพร้าว
- น้ำมันอะโวคาโด
แม้จะไม่สามารถซ่อมแซมผมได้ แต่สามารถช่วยเรื่องความชุ่มชื้นได้ดีมาก เป็นตัวช่วยบำรุงผมให้มีน้ำหนักได้ ทำให้ผมแห้งเสียดูนุ่ม ขาดหลุดร่วงน้อยลง
| Beauty Tips : หมักผมทิ้งไว้สัก 5-30 นาที ตามแต่คำแนะนำของผลิตภัณฑ์ ใช้หมวกคลุมอาบน้ำมาคลุมหัว ความร้อนจะช่วยให้ส่วนผสมซึมเข้าสู่เส้นผมได้ดีขึ้น |
7.หวีผมอย่างระมัดระวัง
การหวีผม ก็เป็นวิธีรักษาผมแห้งเสียอย่างหนึ่ง อยากมีผมที่ดี ก็ต้องเริ่มจากวิธีดูแลผมที่ดี การหวีผมแบบไม่เหมาะสม ก็เป็นวิธีทำร้ายผมรูปแบบหนึ่ง ที่แม้เราอาจจะทำไปโดยไม่รู้ตัว แต่มันก็สร้างความเสียหายให้ผมของเราจริง ๆ แนะนำให้ลองหวีผมตามทริคเหล่านี้
- เริ่มหวีผมจากล่างขึ้นบน
- หวีผมก่อนสระผม ลดการพันกัน และทำให้ผมไม่ขาดหลุดร่วงเป็นกระจุก
- ใช้เซรั่มบำรุงผมแล้วหวีซ้ำ
- ใช้หวีซี่ห่าง หรือแปรงขนหมูป่าจะช่วยถนอมเส้นผมได้ดีกว่า
ครบแล้ว 7 วิธีรักษาผมเสีย ที่เราคัดมาอย่างดีแล้วว่าทำได้ง่ายมาก ๆ เมื่อเป็นวิธีง่าย ๆ แน่นอนว่าเราจะสามารถทำได้อย่างสม่ำเสมอ เป็นหัวใจหลักของการรักษาผมแห้งเสียเลย ในตอนแรก ๆ อาจจะยังไม่เห็นผลชัดเจน แต่ความต่อเนื่อง สม่ำเสมอนี่แหละ จะสามารถทำให้เราเห็นผลชัดขึ้น
ถึงจะเป็นวิธีไม่ยาก แต่ก็เห็นผลจริง เพียงแค่ต้องใชวินัยนิดหน่อย ในการใส่ใจผมมากขึ้น การบำรุงผมเสีย ให้กลับมาเป็นผมสวยธรรมชาติ ไม่ยากเกินใจเราแน่นอน ลองเอาไปทำตามกันดูน้า
อ้างอิง
https://www.ipsy.com/blog/how-to-repair-damaged-hair
https://www.realsimple.com/beauty-fashion/hair/hair-care/how-to-fix-damaged-hair
https://www.medicalnewstoday.com/articles/how-to-repair-damaged-hair#tips
