สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้มิสซี่จะมาแนะนำวิตามินเอ beta-carotene ที่น่าสนใจให้เพื่อนๆกันค่ะ ให้เพื่อนๆ เอาไปเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจเลือกซื้อกันค่ะ วิตามิน A เป็นหนึ่งในวิตามินบำรุงสายตา บำรุงผิว เสริมภูมิคุ้มกันโดยรวมที่ร่างกายไม่สามารถขาดได้ ร่างกายสามารถรับได้จากอาหาร
และอีกทางเลือกที่น่าสนใจคือ การกินวิตามินเอเสริม ซึ่งในปัจจุบันมีหลายแบรนด์ที่ทำอาหารเสริมออกมาได้น่าสนใจ ที่มีสรรพคุณช่วยในเรื่องต่างๆ ที่มอบคุณประโยชน์มากมายให้กับร่างกายค่ะ
วันนี้มิสซี่จะนำข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับวิตามิน A หรือเบต้าแคโรทีน มาฝากกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นวิตามินเอคืออะไร ช่วยอะไรบ้าง ถ้าขาดวิตามินตัวนี้ไปจะเกิดอะไรขึ้น รวมไปถึงแหล่งอาหารที่มีวิตามินเอสูง ควรกินตอนไหนดี และจะเลือกซื้อวิตามินเอ ยี่ห้อไหนดี ตัวไหนดี ที่ดีที่สุด ที่บอกเลยว่าจัดหนัก จัดเต็มกันเลยค่ะ อ่านจบได้ความรู้ และสิ่งที่น่าสนใจมากมายแน่นอนค่ะ
TOP 3 วิตามินเอที่ดีที่สุด
#1 Blackmores Vitamin A
ราคา 650 บาท
#2 Puritan’s Pride Beta-Carotene
ราคา 229 บาท
#3 21st Century Vitamin A
ราคา 219 บาท
วิตามินเอ คืออะไร
วิตามินเอ คือ เป็นวิตามินที่ละลายได้ดีในไขมัน เป็นสารอาหารในกลุ่มของไมโครนิวเทรียนท์ ที่จำเป็นต่อร่างกายเป็น กระบวนการในการสร้างสารอาหารโมเลกุลเล็ก ที่ร่างกายต้องการ ซึ่งร่างกายไม่ได้ต้องการมาก แต่เป็นสารอาหารที่ขาดไม่ได้ สามารถแบ่งเป็น 2 รูปแบบด้วยกันค่ะ
- รูปแบบที่เป็นวิตามิน เรียกว่าเรตินอล สามารถพบได้ในอาหารที่มาจากสัตว์
- รูปแบบสารตั้งต้น หรือที่เรียกว่า เบต้าแคโรทีน สามารถพบได้ในอาหารประเภท ผัก ผลไม้ เมื่อกินเข้าไปร่างกายจะสามารถดูดซึมและเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ
วิตามินเอ ช่วยเรื่อง
- ช่วยในเรื่องบำรุงดวงตา ทั้งในเรื่องชะลอการเสื่อมของดวงตา ที่เกิดได้ตามวัย และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็นดีขึ้น
- ช่วยให้มองในที่มืดได้ดี และสามารถสู้แสงได้มากขึ้นอีกด้วยค่ะ ยังช่วยป้องกันการเกิดโรคที่เกี่ยวกับดวงตา ทั้ง โรคต้อ โรคตาฟางในที่มืด
- ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ช่วยให้หายป่วยเร็วขึ้น
- เสริมสร้างกระดูก เล็บ และฟันให้แข็งแรง
- สารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในเรื่องผิวพรรณ ช่วยชะลออายุผิว ลดการอักเสบ ลดริ้วรอยและจุดด่างดำได้ ช่วยลดสิวอีกเสบอีกด้วยนะคะเพื่อนๆ
- ช่วยเรื่องระบบปัสสาวะ และระบบทางเดินหายใจ
- ป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร และยังช่วยบรรเทาโรคไทรอยด์ได้อีกด้วยค่ะ
วิตามินเอ เป็นสารอาหารที่สามารถละลายในไขมัน สามารถพบได้ในอาหารจากพืชและสัตว์ |
อาการเมื่อขาด “วิตามินเอ”
เมื่อขาดวิตามินเอ อาจทำให้ตาแห้ง ตาอักเสบ หรืออาจทำให้เกิดโรคที่เกี่ยวกับดวงตาบางชนิด เช่น โรคต้อ โรคตาฟาง โรคตาบอดในที่มืด ติดเชื้อที่ดวงตา ซึ่งอาจทำให้ตาบอดได้เลยทีเดียว
โรคจอประสาทตาเสื่อม เมื่ออายุเพิ่มมากยิ่งขึ้น อาจก่อให้เกิดอาการเยื่อบุตาแห้ง การกระอักเสบ หรือการระคายเคืองต่างๆ ของดวงตา และอาจทำให้กระจกตาเป็นแผลได้ค่ะ อาจทำให้มองเห็นได้ยากในที่มืดหรือที่สว่างน้อย ที่น่ากลัวสุดๆ คือในกรณีขาดอย่างรุนแรงอาจทำให้ตาบอดได้เลยค่ะ
นอกจากเรื่องตาแล้ว อาจทำให้ระบบสืบพันธุ์บกพร่อง ระบบภูมิคุ้มกันต่ำ ทำให้ภูมิต้านทานของร่างกายต่ำไปด้วย รวมไปถึงผิวพรรณแห้งกร้าน เหี่ยวย่น เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร อาจเกิดโรคกระดูกพรุน และภูมิต้านทานถดถอย จนเป็นบ่อเกิดของโรคหลายโรคด้วยกันค่ะ จะเห็นได้ว่าวิตามินตัวนี้เป็นสารอาหารที่สำคัญมากๆ ของร่างกาย
การรับประทานวิตามินเอเกินขนาด อาจส่งผลในด้านลบให้กับร่างกาย เช่น ตับถูกทำลาย การมองเห็นที่ผิดปกติ คลื่นไส้ และอาจถึงขั้นเสียชีวิต อย่ากินเกินขนาดความกินตามที่ปริมาณที่กำหนด |
ปริมาณวิตามินเอที่ควรทานต่อวัน
ปริมาณที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน สามารถแบ่งได้ตามช่วงอายุ เพราะเป็นวิตามินที่มีความสำคัญต่อร่างกาย จึงไม่ควรขาดวิตามินไปนี้ไปค่ะค่ะ
- ผู้ชาย อายุ 14 ปี ขึ้นไป ควรได้รับ 900 mcg
- ผู้หญิง อายุ 14 ปี ขึ้นไป ควรได้รับ 700 mcg
- หญิงท้อง อายุ 14 – 18 ปี ควรได้รับ 750 mcg
- หญิงท้อง อายุ 19 ปี ขึ้นไป ควรได้รับ 770 mcg
- หญิงให้นมบุตร อายุ 14 – 18 ปี ควรได้รับ 1,200 mcg
- หญิงให้นมบุตร อายุ 19 ปี ขึ้นไป ควรได้รับ 1,300 mcg
ควรทานวิตามินเอ ร่วมกับมื้ออาหารที่มีไขมันเป็นส่วนประกอบเนื่องจากเป็นวิตามินที่ละลายในไขมัน |
ตารางเปรียบเทียบ “วิตามินเอ” แต่ละยี่ห้อ
สินค้า | จุดเด่น | ราคา | คะแนน | เช็ดส่วนลดที่ |
Blackmores Vitamin A |
| 650 บาท | ||
Puritan’s Pride Beta-Carotene |
| 229 บาท | ||
21st Century Vitamin A |
| 219 บาท | ||
Solaray Food Carotene |
| 390 บาท | ||
Now Foods, Vitamin A |
| 390 บาท | ||
Natural Factors Vitamin A |
| 259 บาท | ||
DHC Vitamin A Natural |
| 585 บาท | ||
Codeage ADK Vitamin Supplement |
| 1,450 บาท | ||
Now Foods A & D |
| 279 บาท | ||
Solaray Vitamin A |
| 255 บาท | ||
Nature’s Way Vitamin A |
| 390 บาท | ||
Now Foods Ultra A & D3 |
| 250 บาท |
จะเลือกซื้อ วิตามินเอ ยี่ห้อไหนดี 2566
1. วิตามินเอ โดยรวมดีที่สุด – Blackmores Vitamin A
ราคา 650 บาท
ข้อดี
+ เม็ดเล็ก ทานง่าย
+ แบรนด์น่าเชื่อถือ
+ ลดตาแห้ง ตาอักเสบ
ข้อควรพิจารณา
– หาซื้อยาก
วิตามินเอในรูปแบบแคปซูลที่น่าสนใจมาก เพราะเป็นวิตามินที่มีขนาดเล็ก ทานง่าย ที่สำคัญมีปริมาณความเข้มข้นเพียง 1,500 mcg ซึ่งต่างจากแบรนด์อื่นๆที่จะประมาณ 3,000 mcg ต่อเม็ด ทำให้สบายใจในการรับประทาน เพราะการรับวิตามินเอมากเกินไปอาจก่อให้เกิดสารตกค้างและผลเสียอื่นๆ ได้ค่ะ
และมีส่วนช่วยในการบำรุงสายตา ลดตาแห้ง การเสื่อมของเยื่อบุตา ลดการคันระคายเคืองของดวงตา ช่วยบำรุงผิวลดรอยต่างๆ มิสซี่บอกเลยว่าตัวนี้น่าสนใจมากค่ะ เพราะสามารถเพิ่มลดขนาดของวิตามินได้ตามต้องการ
ปริมาณ 150 แคปซูล : 650 บาท (ตกเม็ดละ 4.33 บาท)
รูปแบบ | แคปซูล |
ความเข้มข้นต่อเม็ด | 1,500 mcg |
ขนาดรับประทานต่อวัน | 1 เม็ด หลังอาหารเช้าหรือเย็น |
2. วิตามินเอ เบต้าแคโรทีนที่ดีที่สุด – Puritan’s Pride Beta-Carotene
ราคา 229 บาท
ข้อดี
+ บำรุงดวงตา
+ ชะลอการเสื่อมของจอประสาทตา
+ ราคาไม่แพง
ข้อควรพิจารณา
– ไม่ควรรับประทานเกินขนาด
วิตามินเอตัวดัง จากแบรนด์ Puritan’s Pride เป็นวิตามินที่ช่วยในเรื่องบำรุงดวงตา ลดการเกิดอาการตาแห้ง ช่วยให้มองเห็นในที่มืดได้ดีขึ้น ลดการเสื่อมของจอประสาทตา นอกจากเรื่องของดวงตาแล้ว ยังช่วยบำรุงร่างกายโดยรวมให้ระบบต่างๆในร่างกายทำงานได้ดีขึ้น สร้างภูมิต้านทาน ลดการเกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ยังช่วยบำรุงผิวพรรณ ให้ผิวสวยสุขภาพดี ช่วยให้ผิวแข็งแรง
ปกป้องผิวจากรังสี UV ลดการอักเสบของสิว ช่วยลดเลือนจุดด่างดำรอยดำ รอยแดง รอยเหี่ยวย่นได้ดี มีเบต้าแคโรทีน ที่จะช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งเต้านม ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด บำรุงสมอง และระบบความจำอีกด้วยค่ะ บอกเลยว่าตัวนี้ห้ามพลาดเด็ดขาดเลยค่ะ
ปริมาณ 100 ซอฟเจล : 229 บาท ( ตกเม็ดละ 2.29 บาท)
รูปแบบ | ซอฟเจล |
ความเข้มข้นต่อเม็ด | 7,500 mcg |
ขนาดรับประทานต่อวัน | 1 เม็ด พร้อมอาหาร |
3. วิตามินเอ ถูกและดีที่สุด – 21st Century Vitamin A
ราคา 219 บาท
ข้อดี
+ เพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น
+ บำรุงผิวพรรณ
+ สร้างภูมิคุ้มกันร่างกาย
ข้อควรพิจารณา
– สตรีมีครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน
วิตามินเอที่เป็นที่พูดถึงอีกหนึ่งตัว จากแบรนด์ 21st Century เป็นวิตามินที่ช่วยบำรุงดวงตา ช่วยให้ประสิทธิภาพในการมองเห็นดีขึ้น ให้ดวงตาชุ่มชื้น ลดอาการเยื่อบุตาแห้ง อาการเยื่อบุตาอักเสบ ลดโอกาสเกิดโรคต้อและโรคอื่นๆที่เกี่ยวกับดวงตา ชะลอการเสื่อมของจอประสาทตา ช่วยให้มองเห็นในที่มืดได้ดีขึ้น ลดอาการแพ้แสงทำให้สู้แดดได้ดีขึ้นค่ะ
มีสารต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวเปล่งปลั่ง ชะลอริ้วรอยที่เกิดก่อนวัยอันควร ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ ช่วยบำรุงผม ฟัน เหงือก และกระดูก และยังช่วยลดระยะเวลาในการเจ็บป่วยจากโรคต่างๆ ได้อีกด้วย สำหรับคนงบจำกัด มิสซี่ขอแนะนำวิตามินตัวนี้เลยค่ะ
ปริมาณ 110 ซอฟเจล : 219 บาท (ตกเม็ดละ 1.99 บาท)
รูปแบบ | ซอฟเจล |
ความเข้มข้นต่อเม็ด | 3,000 mcg |
ขนาดรับประทานต่อวัน | 1 เม็ด พร้อมอาหาร |
4. วิตามินเอ เบต้าแคโรทีน บำรุงผิวดีที่สุด – Solaray Food Carotene
ราคา 390 บาท
ข้อดี
+ สารสกัดจากผักผลไม้
+ ลดโอกาสเกิดมะเร็ง
+ ลดคอเลสเตอรอล
ข้อควรพิจารณา
– ราคาต่อเม็ดค่อนข้างสูง
วิตามินเอ เบต้าแคโรทีนที่เหมาะสำหรับสาวๆที่ไม่ค่อยทานผัก เพราะสามารถทดแทนได้ และมีส่วนช่วยลดเซลล์จากอนุมูลอิสระ ช่วยชะลออายุผิวให้ไม่แก่ก่อนวัย ผิวเต่งตึง ลดรอยหย่อนคล้อยส่วนที่เหี่ยวย่นให้กระชับขึ้น เติมเต็มร่องลึกของผิว ให้ดูอิ่มฟู ลดจุดด่างดำต่างๆ ให้ผิวเรียบเนียน สว่างกระจ่างใส ช่วยลดโอกาสการเกิดสิวใหม่ และลดสิวอักเสบได้ดีเลยค่ะ
และช่วยให้สามารถมองเห็นได้ที่มืดได้ดีขึ้น ลดการเสื่อมของจอประสาทตา และลดโอกาสการเกิดโรคต้ออีกด้วยค่ะ ช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น บอกเลยว่าวิตามินตัวนี้เป็นอีกหนึ่งตัวที่พลาดไม่ได้ค่ะ เหมาะกับสาวๆที่ไม่กินผักมากๆเลยค่ะ
ปริมาณ 30 แคปซูล : 390 บาท ( ตกเม็ดละ 13 บาท)
รูปแบบ | แคปซูล |
ความเข้มข้นต่อเม็ด | 500 mcg |
ขนาดรับประทานต่อวัน | 1 เม็ด หลังอาหารทันที |
5. วิตามินเอ บำรุงผิวดีที่สุด – Now Foods, Vitamin A
ราคา 390 บาท
ข้อดี
+ ช่วยให้ผิวสวยเปล่งปลั่ง สุขภาพดี
+ ลดการเกิดโรคผิวหนัง
+ รีวิวดี
ข้อควรพิจารณา
– ไม่ควรทานเกินขนาด อาจส่งผลเสียต่อร่างกาย
วิตามินเอตัวนี้มีส่วนช่วยบำรุง และรักษาเนื้อเยื่อผนังชั้นนอกของอวัยวะต่างๆ ทั้งภายใน และผิวหนังภายนอก ช่วยชะลอริ้วรอยที่เกิดก่อนวัย ช่วยให้ผิวสวย ลดรอยดำ รอยแดง รอยแผลเป็น ให้ผิวเรียบเนียน สว่างกระจ่างใส ป้องกันผิวหนังแห้งกร้าน ให้ชุ่มชื้นขึ้น ลดการเกิดสิว ไม่ว่าจะเป็น สิวหนอง สิวหัวช้าง สิวเสี้ยน ทำให้ยุบได้ไวและลดการอักเสบอีกด้วยค่ะ
นอกจากนี้นะคะเพื่อนๆ ยังช่วยป้องกันผิวแตกลายงา มีส่วนช่วยรักษาโรคผิวหนังตุ่มพุพองที่เกิดจากแบคทีเรีย ฝี ชันนะตุ หรือแผลเปิดต่างๆอีกด้วยนะคะ ถ้าอยากผิวสวยใส ต้องลองวิตามินตัวนี้แล้วค่ะ
ปริมาณ 100 ซอฟเจล: 390 บาท ( ตกเม็ดละ 3.9 บาท)
รูปแบบ | ซอฟเจล |
ความเข้มข้นต่อเม็ด | 3,000 mcg |
ขนาดรับประทานต่อวัน | 1 เม็ด พร้อมอาหาร |
6. วิตามินเอ คุ้มค่ามากที่สุด – Natural Factors Vitamin A
ราคา 259 บาท
ข้อดี
+ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
+ บำรุงผม เหงือก ฟัน และกระดูก
+ ราคาถูกและดี
ข้อควรพิจารณา
– รับประทานแต่พอดี เกินขนาดอาจทำให้สะสมที่ตับได้
วิตามิน A ตัวนี้ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย ทำให้ภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยสร้างภูมิต้านทานต่อการติดเชื้อในทางเดินหายใจ ช่วยต่อสู้กับโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อไวรัส และแบคทีเรีย ยังรักษาโรคไทรอยด์เป็นพิษ และโรคถุงลมโป่งพอง และยังช่วยลดย่นระยะเวลาในการป่วยโรคต่างๆได้อีกด้วย
ช่วยลดจุดด่างดำ รอยแผลเป็น ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้ ผม ฟัน และการเจริญเติบโตของกระดูก ยังไม่หมดนะคะเพื่อนๆ ตัวนี้ยังช่วยบำรุงสายตา เสริมสร้างการมองเห็น และรักษาโรคที่เกี่ยวกับตาได้อีกหลายโรคเลยค่ะ สำหรับเพื่อนๆ ที่สงสัยว่าวิตามินเอ ยี่ห้อไหนดี มิสซี่บอกเลยว่าเป็นอีกตัวที่คุ้มค่าคุ้มราคาค่ะ
ปริมาณ 180 ซอฟเจล : 259 บาท ( ตกเม็ดละ 1.43 บาท)
รูปแบบ | ซอฟเจล |
ความเข้มข้นต่อเม็ด | 3,000 mcg |
ขนาดรับประทานต่อวัน | 1 เม็ด หลังอาหาร |
7. วิตามินเอ แบรนด์ญี่ปุ่นดีที่สุด – DHC Vitamin A Natural
ราคา 585 บาท
ข้อดี
+ บำรุงดวงตา
+ ฟื้นฟูรอยแผลให้เรียบเนียน
+ วิตามินแบรนด์นี้เป็นที่นิยม
ข้อควรพิจารณา
– แพคเกจพกพาลำบาก
วิตามินเอตัวดังจากญี่ปุ่น เป็นวิตามินที่มีความสำคัญมากๆ ต่อร่างกาย ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานร่างกาย และมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของผิว ช่วยทำให้ผิวหนังฟื้นฟูได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยป้องกันการเสื่อมของเซลล์ และชะลอการเสื่อมของอายุผิว แก้ปัญหาหลุมสิว ฟื้นฟูรอยแผลบนผิว ลดสิวอักเสบ ลดเลือนรอยด่างดำให้ผิวกลับมาเนียนขึ้นอีกด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ
ป้องกันการเกิดมะเร็ง ป้องกันการติดเชื้อของทางเดินหายใจ บำรุงสายตา แก้โรคตามัวในตอนกลางคืน ทำให้มองเห็นได้ชัดขึ้น มิสซี่บอกเลยว่าเหมาะมากๆ กับคนไม่กินผัก แบรนด์นี้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจมากค่ะ เพราะเม็ดเล็กกินง่ายและหาซื้อง่ายมากๆค่ะ
ปริมาณ 30 เม็ด : 585 บาท ( ตกเม็ดละ 19.5 บาท)
รูปแบบ | เม็ด |
ความเข้มข้นต่อเม็ด | 330 mg |
ขนาดรับประทานต่อวัน | 1 เม็ด หลังอาหาร |
8. วิตามินเอ ลดความเครียดดีที่สุด – Codeage ADK Vitamin Supplement
ราคา 1,450 บาท
ข้อดี
+ ได้ 3 วิตามินใน 1 เม็ด
+ ช่วยลดความเครียด
+ การนอนหลับดีขึ้น
ข้อควรพิจารณา
– ราคาสูง
วิตามินเอจากแบรนด์อเมริกา ที่รวมวิตามินที่ร่างกายต้องการมารวมกันใน 1 เม็ด นั่นคือวิตามินเอ วิตามินดี และวิตามินเค ซึ่งวิตามิน A เป็นที่รู้กันว่าช่วยในเรื่องบำรุงดวงตา และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ยังช่วยให้ผิวสวยอีกด้วย ในส่วนของวิตามินดีมีส่วนช่วยลดความเครียด ต้านเศร้า นอนหลับได้ดี ช่วยระบบการทำงานฮอร์โมนดีขึ้น ช่วยให้ดูดซึมแคลเซียมได้ดี ลดโอกาสเกิดโรคกระดูกพรุน เป็นวิตามินที่ได้จากแสงแดด
ทำให้หลายๆ คนละเลยไปค่ะ และมิสซี่บอกเลยที่ปังไม่ไหวคือวิตามินเค หลายๆ คนอาจงงว่าวิตามินเคช่วยอะไร วิตามินเคมีส่วนช่วยการแข็งตัวของเลือด ไม่ให้เลือดไหลมากจนเกินไป ยังช่วยบำรุงเนื้อเยื่อกระดูกให้มีประสิทธิภาพ ดูจากส่วนผสมแล้ววิตามินตัวนี้น่าสนใจมากค่ะ
ปริมาณ 180 แคปซูล : 1,450 บาท ( ตกเม็ดละ 8 บาท)
รูปแบบ | แคปซูล |
ความเข้มข้นต่อเม็ด | 900 mcg |
ขนาดรับประทานต่อวัน | 1 เม็ด หลังอาหารมื้อใดก็ได้ |
9. วิตามินเอ รีวิวดีที่สุด – Now Foods A & D
ราคา 279 บาท
ข้อดี
+ เสริมการมองเห็น
+ บำรุงผิว
+ ราคาไม่แพง
ข้อควรพิจารณา
– สำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น
เป็นวิตามินเอที่ได้รับรีวิวดีที่สุด ผสมวิตามินดี ซึ่งเป็นวิตามินที่สำคัญต่อร่างกาย และมีส่วนช่วยในการสร้างภูมิคุ้มกันร่างกาย ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ตัวนี้จะช่วยให้ประสิทธิภาพในการมองเห็นดีขึ้น สามารถมองในที่มืดและตาสามารถสู้แสงแดดได้มากขึ้น ลดการอักเสบของดวงตา ลดอาการระคายเคืองตาแห้ง ตาล้า
นอกจากนี้ยังมีวิตามินดี ที่จะช่วยกระตุ้นภูมิต้านทาน ช่วยให้การนอนหลับดีขึ้น ป้องกันการเกิดโรคแพ้ภูมิตัวเอง และช่วยการทำงานของระบบฮอร์โมนอีกด้วยค่ะ มิสซี่บอกเลยว่าตัวนี้ปังมากค่ะ เพราะมีทั้งวิตามินเอและแถมวิตามินดีมาอีกด้วยค่ะ
ปริมาณ 100 ซอฟเจล : 279 บาท ( ตกเม็ดละ 2.79 บาท)
รูปแบบ | ซอฟเจล |
ความเข้มข้นต่อเม็ด | 3,000 mcg |
ขนาดรับประทานต่อวัน | 1 เม็ด หลังอาหาร |
10. วิตามินเอ แบรนด์อเมริกาดีที่สุด – Solaray Vitamin A
ราคา 255 บาท
ข้อดี
+ ป้องกันโรคเกี่ยวกับดวงตา
+ ลดจุดด่างดำ ให้ผิวเรียบเนียน
+ เสริมสร้างเนื้อเยื่ออวัยวะต่างๆ
ข้อควรพิจารณา
– ไม่ควรรับประทานในขนาดที่กำหนด
วิตามินตัวนี้ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น ลดการเจ็บป่วยของร่างกาย ลดระยะเวลาในการป่วย เสริมสร้างภูมิต้านทานของการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ช่วยป้องกันการเกิดอาการตาบอดกลางคืน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็น ป้องกัน และรักษาโรคที่เกี่ยวกับดวงตาหลายโรคด้วยกัน ช่วยให้สุขภาพผิว ฟัน เหงือก ผม และกระดูกดีขึ้น
ช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อชั้นนอกของอวัยวะทำให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น แต่ยังไม่หมดเพียงแค่นี้ ยังช่วยให้ผิวสุขภาพดี ลดจุดด่างดำ และริ้วรอยที่เกิดก่อนวัย ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ ทำให้ผิวสุขภาพดี ใครที่เล็งๆ วิตามินเอ ยี่ห้อไหนดี มิสซี่ขอแนะนำตัวนี้เลยค่ะ เพราะวิตามิน A เป็นวิตามินที่ร่างกายขาดไม่ได้เลยค่ะ
ปริมาณ 60 แคปซูล : 255 บาท ( ตกเม็ดละ 4.25 บาท)
รูปแบบ | แคปซูล |
ความเข้มข้นต่อเม็ด | 7,500 mcg |
ขนาดรับประทานต่อวัน | 1 เม็ด พร้อมอาหาร |
11. วิตามินเอ สมานแผลดีที่สุด – Nature’s Way Vitamin A
ราคา 390 บาท
ข้อดี
+ มีสารสกัดจากน้ำมันตับปลา
+ วิตามินบำรุงสายตา
+ สมานแผล ลดรอยแผลเป็นได้ไวขึ้น
ข้อควรพิจารณา
– หาซื้อยาก
ด้วยส่วนผสมของน้ำมันตับปลา และสารสกัดจาก Retinyl Palmitate ที่ช่วยให้ภูมิคุ้มกันดีขึ้น ทำให้อาการป่วยจากโรคต่างๆหายไวขึ้น เสริมสร้างให้เล็บ ฟัน และกระดูกแข็งแรงมากยิ่งขึ้น และยังช่วยบำรุงดวงตา ป้องกันโรคตาฟางในตอนกลางคืน และป้องกันโรคต่างๆที่เกี่ยวกับดวงตา ไม่ว่าจะเป็นกระจกตาเป็นแผล เยื่อบุตาขาว กระจกตาขุ่นเหลว หรือการติดเชื้อที่อาจทำให้ถึงขั้นตาบอดเลยค่ะ
นอกจากนี้ยังช่วยลดการอักเสบของดวงตา อาการตาแห้ง หรืออาการระคายเคืองตาลดลง และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยให้สมานแผลไว ลดรอยแผลเป็น และรอยดำ รอยแดงต่างๆ สาวๆที่มองหาวิตามินเอ ยี่ห้อไหนดี วิตามินตัวนี้ปังมากค่ะ ต้องไปเอฟมาลองแล้วค่ะ
ปริมาณ 100 ซอฟเจล : 390 บาท ( ตกเม็ดละ 3.9 บาท)
รูปแบบ | ซอฟเจล |
ความเข้มข้นต่อเม็ด | 3,000 mcg |
ขนาดรับประทานต่อวัน | 1 เม็ด พร้อมอาหาร |
12. วิตามินเอ บำรุงกระดูก เล็บ ฟันดีที่สุด – Now Foods Ultra A & D3
ราคา 250 บาท
ข้อดี
+ เสริมวิตามินดี
+ บำรุงผิวแบบจัดเต็ม
+ เสริมภูมิคุ้มกันโรคต่างๆ
ข้อควรพิจารณา
– สตรีมีครรภ์ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ ก่อนรับประทาน
เป็นวิตามินที่เหมาะกับเพื่อนๆ ที่ต้องการสารอาหารแบบเร่งด่วนค่ะ เพราะอัดแน่นไปด้วยวิตามินเอแบบจุกๆ ถึง 7,500 mcg ต่อเม็ด เหมาะกับสาวๆ ที่ไม่ชอบกินผัก และไม่ชอบโดนแดด เพราะในวิตามินตัวนี้ มีวิตามินดี3 เสริมเข้ามาด้วย ที่จะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง ลดการเจ็บป่วยในโรคต่างๆ มีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ทำให้ลดโอกาสเกิดมะเร็ง
เสริมสร้างความแข็งแรงให้กระดูก เล็บ ฟัน และผิวพรรณ ให้ดูสุขภาพดี ไม่แก่ก่อนวัยอันควรค่ะ และวิตามินดีที่เสริมมาช่วยส่งเสริมให้ดูดแคลเซียมได้ดี ทำให้ลดการเกิดโรคกระดูกพรุนอีกด้วยค่ะ วิตามินตัวนี้ยังตอบโจทย์สำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับดวงตามากๆด้วยนะ
ปริมาณ 100 ซอฟเจล : 250 บาท ( ตกเม็ดละ 2.5 บาท)
รูปแบบ | ซอฟเจล |
ความเข้มข้นต่อเม็ด | 7,500 mcg |
ขนาดรับประทานต่อวัน | 1 เม็ด พร้อมอาหาร |
วิธีเลือกซื้อวิตามินเอ
วิตามิน A ในรูปแบบอาหารเสริมมีให้เลือกหลายแบรนด์ในหลากหลายความต้องการ เราสามารถเลือกตามหลักเบื้องต้นดังนี้ค่ะ
- เริ่มด้วยการจัดลำดับความสำคัญของอาหารเสริมที่ร่างกายต้องการ
- เลือกจากคุณภาพของส่วนผสมในอาหารเสริม ว่ามีความเข้มข้นเท่าไหร่ มีส่วนประกอบอะไรบ้า
- ปริมาณวิตามิน A ต่อหนึ่งเม็ดมีปริมาณเท่าไหร่ เพื่อเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจว่าเหมาะสมกับที่ร่างกายต้องการหรือไม่
- เลือกจากการดูดซึมของวิตามินตัวนี้เป็นอย่างไร มีส่วนผสมของน้ำมันหรือไขมันหรือไม่ เพื่อช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ดียิ่งขึ้น
- เลือกจากรูปแบบว่าตรงไปตามความต้องการหรือไม่
- เลือกจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียง มีมาตรฐาน หรือมียอดรีวิว ยอดไลค์ที่สูง เปรียบเทียบข้อมูลแต่ละ แบรนด์ เพราะวิตามินเป็นสิ่งที่เรากินเข้าไป ควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือ ทั้งตัวแบรนด์ และตัวร้านค้า เพื่อความมั่นใจ
แหล่งอาหารวิตามินเอสูง
วิตามิน A สามารถพบได้จากอาหารหลายอย่าง ทั้งอาหารได้จากเนื้อสัตว์ อาหารสำเร็จรูปจากสัตว์ ตับ ปลาที่มมีไขมันสูง ไข่ และผลิตภัณฑ์จากนม นั่นคือ ชีสชนิดต่างๆ หรือสามารถพบได้จากผักใบเขียว ผักสีส้มและสีเหลืง ผลไม้ และน้ำมันพืชบางชนิด |
โดยสามารถแบ่งแหล่งอาหารได้ 3 กลุ่มใหญ่ๆด้วยกัน
- วิตามินเอ1 หรือที่เรียกว่า เรตินอล สามารถพบได้จากอาหารประเภทเนื้อสัตว์เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น ปลาที่มีไขมันสูง เช่น ปลาแซลมอน บลูฟินทูน่า ปลาแมคเคอเรล และปลาเทราท์ และจะมีวิตามิน A สูงในอาหารประเภท ตับทุกชนิด น้ำมันตับปลา ชีส และเนย
- วิตามินเอจากแคโรทีนอยด์ เบต้าแคโรทีนและอัลฟาแคโรทีน หรือที่เรียกรวมกันว่าโปรวิตามินเอ ที่ได้จากผัก ไม่ว่าจะเป็น มันเทศ คะน้า กะหล่ำปลี หัวผักกาดเขียว แครอม พริกแดงหวาน ผักโขม และผักกาดหอม
- คนส่วนใหญ่อาจคิดว่าวิตามิน A สามารถได้จากเนื้อสัตว์และผัก แต่จริงๆแล้วในผลไม้ก็สามารถพบได้เช่นกันค่ะ นั่นก็คือ มะม่วง แคนตาลูป ส้มโอ แตงโม มะละกอ แอปริคอท ส้มเขียวหวาน ฝรั่ง และเสาวรส
คำถามที่พบบ่อย
วิตามินเอ กินตอนไหน?
ควรกินพร้อมอาหารหรือหลังอาหาร และควรกินพร้อมอาหารประเภทไขมัน เพราะวิตามินเอเป็นสารที่สามารถละลายได้ดีในไขมัน จะช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารได้ดีที่สุดค่ะ
วิตามินเอรูปแบบใดดีที่สุด?
รูปแบบที่ดีที่สุดของวิตามินเอขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบุคคล และความชอบส่วนบุคคล
แต่ส่วนมากในอาหารเสริมจะเป็นรูปแบบ retinyl acetate หรือ retinyl palmitate ที่มักจะพบในสัตว์
การกินวิตามินเอที่ดีที่สุดคือ กินในรูปแบบอาหารเสริม เพราะสามารถควบคุมปริมาณให้เป็นไปตามที่ร่างกายต้องการต่อวันได้ เนื่องจากเป็นวิตามินที่ไม่ควรกินในปริมาณที่มากเกินไป หากกินเกินปริมาณที่ร่างกายต้องการ อาจทำให้เกิดโทษได้
การกินวิตามินเอในรูปแบบอาหารเสริมจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะไม่ต้องกังวลว่าจะกินมากหรือน้อยจนเกินไป และยังมีในรูปแบบเรตินอลที่สามารถพบได้อาหารจากสัตว์ หรือในรูปแบบเบต้าแคโรทีน ที่ได้จากผักและผลไม้ ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ทานมังสวิรัติ เพราะปราศจากเนื้อสัตว์อีกด้วย
หรือจะเป็นในรูปแบบของที่มีส่วนผสมของน้ำมันตับปลา เพราะมีสารอาหารที่จำเป็นอื่นๆ ทั้ง กรดไขมัน โอเมก้า3 และวิตามินดี แต่สำหรับผู้ที่ต้องการวิตามินเอ หรือขาดสารอาหารไม่เหมาะกับ น้ำมันตับปลาเพราะมีวิตามินเอที่ต่ำกว่ารูปแบบอื่นๆค่ะ
วิตามินเอ กินทุกวันได้ไหม?
สามารถกินวิตามินเอได้ทุกวันในปริมาณ 1,500 – 7,500 mcg ที่ถือเป็นปริมาณที่พอเหมาะที่ร่างกายควรได้รับ
ใครบ้างที่ไม่ควรทานวิตามินเอ?
– เด็กทารกไปจนถึงอายุ 15 ปี ไม่ควรทานวิตามินเอในรูปแบบอาหารเสริมของผู้ใหญ่ แต่สามารถปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อกินวิตามินในรูปแบบอาหารเสริมของเด็กได้ค่ะ
– สตรีมีครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน เพราะหากกินวิตามินเอในปริมาณมาก อาจส่งผลต่อทารกในครรภ์ได้
– สตรีที่ให้นมบุตรควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ เพราะอาจส่งผลให้ทารกได้ค่ะ
จบไปแล้วกับการแนะนำวิตามินเอ ตัวไหนดี ตัวไหนปัง เป็นอย่างไรกันบ้างคะ อยากพุ่งตัวไปเอฟกันเลยใช่ไหมคะ เพราะเป็นวิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกายจนไม่น่าเชื่อเลยนะคะ เป็นทางเลือกที่ดี สำหรับเพื่อนๆ ที่มีภาวะขาดวิตามินเอ ต้องการเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ หรือต้องการเสริมสร้างสุขภาพดวงตา
แต่ควรกินตามปริมาณที่กำหนดวันละไม่เกิน 1,500 – 7,500 mcg ต่อวันนะคะ เพราะถ้าทานมากเกินไปร่างกายดูดซึมไม่หมด สามารถไปสะสมที่ตับได้ค่ะ หรือควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อลดความเสี่ยงในการรับวิตามินในปริมาณที่ไม่เหมาะสมกับร่างกาย
และอาหารเสริมวิตามินเอในรูปแบบเบต้าแคโรทีนยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับเพื่อนๆ ที่ทานมังสวิรัติอีกด้วยนะคะ หรือสามารถรับวิตามิน A ได้จากน้ำมันตับปลาเพื่อบำรุงสายตาได้อีกด้วย
แต่มิสซี่ต้องบอกเลยว่าร่างกายของคนเรามีความแตกต่างกัน รวมไปถึงการดูดซึมของร่างกาย ของแต่ละคนไม่เหมือนกันนะคะ ควรเลือกวิตามินที่เข้ากับร่างกายตัวเองมากที่สุด หวังว่าจะเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจไปเลือกซื้อกันนะคะ แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกวิตามินเอ ยี่ห้อไหนดี อยากให้ลองเอฟมากินซักตัวค่ะ
อ้างอิง
https://www.webmd.com/vitamins/ai/ingredientmono-964/vitamin-a
https://greatist.com/health/best-vitamin-a-supplement#best-supplements-list
https://www.healthline.com/nutrition/best-vitamin-a-supplement#vitamin-a-basics
https://www.healthline.com/nutrition/best-vitamin-brands#our-picks
https://www.medicalnewstoday.com/articles/14-best-vitamin-brands#14-of-the-top-brands