เมคอัพจะคอมพลีทลุคไม่ได้เลยถ้าขาดสิ่งนี้ไปค่ะ “ลิปสติก” เครื่องสำอางที่สาว ๆ ทุกคนมีมากกว่าหนึ่งสีหนึ่งแท่งแน่นอนค่ะ วันนี้มิสซี่จะมาแนะนำลิปสติกแบรนด์ไหนติดทน หรือแก้ปัญหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น แก้ปากแห้ง แก้ปากคล้ำ ลิปตัวไหนกลบสีปากได้ดี หรือแม้แต่ตัวไหนที่เป็นทั้งตัวบำรุงริมฝีปากและลิปสีสวยไปในตัว
วันนี้มิสซี่จะมาช่วยสาว ๆ เลือกสีลิปให้เข้ากับสีผิวด้วย ไม่ว่าจะลิปแมตต์ ลิปทินท์ ลิปกลอส คือมีครบ! เพราะลิปสติกสามารถกำหนดลุคของเราในแต่ละวันได้ มิสซี่อยากให้สาว ๆ ได้ปากสีสวย พร้อมเป๊ะไปกับทุกลุค ตามมิสซี่มาดูรีวิวลิปสติก ยี่ห้อไหนดีกันได้เลยค่า
TOP 3 ลิปสติกที่ดีที่สุด
#1 Chalotte Tilbury Matte Revolutiom Lipstick
ราคา 1,350 บาท
#2 Maybelline Superstay Vinyl Ink
ราคา 299 บาท
#3 MAC Powder Kiss Lipstick
ราคา 1,050 บาท
ประเภทของลิปสติก
- ลิปสติกเนื้อแมตต์ เรียกได้ว่ายุคนี้ต้องเนื้อแมตต์เท่านั้น เพราะความพิเศษสีลิปชัด กลบสีปากได้มิด ติดทน ตัวเนื้อไม่มันวาว เกาะปากได้ดี เนื้อลิปแห้งด้าน สาว ๆ คนไหนปากค่อนข้างแห้งอย่าลืมบำรุงให้ดีก่อนลงลิปเนื้อแมตต์นะคะ
- ลิปสติกเนื้อครีมหรือซาติน ตรงกันข้ามกับเนื้อแมตต์ โดยตัวลิปทาแล้วมีความเป็นครีมเนียนนุ่มแนบ ไปกับริมฝีกปาก เม็ดสีชัดพอ ๆ กับเนื้อแมตต์ค่ะ ทาแล้วปากดูสุขภาพดี เพราะมีความวาวเล็กน้อย ทำให้ปากดูไม่แห้งจนเกินไปค่ะ
- ลิปสติกเนื้อเชียร์ ตัวเนื้อจะมีความมันวาว ผสมกลิตเตอร์เล็กน้อยเพื่อทำให้ปากดูสุขภาพดี ดูชุ่มชื้น เหมาะสำหรับวันสบาย ๆ ไม่ได้ต้องการการปกปิดมาก เพราะทาทับได้ไม่เป็นคราบ แต่สีอาจจะติดไม่ทนเท่าเนื้ออื่น ๆ ค่ะ
- ลิปทินท์ เนื้อสัมผัสจะค่อนข้างแตกต่างกับเนื้อแมตต์และครีม เพราะจะบางกว่า เนื้อค่อนข้างเหลวและมีสีที่จางกว่า ด้วยความที่เป็นลิปที่ติดทนนานและถึงแม้หลุดลอก ก็จะจางออกอย่างเป็นธรรมชาติ เหลือสีที่ริมฝีปากแบบระเรื่อเบา ๆ เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน
- ลิปกลอส มีทั้งแบบสีใสและมีสี เนื้อมีความเหลวกว่าลิปชนิดอื่น ๆ สามารถทาเดี่ยว ๆ ได้หรือทาทับลิปสติกประเภทอื่น เพื่อให้ปากดูอวบอิ่มมากขึ้นค่ะ
วิธีเลือกลิปสติกให้เข้ากับสีผิว
- Cool Undertone ควรเลือกทาสีโทนเย็น หรือเฉดสีที่มีความอมน้ำเงินหรือม่วงนั่นเองค่ะ เพราะจะช่วยขับผิวให้ดูสว่างขึ้น ถ้าสาว ๆ อยากทาสีนู้ดให้เลือกสีนู้ดที่เข้มกว่าริมฝีปาก 1 เฉด ค่ะ เช่น ลิปสติกสีชมพูนู้ด หรือถ้าอยากได้ลุคแซ่บ ๆก็เลือกสีแดงสด เพื่อขับให้หน้าดูสว่างขึ้นค่ะ
- Warm Undertone ควรเลือกลิปสติกสีโทนร้อน หรือเฉดสีที่อมส้ม สีอิฐ สีนู้ดที่ไปทางเหลืองส้ม ควรหลีกเลี่ยงสีโทนเย็น หรือโทนสว่างเพราะจะทำให้ลิปสติก ดูลอยไม่กลมกลืมไปกับใบหน้าค่ะ
- Neutral Undertone สามารถทาได้ทั้งลิปสติกโทนร้อนหรือโทนเย็น เรียกได้ว่าสีไหนก็เอาอยู่ค่ะ สามารถแต่งลุคไหนก็ได้ ตามใจสาว ๆ เลยค่ะ
- สาวผิวเข้ม ลิปสติกที่จะขับให้โคุณสวยคอมพลีทลุคคือ ลิปสติกโทนสีเบอร์รี ไม่ว่าจะเป็นโทนสีเข้มอย่างสีแดงอมม่วงเข้มๆ สีแดงก่ำเหมือนไวน์ หรือสีนู้ดเข้มอมน้ำตาล จะทำให้ใบหน้าสาว ๆ ดูโดดเด่นขึ้นค่ะ
แนะนำสีลิปสติกยอดฮิตที่ควรมีติดกระเป๋า
ลิปสติกสีนู้ด
- นู้ดอมน้ำชมพู จับคู่ได้กับหลายสุด ๆ เช่นสโมกกี้อาย ลุคแต่งตาสีสัน หรือ ลุคสวยสุภาพ ออกงานก็ไดนะคะ ทาเดี่ยว ๆ ก็สวยเรียกได้ว่าเป็นลิปกันตายเลยค่ะ รอดทุกงาน
- นู้ดอมน้ำตาล แนะนำให้จับคู่กับการแต่งตาลุคสโมกกี้อาย เพราะจะช่วยให้โททัลลุคดูมีความเข้มขรึม และน่าค้นหาแบบสาวโมเดิร์นเพราะลิปสติกสีนู้ดจะไม่แย่งซีน กับอายเมคอัพนั่นเองค่า
ลิปสติกสีแดง
- แดงก่ำหรือแดงเบอร์กันดี เหมาะสำหรับไนท์ลุคจะออกงาน จะปาร์ตี้ ได้หมดค่ะ เพราะมีความน่าค้นหา สวยแบบมีอะไร หรือบางคนอาจจะนำมาทาไว้ที่ริมฝีกปากด้านในแล้วเกลี่ยออกแบบออมเบร เพื่อให้ปากดูมีสีสันมากขึ้นก็เลิศค่ะ
- แดงคลาสสิก คือแดงที่ไม่ติดส้มหรือติดชมพูจนเกินไป สามารถจับคู่ได้กับเมคอัพหลาย ๆ แบบ จะทาเดี่ยว ๆ วันสบาย ๆ เพื่อให้หน้าดูมีะไรก็ได้ หรือจะทาเพื่อออกงาน จะปาร์ตี้ ก็รอดนะคะสีนี้ หน้าดูสว่างขึ้นด้วยค่ะ วันไหนแต่งตาเบาก็จัดสีนี้ไปเลยค่ะ
ลิปสติกสีส้ม (coral)
- สีส้มพีชที่มีความระเรื่อ ดูสุขภาพดี แลดูธรรมชาติ เหมาะสำหรับแต่งหน้าวันธรรมดา สบาย ๆ แต่งหน้าเมกอัพลุคงานผิวแบบสาวเกาหลีก็สวย น่ารักสุด ๆ ไปเลยค่ะ โทนนี้จะเข้ากับผิวสาวไทยส่วนใหญ่เพราะคนไทยมักจะมีอสีผิวติดเหลืองหรือ Warm Undertone นั่นเองค่ะ
จะเลือกซื้อ ลิปสติก ยี่ห้อไหนดี 2566
1. ลิปสติกโดยรวมดีที่สุด : Chalotte Tilbury Matte Revolutiom Lipstick
ราคา 1,350 บาท
ข้อดี
+ เนื้อกำมะหยี่ ไม่บาดปาก ทาลื่นมาก
+ สีสวย ติดทน
+ แพคเกจจิ้งดูแพง
ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างสูง
ลิปสติกเนื้อแมตต์ตัวนี้มอบความเนียนนุ่มสบายปาก สีชัดติดทนนานถึง 10 ชั่วโมง ไม่เป็นคราบระหว่างวันด้วยค่ะ ด้วยส่วนผสมจากวิตามินอี และน้ำมันสกัดจากพืชธรรมชาติช่วยสารสกัด Tree&Orchid ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เติมริมฝีปากให้ดูอิ่มน้ำสุขภาพดีด้วยค่ะ
มิสซี่ชอบที่ลักษณะของทรงลิปสติกแบบเหลี่ยมออกแบบมาให้สามารถทามุมปากได้ง่ายขึ้น แถมแท่งไม่อ้วยประหยัดพื้นที่กระเป๋าดีมากค่ะ พกไปอากาศร้อน ๆ ลิปก็ไม่ละลายด้วย สาว ๆคนไหนยังลังเลจะเลือกลิปสติก ยี่ห้อไหนดี มิสซี่แนะนำตัวนี้ มันดีมากจริง ๆ ค่ะ
ปริมาณ 3.5 g : ราคา 1,350 บาท (ตก g ละ 385.7 บาท)
จุดเด่น | เติมร่องตื้นที่ริมฝีปากได้ดี |
ฟินิช | แมตต์ |
เฉดสี | 16 เฉดสี สีแนะนำ – Pillow talk สีนู้ดชมพูตุ่นขายดีของทางแบรนด์ |
เหมาะกับ | คนที่ชอบลิปแมตต์แบบปากไม่แห้ง |
2. ลิปสติกติดทนนานที่สุด : Maybelline Superstay Vinyl Ink
ราคา 299 บาท
ข้อดี
+ กลบสีปากเดิมมิด
+ ฟินิชสวยไม่แมต์แห้งจนปากแคร็ก
+ มีเฉดสีให้เลือกเยอะ
ข้อควรพิจารณา
– ต้องเขย่าก่อนทา
– ต้องรอให้ลิปเซตตัวให้ดีก่อน ไม่งั้นอาจจะเลอะได้
ลิปสติกจากแบรนด์ Maybelline โดยปกติเราจะเห็นลิปแบบจิ้มจุ่มเป็นแบบฟินิชแมตต์ใช่ไหมคะ สาว ๆ แต่ลิปสติกตัวนี้มีความพิเศษค่ะ เป็นลิปสติกจิ้มจุ่มที่เมื่อเซตตัวหลังทาจะมีลักษณะแวววาวคล้ายลิปกลอสแต่ไม่ต้องตกใจว่าจะวาวมากไปนะคะ เป็นความวาวกำลังดี ปากเล่นแสงสวยค่ะ
ที่สำคัญรุ่นนี้ติดทนนานถึง 16 ชั่วโมงเลยนะคะ ด้วยเทคโนโลยีคัลเลอร์ล็อก ทำให้ลิปไม่ไหลเยิ้ม ให้ลุคเงางาม จะเบลนด์ฟุ้งก็ได้ค่ะ เกลี่ยเนียนไม่เป็นปื้น เม็ดสีแน่นกลบสีปากได้แบบปาดครั้งเดียวอยู่แน่นอนค่ะ มิสซี่ขอแนะนำใครที่ยังลังเลลิปสติก ยี่ห้อไหนดี ทาแล้วปากไม่ตกร่อง ต้องตัวนี้เลยค่ะ
ปริมาณ 4.2 ml : ราคา 299 บาท (ตก ml ละ 71.19 บาท)
จุดเด่น | กลบสีปากได้ดี |
ฟินิช | แมตต์แบบวาว |
เฉดสี | 12 เฉดสี สีแนะนำ – สี Peachy 15 นู้ดชมพูพีช – สี 60 Mischievous นู้ดพีชที่เข้มมาหน่อย สำหรับผิวสองสี – สี 25 red hot สีแดงคลาสสิคที่ขายดีสุด ๆ |
เหมาะกับ | คนที่ไม่ชอบเติมลิปบ่อย |
3. ลิปสติกเนื้อแมตต์ติดทนที่ดีที่สุด : MAC Powder Kiss Lipstick
ราคา 1,050 บาท
ข้อดี
+ เบลนด์ง่าย ไม่ตกร่องปาก
+ เบลอร่องริมฝีปากดี
+ มีเฉดสีให้เลือกเยอะ
ข้อควรพิจารณา
– หากทานอาหารมื้อใหญ่มือหลุดบ้าง
ลิปสติกแบรนด์ดังที่สาว ๆ ทุกคนต้องมีติดกระเป๋าเลยค่ะ ตัวนี้เป็นลิปเนื้อแมตต์ ตินทนนาน สามารถปกปิดสีปากได้ค่อนข้างดี สาว ๆ คนไหนปากแห้งแนะนำลงลิปมันเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นก่อนนะคะ แล้วลงลิปสติกเนื้อแมตต์ตัวนี้ตามรับรองว่าได้สีชัดเจน ติดทน แถมเนื้อไม่แห้งเท่าแมตต์รุ่นเก่า สมูท ทาง่าย ช่วยให้ไม่ตกร่องได้ดีมากค่ะ
ถ้าถามว่าลิป Mac สีไหนสวย สีขายดี Mull it over ค่ะ เป็นสีชมพูนู้ดที่สามารถเข้าได้กับหลายสีผิว ใช้ได้ในทั้งชีวิตประจำวัน วันชิล ๆ หรือจะทาออกงานก็เลิศนะคะ สุภาพเรียบร้อยทาไปทำงาน ไปเรียน ไปพบผู้ใหญ่คือดีมากค่ะ
สาว ๆ คนไหนลังเลลิปสติก ยี่ห้อไหนดี แบรนด์นี้เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจเลยนะคะ ติดทน มีสีให้เลือกค่อนข้างเยอะตอบโจทย์สาว ๆ ที่ชอบทาลิปสุด ๆ ค่า
ปริมาณ 3 g : ราคา 1,050 บาท (ตก g ละ 350 บาท)
จุดเด่น | ติดทน กลบสีปากได้หมด |
ฟินิช | แมตต์ |
เฉดสี | 13 เฉดสี สีแนะนำ – Mull it over สีนู้ดชมพูอมส้มปนน้ำตาลนิด ๆ |
เหมาะกับ | ที่คนชอบลิปแมตต์ที่สามรถเบลอร่องปากได้ เบลนด์สวย ทำปากเบลอแบบเกาหลีได้ |
4. ลิปสติกติดทน ราคาถูกที่ดีที่สุด : L’oreal Paris Rouge Signature
ราคา 299 บาท
ข้อดี
+ เบาสบาย ไม่หนักปาก
+ เนื้อคุณภาพดีเกินราคาไม่ติดแมส
+ ราคาน่ารัก
ข้อควรพิจารณา
– ต้องเติมซ้ำระหว่างวันหลังทานข้าว
สำหรับลิปสติกแมตต์เนื้อน้ำตัวนี้ ตอบโจทย์สาว ๆ ที่ตามหาลิปสติกที่ติดทน แต่ไม่รู้สึกเหนอะหนะริมฝีปาก เพราะตัวเนื้อมีความเป็นน้ำเบาบางฟีลทาเหมือนไม่ได้ทา แต่สามารถกลบสีปากได้ค่อนข้างดี ด้วยเทคโนโลยีแผ่นฟิล์มบางสูตรเฉพาะ
รวมไปถึงแอปพลิเคเตอร์หัวแปรงที่ออกแบบให้ใช้งานง่าย สามารถควบคุมและทาผลิตภัณฑ์ได้อย่างแม่นยำ มีโทนสีให้เลือกทั้ง โทนนู้ด โทนชมพู โทนแดง โทนส้มพีช โทนส้ม และโทนเข้ม เรียกได้ว่าครบทุกโทนสีตอบโจทย์ทุกสีผิวค่ะ
สาว ๆ คนไหนลังเลลิปสติก ยี่ห้อไหนดี ตัวนี้เลยค่ะเฉดสีมีให้เลือกแบบจุก ๆ ที่สำคัญราคาดี เบาสบายริมฝีปากด้วยค่ะ
ปริมาณ 7 ml : ราคา 299 บาท (ตก ml ละ 42.71 บาท)
จุดเด่น | เบาสบายริมฝีปาก / มีเฉดให้เลือกเยอะ |
ฟินิช | แมตต์ |
เฉดสี | 31 เฉดสี สีแนะนำ – 666 I WIN G สีโทนแดงสว่างที่ไม่ติดชมพูไม่ติดส้มเรียกได้ว่าแดงที่ถูกต้อง (สีขายดีอันดับ1) |
เหมาะกับ | คนที่มองหาลิปราคาไม่แพงและคุณภาพดี |
5.ลิปสติกสำหรับคนปากแห้งที่ดีที่สุด : Clarins Lip Comfort Oil
ราคา 1,100 บาท
ข้อดี
+ มีสารบำรุงริมฝีปาก ทาแล้วปากไม่แห้ง
+ ปากฉ่ำแต่ไม่เหนียว
+ ไม่เน้นร่องปากเลย ทาทับลิปทินท์สวยมาก
ข้อควรพิจารณา
– ไม่ติดทน
– สีโปร่งใส กลบสีปากไม่มิด
สาว ๆ คนไหนที่ชอบลิปกลอสแต่ไม่ชอบความเหนียวเยิ้ม มิสซนี่แนะนำลิปออยล์ Clarins ตัวนี้เลยค่ะ ปากฉ่ำที่หนึ่งแต่ไม่เหนียวหนึบปากเลย! ทาเดี่ยวก็ให้สีระเรื่อฟีลลิปบาล์มมีสี ปากดูอิ่มสุขภาพดีม๊าก เหมือนดื่มน้ำวันละ 8 แก้วยังไงยังงั้นเลยค่ะ
น้องเข้าเป็นลิปที่เกิดมาเพื่อคนร่องปากเยอะ ปากแห้งแตกที่แท้ทรู เพราะมีส่วนผสมบำรุงปากอย่างน้ำมัน Jojoba, Hazelnut และ Rosehip แก้ปากแห้งแตกได้ดีมาก สาว ๆ คนไหนกำลังตามหาลิปสติก ยี่ห้อไหนดีที่ช่วยบำรุงปากไปในตัว ใช้ร่วมกับลิปตัวอื่นเสริมลุคได้หลากหลาย ตัวนี้เลยค่า มิสซี่แนะนำ
ปริมาณ 7 ml : ราคา 1,100 บาท (ตก g ละ 157.1 บาท)
จุดเด่น | เนื้อฉ่ำวาว แต่ไม่เหนียวไม่หนึบปาก |
ฟินิช | กลอส |
เฉดสี | 9 เฉดสี สีแนะนำ 03 Cherry สีแดงระเรือปากดูสุขภาพดี |
เหมาะกับ | ปากแห้ง เหมาะกับลุคธรรมชาติใส ๆ |
6. ลิปสติกแบรนด์ไทยที่ดีที่สุด : SRICHAND Aqua Bomb Lip Tint Serum
ราคา 199 บาท
ข้อดี
+ ฟีลลิปกลอส ปากฉ่ำ
+ บำรุงริมฝีปากไปในตัว
+ ยังทิ้งสีไว้บนปากหลังลิปหลุด
ข้อควรพิจารณา
– มีหลุดระหว่างวันหลังรับประทานอาหาร
แบรนด์ที่อยู่คู่กับคนไทยมานาน ๆ มากนะคะ หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินแต่แป้งฝุ่นจากแบรนด์ Srichand แต่ลิปสติกของแบรนด์ก็มาแรงมาก ๆ ค่ะ เป็นลิปทินท์เนื้อเซรั่มที่ช่วยบำรุงริมฝีปาก เพราะมี Triple Hyaluronic Acids เติมความชุ่มชื้นให้ปากไม่แห้งแตก แก้ปากแห้ง เคลือบผิว เติมร่องปาก ให้ดูอวบอิ่มน้ำ
ลิปทินท์ตัวนี้ช่วยปรับสภาพสีปากให้ดูสดใส ระเรื่อ สุขถาพดีแม้สีหลุดระหว่างวัน ก็จะเหลือสีบาง ๆ ให้ริมฝีปากดูสุขภาพดีไว้ค่ะ เพื่อน ๆ คนไหนหาลิปสติกบำรุงปากแต่ยังลังเลลิปสติก ยี่ห้อไหนดี ตัวนี้ก็น่าสนใจนะคะ ราคาน่ารักมาก ๆ
ปริมาณ 2 g : ราคา 199 บาท (ตก g ละ 99.5 บาท)
จุดเด่น | บำรุงริมฝีปาก ไม่เน้นร่องริมฝีปาก |
ฟินิช | ทินท์ฉ่ำๆ |
เฉดสี | 10 เฉดสี สีแนะนำ – 04 coral bell สีชมพูใส ๆ ที่ทำให้ปากสุขภาพดี ดูชมพูระเรื่อแบบสาวเกาหลี น่ารักสุด ๆ ค่ะ |
เหมาะกับ | ปากแห้ง คนร่องปากเยอะและไม่ต้องการลิปที่เน้นร่องปาก |
7. ลิปสติกเกาหลีที่ดีที่สุด : JUNGSAEMMOOL Lip-pression See-through Tint
ราคา 950 บาท
ข้อดี
+ สีสวย ติดทนนาน
+ เบาสบายริมฝีปาก
+ ฟินิชซอฟต์แมตต์แต่ปากไม่แห้ง
ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างสูง
ลิปสติกจาก Makeup Artist คนดังจากเกาหลี เป็นลิปสติกเนื้อลิควิคที่ทาลงไปบนริมฝีปากจะรู้สึกเบาสบาย ไม่หนัก จนไม่รู้สึกว่าทาลิปสติกอยู่ แต่สาว ๆ ไม่ต้องกลัวว่าปากแห้งนะคะ เพราะเขาใส่ส่วนผสมมอยเจอร์ไรเซอร์สูตรน้ำเข้มข้นผสานกับเม็ดสีอณูละเอียด ช่วยให้ริมฝีปากชุ่มชื้นและ บำรุงริมฝีปากไปในตัว
ด้วย texture กำมะหยี่ นุ่ม เบาให้ความสบาย ไร้น้ำหนัก และให้ผลลัพธ์สีที่ไม่เปลี่ยน กลมกลืนกับริมฝีปากพร้อมการบำรง เฉดสีที่คัดมาแล้วช่วยขับผิว ให้ดูสว่างหน้าไบรท์แบบสุด ๆ ค่า สาว ๆ คนตามหาลิปเนื้อเบา ยังไม่รู้ว่าจะเลือกลิปสติก ยี่ห้อไหนดี ลิปสติกเกาหลีแบรนด์ JSM ตัวนี้ตอบโจทย์สุดเลยค่ะ
ปริมาณ 5.7 g. : ราคา 950 บาท (ตก g ละ 166.67 บาท)
จุดเด่น | เนื้อเบาสบาย / สีชัดเจน |
ฟินิช | ซอฟต์แมตต์ |
เฉดสี | 6 เฉดสี สีแนะนำ – Muhly Robe สีแดงอมส้ม ที่สามารถทาได้ทุกวัน ปากดูสุขภาพดี ฟีลสาวเกาสุด ๆ |
เหมาะกับ | คนที่ชอบความเบาสบายปากและสีทินท์ติดทน |
8.ลิปจิ้มจุ่ม ถูกและดีที่สุด : 4U2 Water Lip Stain
ราคา 259 บาท
ข้อดี
+ ทาลื่น ไม่เหนียวปาก
+ สีชัด ติดทน
+ หัวแปรงเรียวยาว วาดขอบปากได้ดี
ข้อควรพิจารณา
– ทาไปสักพัก ความน้ำฉ่ำ ๆ จะหายไปเป็นแมตต์แทน
– หลังรับประทานอาหารอาจจะต้องเติมซ้ำ
ลิปสติก 4U2 แบรนด์ไทยที่ทำแพคเกจจิ้งออกมาได้น่ารักมาก ๆ ค่า ลิปทินท์เนื้อน้ำตัวนี้ ติดทนเบาสบายปากมาก ๆ ค่ะ ด้วยคุณสมบัติเฉพาะของแปรงที่สามารถกำหนดปริมาณ เนื้อผลิตภัณฑ์ที่จะสามารถทาลงบนริมฝีปากได้อย่างง่ายดาย และเนื้อลิปที่ออกแบบ มาหลังทารู้สึกเบาสบาย เกลี่ยง่าย สีชัดไม่ตกร่อง
สาว ๆ คนไหนมีร่องปากเยอะ ตัวนี้ไม่เน้นร่องหรือตกร่องเลย หลังความฉ่ำหลุดออกก็ดูแมตต์กำลังดีเลยคะ ฟินิชเป็นกลอส เมื่อกลอสจางจะทิ้งสีระเรื่อไว้ให้เป็นธรรมชาติค่ะ สาว ๆ คนไหนลังเลว่าลิปสติก ยี่ห้อไหนดี ตัวนี้ก็น่าสนใจนะคะ
ปริมาณ 3.5 g : ราคา 259 บาท (ตก g ละ 74 บาท)
จุดเด่น | เบาสบาย ลิปสติกราคาถูกและดี |
ฟินิช | กลอส |
เฉดสี | 12 เฉดสี สีแนะนำ – 10 Think of you น้ำตาลอมส้ม ขับผิวให้ดูสวยสุขภาพดี |
เหมาะกับ | ทุกสภาพปาก |
9. ลิปสติกเนื้อแมตต์ที่ดีที่สุด : Pat McGrath Labs MatteTrance Lipstick
ราคา 1,590 บาท
ข้อดี
+ เม็ดสีแน่นมาก สีไม่เพี้ยนตามพื้นปาก
+ เนื้อลื่นสมูท ไม่แห้ง
+ ไม่ตกร่อง ไม่รู้สึกหนักปากหรือเนียวเลย
ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างแพง
สำหรับลิปสติกจากแบรนด์ Pat McGrath ตัวนี้เขาได้รับการขนานนามว่าเป็นลิปที่ดีที่สุดในโลกเลยค่ะ เจ้าของแบรนด์คุณ Pat McGrath คือ Makeup Artist ชื่อดังที่ทั่วโลกยอมรับ และลิปตัวนี้ไม่ทำให้เสียชื่อเลย
น้องเขาเป็นลิป matte ที่รับรองว่าเพื่อน ๆ ได้ลองแล้วจะหลงรักเนื้อแน่นอน เพราะมันนุ่มมม ลื่นนน จนลืมลิปแมตต์ที่เคยเจอมาไปเลย หากเคยเจอ matte lipstick ที่แห้ง ทาไม่ค่อยลื่น เป็นคราบลิป น้องคนนี้ไม่มีปัญหาแบบนั้นเลยค่ะ
เมื่อทาลงบนริมฝีปากแล้ว สาว ๆ จะรู้สึกเบาสบายปาก เนื้อลิปเนียนเรียบไปกับริมฝีปาก ช่วยเบลอความไม่เรียบเนียนของริมฝีปากได้ดี บอกเลยว่าเป็นเนื้อกำมะหยี่ที่ฟีลดีมาก และติดทนนานด้วยค่ะ
สาว ๆ คนไหนมองหาลิปสติกสําหรับคนแพ้ง่าย ตัวนี้ไม่มีน้ำหอม พาราเบน มิสซี่ว่าตอบโจทย์ค่ะ ใครกำลังลังเลลิปสติก ยี่ห้อไหนดี มิสซี่แนะนำลิปตัวนี้เลย เนื้อดีสุด ๆ
ปริมาณ 3.5 g : ราคา 1,590 บาท (ตก g ละ 454.2 บาท)
จุดเด่น | สีชัด ปาดทีเดียวรู้เรื่อง ติดทนมาก เซตตัวแล้วไม่ตึงปาก |
ฟินิช | แมตต์ |
เฉดสี | 20 เฉดสี สีแนะนำ Christy – ลิปสติกสีชมพูนู้ดสุภาพ ใช้ได้ทุกโอกาส Elson – ลิปสติกสีแดงสวย ทาแล้วดูแพงมาก |
เหมาะกับ | ริมฝีปากทั่วไปรวมถึงปากแห้ง |
10. ลิปสติก velvet ติดทนดีที่สุด : Rouge Dior Forever Transfer-Proof Lipstick
ราคา 1,700 บาท
ข้อดี
+ เนื้อลิปติดทน เบลอร่องปากดี
+ ทาแล้วไม่เป็นคราบ
+ กลบสีปากได้ดี
ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างแพง
สาว ๆ คนไหนอยากความติดทนแต่รู้สึกเบาสบาย ทาแล้วรู้สึกฟีลสวยแพงต้องตัวนี้เลยค่ะ จากแบรนด์ Dior ที่มอบความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปากเพราะมีสารสกัดจาก Jojoba, Beeswax ที่ช่วยให้ริมฝีปากดูอิ่มฟู ทาง่าย ลื่นไปกับริมฝีปากไม่ตกร่องค่ะ อยากจะทาออกงานก็สวยเพราะเนื้อลิปติดทนนานมาก!
ส่วนเฉดสีก็ไม่น้อยหน้าเพราะเฉดสีสวยเยอะมากค่ะ มิสซี่แนะนำ 3 สีนี้เลย
- สีนู้ดอมน้ำตาลที่ดูแพงอย่าง 200 Forever Nude Touc
- สีนู้ดติ่งชมพูไว้เป็นพื้นปาก สี 100 Forever Nude Look ก็ตอบโจทย์มากค่ะ
- สำหรับสาว ๆ ที่ตามหาลิปสติกสีแดงที่สวยจริงสวยจัง เข้ากับสีผิวหลายเฉด ต้องไม่พลาดสี 999 Forever Dior ตัวดังของเขาเลยนะคะ
สาว ๆ คนไหนตามหาลิปสติกสีสวย ติดทนบำรุงริมฝีปากไปในตัว แต่ยังลังเลลิปสติก ยี่ห้อไหนดี ลิป Dior ตัวนี้เลยค่ะสวยหรูดูแพงสุด ๆ
ปริมาณ 3.2 g : ราคา 1,700 บาท (ตก g ละ 531.2 บาท)
จุดเด่น | กลบสีปากได้ดี ติดทน |
ฟินิช | ซอฟต์แมตต์ |
เฉดสี | 17 เฉดสี สีแนะนำ – 999 Velvet สีที่ทุกสีผิวทาก็รอดค่ะ สีแดงที่ถูกต้องค่ะ ทาแล้วขับผิวสุด หน้าสว่างแน่นอน |
เหมาะกับ | คนที่หาลิปแมตต์สีสวย ติดทน พร้อมบำรุงปาก |
วิธีเลือกซื้อ “ลิปสติก”
เลือกจากอันเดอร์โทนสีผิว
ก่อนเลือกลิปสติก ยี่ห้อไหนดี สาว ๆ ต้องเช็กโทนผิวของตัวเองก่อนนะคะว่าเรามีผิวโทนไหนเพื่อจะได้เลือก สีลิปสติกที่ช่วยขับผิวให้หน้าเราดูสว่างสดใสขึ้นตามเทคนิคที่มิสซี่แชร์ไว้ด้านบนเลยค่ะ โดยแบ่งออกเป็น 3 โทนดังนี้
- Cool Undertones (ผิวขาวอมชมพู ผิวเข้มมีเลือดฝาด) เส้นเลือดที่ข้อมือจะออกโทนสีน้ำเงินหรือสีม่วง ลักษณะผิวจะเบิร์นแดงเมื่อโดนแดดค่ะ
- Warm Undertones (ผิวขาวเหลือง และผิวสีน้ำผึ้ง) เส้นเลือดที่ข้อมือจะออกเป็นสีเขียว ผิวเมื่อโดนแดดสีผิวจะแทน หรือเข้มขึ้นไม่ค่อยเบิร์น
- Neutral Undertones หรือโทนสีผิวกลาง ไม่ค่อนไปทางเหลืองหรือชมพู
เลือกจากเนื้อสัมผัส
จากรีวิวลิปสติก ยี่ห้อไหนดีจะเห็นว่าเนื้อของลิปสติกมีหลายแบบ สาว ๆ ก็สามารถเลือกเนื้อผลิตภัณฑ์ที่สาว ๆ ต้องการตามความเหมาะสมได้เลยค่ะ
- ออกงานอาจจะเลือกเนื้อแมตต์ที่ติดทนและลงทับด้วยเนื้อกลอส เพื่อความสวยงาม มีลูกเล่นของของริมฝีปากค่ะ
- ลุคใส ๆ ธรรมชาติ ก็เลือกลิปทินท์ที่ติดทนแม้จะหลุดก็ยังให้สีสันที่ริมฝีปากอยู่ค่ะ เลือกเนื้อผลิตภัณฑ์ที่สาว ๆ ชอบได้เลยว่าวันนี้อยากลุคแบบไหนค่า
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับลิปสติก
ลิปสติก คืออะไร?
ลิปสติก หรือคนในสมัยก่อนเรียกว่า “รูท” เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ประกอบด้วยน้ำมัน ขี้ผึ้ง และสารให้ความชุ่มชื้น ใช้สำหรับทาสี เพิ่มความสวยงามให้กับริมฝีปาก และยังเป็นเกราะป้องกันริมฝีปากได้อีกด้วย ปัจจุบันลิปสติกมีหลายแบบ และเฉดสีที่หลากหลายมากขึ้นค่ะ
ลิปสติก ทํามาจากอะไร?
ลิปสติกทำมากจาก…
1.น้ำมัน
น้ำมันที่ผสมลงในลิปสติก ทำหน้าที่เสมือนเป็นมอยเจอไรเซอร์ ช่วยให้ริมฝีปากของสาว ๆนุ่มชุ่มชื่น รวมถึงช่วยผสานส่วนผสมอื่นๆ ให้เป็นเนื้อเดียวกันค่ะ น้ำมันที่นิยมใช้ทำลิปสติกเช่น
• jojoba oil เป็นน้ำมันยอดฮิตมนแวดวงเครื่องสำอำางเลยค่ะ อ่อนโยนสำหรับผิวแพ้ง่าย มีคุณสมบัติช่วยบำรุง และกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีค่ะ
• Castor oil หรือน้ำมันสกัดจากเมล็ดละหุ่ง ที่ช่วยการกระตุ้นของคอลลาเจน และยังทำให้เนื้อลิปเกาะตัวได้ดี ช่วยให้เนื้อลิปนุ่มเนียนมากขึ้นค่ะ
สำหรับน้ำมันที่นำมาผลิตลิปสติกมีให้เลือกหลากหลายขึ้นอยู่กับต้นทุนและความต้องการของแต่ละแบรนด์ค่ะว่าต้องการน้ำมันตัวไหนเข้ามาเป็นส่วนผสมของแบรนด์
2.แว็กซ์ (wax)
แว็กซ์เป็นส่วนผสมที่ช่วยให้ลิปสติกเกาะตัวและสามารถขึ้นรูปเป็นแท่งและคงอยู่ในแพกเกจได้โดยไม่ละลายค่ะ แว็กซ์ที่นิมใช้ เช่น
• ขี้ผึ้ง (beeswax) ที่เป็นที่นิยม มีลักษณะเป็นของแข็งเนื้ออ่อนนุ่ม ช่วยเรื่องการดูดซับน้ำมัน และเพิ่มความชุ่มชื้น
• Carnauba wax มีคุณสมบัติเฉพาะตัสสาทารถทนความร้อนได้ดี จึงนิยมใช้ในลิปสติกสูตรเนื้อแน่นเพราะป้องกันการละลายได้ดี
3.สีย้อม (dye)
ปัจจุบันแบรนด์ลิปสติกหลาย ๆ แบรนด์ หันมาใช้สีสังเคราะห์ที่ได้มาตรฐานการรับรองและไม่เป็น อันตรายค่ะ วันนี้มิสซี่จะมาแนะนำให้สาว ๆ ได้รู้จักกันคะ
• สารสกัดจากดอกไม้ เช่นสีนำ้เงินจากดอกอัญชัน สีเหลืองจากดอกดาวเรืองฝรั่ง
• สารสกัดจากผักและผลไม้ สีเหลืองที่ได้จากกขมิ้น สีแดงได้จากบีทรูทหรือทับทิม
• สารสกัดจากแมลงหรือสัตว์ ปลาจะให้สีเงิน และเพิ่มกิมมิคความเป็้นประกายมุขให้ริมฝีปาก ผงสกัดจากแมลงปีกแข็งจะให้สีเลือดหมู
นอกจากสารสกัดต่าง ๆ ที่มิสซี่แนะนำมาบางแบรนด์ก็ใส่สารบำรุงต่าง ๆ หรือ น้ำหอมตามความต้องการของแบรนด์ค่ะ สำหรับลิปชนิดอื่น ก็จะมีส่วนผสมที่ต่างกันไป เช่นลิปกลอส ก็จะมีปริมาณ wax ค่อนข้างน้อยหรือไม่มีเลยเพราะต้องการความเหลว ส่วนลิปแมตต์จะมีส่วนผสมของ ผงซิลิกา ที่ดูดซับความมันได้ดี เพื่อลดความเป็นประกายของเนื้อลิปค่ะ
ลิปสีไหนทาแล้วหน้าสว่าง?
ลิปสติกสีไหนทาแล้วหน้าสว่าง มิสซี่ขอแนะนำให้สาว ๆ ดูอันเดอร์โทนผิวของตัวเองนะคะ ว่าอยู่โทนไหนและลองเลือกสีลิปสติกตามที่มิสซีแนะนำได้เลยค่ะ แต่โดยทั่วไปลิปสีเข้มเช่นแดงเลือดนก แดงเรดไวน์ ไม่ว่าจะทากับสีผิวไหนก็ช่วยขับผิวสุด ๆ ไปเลยค่ะ
ผิวขาวเหลือง ทาลิปสีอะไร?
ผิวขาวเหลือง ทาลิปสีอะไร?
สำหรับสีผิวขาวเหลือง (Fair )เป็นเฉดสีผิวทั่วไปสำหรับสาว ๆ เอเชียค่ะ คือมีความขาวแต่ออกทาง เหลืองหรือครีมมากกว่าค่ะ สาว ๆ ผิวขาวเหลืองสามารถ ทาลิปสติกได้แทบทุกเฉดสีเลย
– 4u2 water Lip Stain สี 10 Think of you
– JUNGSAEMMOOL Lip-pression See-through Tint สี Muhly Robe
สีลิปสติกที่เหมาะกับคนผิวสองสี มีอะไรบ้าง?
สาว ๆ โทนผิวนี้ สามารถเลือกสีลิปสติกได้หลากหลาย เพราะเป็นสีผิวที่เเต่งหน้าออกมาได้สวยเเละขึ้นสุด ๆ ด้วย สีลิปที่ช่วยขับผิวคนผิวสองสี ได้เเก่ โทนนู้ด โทนอิฐต่าง ๆ เป็นต้นค่ะ
– Charlotte Tilbury Matt Revolution สี Very Victoria
– MAC Powder Kiss Lipstick สี 930 Brickthrough
สีลิปที่เหมาะกับคนผิวแทน มีอะไรบ้าง?
ผิวสีแทนสามารถเลือกลิปสติกได้ง่ายมาก ๆ ค่ะ เลือกสีลิปสติกที่ไม่กลืนไปกับผิวและดูโดนเด่น เลือกเฉดสีลิปที่เป็นโทนน้ำตาล นู้ด หรือเป็นเฉดเเดงก่ำ ก็สามารถช่วยขับผิวให้ดูสดใสขึ้น
– L’Oreal Paris Rouge Signature สี 116,129, 149
– Chalotte Tilbury สี Pillow Talk Medium
ลิปสติกเลอะเสื้อ ทำยังไง?
หากสาว ๆ เผลอทำลิปสติกเปื้อนเสื้อผ้า ไม่ต้องตกใจไปค่ะ ลิปสติกส่วนใหญ่มีส่วนผสมของน้ำมัน จึงสามารถใช้น้ำยาล้างจานหยดลงไปที่รอยเปื้อน 2-3 หยด แล้ว ทิ้งไว้ 2-3 นาทีแล้วลองล้างออกค่ะ หากครั้งแรกออกไม่หมด มิสซี่แนะนำให้ลองซักอีก 2 – 3 ครั้งค่ะ คราปลิปสติกจะค่อย ๆ จางลง
หลังจากนั้นสาว ๆ ก็น้ำเสื้อที่เลอะไปซักได้ตามปกติเลยค่ะ แต่ถ้าไม่มี จะใช้น้ำยาทำความ สะอาดเอนกประสงค์ก็ได้ เพราะน้ำยานี้จะชะล้างส่วนผสมทุกอย่างที่มีน้ำมันอยู่แล้ว รวมถึงลิปสติกที่เป็นสูตร Oil-based ด้วยค่ะ
ลิปสติก มีอายุกี่ปี?
โดยปกติ ตัวบรรจุภัณฑ์ หรือกล่องของลิปจะการระบุวันที่ผลิต MFG หรือวันหมดอายุ EXP. เหมือนสินค้าทั่ว ๆ ไปเลยค่ะ หรืออาจจะใช้สัญลักษณ์ M พร้อมบอกระยะเวลาที่ควรใช้ เช่น 12M คือระยะเวลาใช้งานได้ 12 เดือน หรือ1 ปีค่ะ ลองมองหาสัญลักษณ์แบบนี้ที่ตัวกล่องดูนะคะ เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานค่ะ
ลิปสติกที่ยังไม่เปิดใช้ นับจากวันที่ผลิต มีอายุประมาณ 3 ปีค่ะ ส่วนลิปสติกที่เปิดใช้แล้ว ควร ใช้ให้หมดภายใน 1 หรือ 2 ปี ขึ้นอยู่กับเนื้อผลิตภัณฑ์ เพื่อความแน่ใจ สาว ๆลองเช็กบริเวณกล่องผลิตภัณฑ์และลองหาสัญลักษณ์ตามที่มิสซี่แนะนำไปนะคะ
ลิปสติก ซื้อที่ไหน?
ลิปสติกทุกตัวที่มิสซี่แนะนำมาวันนี้ สาว ๆ สามารถหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าชื่อดังได้เลยนะคะ หรือใครที่ไม่สะดวกออกไปซื้อก็สามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้ทั้งใน Lazada และ Shopee เลยค่ะ อย่าลืมเช็กดูให้ได้นะคะว่าร้านเป็นร้านค้าออนไลน์ทางการ เพื่อเป็นการป้องกันว่าสาว ๆ จะได้ของแท้แน่นอน เพียงเท่านี้ก็สามารถสั่งซื้อลิปสติกได้อย่างสบายใจแล้วค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะวันนี้สำหรับลิปสติก ยี่ห้อไหนดีที่มิสซี่ได้คัดเลือกมาให้สาว ๆ ตัวไหนโดนใจสาว ๆ บ้างเอ่ย ก่อนจะจากกันวันนี้สาว ๆ เลือกลิปสติกที่ปลอดภัยของแท้ และที่สำคัญเลือกให้ตรงกับสีผิวของตัวเองนะคะ สาว ๆ จะได้สวยเป๊ะตลอดวัน และอย่าลืมเช็ดเครื่องสำอางทำความสะอาดริมฝีปากด้วยนะคะ เพื่อริมฝีปากสุขภาพดี จะได้ทาลิปได้อย่างสวยเรียบเนียนไม่ตกร่องค่า วันนี้มิสซี่ไปก่อนนะค้า บ๊ายบาย
อ้างอิง