6 วิธีฟอกสีผมเองง่ายๆ แจกทริคกัดสีผมไม่ให้ด่าง ผมไม่เสีย

การทำสีผมในแต่ละครั้ง โดยเฉพาะสีผมการทำสีผมอ่อน สีผมหม่น ๆ หรือผมสีพาสเทล ก็ต้องผ่านการฟอกสีผมก่อน ถึงจะลงสีที่ต้องการได้ แต่การฟอกสีผมส่วนใหญ่ ส่วนมากก็มักจะไปทำร้าน เพราะจะได้เจอช่างที่ชำนาญ และได้การฟอกสีที่ตรงใจมากกว่า

แต่การเข้าร้านเสริมสวยก็ใช้เวลามาก และมีค่าใช้จ่ายที่แพงมากเช่นกัน จึงทำให้สาว ๆ หลายคน เริ่มสนใจที่จะกัดสีผมหรือฟอกสีผมเอง แต่ไม่ว่าจะมือเก่าหรือใหม่ ที่กัดสีผมเองครั้งแรก และไม่มีช่างผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล ก็อาจจะเกิดการผิดพลาด และได้ผลลัพธ์ที่ไม่ตรงใจ

หากคุณกำลังหาวิธีฟอกสีผมด้วยตัวเองอยู่ ก็ขอให้แวะอ่านก่อน เพราะว่าในบทความนี้ ไม่ได้มีแค่วิธีการกัดสีผมด้วยตัวเองอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีเคล็ดลับการดูแล และคำตอบที่ตอบข้อสงสัยในการฟอกสีผมอีกด้วย

วิธีฟอกสีผม [สรุป]

• สระผมให้สะอาดและเป่าผมให้แห้งสนิท
• แบ่งผมออกเป็นช่อ
• ผสมน้ำยาฟอกสีผม
• ลงน้ำยากัดสีผมด้านหลังก่อน
• อย่าลืมสวมหมวกคลุมผม
• ล้างผมและบำรุงผม

เตรียมพร้อมก่อนกัดสีผมเองครั้งแรก

หากกำลังหาวิธีกัดสีผมด้วยตัวเองครั้งแรก แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี วันนี้เราก็มีเทคนิคดี ๆ ในกัดสีผมเองครั้งแรกมาฝาก จะมีขั้นตอนหรือเทคนิคอะไรบ้าง ตามมาดูกันได้เลย

• ทดสอบการแพ้ก่อนทุกครั้ง เพราะน้ำยามีสารเคมีเป็นส่วนประกอบ โดยการทดสอบการแพ้ ให้หยดน้ำยากัดสีผมลงบนท้องแขน หากผิวหนังมีอาการแพ้ แดง คัน หรือบวม ก็ไม่ควรใช้น้ำยากัดสีผมยี่ห้อนั้น

• สำรวจเส้นผมของตัวเอง เส้นผมของคนเราก็จะแตกต่างกันออกไป เช่น ผมตรง ผมหยิก ผมหยักศก เป็นต้น และผมบางประเภทก็จะไม่สามารถที่จะกัดสีผมได้ โดยเฉพาะผมที่ผ่านสารเคมี

• เคล็ดลับวิธีฟอกสีผมไม่ให้เสีย คือ การบำรุงผมก่อนการฟอกสีผม เตรียมผมให้ผมพร้อมอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ด้วยการบำรุงอย่างการหมักผมด้วยเคราติน และทรีตเมนต์ ปรับสภาพผมให้แข็งแรง

• เลือกน้ำยากัดสีผมคุณภาพดี สำหรับมือใหม่ในการกัดสีผมเองครั้งแรก ควรเช็กระดับสีผมฟอกผมของแต่ละยี่ห้อให้ดีว่าสีย้อมผมที่จะย้อมต่อ ต้องฟอกถึงระดับไหน

• รู้จักกับระดับความเข้มข้นของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์

ความเข้มข้น 3% Peroxide	ความเข้มข้นต่ำสุด ทำให้สีผมอ่อนลง 1 – 2 ระดับ
ความเข้มข้น 6% Peroxide	ความเข้มข้นมาตรฐาน เหมาะสำหรับผมเส้นเล็ก ผมปกติ ทำให้สีผมอ่อนลง 2 – 3 ระดับ เปลี่ยนผมให้เป็นสีบลอนด์ แต่หากสีผมเข้ม อาจจะต้องฟอกซ้ำ 2 รอบ
ความเข้มข้น 9% Peroxide	ความเข้มข้นสูง ทำให้ผมสีอ่อนลง 3 – 4 ระดับ เหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการฟอกสีหลายครั้ง มีความรวดเร็วในการฟอก แต่ไม่ควรปล่อยไว้นานเกินไป เพราะอาจระคายเคืองต่อหนังศีรษะ
ความเข้มข้น 12% Peroxide	ความเข้มข้นสูงสุด ฟอกสีผมให้สว่าง แต่อาจทำให้ผิวหนังแสบ และเกิดการระคายเคืองได้ง่าย

อุปกรณ์ที่ใช้ในการฟอกผม

• น้ำยาฟอกสีผม
• ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์
• ภาชนะใส่น้ำยาฟอกสีผม
• แปรง หรือ หวีสำหรับย้อมสี
• ถุงมือ
• กิ๊บหนีบผม
• ผ้าคลุมกันเปื้อน
• เสื้อตัวเก่าพร้อมทิ้ง
• หมวกคลุมผม
• แชมพูและครีมนวด
• ผ้าขนหนู

วิธีฟอกสีผมไม่ให้ด่างด้วยตัวเอง

1.สระผมให้สะอาดและเป่าผมให้แห้งสนิท

วิธีที่ฟอกสีผมไม่ให้ด่าง การสระผมช่วยได้ เพราะการสระผมจะช่วยขจัดสิ่งสกปรก และความมัน หรือน้ำมันออกจากเส้นผม เพราะน้ำมันจะทำให้สีที่ฟอกเป็นสีด่าง ๆ นั่นเอง และที่สำคัญควรเป่าผมให้แห้งสนิทด้วย

2.แบ่งผมออกเป็นช่อ

โดนใช้ปลายแหลมของหวีเป็นตัวแบ่ง ลากยาวตั้งแต่หน้าผาก ไปจนถึงท้ายทอย และใช้กิ๊บหนีบเพื่อแบ่งออกให้เป็น 4 ส่วน เป็นการแบ่งผมเพื่อให้ฟอกสีผมเองได้ง่ายขึ้น

3.ผสมน้ำยากัดสีผม

ผสมน้ำยาฟอกสีผมกับไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ลงในภาชนะ อย่าลืมดูปริมาณที่ต้องใช้ในการผสมที่ข้างกล่องของแต่ละยี่ห้อ

4.ลงน้ำยากัดสีผมด้านหลังก่อน

เพราะผมด้านหลัง บริเวณด้านล่าง เป็นส่วนที่สีเข้มที่สุด จึงควรลงน้ำยาเป็นที่แรก เพื่อให้สารเคมีมีเวลาทำปฏิกิริยากับเส้นผมบริเวณนั้นให้นานกว่าส่วนอื่น ช่วยให้สีผมสม่ำเสมอ ไม่ด่าง

โดยวิธีการฟอกสีผมเอง ควรลงครีมฟอกสีผมให้ห่างจากโคนผมประมาณ 1 ซม. และฟอกสีผมช่วงกลางผมไปจนถึงปลายผมก่อน เพราะผมส่วนนี้จะใช้เวลากัดสีผมนานกว่า จากนั้นค่อยลงโคนเป็นเป็นลำดับสุดท้าย

อย่าลืมเกลี่ยน้ำยากัดสีผมให้สม่ำเสมอกัน ไม่อย่างนั้นผมที่กัดไปจะเป็นรอยด่างแน่นอน

5.อย่าลืมสวมหมวกคลุมผม

สวมหมวกคลุมผมและทิ้งไว้ประมาณ 15 – 30 นาที แนะนำว่าสวมด้วยหมวกคลุมผมจะดีที่สุด เพราะหมวกคลุมผมจะเก็บความร้อนและความชื้น ไม่ให้ผมที่ถูกฟอกสีแห้งนั่นเอง ในระหว่างทิ้งไว้ ก็คอยดูระดับสีผมด้วย ว่าได้ระดับสีผมที่เราต้องการหรือยัง

6.ล้างผมและบำรุงผม

ล้างผมให้สะอาด สระผมด้วยแชมพูสูตรอ่อนโยน และตามด้วยครีมนวดหรือทรีตเมนต์บำรุงผม

เคล็ดลับการดูแลเส้นผมหลังฟอกสี

1.อย่าสระผมบ่อยเกินไป

การสระผมบ่อยเกินไปหลังจากการกัดสีผม จะทำให้ผมแห้งมากขึ้น และอาจกลายเป็นผมเปราะบาง ขาดร่วงได้ จึงควรสระผมแค่ สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง และไม่ใช้น้ำร้อนในการสระผม

2.หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อน

เว้นการหนีบผม ยืดผม หรือการที่ผมต้องโดนความร้อน อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพราะการใช้ความร้อนในการจัดแต่งทรงผม จะทำให้เส้นผมแห้งเสียมากกว่าเดิม

ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ แนะนำให้ใช้ น้ำมันใส่ผม หรือ สเปรย์กันความร้อน ฉีดให้ทั่วก่อนการทำผม และเลือกใช้ไดร์เป่าผมลมเย็นสลับลมร้อนในการเป่าแห้ง

3.บำรุงผมด้วยทรีตเมนต์

สารเคมีจากน้ำยากัดสีผมก็ทำให้ผมเสียไม่มากก็น้อย ฉะนั้นหลังจากการฟอกสีผมแล้ว ก็หมั่นดูแลผมด้วยการใช้ทรีตเมนต์ เพราะทรีตเมนต์ จะมีสารบำรุงผม ช่วยป้องกันผมแห้งเสีย เติมความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม และสามารถใช้ได้ทั้งก่อนและหลังการฟอกสีผมอีกด้วย

คำถามที่พบบ่อย

ถึงแม้ในปัจจุบันนี้ การทำสีผมด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการฟอกสี กัดสีผม หรือการย้อมผม จะสามารถทำเองได้ โดยที่ไม่ต้องไปร้านทำผม แต่อย่าลืมว่า ควรศึกษาการทำสีผมด้วยตัวเองก่อนทุกครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ให้ออกมาตรงใจนั่นเอง

หากใครไม่มั่นใจ ที่จะกัดหรือฟอกสีผมด้วยตัวเอง ก็สามารถเข้าร้านทำผมมืออาชีพ เพื่อให้ช่างผู้เชี่ยวชาญช่วยดูแลให้

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะก่อนทำหรือหลังทำสีผม ควรหมั่นบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะอยู่เสมอด้วย

อ้างอิง

1. https://www.byrdie.com/how-to-bleach-hair-at-home-5092496
2. https://www.realsimple.com/how-to-bleach-hair-7375398
3. https://www.instyle.com/hair/how-to-bleach-hair
4. https://www.stylecraze.com/articles/how-to-bleach-hair-detailed-step-by-step-instructions/
5. https://www.healthline.com/health/how-long-to-leave-bleach-on-hair