11 วิตามินอี ยี่ห้อไหนดี 2023 [สุดยอดสารต้านอนุมูลอิสระ]

มิสซี่สวัสดีค่า ช่วงนี้มีสาว ๆ คนไหนกำลังบำรุงผิวพรรณกันอยู่บ้างไหมเอ่ย? วันนี้มิสซี่มี วิตามินอีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระตัวดัง เรียกได้ว่าเป็นวิตามินสำคัญในการมีผิวสุขภาพดีมาฝากกันด้วยนะคะ เหมาะกับสาว ๆ ที่กำลังต้องการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ควบคู่ไปกับสุขภาพผิวที่ดียิ่งขึ้นไปอีก เพราะเขาจัดเป็นอีกหนึ่งวิตามินบำรุงร่างกาย ที่ทุกคนไม่ควรพลาดกันเลยทีเดียวค่ะ

เขาว่ากันว่าวิตามินอีมักจะซ่อนอยู่ในผักและมะเขือเทศ แต่มิสซี่เดาได้เลยว่า คงมีเพื่อน ๆ ไม่น้อยที่ไม่ชอบกินผักกันใช่ม้า ยิ่งมะเขือเทศยิ่งลืมไปได้เลย! ดังนั้นวิตามิน E จึงเป็นคำตอบที่เป๊ะปัง อลังเวอร์ที่สุดค่ะ! เพราะเขาเป็น วิตามินบำรุงผิวที่มีประโยชน์มาก ๆ ใครที่กำลังลังเลว่า วิตามินอี ยี่ห้อไหนดี รีบตามมาเลยค่ะ มิสซี่มีคำตอบจ้า

TOP 3 วิตามินอีที่ดีที่สุด

สรรพคุณ วิตามินอี ช่วยอะไรบ้าง?

ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ 

บำรุงผิวของสาว ๆ ให้ดูดียิ่งขึ้น ส่งผลให้ชะลอริ้วรอย คืนความอ่อนเยาว์ให้สาว ๆ ใครที่เริ่มมีอายุ หรือรู้ตัวว่าริ้วรอยกำลังถามหา ต้องรีบจัดวิตามิน E มากินกันด่วน ๆ เลยนะคะ!

ป้องกันอาการความดันโลหิตสูง หรือ อาการเส้นเลือดตีบในสมอง

วิตามินดี มีส่วนช่วยให้การทำงานของเนื้อเยื่อในส่วนต่าง ๆ ทำงานดีขึ้น ทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น จึงช่วยลดอาการเส้นเลือดอุดตันด้วยนั่นเองค่ะ

ช่วยรักษาสมดุลของเยื่อหุ้มเซลล์

ป้องกันการแตกตัวของเม็ดเลือด ให้เนื้อเยื่อในร่างกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เรียกง่าย ๆ ก็คือ เขามาช่วยให้ร่างกายของเพื่อน ๆ ทำงานอย่างสมดุล เสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายป่วยยากขึ้น ในขณะเดียวกันก็เพิ่มความอ่อนเยาว์ให้แก่ผิว ดีต่อใจสุด ๆ ไปเลยค่า

บำรุงสายตา

ด้วยหน้าที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ความเครียดที่เกิดจากปฏิกิริยาออกซิเดชันบริเวณดวงตาลดน้อยลง ทำให้เพื่อน ๆ สามารถใช้ดวงตาได้ยาวนานขึ้น และมองเห็นได้ชัดขึ้นนั่นเองค่ะ เรียกได้ว่าเป็นอาหารเสริมบำรุงดวงตาที่ดีตัวนึงเลย

อาการเมื่อขาดวิตามินอี

ไม่ว่าจะเป็นวิตามินประเภทไหน มิสซี่แนะนำให้กินในปริมาณที่เหมาะสม มากไปหรือน้อยไปก็ไม่ดีนะคะ และสำหรับใครที่ไม่รู้ว่า ฉันขาดวิตามินอีหรือเปล่านะ? จะสังเกตได้หลัก ๆ เลยก็คือ…

  • มีความรู้สึกเหมือนกล้ามเนื้ออ่อนแรง
  • เดินปกติแล้วจู่ๆเกิดอาการเซ พูดไม่ค่อยชัด พูดไม่รู้เรื่อง
  • สายตาพร่ามัว มีความเบลอง่ายขึ้น
  • ป่วยง่าย เนื่องจากภูมิคุ้มกันลดลง
  • เป็นโลหิตจาง เกิดจากเม็ดเลือดแดงอ่อนตัวลง

ชนิดของวิตามินอี

มิสซี่ต้องบอกก่อนว่า วิตามินอี เป็นวิตามินที่ละลายได้ดีในไขมัน มักพบได้จากพืชผักเป็นส่วนใหญ่ โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท 

D-Alpha-Tocopherol 

เป็น วิตามินอีจากธรรมชาติ ถูกพบได้ง่ายที่สุด และคุณภาพดีที่สุด มักจะอยู่ในผักใบเขียว / ถั่วเหลือง / น้ำมันข้าวโพด / น้ำมันดอกคำฝอย / ผลไม้ / ถั่ว เป็นต้น ซึ่งร่างกายจะสามารถดูดซึมได้ง่าย โดยจะซึมเข้ากระแสเลือดหลังทาน ประมาณ 6 ชั่วโมง เท่านั้น ทำให้วิตามินชนิดนี้มีคุณภาพและราคาค่อนข้างแพงนั่นเองค่ะ

Dl-Alpha-Tocopherol

เป็น วิตามินอีสังเคราะห์ โครงสร้างจะค่อนข้างแตกต่างจากแบบธรรมชาติที่พบได้ในอาหาร ทำให้ต้องทานในปริมาณที่มาก และดูดซึมได้ไม่ดีเท่าแบบแรก โดยจะซึมเข้ากระแสเลือดหลังทาน ประมาณ 12 ชั่วโมงเลยทีเดียว!  แต่ข้อดีคือราคาจะเบากว่า บวกกับไม่เสื่อมสภาพได้ง่ายเมื่อเทียบกับแบบธรรมชาติ ทำให้ยืดอายุในการเก็บรักษาได้นานกว่าค่ะ

ตารางเปรียบเทียบ “วิตามินอี ยี่ห้อไหนดี”

ชื่อสินค้า

Blackmores Heart Health Natural Vitamin E

DHC Vitamin E

Nature Made Vitamin E

Life Extension Super Selenium Complex & Vitamin E

Puritan’s Pride Vitamin C & E

Kirkland Vitamin E

21st Century Vitamin E

SOLGAR Naturally Sourced Vitamin E

Vistra Astaxanthin 6 Mg Plus Vitamin E

Mega We Care Natural Vitamin E

Sundown Naturals Vitamin E

รูปสินค้า

คุณสมบัติ

  • ความเข้มข้นสูงมาก

  • วิตามินอี จากธรรมชาติ

  • รีวิวเยอะ แบรนด์ดัง

  • ต้านอนุมูลอิสระดี

  • ช่วยชอละความเสื่อมของเซลล์

  • ช่วยให้ผิวอุ้มน้ำได้ดีขึ้น

  • ปราศจากการแต่งกลิ่นและสี

  • เม็ดซอฟเจล ทานง่าย

  • ร่างกายแข็งแรง

  • มี Vitamin E + Selenuim

  • Selenuim กระตุ้นให้เกิดกลูต้าไธโอน

  • กินได้นาน

  • ผสมวิตามินซี

  • เม็ดนิ่ม กลืนง่าย

  • เสริมสร้างภูมิคุ้มกันดี

  • ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระภายในร่างกาย

  • วิตามินอี สังเคราะห์ สูตรเข้มข้น

  • หนึ่งกระปุกทานได้นาน

  • เน้นบำรุงเยื่อหุ้มเซลล์

  • เม็ดนิ่ม กลืนง่าย

  • ราคาไม่แพง

  • วิตามีนอีบริสุทธิ์

  • เหมาะกับคนที่ต้องการวิตามินอีจากธรรมชาติ

  • ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายง่าย

  • สารสกัดจาก astaxanthin

  • เหมาะกับคนที่ต้องฟื้นฟูผิว+สายตาเป็นพิเศษ

  • คุ้มราคา

  • วิตามินอีจากธรรมชาติ

  • ราคาไม่แพง

  • บำรุงระบบภายในของร่างกาย

  • ปราศจากกลูเตน / นม / และรสชาติเทียม

  • มีความปลอดภัยสูง

  • ไม่มีโซเดียม ไม่ทำให้บวมน้ำ

ราคาเต็ม

995 บาท

235 บาท

1,290 บาท

550 บาท

685 บาท

685 บาท

279 บาท

790 บาท

690 บาท

980 บาท

420 บาท

ปริมาณ

100 เม็ด

60 เม็ด

350 เม็ด

100 เม็ด

100 เม็ด

500 เม็ด

110 เม็ด

100 เม็ด

30 แคปซูล

60 แคปซูล

100 แคปซูล

ตกเม็ดละ

9.9 บาท

3.9 บาท

3.6 บาท

5.5 บาท

 6.8 บาท

1.3 บาท

2.5 บาท

7.9 บาท

23 บาท

16.3 บาท

15.1 บาท

ความคุ้มค่า

เช็คส่วนลดที่

จะเลือกซื้อ วิตามินอี ยี่ห้อไหนดี 2566

1. วิตามินอี บำรุงร่างกาย ที่ดีที่สุด : Blackmores Heart Health Natural Vitamin E

Blackmores Heart Health Natural Vitamin E

ราคา 995 บาท

ข้อดี
+ หาซื้อง่าย
+ รีวิวเยอะ แบรนด์ดัง

+ ความเข้มข้นสูงมาก

ข้อควรพิจารณา
– เม็ดแคปซูลอาจจะกินยากสำหรับบางคน

ถ้าต้องการวิตามินอี เข้มข้นแบบจัดหนักจัดเต็ม และหาซื้อง่าย ต้องวิตามิน E จากแบรนด์ Blackmores เลยค่ะ! ความเข้มข้นต่อเม็ดของเขาคือสูงมาก ๆ ที่สำคัญคือเป็น วิตามิน จากธรรมชาติ รับประกับว่าดูดซึมเข้าร่างกายของเพื่อน ๆ ได้อย่างดีเยี่ยม

ถึงแม้ว่าราคาเขาจะค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น ๆ แต่ถ้าเพื่อน ๆ ต้องการความเข้มข้น ต้องการวิตามินที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อกอบกู้ร่างกายทั้งภายในและภายนอก มิสซี่ว่าเป็นการลงทุนกับสุขภาพที่คุ้มค่าอยู่น้า ยี่ห้อนี้เน้นความเข้มข้นสูง อาหารเสริมบำรุงร่างกายได้ดี เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีมากเลยค่ะ

ปริมาณ 100 เม็ด : ราคา 990 บาท (ตกเม็ดละ 9.9 บาท)

ชนิดd-alpha tocopherol 
รูปแบบแคปซูล
ขนาดรับประทานต่อวันกินวันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร

2.วิตามินอี ญี่ปุ่นที่ดีที่สุด : DHC Vitamin E

DHC Vitamin E

ราคา 235 บาท

ข้อดี
+ ราคาไม่แพง
+ หาซื้อง่าย

+ แบรนด์น่าเชื่อถือ

ข้อควรพิจารณา
– ไม่มี official store ต้องเลือกร้านดีๆ

มาต่อกันที่ วิตามิน E dhc ตัวดัง ทานแล้วเห็นผลแถมราคาไม่แพงอีกด้วย คุณสมบัติของตัวนี้ คือ ช่วยชอละความเสื่อมของเซลล์ ป้องกันความเสียหายจากยูวี ลดการอักเสบของผิว สมานแผลได้ไว นอกจากนี้ยังช่วยให้ความชุ่มชื้นของผิว โดยการช่วยให้ผิวอุ้มน้ำได้ดีขึ้น เสริมการทำงานของภูมิคุ้มกันของร่างกาย แนะนำตัวนี้มากๆเลยค่า

ปริมาณ 60 เม็ด : ราคา 235 บาท (ตกเม็ดละ 3.9 บาท)

ชนิดd-alpha tocopherol 
รูปแบบเม็ด
ขนาดรับประทานต่อวันกินวันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร

3. วิตามินอี อเมริกาที่ดีที่สุด : Nature Made Vitamin E

Nature Made Vitamin E

ราคา 1,290 บาท

ข้อดี
+ ปราศจากการแต่งกลิ่นและสี
+ เม็ดซอฟเจล ทานง่าย

+ จำนวนต่อกระปุกเยอะ

ข้อควรพิจารณา
– หาซื้อได้จากร้านวิตามินนำเข้าเป็นหลัก

วิตามินจาก Nature Made แบรนด์จากสหรัฐอเมริกา ที่โด่งดังมาก ๆ มิสซี่เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้แน่นอนค่ะ! แบรนด์นี้นอกจากจะโด่งดังเรื่อง วิตามินซี แล้วเขายังทำวิตามินอีเข้มข้น มาให้เพื่อน ๆ ได้กินเสริมสร้างร่างกายกันด้วยนะ 

ด้วยสารสกัดจากพืชธรรมชาติและการสังเคราะห์ ที่เพิ่มประสิทธิภาพของร่างกายให้แข็งแรงพร้อมทั้งต้านอนุมูลอิสระไปในตัว ที่สำคัญคือเขาช่วยในเรื่องของเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ พร้อมดูแลเม็ดเลือดแดง ให้สมดุล เหมาะกับคนที่ต้องการเพิ่มความแข็งแรง+ชะลอริ้วรอย ให้ผิวยังคงอ่อนเยาว์ไปพร้อมกันค่า

ปริมาณ 350 เม็ด : ราคา 1,290 บาท (ตกเม็ดละ 3.68 บาท)

ชนิดdl-alpha tocopherol
รูปแบบซอฟท์เจล 
ขนาดรับประทานต่อวันกินวันละ 1-2 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร

4. วิตามินอีผิวขาวที่ดีที่สุด : Life Extension Super Selenium Complex & Vitamin E

Life Extension Super Selenium Complex & Vitamin E

ราคา 550 บาท

ข้อดี
+ บำรุงผิวขาวใส
+ จำนวนต่อกระปุกกินได้นาน

+ ต้านอนุมูลอิสระ

ข้อควรพิจารณา
– รูปแบบแคปซูล อาจะทานยากในบางคน

วิตามินอี ผิวขาว จากแบรนด์ดัง Life Extension ที่เสิร์ฟสูตรความขาวให้สาว ๆ แบบปลอดภัย อย่างเป็นธรรมชาติ กตัวนี้เขายังมี Selenuim ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการกระตุ้นให้เกิด กลูต้าไธโอน สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้สาว ๆ มีผิวพรรณที่เปล่งปลั่งขึ้น ผิวนุ่ม ชุ่มชื้นขึ้น

และยังได้เสริมภูมิคุ้มกันไปในตัว เพราะทั้ง Vitamin E + Selenuim มีส่วนช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ทำหน้าที่เทียบเท่ากับ วิตามินซี เลยค่ะ! ดังนั้นเพื่อน ๆ คนไหนที่สนใจเรื่องผิวพรรณเป็นพิเศษ ตัวนี้เป็นคำตอบที่ดีมาก ๆ ตัวหนึ่งเลยค่า

ปริมาณ 100 เม็ด : ราคา 550 บาท (ตกเม็ดละ 5.5 บาท)

ชนิดd-alpha tocopherol
รูปแบบแคปซูล
ขนาดรับประทานต่อวันกินวันละ 1 เม็ด หลังอาหารทันที

5. วิตามินซีและอี ที่ดีที่สุด : Puritan’s Pride Vitamin C & E

Puritan's Pride Vitamin C & E

ราคา 685 บาท

ข้อดี
+ ตัวดัง รีวิวเยอะ
+ ผสมวิตามินซี

+ เม็ดนิ่ม กลืนง่าย

ข้อควรพิจารณา
– ไม่มี official store ซื้อได้จากร้านวิตามินนำเข้า

มีเพื่อน ๆ คนไหนที่กำลังมองหา วิตามินอี และ ซี กินควบคู่กันอยู่ไหมเอ่ย? มิสซี่ขอแนะนำของ Puritan’s Pride แบรนด์คุ้นหูอีกตัวจากสหรัฐอเมริกา ที่ทำวิตามินคู่กันแล้วได้ผลลัพธ์สุดปัง! จริง ๆ แล้วทางแบรนด์มีทำวิตามินอีโดยเฉพาะเอาไว้ด้วยเช่นกันนะคะ

แต่ด้วยความที่คนส่วนใหญ่นิยมกินวิตามินซี และ อี ควบคู่กันมากกว่า เพราะได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในตัว และ บำรุงผิวพรรณไปด้วย ตัวนี้มีทั้ง วิตามินอีบริสุทธิ์ และสังเคราะห์ แต่ยังคงคุณภาพอัดแน่นเต็มกระปุก ตัวนี้เหมาะที่สุดเลยค่า

ปริมาณ 100 เม็ด : ราคา 685 บาท (ตกเม็ดละ 6.8 บาท)

ชนิดdl-alpha tocopherol / d-alpha tocopherol 
รูปแบบซอฟท์เจล
ขนาดรับประทานต่อวันกินวันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร

6. วิตามินอีคุ้มค่ามากที่สุด : Kirkland Vitamin E

Kirkland Vitamin E

ราคา 685 บาท

ข้อดี
+ หนึ่งกระปุกทานได้นาน
+ สูตรเข้มข้น

+ คุ้มค่าคุ้มราคา

ข้อควรพิจารณา
– ได้เยอะมาก ควรทานเก็บรักษาดีๆ

ใครเป็นมือใหม่หัดกิน มิสซี่อยากให้ลอง Kirkland Signature เลยค่ะทุกคน! ด้วยตัวแบรนด์เขารับประกันในคุณภาพอยู่แล้ว แถมยังมีความเข้มข้นสูง เหมาะกับคนที่มองหายี่ห้อที่ราคาเข้าถึงง่าย ทานได้นาน ตัวเม็ดเป็นแบบซอฟท์เจล กลืนง่ายไปอีก

มิสซี่ย้ำเลยว่าตัวนี้ห้ามพลาดเลยนะคะ ถึงจะเป็นวิตามินอีสังเคราะห์แต่เขาเคลมเรื่องความเข้มข้นต่อเม็ดค่อนข้างสูงเลยทีเดียว ดังนั้นเพื่อน ๆ ไม่ต้องกังวลเลยค่ะ ใครอยากได้ยี่ห้อที่กินได้นาน ๆ คุณภาพคุ้มราคา อยากเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และต่อต้านอนุมูลอิสระภายในร่างกาย ครบ จบ ในกระปุกเดียวไปเลยจ้า

ปริมาณ 500 เม็ด : ราคา 685 บาท (ตกเม็ดละ 1.37 บาท)

ชนิดdl-alpha tocopherol
รูปแบบซอฟท์เจล
ขนาดรับประทานต่อวันกินวันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร

7. วิตามินอีถูกและดีที่สุด : 21st Century Vitamin E

21st Century Vitamin E

ราคา 279 บาท

ข้อดี
+ ราคาไม่แพง
+ เม็ดนิ่ม กลืนง่าย

+ หาซื้อง่าย

ข้อควรพิจารณา
– ซื้อได้จากร้านวิตามินนำเข้าเป็นหลัก

21st Century ใครได้ยินก็ต้องร้องอ๋อ! อย่างที่เพื่อน ๆ รู้กันว่าแบรนด์นี้เขาทำวิตามินออกมาเยอะมาก ๆ ทั้ง วิตามินรวม และ วิตามินบำรุงร่างกาย ต่าง ๆ ไม่เว้นแม้แต่ วิตามินอี ต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่เน้นบำรุงเยื่อหุ้มเซลล์ และ ช่วยให้เม็ดเลือดแดงแตกตัวยากขึ้น

ตัวนี้กินง่ายมาก ๆ ปริมาณต่อกระปุกอาจจะไม่เยอะมาก แต่ก็ทำให้กินหมดไวขึ้น ลดความเสี่ยงในการเสื่อมสภาพของวิตามินไปด้วยกันตัว แถมราคาเขายังน่าคบหาด้วย! เหมาะกับคนงบน้อย แต่เน้นคุณภาพปัง ๆ ตัวนี้ตอบโจทย์ได้มากเลยน้า

ปริมาณ 110 เม็ด : ราคา 279 บาท (ตกเม็ดละ 2.53 บาท)

ชนิดdl-alpha tocopherol 
รูปแบบซอฟท์เจล
ขนาดรับประทานต่อวันกินวันละ 1-2 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร

8. วิตามินอี บำรุงผิวที่ดีที่สุด : SOLGAR Naturally Sourced Vitamin E

SOLGAR Naturally Sourced Vitamin E

ราคา 790 บาท

ข้อดี
+ วิตามีนอี บริสุทธิ์
+ รูปแบบสกัดจากธรรมชาติ

ข้อควรพิจารณา
– ราคาต่อเม็ดค่อนข้างสูง

ใครสาวก วิตามินอี จากธรรมชาติ ต้องอุดหนุนวิตามินจากแบรนด์ Solgar เลยค่ะทุกคน มิสซี่ภูมิใจนำเสนอมาก ๆ เลย เพราะเขาเครมเรื่องวัตถุดิบจากธรรมชาติ ส่งผลให้ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายง่าย และได้ประสิทธิภาพที่สูงเอาเรื่องเลยค่ะ

นอกจากจะเป็น D-Alpha Tocopherol แล้ว เขายังมี D-Gamma / D-Delta และ D-Beta Tocopherol  ผสมร่วมด้วย นับว่าอัดแน่นไปด้วยคุณภาพเต็มกระปุกกันไปเลยค่ะซิส! เหมาะกับคนที่ขาด Vitamin E หรือ ผิวพรรณค่อนข้างทรุดโทรมอย่างหนัก แบรนด์นี้ มิสซี่รับประกันความปังของผลลัพธ์เลย

ปริมาณ 100 เม็ด : ราคา 790 บาท (ตกเม็ดละ 7.9 บาท)

ชนิดd-alpha tocopherol / d-gamma tocopherol / d-delta tocopherol / d-beta tocopherol
รูปแบบซอฟท์เจล
ขนาดรับประทานต่อวันกินวันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร

9. วิตามินอี ต้านอนุมูลอิสระที่ดีที่สุด : Vistra Astaxanthin 6 Mg Plus Vitamin E 

Vistra Astaxanthin 6 Mg Plus Vitamin E 

ราคา 690 บาท

ข้อดี
+ หาซื้อง่าย
+ สารสกัดจาก astaxanthin

+ เหมาะกับคนที่ต้องฟื้นฟูผิว+สายตาเป็นพิเศษ

ข้อควรพิจารณา
– ราคาต่อเม็ดค่อนข้างสูง

อยากบำรุงสายตา พร้อม ๆ กับฟื้นฟูผิวไปด้วยในตัว มิสซี่แนะนำ วิตามินอี บำรุงสายตา จากแบรนด์ Vistra เลยค่ะ ตัวนี้เขาเน้นสารสกัดส่วนใหญ่มาจาก Astaxanthin ซึ่งมีส่วนช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี

พร้อมทั้งบำรุงประสาทตา ลดความเสี่ยงของเซลล์นัยน์ตาเสื่อมอีกด้วย! งานนี้ได้ทั้งผิว ทั้งสายตา และร่างกายที่แข็งแรงขึ้นไปอีก สาว ๆ คนไหนที่อยากบำรุงจุดนี้เป็นพิเศษ แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่า วิตามินอี ตัวไหนดี ต้องจัดตัวนี้ไปลองกันสักกระปุกแล้วค่า

ปริมาณ 30 แคปซูล : ราคา 690 บาท (ตกเม็ดละ 23 บาท)

ชนิดd-alpha tocopherol 
รูปแบบแคปซูล
ขนาดรับประทานต่อวันกินวันละ 1-2 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร

10. วิตามินอี ลดริ้วรอยที่ดีที่สุด : Mega We Care Natural Vitamin E

Mega We Care Natural Vitamin E

ราคา 250 บาท

ข้อดี
+ ราคาไม่แพง
+ สกัดจากธรรมชาติ

+ แบรนด์น่าเชื่อถือ

ข้อควรพิจารณา
– เม็ดแคปซูล อาจจะกินยากสำหรับบางคน

อายุเพิ่มขึ้น ริ้วรอยก็เริ่มถามหา! ใครไม่อยากแก่เร็ว ให้ลองซื้อแบรนด์ Mega We Care มาลองกินกันดูนะคะ ตัวนี้เป็น วิตามินสูตรธรรมชาติ พร้อมชะลอริ้วรอย และ บำรุงระบบภายในของร่างกายได้อย่างดีเยี่ยม เช่น เซลล์ประสาท / ระบบสืบพันธุ์ / การทำงานของตับ / กล้ามเนื้อ และอื่น ๆ อีกมากมาย

เรียกได้ว่าบำรุงจบในตัวเดียวเลยค่ะ! สำหรับใครที่หาซื้อ วิตามิน E ราคถูก ตัวนี้มิสซี่เชียร์ให้ลองเลยค่า โดยเฉพาะสาว ๆ ที่เริ่มมีริ้วรอย ผิวแห้งกร้าน แลดูโทรม ยิ่งต้องเร่งบำรุงด่วนเลยนะคะ อย่าหาว่ามิสซี่ไม่เตือนน้า

ปริมาณ 30 เม็ด : ราคา 250 บาท (ตกเม็ดละ 8.33 บาท)

ชนิดd-alpha tocopherol 
รูปแบบแคปซูล
ขนาดรับประทานต่อวันกินวันละ 1-2 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร

11. วิตามินอี ธรรมชาติที่ดีที่สุด : Sundown Naturals Vitamin E

Sundown Naturals Vitamin E

ราคา 420 บาท

ข้อดี
+ ปราศจากกลูเตน / นม / และรสชาติเทียม
+ มีความปลอดภัยสูง

+ ไม่มีโซเดียม ไม่ทำให้บวมน้ำ

ข้อควรพิจารณา
– หาซื้อยาก

วิตามินอี จากแบรนด์ Sundown Naturals เกิดมาสำหรับเพื่อน ๆ ที่ต้องการความปลอดภัยแบบ 100% เหมาะกับคนที่กังวลในเรื่องของผลข้างเคียงต่าง ๆ ต้องการอาหารเสริมที่ปลอดภัยที่สุด มิสซี่แนะนำเลยว่าตัวนี้ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนค่ะ!

แถมสารสกัดจากการสังเคราะห์ ยังเป็นแบบ Non-GMO คือไม่มีการตัดแต่งพันธุกรรม เรียกว่าทุกกระบวนการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ผู้บริโภคก็กินได้อย่างสบายใจเช่นกัน ใครมองหา วิตามินอี ปลอดภัยสูง ในราคาจับต้องได้ ตัวนี้ช่วยคลายความกังวลของเพื่อน ๆ ได้แน่นอนค่ะ!

ปริมาณ 100 เม็ด : ราคา 420 บาท (ตกเม็ดละ 4.2 บาท)

ชนิดdl-alpha tocopherol 
รูปแบบซอฟท์เจล
ขนาดรับประทานต่อวันกินวันละ 1 เม็ด พร้อมมื้ออาหาร

วิธีเลือกซื้อ “วิตามินอี”

ความเข้มข้น 

เพื่อน ๆ ควรกินวิตามิน E ในปริมาณที่เหมาะสมกับอายุ และ ร่างกายของตัวเองเป็นหลัก ซึ่งสามารถกินได้ตามข้อมูลสากลโดยอิงที่อายุได้เลยค่ะ หรือเพื่อความชัวร์ มิสซี่แนะนำว่า เราสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ปริมาณที่ควรทานชัดเจนก็ได้เช่นกันนะคะ

ควรมีมาตรฐานรองรับ

วิตามินที่เราเลือกกินเข้าสู่ร่างกาย แน่นอนว่าควรจะต้องใส่ใจ และดูรายละเอียดของตัวสินค้าแต่ละแบรนด์ให้ถี่ถ้วนมาก ๆ เลยค่ะ แบรนด์ควรที่จะมีความน่าเชื่อถือ ร้านค้าที่ขายก็ต้องน่าเชื่อถือ ราคาต้องไม่ถูกกว่าร้านอื่น และแพงกว่าร้านอื่นจนเกินไป สามารถดูรีวิวควบคู่เพื่อให้ตัดสินใจง่ายขึ้นได้ด้วยนะคะ

ส่วนผสม

เพื่อน ๆ ควรเลือกกินวิตามิน E ที่มีส่วนผสมที่เหมาะสมกับร่างกายของตัวเองจะดีที่สุดค่ะ เพราะร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้นก่อนเลือกซื้อแบรนด์ไหนก็ตาม มิสซี่อยากเตือนให้เพื่อน ๆ เลือกดูตรงส่วนผสมให้ดีก่อนนะคะ ว่ามีตัวไหนที่เราแพ้ หรือตัวไหนที่เราต้องการเป็นพิเศษ

ทา Vitamin E Oil vs อาหารเสริมวิตามินอี

ปัจจุบันมีทั้ง วิตามินอี แบบทา และแบบรับประทาน ซึ่งทั้ง 2 แบบนี้ให้โยชน์โดยเน้นไปคนละแบบ ขึ้นอยู่กับเพื่อน ๆ ว่าต้องการประเภทและผลลัพธ์แบบไหนกันนะคะ 

Vitamin E Oil หรือ วิตามินอี แบบทา จะส่งผลโดยตรงต่อผิวของเพื่อน ๆ มากที่สุด ทำหน้าที่เป็น

  • มอยเจอร์ไรเซอร์ ลดความแห้งกร้านของผิว ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น  
  • ช่วยลดเลือนรอยแผลเป็น ให้จางไว+นุ่มขึ้น
  • ช่วยลดเลือนริ้วรอย 
  • ลดอาการผิวไหม้ผิวหมองคล้ำ ที่เกิดจากแสง UV

อาหารเสริมวิตามินอี หรือที่เรียกว่า วิตามิน E แบบทาน จะส่งผลกับภายในร่างกายออกสู่ภายนอก

  • ส่งผลต่อเยื่อหุ้มเซลล์โดยตรง
  • เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ให้ร่างกายแข็งแรง
  • ลดอาการป่วยที่เกิดจากเม็ดเลือดแดง และสายตา

แหล่งอาหารวิตามินอีสูง

อย่างที่สาว ๆ รู้กันดีว่าวิตามินอีเข้มข้น มักพบตามผัก / เมล็ดพันธุ์ / น้ำมันบางชนิด และมิสซี่เองก็ได้คัดสรรตัวอย่าง แหล่งอาหารที่มีวิตามินอีสูง และหากินได้ไม่ยาก มาฝากกันด้วยนะคะ

  • เมล็ดทานตะวัน
  • อัลมอนด์
  • น้ำมันจมูกข้าวสาลี
  • น้ำมันเฮเซลนัท
  • น้ำมันดอกทานตะวัน
  • น้ำมันอัลมอนด์
  • หอยเป๋าฮื้อ
  • ถั่วลิสง
  • แซลมอนแอตแลนติก
  • อะโวคาโด
  • พริกหวานแดง
  • มะม่วง
  • ผักกาดเขียว
  • กีวี

เป็นต้น

คำถามที่พบบ่อย

วิตามินอี กินตอนไหน?

วิตามินอีควรกินควบคู่กับมื้ออาหาร เนื่องจากเป็นวิตามินที่ละลายได้ดีมาก ๆ ในไขมัน ดังนั้นถ้าเพื่อน ๆ อยากให้วิตามิน E ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด มิสซี่ขอแนะนำว่าให้กินควบคู่กับมื้ออาหารเลยค่ะ ยิ่งอาหารที่มีไขมันมาก ก็จะยิ่งละลายได้ไวและดูดซึมไวยิ่งขึ้น จะกินระหว่างมื้อ หรือหลังอาหารทันทีเลยก็ได้ค่า

วิตามินอี ช่วยอะไรผิว?

วิตามินอีช่วยบำรุงผิว โดยการช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เคยได้ยินไหมคะว่า อยากผิวสวย ผิวนุ่ม ต้องวิตามินอีเลย! ใช่แล้วค่ะ เพราะเป็นวิตามินบำรุงผิว ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ชะลอริ้วรอย และมอบความชุ่มชื้นให้แก่ผิวของสาว ๆ มากขึ้น จะเป็นแบบทา หรือแบบกินก็บำรุงผิวเช่นกัน แต่ถ้าสาว ๆ เน้นที่บำรุงผิวเป็นหลัก มิสซี่แอบแนะนำให้ใช้แบบทาจะเห็นผลชัดเจนมากกว่านะคะ ^^ 

วิตามินอี รูปแบบใดดีที่สุด?

วิตามินอี แบบ D-Alpha-Tocopherol เป็นรูปแบบดีที่ดีที่สุดต่อร่างกายค่ะ เพราะมาจากธรรมชาติ หาได้ง่าย ทั้งจากผัก / ผลไม้ / และถั่วต่าง ๆ อีกทั้งยังดูดซึมเข้าร่างกายได้ดีที่สุด เป็นชนิดที่ดีต่อร่างกายคนเรามากที่สุดเลยค่ะ

วิตามินอี ควรกินเท่าไหร่ต่อวัน?

ปริมาณวิตามิน E ที่ควรบริโภคโดยทั่วไปต่อวัน ทั้งในเด็ก และผู้ใหญ่ สามารถกินได้ในปริมาณตามนี้เลยค่ะ
อายุ 1-6 เดือน สามารถบริโภค 4 mg/วัน
อายุ  7-12 เดือน สามารถบริโภค 5 mg/วัน
อายุ 1-3 ปี สามารถบริโภค 6 mg/วัน
อายุ 4-8 ปี สามารถบริโภค 7 mg/วัน
อายุ 9-13 ปี สามารถบริโภค 11 mg/วัน
อายุ 13 ปี ขึ้นไป สามารถบริโภค 15mg/วัน

วิตามินอี ควรกินตอนเช้า หรือตอนกลางคืน?

จริง ๆ แล้วเราสามารถทานวิตามินอีได้ทั้ง เช้า และ เย็น ควบคู่กับมื้ออาหารได้เลยค่ะ แต่ด้วยวิตามินอีมีผลในการป้องกันระบบประสาทและสมอง ถ้าเลือกได้ มิสซี่อยากให้เพื่อน ๆ ทานในตอนกลางคืน หรือตอนเย็น จะดีที่สุดค่ะ 

วิตามินอี ดีต่อผู้หญิงอย่างไร?

สำหรับผู้หญิงแล้ว วิตามินอี ช่วยปรับปรุงการตอบสนองของเยื่อบุโพรงมดลูก โดยเฉพาะในผู้หญิงที่มีภาวะมีบุตรยากโดยไม่ทราบสาเหตุ ทั้งยังช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระและฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด ช่วยลดโอกาสแท้ง และยังปรับฮอร์โมนให้ด้วย ดีต่อใจสาว ๆ เป็นที่สุดเลยค่า

เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับ วิตามินอี ยี่ห้อไหนดี ที่มิสซี่หยิบมาแนะนำเพื่อน ๆ กัน หวังว่าจะช่วยให้ตัดสินใจเลือกวิตามินอีมากินกันง่ายขึ้นนะคะ ^^ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ไหน มิสซี่แนะนำว่า ควรเลือกที่เหมาะกับตัวเอง ในแบบที่ตัวเองชอบดีที่สุด และอย่าลืมว่า การบริโภควิตามินควรอยู่ในปริมาณที่พอดี เหมาะสมกับอายุ และร่างกายของเพื่อน ๆ ด้วยนะคะ มิสซี่เป็นห่วง อย่าลืมดูแลสุขภาพ พักผ่อนให้เพียงพอ และทานอาหารที่มีประโยชน์ควบคู่กันไปด้วยนะคะ มิสซี่ขอให้เพื่อน ๆ แฮปปี้กับร่างกายของตัวเองกันมากขึ้นค่า

ที่มาข้อมูล

  1. https://www.healthline.com/health/all-about-vitamin-e#58.-Other-potential-health-benefits 
  2. https://www.verywellfit.com/vitamin-e-supplements-what-you-need-to-know-90042 
  3. https://www.webmd.com/vitamins/ai/ingredientmono-954/vitamin-e
Matchamonraya Pathinonpipat

Matchamonraya Pathinonpipat

มัชช์ จบการศึกษาจากคณะเภสัชศาสตร์ หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง
หรือ cosmetic science เป็นทั้งนักวิชาการด้านวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง และเป็นนักเขียนประจำของเว็บไซต์เรา มีประสบการณ์ทำงานร่วมกับแบรนด์สินค้าออแกนิคมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Skin1004 THREE Origins เป็นต้น โดยมีความสนใจและความรู้ความเข้าใจในสกินแคร์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมมาจากธรรมชาติเป็นหลัก เน้นสร้างคอนเทนต์รวบรวมสกินแคร์ดีๆ แชร์ทริคการรักษาสิว ดูแลผิวแพ้ง่าย การชะลอวัย รวมทั้งหาผลิตภัณฑ์ใหม่มาแนะนำทุกคนกันค่ะ