รู้หรือไม่! เรื่องของแดดไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้ามอย่างยิ่งสำหรับสาว ๆ ในประเทศโซนร้อนอย่างเรา นอกจาก ครีมกันแดดต่างๆ ครีมกันแดดทาตัว ครีมกันแดดสําหรับคนเป็นสิว กันแดดสําหรับผิวแพ้ง่าย สเปรย์กันแดด กันแดดผสมรองพื้น
แล้ววันนี้ มิสซี่จึงขนเอาขบวนรายชื่อ 10 ครีมกันแดดทาหน้า ยี่ห้อไหนดี ที่สามารถจะเข้ามาช่วยปกป้องผิวหน้าของของเพื่อน ๆ กับบรรดารายการครีมกันแดดทาหน้า พร้อมคุณสมบัติต่าง ๆ ปกป้องจากรังสีตัวร้ายทั้ง UVA, UVB และ UVC ที่เป็นตัวการสำคัญทำลายผิว เพราะฉะนั้นการเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพจึงไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ
แล้วสงสัยไหมว่าจะเลือกอย่างไร ยี่ห้อไหนดี สำหรับผิว และไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของแต่ละคน มิสซี่ก็ไม่พลาดที่จะรวมเอารายชื่อ face sunscreen ที่ดีที่สุดมาฝากเพื่อนสาวของเรา ไปดูกันค่ะว่ามีตัวไหนน่าสนใจบ้าง
TOP 3 ครีมกันแดดทาหน้าที่ดีที่สุด
#1 SHISEIDO ANESSA Perfect UV Sunscreen Skincare Milk SPF 50+ PA++++
ราคา 950 บาท
#2 Kiehl’s UltraLight Daily UV Defense Aqua Gel SPF 50 PA++++
ราคา 2,250 บาท
#3 La Roche-Posay ANTHELIOS ULTRA CREAM SPF50+ PA++++
ราคา 1,300 บาท
ตารางเปรียบเทียบ “ครีมกันแดดทาหน้า ยี่ห้อไหนดี”
ชื่อสินค้า | SHISEIDO ANESSA Perfect UV Sunscreen Skincare Milk SPF 50+ PA++++ | Kiehl’s UltraLight Daily UV Defense Aqua Gel SPF 50 PA++++ | La Roche-Posay ANTHELIOS ULTRA CREAM SPF50+ PA++++ | Eucerin Sun CC Cream Acne Oil Control SPF50+ PA++++ | Lancome UV Expert XL-Shield Fresh UV Aqua Gel SPF 50 PA++++ | Biore UV Aqua Rich Watery Essence Micro Defense SPF 50+ PA++++ | SpectraBan SPF50+ /PA+++ | Shiseido The Perfect Protector SPF50+ PA++++ | MizuMi UV Water Defense PRO SPF 50+ PA++++ | Laneige Watery Sun Cream SPF 50+ PA++++ |
รูปสินค้า | ||||||||||
คุณสมบัติ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ราคาเต็ม | 950 บาท | 2,250 บาท | 1,300 บาท | 1,400 บาท | 2,300 บาท | 420 บาท | 1,015 บาท | 1,550 บาท | 890 บาท | 950 บาท |
ปริมาณ | 60 ml | 60 ml | 50 ml | 50 ml | 30 ml | 50 g | 100 g | 50 ml | 40 g | 50 ml |
ตก ml / g ละ | 15.8 บาท | 37.5 บาท | 26 บาท | 28 บาท | 76.6 บาท | 8.4 บาท | 10.1 บาท | 31 บาท | 22.2 บาท | 19 บาท |
ความคุ้มค่า | ||||||||||
เช็คส่วนลดที่ |
เลือกซื้อ ครีมกันแดดทาหน้า ยี่ห้อไหนดี
1. ครีมกันแดดทาหน้า โดยรวมดีที่สุด : SHISEIDO ANESSA Perfect UV Sunscreen Skincare Milk SPF 50+ PA++++
ราคา 950 บาท
ข้อดี
+ ราคาประหยัด
+ เมื่อออกแดดผิวไม่คลำลง
+ ทำงานได้ดีเมื่อเจอเหงื่อ และน้ำ
ข้อเสีย
– มีความมันเล็กน้อย
– ไม่ช่วยเรื่องของเมคอัพที่ติดทน
กันแดดไม่เหนียว หน้าไม่เทา ราคาไม่แพง ตัวนี้ฮิตมากกก ยอดขายถล่มทลาย กับประสิทธิภาพของการป้องกันจากแสงแดดด้วยเนื้อน้ำนม ที่เหมาะกับทุกสภาพผิว มาพร้อมนวัตกรรมเฉพาะในแบบ “Anessa Triple Defense” ที่จะทำงานได้ดีขึ้น เมื่อเจอความร้อน และเหงื่อ หรือน้ำ อีกทั้งพ่วงมาด้วยส่วนประกอบบำรุงผิว เพื่อน ๆ ที่ต้องการคำตอบว่าครีมกันแดดทาหน้า ยี่ห้อไหนดี ตัวนี้เป็นคำตอบที่ครอบคลุมดีที่สุดตัวหนึ่งก็ว่าได้
ปริมาณ 60 ml : ราคา 950 บาท (ตก ml ละ 15.83 บาท)
ส่วนประกอบสำคัญ | opantasiloxana, Isododecane, octocrylene |
เนื้อสัมผัส | น้ำนม |
ประสิทธิภาพกันแดด | SPF 50 PA ++++ |
กันน้ำกันเหงื่อ | ✓ |
เหมาะกับ | ทุกสภาพผิว |
2. ครีมกันแดดทาหน้า ไม่เหนียว หน้าไม่เทาที่ดีที่สุด : Kiehl’s UltraLight Daily UV Defense Aqua Gel SPF 50 PA++++
ราคา 2,250 บาท
ข้อดี
+ ป้องกันแดดอย่างทนทาน แม้กลางแจ้งผิวก็ไม่แดง
+ เนื้อเป็นกึ่งเจล ทำให้ซึมง่าย
+ ไม่อุดตันง่าย
ข้อเสีย
– ระวังของลอกเลียนแบบ
– ราคาในระดับค่อนไปทางสูง
กันแดดสำหรับผิวมันที่เหล่าบิ้วตี้บล็อกเกอร์หลายคนแนะนำ ด้วยประสิทธิภาพ และการทำหน้าที่อย่างเสถียรภาพ ช่วยยับยั้งการเปลี่ยนสีของผิวได้จริง แม้ว่าจะต้องไปอยู่กลางแจ้งในระยะเวลานาน ก็ไม่ส่งผลให้ผิวคล้ำ หรือแดงขึ้นด้วย มาพร้อมเนื้อบางเบา ซึมง่าย จัดว่าเป็น ครีมกันแดดทาหน้า ไม่เหนียว ทำให้การป้องกันเข้าซึมลึกถึงชั้นผิว ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน จึงใช้ได้แม้คนที่เป็นสิวง่าย และสาว ๆ ที่เป็นสิว หรือเกิดสิวได้ง่าย ใครที่มองหากันแดดทาหน้า ยี่ห้อไหนดี สำหรับคนผิวมัน ต้องตัวนี้เลยค่ะ!
ปริมาณ 60 ml : ราคา 2,250 บาท (ตก ml ละ 37.5 บาท)
ส่วนประกอบสำคัญ | Scutellarin Root Extract |
เนื้อสัมผัส | เจล |
ประสิทธิภาพกันแดด | SPF 50 PA ++++ |
กันน้ำกันเหงื่อ | ✓ |
เหมาะกับ | ผิวมัน ผิวผสม |
3. ครีมกันแดดทาหน้า ผิวแพ้ง่ายที่ดีที่สุด : La Roche-Posay ANTHELIOS ULTRA CREAM SPF50+ PA++++
ราคา 1,300 บาท
ข้อดี
+ ผิวบอบบาง แพ้ง่ายใช้ได้ ไร้กังวล
+ หัวปั๊มใช้งานง่าย
+ เหมาะกับผิวแห้ง ใช้แล้วหน้าชุ่มชื้น
ข้อเสีย
– เนื้อจะเหนียวสำหรับผิวมัน
– ไม่เหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้ง
ครีมกันแดดที่มาพร้อมความอ่อนโยนขั้นสุด ที่สามารถใช้งานได้ทั้งจุดบอบบางอย่างรอบดวงตา กับแบรนด์ของโซนฝรั่งเศส ด้วยการเลือกใช้สารเคมีเพื่อป้องกันแดดในปริมาณตามการใช้งานจริง ลดการใช้เคมีลงไปเยอะ แม้ว่าจะเป็นเนื้อครีมก็ไม่ทำให้เกิดคราบบนใบหน้า กันน้ำ และเหงื่อได้อย่างดีเยี่ยมด้วยลิขสิทธิ์ที่คิดค้นมาเฉพาะ หมดห่วงสำหรับคนที่ผิวแห้ง แพ้ง่ายที่กำลังตามหา ครีมกันแดดทาหน้าสำหรับผิวแพ้ง่ายตัวปัง อยู่นะคะ
ปริมาณ 50 ml : ราคา 1,300 บาท (ตก ml ละ 26 บาท)
ส่วนประกอบสำคัญ | DIISOPROPYL SEBACATE, ISOPROPYL MYRISTATE, ETHYLHEXYL SALICYLATE |
เนื้อสัมผัส | ครีมเหลว |
ประสิทธิภาพกันแดด | SPF 50+ PA ++++ |
กันน้ำกันเหงื่อ | ✓ |
เหมาะกับ | ผิวแห้ง, ผิวแพ้ง่าย บอบบาง |
4.ครีมกันแดดทาหน้า เหมาะกับผิวมันที่ดีที่สุด : Eucerin Sun CC Cream Acne Oil Control SPF50+ PA++++
ราคา 1,400 บาท
ข้อดี
+ เป็นเวชสำอางค์ มีความปลอดภัย
+ สีเบจช่วยในการปกปิดรอยต่าง ๆ
+ ช่วยเรื่องรักษาสิวได้ดีระดับหนึ่ง
ข้อเสีย
– ผสมสีเบจ อาจจะทำให้ไม่เข้ากับทุกสีผิว
– อาจจะไม่เหมาะกับคนที่ผิวแห้งเท่าไหร่
ตัวกันแดดตัวนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นตัวช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดเท่านั้น แต่มากด้วยคุณสมบัติที่เหมาะสำหรับคนที่เป็นสิว เพราะว่าเป็นเจลที่มีสีเบจ อาจจะไม่ใช่กันแดดผสมรองพื้นสะทีเดียว แต่สีเบจทำให้ช่วยปกปิดรอยดำ รอยแดงจากสิว มีสารที่เข้ามาช่วยรักษาสิวไปด้วยในตัว และเป็นตัวครีมกันแดดหน้าขาวขึ้นได้ด้วยสีเบจ ซึ่งแบรนด์นี้เป็นเวชสำอางที่ไว้วางใจได้จากการแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังของใบหน้า ซึ่งตอบโจทย์สำหรับสาวที่กำลังเป็นสิว เพื่อน ๆ ที่กำลังมองหาครีมกันแดดทาหน้าสำหรับคนเป็นสิว ยี่ห้อไหนดี บอกเลยตัวนี้ไม่ผิดหวัง
ปริมาณ 50 ml : ราคา 1,400 บาท (ตก ml ละ 28 บาท)
ส่วนประกอบสำคัญ | Glycyrrhetinic Acid, Licochalcone A |
เนื้อสัมผัส | เจล |
ประสิทธิภาพกันแดด | SPF 50+ PA ++++ |
กันน้ำกันเหงื่อ | ✓ |
เหมาะกับ | ผิวมัน ผิวเป็นสิว |
5.ครีมกันแดด เคาน์เตอร์แบรนด์ที่ดีที่สุด : Lancome UV Expert XL-Shield Fresh UV Aqua Gel SPF 50 PA++++
ราคา 2,300 บาท
ข้อดี
+ ไม่เสี่ยงต่อการระคายเคือง
+ ช่วยเรื่องคุมมันของผิว
+ เนื้อเบา ละเอียด เกลี่ยง่าย
ข้อเสีย
– ราคาสูง
– ผิวยังคลำได้เมื่อเจอแดดจัด
กันแดดมาแรงในกลุ่มของเคาน์เตอร์แบรนด์ชั้นนำ ซึ่งตัวนี้เป็นเนื้อเจลที่เคลมว่าคุมมันได้ดีเยี่ยม เป็น ครีมกันแดด หน้ามัน สร้างมาเพื่อผิวมันโดยเฉพาะก็ว่าได้ และยังไม่ก่อให้เกิดการแพ้ได้อีก เพราะว่า Paraben-free, Sulphate-free และยังมีส่วนผสมที่เข้ามาช่วยบำรุงผิวหน้าให้สว่างจากวิตามินอีเพิ่มขึ้น บอกเลยว่าคนที่ส่อง ครีมกันแดดเคาน์เตอร์แบรนด์ ยี่ห้อนี้ทำมาออกมาได้ไม่ผิดหวังในเรื่องของความ Hi End นับว่าเป็นอีกตัวที่กำลังมาแรง สาว ๆ คนไหนที่กำลังมองหาครีมกันแดดทาหน้า ยี่ห้อไหนดี ในระดับเคาน์เตอร์แบรนด์เลือกใช้งานตัวนี้ได้เลย
ปริมาณ 30 ml : ราคา 2,300 บาท (ตก ml ละ 76.67 บาท)
ส่วนประกอบสำคัญ | Edelwiss Flower, Mint, Vitamin E |
เนื้อสัมผัส | เจล |
ประสิทธิภาพกันแดด | SPF 50 PA ++++ |
กันน้ำกันเหงื่อ | ✓ |
เหมาะกับ | ผิวมัน |
6. ครีมกันแดดทาหน้าแบรนด์ญี่ปุ่นที่ดีที่สุด : Biore UV Aqua Rich Watery Essence Micro Defense SPF 50+ PA++++
ราคา 420 บาท
ข้อดี
+ ราคาถูก
+ เนื้อซึมง่ายมาก
+ เหมาะกับคนที่นั่งทำงานในออฟฟิศที่ไม่ต้องการหนักหน้า
ข้อเสีย
– ขนาดสินค้ามีให้เลือกน้อย
– สีผิวดรอปลงเมื่อเจอแดดจัด
กันแดดที่น้อยแบรนด์จะทำในสูตรเนื้อเอสเซ้นส์ที่เป็นเหมือนน้ำตบใส ๆ แต่มาพร้อมความเข้มข้นของประสิทธิภาพในการป้องกันผิวจากแสงแดด ด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด กักเก็บความชุ่มชื้นในแบบแคปซูลในชั้นผิว ทำให้ได้รับการปกป้องตลอดเวลา เพราะว่าเมื่อผิวต้องการการปกป้อง มันจะแตกตัวออก เพื่อครอบผิวเอาไว้ เป็นกันแดดที่มีความบางเบาที่สุดแล้ว ครีมกันแดดทาหน้า ไม่เหนียว เพราะเป็นน้ำ จึงเหมาะกับทุกสภาพผิวอย่างแท้จริง เพื่อน ๆ ที่ไม่ชอบกันแดดที่เหนียวหน้า ได้คำตอบแล้วว่าครีมกันแดดทาหน้า ยี่ห้อไหนดี
ปริมาณ 50 g : ราคา 420 บาท (ตกกรัมละ 8.4 บาท)
ส่วนประกอบสำคัญ | UV Aqua Jelly Capsule |
เนื้อสัมผัส | สูตรน้ำ เนื้อเอสเซ้นส์ |
ประสิทธิภาพกันแดด | SPF 50+ PA ++++ |
กันน้ำกันเหงื่อ | ✓ |
เหมาะกับ | ทุกสภาพผิว |
7. ครีมกันแดดทาหน้า พกไปทะเลที่ดีที่สุด : SpectraBan SPF50+ /PA+++
ราคา 1,015 บาท
ข้อดี
+ เนื้อครีมทำให้ผิวชุ่มชื่น
+ เหมาะกับคนที่แพ้น้ำหอม
+ ใช้กลางแจ้งช่วยผิวไม่แสบแดงได้จริง
ข้อเสีย
– มีความเหนียมในระดับหนึ่ง
– ไม่เหมาะกับผิวมันเท่าไหร่ มีความเยิ้ม
ครีมกันแดดที่ออกแบบมาเพื่อสาว ๆ ที่ต้องเผชิญอยู่ท่ามกลางแสงแดดในระยะเวลายาวนาน ไม่ว่าจะกิจกรรมกลางแจ้งรูปแบบใด ตัวนี้จะช่วยปกป้องผิวได้อย่างดี อีกทั้งเป็นสูตรที่อ่อนโยน ไม่มีน้ำหอม ผู้ที่แพ้ง่ายจึงใช้งานได้อย่างสบายใจอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้นยังเป็นตัวกันเดดที่แพทย์แนะนำใช้มากที่สุด ในครีมกันแดด ทาหน้าไม่แพง ทั้งไลน์ใบหน้า และครีมกันแดดทาตัว สำหรับคนที่ยังไม่เจอครีมกันแดดทาหน้า ยี่ห้อไหนดี ลองมารู้จักกับตัวนี้ก็อาจจะได้คำตอบที่ต้องการ
ปริมาณ 100 g : ราคา 1,015 บาท (ตกกรัมละ 10.15 บาท)
ส่วนประกอบสำคัญ | Microfine Zinc Oxide Coated with dimethicone 10%, Butyl Methoxy Dibenzoylmethane 1% |
เนื้อสัมผัส | ครีม |
ประสิทธิภาพกันแดด | SPF 50 PA +++ |
กันน้ำกันเหงื่อ | ✓ |
เหมาะกับ | ทุกสภาพผิว |
8.ครีมกันแดดทาหน้า หน้าไม่เทาที่ดีที่สุด : SHISEIDO The Perfect Protector SPF50+ / PA++++ SynchroShield WetForce x HeatForce
ราคา 1,550 บาท
ข้อดี
+ ซึมลงผิวทันที ไม่ต้องรอนาน
+ ป้องกันแสงแดดได้ไม่ยาวนานเท่าไหร่
+แต่งหน้าทับไป ไม่เปลี่ยนสีผิว
ข้อเสีย
– เนื้อครีม จึงต้องเกลี่ยอย่างระวัง
กันแดดในตำนานที่ว่ากันว่าทาแล้วสบายผิว ซึมไว กันแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพชั้นยอดเยี่ยม เคาน์เตอร์แบรนด์ในราคาเอื้อมถึง สำหรับสาว ๆ ที่ต้องการกันแดดอย่างมีระดับ ครีมกันแดดระดับเคาน์เตอร์แบรนด์ ตัวนี้จะเป็นอีกหนึ่งครีมที่จะเข้ามาช่วยปกป้องผิวจากแดดประเทศไทยได้อย่างมั่นใจ เพื่อน ๆ ที่กำลังส่องหาครีมกันแดดทาหน้า ยี่ห้อไหนดี แบรนด์นี้ก็ไม่ควรมองข้าม
ปริมาณ 50 ml : ราคา 1,550 บาท (ตก ml ละ 31 บาท)
ส่วนประกอบสำคัญ | Sulphate-free, Vitamins, BHAs/Salicylic Acid, Anti-oxidants |
เนื้อสัมผัส | ครีม |
ประสิทธิภาพกันแดด | SPF 50+ PA ++++ |
กันน้ำกันเหงื่อ | ✓ |
เหมาะกับ | ทุกสภาพผิว |
9. ครีมกันแดดทาหน้า ไม่แพง แบรนด์ไทยที่ดีที่สุด : MizuMi UV Water Defense PRO SPF 50+ PA++++
ราคา 890 บาท
ข้อดี
+ มีวิตามินช่วยบำรุงใบหน้า
+ ราคาประหยัด
+ สีขาว ซึมเข้าผิว ไม่ทำให้หน้าลอย
ข้อเสีย
– ผิวเปลี่ยนแดง เมื่อแดดจัด
– ต้องมาก่อนออกแดดระยะ 30 นาที
กันเดดหน้าไม่เทา สัญชาติไทยที่กำลังมาแรง ติดตลาด ด้วยสารสกัดสารพัดที่ผสมผสานอย่างลงตัว มีการเสริมวิตามิน เพื่อช่วยบำรุงผิวในคราเดียว และที่สำคัญราคาไม่แรง พร้อมทั้งเคลมว่าเหมาะสำหรับผิวบอบบาง แพ้ง่าย เหมาะมากกับคนที่หา ครีมกันแดดหน้า ผิวแพ้ง่าย ตัวนี้สำหรับคนที่ผิวหน้ามีความอ่อนแอ ก็สามารถที่จะใช้ได้ เพื่อนสาวที่ต้องการหาครีมกันแดดทาหน้า ยี่ห้อไหนดี มาสู้แดดประเทศไทย ตัวนี้ก็ใช้งานได้ดีไม่แพ้กัน
ปริมาณ 40 g. : ราคา 890 บาท (ตกกรัมละ 22.25 บาท)
ส่วนประกอบสำคัญ | Zince Oxide, Titanium Dioxide, Uji Tea Extract, Vitamin C, Vitamin E, and Pollustop |
เนื้อสัมผัส | เซรั่ม |
ประสิทธิภาพกันแดด | SPF 50+ PA ++++ |
กันน้ำกันเหงื่อ | ✓ |
เหมาะกับ | ผิวแพ้ง่าย บอบบาง |
10. ครีมกันแดดทาหน้าสำหรับผิวแห้งที่ดีที่สุด : Laneige Watery Sun Cream SPF 50+ PA++++
ราคา 950 บาท
ข้อดี
+ ช่วยเติมความชุ่มชื่นให้ผิวได้ดี
+ มีส่วนผสมของน้ำมันมิเนรัลเข้ามาร่วมบำรุง
+ ทนต่อเหงื่อ และน้ำได้ดี
ข้อเสีย
– อาจจะเหนียวไปสำหรับผิวมัน
– สีโทนเหลือง ผิวคล้ำมากต้องระวังหน้าลอย
ครีมกันแดดที่มาพร้อมสารเติมความชุ่มชื้น ช่วยทำให้ผิวที่แห้งยังคงมีความชุ่มฉ่ำอยู่ แต่เป็นตัวที่อาจจะเสี่ยงแพ้ได้ในคนที่ไม่ถูกกับน้ำหอม ตัวนี้ไม่มีแอลกอฮอล์จึงทำให้อัตราความเสี่ยงแพ้ไม่สูงมาก อีกทั้งยังเป็นเคาน์เตอร์แบรนด์ที่ราคากำลังดีเลย สาว ๆ ที่ผิวแห้งกำลังมองหา ครีมกันแดดทาหน้า ยี่ห้อไหนดี บอกเลยว่าแบรนด์นี้ตอบโจทย์
ปริมาณ 50 ml : ราคา 950 บาท (ตก ml ละ 19 บาท)
ส่วนประกอบสำคัญ | Ascorbyl Glucoside,Pca, Arginine, Serine |
เนื้อสัมผัส | น้ำกึ่งเจล |
ประสิทธิภาพกันแดด | SPF 50+ PA ++++ |
กันน้ำกันเหงื่อ | ✓ |
เหมาะกับ | ผิวแห้ง ผิวธรรมดา |
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับครีมกันแดดทาหน้า
วิธีการเลือกครีมกันแดดทาหน้ายังไง
การเลือกใช้ครีมกันแดดต้องประกอบด้วยหลายปัจจัย แบ่งได้ 3 หัวข้อสำคัญต่อไปนี้
- ประสิทธิภาพการใช้งาน
- ประเภทของครีมกันแดด
- สภาพผิว
สาว ๆ ชาวไทยที่ต้องท้าแดดที่ร้อนแรงของบ้านเรา ก็ควรต้องเลือกใช้ตัวที่มีค่า SPF ในระดับ 30 + หรือทางที่ดีใช้ ระดับ 50 เริ่มต้น และมาพร้อมกับค่า PA ในระดับ 3 บวก เป็นขั้นเริ่มต้น ไม่เพียงเท่านั้นผลิตภัณฑ์กันแดดจะต้องทำงานควบคู่ไปกับการเข้ากันได้ต่อสภาพผิวของแต่ละบุคคลที่ต่างกันไป เพื่อทำให้การใช้ครีมกันแดดมีคุณประโยชน์ และไม่แฝงมาด้วยผลกระทบ หรือผลข้างเคียง มิสซี่จึงอยากพาสาว ๆ มาเรียนรู้ข้อมูลของแต่ละคุณสมบัติในกัน
1.ประสิทธิภาพของการใช้งาน
ก่อนอื่นสาว ๆ จะต้องรู้จักกับตัวเองก่อนเลยว่ามีความต้องการประสิทธิภาพของการป้องกันในระดับใด เพราะว่าเรื่องของการปกป้องผิวจากแดดจะมีความต่างกันไปตามกิจกรรมของแต่ละบุคคล ด้วยไลฟ์สไตล์ที่จะทำให้ต้องพบเจอแสงแดดต่างกัน จึงต้องเลือกใช้งานที่ต่างกันด้วย ตัวอย่างเช่น มนุษย์ออฟฟิศ แม่บ้าน หรือ สายกิจกรรมกลางแจ้ง ในส่วนนี้จึงต้องพิจารณากันที่คุณสมบัติต่อไปนี้
- ค่า SPF – สาวไทยควรเลือกที่ค่า SPF 30 – 50 สำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อให้การป้องกันแสงแดดต่อการเผาไหม้ผิวของเราสมดุล ค่านี้สำคัญมาอันดับแรก เพราะว่ามันจะบ่งบอกถึงอัตราการปกป้องผิวเราเมื่อเจอแสงแดดได้นานเท่าไหร่
ส่วนมากตามท้องตลาดจำหน่ายที่ ค่า SPF 30 – 100 ซึ่ง หากค่าอยู่ที่ 30 จะช่วยดูดซับที่ 96.7 % และค่า 50 อยู่ที่ 98 % ซึ่งการดูดซับเรื่องของผิวไหม้นี้จะมีค่าเวลาคำนวณง่าย ๆ คือ ค่าเท่าไหร่ ให้คูณด้วย 15 แล้วจะได้ช่วงเวลาที่เราสามารถเผชิญแดดได้
ตัวอย่างคือ ค่าอยู่ที่ SPF 6 ( 6 x 15 = 90 ) จึงเท่ากับว่าถ้ายืนกลางแดดผิวจะไหม้ใน 90 นาที เป็นต้น แต่ค่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นในการป้องกัน จึงต้องพิจารณาส่วนอื่น ๆ ประกอบด้วย |
- การป้องกันรังสี – ประเภทรังสีที่จะอยู่ในแสงแดดมีด้วยกัน 3 ชนิด คือ UVA UVB และ UVC รังสีทั้งสามตัวนี้ ทำลายชั้นผิวที่ต่างกันไป
- ตัวที่ร้ายกาจที่สุดจะเป็น UVA ที่จะคลื่นแรงยาวที่สุด ทำร้ายชั้นผิวลึกสุดถึง หนังกำพร้า หนังแท้ได้เลย ทำลายคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้หน้าเหี่ยว แก่ก่อนวัย ผิวคล้ำ ดำ ไม่สดใส ทำให้รังสีในแดดที่น่ากลัวที่สุด และจะต้องป้องกันมากที่สุดคือตัวนี้ ซึ่งสิ่งที่จะช่วยได้คือค่า SPF และ PA ตามที่กำหนดข้างบน ควรจะต้องอยู่ที่ 50 เป็นต้นไป เพราะว่าแดดประเทศไทยร้อนแรงอย่างที่สุด
- ต่อมาตัว UVB จะทำลายได้ต่ำกว่าตัว A ผลของมันจะทำลายความชุ่มชื้นของผิว ทำให้ผิวแห้ง ไหม้ แดง แสบได้เลย และเจ้าตัวนี้ละที่จะทำให้เกิดฝ้า กระได้ คนที่ผิวแห้งอยู่แล้ว จึงควรระวังรังสีตัวนี้ให้ดีที่สุด ควรเลือกกันแดดที่มาพร้อมกับการเคลมว่าสามารถป้องกันรังวี UVB เอาไว้ด้วย พร้อมทั้งเสริมความชุ่มชื้นเข้าผิวให้มากที่สุด
- ตัวสุดท้ายที่เมื่อก่อนเข้ามาถึงตัวของทุกคน เพราะว่ามีชั้นกรองในอวกาศ แต่ตอนนี้ด้วยภาวะโลกร้อนที่ทำให้ชั้นโอโซนมีรูรั่ว จึงมีรังสี UVC เข้ามาถึงโลกแล้ว ทำให้ผิวที่ถูกทำร้ายเกิดการระคายเคือง ผื่นแดง ผิวคล้ำได้ด้วยเช่นกัน จึงต้องเลือกที่เป็นครีมกันแดดที่มีค่าป้องกันรังสีทั้ง 3 ตัวนี้ระบุเอาไว้ด้วย
- ค่า PA เชื่อว่าสาว ๆ จะต้องพอได้ยินคำนี้กันอยู่แล้วกับค่าที่ระบุบนครีมกันแดดหลายยี่ห้อเลย ซึ่งตัวนี้คือค่าวัดอัตราความเปลี่ยนแปลงของสีผิวเมื่อเจอแดดที่มี UVA ยิ่งเยอะเท่าไหร่ ก็ป้องกันความหมองคล้ำได้ดี ค่านี้จะเกี่ยวโยงกับค่า UVA อีกด้วย ค่า PA มีระดับตั้งแต่ 1 – 16 โดยที่จะเป็นค่าบวกกำกับเอาไว้ แบ่งได้ 4 ขั้น ได้แก่
ระดับ 1- 3 เป็นการป้องกันเริ่มต้น ระบุแทนค่าด้วย PA + ระดับ 4-7 เป็นการป้องกันระดับกลาง ระบุแทนค่าด้วย PA ++ ระดับ 8 -15 ป้องกันได้ระดับสูง ระบุแทนค่าด้วย PA +++ ระดับ 16 + ป้องกันได้ระดับสูงสุด ระบุแทนค่าด้วย PA ++++ |
2. ประเภทของครีมกันแดด
ตัวผลิตภัณฑ์กันแดดนั้น จะมาพร้อมกับคุณสมบัติที่ต่างกันไปตามประเภทของมันด้วย ซึ่งมีทั้งหมด 3 รายการ ได้แก่
- Physical Sunscreen – ตัวนี้จะเป็นตัวแร่ที่เข้ามาสร้างเกราะป้องกันผิว พเอที่จะสะท้อนเอายูวีออกไป ทั้งรังสี UVA UVB ให้ไม่สามารถเข้าถึงชั้นผิวหนังได้ ด้วยการทำงานของตัวสารอย่าง Zinc Oxide และ Titanium Dioxide ซึ่งทั้งสองตัวนี้จะบอบบางต่อผิวอย่างมาก ใช้ได้แม้สาว ๆ ที่กำลังตั้งครรภ์ เด็ก แถมยังปลอบประโลมผิว ทำให้ผิวที่เป็นสิวมีอาการที่ดีขึ้น อาจจะเนื่องจากความเป็นแร่ที่มาจากธรรมชาติ จึงไม่ก่อให้ผิวอักเสบ
- Chemical Sunscreen – สำหรับสารกันแดดในตัวครีมตัวนี้จะเป็นรูปแบบของเคมี ที่ทำหน้าที่ดูดซับรังสี UVA และ UVB เอาไว้ ด้วยการทำงานของตัวเคมีที่เลือกใช้งานต่างกันไปตามแต่ละยี่ห้อ หลัก ๆ จะมีได้แก่ Oxybenzone, Octisalate , Avobenzone, Octocrylene, Octinoxate, Homosalate ที่เข้ามาทำงานให้การป้องกันผิวกับแดดมีการซับเอาไว้ได้อย่างหมดจดที่สุด ซึ่งตัวนี้อาจจะเกิดการแพ้ได้ในกลุ่มของผิวที่บอบบางมาก ๆ แต่สำหรับผิวปกติก็ใช้งานได้ และประเภทนี้จะมีขายตามท้องตลาดมากที่สุดด้วย ข้อดีของมันอีกอย่างคือ มันง่ายต่อการซึมลงชั้นผิว เกลี่ยง่าย ใช้แล้วแต่งหน้าได้ไม่เป็นคราบ แต่จะต้องหาก่อนออกไปเจอแดด 30 นาที
- Hybrid Sunscreen – สารกันแดดแบบผสม ที่นำเอาจุดเด่นของตัวกันแดดเคมี และกันแดดฟิสิคเคิลเข้ามารวมไว้ด้วยกัน เพื่อประสิทธิภาพของการทำงานที่ลงตัว ด้วยการเป็นได้ทั้งฉากป้องกัน และสะท้อนแสงแดด และดูดซึมรังสี UVA UVB เอาไว้ไม่ให้ซึมลงสู่ผิวได้ จึงเป็นการทำงานที่ช่วยปกป้องผิวได้อย่างดีที่สุดรูปแบบหนึ่งก็ว่าได้
3. สภาพผิว
- ผิวแห้ง – เลือกแบบที่เป็นเนื้อครีม หรืออาจจะมีส่วนผสมของออยส์ มอยเจอร์ไรเซอร์ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว จะช่วยทำให้ใบหน้าไม่แห้งกร้านเมื่อเจอแดดดูดความชื้นไป สาว ๆ ที่ใบหน้ามีความแห้งจึงควรเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับผิวแห้งโดยเฉพาะจะดีกว่า เนื่องจากว่าผิวแห้งจะบอบบางต่อแดดอย่างมาก โอกาสเสี่ยงเกิดฝ้า และกระ จะตามมาได้ง่ายกว่าผิวชนิดอื่น ๆ ไม่เพียงเท่านั้นคนผิวแห้งยังดูแก่ก่อนวัยได้ง่ายมากกว่าผิวชนิดอื่น ๆ เพราะว่าเมื่อผิวแห้งจะเกิดรอบเหี่ยวย่นง่ายมาก
- ผิวมัน – เลือกแบบเนื้อเจล เนื้อน้ำนม หนือ มีสารควบคุมความมันผสมเข้าด้วย อีกทั้งอาจจะต้องเลือกที่มีสารประกอบไม่เกิดน้ำมัน หรือ ที่จะไม่ทำให้หน้ามันเพิ่ม แบบนี้ไม่เกิดสิวเพิ่มจากการอุดตัน ครีมกันแดดสําหรับคนเป็นสิว หรือผิวมันจึงต้องไม่มีเนื้อที่เหนอะหนะ ที่อาจจะเข้ามากวนใจ แถมได้ผลข้างเคียงเป็นสิวเข้ามาแทน เพราะว่าคนหน้ามันจะเกิดสิวได้ง่าย
- ผิวผสม – เลือกแบบเนื้อเจล น้ำนม เพราะว่าจะไม่เหนอะหนะใบหน้า พอดีกับผิวที่มีทั้งโซนแห้ง และมันอย่างพอดี ใบหน้าสาว ๆ บางคนมีโซนผิวแห้งแก้ม คาง และหน้ามันบริเวณทีโซน กลุ่มนี้จะมีปัญหาอย่างมาก เพราะว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้ได้อย่างสมดุลจะต้องเลือกเป็นพิเศษ
- ผิวแพ้ง่าย – เลือกใช้ครีมกันแดดที่เป็นแบบไม่มีสารระคายเคืองผิว อย่างตัวกันแดดประเภทเคมี ที่อาจจะมีส่วนผสมของ แอลกอฮอล์ พาราแบน น้ำหอมอยู่ ซึ่งอาจจะทำให้ระคายเคืองได้ กันแดดสําหรับผิวแพ้ง่ายจึงควรเลือกแบบเวชสำอางก็จะช่วยได้ เพราะว่าบางตัวจะมาพร้อมสารปกป้องผิวอีกด้วย อีกทั้งการเลือกด้วยผลิตภัณฑ์กันแดดที่ประสิทธิภาพสูง ๆ เมื่อต้องเจอแดดมันจะทำให้ผิวได้รับการปกป้องที่ดี และโอกาสระคายเคืองที่อาจจะมีผลมาจากแสงแดดลดน้อยลงไป
- ผิวที่ต้องเจอแดดกลางแจ้ง – ควรเลือกใช้ส เปร ย์ กันแดด เมื่อต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง ทั้งทะเล ภูเขา หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่ต้องอยู่กับแสงแดดยาวนาน แบบสเปรย์จะสามารถฉีดเติมได้ตลอดเวลา ทำให้การปกป้องผิวทำได้มีประสิทธิภาพมากกว่า การเติมตลอด 1 – 2 ชั่วโมงก็จะช่วยได้ หรือ อาจจะเติมหลังจากการขึ้นจากน้ำ เพราะว่ากันแดดแม้ว่าจะกันน้ำ แต่เมื่อลงทะเลก็มีโอกาสที่จะละลายไปหมดแล้ว ขึ้นมาจึงควรเติมทันที เพื่อให้ยังคงได้รับการป้องกันจากแสงแดดอย่างต่อเนื่อง
ส่วนผสมสำคัญในครีมกันแดดทาหน้า
รู้หรือไม่! องค์ประกอบของครีมกันแดดจะต่างกันไปตามประเภทของมันอีกด้วย ซึ่งสำหรับการใช้บนใบหน้าจะใช้แบบ Sunscreen เป็นส่วนใหญ่ ตัวนี้เป็นส่วนผสมของ Chemical หรือเรียกง่าย ๆ ว่าแบบเคมี ที่จะประกอบด้วยสารต่าง ๆ ที่จะเข้ามาทำหน้าที่กรองแดดก่อนที่จะลงเข้าไปในชั้นผิว ด้วยสารอย่าง PABA Acid, Oxybenzone, Octyl methoxy Cinnamate Octocylene และ Homosalate หรือบางตัวอาจจะมีส่วนผสมของวิตามินต่าง ๆ เข้ามาเสริมให้ด้วย
อีกแบบจะเรียกได้ว่า Sun Block ที่มาทำหน้าที่เป็นเหมือนกำแพงเกราะป้องกันไม่ให้แสงแดดเข้ามาถึงผิวได้ ในกลุ่มนี้จะเลือกใช้กลุ่มของแร่ เป็นแบบ Zinc Oxide และ Titanium Dioxide มันจะมักถูกใช้กับการป้องกันแสงแดดต่อผิวกายมากเป็นส่วนใหญ่ การใช้ตัว Sun Block เมื่อทาไปแล้วก็เหมือนจะมีฟิลเตอร์ที่คอยทำหน้าที่สะท้อนรังสีกลับออกไป ไม่ให้เข้าไปยังผิว แต่เมื่อไหร่ที่มันเกิดหลุด หรือ เสื่อม ผิวก็จะถูกแสงแดดอย่างเต็ม ๆ จึงทำให้จะต้องทำการเติมเพื่อรักษาการทำงานที่คงที่เอาไว้
วิธีทาครีมกันแดดทาหน้าที่ถูกต้อง
- ทาครีมกันแดดก่อนเวลาเจอแสงแดด 30 นาที เพื่อให้ตัวผลิตภัณฑ์ซึมลงชั้นผิว แล้วทำงานเต็มประสิทธิภาพ
- ใช้ครีมกันแดดในปริมาณที่พอเหมาะ อยู่ที่ขนาดเท่าเหรียญ 10 ขึ้นไป เพื่อให้ครอบคลุมบริเวณที่ต้องเจอแสงแดด
- ลูบไล้ครีมกันแดดให้ทั่วทั้งใบหน้า และ ลำคอ เพื่อสีผิวที่สม่ำเสมอ
สรุป
สาว ๆ ไม่ควรลืมที่จะให้ความสำคัญกับเรื่องของครีมกันแดดทาหน้า ยี่ห้อไหนดี ที่จะทำให้มีความมั่นใจเมื่อต้องออกมาเผชิญหน้ากับแดดที่ร้อนจัดในประเทศไทย รีวิวครีมกันแดดหน้า จะเน้นให้มองหา เลือกใช้กันแดดที่มีค่า SPF 50 ขึ้นไป และมีค่า PA ในระดับที่พอเหมาะ ที่ +++ ขั้นต่ำ ประกอบด้วยการใช้อย่างถูกวิธี เพียงเท่านี้ใบหน้าของเพื่อน ๆ ก็จะสวยสู้แดดประเทศไทยได้อย่างไม่ต้องกังวลผลที่จะตามมาจากแสงแดดที่ทำร้าย
อ้างอิง
https://www.stylecraze.com/articles/things-to-consider-when-choosing-a-sunscreen/