ในขั้นตอนการแต่งหน้า การทาแป้ง เหมือนจะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ซึ่งตัวแป้งพัฟ แป้งฝุ่น ทำหน้าที่ปรับผิวเนียนเรียบ ช่วยล็อกเมคอัพให้ติดทนนานยิ่งขึ้น แต่บางคนอาจเจอปัญหาแต่งหน้าไม่ติด แป้งไม่เกาะผิว
วันนี้เราจะมาบอกเคล็ดลับ วิธีทาแป้งให้ติดทนนาน โดยยังให้ลุคงานผิวสวย หน้าผ่อง ช่วยให้แต่งหน้าติดทน ไม่หลุดลอกระหว่างวัน เหมือนที่หลาย ๆ คนกำลังเผชิญกับปัญหานี้อยู่
วิธีทาแป้งให้ติดทนนาน [สรุป]
- บำรุงผิวให้ชุ่มชื้นก่อนแต่งหน้า
- รอให้สกินแคร์ซึมลงผิวดีก่อน
- ใช้ไพรเมอร์หรือเมคอัพเบส
- เลือกแป้งให้เหมาะกับสภาพผิว
- กดแป้งลงผิวเบา ๆ
- ไม่ทาแป้งเยอะเกินไป
- ใช้เทคนิค Baking แป้งฝุ่น
- ใช้ Setting spray
- ซับมันก่อนเติมแป้ง
วิธีทาแป้งให้ติดทนนาน
1.บำรุงผิวให้ชุ่มชื้นก่อนแต่งหน้า
การทาแป้งเพียงอย่างเดียว ในหลาย ๆ ครั้ง อาจจะทำให้แป้งหลุดลอก หรือแตกออกจากใบหน้า เพราะหน้าของเรา อาจจะมีผิวที่มันหรือแห้งจนเกินไป
ดังนั้นการบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น เติมน้ำให้ผิวด้วย น้ำตบ เซรั่ม มอยส์เจอร์ไรเซอร์ ที่มี Hyaluronic Acid เป็นส่วนประกอบ เพราะช่วยปรับสภาพผิวให้อิ่มน้ำ ช่วยให้แป้งหรือเมคอัพต่าง ๆ ติดทนตลอดทั้งวัน
เทคนิคการลงสกินแคร์เตรียมผิว ให้แป้งติดทนนาน คือ
- เลือกสกินแคร์ที่ให้ความชุ่มชื้นสูงแต่เนื้อบางเบา
- ไม่ควรลงเยอะ และเลเยอร์สกินแคร์หลายขั้นตอนจนเกินไป
2.รอให้สกินแคร์ซึมลงผิวดีก่อน
เทคนิคแต่งหน้าติดทนนาน แป้งติดหน้าตลอดทั้งวันที่หลาย ๆ คนมองข้าม คือการให้เวลาสกินแคร์ซึมลงผิว 100% ไม่ทิ้งความมันใด ๆ ไว้บนผิว ก่อนเริ่มลงแป้ง
เพราะถ้าลงแป้งขณะสกินแคร์ยังหลงเหลืออยู่บนผิวหน้า พัฟหรือแปรงที่ใช้ จะดึงเอาสกินแคร์ติดผิวขึ้นมา ทำให้แป้งไม่ติดผิวหน้าและหลุดลอก
เพราะฉะนั้น ไม่ควรรีบร้อนลงผิวจนเกินไป ให้เวลาตรงนี้สักเล็กน้อย รับรองว่าแป้งติดทนนานขึ้นเป็นกอง
3.ใช้ไพรเมอร์หรือเมคอัพเบส
การเลือกไพรเมอร์ หรือ เมคอัพเบสที่เหมาะสมกับสภาพผิว จะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้แป้งติดทนนาน เช่น หากมีผิวมัน ควรเลือกใช้ไพรเมอร์คุมมัน ช่วยลดความมันระหว่างวัน ป้องกันแป้งหลุด
หากผิวแห้ง ทาแป้งไม่ค่อยติด เลือกไพรเมอร์ เมคอัพเบสสูตร Hydrating จะช่วยให้แป้งเกาะกับผิวหน้าได้ดีขึ้น
4.เลือกแป้งให้เหมาะกับสภาพผิว
แป้งที่ใช้ ไม่ว่าจะเป็นแป้งพัฟ หรือ แป้งอัดแข็ง ควรเป็นสูตรที่เหมาะกับผิวหน้าของตัวเองและมีคุณสมบัติตามที่ต้องการ ดังนี้
ชนิดของแป้ง | คุณสมบัติ |
Powder Foundation | เป็นแป้งผสมรองพื้น ใช้งานง่าย มีการปกปิดหลายระดับ สะดวกสำหรับวันเร่งรีบที่ไม่ต้องการลงรองพื้น พกพาสะดวก |
Pressed Powder | เป็นแป้งฝุ่นอัดแข็งที่ใช้เพื่อคุมมัน และเบลอรูขุมขน เหมาะสำหรับการแต่งหน้าแบบธรรมชาติ ใช้สำหรับทาแป้งบาง ๆ ในจุดที่ต้องการ หรือใช้ระหว่างวันเพื่อลดความมัน คุมเหงื่อบนใบหน้า |
- ผิวมัน : เลือกใช้แป้งสูตร Oil-free ฟินิช Matte เพื่อช่วยควบคุมความมันระหว่างวันที่อาจทำให้แป้งหลุดง่าย
- ผิวแห้ง : เลือกใช้แป้งที่มีเทคโนโลยีให้ความชุ่มชื้น Texture นุ่มละมุนคล้ายบาล์มหรือครีม จะช่วยไม่ให้แป้งตกร่อง และดูเนียนไปกับผิวหน้า
- ผิวผสม : เลือกใช้แป้งที่ให้ฟินิช Matte บริเวณ T-zone และ ลงแป้งบาง ๆ บริเวณอื่น ๆ เพื่อให้ดูเนียนเท่ากันทั้งใบหน้า
5.กดแป้งลงผิวเบา ๆ
วิธีการทาแป้งพัฟให้ติดทนนาน เราไม่ควรใช้วิธีปาดแป้งหรือถูแป้งบนใบหน้า เพราะจะทำให้หลุดลอก เป็นคราบไวมาก
โดยเทคนิคคือ ค่อย ๆ ซับจากบริเวณปีกจมูก และจมูก ที่จะเกิดความมันไวกว่าส่วนอื่น หลังจากนั้นค่อยกดซับหน้าแก้ม หน้าผาก คาง และคอ ตามลำดับ
6.ไม่ทาแป้งเยอะเกินไป
การที่เราทาแป้งมากเกินไปทั้งใบหน้า จะส่งผลเสียได้มากกว่าที่คิด มันอาจจะทำให้การแต่งหน้าดูเกรอะกรัง และแตกเป็นก้อน
เคล็ดลับคือ ให้เปลี่ยนมาใช้แปรง และเน้นลงแป้งบริเวณ T-zone ที่มีความมันมากกว่าบริเวณอื่นให้เหมาะสม และลงผิวหน้าบริเวณบริเวณอื่น ๆ ให้บาง
หากไม่มีแปรง สามารถนำพัฟที่แตะแป้งแล้ว มาวอร์มบริเวณหลังมือ หรือบนทิชชูก่อนนำไปกดลนผิว จะช่วยลดปริมาณส่วนเกินของแป้งที่เยอะเกินไปได้
7.ใช้เทคนิค Baking แป้งฝุ่น
หนึ่งในวิธีการแต่งหน้าให้ติดทน จะขาดเทคนิคการ Baking แป้งฝุ่นไม่ได้เลย เพราะ Loose Powder เป็นแป้งทาหน้าที่ได้รับความนิยมมาก ถูกใช้สำหรับเซตเมคอัพ
โดยการ Baking แป้งฝุ่น คือการนำแป้งฝุ่นโปร่งแสง มาเซตรองพื้นหรือเมคอัพ จะช่วยให้รองพื้นหรือเมคอัพติดทนนาน แถมยังช่วยให้หน้าผ่อง สว่าง โดยเทคนิคนี้ทำได้ไม่ยาก ดังนี้
- ใช้พัฟกดแป้งฝุ่นโปร่งแสงทิ้งไว้ หลังจากลงคอนซีลเลอร์และรองพื้น โดยเน้นบริเวณ T-zone หน้าผาก คาง และใต้ตา เพื่อช่วยควบคุมความมัน
- รอให้แป้งเซตตัวประมาณ 5-15 นาที หลังจากนั้น ให้ใช้แปรงแต่งหน้าปัดแป้งส่วนเกินออกเพียงเท่านี้เมคอัพทั้งหมดจะถูกเซต หน้าผ่อง และติดทนนานทั้งวัน
Tips : หากการ Baking ดูหนา แห้ง หน้าดูแป้งจนเกินไป สามารถใช้แปรงพุ่มลงแป้ง แล้วนำพัฟแป้งฝุ่นสะอาด ๆ กดลงบนผิวเบา ๆ อีกครั้ง จะช่วยให้แป้งเกาะติดกับผิวได้ดียิ่งขึ้น โดยยังทำให้งานผิวดูเป็นธรรมชาติอยู่ |
8.ใช้ Setting Spray
สำหรับใครที่กลัวว่าเมคอัพ หรือ แป้งที่เซตแล้วจะหลุดลอก ขอแนะนำให้รู้จักกับ Setting spray ที่เป็นนวัตกรรมช่วยล็อกเครื่องสำอางบนใบหน้า ให้ติดทนนานตลอดวัน
หากใครกังวลมาก ๆ กับปัญหาแต่งหน้าไม่ติด หรือแป้งหลุดลอก ผลิตภัณฑ์ Setting spray คือสิ่งที่ควรใช้มากที่สุด
9.ซับมันก่อนเติมแป้ง
หากเกิดปัญหาหน้ามันระหว่างวัน อยากเติมแป้งให้ติดผิว ควรซับความมันส่วนเกินออกก่อน จะทำให้หน้าเรียบเนียน และค่อย ๆ ลงแป้งด้วยแปรงหรือพัฟตามถนัด โดยเน้นการแตะ Touch up เบา ๆ เพื่อให้สามารถควบคุมปริมาณแป้งที่ได้
Tips แก้ปัญหาทาแป้งไม่ติด
ผลัดเซลล์ผิว 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
หลายคนที่เจอปัญหาทาแป้งไม่ติด อาจเป็นเพราะไม่ได้เคลียร์ผิวเสื่อมสภาพที่ทับถมกันหลาย ๆ ชั้น จึงเกิดปัญหาหน้าเป็นคราบ แป้งติดผิวไม่สม่ำเสมอ
วิธีแก้ง่าย ๆ คือเสริมสกินแคร์ผลัดเซลล์ผิวเข้ามาในรูทีน จะช่วยให้เครื่องสำอางติดผิวได้ดียิ่งขึ้น
แต่งหน้าในที่ที่อากาศเย็น ไม่ร้อน
เพราะอากาศร้อน อาจทำให้เหงื่อออกตามรูขุมขน ผิวมีความเปียกชื้น จะลงแป้งหรือเครื่องสำอางอะไรก็ติดผิวไม่ดี
เพราะฉะนั้น แนะนำให้แต่งหน้าในบริเวณที่เย็นสบาย (ห้องแอร์ยิ่งดี) หรือฉีดสเปรย์น้ำแร่ก่อนเริ่มแต่งหน้า ก็สามารถช่วยให้ผิวเย็นลงได้เช่นกัน อย่าลืมรอให้สเปรย์แห้งดีก่อนแล้วค่อยลงเมคอัพนะ
แม้ว่าทุกวันนี้ การทาแป้งให้ติดทนนาน อาจจะเป็นปัญหายุ่งยากสำหรับใครหลาย ๆ คน แต่ถ้าเราทำตามขั้นตอนวิธีทาแป้งให้ติดทนนาน และนำเคล็ดลับจากบทความนี้ไปใช้แล้ว รับรองเลยว่า ปัญหานี้จะหายไปอย่างแน่นอน
อ้างอิง
https://www.masterclass.com/articles/how-to-make-makeup-last-all-day
https://www.maybelline.co.in/makeup-tips/face-makeup/how-to-apply-face-powder-makeup
https://www.cosmopolitan.com/uk/beauty-hair/makeup/tips/a33424/make-your-makeup-last-all-day/
https://www.lorealparisusa.com/beauty-magazine/makeup/face-makeup/how-to-use-powder-face-makeup