รีวิว 6 ลิปสติก ยี่ห้อไหนดี 2023 สีสวยติดทน [แนะนำแบรนดัง!]

วันนี้มิสซี่จะมาช่วยสาว ๆ เลือกซื้อลิปสติกห้เข้ากับตัวเอง เพราะไอเท็มี้สามารถกำหนดลุคของเราในแต่ละวันได้ มิสซี่อยากให้สาว ๆ ได้ปากสีสวย พร้อมเป๊ะไปกับทุกลุค ตามมิสซี่มาดูรีวิวลิปสติก ยี่ห้อไหนดีกันได้เลยค่า

TOP 3 ลิปสติกที่ดีที่สุด

#1 Charlotte Tilbury Matte Revolution Lipstick

Charlotte Tilbury Matte Revolution Lipstick

ราคา 1,350 บาท

#2 3CE Mood Recipe Matte Lip Color

3CE Mood Recipe Matte Lip Color

ราคา 790 บาท

#3 Maybelline Ultimatte by Color Sensational Lipstick

Maybelline Ultimatte by Color Sensational Lipstick

ราคา 199 บาท

ประเภทของลิปสติก

  • ลิปสติกเนื้อแมตต์ เรียกได้ว่ายุคนี้ต้องเนื้อแมตต์เท่านั้น เพราะความพิเศษสีลิปชัด กลบสีปากได้มิด ติดทน ตัวเนื้อไม่มันวาว เกาะปากได้ดี เนื้อลิปแห้งด้าน สาว ๆ คนไหนปากค่อนข้างแห้งอย่าลืมบำรุงให้ดีก่อนลงลิปเนื้อแมตต์นะคะ
  • ลิปสติกเนื้อครีมหรือซาติน ตรงกันข้ามกับเนื้อแมตต์ โดยตัวลิปทาแล้วมีความเป็นครีมเนียนนุ่มแนบ ไปกับริมฝีกปาก เม็ดสีชัดพอ ๆ กับเนื้อแมตต์ค่ะ ทาแล้วปากดูสุขภาพดี เพราะมีความวาวเล็กน้อย ทำให้ปากดูไม่แห้งจนเกินไปค่ะ
  • ลิปสติกเนื้อเชียร์ ตัวเนื้อจะมีความมันวาว ผสมกลิตเตอร์เล็กน้อยเพื่อทำให้ปากดูสุขภาพดี ดูชุ่มชื้น เหมาะสำหรับวันสบาย ๆ ไม่ได้ต้องการการปกปิดมาก เพราะทาทับได้ไม่เป็นคราบ แต่สีอาจจะติดไม่ทนเท่าเนื้ออื่น ๆ ค่ะ
  • ลิปทินท์ เนื้อสัมผัสจะค่อนข้างแตกต่างกับเนื้อแมตต์และครีม เพราะจะบางกว่า เนื้อค่อนข้างเหลวและมีสีที่จางกว่า ด้วยความที่เป็นลิปที่ติดทนนานและถึงแม้หลุดลอก ก็จะจางออกอย่างเป็นธรรมชาติ เหลือสีที่ริมฝีปากแบบระเรื่อเบา ๆ เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน
  • ลิปกลอส มีทั้งแบบสีใสและมีสี เนื้อมีความเหลวกว่าลิปชนิดอื่น ๆ สามารถทาเดี่ยว ๆ ได้หรือทาทับลิปสติกประเภทอื่น เพื่อให้ปากดูอวบอิ่มมากขึ้นค่ะ 

จะเลือกซื้อ ลิปสติก ยี่ห้อไหนดี 2566  

1. ลิปสติกโดยรวมดีที่สุด : Charlotte Tilbury Matte Revolution Lipstick

Charlotte Tilbury Matte Revolution Lipstick ลิปสติก ยี่ห้อไหนดี

ราคา 1,350 บาท

ข้อดี
+ เนื้อกำมะหยี่ ไม่บาดปาก ทาลื่นมาก
+ สีสวย ติดทน
+ แพคเกจจิ้งดูแพง

ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างสูง

ลิปสติกเนื้อแมตต์ตัวนี้มอบความเนียนนุ่มสบายปาก สีชัดติดทนนานถึง 10 ชั่วโมง ไม่เป็นคราบระหว่างวันด้วยค่ะ ด้วยส่วนผสมจากวิตามินอี และน้ำมันสกัดจากพืชธรรมชาติช่วยสารสกัด Tree&Orchid ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เติมริมฝีปากให้ดูอิ่มน้ำสุขภาพดีด้วยค่ะ

มิสซี่ชอบที่ลักษณะของทรงลิปสติกแบบเหลี่ยมออกแบบมาให้สามารถทามุมปากได้ง่ายขึ้น แถมแท่งไม่อ้วนประหยัดพื้นที่กระเป๋าดีมากค่ะ พกไปอากาศร้อน ๆ ลิปก็ไม่ละลายด้วย

ปริมาณ 3.5 g : ราคา 1,350 บาท (ตก g ละ 385.7 บาท)

จุดเด่นเติมร่องตื้นที่ริมฝีปากได้ดี
ฟินิชแมตต์
เฉดสี16 เฉดสี
สีแนะนำ
– Pillow talk สีนู้ดชมพูตุ่นขายดีของทางแบรนด์
เหมาะกับคนที่ชอบลิปแมตต์แบบปากไม่แห้ง

2.ลิปสติกเกาหลีที่ดีที่สุด : 3CE Mood Recipe Matte Lip Color

3CE Mood Recipe Matte Lip Color ลิปสติก ยี่ห้อไหนดี

ราคา 790 บาท

ข้อดี
+ เนื้อนุ่ม ทาง่าย
+ สีชัด บิลด์ได้
+ ทาทับไม่เป็นคราบ

ข้อควรพิจารณา
– ปากแห้งต้องบำรุงด้วยลิปมันก่อน
– ติดทนกลางๆ

สาว ๆ คนไหนที่ชอบลิปสติกเนื้อแมตต์แต่ไม่ชอบความแห้งตึงปาก หรือเนื้อลิปแข็งทายาก มิสซนี่แนะนำลิป 3CE ตัวนี้เลยค่ะ ฟินิชแมตต์สวยแบบยืนหนึ่ง ทาเดี่ยวแบบเต็มปากก็จึ้ง หรือจะทาเบลนด์ผสมสีก็เลิศ ปากดูแมตต์แต่ไม่ทำให้รู้สึกหนักปากหรือแห้งเลยค่ะ

น้องเข้าเป็นลิปที่โทนสีสวยมากกก เน้นเป็นสีตุ่น ๆ ทำให้หน้าดูซอฟต์ลงเยอะเลยค่ะ เรื่องเฉดสีตุ่นที่ดีแบรนด์ไหนก็ไม่เท่าแบรนด์นี้นะ เพราะสาว ๆ หลายคนกลับมาซื้อซ้ำเพราะสีลงตัวมากนั่นเองค่า

ปริมาณ 7 ml : ราคา 1,100 บาท (ตก g ละ 157.1 บาท)

จุดเด่นแมตต์แต่ไม่หนักปาก
ฟินิชแมตต์
เฉดสี16 เฉดสี
สีแนะนำ
218 MIRRORLIKE สีนู้ดชมพูตุ่น ไม่ป่วย สีสุภาพ
เหมาะกับคนที่ต้องการลิปสีตุ่นๆ

3. ลิปสติกถูกและดีที่สุด : Maybelline Ultimatte by Color Sensational Lipstick

Maybelline Ultimatte by Color Sensational Lipstick ลิปสติก ยี่ห้อไหนดี

ราคา 199 บาท

ข้อดี
+ กลบสีปากเดิมมิด
+ ฟินิชแมตต์แต่ไม่ทำให้ปากแห้ง
+ มีเฉดสีให้เลือกเยอะ

ข้อควรพิจารณา
– ต้องบำรุงปากดีๆ ก่อนทา
– มีติดแมสก์บ้าง

ลิปสติกจากแบรนด์ Maybelline รุ่นนี้บอกเลยว่าถูกและดีมีอยู่จริง พิกเมนต์น้องเขาแน่นมาก กลบสีปากดีสุดๆ ค่ะ แถมยังมีหลายโทนเลย ใครหาลิปสติกสีนู้ดที่ทำเฉดออกมาเหมาะกับสาวไทย ต้องลองรุ่นนี้เลยค่ะ สี สี 699 More Buff สวยม๊ากกก!

ที่สำคัญรุ่นนี้ติดทนนานเลยนะคะ ใครสายชอบเบลนด์ปากฟุ้ง ตัวนี้เกลี่ยเนียนไม่เป็นปื้น เพราะน้องเขาเป็นสูตร blurring gel ทาแล้วไม่เน้นร่องปากค่า ไม่รู้สึกแห้งตึงด้วยค่ะ คุณภาพเกินราคาจริงๆ ค่ะตัวนี้

ปริมาณ 1.7 g : ราคา 199 บาท (ตก g ละ 117.05 บาท)

จุดเด่นกลบสีปากได้ดี 
ฟินิชแมตต์
เฉดสี15 เฉดสี
สีแนะนำ
– สี 699 More Buff นู้ดชมพูพีชไม่ป่วย
– สี 1199 More Almond ชมพูตุ่นๆ ชมพูกะปิ สำหรับผิวสองสี
– สี 799 More Taupe นู้ดน้ำตาลนัวๆ
เหมาะกับคนที่ไม่ชอบเติมลิปบ่อย

4. ลิปสติกเนื้อแมตต์ติดทนที่ดีที่สุด : MAC Powder Kiss Lipstick

MAC Powder Kiss Lipstick ลิปสติก ยี่ห้อไหนดี

ราคา 1,050 บาท

ข้อดี
+ เบลนด์ง่าย ไม่ตกร่องปาก
+ เบลอร่องริมฝีปากดี
+ มีเฉดสีให้เลือกเยอะ

ข้อควรพิจารณา
– หากทานอาหารมื้อใหญ่มือหลุดบ้าง

ลิปสติกแบรนด์ดังที่สาว ๆ ทุกคนต้องมีติดกระเป๋าเลยค่ะ ตัวนี้เป็นลิปเนื้อแมตต์ ตินทนนาน สามารถปกปิดสีปากได้ค่อนข้างดี สาว ๆ คนไหนปากแห้งแนะนำลงลิปมันเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นก่อนนะคะ แล้วทาลิปสติกเนื้อแมตต์ตัวนี้ตามรับรองว่าได้สีชัดเจน ติดทน แถมเนื้อไม่แห้งเท่าแมตต์รุ่นเก่า สมูท ทาง่าย ช่วยให้ไม่ตกร่องได้ดีมากค่ะ

ถ้าถามว่าลิป Mac สีไหนสวย สีขายดี Mull it over ค่ะ เป็นสีชมพูนู้ดที่สามารถเข้าได้กับหลายสีผิว ใช้ได้ในทั้งชีวิตประจำวัน วันชิล ๆ หรือจะทาออกงานก็เลิศนะคะ สุภาพเรียบร้อยทาไปทำงาน ไปเรียน ไปพบผู้ใหญ่คือดีมากค่ะ

ปริมาณ 3 g : ราคา 1,050 บาท (ตก g ละ 350 บาท)

จุดเด่นติดทน กลบสีปากได้หมด
ฟินิชแมตต์
เฉดสี13 เฉดสี
สีแนะนำ
– Mull it over สีนู้ดชมพูอมส้มปนน้ำตาลนิด ๆ
เหมาะกับที่คนชอบลิปแมตต์ที่สามรถเบลอร่องปากได้ เบลนด์สวย ทำปากเบลอแบบเกาหลีได้

5. ลิปสติกเคาน์เตอร์แบรนด์ที่ดีที่สุด : Gucci Rouge A Levres Mat Lip Colour

Gucci Rouge A Levres Mat Lip Colour ลิปสติก ยี่ห้อไหนดี

ราคา 1,350 บาท

ข้อดี
+ มี Wax บำรุงปาก
+ เนื้อลื่นสมูท ไม่แห้ง
+ ไม่ตกร่อง ไม่รู้สึกหนักปากหรือเนียวเลย

ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างแพง

สำหรับลิปสติกจากแบรนด์ Gucci ตัวนี้เขาเป็นลิป matte ที่รับรองว่าเพื่อน ๆ ได้ลองแล้วจะหลงรักเนื้อแน่นอน เพราะมันนุ่มมม ลื่นนน จนลืมลิปแมตต์ที่เคยเจอมาไปเลย หากเคยเจอ matte lipstick ที่แห้ง ทาไม่ค่อยลื่น เป็นคราบลิป น้องคนนี้ไม่มีปัญหาแบบนั้นเลยค่ะ

เมื่อทาลงบนริมฝีปากแล้ว สาว ๆ จะรู้สึกเบาสบายปาก เนื้อลิปเนียนเรียบไปกับริมฝีปาก ช่วยเบลอความไม่เรียบเนียนของริมฝีปากได้ดี บอกเลยว่าเป็นเนื้อกำมะหยี่ที่ฟีลดีมาก และติดทนนานด้วยค่ะ

สาว ๆ คนไหนมองหาลิปสติกสําหรับคนแพ้ง่าย ตัวนี้ Dermatologically Tested ผ่านการทดสอบการแพ้จากแพทย์ผิวหนังแล้วด้วยค่า

ปริมาณ 3.5 g : ราคา 1,350 บาท (ตก g ละ 385.7 บาท)

จุดเด่นสีชัด ติดทน เซตตัวแล้วไม่ตึงปาก
ฟินิชแมตต์
เฉดสี20 เฉดสี
สีแนะนำ
208 They Met in Argentina สีชมพูตุ่นที่ดูแพงมาก ผิวขาว ผิวสองสีทาขึ้นสุด ๆ
เหมาะกับริมฝีปากทั่วไปรวมถึงปากแห้ง

6. ลิปสติกบำรุงปาก สีสวยดีที่สุด : Bobbi Brown Crushed Lip Color

Bobbi Brown Crushed Lip Color ลิปสติก ยี่ห้อไหนดี

ราคา 1,400 บาท

ข้อดี
+ ปากดูอิ่ม ฉ่ำกำลังดี
+ ให้สีชัดแต่ไม่ดูทึบเกินไป
+ ไม่เน้นร่องปาก

ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างแพง

ลิปสติกจากแบรนด์ดัง Bobbi brown ตัวนี้เป็นลิปสติกเนื้อครีมที่ทาแล้วแนบไปกับริมฝีปาก ทาง่ายลื่น และมีส่วนผสมจากวิตามิน E,C และขี้ผึ้งอย่างดี ที่ช่วยบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้น แก้ปากแห้ง ปากแลดูอวบอิ่มสุขภาพหลังทา

และน้องเขายังมีเม็ดสีที่ติดทนนานถึง 8 ชม. โดยไม่เป็นคราบให้ ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ เพื่อลุคง่ายๆ สบายๆ แต่ติดทนนานตลอดวัน มีเฉดสีให้เลือกเยอะมาก

ปริมาณ 3.4 g : ราคา 1,400 บาท (ตก g ละ 411.7 บาท)

จุดเด่นให้ความชุ่มชื้นได้ดี เม็ดสีชัด
ฟินิชซอฟต์แมตต์
เฉดสี22 เฉดสี
สีแนะนำ
สี RUBY สีขายดียอดนิยม ทาแล้วจะได้สีแดงระเรื่อดูสุขภาพดี เหมาะสำหรับทุกสีผิวค่ะ
เหมาะกับคนที่หาลิปเนื้อลื่นสีสวย พร้อมบำรุงปาก

วิธีเลือกซื้อ “ลิปสติก”

เลือกจากอันเดอร์โทนสีผิว 

ก่อนเลือกลิปสติก ยี่ห้อไหนดี สาว ๆ ต้องเช็กโทนผิวของตัวเองก่อนนะคะว่าเรามีผิวโทนไหนเพื่อจะได้เลือก สีลิปสติกที่ช่วยขับผิวให้หน้าเราดูสว่างสดใสขึ้นตามเทคนิคที่มิสซี่แชร์ไว้ด้านบนเลยค่ะ โดยแบ่งออกเป็น 3 โทนดังนี้

  • Cool Undertones (ผิวขาวอมชมพู ผิวเข้มมีเลือดฝาด) เส้นเลือดที่ข้อมือจะออกโทนสีน้ำเงินหรือสีม่วง ลักษณะผิวจะเบิร์นแดงเมื่อโดนแดดค่ะ
  • Warm Undertones (ผิวขาวเหลือง และผิวสีน้ำผึ้ง) เส้นเลือดที่ข้อมือจะออกเป็นสีเขียว ผิวเมื่อโดนแดดสีผิวจะแทน หรือเข้มขึ้นไม่ค่อยเบิร์น 
  • Neutral Undertones หรือโทนสีผิวกลาง ไม่ค่อนไปทางเหลืองหรือชมพู

เลือกจากเนื้อสัมผัส

จากรีวิวลิปสติก ยี่ห้อไหนดีจะเห็นว่าเนื้อของลิปสติกมีหลายแบบ สาว ๆ ก็สามารถเลือกเนื้อผลิตภัณฑ์ที่สาว ๆ ต้องการตามความเหมาะสมได้เลยค่ะ

  • ออกงานอาจจะเลือกเนื้อแมตต์ที่ติดทนและลงทับด้วยเนื้อกลอส เพื่อความสวยงาม มีลูกเล่นของของริมฝีปากค่ะ 
  • ลุคใส ๆ ธรรมชาติ ก็เลือกลิปทินท์ที่ติดทนแม้จะหลุดก็ยังให้สีสันที่ริมฝีปากอยู่ค่ะ เลือกเนื้อผลิตภัณฑ์ที่สาว ๆ ชอบได้เลยว่าวันนี้อยากลุคแบบไหนค่า

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับลิปสติก

ลิปสติก คืออะไร?

ลิปสติก หรือคนในสมัยก่อนเรียกว่า “รูท” เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ประกอบด้วยน้ำมัน ขี้ผึ้ง และสารให้ความชุ่มชื้น ใช้สำหรับทาสี เพิ่มความสวยงามให้กับริมฝีปาก และยังเป็นเกราะป้องกันริมฝีปากได้อีกด้วย ปัจจุบันลิปสติกมีหลายแบบ และเฉดสีที่หลากหลายมากขึ้นค่ะ

ลิปสติก ทํามาจากอะไร?

ลิปสติกทำมากจาก…
1.น้ำมัน
น้ำมันที่ผสมลงในลิปสติก ทำหน้าที่เสมือนเป็นมอยเจอไรเซอร์ ช่วยให้ริมฝีปากของสาว ๆนุ่มชุ่มชื่น รวมถึงช่วยผสานส่วนผสมอื่นๆ ให้เป็นเนื้อเดียวกันค่ะ น้ำมันที่นิยมใช้ทำลิปสติกเช่น

 • jojoba oil เป็นน้ำมันยอดฮิตมนแวดวงเครื่องสำอำางเลยค่ะ อ่อนโยนสำหรับผิวแพ้ง่าย มีคุณสมบัติช่วยบำรุง และกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีค่ะ
 • Castor oil หรือน้ำมันสกัดจากเมล็ดละหุ่ง ที่ช่วยการกระตุ้นของคอลลาเจน และยังทำให้เนื้อลิปเกาะตัวได้ดี ช่วยให้เนื้อลิปนุ่มเนียนมากขึ้นค่ะ

สำหรับน้ำมันที่นำมาผลิตลิปสติกมีให้เลือกหลากหลายขึ้นอยู่กับต้นทุนและความต้องการของแต่ละแบรนด์ค่ะว่าต้องการน้ำมันตัวไหนเข้ามาเป็นส่วนผสมของแบรนด์

2.แว็กซ์ (wax)
แว็กซ์เป็นส่วนผสมที่ช่วยให้ลิปสติกเกาะตัวและสามารถขึ้นรูปเป็นแท่งและคงอยู่ในแพกเกจได้โดยไม่ละลายค่ะ แว็กซ์ที่นิมใช้ เช่น

 • ขี้ผึ้ง (beeswax) ที่เป็นที่นิยม มีลักษณะเป็นของแข็งเนื้ออ่อนนุ่ม ช่วยเรื่องการดูดซับน้ำมัน และเพิ่มความชุ่มชื้น 
 • Carnauba wax มีคุณสมบัติเฉพาะตัสสาทารถทนความร้อนได้ดี จึงนิยมใช้ในลิปสติกสูตรเนื้อแน่นเพราะป้องกันการละลายได้ดี

3.สีย้อม (dye)                                                                        
ปัจจุบันแบรนด์ลิปสติกหลาย ๆ แบรนด์ หันมาใช้สีสังเคราะห์ที่ได้มาตรฐานการรับรองและไม่เป็น อันตรายค่ะ วันนี้มิสซี่จะมาแนะนำให้สาว ๆ ได้รู้จักกันคะ

 • สารสกัดจากดอกไม้ เช่นสีนำ้เงินจากดอกอัญชัน สีเหลืองจากดอกดาวเรืองฝรั่ง 
 • สารสกัดจากผักและผลไม้ สีเหลืองที่ได้จากกขมิ้น สีแดงได้จากบีทรูทหรือทับทิม
 • สารสกัดจากแมลงหรือสัตว์ ปลาจะให้สีเงิน และเพิ่มกิมมิคความเป็้นประกายมุขให้ริมฝีปาก ผงสกัดจากแมลงปีกแข็งจะให้สีเลือดหมู

นอกจากสารสกัดต่าง ๆ ที่มิสซี่แนะนำมาบางแบรนด์ก็ใส่สารบำรุงต่าง ๆ หรือ น้ำหอมตามความต้องการของแบรนด์ค่ะ สำหรับลิปชนิดอื่น ก็จะมีส่วนผสมที่ต่างกันไป เช่นลิปกลอส ก็จะมีปริมาณ wax ค่อนข้างน้อยหรือไม่มีเลยเพราะต้องการความเหลว ส่วนลิปแมตต์จะมีส่วนผสมของ ผงซิลิกา ที่ดูดซับความมันได้ดี เพื่อลดความเป็นประกายของเนื้อลิปค่ะ

ลิปสีไหนทาแล้วหน้าสว่าง?

ลิปสติกสีไหนทาแล้วหน้าสว่าง มิสซี่ขอแนะนำให้สาว ๆ ดูอันเดอร์โทนผิวของตัวเองนะคะ ว่าอยู่โทนไหนและลองเลือกสีลิปสติกตามที่มิสซีแนะนำได้เลยค่ะ แต่โดยทั่วไปลิปสีเข้มเช่นแดงเลือดนก แดงเรดไวน์ ไม่ว่าจะทากับสีผิวไหนก็ช่วยขับผิวสุด ๆ ไปเลยค่ะ

ลิปสติกเลอะเสื้อ ทำยังไง?

หากสาว ๆ เผลอทำลิปสติกเปื้อนเสื้อผ้า ไม่ต้องตกใจไปค่ะ ลิปสติกส่วนใหญ่มีส่วนผสมของน้ำมัน จึงสามารถใช้น้ำยาล้างจานหยดลงไปที่รอยเปื้อน 2-3 หยด แล้ว ทิ้งไว้ 2-3 นาทีแล้วลองล้างออกค่ะ หากครั้งแรกออกไม่หมด มิสซี่แนะนำให้ลองซักอีก 2 – 3 ครั้งค่ะ คราปลิปสติกจะค่อย ๆ จางลง

หลังจากนั้นสาว ๆ ก็น้ำเสื้อที่เลอะไปซักได้ตามปกติเลยค่ะ แต่ถ้าไม่มี จะใช้น้ำยาทำความ สะอาดเอนกประสงค์ก็ได้ เพราะน้ำยานี้จะชะล้างส่วนผสมทุกอย่างที่มีน้ำมันอยู่แล้ว รวมถึงลิปสติกที่เป็นสูตร Oil-based ด้วยค่ะ

ลิปสติก มีอายุกี่ปี?

โดยปกติ ตัวบรรจุภัณฑ์ หรือกล่องของลิปจะการระบุวันที่ผลิต MFG หรือวันหมดอายุ EXP. เหมือนสินค้าทั่ว ๆ ไปเลยค่ะ หรืออาจจะใช้สัญลักษณ์ M พร้อมบอกระยะเวลาที่ควรใช้ เช่น 12M คือระยะเวลาใช้งานได้ 12 เดือน หรือ1 ปีค่ะ ลองมองหาสัญลักษณ์แบบนี้ที่ตัวกล่องดูนะคะ เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานค่ะ 

ลิปสติกที่ยังไม่เปิดใช้ นับจากวันที่ผลิต มีอายุประมาณ 3 ปีค่ะ ส่วนลิปสติกที่เปิดใช้แล้ว ควร ใช้ให้หมดภายใน 1 หรือ 2 ปี ขึ้นอยู่กับเนื้อผลิตภัณฑ์ เพื่อความแน่ใจ สาว ๆลองเช็กบริเวณกล่องผลิตภัณฑ์และลองหาสัญลักษณ์ตามที่มิสซี่แนะนำไปนะคะ

บทส่งท้าย

เป็นอย่างไรกันบ้างคะวันนี้สำหรับลิปสติก ยี่ห้อไหนดีที่มิสซี่ได้คัดเลือกมาให้สาว ๆ ตัวไหนโดนใจสาว ๆ บ้างเอ่ย ก่อนจะจากกันวันนี้สาว ๆ เลือกลิปสติกที่ปลอดภัยของแท้ และที่สำคัญเลือกให้ตรงกับสีผิวของตัวเองนะคะ สาว ๆ จะได้สวยเป๊ะตลอดวัน และอย่าลืมเช็ดเครื่องสำอางทำความสะอาดริมฝีปากด้วยนะคะ เพื่อริมฝีปากสุขภาพดี จะได้ทาลิปได้อย่างสวยเรียบเนียนไม่ตกร่องค่า วันนี้มิสซี่ไปก่อนนะค้า บ๊ายบาย

อ้างอิง

  1. https://www.byrdie.com/types-of-lipstick
  2. https://www.byrdie.com/types-of-lipstick
  3. https://www.maybelline.com.ph/makeup-tips/articles%20grid/how-to-find-the-perfect-lipstick-shade-for-your-skin-tone
  4. https://www.glamour.com/story/most-popular-lipstick-colors-review
Chalita Chamnanmueang

Chalita Chamnanmueang

เบสท์จบการศึกษาจากคณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ปัจจุบันเป็น Editor และ Content writer ประจำ Mizzyreview มีประสบการณ์เขียน copywriting, แปลบทความอังกฤษ-ไทย และรับผิดชอบตรวจสอบเนื้อหา และตีพิมพ์บทความผ่าน WordPress คอยอัปเดตเนื้อหาหลายๆ ด้าน ทั้งบิวตี้ไอเทม สกินแคร์ อาหารเสริม และเทคโนโลยีต่างๆ ให้สาวๆ ได้เข้าถึงทุกเทรนด์ ทุกไอเทมเด็ดกันค่ะ