ว่าด้วยเรื่องของน้ำหอม เป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน และอาศัยความพิถีพิถันมากกว่าที่เห็น โดยปกติแล้ว เรา ๆ ทุกคนก็คงฉีดน้ำหอม ในลักษณะที่ฉีดไปก่อน เน้นพรมให้ทั่ว ให้กลิ่นฟุ้งเอาไว้ก่อน ยิ่งเป็นน้ำหอมราคาแพงหน่อย ไปจนถึง Luxury brands ก็ย่อมให้กลิ่นที่ดีอยู่แล้ว ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ
ซึ่งจริง ๆ จะฉีดน้ำหอมแบบไหน ก็ไม่ได้ผิด ไม่ได้มีวิธีฉีดน้ำหอมที่ถูกวิธี ตายตัว ทั้งหมดขึ้นอยู่กับ Style ความชอบ ของคนแต่ละคนอยู่แล้ว แต่ในหัวข้อนี้ อยากมาแชร์ Tips เคล็ดลับดี ๆ ของการฉีดน้ำหอม ในอีกระดับ เพื่อเสริมเสน่ห์ของทั้งน้ำหอม และตัวผู้ฉีดให้ดูดียิ่งขึ้น
อยากฉีดน้ำหอมให้ติดทน ต้องฉีดน้ำหอมตรงไหน ให้ติดทนนาน จุดฉีดน้ำหอมที่ควรเน้น ไม่ฉีดไม่ได้เลย หรือฉีดน้ำหอมอย่างไรให้หอมทั้งตัว ติดทนทั้งวัน ยาวนานทั้งคืน ใครเป็น Perfume Lovers พลาดไม่ได้เด็ดขาด เตรียมจดเทคนิค แล้วไปทำตามได้เลย เริ่ม!
วิธีฉีดน้ำหอม [สรุป]
- ฉีดน้ำหอมแล้วห้ามถู
- ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์บนจุดฉีดน้ำหอม
- ฉีดน้ำหอมตามจุดชีพจร
- ฉีดน้ำหอมให้กระจายในอากาศ
- ฉีดน้ำหอมลงบนเสื้อผ้า
- ใช้น้ำหอมฉีดผม หรือ ฉีดบนหวี
วิธีฉีดน้ำหอมให้ติดทนนาน
1.ฉีดน้ำหอมแล้วห้ามถู
มีใครเป็นบ้าง ฉีดน้ำหอม แล้วชอบติดเอาข้อมือไปถู ไปเบลนด์ ด้วยความเข้าใจผิด ที่คิดว่า จะทำให้น้ำหอมติดผิวมากขึ้น แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่เลย เชื่อว่าหลาย ๆ คน คงทำวิธีนี้อยู่ เพราะเป็นวิธีที่เห็นได้บ่อย แต่การฉีดน้ำหอมที่ดี ให้กลิ่นติดทนนาน คือ ห้ามถู
ผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า การถูน้ำหอมลงบนผิวของคุณด้วยวิธีนี้ จริง ๆ แล้วจะทำให้ Top note ของน้ำหอมจางลงไว หมายความว่า กลิ่นน้ำหอมจะไม่ติดผิว และไม่หอมเท่าที่ควรจะเป็น เพราะในตอนที่ถู กลิ่นที่ควรจะเป็น ได้ถูกเจือจาง และระเหยออกไปบ้างแล้ว
สิ่งที่คุณต้องทำ คือ อย่าถูน้ำหอม ฉีดน้ำหอมแล้วปล่อยให้น้ำหอมค่อย ๆ ผสมกับน้ำมันตามธรรมชาติของผิวคุณ จะทำให้น้ำหอมติดทน ยาวนานมากกว่า
และจะยิ่งเสริมให้กลิ่นน้ำหอมมีเสน่ห์ขึ้นมาก เมื่อผสมกับเคมีของแต่ละคนที่ต่างกันออกไป เป็นอีกเหตุผลที่ว่า ทำไมใช้น้ำหอมเหมือนกัน แต่หอมไม่เหมือนกัน
2.ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์บนจุดฉีดน้ำหอม
มอยส์เจอร์ไรเซอร์ สกินแคร์ตัวเดียวที่ใช้คุ้มสุด ตามไปทุกที่ ยันวงการน้ำหอมก็ยังคงต้องใช้ เพราะการให้ความชุ่มชื้น ก่อนฉีดน้ำหอม ก็เป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะหากคุณเป็นคนผิวแห้ง น้ำหอมมักจะระเหยเร็วขึ้น บนผิวที่แห้งมาก
ดังนั้น อีกหนึ่งวิธีฉีดน้ำหอมให้ติดทนนาน ให้ลองทามอยส์เจอไรเซอร์ โลชั่นบำรุงผิวที่ไม่มีกลิ่น หรือวาสลีน บนจุดที่เราจะฉีดน้ำหอม เช่น หลังใบหู คอ ข้อพับแขน ขา เป็นต้น
นอกจากจะช่วยให้ผิวอ่อนนุ่มขึ้นแล้ว ยังช่วยให้น้ำหอมสามารถติดทน อยู่บนผิวได้อย่างยาวนานยิ่งขึ้น
3.ฉีดน้ำหอมตามจุดชีพจร
หากคุณมีน้ำหอมกลิ่นโปรดสักขวด คงอยากจะฉีดให้กลิ่นนั้นหอม ติดตัวคุณไปนาน ๆ ทั้งวัน เป็นเคล็ดไม่ลับ ที่จะช่วยให้กลิ่นน้ำหอมกลิ่นโปรดอยู่กับคุณได้นานขึ้น คือ ต้องฉีดตามจุดชีพจร
น้ำหอมบางขนาด มาในรูปแบบลูกกลิ้ง และหัวแต้ม ยิ่งเหมาะมาก ๆ สำหรับการนำวิธีนี้ไปใช้ แต่ถ้าหากเป็นหัวสเปรย์ ก็ทำได้เช่นเดียวกัน แต่เมื่อฉีดน้ำหอม จะต้องฉีดเน้นให้ถูกจุด
การฉีดตามจุดชีพจร บริเวณของร่างกายที่อบอุ่น และมีความชื้นตามธรรมชาติ เช่น ข้อพับแขน ข้อพับขา หน้าอก ลำคอทั้งสองฝั่ง จุดฉีดน้ำหอมบริเวณเหล่านี้ จะช่วยให้น้ำหอมทุก Note ทำงานได้อย่างแท้จริง
เพราะหากไม่เป็นเช่นนั้น กลิ่นที่ควรจะหอม ก็มักจะจางหายไปเร็วเกินไป และอาจมีกลิ่นที่ฉุน หรือกลิ่นที่หอมแบบไร้มิติขึ้นมาแทน
Greta Fitz กล่าวว่า การฉีดน้ำหอมตามจุดชีพจร ก็เปรียบเหมือนการใช้เครื่องช่วยกระจายกลิ่นแบบธรรมชาติ
4.ฉีดน้ำหอมให้กระจายในอากาศ
การฉีดน้ำหอมตามจุดชีพจร เหมาะสำหรับคนที่ชอบกลิ่นที่ Intense แต่ถ้าใครไม่ค่อยชอบ ชอบฉีดแบบเบา ๆ ดมแล้วสบายจมูก ไม่ทำร้ายจมูกคนอื่น ให้ลองใช้วิธีนี้ดู
โดยการฉีดน้ำหอมในอากาศ กระจายสเปรย์น้ำหอมให้ทั่ว แทนที่จะเน้นไปที่จุดใดจุดหนึ่ง ทำได้ด้วยการฉีดน้ำหอมต่อหน้าคุณ ยกสูงขึ้นหน่อย ห่างประมาณ 1 ช่วงแขน จากนั้นฉีด เดินเข้าไปในน้ำหอม แล้วเดินออกมา
วิธีนี้จะทิ้งกลิ่นหอมบาง ๆ ไว้บนเสื้อผ้าของคุณ ช่วยส่งให้กลิ่นหอมฟุ้งได้ดีมากขึ้น ถ้าหากคุณหาวิธีฉีดน้ำหอมให้ไม่ฉุน เทคนิคนี้ตอบโจทย์ที่สุด
5.ฉีดน้ำหอมลงบนเสื้อผ้า
หอมคนเดียว ไม่พอ อยากแบ่งความหอมให้คนอื่นรู้ว่าหอมด้วย จะฉีดน้ำหอมยังไงให้คนอื่นได้กลิ่น นอกจากจะฉีดลงบนผิวโดยตรงแล้ว ฉีดในอากาศให้ละอองตกใส่เสื้อผ้าจาง ๆ ก็แล้ว การฉีดน้ำหอมลงบนเสื้อผ้า ก็เป็นอีกหนึ่งวิธียอดฮิตเช่นกัน เพื่อให้กลิ่นนำหอม กลิ่นเสื้อผ้า และกลิ่นตัวเรา เป็นไปในทางเดียวกันมากขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญ แนะนำว่า การฉีดน้ำหอมบนเสื้อผ้า ก็เป็นวิธีที่ดี แต่ควรหลีกเลี่ยงวัสดุอย่างผ้าไหม เพราะสามารถเปื้อนน้ำหอมได้ง่าย และคุณคงไม่อยากให้ผ้าไหมราคาแพงต้องเปื้อนคราบน้ำหอม ดังนั้น พึงระวังไว้ก่อนดีกว่า
6.ใช้น้ำหอมฉีดผม หรือ ฉีดบนหวี
อีกหนึ่งวิธีที่เป็นทั้ง Do และ Don’t คือ การใช้น้ำหอมฉีดผม ซึ่งจริง ๆ เป็นวิธีที่ดี ในการช่วยให้กลิ่นติดทน กลิ่นฟุ้งมากขึ้น เรียกว่าเป็นวิธีฉีดน้ำหอมให้คนอื่นได้กลิ่น ที่ได้ผลดีที่สุด แต่ต้องทำให้ถูกวิธี เพื่อที่จะไม่ป้องกันไม่ให้ผมของคุณต้องเสียหาย
นอกจากจุดชีพจรแล้ว การฉีดน้ำหอมเล็กน้อยลงบนเส้นผม ก็มักเป็นเรื่องปกติ ที่หลายคนก็ทำเป็นประจำ เพราะเส้นผม เป็นเหมือนเครื่องช่วยกระจายกลิ่น ที่ทำหน้าที่ได้ดีพอ ๆ กับผิวของเรา เมื่อลมพัดมา กลิ่นน้ำหอมที่อยู่บนเส้นผม ก็จะกระจายออกได้ดี คนรอบข้างก็ได้กลิ่นชัดเจน
แต่สูตรที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เช่น Parfume และ Eau De Toilette (EDT) หรือ Eau De Cologne (EDC) บางชนิด ที่อาจทำให้เส้นผมของคุณแห้งได้ ฉะนั้น สภาพผมแห้งเสียมาก ๆ ไม่ควรนำมาฉีดน้ำหอมใส่เส้นผมโดยตรง เพราะจะทำให้เส้นผมแห้งและเสียได้
แต่สิ่งที่ควรทำ ถ้าอยากฉีดน้ำหอมใส่ผม คือ ให้เลือกใช้ที่เป็น Hair Mist โดยเฉพาะ หรือเลือกน้ำหอมที่ไม่มีแอลกอฮอล์มาฉีด หรืออีกหนึ่งวิธียอดฮิต คือการฉีดน้ำหอมใส่หวี แล้วน้ำมาหวีผม เท่านี้ผมก็หอมฟุ้งพันลี้
วิธีฉีดน้ำหอมทั้ง 6 วิธีนี้ สามารถเอาไปใช้ได้จริง และจริง ๆ เทคนิคการฉีดในแต่ละแบบ ก็เหมาะสำหรับประเภท และกลิ่นของน้ำหอมที่ต่างกันด้วย ขึ้นอยู่กับคุณจะออกแบบเลย ว่าลุคในวันนั้นต้องการให้กลิ่นออกมาประมาณไหน เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เรื่องกลิ่น มีผลต่อ First impression อยู่ไม่น้อย
ถ้าอยากเป็นคนตัวหอม นอกจากโลชั่นน้ำหอมแล้ว การฉีดน้ำหอม ก็ดูแพงไปอีกระดับ เลือกใช้กลิ่นหอม ที่เหมาะกับตัวเอง จะยิ่งช่วยเสริมให้ตัวคุณดูมีเสน่ห์ น่าเข้าหามากขึ้น ส่วนใครสาย Shop ออนไลน์ กลัวได้น้ำหอมปลอม ดูเช็กลิสต์วิธีดูน้ำหอมแท้ได้ที่นี่
