โดยปกติแล้วร่างกายของเราต้องการปริมาณแคลเซียมที่แตกต่างกันในทุกช่วงวัย เพื่อให้เพียงพอกับร่างกายที่จะนำไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ บำรุงข้อเข่า, บำรุงกระดูก, บำรุงข้อต่อ, เพิ่มความสูง, สำหรับเด็กๆ กินแล้วสูงด้วย รวมถึงป้องกันโรคกระดูกพรุนที่อาจเกิดขึ้นได้หากรับแคลเซียมไม่เพียงพอ
แคลเซียมทั่วๆ ไปที่เรารู้จักคือนม โยเกิร์ต เต้าหู้ แต่สำหรับผู้ที่ทานมังสวิรัติ หรือวีแกน รวมไปถึงผู้สูงอายุ และผู้ที่มีปัญหาในการย่อยนม จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงแคลเซียมจากนมนั่นเอง การทานอาหารเสริมจากพืช จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยดูแลกระดูกได้ค่ะ
วันนี้มิสซี่จึงมี 10 แคลเซียมจากพืช ยี่ห้อไหนดี มาฝากทุกคนที่กำลังมองหาวิตามินแคลเซียมจากพืชไว้เป็นทางเลือกนะคะ มีอะไรบ้างไปอ่านกันเลยค่ะ
TOP 3 แคลเซียมจากพืชที่ดีที่สุด
#1 New Chapter Bone Strength Take Care
ราคา 2,290 บาท
#2 Garden of Life MyKind Organics Organic Plant Calcium
ราคา 2,590 บาท
#3 Naturelo Bone Strength
ราคา 1,990 บาท
แคลเซียมจากพืชมีอะไรบ้าง
แคลเซียมจากพืชมีหลายชนิด เรียกได้ว่าเป็นแคลเซียมจากธรรมชาติที่เหมาะกับคนที่แพ้แลคโตส หรือเป็นชาววีแกน ส่วนใหญ่จะเป็นผัก เช่น ผักใบเขียว, พืชตระกูลถั่วเหลือง, ข้าวโพด, เมล็ดทานตะวัน, อัลมอนด์, ส้ม, สาหร่ายทะเล เป็นต้น
ประโยชน์ของแคลเซียมจากพืช
ประโยชน์ของแคลเซียมจากพืชมีเยอะพอ ๆ กับแคลเซียมที่มาจากนม ชีส หรือโยเกิร์ตเลยนะคะ ซึ่งแคลเซียมเป็นสารอาหารที่มีความสำคัญกับร่างกายมาก ได้แก่
- ช่วยปรับสมดุลความดันโลหิต
- ป้องกันการเกิดภาวะกระดูกพรุน
- สร้างความแข็งแรงให้กระดูกและฟัน
- ช่วยเรื่องระบบประสาท
- การแข็งตัวของเลือด
- ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคกระดูกเสื่อมและกระดูกหักง่าย
โดยเฉพาะในวัยผู้สูงอายุ หากเราทานแคลเซียมในปริมาณที่เหมาะสมต่อวัน จะช่วยลดความเสี่ยงโรคกระดูกพรุนได้ในอนาคตได้ค่ะ
จะเลือกซื้อ แคลเซียมจากพืช ยี่ห้อไหนดี 2566
1. แคลเซียมจากพืช โดยรวมที่ดีที่สุด: New Chapter Bone Strength Take Care
ราคา 2,290 บาท
ข้อดี
+ ช่วยเสริมมวลกระดูก
+ มีวิตามินดี วิตามินเค ช่วยดูดซึม
+ ทานง่าย เม็ดเล็ก
ข้อควรพิจารณา
– หาซื้อค่อนข้างยาก
มากันที่แคลเซียมสกัดจากพืชยี่ห้อแรกกันค่ะ จุดเด่นของ Plant Based Calcium ตัวนี้ คือ ตัวแคลเซียมเข้มข้นถึง 905 มิลลิกรัม ต่อ 3 เม็ด รวมถึงแร่ธาตุอื่น ๆ มากกว่า 70 ชนิด ที่พบในสาหร่ายสีแดงค่ะ ซึ่งเป็นแหล่งแคลเซียมที่ดูดซึมง่าย และเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากเลย นอกจากนี้
คุณสมบัติหลัก ๆ ของแคลเซียมก็คงหนีไม่พ้นเรื่องบำรุงข้อต่อ บำรุงกระดูกไม่ให้เปราะและหักง่าย ซึ่งแคลเซียมของยี่ห้อนี้ช่วยได้ และยังมีวิตามินดี วิตามินเค แมกนีเซียม เป็นส่วนผสมหลักด้วย ใครที่กำลังมองหา แคลเซียมจากพืช ยี่ห้อไหนดี บอกเลยว่าแบรนด์นี้สารอาหารครบมากเลยค่ะ
ปริมาณ 120 แคปซูล : ราคา 2,290 บาท (ตกแคปซูลละ 19 บาท)
รูปแบบ | แคปซูล |
ประเภทของแคลเซียม | แคลเซียมจากสาหร่ายทะเลสีแดง (Organic Algae Lithothamnion) |
ความเข้มข้นของแคลเซียม | 301.6 มิลลิกรัมต่อเม็ด |
ส่วนประกอบสำคัญ | แคลเซียม / วิตามิน K2 / วิตามิน D3 |
2. แคลเซียมจากพืช บำรุงเข่าที่ดีที่สุด: Garden of Life MyKind Organics Organic Plant Calcium
ราคา 2,590 บาท
ข้อดี
+ เป็นออร์แกนิก ผลิตจากธรรมชาติ
+ เหมาะกับวีแกน
+ ทานแล้วดีต่อกระดูก
ข้อควรพิจารณา
– ต้องทาน 3 ครั้งต่อวันถึงจะได้ปริมาณแคลเซียมตามฉลาก
มาต่อกันที่ Calcium จากพืชที่มีส่วนผสมของผักและผลไม้มากถึง 20 ชนิด เรียกว่าสารอาหารในแคลเซียม 1 เม็ดเยอะมากค่ะ คุณสมบัติหลัก ๆ คือช่วยเรื่องดูแลกระดูก บำรุงข้อต่อ เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงเป็นโรคกระดูกพรุน และชาววีแกน พลาดไม่ได้เลย
ในวิตามินแคลเซียม 1 เม็ด มีทั้งวิตามินดี 3 จากพืชไลเคน (Lichen) และ วิตามิน K จากถั่วเหลืองหมัก (Natto) ทานครั้งละ 1 เม็ด พร้อมอาหาร 3 มื้อเป็นประจำ จะช่วยบำรุงข้อต่อต่าง ๆ ได้ดีค่ะ ใครที่กำลังมองหา แคลเซียมจากพืช ยี่ห้อไหนดี ที่ตอบโจทย์ มิสซี่เชียร์แคลเซียมจากพืชตัวนี้เลย ช่วยบำรุงข้อเข่าได้ดีที่สุดเลยค่า
ปริมาณ 180 เม็ด : ราคา 2,590 บาท (ตกเม็ดละ 14.3 บาท)
รูปแบบ | เม็ด |
ประเภทของแคลเซียม | แคลเซียมจากสาหร่าย (Organic Algae) |
ความเข้มข้นของแคลเซียม | 266.6 มิลลิกรัมต่อเม็ด |
ส่วนประกอบสำคัญ | แคลเซียม / วิตามิน D3 / วิตามิน K2 ในรูป MK-7 / ผักสวนครัวเกษตรอินทรีย์กว่า 20 ชนิด |
3. แคลเซียมจากพืช เสริมกระดูกที่ดีที่สุด: Naturelo Bone Strength
ราคา 1,990 บาท
ข้อดี
+ มีโบรอนช่วยเสริมกระดูก
+ ตัวเม็ดกลืนง่าย ลื่นคอ
+ ไม่มีกลิ่น
ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างสูง
– ต้องทาน 4 เม็ดถึงจะได้แคลเซียมตามปริมาณบนฉลาก
วิตามินแคลเซียมจากพืชระดับพรีเมียมตัวนี้ ได้รับความนิยมในหมู่คนรักสุขภาพ หรือ เหมาะกับผู้ที่ทานมังสวิรัติเป็นอย่างมากค่ะ เพราะเป็นแคลเซียมจากผักธรรมชาติ โดยที่มีแคลเซียมมากถึง 600 มิลลิกรัม ต่อ4 แคปซูล ทานแค่ครั้ง 2 แคปซูลเช้าเย็น จะทำให้ร่างกายดูดซึมได้ดีขึ้นค่ะ
นอกจากนี้ยังมีจุดเด่น คือ มีโบรอน ช่วยเสริมสร้างมวลกระดูก ป้องกันโรคกระดูกพรุน และไม่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์ หรือของแปรรูปอย่าง ยีสต์ นม ไข่ ข้าวโพด ถั่ว คาเฟอีน และปราศจากกลูเตนด้วยค่ะ ใครที่กำลังมองหา แคลเซียมจากพืช ยี่ห้อไหนดี อยากให้มิสซี่แนะนำ อาหารเสริมแคลเซียมดี ๆ สักตัว ต้องลองตัวนี้เลยค่า
ปริมาณ 120 แคปซูล : ราคา 1,990 บาท (ตกแคปซูลละ 16.5 บาท)
รูปแบบ | แคปซูล |
ประเภทของแคลเซียม | แคลเซียมจากสาหร่ายทะเล (Aquamin® from Marine Algae) |
ความเข้มข้นของแคลเซียม | 150 มิลลิกรัมต่อเม็ด |
ส่วนประกอบสำคัญ | แคลเซียม / แมกนีเซียม / วิตามิน C / วิตามิน D3 / วิตามิน K2 / สังกะสี |
4. แคลเซียมจากธรรมชาติที่ดีที่สุด: Garden of Life Raw Calcium
ราคา 1,390 บาท
ข้อดี
+ ทานง่าย กลิ่นไม่แรง
+ เทผสมกับอาหารอื่น ๆ ได้
+ ได้รับมาตรฐาน GMP
ข้อควรพิจารณา
– ต้องทาน 4 เม็ดถึงจะได้แคลเซียมตามปริมาณบนฉลาก
อาหารเสริมแคลเซียมจากพืชตัวนี้ จะพิเศษกว่ายี่ห้ออื่น ๆ ตรงที่เป็นแคลเซียมดิบจากสาหร่ายทะเล มีแคลเซียมและแร่ธาตุ 73 ชนิด รวมไปถึงวิตามินดี, วิตามินเค 2, แร่ธาตุโปรไบโอติกส์ และเอนไซม์สด หากทานเป็นประจำก็จะช่วยเพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก ชะลอการสึกหรอของกระดูกสำหรับผู้สูงอายุได้ค่ะ
วิธีการทานเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น คือ แบ่งทานครั้งละ 2 แคปซูลเป็น 2 เวลาเช้าหรือเย็น และ Calcium จากพืชตัวนี้ ไม่มีส่วนผสมของถั่ว เพื่อน ๆ ที่แพ้ถั่วสามารถทานได้หายห่วงเลยค่ะ ใครที่กำลังมองหา แคลเซียมจากพืช ยี่ห้อไหนดี มิสซี่แนะนำยี่ห้อนี้ค่ะ
ปริมาณ 60 แคปซูล : ราคา 1,390 บาท (ตกแคปซูล 23 บาท)
รูปแบบ | แคปซูล |
ประเภทของแคลเซียม | แคลเซียมจากสาหร่ายธรรมชาติ (naturally occurring from Algae) |
ความเข้มข้นของแคลเซียม | 275 มิลลิกรัมต่อเม็ด |
ส่วนประกอบสำคัญ | แคลเซียม / วิตามิน D / วิตามิน K2 / รวมแร่ธาตุโปรไบโอติกส์ / เอนไซม์สด |
5. แคลเซียมจากพืช สำหรับผู้สูงอายุที่ดีที่สุด: Nature’s Way Alive! Calcium Bone Formula
ราคา 2,999 บาท
ข้อดี
+ ทานง่าย
+ มีสารอาหารเยอะใน 1 แคปซูล
+ มีวิตามินดีช่วยในการดูดซึม
ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างสูง
อีกหนึ่งแคลเซียมสกัดจากพืชสำหรับผู้สูงอายุ และสามารถทานได้ทั้งชาย หญิง มีจุดเด่นคือ สกัดจากผักและผลไม้รวมกันในเม็ดเดียว และยังมีแมกนีเซียม, วิตามิน D3, วิตามิน K2 ผสมอยู่ด้วย ซึ่งสามารถทำงานคู่กับแคลเซียม และช่วยให้ดูดซึมได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ
คำแนะนำเวลาทาน ควรแบ่งทานครั้งละ 2 เม็ดพร้อมอาหารเช้าและเย็นเป็นประจำ จะช่วยเสริมกระดูกได้ดีค่ะ ใครที่อยากลอง หรือกำลังมองหา แคลเซียมจากพืช ยี่ห้อไหนดี ที่สามารถช่วยดูแลกระดูก สำหรับผู้สูงอายุ มิสซี่แนะนำตัวนี้เลย คุ้มค่าคุ้มราคามากค่ะ
ปริมาณ 120 แคปซูล : ราคา 2,999 บาท (ตกแคปซูลละ 24.9 บาท)
รูปแบบ | แคปซูล |
ประเภทของแคลเซียม | แคลเซียมจากสาหร่ายทะเลสีแดง (from Aquamin calcified mineral source Red Algae Lithothamnion) |
ความเข้มข้นของแคลเซียม | 325 มิลลิกรัมต่อเม็ด |
ส่วนประกอบสำคัญ | แคลเซียม / วิตามิน K2 / วิตามิน D3 / แมกนีเซียม |
6. แคลเซียมจากพืช ดูแลกระดูกได้ดีที่สุด: Solgar Calcium Magnesium Plus Boron
ราคา 1,275 บาท
ข้อดี
+ มีโบรอนที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกคู่กับแคลเซียม
+ ราคาคุ้มค่า
+ วีแกนทานได้
ข้อควรพิจารณา
– ไม่มีวิตามินดีช่วยดูดซึม
อาหารเสริมแคลเซียมจากพืชตัวนี้ เป็นสูตรรวมจากส่วนผสมที่สำคัญ ๆ มีแคลเซียม แมกนีเซียม และโบรอน เข้ามารวมไว้ใน 1 เม็ด มีจุดเด่นคือทั้ง 3 ตัวแร่ธาตุนี้จะทำงานร่วมกันในการเสริมกระดูกและฟันให้แข็งแรง และดูแลระบบกล้ามเนื้อและระบบประสาท ให้ทำงานได้ดี แถมยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุนได้ด้วยค่ะ
แคลเซียมจากผักตัวนี้ รวมแคลเซียมมาถึง 3 ชนิด จึงช่วยป้องกันการขาดแคลเซียมได้ดี อีกทั้งยังเหมาะกับผู้ที่ทานวีแกนอีกด้วยนะคะ ใครที่กำลังมองหา แคลเซียมจากพืช ยี่ห้อไหนดี ที่ช่วยดูแลกระดูกได้จริง มิสซี่แนะนำ Solgar เลยค่า ตำตามได้เลยค่ะสาว ๆ
ปริมาณ 250 เม็ด : ราคา 1,275 บาท (ตกเม็ดละ 5.1 บาท)
รูปแบบ | เม็ด |
ประเภทของแคลเซียม | แคลเซียมคาร์บอเนต / แคลเซียมกลูโคเนต / แคลเซียมซิเตรท |
ความเข้มข้นของแคลเซียม | 333.33 มิลลิกรัมต่อเม็ด |
ส่วนประกอบสำคัญ | แคลเซียม / แมกนีเซียม / โบรอน |
7. แคลเซียมจากพืช ช่วยเพิ่มความสูงที่ดีที่สุด: Life Extension Calcium Citrate with Vitamin D
ราคา 875 บาท
ข้อดี
+ มีวิตามินที่จำเป็นครบ
+ ดูดซึมดี ท้องไม่อืด
+ มี Official shop ช่องทางออนไลน์
ข้อควรพิจารณา
– แคปซูลเม็ดค่อนข้างใหญ่
ใครที่ทานแคลเซียมเป็นประจำ ต้องไม่ชอบอาการข้างเคียง อย่าง การท้องอืด ท้องผูก แน่นอนใช่ไหมคะ แต่ถ้าทุกคนได้รู้จักแคลเซียมตัวนี้ บอกเลยว่าปัญหาเหล่านั้นจะหมดไป เพราะจุดเด่นของยี่ห้อนี้ คือ แคลเซียมซิเตรท ที่ดูดซึมได้ง่ายกว่าชนิดอื่น ๆ และอ่อนโยนต่อกระเพาะอาหาร นอกจากนี้ยังมีวิตามินดี 3 ที่ช่วยดูดซึมคูณ 2 ไปอีก ทำให้หมดห่วงปัญหานี้แน่นอนค่ะ
และเป็นแคปซูลที่ทำจากพืช ช่วยเสริมกระดูกและฟันให้แข็งแรง เหมาะกับทุกวัย โดยเฉพาะวัยเจริญเติบโต หากทานเป็นประจำจะช่วยเพิ่มความสูงได้ค่ะ ใครที่กำลังมองหา แคลเซียมจากพืช ยี่ห้อไหนดี ที่ทานง่าย สบายท้อง แถมดูดซึมดี มิสซี่แนะนำแบรนด์ Life Extension เลยค่ะ อยากรู้ว่าควรซื้อแคลเซียมเพิ่มความสูง ยี่ห้อไหนดี ต้องโดนตัวนี้เลยค่า
ปริมาณ 200 แคปซูล : ราคา 875 บาท (ตกแคปซูลละ 4.3 บาท)
รูปแบบ | แคปซูล |
ประเภทของแคลเซียม | แคลเซียมซิเตรท |
ความเข้มข้นของแคลเซียม | 200 มิลลิกรัมต่อเม็ด |
ส่วนประกอบสำคัญ | แคลเซียม / วิตามิน D3 |
8. แคลเซียมจากพืช แบบเยลลี่ที่ดีที่สุด: Nature’s Way Alive! Calcium + Vitamin D3
ราคา 690 บาท
ข้อดี
+ ทานง่าย รสชาติอร่อย
+ เหมาะกับคนที่แพ้นม
+ มีวิตามินดีช่วยในการดูดซึม
ข้อควรพิจารณา
– ให้พลังงาน 25 แคลอรี่
– ราคาต่อเม็ดค่อนข้างสูง
ตัวนี้เป็นวิตามินแคลเซียมจากพืช ที่อยู่ในรูปแบบของกัมมี่นะคะ ยี่ห้อนี้เป็นแบรนด์ดังจากอเมริกา เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเด็ก ผู้ใหญ่ หรือวัยสูงอายุก็สามารถทานได้ เพราะเคี้ยวง่าย รสผลไม้ หอมอร่อย ทำให้รู้สึกมีความสุขกับการกินอาหารเสริมแคลเซียมสุด ๆ เลยค่ะ
จุดเด่นของยี่ห้อนี้นอกจากความอร่อยแล้ว ยังช่วยสร้างกล้ามเนื้อ เสริมความแข็งแรงให้กระดูกได้ดีเลยค่ะ เพื่อน ๆ ที่กำลังมองหา แคลเซียมจากพืช ยี่ห้อไหนดี แล้วยิ่งไม่ถนัดทานยาเม็ดด้วยแล้วล่ะก็ มิสซี่แนะนำให้ลองเลือกทานแบบเยลลี่ยี่ห้อนี้ดูก่อนได้ค่ะ รับรองว่าติดใจค่า
ปริมาณ 60 เม็ด : ราคา 690 บาท (ตกเม็ดละ 11.5 บาท)
รูปแบบ | เยลลี่ |
ประเภทของแคลเซียม | ไตรแคลเซียมฟอสเฟต |
ความเข้มข้นของแคลเซียม | 260 มิลลิกรัมต่อเม็ด |
ส่วนประกอบสำคัญ | แคลเซียม / วิตามิน D3 / ฟอสฟอรัส |
9. แคลเซียมจากพืช บำรุงกระดูกที่ดีที่สุด: Now Foods Calcium & Magnesium
ราคา 1,050 บาท
ข้อดี
+ ทานง่าย ไม่มีกลิ่น
+ หาซื้อได้ง่าย
+ มีแคลเซียมหลายชนิด
ข้อควรพิจารณา
– ไม่มีวิตามินดีช่วยดูดซึม
แคลเซียมจากธรรมชาติ Now Foods เป็นอีกหนึ่งตัวที่น่าสนใจ และได้รับความนิยมในอเมริกาสุด ๆ เลยค่ะ จุดเด่นของตัวนี้ คือ มีทั้งแคลเซียมคาร์บอเนต แคลเซียมซิเตรท และแคลเซียมแอสคอร์เบท รวมแล้วมีความเข้มข้นมากถึง 500 มิลลิกรัมเลยค่ะ
นอกจากนี้ก็ยังมีแมกนีเซียม ที่ช่วยเสริมการทำงานของแคลเซียมให้ดีขึ้น ช่วยบำรุงกระดูกและข้อต่อ รวมถึงบำรุงกล้ามเนื้อด้วย ใครที่กำลังมองหา แคลเซียมจากพืช ยี่ห้อไหนดี มิสซี่เชียร์เลย เพราะหาซื้อง่ายมาก มีหน้าร้านในออนไลน์ สะดวกต่อการสั่งซื้อมาก ๆ ค่ะ
ปริมาณ 100 แคปซูล : ราคา 1,050 บาท (ตกแคปซูลละ 10.5 บาท)
รูปแบบ | แคปซูล |
ประเภทของแคลเซียม | แคลเซียมคาร์บอเนต / แคลเซียมแอสคอร์เบท / แคลเซียมซิเตรท |
ความเข้มข้นของแคลเซียม | 500 มิลลิกรัมต่อเม็ด |
ส่วนประกอบสำคัญ | แคลเซียม, แมกนีเซียม |
10. แคลเซียมจากพืช ถูกและดีที่สุด: Solaray Calcium Citrate
ราคา 550 บาท
ข้อดี
+ ราคาคุ้มค่า
+ เหมาะกับวีแกน
+ เป็นแคลเซียมชนิดที่ดูดซึมดี
ข้อควรพิจารณา
– ไม่มีวิตามินอื่น ๆ เสริมเข้ามา
มากันที่ยี่ห้อสุดท้าย แคลเซียมจากพืชที่เกิดมาเพื่อชาววีแกน หรือผู้ที่แพ้นมวัว นั่นก็คือแคลเซียมของ Solaray นั่นเองค่า จุดเด่นของตัวนี้ เป็นสูตรพิเศษเหมาะสำหรับวีแกน เพราะรวมพืชธรรมชาติอย่าง ผักวอเตอร์เครส รากแดนดิไลออน พาร์สลีย์ เอาไว้นั่นเอง
อีกทั้งยังเหมาะกับผู้ที่ทานแคลเซียมแล้วมีอาการท้องผูก เพราะใช้แคลเซียมซิเตรทที่อ่อนโยน และดูดซึมง่ายค่ะ ใครที่กำลังมองหา แคลเซียมจากพืช ยี่ห้อไหนดี มิสซี่ก็ขอแนะนำยี่ห้อนี้เลยค่ะ ไม่อยากให้พลาดวิตามินเสริมแคลเซียมดี ๆ และคุ้มค่าแบบนี้เลยค่า
ปริมาณ 120 แคปซูล : ราคา 550 บาท (ตกแคปซูลละ 4.5 บาท)
รูปแบบ | แคปซูล |
ประเภทของแคลเซียม | แคลเซียมซิเตรท |
ความเข้มข้นของแคลเซียม | 250 มิลลิกรัมต่อเม็ด |
ส่วนประกอบสำคัญ | แคปซูลผักเซลลูโลส / แมกนีเซียม สเตียเรท / ผักวอเตอร์เครส / รากแดนดิไลออน / พาร์สลีย์ |
วิธีเลือกซื้อ “แคลเซียมจากพืช”
วิธีเลือกซื้อ “แคลเซียมจากพืช” เป็นสิ่งที่ต้องเลือกให้ดี และถี่ถ้วนเป็นพิเศษ ปัจจุบันอาหารเสริมแคลเซียมจากพืชมีหลายยี่ห้อมาก ๆ ดังนั้น เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน มิสซี่จะมาบอกเคล็ดลับการเลือกซื้อกันค่ะ มีอะไรบ้างไปอ่านกันเลยค่า
เลือกแคลเซียมตามปริมาณที่ต้องการต่อวัน ในแต่ละช่วงวัย
เพราะแต่ละช่วงวัยต้องการแคลเซียมที่แตกต่างกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 800-1000 มิลลิกรัม ต่อวัน เพื่อทำให้ร่างกายนำไปใช้ได้อย่างเหมาะสม โดยปกติเพื่อน ๆ จะทานอาหารที่มีแคลเซียมอยู่แล้ว เพียงแค่เพื่อน ๆ อาจจะทานไม่ถึงที่ร่างกายต้องการ มิสซี่จึงแนะนำว่าควรทานเพิ่มในรูปแบบอาหารเสริมนะคะ
แต่ทั้งนี้ ไม่ควรทานเกินปริมาณที่กำหนด เพราะปัญหาหนึ่งที่เกิดขึ้นกับผู้ทานแคลเซียมคือท้องอืด หากทานมากไปก็เกิดการสะสมของหินปูนได้
เลือกแคลเซียมตามรูปแบบที่รับประทานง่าย
ปัจจุบันอาหารแคลเซียมมีให้เลือกทานเยอะมาก หากเราทราบว่าเป็นคนทานอาหารเสริมแบบเม็ดไม่ได้ ก็มีแบบอื่นให้เลือก อย่างเช่น แบบเม็ด, แคปซูล, แบบเยลลี่, แบบผง หรือแบบเม็ดฟู่ เลือกตามความชอบได้เลยค่ะ
เลือกแคลเซียมจากมาตรฐานความปลอดภัยและน่าเชื่อถือ
เพื่อน ๆ ควรเลือกแคลเซียมที่ผ่านการขึ้นทะเบียนกับทางองค์การอาหารและยา (อย.) เพื่อความสบายใจมากขึ้น ทั้งนี้ควรดูความน่าเชื่อจากหน้าร้านที่ขาย ว่าน่าเชื่อหรือไม่ ราคาที่ขายถูกเกินไปหรือไม่ เพราะถ้าเพื่อน ๆ ทานแคลเซียมที่ไม่ได้มาตรฐานแล้ว ก็อาจจะส่งผลไม่ดีกับร่างกายระยะยาวได้เลยค่ะ
เลือกทานแคลเซียมจากพืชที่มีวิตามินเสริม
Plant based Calcium ที่มีส่วนผสมช่วยเรื่องการดูดซึมให้ดีขึ้น และผลข้างเคียงน้อย จะทำให้เราแฮปปี้กับการทานอาหารเสริมมากขึ้น การทานแคลเซียมที่ดี ควรทานคู่กับวิตามินดี จะช่วยให้ลำไส้ดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้น
แต่การทานแคลเซียมก็มีข้อควรระวัง เช่น ไม่ควรกินแคลเซียมกับยาปฏิชีวนะบางกลุ่ม หรือยาลดความดันบางชนิด และหากคุณเป็นคนที่มีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มทานเสมอนะคะ
เลือกทานแคลเซียมจากประเภทของแคลเซียม
เพราะแคลเซียมมีหลายประเภท เช่น แคลเซียมซิเตรท แคลเซียมคาร์บอเนต แคลเซียมฟอสเฟต เป็นต้น ซึ่งมีความแตกต่างคือ
- แคลเซียมคาร์บอเนต มีราคาถูก ถูกใช้กันเยอะมากในอาหารเสริม มีคุณสมบัติไม่สามารถละลายในน้ำได้ แต่สามารถดูดซึมได้พอ ๆ กับแคลเซียมจากน้ำนม หากรับประทาน แคลเซียมคาร์บอเนต 1000 มิลลิกรัม จะเทียบกับแคลเซียม 40% หรือ 400 มิลลิกรรม และร่างกายเราดูดซึมได้ 10% เท่านั้น
- แคลเซียมซิเตรท โดยปกติแล้วจะมีปริมาณแคลเซียมประมาณ 21% หรือ 210 มิลลิกรัม และดูดซึมได้ประมาณ 50% เท่านั้น
- แคลเซียมแอล-ทรีโอเนต สกัดจากข้าวโพด ซึ่งจะสามารถดูดซึมได้ 90-95% เท่ากับว่าการทานแคลเซียมแอล-ทรีโอเนต 750 มิลลิกรัมก็เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายแล้ว
- แคลเซียมจากสาหร่าย เป็นแหล่งแคลเซียมจากธรรมชาติที่ดีที่สุดเลยค่ะ เพราะมีสารอาหาร และแร่ธาตุต่างๆ เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นแมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และอื่น ๆ อีกมากมาย แถมดูดซึมได้ดีมาก ๆ อีกด้วย
- แคลเซียมอะมิโน แอซิด คีเลต จะสามารถดูดซึมเข้าร่างกายได้ 80-90% และจำเป็นต้องใช้วิตามินดีในการช่วยดูดซึม เพื่อไม่ให้เกิดการตกค้างที่ทำให้เกิดนิ่วในไต ส่วนอีก 10-20% ก็จะถูกขับออกทางเหงื่อ ปัสสาวะ
ปริมาณที่ควรทานแคลเซียมต่อวัน
ปริมาณที่ควรทานแคลเซียมต่อวัน จะขึ้นอยู่ในแต่ละช่วงวัยที่ต่างกันค่ะ ซึ่งเพื่อน ๆ สามารถดูข้อมูลได้จากตารางนี้เลย
อายุ | ปริมาณที่ควรได้รับแคลเซียม |
เด็ก 1 – 8 ปี | 200 – 600 มิลลิกรัม/วัน |
เด็ก/วัยรุ่น 9 – 18 ปี | 1000 มิลลิกรัม/วัน |
ผู้ใหญ่ 19 – 50 ปี | 800 มิลลิกรัม/วัน |
ผู้สูงอายุ 51 ปี | 1000 – 1200 มิลลิกรัม/วัน |
หญิงตั้งครรภ์อายุ 19 – 50 ปี | 800 มิลลิกรัม/วัน |
หญิงให้นมบุตรอายุ 19 – 50 ปี | 800 มิลลิกรัม/วัน |
โดยทั่วไปแล้ว การทานแคลเซียมเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อร่างกาย หากได้รับปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยลดความเสี่ยงในปัญหากระดูกพรุน
แต่การทานแคลเซียมควรทานไม่ควรเกิน 500 มิลลิกรัมในครั้งเดียว แต่ควรแบ่งออกเป็น 2-3 ครั้งตามปริมาณที่ควรได้รับ และควรทานพร้อมกับอาหารเพื่อการดูดซึมที่ดีขึ้นนะคะ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับแคลเซียมจากพืช
อาหารเสริมแคลเซียมจากพืชคืออะไร?
อาหารเสริมแคลเซียมจากพืช คือ แคลเซียมสกัดจากพืช ไม่ว่าจะเป็นผักใบเขียว หรือพืชตระกูลถั่ว ข้าวโพด เมล็ดเจีย เมล็ดทานตะวัน สาหร่ายทะเล ฯลฯ
ร่างกายของเราไม่สามารถสังเคราะห์แคลเซียมขึ้นมาเองได้ ฉะนั้น การเลือกทาน Plant Based Calcium ในปริมาณที่เหมาะสม ตามที่ร่างกายต้องการเป็นประจำ จะช่วยทดแทนแคลเซียมที่ร่างกายนำออกไปใช้ได้เช่นกัน
แคลเซียมจากพืช กินตอนไหนดี?
แคลเซียมจากพืช กินพร้อมอาหารหรือหลังอาหารจะดีที่สุด แต่ทั้งนี้ หากทานร่วมกับยาชนิดอื่นๆ จะต้องเว้นอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง เพราะจะช่วยเรื่องการดูดซึมได้ดีขึ้น และควรทานครั้งละ 500 มิลลิกรัม/ครั้งเท่านั้น โดยแบ่งทานจาก 1 มื้อเป็น 3 มื้อแทน เพื่อลดอาการไม่พึงประสงค์อย่างอาการท้องอืด ท้องเฟ้อจากการทานวิตามินแคลเซียมจากพืช
นอกจากนี้สิ่งที่ทำให้การดูดซึมแคลเซียมดีขึ้นคือ วิตามิน D ซึ่งพบได้จากแสงแดด หากเราไม่ทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ ก็สามารถทานแคลเซียมเป็นอาหารเสริมแทนได้เช่นกัน และควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเริ่มทานวิตามินเสมอด้วยนะคะ
แคลเซียมจากพืช ดีไหม?
แคลเซียมจากพืชดีค่ะ โดยเฉพาะคนที่ทานวีแกน และมังสวิรัติ รวมถึงคนที่กำลังมองหาวิตามินแคลเซียมเสริมให้กับร่างกาย แต่แพ้แลคโตส อาหารเสริมแคลเซียมจากพืชจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจค่ะ
เพราะแคลเซียมเป็นเกลือแร่ที่อยู่ในร่างกายมากถึงร้อยละ 99 เราจะมีแคลเซียมอยู่ในกระดูกและฟัน และนอกจากนั้นจะอยู่ในเนื้อเยื่อและของเหลวในร่างกาย ซึ่งจะมีความจำเป็นต่อกระบวนการเมตาบอลิซึมของเซลล์ การหดตัวของกล้ามเนื้อ และการส่งผ่านระบบประสาท
ขาดแคลเซียม ต้องกินอะไร?
ขาดแคลเซียมต้องกินอาหารที่มีแคลเซียมอย่างเช่น นม ชีส หรือพืชตระกูลถั่ว เพราะในแต่ละวัน การใช้ชีวิตของเราบีบบังคับให้บางคนไม่สามารถทานอาหารที่มีแคลเซียมได้ครบตามที่ร่างกายต้องการได้ขนาดนั้น
ดังนั้น การทานอาหารเสริมแคลเซียมจากพืช จึงเป็นตัวเลือกที่ดี แต่การเลือกทานแคลเซียมก็มีข้อกำหนดสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือหญิงตั้งครรภ์ เพื่อน ๆ จึงควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ก่อนทานเสมอค่ะ
ปัจจัยที่ทำให้ขาดแคลเซียม
– ไม่ค่อยออกกำลังกาย
– ดื่มกาแฟเป็นประจำ
– ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
– เคยกระดูกหักมาก่อน
– มีประวัติที่คนในครอบครัวเป็นภาวะกระดูกพรุนมาก่อน
– ไม่ทานแคลเซียม หรือทานแคลเซียมไม่เพียงพอ
– ขาดฮอร์โมน Estrogen ก่อนวัยหมดประจำเดือน หรือกรณีที่ต้องผ่าตัดรังไข่ 2 ข้างออก
เกิดอะไรขึ้น หากทานแคลเซียมมากเกินไป?
หากทานแคลเซียมมากเกินไป จะมีผลข้างเคียงหลัก ๆ คือ ท้องอืด ท้องผูก แต่ถ้าทานปริมาณเยอะมากติดต่อกันนาน ๆ อาจจะทำให้เกิดเป็นนิ่วในไตได้ หรือ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง
รวมถึงอาการข้างเคียงอื่น ๆ คือ อาการคลื่นไส้ ปากแห้ง ปวดท้อง หัวใจเต้นผิดปกติ เกิดอาการมึนงง อาจจะร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ดังนั้น การทานแคลเซียมจึงควรปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
แคลเซียมจากพืช ซื้อที่ไหน?
แคลเซียมจากพืช สามารถสั่งซื้อตามช่องทางออนไลน์อย่าง shopee & lazada ได้แล้ว เพราะในปัจจุบันผู้บริโภคอย่างเรามีตัวเลือกมากขึ้น ไม่ว่าสินค้านั้น ๆ จะมีหน้าร้านหรือไม่ก็ตาม
ก่อนทำการตัดสินใจซื้อของชิ้นใดชิ้นหนึ่ง เราสามารถอ่านข้อมูลเบื้องต้น เพื่อช่วยในการตัดสินใจก่อนทำการสั่งซื้อได้ นับว่าเป็นเรื่องที่สะดวกสบายมากในสมัยนี้ค่ะ ไม่ต้องออกไปซื้อเอง เพียงแค่กดสั่งปลายนิ้ว ก็สามารถรอรับของที่บ้านได้เลยค่ะ
เป็นอย่างไรบ้างคะ กับ รีวิวแนะนำ แคลเซียมจากพืช ยี่ห้อไหนดี ที่มิสซี่ลิสต์ข้อมูลที่ควรรู้ เพื่อการตัดสินใจในการเลือกซื้อของเพื่อน ๆ ที่ง่ายขึ้น หวังว่าจะเป็นสิ่งที่ถูกใจของเพื่อน ๆ กันบ้างนะคะ การทานแคลเซียมเป็นประจำเป็นสิ่งที่ดีมากเลยค่ะ เพราะอนาคตเรากำหนดได้ด้วยพฤติกรรม การใช้ชีวิตประจำวันของเราเองนะคะ
ดังนั้นจึงเข้าสำนวนที่ว่า ทานแบบไหน ได้แบบนั้น นอกจากนี้ หากเราทำสิ่งเหล่านี้ไปควบคู่กันด้วย ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนให้เพียงพอ การดื่มน้ำ การทานอาหารที่มีประโยชน์กับร่างกาย และการออกกำลังกายเป็นประจำ ก็สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคร้ายแรงในอนาคต และเพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงทั้งวันนี้ และอนาคตด้วยค่ะ
อ้างอิง