ลิปสติกเนื้อแมท น่าจะเป็นลิปสติกในดวงใจของใครหลาย ๆ คน เพราะความติดทน เม็ดสีแน่น กลบสีปากได้ดี มีสีที่สวย เสริมเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเรา แถมยังไม่แวววาวดูเป็นธรรมชาติอีกต่างหาก
แม้ว่าการทาลิปจะดูเหมือนเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการแต่งหน้า แต่มันก็มักจะมีปัญหาเกิดขึ้นได้ หากทาลิปแบบรีบร้อน ไม่ถูกวิธี สีของมันอาจจะหลุดได้ง่ายในระหว่างวัน หรือ ทำให้ริมฝีปากหลุดลอกเป็นแผ่นได้
ดังนั้นการเตรียมพร้อม และ วิธีทาลิปสติกเนื้อแมทที่ถูกต้อง จึงเป็นวิธีที่สำคัญที่ละเลยไม่ได้เลย ดังนั้น บทความนี้ จะพาเราไปเรียนรู้การวิธีทาลิปแมทให้สวย ติดทน ไม่ตกร่อง รวมถึงเคล็ดลับอีกมากมายที่จะช่วยให้การทาลิปติดทน ไม่ติดแมสก์อีกด้วย
วิธีทาลิปสติกเนื้อแมท [สรุป]
- เลือกลิปสติกเนื้อแมทให้เหมาะกับสีผิว
- เลือกลิปแมทเนื้อ Velvet สำหรับปากแห้ง มีร่องปาก
- สครับริมฝีปาก
- เติมความชุ่มชื้นที่ปากก่อนทาลิป
- วาดขอบปากด้วยลิปไลเนอร์
- ทาลิปสติกเนื้อแมทตามรูปปาก
- เซตแป้งฝุ่นเพื่อความติดทน
วิธีทาลิปสติกเนื้อแมท
1.เลือกลิปสติกเนื้อแมทให้เหมาะกับสีผิว
ถ้าพูดถึงลิปสติกเนื้อแมท ลิปสีแดง จะเป็นสีแรก ๆ ที่เราจะนึกถึงกัน แต่การเลือกสีลิปที่ถูกต้อง เหมาะสมกับตัวเรา และกาลเทศะ เป็นสิ่งที่สำคัญ
เนื่องจากลิปสติกเนื้อแมทมีหลากหลายเฉดสีมาก ทั้งลิปสีนู้ด สีสด ดังนั้น สีที่เลือกทาจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะจะเป็นตัวกำหนดลุคทั้งหมดของวันนั้น ๆ
โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเลือกสีของลิป คือ โทนของสีผิว (Undertone) และ เลือกเฉดสีที่ไม่อ่อนกว่าสีผิว (Skin tone) ของเรา โดย
- ผิวโทนชมพู (Cool undertone) : ให้เลือกลิปที่มีติ่งสี cool tone เช่น สีชมพูเย็นๆ น้ำเงิน ม่วง แดงอมม่วง
- ผิวโทนเหลือง (Warm undertone) : ให้เลือกลิปที่มีติ่งสี Warm tone เช่น สีส้ม พีช น้ำตาล แดงอมส้ม
- ผิวโทนกลาง (Neutral undertone) : สีผิวโทนนี้ สามารถใช้ได้ทั้งสี Cool Tone และ Warm tone
Tips : หากทาสีตาม Undertone แล้วยังรู้สึกไม่เข้ากับสีผิว ควรทดสอบ Personal Color เพื่อให้ได้โทนสีที่เหมาะสมอย่างชัดเจนที่สุด |
2.เลือกลิปแมทเนื้อ Velvet สำหรับปากแห้ง มีร่องปาก
Matte Lipstick เอง ก็มีฟินิชหลายแบบ แบบแมทมากถึงขั้นแห้งไปจนถึง Soft-matte
ในกรณีที่ปากแห้ง มีร่องปาก เราแนะนำลิป Matte ที่มีความครีมมี่ เนื้อ Velvet เพราะเนื้อกำมะหยี่แบบนี้ มักจะมาพร้อม Soft-focus เบลอร่องปาก ช่วยให้การทาลิปแมทดูสวยมากยิ่งขึ้น
3.สครับริมฝีปาก
เนื่องจากลิปสติกเนื้อแมท เป็นลิปสติกที่มีความแห้ง ไม่แวววาว การทาลิปสติกเนื้อแมทลงบนริมฝีปากที่แห้ง ลอก เป็นขุย จะทำให้เห็นร้องปากชัด ลิปเกาะเป็นก้อนตามรอยลอก ดูไม่สม่ำเสมอ
ดังนั้น ก่อนทาลิป ควรสครับริมฝีปาก เพื่อเอาส่วนที่แห้งลอกเป็นแผ่น รวมถึงเซลล์ที่ตายแล้วออก จากลิปครับ หรือ แปรงสีฟันถูเบาๆ ก็ได้เช่นกัน จากนั้นล้างออกด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด
แต่ถ้าหากเราไม่มีผลิตภัณฑ์สครับริมฝีปาก เราอาจจะใช้ผ้าขนหนูอุ่น ๆ ที่มีความชื้น ถูเบาๆบริเวณริมฝีปากส่วนที่แห้งเป็นแผ่น หรือเป็นสะเก็ดออกให้หมด โดยการสครับปาก ควรสครับ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์
ในขั้นตอนนี้ จะช่วยกำจัดคราบส่วนเกิน และเซลล์ที่ตายออก ทำให้ริมฝีปากเรียบเนียน สม่ำเสมอกันมากขึ้น
4.เติมความชุ่มชื้นที่ปากก่อนทาลิป
การบำรุงปากให้นุ่ม ชุ่มชื้น ก่อนลงลิปสติกเนื้อแมท จะช่วยให้ทาลิปได้ง่ายขึ้น และช่วยให้ลิปแมทติดทน โดยวิธีเพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก ได้แก่ การทาลิปบาล์ม หรือ การลงมาสก์ปากทิ้งไว้ข้ามคืน จะช่วยให้ปากเรียบเนียน อวบอิ่ม ไม่เป็นร่อง พร้อมที่จะลงลิปในขั้นตอนถัดไป
โดยทริคเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อนการลงลิปสติกเนื้อแมท คือ ให้ทาลิปมันบาง ๆ ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที หลังจากนั้น ให้ซับน้ำมันส่วนเกินออกก่อนทาลิป จะช่วยให้การลงลิปสติกเนื้อแมทง่ายขึ้น และไม่ตกร่องอีกด้วย
5.วาดขอบปากด้วยลิปไลเนอร์
การลงลิปไลเนอร์ อาจจะดูไม่จำเป็นสำหรับหลาย ๆ คน แต่ถ้าอยากให้การทาลิปสติกเนื้อแมทออกมาเนี๊ยบ และดูดี ลิปไลเนอร์ เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย
โดยการวาดลิปไลเนอร์ที่ขอบปาก จะเป็นการกำหนดพื้นที่ที่เราจะลงลิป นอกจากจะทำให้การทาลิปง่ายขึ้นแล้ว ยังช่วยให้ลิปแมทติดทนมากขึ้น เนื่องจากลิปไลเนอร์ มีคุณสมบัติที่สามารถติดทนกับริมฝีปากได้นานตลอดทั้งวัน
นอกจากนี้ ยังสามารถช่วยให้ริมฝีปากเราดูอวบอิ่ม หนาขึ้นได้ โดยการวาดลิปไลเนอร์ ออกนอกริมฝีปากไปเล็กน้อย หรือถ้าหากเราอยากได้ลุคการทาปากในรูปแบบออมเบร ให้เลือกทาเฉดสีที่อ่อนกว่าสีลิปสติกของเรา
เทคนิคการวาดลิปไลเนอร์ คือ เริ่มวาดจากขอบปากทั้งสองข้างก่อน หลังจากนั้นให้วาดบริเวณกลางริมฝีปากเพื่อกำหนดพื้นที่ แล้วค่อย ๆ วาดลิปไลเนอร์มาต่อกัน วิธีนี้จะช่วยให้เรากำหนดขอบเขตการลงลิปได้ตามใจชอบ
6.ทาลิปสติกเนื้อแมทตามรูปปาก
ลิปสติกเนื้อแมท เป็นลิปที่มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบแท่ง ลิปจิ้มจุ่ม หรือ แบบพาเลท โดยวิธีทาลิปแมทให้สวย คือ
- เริ่มทาลิปจากริมฝีปากบน เริ่มที่บริเวณกระจับปากไปยังปลายริมฝีปากให้อยู่ในกรอบของลิปไลเนอร์ และทำอีกข้างด้วยวิธีเดียวกัน หลังจากนั้น ให้ทาลิปเชื่อมกันบริเวณกระจับปาก
- ส่วนริมฝีปากล่าง ให้ทาจากบริเวณกลางปากก่อน แล้วทาไปยังปลายริมฝีปากให้อยู่ในกรอบของลิปไลเนอร์ และทำอีกข้างด้วยวิธีเดียวกัน
หากต้องการทาแบบเบลอ ๆ ฟุ้ง ๆ สไตล์เกาหลี ให้ทาลิปแมทด้านในปาก แล้วใช้นิ้วแท็บ ๆ หรือ แปรงทาลิปเกลี่ยขอบออกมาให้ทั่วริมฝีปาก
โดยก่อนที่จะผสมสี ให้ทำความสะอาดแปรงให้สะอาด เพื่อที่จะไม่มีสีอื่นมาผสม และทำให้ได้ลิปสีผสมที่ต้องการ นอกจากนี้ ยังมีข้อควรระวังสำหรับลิปสติกเนื้อแมทแบบหลอดจิ้มจุ่ม เพราะลิปประเภทนี้ เป็นลิปที่แห้งไวมาก จึงควรทาอย่างระมัดระวัง
Tips : ไม่ควรทาลิปสติกเนื้อแมทซ้ำหลายชั้น เพราะอาจเสี่ยงเป็นคราบ และไม่ควรเม้มปากทันทีที่ทา หากต้องการให้ลิปติดทนนาน |
7.เซตแป้งฝุ่นเพื่อความติดทน
เพื่อกำจัดลิปส่วนเกินที่อาจจะมากเกินไปตอนทาลิป ให้เม้มปากลงบนกระดาษทิชชู เพื่อกำจัดส่วนเกินต่าง ๆ ออก
หลังจากเสร็จขั้นตอนทั้งหมด เราอาจจะใช้แป้งฝุ่นเซตบนริมฝีปากที่ทาลิปเสร็จแล้ว เพื่อทำให้ลิปติดทน ไม่ติดแมสก์
Hacks วิธีแก้ทาลิปไม่ติดปากด้านใน
หากคุณเคยเจอปัญหาทางลิปแมทแล้วไม่ติดปากด้านใน เพราะเป็นส่วนที่มีความชื้น และเปียก ทำให้เวลาพูดเห็นเป็นเส้นขอบที่ไม่สวยงามเท่าไหร่นัก
วันนี้เรามี Hacks เด็ดๆ มาช่วยเสริมการทาลิปแมทให้สวยขึ้น ถึง 3 ทางด้วยกัน
- นำ Lip Stain ลิปทินท์ที่ทิ้งสเตนสีชัดๆ โดยเลือกสีโทนเดียวกันกับลิปเนื้อแมทที่จะใช้ นำมาทาด้านในปากบนและล่าง พร้อมให้เวลาลิปเซตตัวดีก่อนเช็ดออก และทาลิปแมทตามขั้นตอนปกติ
Lip Stain จะติดทนปากด้านในได้และกลืนไปกันสีลิปด้านนอก ทำให้ไม่เห็นรอยเส้นด้านในปากอย่างที่เป็นกังวลกัน
- นำลิปไลเนอร์มาทาขอบปากด้านใน จะช่วยแก้ปัญหาทาลิปไม่ติดปากด้านในได้อีกทาง
- การทาลิปไพรเมอร์ที่ปาก เป็นอีกวิธีจะช่วยให้ลิปติดทนมากขึ้น และเป็นเคล็ดลับช่วยแก้ปัญหาทาลิปไม่ติดปากด้านในได้
คำถามที่พบบ่อย
ทาลิปแมทยังไงไม่ให้ปากแห้ง
เทคนิคการทาลิปแมทไม่ให้ปากแห้ง คือ การบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้นทั้งจากภายในและภายนอก ทาลิปมันเป็นประจำ ดื่มน้ำให้มากพอ หรือ เลือกลิปสติก ฟินิช Soft-matte, Semi-matte แทน จะช่วยให้ปากไม่ดูแห้งมากเกินไปได้
ลิปสติกเนื้อแมท เป็นลิปสติกที่มีความคลาสสิก ดูดี ใช้ได้ในทุกโอกาส แถมยังดูเป็นธรรมชาติ เพราะไม่มีความฉ่ำวาว เม็ดสีแน่น ทำให้กลบริมฝีปากมิด และติดทน ทำให้กลายเป็นลิปสติกในดวงใจของใครหลาย ๆ คน
และแม้ว่าการทาลิปสติก อาจจะเป็นขั้นตอนที่ดูง่ายที่สุดในการแต่งหน้า แต่จริง ๆ แล้วมีความแตกต่างกัน ตามประเภทของลิปสติก โดยลิปสติกเนื้อแมท จะเน้นไปที่การสครับปาก และการบำรุงให้ความชุ่มชื้นก่อนทา
อีกทั้งในบทความนี้ ยังมีเคล็ดลับอีกมากมาย ที่จะช่วยให้ผู้ใช้ Matte Lipstick ทาลิปออกมาได้สมบูรณ์แบบที่สุด ดังนั้นอย่าลืมทำตามทุกขั้นตอนในวิธีทาลิปสติกเนื้อแมท จะทำให้การทาลิปลิปสติกเนื้อแมท ออกมาเพอร์เฟกต์แน่นอน
อ้างอิง
https://www.byrdie.com/how-to-apply-matte-lipstick-6742652
https://www.instyle.com/how-to-apply-matte-lipstick-7152192
https://www.lorealparisusa.com/beauty-magazine/makeup/lip-makeup/matte-lipstick-dos-and-donts
https://www.loreal-paris.co.uk/how-to-apply-matte-lipstick-without-cracking