วันนี้มิสซี่จะมาช่วยสาว ๆ เลือกซื้อลิปสติกห้เข้ากับตัวเอง เพราะไอเท็มี้สามารถกำหนดลุคของเราในแต่ละวันได้ มิสซี่อยากให้สาว ๆ ได้ปากสีสวย พร้อมเป๊ะไปกับทุกลุค ตามมิสซี่มาดูรีวิวลิปสติก ยี่ห้อไหนดีกันได้เลยค่า
TOP 3 ลิปสติกที่ดีที่สุด
#1 Charlotte Tilbury Matte Revolution Lipstick
ราคา 1,350 บาท
#2 3CE Mood Recipe Matte Lip Color
ราคา 790 บาท
#3 Maybelline Ultimatte by Color Sensational Lipstick
ราคา 199 บาท
ประเภทของลิปสติก
- ลิปสติกเนื้อแมตต์ เรียกได้ว่ายุคนี้ต้องเนื้อแมตต์เท่านั้น เพราะความพิเศษสีลิปชัด กลบสีปากได้มิด ติดทน ตัวเนื้อไม่มันวาว เกาะปากได้ดี เนื้อลิปแห้งด้าน สาว ๆ คนไหนปากค่อนข้างแห้งอย่าลืมบำรุงให้ดีก่อนลงลิปเนื้อแมตต์นะคะ
- ลิปสติกเนื้อครีมหรือซาติน ตรงกันข้ามกับเนื้อแมตต์ โดยตัวลิปทาแล้วมีความเป็นครีมเนียนนุ่มแนบ ไปกับริมฝีกปาก เม็ดสีชัดพอ ๆ กับเนื้อแมตต์ค่ะ ทาแล้วปากดูสุขภาพดี เพราะมีความวาวเล็กน้อย ทำให้ปากดูไม่แห้งจนเกินไปค่ะ
- ลิปสติกเนื้อเชียร์ ตัวเนื้อจะมีความมันวาว ผสมกลิตเตอร์เล็กน้อยเพื่อทำให้ปากดูสุขภาพดี ดูชุ่มชื้น เหมาะสำหรับวันสบาย ๆ ไม่ได้ต้องการการปกปิดมาก เพราะทาทับได้ไม่เป็นคราบ แต่สีอาจจะติดไม่ทนเท่าเนื้ออื่น ๆ ค่ะ
- ลิปทินท์ เนื้อสัมผัสจะค่อนข้างแตกต่างกับเนื้อแมตต์และครีม เพราะจะบางกว่า เนื้อค่อนข้างเหลวและมีสีที่จางกว่า ด้วยความที่เป็นลิปที่ติดทนนานและถึงแม้หลุดลอก ก็จะจางออกอย่างเป็นธรรมชาติ เหลือสีที่ริมฝีปากแบบระเรื่อเบา ๆ เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน
- ลิปกลอส มีทั้งแบบสีใสและมีสี เนื้อมีความเหลวกว่าลิปชนิดอื่น ๆ สามารถทาเดี่ยว ๆ ได้หรือทาทับลิปสติกประเภทอื่น เพื่อให้ปากดูอวบอิ่มมากขึ้นค่ะ
จะเลือกซื้อ ลิปสติก ยี่ห้อไหนดี 2566
1. ลิปสติกโดยรวมดีที่สุด : Charlotte Tilbury Matte Revolution Lipstick
ราคา 1,350 บาท
ข้อดี
+ เนื้อกำมะหยี่ ไม่บาดปาก ทาลื่นมาก
+ สีสวย ติดทน
+ แพคเกจจิ้งดูแพง
ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างสูง
ลิปสติกเนื้อแมตต์ตัวนี้มอบความเนียนนุ่มสบายปาก สีชัดติดทนนานถึง 10 ชั่วโมง ไม่เป็นคราบระหว่างวันด้วยค่ะ ด้วยส่วนผสมจากวิตามินอี และน้ำมันสกัดจากพืชธรรมชาติช่วยสารสกัด Tree&Orchid ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เติมริมฝีปากให้ดูอิ่มน้ำสุขภาพดีด้วยค่ะ
มิสซี่ชอบที่ลักษณะของทรงลิปสติกแบบเหลี่ยมออกแบบมาให้สามารถทามุมปากได้ง่ายขึ้น แถมแท่งไม่อ้วนประหยัดพื้นที่กระเป๋าดีมากค่ะ พกไปอากาศร้อน ๆ ลิปก็ไม่ละลายด้วย
ปริมาณ 3.5 g : ราคา 1,350 บาท (ตก g ละ 385.7 บาท)
จุดเด่น | เติมร่องตื้นที่ริมฝีปากได้ดี |
ฟินิช | แมตต์ |
เฉดสี | 16 เฉดสี สีแนะนำ – Pillow talk สีนู้ดชมพูตุ่นขายดีของทางแบรนด์ |
เหมาะกับ | คนที่ชอบลิปแมตต์แบบปากไม่แห้ง |
2.ลิปสติกเกาหลีที่ดีที่สุด : 3CE Mood Recipe Matte Lip Color
ราคา 790 บาท
ข้อดี
+ เนื้อนุ่ม ทาง่าย
+ สีชัด บิลด์ได้
+ ทาทับไม่เป็นคราบ
ข้อควรพิจารณา
– ปากแห้งต้องบำรุงด้วยลิปมันก่อน
– ติดทนกลางๆ
สาว ๆ คนไหนที่ชอบลิปสติกเนื้อแมตต์แต่ไม่ชอบความแห้งตึงปาก หรือเนื้อลิปแข็งทายาก มิสซนี่แนะนำลิป 3CE ตัวนี้เลยค่ะ ฟินิชแมตต์สวยแบบยืนหนึ่ง ทาเดี่ยวแบบเต็มปากก็จึ้ง หรือจะทาเบลนด์ผสมสีก็เลิศ ปากดูแมตต์แต่ไม่ทำให้รู้สึกหนักปากหรือแห้งเลยค่ะ
น้องเข้าเป็นลิปที่โทนสีสวยมากกก เน้นเป็นสีตุ่น ๆ ทำให้หน้าดูซอฟต์ลงเยอะเลยค่ะ เรื่องเฉดสีตุ่นที่ดีแบรนด์ไหนก็ไม่เท่าแบรนด์นี้นะ เพราะสาว ๆ หลายคนกลับมาซื้อซ้ำเพราะสีลงตัวมากนั่นเองค่า
ปริมาณ 7 ml : ราคา 1,100 บาท (ตก g ละ 157.1 บาท)
จุดเด่น | แมตต์แต่ไม่หนักปาก |
ฟินิช | แมตต์ |
เฉดสี | 16 เฉดสี สีแนะนำ 218 MIRRORLIKE สีนู้ดชมพูตุ่น ไม่ป่วย สีสุภาพ |
เหมาะกับ | คนที่ต้องการลิปสีตุ่นๆ |
3. ลิปสติกถูกและดีที่สุด : Maybelline Ultimatte by Color Sensational Lipstick
ราคา 199 บาท
ข้อดี
+ กลบสีปากเดิมมิด
+ ฟินิชแมตต์แต่ไม่ทำให้ปากแห้ง
+ มีเฉดสีให้เลือกเยอะ
ข้อควรพิจารณา
– ต้องบำรุงปากดีๆ ก่อนทา
– มีติดแมสก์บ้าง
ลิปสติกจากแบรนด์ Maybelline รุ่นนี้บอกเลยว่าถูกและดีมีอยู่จริง พิกเมนต์น้องเขาแน่นมาก กลบสีปากดีสุดๆ ค่ะ แถมยังมีหลายโทนเลย ใครหาลิปสติกสีนู้ดที่ทำเฉดออกมาเหมาะกับสาวไทย ต้องลองรุ่นนี้เลยค่ะ สี สี 699 More Buff สวยม๊ากกก!
ที่สำคัญรุ่นนี้ติดทนนานเลยนะคะ ใครสายชอบเบลนด์ปากฟุ้ง ตัวนี้เกลี่ยเนียนไม่เป็นปื้น เพราะน้องเขาเป็นสูตร blurring gel ทาแล้วไม่เน้นร่องปากค่า ไม่รู้สึกแห้งตึงด้วยค่ะ คุณภาพเกินราคาจริงๆ ค่ะตัวนี้
ปริมาณ 1.7 g : ราคา 199 บาท (ตก g ละ 117.05 บาท)
จุดเด่น | กลบสีปากได้ดี |
ฟินิช | แมตต์ |
เฉดสี | 15 เฉดสี สีแนะนำ – สี 699 More Buff นู้ดชมพูพีชไม่ป่วย – สี 1199 More Almond ชมพูตุ่นๆ ชมพูกะปิ สำหรับผิวสองสี – สี 799 More Taupe นู้ดน้ำตาลนัวๆ |
เหมาะกับ | คนที่ไม่ชอบเติมลิปบ่อย |
4. ลิปสติกเนื้อแมตต์ติดทนที่ดีที่สุด : MAC Powder Kiss Lipstick
ราคา 1,050 บาท
ข้อดี
+ เบลนด์ง่าย ไม่ตกร่องปาก
+ เบลอร่องริมฝีปากดี
+ มีเฉดสีให้เลือกเยอะ
ข้อควรพิจารณา
– หากทานอาหารมื้อใหญ่มือหลุดบ้าง
ลิปสติกแบรนด์ดังที่สาว ๆ ทุกคนต้องมีติดกระเป๋าเลยค่ะ ตัวนี้เป็นลิปเนื้อแมตต์ ตินทนนาน สามารถปกปิดสีปากได้ค่อนข้างดี สาว ๆ คนไหนปากแห้งแนะนำลงลิปมันเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นก่อนนะคะ แล้วทาลิปสติกเนื้อแมตต์ตัวนี้ตามรับรองว่าได้สีชัดเจน ติดทน แถมเนื้อไม่แห้งเท่าแมตต์รุ่นเก่า สมูท ทาง่าย ช่วยให้ไม่ตกร่องได้ดีมากค่ะ
ถ้าถามว่าลิป Mac สีไหนสวย สีขายดี Mull it over ค่ะ เป็นสีชมพูนู้ดที่สามารถเข้าได้กับหลายสีผิว ใช้ได้ในทั้งชีวิตประจำวัน วันชิล ๆ หรือจะทาออกงานก็เลิศนะคะ สุภาพเรียบร้อยทาไปทำงาน ไปเรียน ไปพบผู้ใหญ่คือดีมากค่ะ
ปริมาณ 3 g : ราคา 1,050 บาท (ตก g ละ 350 บาท)
จุดเด่น | ติดทน กลบสีปากได้หมด |
ฟินิช | แมตต์ |
เฉดสี | 13 เฉดสี สีแนะนำ – Mull it over สีนู้ดชมพูอมส้มปนน้ำตาลนิด ๆ |
เหมาะกับ | ที่คนชอบลิปแมตต์ที่สามรถเบลอร่องปากได้ เบลนด์สวย ทำปากเบลอแบบเกาหลีได้ |
5. ลิปสติกเคาน์เตอร์แบรนด์ที่ดีที่สุด : Gucci Rouge A Levres Mat Lip Colour
ราคา 1,350 บาท
ข้อดี
+ มี Wax บำรุงปาก
+ เนื้อลื่นสมูท ไม่แห้ง
+ ไม่ตกร่อง ไม่รู้สึกหนักปากหรือเนียวเลย
ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างแพง
สำหรับลิปสติกจากแบรนด์ Gucci ตัวนี้เขาเป็นลิป matte ที่รับรองว่าเพื่อน ๆ ได้ลองแล้วจะหลงรักเนื้อแน่นอน เพราะมันนุ่มมม ลื่นนน จนลืมลิปแมตต์ที่เคยเจอมาไปเลย หากเคยเจอ matte lipstick ที่แห้ง ทาไม่ค่อยลื่น เป็นคราบลิป น้องคนนี้ไม่มีปัญหาแบบนั้นเลยค่ะ
เมื่อทาลงบนริมฝีปากแล้ว สาว ๆ จะรู้สึกเบาสบายปาก เนื้อลิปเนียนเรียบไปกับริมฝีปาก ช่วยเบลอความไม่เรียบเนียนของริมฝีปากได้ดี บอกเลยว่าเป็นเนื้อกำมะหยี่ที่ฟีลดีมาก และติดทนนานด้วยค่ะ
สาว ๆ คนไหนมองหาลิปสติกสําหรับคนแพ้ง่าย ตัวนี้ Dermatologically Tested ผ่านการทดสอบการแพ้จากแพทย์ผิวหนังแล้วด้วยค่า
ปริมาณ 3.5 g : ราคา 1,350 บาท (ตก g ละ 385.7 บาท)
จุดเด่น | สีชัด ติดทน เซตตัวแล้วไม่ตึงปาก |
ฟินิช | แมตต์ |
เฉดสี | 20 เฉดสี สีแนะนำ 208 They Met in Argentina สีชมพูตุ่นที่ดูแพงมาก ผิวขาว ผิวสองสีทาขึ้นสุด ๆ |
เหมาะกับ | ริมฝีปากทั่วไปรวมถึงปากแห้ง |
6. ลิปสติกบำรุงปาก สีสวยดีที่สุด : Bobbi Brown Crushed Lip Color
ราคา 1,400 บาท
ข้อดี
+ ปากดูอิ่ม ฉ่ำกำลังดี
+ ให้สีชัดแต่ไม่ดูทึบเกินไป
+ ไม่เน้นร่องปาก
ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างแพง
ลิปสติกจากแบรนด์ดัง Bobbi brown ตัวนี้เป็นลิปสติกเนื้อครีมที่ทาแล้วแนบไปกับริมฝีปาก ทาง่ายลื่น และมีส่วนผสมจากวิตามิน E,C และขี้ผึ้งอย่างดี ที่ช่วยบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้น แก้ปากแห้ง ปากแลดูอวบอิ่มสุขภาพหลังทา
และน้องเขายังมีเม็ดสีที่ติดทนนานถึง 8 ชม. โดยไม่เป็นคราบให้ ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ เพื่อลุคง่ายๆ สบายๆ แต่ติดทนนานตลอดวัน มีเฉดสีให้เลือกเยอะมาก
ปริมาณ 3.4 g : ราคา 1,400 บาท (ตก g ละ 411.7 บาท)
จุดเด่น | ให้ความชุ่มชื้นได้ดี เม็ดสีชัด |
ฟินิช | ซอฟต์แมตต์ |
เฉดสี | 22 เฉดสี สีแนะนำ สี RUBY สีขายดียอดนิยม ทาแล้วจะได้สีแดงระเรื่อดูสุขภาพดี เหมาะสำหรับทุกสีผิวค่ะ |
เหมาะกับ | คนที่หาลิปเนื้อลื่นสีสวย พร้อมบำรุงปาก |
วิธีเลือกซื้อ “ลิปสติก”
เลือกจากอันเดอร์โทนสีผิว
ก่อนเลือกลิปสติก ยี่ห้อไหนดี สาว ๆ ต้องเช็กโทนผิวของตัวเองก่อนนะคะว่าเรามีผิวโทนไหนเพื่อจะได้เลือก สีลิปสติกที่ช่วยขับผิวให้หน้าเราดูสว่างสดใสขึ้นตามเทคนิคที่มิสซี่แชร์ไว้ด้านบนเลยค่ะ โดยแบ่งออกเป็น 3 โทนดังนี้
- Cool Undertones (ผิวขาวอมชมพู ผิวเข้มมีเลือดฝาด) เส้นเลือดที่ข้อมือจะออกโทนสีน้ำเงินหรือสีม่วง ลักษณะผิวจะเบิร์นแดงเมื่อโดนแดดค่ะ
- Warm Undertones (ผิวขาวเหลือง และผิวสีน้ำผึ้ง) เส้นเลือดที่ข้อมือจะออกเป็นสีเขียว ผิวเมื่อโดนแดดสีผิวจะแทน หรือเข้มขึ้นไม่ค่อยเบิร์น
- Neutral Undertones หรือโทนสีผิวกลาง ไม่ค่อนไปทางเหลืองหรือชมพู
เลือกจากเนื้อสัมผัส
จากรีวิวลิปสติก ยี่ห้อไหนดีจะเห็นว่าเนื้อของลิปสติกมีหลายแบบ สาว ๆ ก็สามารถเลือกเนื้อผลิตภัณฑ์ที่สาว ๆ ต้องการตามความเหมาะสมได้เลยค่ะ
- ออกงานอาจจะเลือกเนื้อแมตต์ที่ติดทนและลงทับด้วยเนื้อกลอส เพื่อความสวยงาม มีลูกเล่นของของริมฝีปากค่ะ
- ลุคใส ๆ ธรรมชาติ ก็เลือกลิปทินท์ที่ติดทนแม้จะหลุดก็ยังให้สีสันที่ริมฝีปากอยู่ค่ะ เลือกเนื้อผลิตภัณฑ์ที่สาว ๆ ชอบได้เลยว่าวันนี้อยากลุคแบบไหนค่า
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับลิปสติก
ลิปสติก คืออะไร?
ลิปสติก หรือคนในสมัยก่อนเรียกว่า “รูท” เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ประกอบด้วยน้ำมัน ขี้ผึ้ง และสารให้ความชุ่มชื้น ใช้สำหรับทาสี เพิ่มความสวยงามให้กับริมฝีปาก และยังเป็นเกราะป้องกันริมฝีปากได้อีกด้วย ปัจจุบันลิปสติกมีหลายแบบ และเฉดสีที่หลากหลายมากขึ้นค่ะ
ลิปสติก ทํามาจากอะไร?
ลิปสติกทำมากจาก…
1.น้ำมัน
น้ำมันที่ผสมลงในลิปสติก ทำหน้าที่เสมือนเป็นมอยเจอไรเซอร์ ช่วยให้ริมฝีปากของสาว ๆนุ่มชุ่มชื่น รวมถึงช่วยผสานส่วนผสมอื่นๆ ให้เป็นเนื้อเดียวกันค่ะ น้ำมันที่นิยมใช้ทำลิปสติกเช่น
• jojoba oil เป็นน้ำมันยอดฮิตมนแวดวงเครื่องสำอำางเลยค่ะ อ่อนโยนสำหรับผิวแพ้ง่าย มีคุณสมบัติช่วยบำรุง และกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีค่ะ
• Castor oil หรือน้ำมันสกัดจากเมล็ดละหุ่ง ที่ช่วยการกระตุ้นของคอลลาเจน และยังทำให้เนื้อลิปเกาะตัวได้ดี ช่วยให้เนื้อลิปนุ่มเนียนมากขึ้นค่ะ
สำหรับน้ำมันที่นำมาผลิตลิปสติกมีให้เลือกหลากหลายขึ้นอยู่กับต้นทุนและความต้องการของแต่ละแบรนด์ค่ะว่าต้องการน้ำมันตัวไหนเข้ามาเป็นส่วนผสมของแบรนด์
2.แว็กซ์ (wax)
แว็กซ์เป็นส่วนผสมที่ช่วยให้ลิปสติกเกาะตัวและสามารถขึ้นรูปเป็นแท่งและคงอยู่ในแพกเกจได้โดยไม่ละลายค่ะ แว็กซ์ที่นิมใช้ เช่น
• ขี้ผึ้ง (beeswax) ที่เป็นที่นิยม มีลักษณะเป็นของแข็งเนื้ออ่อนนุ่ม ช่วยเรื่องการดูดซับน้ำมัน และเพิ่มความชุ่มชื้น
• Carnauba wax มีคุณสมบัติเฉพาะตัสสาทารถทนความร้อนได้ดี จึงนิยมใช้ในลิปสติกสูตรเนื้อแน่นเพราะป้องกันการละลายได้ดี
3.สีย้อม (dye)
ปัจจุบันแบรนด์ลิปสติกหลาย ๆ แบรนด์ หันมาใช้สีสังเคราะห์ที่ได้มาตรฐานการรับรองและไม่เป็น อันตรายค่ะ วันนี้มิสซี่จะมาแนะนำให้สาว ๆ ได้รู้จักกันคะ
• สารสกัดจากดอกไม้ เช่นสีนำ้เงินจากดอกอัญชัน สีเหลืองจากดอกดาวเรืองฝรั่ง
• สารสกัดจากผักและผลไม้ สีเหลืองที่ได้จากกขมิ้น สีแดงได้จากบีทรูทหรือทับทิม
• สารสกัดจากแมลงหรือสัตว์ ปลาจะให้สีเงิน และเพิ่มกิมมิคความเป็้นประกายมุขให้ริมฝีปาก ผงสกัดจากแมลงปีกแข็งจะให้สีเลือดหมู
นอกจากสารสกัดต่าง ๆ ที่มิสซี่แนะนำมาบางแบรนด์ก็ใส่สารบำรุงต่าง ๆ หรือ น้ำหอมตามความต้องการของแบรนด์ค่ะ สำหรับลิปชนิดอื่น ก็จะมีส่วนผสมที่ต่างกันไป เช่นลิปกลอส ก็จะมีปริมาณ wax ค่อนข้างน้อยหรือไม่มีเลยเพราะต้องการความเหลว ส่วนลิปแมตต์จะมีส่วนผสมของ ผงซิลิกา ที่ดูดซับความมันได้ดี เพื่อลดความเป็นประกายของเนื้อลิปค่ะ
ลิปสีไหนทาแล้วหน้าสว่าง?
ลิปสติกสีไหนทาแล้วหน้าสว่าง มิสซี่ขอแนะนำให้สาว ๆ ดูอันเดอร์โทนผิวของตัวเองนะคะ ว่าอยู่โทนไหนและลองเลือกสีลิปสติกตามที่มิสซีแนะนำได้เลยค่ะ แต่โดยทั่วไปลิปสีเข้มเช่นแดงเลือดนก แดงเรดไวน์ ไม่ว่าจะทากับสีผิวไหนก็ช่วยขับผิวสุด ๆ ไปเลยค่ะ
ลิปสติกเลอะเสื้อ ทำยังไง?
หากสาว ๆ เผลอทำลิปสติกเปื้อนเสื้อผ้า ไม่ต้องตกใจไปค่ะ ลิปสติกส่วนใหญ่มีส่วนผสมของน้ำมัน จึงสามารถใช้น้ำยาล้างจานหยดลงไปที่รอยเปื้อน 2-3 หยด แล้ว ทิ้งไว้ 2-3 นาทีแล้วลองล้างออกค่ะ หากครั้งแรกออกไม่หมด มิสซี่แนะนำให้ลองซักอีก 2 – 3 ครั้งค่ะ คราปลิปสติกจะค่อย ๆ จางลง
หลังจากนั้นสาว ๆ ก็น้ำเสื้อที่เลอะไปซักได้ตามปกติเลยค่ะ แต่ถ้าไม่มี จะใช้น้ำยาทำความ สะอาดเอนกประสงค์ก็ได้ เพราะน้ำยานี้จะชะล้างส่วนผสมทุกอย่างที่มีน้ำมันอยู่แล้ว รวมถึงลิปสติกที่เป็นสูตร Oil-based ด้วยค่ะ
ลิปสติก มีอายุกี่ปี?
โดยปกติ ตัวบรรจุภัณฑ์ หรือกล่องของลิปจะการระบุวันที่ผลิต MFG หรือวันหมดอายุ EXP. เหมือนสินค้าทั่ว ๆ ไปเลยค่ะ หรืออาจจะใช้สัญลักษณ์ M พร้อมบอกระยะเวลาที่ควรใช้ เช่น 12M คือระยะเวลาใช้งานได้ 12 เดือน หรือ1 ปีค่ะ ลองมองหาสัญลักษณ์แบบนี้ที่ตัวกล่องดูนะคะ เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานค่ะ
ลิปสติกที่ยังไม่เปิดใช้ นับจากวันที่ผลิต มีอายุประมาณ 3 ปีค่ะ ส่วนลิปสติกที่เปิดใช้แล้ว ควร ใช้ให้หมดภายใน 1 หรือ 2 ปี ขึ้นอยู่กับเนื้อผลิตภัณฑ์ เพื่อความแน่ใจ สาว ๆลองเช็กบริเวณกล่องผลิตภัณฑ์และลองหาสัญลักษณ์ตามที่มิสซี่แนะนำไปนะคะ
บทส่งท้าย
เป็นอย่างไรกันบ้างคะวันนี้สำหรับลิปสติก ยี่ห้อไหนดีที่มิสซี่ได้คัดเลือกมาให้สาว ๆ ตัวไหนโดนใจสาว ๆ บ้างเอ่ย ก่อนจะจากกันวันนี้สาว ๆ เลือกลิปสติกที่ปลอดภัยของแท้ และที่สำคัญเลือกให้ตรงกับสีผิวของตัวเองนะคะ สาว ๆ จะได้สวยเป๊ะตลอดวัน และอย่าลืมเช็ดเครื่องสำอางทำความสะอาดริมฝีปากด้วยนะคะ เพื่อริมฝีปากสุขภาพดี จะได้ทาลิปได้อย่างสวยเรียบเนียนไม่ตกร่องค่า วันนี้มิสซี่ไปก่อนนะค้า บ๊ายบาย
อ้างอิง