รีวิว 10 ครีมกันแดดทาหน้า ยี่ห้อไหนดี 2023 กันน้ำ ไม่อุดตัน [ข้อดี-ข้อเสีย]

รู้หรือไม่! เรื่องของแดดไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้ามอย่างยิ่งสำหรับสาว ๆ ในประเทศโซนร้อนอย่างเรา นอกจาก ครีมกันแดดต่างๆ ครีมกันแดดทาตัว ครีมกันแดดสําหรับคนเป็นสิว กันแดดสําหรับผิวแพ้ง่าย สเปรย์กันแดด กันแดดผสมรองพื้น

แล้ววันนี้ มิสซี่จึงขนเอาขบวนรายชื่อ 10 ครีมกันแดดทาหน้า ยี่ห้อไหนดี ที่สามารถจะเข้ามาช่วยปกป้องผิวหน้าของของเพื่อน ๆ กับบรรดารายการครีมกันแดดทาหน้า พร้อมคุณสมบัติต่าง ๆ ปกป้องจากรังสีตัวร้ายทั้ง UVA, UVB และ UVC ที่เป็นตัวการสำคัญทำลายผิว เพราะฉะนั้นการเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพจึงไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ

แล้วสงสัยไหมว่าจะเลือกอย่างไร ยี่ห้อไหนดี สำหรับผิว และไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของแต่ละคน มิสซี่ก็ไม่พลาดที่จะรวมเอารายชื่อ face sunscreen ที่ดีที่สุดมาฝากเพื่อนสาวของเรา ไปดูกันค่ะว่ามีตัวไหนน่าสนใจบ้าง

TOP 3 ครีมกันแดดทาหน้าที่ดีที่สุด

#1 SHISEIDO ANESSA Perfect UV Sunscreen Skincare Milk SPF 50+ PA++++

SHISEIDO ANESSA Perfect UV Sunscreen Skincare Milk SPF 50+ PA++++

ราคา 950 บาท

#2 Kiehl’s UltraLight Daily UV Defense Aqua Gel SPF 50 PA++++

Kiehl's UltraLight Daily UV Defense Aqua Gel SPF 50 PA++++

ราคา 2,250 บาท

#3 La Roche-Posay ANTHELIOS ULTRA CREAM SPF50+ PA++++

La Roche-Posay ANTHELIOS ULTRA CREAM SPF50+ PA++++

ราคา 1,300 บาท

ตารางเปรียบเทียบ “ครีมกันแดดทาหน้า ยี่ห้อไหนดี”

ชื่อสินค้า

SHISEIDO ANESSA Perfect UV Sunscreen Skincare Milk SPF 50+ PA++++

Kiehl’s UltraLight Daily UV Defense Aqua Gel SPF 50 PA++++

La Roche-Posay ANTHELIOS ULTRA CREAM SPF50+ PA++++

Eucerin Sun CC Cream Acne Oil Control SPF50+ PA++++

Lancome UV Expert XL-Shield Fresh UV Aqua Gel SPF 50 PA++++

Biore UV Aqua Rich Watery Essence Micro Defense SPF 50+ PA++++

SpectraBan SPF50+ /PA+++

Shiseido The Perfect Protector SPF50+ PA++++

MizuMi UV Water Defense PRO SPF 50+ PA++++

Laneige Watery Sun Cream SPF 50+ PA++++

รูปสินค้า

คุณสมบัติ

  • ออกแดดผิวไม่คล้ำลง

  • เนื้อน้ำนม เกลี่ยง่ายมาก

  • กันน้ำ กันเหงื่อดีมาก

  • ป้องกันแดดดีมาก แม้กลางแจ้งผิวก็ไม่แดง

  • ไม่อุดตันง่าย

  • เนื้อเจลบางเบา ซึมง่าย

  • ผิวบอบบาง แพ้ง่ายใช้ได้

  •  ใช้แล้วหน้าชุ่มชื้น

  • หัวปั๊ม ใช้งานง่าย

  • สีเบจช่วยในการปกปิดรอยต่าง ๆได้

  • ช่วยเรื่องสิวระดับหนึ่ง

  • เนื้อเกลี่ยง่าย กลืนไปกับผิว

  • ช่วยเรื่องคุมมัน

  • เนื้อเบา ละเอียด เกลี่ยง่าย

  • มีสารบำรุงผิวหน้า

  • เนื้อซึมง่ายมาก

  • เเหมาะกับคนที่นั่งทำงานในออฟฟิศ

  • ราคาถูก ใช้ 2 ข้อนิ้วได้แบบไม่เปลือง

  • ใช้กลางแจ้งช่วยผิวไม่แสบแดงได้จริง

  •  ไม่มีน้ำหอม

  • เนื้อครีมทำให้ผิวชุ่มชื้น

  • กันแดดดีมากก ติดทน หน้าไม่คล้ำขึ้นเลย

  • แต่งหน้าทับได้ ไม่รบกวนเมคอัพ

  • ซึมลงผิวทันที 

  • มีสารช่วยบำรุงผิว

  • เหมาะสำหรับผิวบอบบาง แพ้ง่าย

  • ราคาประหยัด

  • แห้งไว ไม่เหนียว ไม่มัน

  • ไม่มีแอลกอฮอล์

  • ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดี

ราคาเต็ม

950 บาท

2,250 บาท

1,300 บาท

1,400 บาท

2,300 บาท

420 บาท

1,015 บาท

1,550 บาท

890 บาท

950 บาท

ปริมาณ

60 ml

60 ml

50 ml

50 ml

30 ml

50 g

100 g

50 ml

40 g

50 ml

ตก ml / g ละ

15.8 บาท

37.5 บาท

26 บาท

28 บาท

76.6 บาท

8.4 บาท

10.1 บาท

31 บาท

22.2 บาท

19 บาท

ความคุ้มค่า

เช็คส่วนลดที่

เลือกซื้อ ครีมกันแดดทาหน้า ยี่ห้อไหนดี

1.     ครีมกันแดดทาหน้า โดยรวมดีที่สุด : SHISEIDO ANESSA Perfect UV Sunscreen Skincare Milk SPF 50+ PA++++

SHISEIDO ANESSA Perfect UV Sunscreen Skincare Milk SPF 50+ PA++++

ราคา 950 บาท

ข้อดี
+ ราคาประหยัด
+ เมื่อออกแดดผิวไม่คลำลง
+ ทำงานได้ดีเมื่อเจอเหงื่อ และน้ำ

ข้อเสีย
– มีความมันเล็กน้อย
– ไม่ช่วยเรื่องของเมคอัพที่ติดทน

กันแดดไม่เหนียว หน้าไม่เทา ราคาไม่แพง ตัวนี้ฮิตมากกก ยอดขายถล่มทลาย กับประสิทธิภาพของการป้องกันจากแสงแดดด้วยเนื้อน้ำนม ที่เหมาะกับทุกสภาพผิว มาพร้อมนวัตกรรมเฉพาะในแบบ  “Anessa Triple Defense” ที่จะทำงานได้ดีขึ้น เมื่อเจอความร้อน และเหงื่อ หรือน้ำ อีกทั้งพ่วงมาด้วยส่วนประกอบบำรุงผิว เพื่อน ๆ ที่ต้องการคำตอบว่าครีมกันแดดทาหน้า ยี่ห้อไหนดี ตัวนี้เป็นคำตอบที่ครอบคลุมดีที่สุดตัวหนึ่งก็ว่าได้

ปริมาณ 60 ml : ราคา 950 บาท (ตก ml ละ 15.83 บาท)

ส่วนประกอบสำคัญopantasiloxana, Isododecane, octocrylene
เนื้อสัมผัสน้ำนม
ประสิทธิภาพกันแดด SPF 50 PA ++++
กันน้ำกันเหงื่อ
เหมาะกับทุกสภาพผิว

2.  ครีมกันแดดทาหน้า ไม่เหนียว หน้าไม่เทาที่ดีที่สุด :  Kiehl’s UltraLight Daily UV Defense Aqua Gel SPF 50 PA++++

Kiehl's UltraLight Daily UV Defense Aqua Gel SPF 50 PA++++

ราคา 2,250 บาท

ข้อดี
+ ป้องกันแดดอย่างทนทาน แม้กลางแจ้งผิวก็ไม่แดง 
+ เนื้อเป็นกึ่งเจล ทำให้ซึมง่าย
+ ไม่อุดตันง่าย

ข้อเสีย
– ระวังของลอกเลียนแบบ
– ราคาในระดับค่อนไปทางสูง

กันแดดสำหรับผิวมันที่เหล่าบิ้วตี้บล็อกเกอร์หลายคนแนะนำ ด้วยประสิทธิภาพ และการทำหน้าที่อย่างเสถียรภาพ ช่วยยับยั้งการเปลี่ยนสีของผิวได้จริง แม้ว่าจะต้องไปอยู่กลางแจ้งในระยะเวลานาน ก็ไม่ส่งผลให้ผิวคล้ำ หรือแดงขึ้นด้วย มาพร้อมเนื้อบางเบา ซึมง่าย จัดว่าเป็น ครีมกันแดดทาหน้า ไม่เหนียว ทำให้การป้องกันเข้าซึมลึกถึงชั้นผิว ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน จึงใช้ได้แม้คนที่เป็นสิวง่าย และสาว ๆ ที่เป็นสิว หรือเกิดสิวได้ง่าย ใครที่มองหากันแดดทาหน้า ยี่ห้อไหนดี สำหรับคนผิวมัน ต้องตัวนี้เลยค่ะ!

ปริมาณ 60 ml : ราคา 2,250 บาท (ตก ml ละ 37.5 บาท)

ส่วนประกอบสำคัญScutellarin Root Extract
เนื้อสัมผัสเจล
ประสิทธิภาพกันแดด SPF 50 PA ++++
กันน้ำกันเหงื่อ
เหมาะกับผิวมัน ผิวผสม

3.   ครีมกันแดดทาหน้า ผิวแพ้ง่ายที่ดีที่สุด : La Roche-Posay ANTHELIOS ULTRA CREAM SPF50+ PA++++

La Roche-Posay ANTHELIOS ULTRA CREAM SPF50+ PA++++

ราคา 1,300 บาท

ข้อดี
+ ผิวบอบบาง แพ้ง่ายใช้ได้ ไร้กังวล
+ หัวปั๊มใช้งานง่าย
+ เหมาะกับผิวแห้ง ใช้แล้วหน้าชุ่มชื้น

ข้อเสีย
–  เนื้อจะเหนียวสำหรับผิวมัน
– ไม่เหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้ง

ครีมกันแดดที่มาพร้อมความอ่อนโยนขั้นสุด ที่สามารถใช้งานได้ทั้งจุดบอบบางอย่างรอบดวงตา กับแบรนด์ของโซนฝรั่งเศส ด้วยการเลือกใช้สารเคมีเพื่อป้องกันแดดในปริมาณตามการใช้งานจริง ลดการใช้เคมีลงไปเยอะ แม้ว่าจะเป็นเนื้อครีมก็ไม่ทำให้เกิดคราบบนใบหน้า กันน้ำ และเหงื่อได้อย่างดีเยี่ยมด้วยลิขสิทธิ์ที่คิดค้นมาเฉพาะ หมดห่วงสำหรับคนที่ผิวแห้ง แพ้ง่ายที่กำลังตามหา ครีมกันแดดทาหน้าสำหรับผิวแพ้ง่ายตัวปัง อยู่นะคะ

ปริมาณ 50 ml : ราคา 1,300 บาท (ตก ml ละ 26 บาท)

ส่วนประกอบสำคัญDIISOPROPYL SEBACATE, ISOPROPYL MYRISTATE, ETHYLHEXYL SALICYLATE
เนื้อสัมผัสครีมเหลว
ประสิทธิภาพกันแดด SPF 50+ PA ++++
กันน้ำกันเหงื่อ
เหมาะกับผิวแห้ง, ผิวแพ้ง่าย บอบบาง

4.ครีมกันแดดทาหน้า เหมาะกับผิวมันที่ดีที่สุด : Eucerin Sun CC Cream Acne Oil Control SPF50+ PA++++

Eucerin Sun CC Cream Acne Oil Control SPF50+ PA++++

ราคา 1,400 บาท

ข้อดี
+ เป็นเวชสำอางค์ มีความปลอดภัย
+ สีเบจช่วยในการปกปิดรอยต่าง ๆ
+ ช่วยเรื่องรักษาสิวได้ดีระดับหนึ่ง

ข้อเสีย
– ผสมสีเบจ อาจจะทำให้ไม่เข้ากับทุกสีผิว
– อาจจะไม่เหมาะกับคนที่ผิวแห้งเท่าไหร่

ตัวกันแดดตัวนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นตัวช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดเท่านั้น  แต่มากด้วยคุณสมบัติที่เหมาะสำหรับคนที่เป็นสิว เพราะว่าเป็นเจลที่มีสีเบจ อาจจะไม่ใช่กันแดดผสมรองพื้นสะทีเดียว แต่สีเบจทำให้ช่วยปกปิดรอยดำ รอยแดงจากสิว มีสารที่เข้ามาช่วยรักษาสิวไปด้วยในตัว และเป็นตัวครีมกันแดดหน้าขาวขึ้นได้ด้วยสีเบจ ซึ่งแบรนด์นี้เป็นเวชสำอางที่ไว้วางใจได้จากการแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังของใบหน้า ซึ่งตอบโจทย์สำหรับสาวที่กำลังเป็นสิว เพื่อน ๆ ที่กำลังมองหาครีมกันแดดทาหน้าสำหรับคนเป็นสิว ยี่ห้อไหนดี บอกเลยตัวนี้ไม่ผิดหวัง

ปริมาณ 50 ml : ราคา 1,400 บาท (ตก ml ละ 28 บาท)

ส่วนประกอบสำคัญGlycyrrhetinic Acid, Licochalcone A
เนื้อสัมผัสเจล
ประสิทธิภาพกันแดด SPF 50+ PA ++++
กันน้ำกันเหงื่อ
เหมาะกับผิวมัน ผิวเป็นสิว

5.ครีมกันแดด เคาน์เตอร์แบรนด์ที่ดีที่สุด : Lancome UV Expert XL-Shield Fresh UV Aqua Gel SPF 50 PA++++

Lancome UV Expert XL-Shield Fresh UV Aqua Gel SPF 50 PA++++

ราคา 2,300 บาท

ข้อดี
+ ไม่เสี่ยงต่อการระคายเคือง
+ ช่วยเรื่องคุมมันของผิว
+ เนื้อเบา ละเอียด เกลี่ยง่าย

ข้อเสีย
– ราคาสูง
– ผิวยังคลำได้เมื่อเจอแดดจัด

กันแดดมาแรงในกลุ่มของเคาน์เตอร์แบรนด์ชั้นนำ ซึ่งตัวนี้เป็นเนื้อเจลที่เคลมว่าคุมมันได้ดีเยี่ยม เป็น ครีมกันแดด หน้ามัน สร้างมาเพื่อผิวมันโดยเฉพาะก็ว่าได้ และยังไม่ก่อให้เกิดการแพ้ได้อีก เพราะว่า Paraben-free, Sulphate-free และยังมีส่วนผสมที่เข้ามาช่วยบำรุงผิวหน้าให้สว่างจากวิตามินอีเพิ่มขึ้น บอกเลยว่าคนที่ส่อง ครีมกันแดดเคาน์เตอร์แบรนด์ ยี่ห้อนี้ทำมาออกมาได้ไม่ผิดหวังในเรื่องของความ Hi End นับว่าเป็นอีกตัวที่กำลังมาแรง สาว ๆ คนไหนที่กำลังมองหาครีมกันแดดทาหน้า ยี่ห้อไหนดี ในระดับเคาน์เตอร์แบรนด์เลือกใช้งานตัวนี้ได้เลย

ปริมาณ 30 ml : ราคา 2,300 บาท (ตก ml ละ 76.67 บาท)

ส่วนประกอบสำคัญEdelwiss Flower, Mint, Vitamin E
เนื้อสัมผัสเจล
ประสิทธิภาพกันแดด SPF 50 PA ++++
กันน้ำกันเหงื่อ
เหมาะกับผิวมัน

6. ครีมกันแดดทาหน้าแบรนด์ญี่ปุ่นที่ดีที่สุด : Biore UV Aqua Rich Watery Essence Micro Defense SPF 50+ PA++++

Biore UV Aqua Rich Watery Essence Micro Defense SPF 50+ PA++++ ครีมกันแดดทาหน้า ยี่ห้อไหนดี

ราคา 420 บาท

ข้อดี
+ ราคาถูก
+ เนื้อซึมง่ายมาก
+ เหมาะกับคนที่นั่งทำงานในออฟฟิศที่ไม่ต้องการหนักหน้า

ข้อเสีย
– ขนาดสินค้ามีให้เลือกน้อย
– สีผิวดรอปลงเมื่อเจอแดดจัด

กันแดดที่น้อยแบรนด์จะทำในสูตรเนื้อเอสเซ้นส์ที่เป็นเหมือนน้ำตบใส ๆ แต่มาพร้อมความเข้มข้นของประสิทธิภาพในการป้องกันผิวจากแสงแดด ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด กักเก็บความชุ่มชื้นในแบบแคปซูลในชั้นผิว ทำให้ได้รับการปกป้องตลอดเวลา เพราะว่าเมื่อผิวต้องการการปกป้อง มันจะแตกตัวออก เพื่อครอบผิวเอาไว้ เป็นกันแดดที่มีความบางเบาที่สุดแล้ว ครีมกันแดดทาหน้า ไม่เหนียว เพราะเป็นน้ำ จึงเหมาะกับทุกสภาพผิวอย่างแท้จริง เพื่อน ๆ ที่ไม่ชอบกันแดดที่เหนียวหน้า ได้คำตอบแล้วว่าครีมกันแดดทาหน้า ยี่ห้อไหนดี

ปริมาณ 50 g : ราคา 420 บาท (ตกกรัมละ 8.4 บาท)

ส่วนประกอบสำคัญUV Aqua Jelly Capsule
เนื้อสัมผัสสูตรน้ำ เนื้อเอสเซ้นส์
ประสิทธิภาพกันแดด SPF 50+ PA ++++
กันน้ำกันเหงื่อ
เหมาะกับทุกสภาพผิว

7. ครีมกันแดดทาหน้า พกไปทะเลที่ดีที่สุด : SpectraBan SPF50+ /PA+++

SpectraBan SPF50+ /PA+++

ราคา 1,015 บาท

ข้อดี
+ เนื้อครีมทำให้ผิวชุ่มชื่น
+ เหมาะกับคนที่แพ้น้ำหอม
+ ใช้กลางแจ้งช่วยผิวไม่แสบแดงได้จริง

ข้อเสีย
– มีความเหนียมในระดับหนึ่ง
– ไม่เหมาะกับผิวมันเท่าไหร่ มีความเยิ้ม

ครีมกันแดดที่ออกแบบมาเพื่อสาว ๆ ที่ต้องเผชิญอยู่ท่ามกลางแสงแดดในระยะเวลายาวนาน ไม่ว่าจะกิจกรรมกลางแจ้งรูปแบบใด ตัวนี้จะช่วยปกป้องผิวได้อย่างดี อีกทั้งเป็นสูตรที่อ่อนโยน ไม่มีน้ำหอม ผู้ที่แพ้ง่ายจึงใช้งานได้อย่างสบายใจอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้นยังเป็นตัวกันเดดที่แพทย์แนะนำใช้มากที่สุด ในครีมกันแดด ทาหน้าไม่แพง ทั้งไลน์ใบหน้า และครีมกันแดดทาตัว สำหรับคนที่ยังไม่เจอครีมกันแดดทาหน้า ยี่ห้อไหนดี ลองมารู้จักกับตัวนี้ก็อาจจะได้คำตอบที่ต้องการ

ปริมาณ 100 g : ราคา 1,015 บาท (ตกกรัมละ 10.15 บาท)

ส่วนประกอบสำคัญMicrofine Zinc Oxide Coated with dimethicone 10%, Butyl Methoxy Dibenzoylmethane 1%
เนื้อสัมผัสครีม
ประสิทธิภาพกันแดด SPF 50 PA +++
กันน้ำกันเหงื่อ
เหมาะกับทุกสภาพผิว

8.ครีมกันแดดทาหน้า หน้าไม่เทาที่ดีที่สุด : SHISEIDO The Perfect Protector SPF50+ / PA++++ SynchroShield WetForce x HeatForce

SHISEIDO The Perfect Protector SPF50+ / PA++++ SynchroShield WetForce x HeatForce

ราคา 1,550 บาท

ข้อดี
+ ซึมลงผิวทันที ไม่ต้องรอนาน
+ ป้องกันแสงแดดได้ไม่ยาวนานเท่าไหร่
+แต่งหน้าทับไป ไม่เปลี่ยนสีผิว

ข้อเสีย
– เนื้อครีม จึงต้องเกลี่ยอย่างระวัง

กันแดดในตำนานที่ว่ากันว่าทาแล้วสบายผิว ซึมไว กันแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพชั้นยอดเยี่ยม เคาน์เตอร์แบรนด์ในราคาเอื้อมถึง สำหรับสาว ๆ ที่ต้องการกันแดดอย่างมีระดับ ครีมกันแดดระดับเคาน์เตอร์แบรนด์ ตัวนี้จะเป็นอีกหนึ่งครีมที่จะเข้ามาช่วยปกป้องผิวจากแดดประเทศไทยได้อย่างมั่นใจ เพื่อน ๆ ที่กำลังส่องหาครีมกันแดดทาหน้า ยี่ห้อไหนดี แบรนด์นี้ก็ไม่ควรมองข้าม

ปริมาณ 50 ml : ราคา 1,550 บาท (ตก ml ละ 31 บาท)

ส่วนประกอบสำคัญSulphate-free, Vitamins, BHAs/Salicylic Acid, Anti-oxidants
เนื้อสัมผัสครีม
ประสิทธิภาพกันแดด SPF 50+ PA ++++
กันน้ำกันเหงื่อ
เหมาะกับทุกสภาพผิว

9. ครีมกันแดดทาหน้า ไม่แพง แบรนด์ไทยที่ดีที่สุด : MizuMi UV Water Defense PRO SPF 50+ PA++++

MizuMi UV Water Defense PRO SPF 50+ PA++++

ราคา 890 บาท

ข้อดี
+ มีวิตามินช่วยบำรุงใบหน้า
+ ราคาประหยัด
+ สีขาว ซึมเข้าผิว ไม่ทำให้หน้าลอย

ข้อเสีย
– ผิวเปลี่ยนแดง เมื่อแดดจัด
– ต้องมาก่อนออกแดดระยะ 30 นาที

กันเดดหน้าไม่เทา สัญชาติไทยที่กำลังมาแรง ติดตลาด ด้วยสารสกัดสารพัดที่ผสมผสานอย่างลงตัว มีการเสริมวิตามิน เพื่อช่วยบำรุงผิวในคราเดียว และที่สำคัญราคาไม่แรง พร้อมทั้งเคลมว่าเหมาะสำหรับผิวบอบบาง แพ้ง่าย เหมาะมากกับคนที่หา ครีมกันแดดหน้า ผิวแพ้ง่าย ตัวนี้สำหรับคนที่ผิวหน้ามีความอ่อนแอ ก็สามารถที่จะใช้ได้ เพื่อนสาวที่ต้องการหาครีมกันแดดทาหน้า ยี่ห้อไหนดี มาสู้แดดประเทศไทย ตัวนี้ก็ใช้งานได้ดีไม่แพ้กัน

ปริมาณ 40 g. : ราคา 890 บาท (ตกกรัมละ 22.25 บาท)

ส่วนประกอบสำคัญZince Oxide, Titanium Dioxide, Uji Tea Extract, Vitamin C, Vitamin E, and Pollustop
เนื้อสัมผัสเซรั่ม
ประสิทธิภาพกันแดด SPF 50+ PA ++++
กันน้ำกันเหงื่อ
เหมาะกับผิวแพ้ง่าย บอบบาง

10. ครีมกันแดดทาหน้าสำหรับผิวแห้งที่ดีที่สุด :  Laneige Watery Sun Cream SPF 50+ PA++++

Laneige Watery Sun Cream SPF 50+ PA++++

ราคา 950 บาท

ข้อดี
+ ช่วยเติมความชุ่มชื่นให้ผิวได้ดี
+ มีส่วนผสมของน้ำมันมิเนรัลเข้ามาร่วมบำรุง
+ ทนต่อเหงื่อ และน้ำได้ดี

ข้อเสีย
– อาจจะเหนียวไปสำหรับผิวมัน
– สีโทนเหลือง ผิวคล้ำมากต้องระวังหน้าลอย

ครีมกันแดดที่มาพร้อมสารเติมความชุ่มชื้น ช่วยทำให้ผิวที่แห้งยังคงมีความชุ่มฉ่ำอยู่ แต่เป็นตัวที่อาจจะเสี่ยงแพ้ได้ในคนที่ไม่ถูกกับน้ำหอม ตัวนี้ไม่มีแอลกอฮอล์จึงทำให้อัตราความเสี่ยงแพ้ไม่สูงมาก อีกทั้งยังเป็นเคาน์เตอร์แบรนด์ที่ราคากำลังดีเลย สาว ๆ ที่ผิวแห้งกำลังมองหา ครีมกันแดดทาหน้า ยี่ห้อไหนดี บอกเลยว่าแบรนด์นี้ตอบโจทย์

ปริมาณ 50 ml : ราคา 950 บาท (ตก ml ละ 19 บาท)

ส่วนประกอบสำคัญAscorbyl Glucoside,Pca, Arginine, Serine
เนื้อสัมผัสน้ำกึ่งเจล
ประสิทธิภาพกันแดด SPF 50+ PA ++++
กันน้ำกันเหงื่อ
เหมาะกับผิวแห้ง ผิวธรรมดา

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับครีมกันแดดทาหน้า

วิธีการเลือกครีมกันแดดทาหน้ายังไง

การเลือกใช้ครีมกันแดดต้องประกอบด้วยหลายปัจจัย แบ่งได้  3 หัวข้อสำคัญต่อไปนี้

  • ประสิทธิภาพการใช้งาน
  • ประเภทของครีมกันแดด
  • สภาพผิว

สาว ๆ ชาวไทยที่ต้องท้าแดดที่ร้อนแรงของบ้านเรา ก็ควรต้องเลือกใช้ตัวที่มีค่า SPF ในระดับ 30 + หรือทางที่ดีใช้ ระดับ 50 เริ่มต้น และมาพร้อมกับค่า PA ในระดับ 3 บวก เป็นขั้นเริ่มต้น ไม่เพียงเท่านั้นผลิตภัณฑ์กันแดดจะต้องทำงานควบคู่ไปกับการเข้ากันได้ต่อสภาพผิวของแต่ละบุคคลที่ต่างกันไป เพื่อทำให้การใช้ครีมกันแดดมีคุณประโยชน์ และไม่แฝงมาด้วยผลกระทบ หรือผลข้างเคียง มิสซี่จึงอยากพาสาว ๆ มาเรียนรู้ข้อมูลของแต่ละคุณสมบัติในกัน

1.ประสิทธิภาพของการใช้งาน

ก่อนอื่นสาว ๆ จะต้องรู้จักกับตัวเองก่อนเลยว่ามีความต้องการประสิทธิภาพของการป้องกันในระดับใด เพราะว่าเรื่องของการปกป้องผิวจากแดดจะมีความต่างกันไปตามกิจกรรมของแต่ละบุคคล ด้วยไลฟ์สไตล์ที่จะทำให้ต้องพบเจอแสงแดดต่างกัน จึงต้องเลือกใช้งานที่ต่างกันด้วย ตัวอย่างเช่น มนุษย์ออฟฟิศ แม่บ้าน หรือ สายกิจกรรมกลางแจ้ง ในส่วนนี้จึงต้องพิจารณากันที่คุณสมบัติต่อไปนี้

  • ค่า SPF – สาวไทยควรเลือกที่ค่า SPF 30 – 50 สำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อให้การป้องกันแสงแดดต่อการเผาไหม้ผิวของเราสมดุล ค่านี้สำคัญมาอันดับแรก เพราะว่ามันจะบ่งบอกถึงอัตราการปกป้องผิวเราเมื่อเจอแสงแดดได้นานเท่าไหร่ 

ส่วนมากตามท้องตลาดจำหน่ายที่ ค่า SPF 30 – 100 ซึ่ง หากค่าอยู่ที่ 30 จะช่วยดูดซับที่ 96.7 % และค่า 50 อยู่ที่ 98 % ซึ่งการดูดซับเรื่องของผิวไหม้นี้จะมีค่าเวลาคำนวณง่าย ๆ คือ ค่าเท่าไหร่ ให้คูณด้วย 15 แล้วจะได้ช่วงเวลาที่เราสามารถเผชิญแดดได้ 

ตัวอย่างคือ ค่าอยู่ที่ SPF 6 ( 6 x 15 = 90 ) จึงเท่ากับว่าถ้ายืนกลางแดดผิวจะไหม้ใน 90 นาที เป็นต้น แต่ค่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นในการป้องกัน จึงต้องพิจารณาส่วนอื่น ๆ ประกอบด้วย
  • การป้องกันรังสี – ประเภทรังสีที่จะอยู่ในแสงแดดมีด้วยกัน 3 ชนิด คือ UVA UVB และ UVC รังสีทั้งสามตัวนี้ ทำลายชั้นผิวที่ต่างกันไป
    • ตัวที่ร้ายกาจที่สุดจะเป็น UVA ที่จะคลื่นแรงยาวที่สุด ทำร้ายชั้นผิวลึกสุดถึง หนังกำพร้า หนังแท้ได้เลย ทำลายคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้หน้าเหี่ยว แก่ก่อนวัย ผิวคล้ำ ดำ ไม่สดใส ทำให้รังสีในแดดที่น่ากลัวที่สุด และจะต้องป้องกันมากที่สุดคือตัวนี้ ซึ่งสิ่งที่จะช่วยได้คือค่า SPF และ PA ตามที่กำหนดข้างบน ควรจะต้องอยู่ที่ 50 เป็นต้นไป เพราะว่าแดดประเทศไทยร้อนแรงอย่างที่สุด
    • ต่อมาตัว UVB จะทำลายได้ต่ำกว่าตัว A ผลของมันจะทำลายความชุ่มชื้นของผิว ทำให้ผิวแห้ง ไหม้ แดง แสบได้เลย และเจ้าตัวนี้ละที่จะทำให้เกิดฝ้า กระได้ คนที่ผิวแห้งอยู่แล้ว จึงควรระวังรังสีตัวนี้ให้ดีที่สุด ควรเลือกกันแดดที่มาพร้อมกับการเคลมว่าสามารถป้องกันรังวี UVB เอาไว้ด้วย พร้อมทั้งเสริมความชุ่มชื้นเข้าผิวให้มากที่สุด
    • ตัวสุดท้ายที่เมื่อก่อนเข้ามาถึงตัวของทุกคน เพราะว่ามีชั้นกรองในอวกาศ แต่ตอนนี้ด้วยภาวะโลกร้อนที่ทำให้ชั้นโอโซนมีรูรั่ว จึงมีรังสี UVC เข้ามาถึงโลกแล้ว ทำให้ผิวที่ถูกทำร้ายเกิดการระคายเคือง ผื่นแดง ผิวคล้ำได้ด้วยเช่นกัน จึงต้องเลือกที่เป็นครีมกันแดดที่มีค่าป้องกันรังสีทั้ง 3 ตัวนี้ระบุเอาไว้ด้วย
  • ค่า PA เชื่อว่าสาว ๆ จะต้องพอได้ยินคำนี้กันอยู่แล้วกับค่าที่ระบุบนครีมกันแดดหลายยี่ห้อเลย ซึ่งตัวนี้คือค่าวัดอัตราความเปลี่ยนแปลงของสีผิวเมื่อเจอแดดที่มี UVA ยิ่งเยอะเท่าไหร่ ก็ป้องกันความหมองคล้ำได้ดี ค่านี้จะเกี่ยวโยงกับค่า UVA อีกด้วย ค่า PA มีระดับตั้งแต่ 1 – 16 โดยที่จะเป็นค่าบวกกำกับเอาไว้ แบ่งได้ 4 ขั้น ได้แก่
ระดับ 1- 3 เป็นการป้องกันเริ่มต้น ระบุแทนค่าด้วย PA +
ระดับ 4-7 เป็นการป้องกันระดับกลาง ระบุแทนค่าด้วย PA ++
ระดับ 8 -15 ป้องกันได้ระดับสูง ระบุแทนค่าด้วย PA +++
ระดับ 16 + ป้องกันได้ระดับสูงสุด ระบุแทนค่าด้วย PA ++++

2. ประเภทของครีมกันแดด

ตัวผลิตภัณฑ์กันแดดนั้น จะมาพร้อมกับคุณสมบัติที่ต่างกันไปตามประเภทของมันด้วย ซึ่งมีทั้งหมด 3 รายการ ได้แก่

  • Physical Sunscreen – ตัวนี้จะเป็นตัวแร่ที่เข้ามาสร้างเกราะป้องกันผิว พเอที่จะสะท้อนเอายูวีออกไป ทั้งรังสี UVA UVB ให้ไม่สามารถเข้าถึงชั้นผิวหนังได้ ด้วยการทำงานของตัวสารอย่าง Zinc Oxide และ Titanium Dioxide ซึ่งทั้งสองตัวนี้จะบอบบางต่อผิวอย่างมาก ใช้ได้แม้สาว ๆ ที่กำลังตั้งครรภ์ เด็ก แถมยังปลอบประโลมผิว ทำให้ผิวที่เป็นสิวมีอาการที่ดีขึ้น อาจจะเนื่องจากความเป็นแร่ที่มาจากธรรมชาติ จึงไม่ก่อให้ผิวอักเสบ
  • Chemical Sunscreen – สำหรับสารกันแดดในตัวครีมตัวนี้จะเป็นรูปแบบของเคมี ที่ทำหน้าที่ดูดซับรังสี UVA และ UVB เอาไว้ ด้วยการทำงานของตัวเคมีที่เลือกใช้งานต่างกันไปตามแต่ละยี่ห้อ หลัก ๆ จะมีได้แก่ Oxybenzone, Octisalate , Avobenzone, Octocrylene, Octinoxate, Homosalate ที่เข้ามาทำงานให้การป้องกันผิวกับแดดมีการซับเอาไว้ได้อย่างหมดจดที่สุด ซึ่งตัวนี้อาจจะเกิดการแพ้ได้ในกลุ่มของผิวที่บอบบางมาก ๆ แต่สำหรับผิวปกติก็ใช้งานได้ และประเภทนี้จะมีขายตามท้องตลาดมากที่สุดด้วย ข้อดีของมันอีกอย่างคือ มันง่ายต่อการซึมลงชั้นผิว เกลี่ยง่าย ใช้แล้วแต่งหน้าได้ไม่เป็นคราบ แต่จะต้องหาก่อนออกไปเจอแดด 30 นาที
  • Hybrid Sunscreen – สารกันแดดแบบผสม ที่นำเอาจุดเด่นของตัวกันแดดเคมี และกันแดดฟิสิคเคิลเข้ามารวมไว้ด้วยกัน เพื่อประสิทธิภาพของการทำงานที่ลงตัว ด้วยการเป็นได้ทั้งฉากป้องกัน และสะท้อนแสงแดด และดูดซึมรังสี UVA UVB เอาไว้ไม่ให้ซึมลงสู่ผิวได้ จึงเป็นการทำงานที่ช่วยปกป้องผิวได้อย่างดีที่สุดรูปแบบหนึ่งก็ว่าได้ 

3. สภาพผิว

  • ผิวแห้ง – เลือกแบบที่เป็นเนื้อครีม หรืออาจจะมีส่วนผสมของออยส์ มอยเจอร์ไรเซอร์ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว จะช่วยทำให้ใบหน้าไม่แห้งกร้านเมื่อเจอแดดดูดความชื้นไป สาว ๆ ที่ใบหน้ามีความแห้งจึงควรเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับผิวแห้งโดยเฉพาะจะดีกว่า เนื่องจากว่าผิวแห้งจะบอบบางต่อแดดอย่างมาก โอกาสเสี่ยงเกิดฝ้า และกระ จะตามมาได้ง่ายกว่าผิวชนิดอื่น ๆ ไม่เพียงเท่านั้นคนผิวแห้งยังดูแก่ก่อนวัยได้ง่ายมากกว่าผิวชนิดอื่น ๆ เพราะว่าเมื่อผิวแห้งจะเกิดรอบเหี่ยวย่นง่ายมาก 
  • ผิวมัน – เลือกแบบเนื้อเจล เนื้อน้ำนม หนือ มีสารควบคุมความมันผสมเข้าด้วย อีกทั้งอาจจะต้องเลือกที่มีสารประกอบไม่เกิดน้ำมัน หรือ ที่จะไม่ทำให้หน้ามันเพิ่ม แบบนี้ไม่เกิดสิวเพิ่มจากการอุดตัน ครีมกันแดดสําหรับคนเป็นสิว หรือผิวมันจึงต้องไม่มีเนื้อที่เหนอะหนะ ที่อาจจะเข้ามากวนใจ แถมได้ผลข้างเคียงเป็นสิวเข้ามาแทน เพราะว่าคนหน้ามันจะเกิดสิวได้ง่าย 
  • ผิวผสม – เลือกแบบเนื้อเจล น้ำนม เพราะว่าจะไม่เหนอะหนะใบหน้า พอดีกับผิวที่มีทั้งโซนแห้ง และมันอย่างพอดี ใบหน้าสาว ๆ บางคนมีโซนผิวแห้งแก้ม คาง และหน้ามันบริเวณทีโซน กลุ่มนี้จะมีปัญหาอย่างมาก เพราะว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้ได้อย่างสมดุลจะต้องเลือกเป็นพิเศษ
  • ผิวแพ้ง่าย – เลือกใช้ครีมกันแดดที่เป็นแบบไม่มีสารระคายเคืองผิว อย่างตัวกันแดดประเภทเคมี ที่อาจจะมีส่วนผสมของ แอลกอฮอล์ พาราแบน น้ำหอมอยู่ ซึ่งอาจจะทำให้ระคายเคืองได้ กันแดดสําหรับผิวแพ้ง่ายจึงควรเลือกแบบเวชสำอางก็จะช่วยได้ เพราะว่าบางตัวจะมาพร้อมสารปกป้องผิวอีกด้วย อีกทั้งการเลือกด้วยผลิตภัณฑ์กันแดดที่ประสิทธิภาพสูง ๆ เมื่อต้องเจอแดดมันจะทำให้ผิวได้รับการปกป้องที่ดี  และโอกาสระคายเคืองที่อาจจะมีผลมาจากแสงแดดลดน้อยลงไป
  • ผิวที่ต้องเจอแดดกลางแจ้ง – ควรเลือกใช้ส เปร ย์ กันแดด เมื่อต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง ทั้งทะเล ภูเขา หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่ต้องอยู่กับแสงแดดยาวนาน แบบสเปรย์จะสามารถฉีดเติมได้ตลอดเวลา ทำให้การปกป้องผิวทำได้มีประสิทธิภาพมากกว่า การเติมตลอด 1 – 2 ชั่วโมงก็จะช่วยได้ หรือ อาจจะเติมหลังจากการขึ้นจากน้ำ เพราะว่ากันแดดแม้ว่าจะกันน้ำ แต่เมื่อลงทะเลก็มีโอกาสที่จะละลายไปหมดแล้ว ขึ้นมาจึงควรเติมทันที เพื่อให้ยังคงได้รับการป้องกันจากแสงแดดอย่างต่อเนื่อง 

ส่วนผสมสำคัญในครีมกันแดดทาหน้า

รู้หรือไม่! องค์ประกอบของครีมกันแดดจะต่างกันไปตามประเภทของมันอีกด้วย ซึ่งสำหรับการใช้บนใบหน้าจะใช้แบบ Sunscreen เป็นส่วนใหญ่ ตัวนี้เป็นส่วนผสมของ Chemical หรือเรียกง่าย ๆ ว่าแบบเคมี ที่จะประกอบด้วยสารต่าง ๆ ที่จะเข้ามาทำหน้าที่กรองแดดก่อนที่จะลงเข้าไปในชั้นผิว ด้วยสารอย่าง PABA Acid, Oxybenzone, Octyl methoxy Cinnamate Octocylene และ Homosalate หรือบางตัวอาจจะมีส่วนผสมของวิตามินต่าง ๆ เข้ามาเสริมให้ด้วย 

อีกแบบจะเรียกได้ว่า Sun Block ที่มาทำหน้าที่เป็นเหมือนกำแพงเกราะป้องกันไม่ให้แสงแดดเข้ามาถึงผิวได้ ในกลุ่มนี้จะเลือกใช้กลุ่มของแร่ เป็นแบบ Zinc Oxide และ Titanium Dioxide มันจะมักถูกใช้กับการป้องกันแสงแดดต่อผิวกายมากเป็นส่วนใหญ่ การใช้ตัว Sun Block เมื่อทาไปแล้วก็เหมือนจะมีฟิลเตอร์ที่คอยทำหน้าที่สะท้อนรังสีกลับออกไป ไม่ให้เข้าไปยังผิว แต่เมื่อไหร่ที่มันเกิดหลุด หรือ เสื่อม ผิวก็จะถูกแสงแดดอย่างเต็ม ๆ จึงทำให้จะต้องทำการเติมเพื่อรักษาการทำงานที่คงที่เอาไว้

วิธีทาครีมกันแดดทาหน้าที่ถูกต้อง

  • ทาครีมกันแดดก่อนเวลาเจอแสงแดด 30 นาที เพื่อให้ตัวผลิตภัณฑ์ซึมลงชั้นผิว แล้วทำงานเต็มประสิทธิภาพ
  • ใช้ครีมกันแดดในปริมาณที่พอเหมาะ อยู่ที่ขนาดเท่าเหรียญ 10 ขึ้นไป เพื่อให้ครอบคลุมบริเวณที่ต้องเจอแสงแดด
  • ลูบไล้ครีมกันแดดให้ทั่วทั้งใบหน้า และ ลำคอ เพื่อสีผิวที่สม่ำเสมอ 

สรุป

สาว ๆ ไม่ควรลืมที่จะให้ความสำคัญกับเรื่องของครีมกันแดดทาหน้า ยี่ห้อไหนดี ที่จะทำให้มีความมั่นใจเมื่อต้องออกมาเผชิญหน้ากับแดดที่ร้อนจัดในประเทศไทย รีวิวครีมกันแดดหน้า จะเน้นให้มองหา เลือกใช้กันแดดที่มีค่า SPF 50 ขึ้นไป และมีค่า PA ในระดับที่พอเหมาะ ที่ +++ ขั้นต่ำ ประกอบด้วยการใช้อย่างถูกวิธี เพียงเท่านี้ใบหน้าของเพื่อน ๆ ก็จะสวยสู้แดดประเทศไทยได้อย่างไม่ต้องกังวลผลที่จะตามมาจากแสงแดดที่ทำร้าย

อ้างอิง

https://www.stylecraze.com/articles/things-to-consider-when-choosing-a-sunscreen/

https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK537164/

Maya Duangboon

Maya Duangboon

ฮัลโหลล ยินดีที่ได้รู้จักสาวๆมิสซี่ทุกคนนะคะ มิ้งเป็น Beauty Editor ของ MizzyReview คอยอัพเดตสินค้าบิวตี้ ความสวยความงาม งานผิว เทรนด์ต่างๆ แชร์คอนเท้นสำหรับสาวๆที่ชอบรีวิวเครื่องสำอาง เมคอัพ สกินแคร์เป็นชีวิตจิตใจ! มาป้ายยาทุกคนได้ให้เลือกช้อป เลือกใช้สินค้าดีๆ ที่ขึ้นชื่อว่า The Best กันค่า!