7 วิธีทาลิปสติกเนื้อแมทให้สวย ปากไม่แห้ง ติดทน ไม่ตกร่อง

ลิปสติกเนื้อแมท น่าจะเป็นลิปสติกในดวงใจของใครหลาย ๆ คน เพราะความติดทน เม็ดสีแน่น กลบสีปากได้ดี มีสีที่สวย เสริมเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเรา แถมยังไม่แวววาวดูเป็นธรรมชาติอีกต่างหาก

แม้ว่าการทาลิปจะดูเหมือนเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการแต่งหน้า แต่มันก็มักจะมีปัญหาเกิดขึ้นได้ หากทาลิปแบบรีบร้อน ไม่ถูกวิธี สีของมันอาจจะหลุดได้ง่ายในระหว่างวัน หรือ ทำให้ริมฝีปากหลุดลอกเป็นแผ่นได้

ดังนั้นการเตรียมพร้อม และ วิธีทาลิปสติกเนื้อแมทที่ถูกต้อง จึงเป็นวิธีที่สำคัญที่ละเลยไม่ได้เลย ดังนั้น บทความนี้ จะพาเราไปเรียนรู้การวิธีทาลิปแมทให้สวย ติดทน ไม่ตกร่อง รวมถึงเคล็ดลับอีกมากมายที่จะช่วยให้การทาลิปติดทน ไม่ติดแมสก์อีกด้วย

วิธีทาลิปสติกเนื้อแมท [สรุป]

  • เลือกลิปสติกเนื้อแมทให้เหมาะกับสีผิว
  • เลือกลิปแมทเนื้อ Velvet สำหรับปากแห้ง มีร่องปาก
  • สครับริมฝีปาก
  • เติมความชุ่มชื้นที่ปากก่อนทาลิป
  • วาดขอบปากด้วยลิปไลเนอร์
  • ทาลิปสติกเนื้อแมทตามรูปปาก
  • เซตแป้งฝุ่นเพื่อความติดทน

วิธีทาลิปสติกเนื้อแมท

1.เลือกลิปสติกเนื้อแมทให้เหมาะกับสีผิว

น้ำตาล

ถ้าพูดถึงลิปสติกเนื้อแมท ลิปสีแดง จะเป็นสีแรก ๆ ที่เราจะนึกถึงกัน แต่การเลือกสีลิปที่ถูกต้อง เหมาะสมกับตัวเรา และกาลเทศะ เป็นสิ่งที่สำคัญ

เนื่องจากลิปสติกเนื้อแมทมีหลากหลายเฉดสีมาก ทั้งลิปสีนู้ด สีสด ดังนั้น สีที่เลือกทาจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะจะเป็นตัวกำหนดลุคทั้งหมดของวันนั้น ๆ

โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเลือกสีของลิป คือ โทนของสีผิว (Undertone) และ เลือกเฉดสีที่ไม่อ่อนกว่าสีผิว (Skin tone) ของเรา โดย

  • ผิวโทนชมพู (Cool undertone) : ให้เลือกลิปที่มีติ่งสี cool tone เช่น สีชมพูเย็นๆ น้ำเงิน ม่วง แดงอมม่วง
  • ผิวโทนเหลือง (Warm undertone) : ให้เลือกลิปที่มีติ่งสี Warm tone เช่น สีส้ม พีช น้ำตาล แดงอมส้ม
  • ผิวโทนกลาง (Neutral undertone) : สีผิวโทนนี้ สามารถใช้ได้ทั้งสี Cool Tone และ Warm tone
Tips : หากทาสีตาม Undertone แล้วยังรู้สึกไม่เข้ากับสีผิว ควรทดสอบ Personal Color เพื่อให้ได้โทนสีที่เหมาะสมอย่างชัดเจนที่สุด

2.เลือกลิปแมทเนื้อ Velvet สำหรับปากแห้ง มีร่องปาก

วิธีทาลิปสติกเนื้อแมท

Matte Lipstick เอง ก็มีฟินิชหลายแบบ แบบแมทมากถึงขั้นแห้งไปจนถึง Soft-matte

ในกรณีที่ปากแห้ง มีร่องปาก เราแนะนำลิป Matte ที่มีความครีมมี่ เนื้อ Velvet เพราะเนื้อกำมะหยี่แบบนี้ มักจะมาพร้อม Soft-focus เบลอร่องปาก ช่วยให้การทาลิปแมทดูสวยมากยิ่งขึ้น

3.สครับริมฝีปาก

เนื่องจากลิปสติกเนื้อแมท เป็นลิปสติกที่มีความแห้ง ไม่แวววาว การทาลิปสติกเนื้อแมทลงบนริมฝีปากที่แห้ง ลอก เป็นขุย จะทำให้เห็นร้องปากชัด ลิปเกาะเป็นก้อนตามรอยลอก ดูไม่สม่ำเสมอ 

ดังนั้น ก่อนทาลิป ควรสครับริมฝีปาก เพื่อเอาส่วนที่แห้งลอกเป็นแผ่น รวมถึงเซลล์ที่ตายแล้วออก จากลิปครับ หรือ แปรงสีฟันถูเบาๆ ก็ได้เช่นกัน จากนั้นล้างออกด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด 

แต่ถ้าหากเราไม่มีผลิตภัณฑ์สครับริมฝีปาก เราอาจจะใช้ผ้าขนหนูอุ่น ๆ ที่มีความชื้น ถูเบาๆบริเวณริมฝีปากส่วนที่แห้งเป็นแผ่น หรือเป็นสะเก็ดออกให้หมด โดยการสครับปาก ควรสครับ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์

ในขั้นตอนนี้ จะช่วยกำจัดคราบส่วนเกิน และเซลล์ที่ตายออก ทำให้ริมฝีปากเรียบเนียน สม่ำเสมอกันมากขึ้น

4.เติมความชุ่มชื้นที่ปากก่อนทาลิป

วิธีทาลิปสติกเนื้อแมท

การบำรุงปากให้นุ่ม ชุ่มชื้น ก่อนลงลิปสติกเนื้อแมท จะช่วยให้ทาลิปได้ง่ายขึ้น และช่วยให้ลิปแมทติดทน โดยวิธีเพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก ได้แก่ การทาลิปบาล์ม หรือ การลงมาสก์ปากทิ้งไว้ข้ามคืน จะช่วยให้ปากเรียบเนียน อวบอิ่ม ไม่เป็นร่อง พร้อมที่จะลงลิปในขั้นตอนถัดไป

โดยทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อนการลงลิปสติกเนื้อแมท คือ ให้ทาลิปมันบาง ๆ ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที หลังจากนั้น ให้ซับน้ำมันส่วนเกินออกก่อนทาลิป จะช่วยให้การลงลิปสติกเนื้อแมทง่ายขึ้น และไม่ตกร่องอีกด้วย

5.วาดขอบปากด้วยลิปไลเนอร์

วิธีทาลิปสติกเนื้อแมท

การลงลิปไลเนอร์ อาจจะดูไม่จำเป็นสำหรับหลาย ๆ คน แต่ถ้าอยากให้การทาลิปสติกเนื้อแมทออกมาเนี๊ยบ และดูดี ลิปไลเนอร์ เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย

โดยการวาดลิปไลเนอร์ที่ขอบปาก จะเป็นการกำหนดพื้นที่ที่เราจะลงลิป นอกจากจะทำให้การทาลิปง่ายขึ้นแล้ว ยังช่วยให้ลิปแมทติดทนมากขึ้น เนื่องจากลิปไลเนอร์ มีคุณสมบัติที่สามารถติดทนกับริมฝีปากได้นานตลอดทั้งวัน

นอกจากนี้ ยังสามารถช่วยให้ริมฝีปากเราดูอวบอิ่ม หนาขึ้นได้ โดยการวาดลิปไลเนอร์ ออกนอกริมฝีปากไปเล็กน้อย หรือถ้าหากเราอยากได้ลุคการทาปากในรูปแบบออมเบร ให้เลือกทาเฉดสีที่อ่อนกว่าสีลิปสติกของเรา

เทคนิคการวาดลิปไลเนอร์ คือ เริ่มวาดจากขอบปากทั้งสองข้างก่อน หลังจากนั้นให้วาดบริเวณกลางริมฝีปากเพื่อกำหนดพื้นที่ แล้วค่อย ๆ วาดลิปไลเนอร์มาต่อกัน วิธีนี้จะช่วยให้เรากำหนดขอบเขตการลงลิปได้ตามใจชอบ

6.ทาลิปสติกเนื้อแมทตามรูปปาก

วิธีทาลิปสติกเนื้อแมท

ลิปสติกเนื้อแมท เป็นลิปที่มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบแท่ง ลิปจิ้มจุ่ม หรือ แบบพาเลท โดยวิธีทาลิปแมทให้สวย คือ

  • เริ่มทาลิปจากริมฝีปากบน เริ่มที่บริเวณกระจับปากไปยังปลายริมฝีปากให้อยู่ในกรอบของลิปไลเนอร์ และทำอีกข้างด้วยวิธีเดียวกัน หลังจากนั้น ให้ทาลิปเชื่อมกันบริเวณกระจับปาก 
  • ส่วนริมฝีปากล่าง ให้ทาจากบริเวณกลางปากก่อน แล้วทาไปยังปลายริมฝีปากให้อยู่ในกรอบของลิปไลเนอร์ และทำอีกข้างด้วยวิธีเดียวกัน

หากต้องการทาแบบเบลอ ๆ ฟุ้ง ๆ สไตล์เกาหลี ให้ทาลิปแมทด้านในปาก แล้วใช้นิ้วแท็บ ๆ หรือ แปรงทาลิปเกลี่ยขอบออกมาให้ทั่วริมฝีปาก

โดยก่อนที่จะผสมสี ให้ทำความสะอาดแปรงให้สะอาด เพื่อที่จะไม่มีสีอื่นมาผสม และทำให้ได้ลิปสีผสมที่ต้องการ นอกจากนี้ ยังมีข้อควรระวังสำหรับลิปสติกเนื้อแมทแบบหลอดจิ้มจุ่ม เพราะลิปประเภทนี้ เป็นลิปที่แห้งไวมาก จึงควรทาอย่างระมัดระวัง

Tips : ไม่ควรทาลิปสติกเนื้อแมทซ้ำหลายชั้น เพราะอาจเสี่ยงเป็นคราบ และไม่ควรเม้มปากทันทีที่ทา หากต้องการให้ลิปติดทนนาน

7.เซตแป้งฝุ่นเพื่อความติดทน

เพื่อกำจัดลิปส่วนเกินที่อาจจะมากเกินไปตอนทาลิป ให้เม้มปากลงบนกระดาษทิชชู เพื่อกำจัดส่วนเกินต่าง ๆ ออก

หลังจากเสร็จขั้นตอนทั้งหมด เราอาจจะใช้แป้งฝุ่นเซตบนริมฝีปากที่ทาลิปเสร็จแล้ว เพื่อทำให้ลิปติดทน ไม่ติดแมสก์

Hacks วิธีแก้ทาลิปไม่ติดปากด้านใน

หากคุณเคยเจอปัญหาทางลิปแมทแล้วไม่ติดปากด้านใน เพราะเป็นส่วนที่มีความชื้น และเปียก ทำให้เวลาพูดเห็นเป็นเส้นขอบที่ไม่สวยงามเท่าไหร่นัก 

วันนี้เรามี Hacks เด็ดๆ มาช่วยเสริมการทาลิปแมทให้สวยขึ้น ถึง 3 ทางด้วยกัน

  1. นำ Lip Stain ลิปทินท์ที่ทิ้งสเตนสีชัดๆ โดยเลือกสีโทนเดียวกันกับลิปเนื้อแมทที่จะใช้ นำมาทาด้านในปากบนและล่าง พร้อมให้เวลาลิปเซตตัวดีก่อนเช็ดออก และทาลิปแมทตามขั้นตอนปกติ

    Lip Stain จะติดทนปากด้านในได้และกลืนไปกันสีลิปด้านนอก ทำให้ไม่เห็นรอยเส้นด้านในปากอย่างที่เป็นกังวลกัน
  1. นำลิปไลเนอร์มาทาขอบปากด้านใน จะช่วยแก้ปัญหาทาลิปไม่ติดปากด้านในได้อีกทาง
  2. การทาลิปไพรเมอร์ที่ปาก เป็นอีกวิธีจะช่วยให้ลิปติดทนมากขึ้น และเป็นเคล็ดลับช่วยแก้ปัญหาทาลิปไม่ติดปากด้านในได้

คำถามที่พบบ่อย

ทาลิปแมทยังไงไม่ให้ปากแห้ง

เทคนิคการทาลิปแมทไม่ให้ปากแห้ง คือ การบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้นทั้งจากภายในและภายนอก ทาลิปมันเป็นประจำ ดื่มน้ำให้มากพอ หรือ เลือกลิปสติก ฟินิช Soft-matte, Semi-matte แทน จะช่วยให้ปากไม่ดูแห้งมากเกินไปได้

ลิปสติกเนื้อแมท เป็นลิปสติกที่มีความคลาสสิก ดูดี ใช้ได้ในทุกโอกาส แถมยังดูเป็นธรรมชาติ เพราะไม่มีความฉ่ำวาว เม็ดสีแน่น ทำให้กลบริมฝีปากมิด และติดทน ทำให้กลายเป็นลิปสติกในดวงใจของใครหลาย ๆ คน 

และแม้ว่าการทาลิปสติก อาจจะเป็นขั้นตอนที่ดูง่ายที่สุดในการแต่งหน้า แต่จริง ๆ แล้วมีความแตกต่างกัน ตามประเภทของลิปสติก โดยลิปสติกเนื้อแมท จะเน้นไปที่การสครับปาก และการบำรุงให้ความชุ่มชื้นก่อนทา

อีกทั้งในบทความนี้ ยังมีเคล็ดลับอีกมากมาย ที่จะช่วยให้ผู้ใช้ Matte Lipstick ทาลิปออกมาได้สมบูรณ์แบบที่สุด ดังนั้นอย่าลืมทำตามทุกขั้นตอนในวิธีทาลิปสติกเนื้อแมท จะทำให้การทาลิปลิปสติกเนื้อแมท ออกมาเพอร์เฟกต์แน่นอน

อ้างอิง

https://www.byrdie.com/how-to-apply-matte-lipstick-6742652

https://www.instyle.com/how-to-apply-matte-lipstick-7152192

https://www.lorealparisusa.com/beauty-magazine/makeup/lip-makeup/matte-lipstick-dos-and-donts

https://www.loreal-paris.co.uk/how-to-apply-matte-lipstick-without-cracking

Chalita Chamnanmueang

Chalita Chamnanmueang

เบสท์จบการศึกษาจากคณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ปัจจุบันเป็น Editor และ Content writer ประจำ Mizzyreview มีประสบการณ์เขียน copywriting, แปลบทความอังกฤษ-ไทย และรับผิดชอบตรวจสอบเนื้อหา และตีพิมพ์บทความผ่าน WordPress คอยอัปเดตเนื้อหาหลายๆ ด้าน ทั้งบิวตี้ไอเทม สกินแคร์ อาหารเสริม และเทคโนโลยีต่างๆ ให้สาวๆ ได้เข้าถึงทุกเทรนด์ ทุกไอเทมเด็ดกันค่ะ