การที่เราใต้ตาดำ หมองคล้ำ มีถุงใต้ตา อาจจะทำให้ลุค หรือบุคคลิคของเราดูง่วงซึม ไม่กระปรี้กระเปร่า การใช้อายครีมเป็นประจำ หรือการใช้คอนซีลเลอร์ จะช่วยให้เราดูตื่นตัว ดูสดชื่นขึ้น และยังมีอีกวิธีที่ง่าย และเห็นผลไว นั่นก็คือการมาร์คใต้ตา
วันนี้ เราจะมาแนะนำวิธีมาร์คใต้ตาที่ถูกต้อง การเลือกซื้อมาร์คใต้ตาให้เหมาะสมกับปัญหาที่เจอ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยลดความดำ ลดถุงใต้ตา หรือลดริ้วรอยใต้ตา
นอกจากนี้ เรายังมีทริคเพิ่มเติมที่จะทำให้วิธีใช้มาร์คใต้ตามีประสิทธิภาพ ลดตาบวม เพิ่มความสดใสยิ่งขึ้นมาบอกกันอีกด้วย
วิธีมาร์คใต้ตา [สรุป]
- เลือกมาร์คใต้ตาให้ตอบโจทย์กับปัญหาผิว
- ล้างหน้าให้สะอาดและซับให้แห้ง
- วางมาร์คใต้ตาให้ตรงจุด
- นำมาร์คใต้ตาออก และใช้นิ้วแตะเบาๆ
- บำรุงต่อด้วยอายครีม
วิธีมาร์คใต้ตา
1.เลือกมาร์คใต้ตาให้ตอบโจทย์กับปัญหาผิว
อย่างแรกสุดก่อนที่เราจะทำการมาร์คใต้ตา คือการเลือกซื้อมาร์คใต้ตา เราควรเลือกมาร์คที่มีส่วนประกอบที่ช่วยแก้ไขปัญหาใต้ตาของเราได้อย่างตรงจุด
แต่ถ้าหากยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อสูตรไหน ขอแนะนำมาร์คใต้ตาที่มีส่วนประกอบ ดังนี้
- Retinol (Vitamin A) และ Peptides ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ลดริ้วรอย และ ช่วยเสริมความยืดหยุ่นให้ผิว
- Kojic dipalmitate เป็นสารอนุพันธ์ของกรดโกจิก (Kojic acid) ช่วยเพิ่มความกระจ่างใส และ ช่วยลดจุดด่างดำ
- Coenzyme A และ Caffeine (คาเฟอีน) ช่วยในเรื่องการหมุนเวียนของเส้นเลือดฝอย และ ช่วยลดอาการบวมของตาได้
- Shea butter และ Squalane ช่วยเสริมน้ำมันตามธรรมชาติของผิว ทำให้ผิวไม่แห้งตึง
- Hyaluronic acid ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวดูอิ่มฟู ฉ่ำ โกลว์
- Vitamin C ช่วยให้ผิวกระจ่างใส และ ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างเป็นธรรมชาติ
- Niacinamide ช่วยคุมควมมัน ช่วยปรับสมดุลการสร้างน้ำมันให้ผิว ช่วยให้ผิวแข็งแรง
- Vitamin E ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ฟื้นฟูบำรุงผิว และ ช่วยลดริ้วรอย
- Panthenol หรือ Vitamin B5 ช่วยเพิ่มเกราะป้องกันผิว และ ช่วยลดการสูญเสียความชุ่มชื้น
นอกจากนี้ ยังมีส่วนผสมที่ควรหลีกเลี่ยง ได้แก่ น้ำหอมต่าง ๆ รวมถึงสารสกัดจากธรรมชาติบางตัว เช่น สารสกัดน้ำมันเลม่อน เกรปฟรุต และ เมนทอล เพราะอาจจะทำให้ผิวบางลง และทำให้ผิวไวต่อแสงแดด จนอาจจะทำให้มีปัญหาตามมาในภายหลัง
ที่สำคัญที่สุด คือต้องคอยสังเกตอาการแพ้ของผิวหนัง หากมีอาการแพ้ มีผื่นขึ้น ผิวแดง หรือมีอาการแสบร้อน ให้หยุดใช้โดยทันที
2.ล้างหน้าให้สะอาดและซับให้แห้ง
ก่อนที่จะใช้มาร์คใต้ตา สิ่งที่ควรทำมากที่สุดคือ การทำความสะอาดใบหน้า กำจัดคราบสกปรก หรือ คราบเครื่องสำอางออกก่อนให้หมด ด้วยการใช้คลีนซิ่งลบเมคอัพออก และตามด้วยโฟมล้างหน้าตามสภาพผิว
หลังจากนั้น ควรซับหน้าให้แห้ง และที่สำคัญคือ ให้ใช้มาร์คใต้ตาก่อนลงเซรั่ม หรือการทำสกินแคร์รูทีน
3.วางมาร์คใต้ตาให้ตรงจุด
วิธีใช้มาร์คใต้ตาที่ถูกต้อง คือ การใช้ด้านที่ลอกแผ่นพลาสติกออก วางลงบนผิวหน้า โดยการลอกแผ่นพลาสติก ควรใช้มือที่ล้างสะอาดแล้ว ลอกแผ่นพลาสติกออก มาร์คใต้ตาทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที โดยให้ด้านปลายแหลมอยู่ฝั่งหัวตา และด้านปลายโค้งอยู่ฝั่งหางตา
นอกจากนี้การวางมาร์คใต้ตา สามารถขึ้นอยู่กับปัญหาที่ต้องการแก้ได้เช่นกัน (อ้างอิง)
- ลดถุงใต้ตา : ให้ด้านปลายโค้งอยู่ฝั่งหัวตา และด้านปลายแหลมอยู่ฝั่งหางตา
- ลดริ้วรอยใต้ตา หรือ รอยตีนกา : ให้ด้านปลายแหลมอยู่ฝั่งหัวตา และด้านปลายโค้งอยู่ฝั่งหางตา
- ลดอาการตาบวม : ให้วางแผ่นมาร์คใต้ตาที่ตำแหน่งเปลือกตาด้านบน โดยให้ด้านปลายโค้งอยู่ฝั่งหัวตา และด้านปลายแหลมอยู่ฝั่งหางตา
อย่างไรก็ตาม หากต้องการแก้ปัญหาใด ๆ เป็นพิเศษ ก็ควรเลือกซื้อมาร์คใต้ตาที่มีส่วนผสมที่ถูกต้อง จะได้ช่วยแก้ปัญหาได้เฉพาะจุดยิ่งขึ้น
4.นำมาร์คใต้ตาออก และใช้นิ้วแตะเบาๆ
เมื่อมาร์คใต้ตาครบตามเวลาแล้ว ให้นำมาร์คใต้ตาออก และใช้มือสะอาดนวดเบา ๆ บริเวณใต้ตา เพื่อให้เซรั่มจากมาร์คใต้ตาซึมลงผิว หลังจากนั้น เราก็สามารถบำรุงและทำสกินแคร์รูทีนได้ตามปกติ
5.บำรุงต่อด้วยอายครีม
หลังจากเซรั่มจากมาร์คซึมหมดแล้ว เราสามารถทาสกินแคร์รูทีนได้ตามปกติ และเพื่อการดูแลผิวระยะยาว นอกจากเราจะใช้มาร์คใต้ตาแล้ว ก็ควรใช้อายครีมในสกินแคร์รูทีนด้วย เพื่อช่วยแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
Tips ใช้ Eye Mask ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
1.เก็บมาร์คใต้ตาในตู้เย็น
โดยวิธีนี้ นอกจากจะช่วยให้รู้สึกสดชื่นขึ้นแล้ว ยังช่วยลดอาการตาบวมได้อย่างเห็นได้ชัด
2.เช็กว่ามาร์คใต้ตามีเซรั่มมากพอ
วิธีนี้เป็นวิธีที่สำคัญมาก เนื่องจากในบางครั้ง ภาชนะบรรจุอาจจะฉีกขาด หรือ ปิดไม่สนิท ทำให้มีเซรั่มในมาร์คไม่มากพอ ทำให้การมาร์คใต้ตาไม่เห็นผล
3.ใช้ส่วนผสมที่แตกต่างกันตามเวลาที่ใช้
เพื่อหาผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เราควรทดลองใช้มาร์คใต้ตาที่มีส่วนประกอบที่แตกต่างกัน เพื่อให้เหมาะกับผิวหน้าของเรามากที่สุด นอกจากนี้ส่วนประกอบของมาร์คบางตัว ยังเหมาะกับการใช้งานในเวลาที่แตกต่างกัน เช่น
- ตอนเช้า : ควรใช้มาร์คใต้ตาก่อนแต่งหน้า เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกไปใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ใช้มาร์คใต้ตาที่มีส่วนประกอบของ Caffeine เพื่อลดอาการบวม หรือ ใช้มาร์คใต้ตาที่มีส่วนประกอบของใช้ Vitamin C หรือ Niacinamide เพื่อต้านอนุมูลอิสระ ปรับสมดุลผิว
- ตอนกลางคืน : ควรใช้มาร์คใต้ตาที่ช่วยแก้ปัญหาเฉพาะตัวบุคคล เช่น ใช้มาร์คใต้ตาที่มีส่วนประกอบของ Retinol และ Peptides เพื่อช่วยลดริ้วรอย หรือ ใช้มาร์คใต้ตาที่มีส่วนประกอบของ Hyaluronic Acid เพื่อเติมความชุ่มชื้น เพื่อแก้ปัญหาผิวแห้งโดยเฉพาะ
คำถามที่พบบ่อย
มาร์คใต้ตากี่นาที
การมาร์คใต้ตา โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 10-20 นาที หรือใช้เวลาตามที่แต่ละยี่ห้อได้กำหนดไว้ และเนื่องจากผิวบริเวณใต้ตามีความบอบบางมาก จึงขอแนะนำให้อ่าน และปฏิบัติตามข้อแนะนำของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ อย่างละเอียด
มาร์คใต้ตาทุกวันได้ไหม
มาร์คใต้ตาทุกวันได้ สามารถใช้ได้ทุกช่วงเวลา ไม่ว่าจะเป็นช่วงเช้าก่อนแต่งหน้า หรือช่วงกลางคืนก่อนนอน เพราะมาร์คใต้ตา มีส่วนผสมของเซรั่มที่ช่วยบำรุงผิวอยู่
มาร์คใต้ตากี่ครั้งต่อสัปดาห์
ควรมาร์คใต้ตาอย่างน้อย 2-3 ครั้ง ต่อสัปดาห์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แต่ถ้าสูตร Eye Mask อ่อนโยนและไม่ระคายเคืองผิว สามารถใช้ได้ทุกวัน ขึ้นอยู่กับผิวแต่ละคน
พื้นที่บริเวณดวงตา เป็นพื้นที่เป็นจุดสังเกตบนใบหน้าของเรา หากเกิดปัญหาต่าง ๆ ก็อาจจะเป็นจุดสนใจและอาจจะถูกทักจนเสียความมั่นใจได้ การใช้มาร์คใต้ตาเป็นประจำ จะเป็นผลดีมาก ๆ แต่ควรใช้คู่กับอายครีม เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพในระยะยาว
นอกจากนี้บริเวณพื้นที่ใต้ตายังเป็นพื้นที่ที่มีความบอบบางมากอีกจุดนึง ผู้ใช้ ควรเลือกส่วนประกอบอย่างระมัดระวัง และอ่านข้อปฏิบัติอย่างละเอียด เพื่อหลีกเลี่ยงการอาการแพ้ และอาการไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ และอย่าลืมทำตาม วิธีมาร์คใต้ตาที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
อ้างอิง
https://www.healthline.com/health/beauty-skin-care/best-under-eye-patches
https://www.mcaffeine.com/blogs/news/everything-you-need-to-know-about-under-eye-patches
https://www.harpersbazaar.com/beauty/skin-care/g4745/best-eye-patches-1114/
https://www.vita4you.gr/blog-vita4you/en/item/eye-patches-the-secret-for-a-glowy-look.html
