ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนกำลังมีปัญหาผิวหน้า ทั้ง ๆ ที่เราก็บำรุงผิวหน้า และมีสกินแคร์รูทีนอยู่แล้ว เพื่อน ๆ อาจจะต้องลองใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่ชื่อว่า Serum ซึ่งอาจจะเป็นกุญแจสำคัญ ที่ช่วยแก้ปัญหาผิวหน้าของเพื่อน ๆ ให้หมดไปได้เลยล่ะ
เพราะเซรั่มมีคุณสมบัติพิเศษที่แตกต่างจากผลิตภัณฑ์บำรุงอื่น ๆ คือมีความเข้มข้นเป็นพิเศษ สามารถซึมลงสู่ผิวได้อย่างล้ำลึก และยังเห็นผลเร็วอีกด้วยค่ะ หากเพื่อน ๆ กำลังตามหารีวิวเซรั่มแก้ปัญหาผิว ไม่ว่าจะเป็นเซรั่มไฮยา เซรั่มวิตามินซี เซรั่มลดสิว กระชับรูขุมขน มิสซี่พร้อมแนะนำเซรั่มตัวดังใช้ดีให้เพื่อน ๆ ทุกคนแล้วค่ะ ก่อนจะเลือกซื้อเซรั่มบำรุงผิวหน้า ยี่ห้อไหนดีมาดูข้อดี ข้อเสียของเซรั่มบำรุงหน้าแต่ละตัวกันเล้ย
TOP 3 เซรั่มบำรุงผิวหน้า
#1 Kiehl’s Clearly Corrective Dark Spot Solution
ราคา 3,850 บาท
#2 Innisfree Green Tea Seed Serum
ราคา 1,000 บาท
#3 La Roche Posay Effaclar Serum
ราคา 1,350 บาท
เซรั่ม คืออะไร? ทำไมถึงควรใช้เซรั่ม?
เซรั่ม คือ สกินแคร์ที่ช่วยแก้ไขปัญหาผิวหน้าได้อย่างเฉพาะจุด มีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงและแก้ไขปัญหาผิวที่เข้มข้นมาก แต่ยังคงมีความบางเบา ไม่เหนียว ซึมลงสู่ชั้นผิวได้ไว และง่าย ทำให้สามารถเห็นผลได้ไว และชัดเจนมากกว่าผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ดังนั้น ไม่ต้องสงสัยเลยค่า ว่าทำไมเราถึงควรใช้เซรั่ม โดยจุดเด่นของเซรั่ม ที่ควรใช้ ได้แก่
- ดูดซึมเข้าผิวได้รวดเร็ว เพราะเซรั่มจะมีความเบาบาง ไม่เหนียว และมักมีส่วนผสมเพิ่มความชุ่มชื้น ที่ทำให้ถูกดูดซึมได้ดีมากขึ้น
- การใช้เซรั่มเป็นประจำ จะทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น และช่วยลดอาการแพ้ หรืออาการระคายเคืองบนผิวหนังได้
- เหมาะกับคนที่มีริ้วรอย เพราะเซรั่ม จะเลือกส่วนผสมที่เน้นแก้ไขปัญหาริ้วรอยที่เข้มข้นมาไว้รวมกัน ทำให้เห็นผลชัด และไว
- ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะและรังสี UV โดยเฉพาะเซรั่มวิตามิน C หรือเซรั่มที่มีส่วนผสมของวิตามิน E หรือชาเขียว จะช่วยต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลง ลดเลือนริ้วรอยและรอยย่นได้
- สามารถแก้ไขปัญหาผิวได้เร็ว และเห็นผลชัด เนื่องจากเซรั่มเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นมาก
- เหมาะสำหรับผิวหน้าทุกประเภท เพราะเซรั่มสามารถถูกดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว ทำให้หน้าไม่เยิ้ม เหมาะกับคนผิวมัน และยังมักจะผสมสารเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้เหมาะกับคนผิวแห้งด้วย
จะเลือกซื้อ เซรั่มบำรุงผิวหน้า ยี่ห้อไหนดี 2566
1. เซรั่มบำรุงผิวหน้า โดยรวมดีที่สุด : Kiehl’s Clearly Corrective Dark Spot Solution
ราคา 3,850 บาท
ข้อดี
+ ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ฝ้า และรอยสิว
+ ซึมไวมาก ไม่เหนอะผิวเลย
+ เห็นผลชัด และไว
ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างแรง
เซรั่มตัวดังขายดีอันดับ 1 ในไทย 5 ปีซ้อน แค่นี้ก็การันตีคุณภาพได้แล้วค่า โดยตัวเนื้อเซรั่มมีความบางเบา และซึมไวมาก โดยเซรั่มตัวนี้ ขึ้นชื่อมาก ๆ ในเรื่องช่วยลดเลือนจุดด่างดำ และช่วยลดรอยสิวได้ดีมาก ๆ ด้วยส่วนผสมของ Salicylic acid พร้อมด้วยวิตามิน C ที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส สีผิวสม่ำเสมอ มี Proxylane ที่ช่วยลดริ้วรอย และมี Glycerine ที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว แถมยังมีสารสกัดจากผิวเปลือกส้ม ที่ช่วยลดการผลิตน้ำมันบนใบหน้าได้ด้วยนะคะ
เซรั่ม kiehl’s dark spot รีวิวปังมาก มีคุณสมบัติที่ครอบคลุมมาก โดยเฉพาะเรื่องการลดรอยบนใบหน้า และหน้ากระจ่างใส ทำให้ติดอันดับในหมวดเซรั่มที่ดีที่สุด ของบิ้วตี้บล็อกเกอร์หลายคนเลย เซรั่มลด รอยดําตัวนี้ เห็นผลได้ภายใน 7 วัน และถ้าใช้ต่อเนื่องจะได้ผลลัพธ์ 100% ภายใน 2 สัปดาห์เลยค่า ถ้าเพื่อน ๆ ไม่อยากคิดมาก ว่า เซรั่ม ยี่ห้อไหนดี มิสซี่แนะนําเซรั่มตัวนี้เลยค่า เป็นเซรั่มตัวเดียวจบ
ปริมาณ 50 ml : ราคา 3,850 บาท (ตก ml ละ 77 บาท)
จุดเด่น | ช่วยลดเลือนรอยต่าง ๆ ได้ครบ ทั้งรอยด่างดำ รอยสิว และริ้วรอย ให้ความชุ่มชื้น เห็นผลไว |
ส่วนประกอบสำคัญ | Salicylic acid, Activated C, Proxylane |
เหมาะกับ | ผิวมีรอยดำ หมองคล้ำ |
อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย | ✓ |
2. เซรั่มเกาหลี แนะนำ : Innisfree Green Tea Seed Serum
ราคา 1,000 บาท
ข้อดี
+ เน้นให้ผิวชุ่มชื้น
+ ช่วยเสริมเกราะป้องกันให้ผิว
+ รูขุมขนดูกระชับขึ้น
ข้อควรพิจารณา
– ไม่ช่วยเรื่องขาวใส
– มีน้ำหอม
innisfree เซรั่มรุ่นนี้เป็นตัวดังของแบรนด์นี้เลยค่ะ เซรั่มบางเบา สีออกจะขุ่น ๆ นิดหน่อย มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ และสดชื่น ของใบชา และซิตรัส โดยเซรั่มสูตรใหม่ 2022 นี้ จะมีส่วนผสมของ Hyaluronic acid ที่มากขึ้นถึง 5 เท่า เน้นให้ความชุ่มชื้นแบบจุก ๆ แถมยังเสริมด้วย สารสกัดน้ำมันเมล็ดชาเขียวที่ดีที่สุดจากเกาะเชจู และสารสกัดจากบีท ที่เพิ่มเรื่องการเสริมเกราะป้องกันผิวจากมลภาวะต่าง ๆ
นอกจากนี้เซรั่มเกาหลีตัวนี้ ยังผสมวิตามิน B3 ที่ช่วยคุมความมัน ลดรอยต่าง ๆ และช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน รีวิวเซรั่มตัวนี้ ถือว่าเป็นเซรั่มใช้ดียืนพื้นอีกตัวนึงเลยล่ะค่ะ ถ้าใครต้องการเซรั่มผิวแข็งแรง แล้วยังไม่รู้ว่าจะใช้ เซรั่ม ยี่ห้อไหนดี ต้องตัวนี้เลยค่า
ปริมาณ 80 ml : ราคา 1,000 บาท (ตก ml ละ 12.5 บาท)
จุดเด่น | ช่วยในเรื่องของความชุ่มชื้นดีมาก เสริมเกราะป้องกันให้ผิว ให้ผิวแข็งแรง |
ส่วนประกอบสำคัญ | Hyaluronic acid 5 ชนิด, Green Tea, |
เหมาะกับ | ผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ |
อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย | มีน้ำหอม ผิวแพ้ง่ายควรทดสอบก่อน |
3. เซรั่มบำรุงผิวหน้า รักษาสิว: La Roche Posay Effaclar Serum
ราคา 1,350 บาท
ข้อดี
+ เน้นผลัดเซลล์ผิว ลดสิวอุดตัน
+ ซึมไวมาก
+ สิวลดลงแบบเห็นผลจริง
ข้อควรพิจารณา
– มีส่วนผสมของน้ำหอม
– หากมีสิวอุดตันใต้ผิวเยอะ จะมีช่วงดันสิว
เซรั่มลาโรชรุ่นนี้ เป็นเซรั่มสําหรับคนเป็นสิวที่หลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นเซรั่มลดสิวที่ดีมาก ๆ เลยค่า โดย Serum จะมีเนื้อใส บางเบา ซึมง่าย มีส่วนผสมของ LHA ที่ช่วยสลายสิวที่อุดตันในรูขุมขน ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดรอยสิว และช่วยให้ผิวสม่ำเสมอมากขึ้น มี Salicylic acid ที่ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย ที่เป็นต้นเหตุของการเกิดสิว
นอกจากนี้ ยังเป็นเซรั่มลดสิวอุดตัน เพราะมี Glycolic acid พิเศษ ที่ช่วยลดการเห่อของสิว และ วิตามิน B3 ที่ช่วยคุมความมัน และช่วยปลอบประโลมผิวได้ดี ขึ้นแท่นลูกรักของหลาย ๆ คนเลย หากเพื่อน ๆ คนไหนประสบปัญหาสิว และกำลังมองหา เซรั่ม ยี่ห้อไหนดี ไม่ต้องคิดแล้วค่า เซรั่ม La Roche Posay ตัวนี้เลยค่า
ปริมาณ 30 ml : ราคา 1,350 บาท (ตก ml ละ 45 บาท)
จุดเด่น | เซรั่ม BHA เน้นลดสิว ลดรอยสิว |
ส่วนประกอบสำคัญ | LHA, Salicylic acid, Glycolic acid, Niacinamide |
เหมาะกับ | ผิวเป็นสิว ผิวมัน |
อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย | มีน้ำหอม ผิวแพ้ง่ายควรทดสอบก่อน |
4. เซรั่มบำรุงผิวหน้า ลดฝ้า กระ จุดด่างดํา : Eucerin Spotless Brightening Booster Serum
ราคา 2,100 บาท
ข้อดี
+ เน้นการรักษารอยดำต่าง ๆ โดยเฉพาะฝ้า และ กระ
+ ช่วยให้หน้ากระจ่างใส
+ เห็นผลไว
ข้อควรพิจารณา
– เนื้อครีมไม่หนักไม่เบา
เซรั่มยูเซอรินตัวดังที่มาในรูปแบบใหม่ รวม 2 สูตร ที่เป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างเป็นเซรั่มรักษาฝ้า และเซรั่มหน้าใสในกระปุกเดียว Serum ซึมลงสู่ชั้นผิวได้ไว เป็นเซรั่มบูสต์ผิวที่มีเทคโนโลยี Micro Target ที่ช่วยรักษารอยต่าง ๆ ได้อย่างตรงจุด และมีส่วนผสมของ Thiamidol ที่เป็นสูตรเฉพาะของเซรั่ม eucerin ที่ยับยั้งการเกิดฝ้าแดด และจุดด่างดำได้ดีมาก อีกทั้งยังช่วยไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำ มี Pure Hyaluron และ Glycerine ที่เพิ่มความชุ่มชื้นอีกด้วยค่ะ
รีวิวเซรั่มตัวนี้ คือไปในทิศทางเดียวกันหมดเลยว่าลดรอยต่าง ๆ เห็นผลได้ชัดใน 14 วัน แถมผิวกระจ่างใสขึ้นด้วย แต่สำหรับฝ้า กระ ที่รักษาได้ยาก คืออาจจะต้องใช้เวลานานหน่อยประมาณ 1-2 เดือน จะเห็นผลได้ชัด แบบที่ Serum ตัวอื่นให้ไม่ได้ ทำให้ยูเซอรินเซรั่มตัวนี้ขึ้นแท่น favoratie ของหลายคนเลยค่ะ ถ้าเพื่อน ๆ คนไหน เจอกับปัญหานี้อยู่ไม่ต้องคิดแล้วว่า เซรั่ม ยี่ห้อไหนดี ตัวนี้คือจบ
ปริมาณ 30 ml : ราคา 2,100 บาท (ตก ml ละ 70 บาท)
จุดเด่น | เน้นรักษารอยต่าง ๆ โดยเฉพาะ รอยฝ้า รอยกระ ลดรอยสิว จุดด่างดำ ผิวกระจ่างใส รักษาความชุ่มชื้น |
ส่วนประกอบสำคัญ | T้hiamidol, Pure Hyaluron, Glycerine |
เหมาะกับ | ผิวมัน ผิวแห้ง ผิวที่มีรอยต่าง ๆ เช่น รอยฝ้า รอยกระ |
อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย | มีน้ำหอม ผิวแพ้ง่ายควรทดสอบก่อน |
5. เซรั่มบำรุงผิวหน้า กระชับผิว : Lancome Advanced Genifique
ราคา 3,500 บาท
ข้อดี
+ ช่วยเสริมเกราะป้องกันให้ผิว
+ หน้ากระชับ ผิวอิ่มฟู ดูอ่อนเยาว์ลง
+ ผิวกระจ่างใสขึ้น
ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างแรง
ถ้าจะให้แนะนําเซรั่ม เซรั่มลังโคมตัวนี้คือขาดไม่ได้ เป็นเซรั่มตัวดังที่สุดของแบรนด์นี้เลยค่ะ โดยเนื้อจะมีความบางเบา ซึมลงผิวได้ดีมาก โดดเด่นมาก ๆ ด้วยส่วนผสมของ Microbiome Technology ที่เป็นจุลินทรีย์ธรรมชาติที่ดี มักพบมากในผิวเด็ก เป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้หน้าดูเด็กลง ช่วยปรับสมดุลผิว และช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และมีส่วนผสมของ มีวิตามิน C ที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
นอกจากนี้ ยังมี Hyaluronic acid และ Glycerin ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวด้วยนะคะ เป็นเซรั่มบูสต์ผิว ที่เหล่าบิ้วตี้บล็อกเกอร์หลาย ๆ คนยืนยันในผลลัพธ์ ว่าช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นภายใน 7 วันเลยล่ะค่า ถ้าเพื่อน ๆ กำลังมองหาเซรั่มบํารุงผิวหน้าว่า เซรั่ม ยี่ห้อไหนดี ต้องตัวนี้เลยค่ะ lancome genifique ปัง สมคำร่ำลือ
ปริมาณ 30 ml : ราคา 3,500 บาท (ตก ml ละ 116.6 บาท)
จุดเด่น | ช่วยเสริมเกราะป้องกันให้ผิว หน้ากระชับ กระจ่างใส ดูอ่อนเยาว์ลง |
ส่วนประกอบสำคัญ | Microbiome, Vitamin C (ascorbyl glucoside), Hyaluronic acid |
เหมาะกับ | ทุกสภาพผิว |
อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย | มีน้ำหอม ผิวแพ้ง่ายควรทดสอบก่อน |
6. เซรั่มวิตามินซี ผสมไฮยาลูรอน: Vichy Liftactiv vitamin C Brightening Skin Corrector
ราคา 1,500 บาท
ข้อดี
+ เน้นช่วยให้ผิวใสและอิ่มฟู
+ ลดรอยด่างดำ รอยสิวบนใบหน้า
+ ป้องกันผิวจากมลภาวะ ลดริ้วรอย
ข้อควรพิจารณา
– อายุการใช้งานประมาณ 1 เดือน
เซรั่ม vichy ตัวนี้ ขึ้นชื่อว่าเป็นเซรั่มวิตามินซีที่ดีที่สุดของหลาย ๆ สำนักเลยค่า ด้วยส่วนผสมสุดปังที่เน้นส่วนผสมของวิตามินซี Ascorbic acid เข้มข้นถึง 15% ที่เน้นผิวกระจ่างใส ลดรอยร่องตื้นให้จางลง เสริมเกราะป้องกันมลภาวะให้ผิว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน มีสารสกัดจากเปลือกสนฝรั่งเศส ที่ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ให้ผิวดูสม่ำเสมอ มีวิตามิน E ที่ช่วยเสริมการทำงานของวิตามิน C อีกทั้งยังมี Hyaluronic acid โมเลกุลเล็กที่ซึมเข้าสู่ผิวง่าย ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น
เป็นเซรั่มที่ได้รับการยืนยันจากผู้ใช้จริงว่าเป็นเซรั่มลดจุดด่างดําและเซรั่มหน้าขาวใสที่เห็นผลจริงค่อนข้างไว แต่อายุการใช้งานจะสั้นหน่อยนะคะ เพราะใช้วิตามิน C แท้แต่ไม่ค่อยทนสภาวะอากาศเท่าไหร่นั่นเองค่ะ ใครที่ประสบปัญหาผิวหมองคล้ำ แล้วกำลังคิดว่าเซรั่ม ยี่ห้อไหนดี ต้องตัวนี้เลยค่า เป็นเซรั่ม vit c ที่ปังสุดแล้ว
ปริมาณ 20 ml : ราคา 1,500 บาท (ตก ml ละ 75 บาท)
จุดเด่น | เซรั่มตัวเดียวจบ ช่วยทั้งผิวใสและเติมน้ำพร้อมต้านอนุมูลอิสระ |
ส่วนประกอบสำคัญ | Vitamin C (Ascorbic acid), สารสกัดจากเปลือกสนฝรั่งเศส, Vitamin E, Hyaluronic acid |
เหมาะกับ | ผิวหมองคล้ำ |
อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย | ✓ |
7. เซรั่มไฮยา กระชับรูขุมขน : L’oreal Paris Revitalift Hyaluronic Acid Serum
ราคา 799 บาท
ข้อดี
+ ผิวอิ่มน้ำ ดูสุขภาพดี อิ่มฟู
+ ช่วยลดเลือนริ้วรอย
+ ไม่มีแอลกอฮอล์ และน้ำหอม เหมาะกับผิวแพ้ง่าย
ข้อควรพิจารณา
– ไม่ช่วยเรื่องผิวขาว
เซรั่มลอรีอัลสูตรนี้เป็นไฮยาลูรอนเซรั่มยอดฮิตที่อยู่มานาน เป็นสูตรที่หลาย ๆ รีวิวต่างพากันพูดถึง มีเนื้อสัมผัสที่เบาบาง ซึมง่าย มีส่วนผสมที่โดดเด่นมาก ๆ คือ Hyaluronic Acid เข้มข้นถึง 1.5% เป็นเซรั่มไฮยาที่มีทั้งโมเลกุลใหญ่ และโมเลกุลเล็กในขวดเดียว โดยโมเลกุลใหญ่จะช่วยดึงความชุ่มชื้นได้มากขึ้น และโมเลกุลเล็กจะช่วยดึงน้ำให้ลงลึกสู่ผิว และบวกด้วย Glycerin ที่เสริมความชุ่มชื้นเข้าไปจุก ๆ อีกด้วยจ้า
เซรั่มราคาถูกและดีตัวนี้ ยังมีส่วนผสมของ Peptide ที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยได้อีกด้วย พิเศษด้วยการเป็นเซรั่มไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีน้ำหอม ทำให้เหมาะเป็นเซรั่ม ผิวแพ้ง่ายใช้ดีอย่างแท้จริง รีวิวเซรั่มตัวนี้บอกว่าเป็นเซรั่มที่ทำให้ผิวฟู อิ่มน้ำ เห็นผลจริงแบบสังเกตได้ถึงความเปลี่ยนแปลงเลยค่ะ อีกทั้งถ้าเพื่อน ๆ คนไหนมีรูขุมขนกว้าง เซรั่มตัวนี้คือใช้ได้ ไม่ต้องมองหาว่า เซรั่ม ยี่ห้อไหนดี ถ้าพูดถึงเซรั่มไฮยาลูรอนต้องยกให้เขาเลย
ปริมาณ 30 ml : ราคา 799 บาท (ตก ml ละ 26.6 บาท)
จุดเด่น | เน้นช่วยให้ผิวอิ่มน้ำ ดูสุขภาพดี กระชับรูขุมขน |
ส่วนประกอบสำคัญ | Hyaluronic Acid, Glycerin, Peptide |
เหมาะกับ | ทุกสภาพผิว |
อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย | ✓ |
8. เซรั่มบำรุงผิวหน้า ปลอบประโลมผิว : Biotherm Life Plankton Elixir
ราคา 2,400 บาท
ข้อดี
+ ปลอบประโลมผิวได้ดีมาก
+ ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว
+ ให้ความชุ่มชื้นดี
ข้อควรพิจารณา
– มีกลิ่นเฉพาะตัว บางคนอาจจะไม่ชอบ
เซรั่มไบโอเธิร์ม Serum ในตำนานอีกตัว ด้วยความพิเศษที่มีส่วนผสมของ Life plankton ที่เข้มข้นถึง 5% ที่จะช่วยฟื้นบำรุงผิว และปลอบประโลมผิวได้อย่างดีเยี่ยม มีวิตามิน C ที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส และลดเลือนจุดด่างดำ และมี Hyaluronic acid โมเลกุลใหญ่ และโมเลกุลเล็ก รวมถึงมี Glycerin ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างเต็มที่
เซรั่มบำรุงหน้าตัวนี้ จัดได้ว่าครบเครื่อง รีวิวจากยูทูปเบอร์ บอกว่าเหมาะที่จะเป็นเซรั่มคนเป็นสิวผดจากการระคายเคือง เพราะปลอบประโลมผิวได้ดีมาก สามารถเห็นผลได้ชัดเจนใน 10 วัน ยิ่งถ้าเพื่อน ๆ ได้ใช้เอสเซนส์ เซรั่มผสานกัน ก็จะยิ่งเห็นผลชัดมากขึ้นไปอีก เพราะเอสเซนส์ของเค้าตัวนี้คือดังมากมาย ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนมีผิวระคายเคืองง่าย แล้วกำลังเลือก เซรั่ม ยี่ห้อไหนดี ตัวนี้เลยค่ะ แก้ไขปัญหาตรงจุดสุด ๆ
ปริมาณ 30 ml : ราคา 2,400 บาท (ตก ml ละ 80 บาท)
จุดเด่น | เน้นปลอบประโลมผิวได้ดีมาก เสริมเกราะป้องกัน |
ส่วนประกอบสำคัญ | Life plankton, Vitamin C, Hyaluronic acid, Glycerin |
เหมาะกับ | ผิวระคายเคืองง่าย |
อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย | มีน้ำหอม ผิวแพ้ง่ายควรทดสอบก่อน |
9. เซรั่ม กระชับรูขุมขนดีที่สุด : Rojukiss Perfect Poreless Serum
ราคา 990 บาท
ข้อดี
+ เน้นช่วยเรื่องกระชับรูขุมขน
+ ช่วยลดการเกิดสิว
+ ช่วยให้ผิวกระจ่างใส
ข้อควรพิจารณา
– มีส่วนผสมของ Lactic acid และ วิชฮาเซล ที่อาจจะทำให้แพ้
เซรั่มเกาหลียี่ห้อดังอย่างโรจูคิส เซรั่ม ตัวนี้ เป็นเซรั่มกระชับรูขุมขนขายดี เนื้อเซรั่มมีสีใส เบาบาง ซึมไว แทบจะเรียกได้ว่าเป็นเซรั่มออแกนิค เลยล่ะค่ะ ด้วยส่วนผสมธรรมชาติที่เยอะมาก ทั้งสารสกัดจากวิชฮาเซล และสารสกัดจากเปลือกต้นวิลโลว์ ที่ช่วยกระชับรูขุมขนได้อย่างดีเยี่ยม ช่วยลดการเกิดสิว และกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว มี Glycerin เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว และยังมี Lactic acid ที่ช่วยทำให้ผิวเรียบเนียนด้วยน้า
เซรั่มหน้าใสเกาหลีตัวนี้ ยังมีโกฐกักกราจีน สารสกัดจากดอกคาโมมายล์ และ Arginine ที่ช่วยปลอบประโลมผิว โดยหลายรีวิวพูดกันไว้ว่ารูขุมขนดูเล็กลงอย่างเห็นได้ชัดเลยล่ะ ถ้าใครอยากแก้รูขุมขนกว้างแล้วกำลังเลือกซื้อ เซรั่ม ยี่ห้อไหนดี ต้องตัวนี้เลยค่า เป็นเซรั่มในเซเว่นด้วยน้า หาซื้อง่ายมากมาย
ปริมาณ 30 ml : ราคา 990 บาท (ตก ml ละ 33 บาท)
จุดเด่น | เน้นช่วยเรื่องกระชับรูขุมขน ลดสิว ผิวกระจ่างใส |
ส่วนประกอบสำคัญ | สารสกัดจากวิชฮาเซล, สารสกัดจากเปลือกต้นวิลโลว์, สารสกัดจากดอกคาโมมายล์, Arginine, Glycerin, Lactic acid |
เหมาะกับ | ผิวมัน ผิวที่มีรูขุมขนกว้าง |
อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย | มี Lactic acid และ วิชฮาเซล ผิวแพ้ง่ายควรทดสอบก่อน |
10. เซรั่มบำรุงผิวหน้า ลดเลือนริ้วรอย : Estee Lauder Advanced Night Repair Synchronized Multi-Recovery Complex
ราคา 3,600 บาท
ข้อดี
+ เน้นช่วยชะลอวัย ผิวหน้าอ่อนเยาว์
+ เสริมเกราะป้องกันให้ผิวแข็งแรง
+ หน้าฟูชุ่มชื้นขึ้น
ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างแรง
เซรั่มเอสเต้ถือเป็นตำนานเซรั่มยอดนิยมในไทย โดยเจ้าเซรั่มตัวนี้มีความเบาบาง ไม่เหนอะหนะ แม้จะเป็นสูตรสำหรับกลางคืน แต่กลางวันก็ใช้ได้นะคะ คุณสมบัติเด่นคือช่วยชะลอวัยผิว และลดเลือนริ้วรอย ด้วยเทคโนโลยี ChronoluxTM Power Signal และส่วนผสม Tripeptide-32 อีกทั้งยังมี Microbiome ที่ช่วยปรับสมดุลให้ผิว เสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง และมี Hyaluronic acid และ Glycerine ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นอีกด้วยน้า
นอกจากนี้ ยังผสมคาเฟอีนและสารสกัดจากเกาลัดที่ช่วยซ่อมแซมผิว ลดรอยย่นเพิ่มไปอีก โดยบิ้วตี้บล็อกเกอร์หลาย ๆ ท่านต่างยกให้เป็นเป็นเซรั่มบูสต์ผิวขึ้นหิ้งเลยค่ะ โดยเห็นผลได้ชัดว่าผิวดีขึ้นภายใน 7 วัน ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนกำลังกังวลเรื่องปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า คือไม่ต้องคิดเลยว่า เซรั่ม ยี่ห้อไหนดี เพราะตัวนี้คือเกิดมาเพื่อแก้ปัญหานี้โดยเฉพาะ
ปริมาณ 30 ml : ราคา 3,600 บาท (ตก ml ละ 120 บาท)
จุดเด่น | เน้นเรื่องช่วยชะลอวัย ลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า เสริมเกราะป้องกันผิว |
ส่วนประกอบสำคัญ | Tripeptide-32, Microbiome, Hyaluronic acid, Glycerine, คาเฟอีน, สารสกัดจากเกาลัด |
เหมาะกับ | ผิวแห้งกร้าน ผิวเป็นริ้วรอย ผิวหมองคล้ำ |
อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย | ✓ |
วิธีเลือกซื้อ “เซรั่ม”
เนื่องจากมีเซรั่มมากมายหลายชนิดให้เลือกใช้ มันอาจจะทำให้เพื่อน ๆ รู้สึกสับสน งุนงง ว่าจะเลือกตัวไหนดี ดังนั้น มิสซี่จะพาไปดูส่วนผสมที่เหมาะกับปัญหาผิวของแต่ละคนกันค่ะ
- ผิวธรรมดา
- สามารถใช้เซรั่มได้ตามใจชอบเลยค่ะ หรือเพื่อน ๆ สามารถเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ได้ตามฤดูกาล หรือสภาพฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงของเพื่อน ๆ ได้เลยนะคะ
- ผิวแห้ง — ส่วนผสมหลักที่ควรมี : Hyaluronic Acid
- เหมาะกับเซรั่มที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ให้เพื่อน ๆ มองหาส่วนผสมของสารที่ช่วยดูดซับความชุ่มชื้นได้ดี เช่น Hyaluronic acid, Glycerin, Betaine และ Panthenol (วิตามินบี 5) ซึ่งช่วยดูดซับความชื้นจากอากาศ เข้าสู่ผิว
- เหมาะกับเซรั่มที่มีน้ำมันที่สกัดได้จากพืช เช่น สารสกัดจากมะพร้าว ceramides กรดไขมันที่จำเป็น และสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามิน E
- ผิวมัน — ส่วนผสมหลักที่ควรมี : Niacinamide
- เหมาะกับเซรั่มที่เน้นควบขุมความมัน กระชับรูขุมขน ด้วยส่วนผสมจำพวก Niacinamide (วิตามิน B3) และ สารสกัดจาก Enantia chlorantha
- เหมาะกับเซรั่มที่มีส่วนผสมของ Zinc, lactic acid และ pink clay เช่นกัน เพราะเป็นส่วนผสมสำคัญที่ช่วยดูดซับความมันได้
- ผิวผสม — ส่วนผสมหลักที่ควรมี : Hyaluronic Acid และ Niacinamide
- ผิวผสม อาจจะทำให้การดูแลรักษายุ่งยากขึ้น แต่ตัวเซรั่ม จะมีความเบาบางมากพอที่จะทำให้ผิวไม่แห้ง หรือมันเยิ้มจนเกินไป เพื่อน ๆ อาจจะลองใช้เซรั่มที่ช่วยรักษาความชุ่มชื้นในบริเวณที่มีผิวหน้าแห้ง และใช้เซรั่มที่ช่วยลดความมันของผิวบริเวณ T-zone
- ผิวที่มีสิวเห่อ — ส่วนผสมหลักที่ควรมี : Salicylic Acid
- เหมาะกับเซรั่มลดสิว ที่มีส่วนประกอบหลัก คือ Salicylic acid ที่ช่วยขัดผิว และ ช่วยไม่ให้รูขุมขนอุดตัน อีกทั้งยังช่วยลดการอักเสบ และลดรอยแดง
- เซรั่มที่มีส่วนผสมของ Azelaic acid น้ำผึ้ง สารสกัดจากชาเขียว และ สารสกัดจากเปลือกต้นวิลโลว์ ก็ช่วยกำจัดแบคทีเรีย ที่เป็นต้นเหตุของการเกิดสิวได้เช่นกัน
- ผิวผู้ใหญ่ มีริ้วรอย — ส่วนผสมหลักที่ควรมี : Retinol
- เหมาะกับเซรั่มลดริ้วรอยที่มี Retinol หรือ Peptide เป็นส่วนผสม เพราะช่วยลดริ้วรอย และรอยย่น เนื่องจาก Retinol จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสติน
- ส่วนผสมเสริมเพื่อช่วยให้หน้าอิ่มฟู ดูอ่อนเยาว์ คือกลุ่ม Hyaluronic acid และ Panthenol หรือจะมีส่วนผสมของ Lactic acid ที่ช่วยเสริมการผลัดเซลล์ผิวก็ดีเช่นกัน
- ผิวแพ้ง่าย — ส่วนผสมหลักที่ควรมี : Calendula, Centella, Aloe vera
- เหมาะกับเซรั่มที่มีส่วนผสมอ่อนโยน เน้นการปลอบประโลมผิว
- พยายามตัดส่วนผสมที่เป็นน้ำหอม และสีย้อม ที่อาจจะทำให้เกิดการระคายเคือง
- ผิวที่มีความหมองคล้ำ — ส่วนผสมหลักที่ควรมี : วิตามิน C
- เหมาะกับเซรั่มวิตามินซี ที่จะช่วยให้ผิวกระจ่างใส กระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน และเสริมเกราะป้องกันผิวอย่างล้ำลึก
- สำหรับสารสกัดที่ช่วยเรื่องหน้าขาว นอกจากวิตซีแล้วก็มี Arbutin และ Thiamidol ค่ะ
- ผิวที่มีจุดด่างดำ — ส่วนผสมหลักที่ควรมี : Glycolic Acid
- เหมาะกับเซรั่มที่มีส่วนผสมของ Glycolic acid ที่ช่วยขัดผิวอย่างอ่อนโยน และช่วยลดรอยต่าง ๆ ไปอย่างช้า ๆ
- หรือจะเป็นเซรั่มที่ผสม Niacinamide ก็ใช้ช่วยแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเม็ดสี หรือจะเป็น Hydroquinone ที่มีฤทธิ์แรงกว่า แต่ไม่แนะนำสำหรับผู้มีผิวบอบบาง
- ผิวที่หยาบและไม่เรียบเนียน — ส่วนผสมหลักที่ควรมี : Lactic acid
- เหมาะกับเซรั่มที่มีส่วนประกอบคือ Lactic acid, Glycolic acid และ Retinol จะช่วยให้ผิวเรียบเนียนมากขึ้น และสามารถใช้เซรั่มที่ผสม AHAs ก็จะช่วยฟื้นฟู และผลัดเซลล์ผิวไปพร้อม ๆ กัน
ดูแลผิวหน้าต้องใช้อะไรบ้าง
ในการดูแลผิวหน้า ตัวหลัก ๆ ที่เพื่อน ๆ ควรใช้ประจำเพื่อคงความสุขภาพดีของผิว มี 4 ตัวหลัก ๆ ได้แก่
- คลีนซิ่ง : เลือกคลีนซิ่งแบบไหนดี? ก็ต้องเลือกเหมาะสมกับประเภทของผิวหน้า ควรเลือกคลีนซิ่งที่ไม่ทำให้ผิวหน้าแห้งตึงจนเกินไป เพราะมันจะเป็นการกำจัดน้ำมันธรรมชาติบนใบหน้าออกจนหมด ซึ่งอาจจะทำให้ผิวหน้ามีปัญหาตามมาในภายหลัง
- เซรั่ม : เป็นตัวที่จะทาหลังจากล้างหน้า หรือลงโทนเนอร์ หรือเอสเซนส์นะคะ เพราะเซรั่ม จะมีเนื้อบางเบา เข้มข้น และมีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิวหน้าได้ดีมาก ๆ ทำให้ซึมลงเข้าสู่ผิวชั้นในได้ภายใน 30-60 วินาทีเลยค่ะ โดยเพื่อน ๆ สามารถใช้เซรั่มได้ครั้งละ 2-3 ตัว ในทีเดียวเลยล่ะ ดังนั้น มิสซี่จะมาบอกทริค ว่าเซรั่มตัวไหนไม่ควรใช้ด้วยกัน เซรั่มตัวไหนเหมาะใช้กับเวลาไหน ไปกันเลยค่า
- เซรั่มกลางวัน : ได้แก่ เซรั่มที่เสริมเกราะป้องกันมลภาวะให้ผิว เช่นเซรั่มที่มีส่วนผสมของวิตามิน C, A และ E, Hyaluronic acid หรือเปปไทด์ เป็นต้น และควรทาก่อนจะลงมอยเจอร์ไรเซอร์ และกันแดดนะคะ
- เซรั่มกลางคืน : จะเน้นไปที่การฟื้นฟูบำรุงผิว เช่น เซรั่มที่มีส่วนผสมของ Retinol หรือ Hyaluronic acid เป็นต้นค่ะ และควรใช้คู่กับมอยเจอร์ไรเซอร์ จะช่วยให้เติมน้ำให้ผิวได้อย่างเต็มที่ที่สุด
- มอยเจอร์ไรเซอร์ : แม้ว่าจะเป็นคนผิวมัน ก็ยังคงต้องการมอยเจอร์ไรเซอร์ แต่ให้เลือกใช้แบบที่บางเบา มีลักษณะเป็นเจล ไม่ก่อให้เกิดสิว และไม่อุดตันรูขุมขน ส่วนคนผิวแห้ง อาจจะเหมาะกับมอยเจอร์ไรเซอร์ที่เป็นเนื้อครีมมากกว่า
- ครีมกันแดด : ใช้ครีมกันแดดทาหน้าที่อย่างน้อยมี SPF 30 ทาก่อนออกแดด 15 นาทีเพื่อให้กันแดดทำงาน ผิวที่มีโทนสีเข้มจะต้องทากันแดดมากกว่า เพราะว่าจุดด่างดำจะเกิดได้ง่ายกว่า
ข้อควรระวังในการใช้เซรั่ม
ไม่ควรนำเซรั่มบางชนิดมาใช้พร้อมกัน เช่น อย่านำเซรั่มจำพวก Retinol กับเซรั่มวิตามิน C หรือเซรั่มพวก Salicylic Acid เพราะด้วยคุณสมบัติที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว ผสานเข้ากับการขัดผิวที่มีฤทธิ์แรง มันจะทำให้ผิวของเพื่อน ๆ บางและอ่อนแอลงได้ค่ะ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเซรั่ม
เซรั่ม ดีไหม?
เซรั่ม ดีมากค่ะ เพราะเซรั่ม เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่มีความเข้มข้นมาก และสามารถบำรุงลึกได้ถึวเซลล์ผิวชั้นใน อีกทั้งช่วยแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด เนื่องจากเซรั่มมีหลากหลายสูตร แถมยังสามารถใช้ได้หลายตัว ทำให้รักษาได้หลายปัญหาสุด ๆ
เซรั่ม ช่วยอะไร?
เซรั่ม ช่วยในการบำรุงผิวหน้าอย่างล้ำลึก โดยตัวเซรั่มจะซึมลงชั้นที่ลึกกว่าของผิว ด้วยเนื้อที่มีความเบาบาง และเข้มข้นมากกว่าครีมทั่วไป แถมยังช่วยบำรุงได้อย่างตรงจุดเพราะมีหลากหลายสูตรให้เพื่อน ๆ ได้เลือกสรร
เซรั่ม ใช้ตอนไหน?
เซรั่ม ใช้หลังจากที่เราทำความสะอาดผิวหน้าทันทีหลังจากที่หน้าของเราแห้งแล้ว โดยพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวสูญเสียน้ำไป และ ลงเซรั่มก่อนครีมทากลางวันและกลางคืนของเพื่อน ๆ โดยเซรั่มจะเป็นตัวที่ถูกซึมเข้าไปก่อน และจะไม่ไปแทนที่หน้าที่ของมอยเจอร์เรเซอร์ที่จะเป็นตัวสุดท้ายที่ลง เพื่อที่กักเก็บสารบำรุงต่าง ๆ ไว้
เอสเซนส์กับเซรั่ม ต่างกันอย่างไร?
เอสเซนส์กับเซรั่ม ต่างกันนะคะ ถึงแม้ว่าทั้งเซรั่ม และเอสเซนส์ จะอุดมไปด้วยส่วนผสมมากมายที่ช่วยบำรุงผิว แต่เซรั่มจะมี Active ingredient เข้มข้นที่สุด ส่วนตัวเอสเซนส์จะเน้นเติมน้ำมากกว่า ช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิว และช่วยให้ผิวดูดซึมสารบำรุงต่าง ๆ จากผลิตภัณฑ์ได้ดีขึ้น
ใช้เซรั่มกี่วันถึงจะเห็นผล?
การใช้เซรั่มจะต้องใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน ถึงจะเห็นผลชัดเจนค่ะ แต่ด้วยความพิเศษของเซรั่มที่มีความเข้มข้นมาก สามารถซึมลงสู่ผิวได้ไว และลึกถึงผิวชั้นใน จะทำให้เพื่อน ๆ สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของผิวได้อย่างรวดเร็วเลยล่ะค่ะ
ใช้เซรั่มหลายตัวพร้อมกันได้ไหม?
เพื่อน ๆ สามารถใช้เซรั่มหลายตัวพร้อมกันได้ค่ะ แต่แนะนำว่าค่อย ๆ ลงทีละชั้น และไม่ควรใช้เยอะเกินไป สัก 2 ตัวกำลังดีค่ะ โดยมิสซี่ไม่แนะนำให้ใช้สาร Active ingredient กลุ่มผลัดเซลล์ผิวซ้ำกันนะคะ ไม่งั้นผิวหน้าจะพังได้ค่ะ
เซรั่มบำรุงผิวหน้า เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงนี้ เพราะเซรั่มจะประกอบไปด้วยส่วนผสมที่ช่วยแก้ไขปัญหาผิวอย่างตรงจุด ที่เพื่อน ๆ สามารถเลือกสูตรเฉพาะ ที่เหมาะกับการแก้ปัญหาผิวส่วนตัวของเพื่อน ๆ ได้ แถมยังมีความเข้มข้นมาก ๆ ทำให้ผิวสุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่เนื้อสัมผัสยังคงบางเบา สบายผิว ซึมไวสุด ๆ ด้วยคุณสมบัติที่ดีขนาดนี้ สิ่งที่ต้องกังวล มีเพียงแค่เพื่อน ๆ ต้องรู้จักปัญหาผิวของตัวเอง และส่วนผสมที่ควรมีในเซรั่ม ดังนั้นมิสซี่เลยรวบรวมความรู้ทุกอย่างมาไว้ในบทความนี้ ทำให้เพื่อน ๆ ไม่ต้องกังวลว่าเซรั่ม ยี่ห้อไหนดี เลยล่ะค่า
อ้างอิง
https://www.healthline.com/health/benefits-of-face-serum#benefits
https://www.byrdie.com/best-face-serums-4588133
https://www.healthline.com/health/beauty-skin-care/skin-types-care#skin-care-dos