แบรนด์เครื่องสำอางเกาหลี Skincare เกาหลี หลายแบรนด์ ทำมาเพื่อตอบโจทย์ผิวแพ้ง่าย และยังเข้ากับผิวคนเอเชียได้ดี แถมใช้แล้วผิวอิ่มน้ำ ผิวดีแบบสาวเกาหลี
วันนี้เลยจะมา แนะนำ สกินแคร์เกาหลี ตัวไหนดี ฉบับปี 2023 รวมเคาน์เตอร์แบรนด์เกาหลี Hi End อย่าง Laneige Sulwhasoo และราคาไม่สูง อย่าง SKIN1004 Needly Banabagi เป็นต้น มาฝากทุกคนกัน
TOP 3 สกินแคร์เกาหลีที่ดีที่สุด
#1 SKIN1004 Madagascar Centella Ampoule
ราคา 890 บาท
#2 Laneige Water Sleeping Mask
ราคา 1,200 บาท
#3 Sulwhasoo First Care Activating Serum
ราคา 2,900 บาท
จะเลือกซื้อ สกินแคร์เกาหลี ตัวไหนดี 2566
1. สกินแคร์เกาหลี ผิวแพ้ง่ายที่ดีที่สุด : SKIN1004 Madagascar Centella Ampoule
ใครผิวแพ้ง่ายมามุงทางนี้ วันนี้เราไม่ต้องพรีออเดอร์ SKIN1004 อีกแล้ว แอมพูลนางฟ้ามีขายในไทยแล้ว สารสกัดหลักของสกินแคร์เกาหลีตัวนี้เป็นใบบัวบกหรือ Centella Asiatica จากเกาะมาดากัสการ์ ช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงขึ้น
ใช้เป็นขั้นตอนหลังใชโทนเนอร์ ช่วยลดการอักเสบของผิว ลดการอักเสบ ปลอบประโลมผิวจากมลภาวะ และลดรอยดำ-รอยแดงจากสิว หรือการอักเสบด้วย
ข้อดี | + สมานแผลให้หายเร็วขึ้น + ฟื้นบำรุงผิวให้แข็งแรง + ลดปัญหาการเกิดสิว |
ข้อเสีย | – ต้องใช้ร่วมกับมอยซ์เจอไรเซอร์ถึงจะเห็นผลชัดเจน – เนื้อค่อนข้างเหลว |
สารสกัดสำคัญ | Centella Asiatica |
อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย | ✓ |
ราคา | 890 บาท (ตกml ละ 8.9 บาท) |
ปริมาณ | 100 ml |
2. สกินแคร์เกาหลี ที่นิยมที่สุด : Laneige Water Sleeping Mask
Sleeping Mask เน้นช่วยบำรุงผิว อ่อนล้า เติมความชุ่มชื้น ฟื้นฟูผิวได้อย่างล้ำลึกในขณะที่เราหลับตา จุดเด่นของสลีปปิ้งมาสก์ของลาเนจคือ ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น เพิ่มความสดใสให้กับผิวที่อ่อนล้าด้วย Pro-Biotics Complex และเทคโนโลยี Sleeping Micro Biome™ คงความชุ่มชื้นให้ผิวได้ยาวนาน
เนื้อเจล ซึมไวมาก ผิวแพ้ง่ายใช้ได้ สกินแคร์เกาหลีที่เหมาะกับคนที่ผิวแห้ง ผิวขาดความชุ่มชื้น ลอกเป็นขุย ใช้แค่ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ก็เห็นผลแล้ว ใครที่กำลังมองหา Sleeping Mask สำหรับผิวขาดน้ำ แนะนำลาเนจเลย การันตีด้วยยอดขายถล่มทลาย
ข้อดี | + เติมความชุ่มชื้นให้กับผิว + เสริมเกราะป้องกันผิว + ช่วยผลัดเซลล์ผิดที่เสื่อมสภาพ |
ข้อเสีย | – เหมาะกับคนผิวแห้ง – เนื้อค่อนข้างข้น |
สารสกัดสำคัญ | Pro-Biotics Complex, Sleeping Micro Biome™ |
อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย | ✓ |
ราคา | 1,200 บาท (ตกml ละ 17.1 บาท) |
ปริมาณ | 70 ml |
3. สกินแคร์เกาหลี ลดเลือนริ้วรอย : Sulwhasoo First Care Activating Serum
เซรั่มสกินแคร์เกาหลีที่ทำหน้าที่ช่วยกู้ผิว ทา Sulwhasoo ก่อนลงขั้นตอนอื่น ๆ ช่วยให้ผิวดีขึ้นกว่าเดิม ปีนี้ทางแบรนด์ได้ปรับปรุงสูตรใหม่ เหมาะกับทุกสภาพผิว เพื่อช่วยดูแลผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ด้วยจุดเด่นที่ช่วยสร้างเกราะปกป้องผิว และช่วยลดเลือนริ้วรอยแห่งวัยได้ด้วย Youth Master Technology™ ที่พัฒนาขึ้นโดยโซลวาซู
แถมกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ ทาแล้วรู้สึกผ่อนคลายใช้ได้ทั้งเช้า-เย็นเลย ใครที่กำลังมองหาเซรั่มเคาน์เตอร์แบรนด์ในตำนาน ในราคาไม่แพง แนะนำเลย เป็นสกินแคร์ไอดอลเกาหลีใช้กันเยอะด้วยนะแบรนด์นี้
ข้อดี | + ช่วยให้ผิวแข็งแรงและนุ่มขึ้นไม่ค่อยเป็นสิว + ซึมเข้าสู่ผิวได้ดี + หอมกลิ่นโสม ผ่อนคลาย |
ข้อเสีย | – เคยลองใช้เดี่ยวๆไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่ ต้องใช้คู่กับตัวอื่นๆ – ถ้าเน้นตอบโจทย์เร็ว ตัวนี้ยังไม่ใช่คำตอบ |
สารสกัดสำคัญ | Youth Master Technology™ |
อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย | ✓ |
ราคา | 2,900 บาท (ตกml ละ 48.3 บาท) |
ปริมาณ | 60 ml |
4. สกินแคร์เกาหลี หน้าใส: SomebyMi AHA-BHA-PHA 30days Miracle Toner
ตัวนี้เป็นตัวเด็ดของแบรนด์ เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสิว ผิวมัน หรือว่าสภาพผิวที่มีรูขุมขนกว้าง ทางแบรนด์ก็เคลมไว้ว่าเห็นผลภายใน 30 วัน ช่วยแก้ปัญหาสิว รอยแดง ความมันหน้าโดยมี AHA, PHA และ BHA ช่วยขจัดเซลล์ที่ตายออก และรักษาความชุ่มชื้นของผิว
ที่สำคัญสารสกัดหลักอย่างทีทรี ช่วยควบคุมความมันของใบหน้าที่ก่อให้เกิดสิว บรรเทาการอักเสบด้วย ใครที่กำลังมองหาโทนเนอร์ถูกและดีที่ช่วยปรับสมดุลผิวให้ดี ลองซัมบายมีดูนะ เป็นสกินแคร์เกาหลี ถูกและดีตัวจริงเลย
ข้อดี | + ควบคุมความมันส่วนเกินบนใบหน้า + ช่วยทำให้ผิวกระจ่างใส + บรรเทาอาการอักเสบ |
ข้อเสีย | – ระวังการใช้ร่วมกับยารักษาสิว – ราคาสูงเมื่อเทียบกับปริมาณ |
สารสกัดสำคัญ | AHA, BHA, PHA, Tea Tree Extracts |
อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย | x |
ราคา | 480 บาท (ตกml ละ 3.2 บาท) |
ปริมาณ | 150 ml |
5. สกินแคร์เกาหลี โทนเนอร์แบบแผ่นที่ดีที่สุด : NEEDLY Daily Toner Pad
Toner Pad แบรนด์ NEEDLY เป็นแบรนด์ที่การันตีด้วยยอดขายอันดับ 1 จากประเทศเกาหลีใต้กันเลย โทนเนอร์แบบแผ่นของแบรนด์ทำขึ้นมาเพื่อสะดวกต่อการใช้งาน ใช้ตัวสำลีที่อ่อนโยนต่อผิว ลดการเสียดสีที่ก่อให้เกิดริ้วรอยในอนาคต
จุดเด่นของโทนเนอร์เกาหลีตัวนี้ คือ ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า ลดการเกิดสิว รูขุมขนกระชับขึ้น เติมความชุ่มชื้นให้ผิวแบบจัดเต็ม แผ่นสำลีคือใหญ่มาก เช็ดได้ทั่วถึง ใครที่กำลังมองหา สกินแคร์เกาหลีแบบ โทนเนอร์แผ่น กระซิบให้ลอง ผิวละเอียดขึ้นมาก 10 10 10 ไปเลย
ข้อดี | + สิวผดหาย หน้ารู้สึกละเอียดขึ้น + ตัวแผ่นสำลีบางเบา ไม่บาดผิว + เหมาะสำหรับคนผิวแพ้ง่าย ช่วยลดการระคายเคืองผิว |
ข้อเสีย | – น้ำเอสเซนส์ไหลออกจากกระปุกขณะพกพา – มีน้ำหอม |
สารสกัดสำคัญ | ไฮยาลูรอนิค, BHA, PHA |
อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย | ✓ |
ราคา | 790 บาท (ตกแผ่น ละ 13.1 บาท) |
ปริมาณ | 280g , 60 แผ่น |
6. สกินแคร์เกาหลี ชีทมาสก์: BANOBAGI Vita Genic Jelly Mask
สกินแคร์เกาหลีต่อมาสำหรับใครสาย sheet mask ต้องโดนแบรนด์จากรพ.บาโนบากิ ของเกาหลีแล้ว ใครชอบดูบล็อกเกอร์ของเกาหลี จะเห็นจริง ๆ ว่าบ้านเขาชอบใช้มาสก์ชีทมาก มีหลายแบรนด์หลายสูตร แต่ที่จะแนะนำคือแบรนด์นี้ หลัก ๆ ก็จะเน้นไปด้านฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน
ตัวเอสเซนส์ก็จะเป็นเนื้อ Jelly ปริมาณ 30 มล.เทียบเท่ากับเซรั่ม 1 ขวดเลย แถมเนื้อสัมผัสไม่เหนอะหนะ ที่สำคัญทางแบรนด์มีนวัตกรรมเฉพาะ Liposome Vitamin Complex ที่เป็นถุงบรรจุวิตามินอาหารผิว และจะแตกตัวเมื่อสัมผัสกับผิว ทำให้ผิวเราได้รับการบำรุงแบบเต็มเปี่ยม
วันไหนใช้มาสก์ชีทแล้วก็ไม่ต้องลงสกินแคร์ต่อก็ได้ หรือจะใช้ก่อนแต่งหน้าก็จะช่วยให้เมคอัพติดทน ใครที่กำลังมองหา มาร์คหน้าเกาหลี ที่อ่อนโยนกับผิวมากที่สุด ยังไงก็ต้องแบรนด์ บาโนบากิ ให้สิบนิ้วโป้งไปเลย
ข้อดี | + ลดการสะสมของแบคทีเรียสิว + ปรับสีผิวให้กระจ่างใส + ลดเลือนรอยดำรอยแดงที่เกิดจากสิวให้จางลง |
ข้อเสีย | – ตัวเอสเซนส์จะออกหนืดเล็กน้อย พอซึมแล้วก็ปกติ – ผิวแพ้ง่ายไม่ควรใช้บ่อย |
สารสกัดสำคัญ | วิตามินเอ, บี1, บี2, บี3 , บี5, บี7, บี9, วิตามินซีและอี ในรูปแบบของไลโปโซม, ไฮยาลูโรนิก |
อ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่าย | ✓ |
ราคา | 88 บาท (ตกแผ่น ละ 88 บาท) |
ปริมาณ | 1 แผ่น |
วิธีเลือกสกินแคร์เกาหลี
สกินแคร์เกาหลี เป็นสกินแคร์ที่ทำมาเพื่อตอบโจทย์สาวเมืองหนาว หรือผิวของสาวเอเชียเป็นหลัก ไม่ใช่ว่าจะใช้ตามกระแสแล้วผิวดีทุกคน จึงจะมาบอกว่า วิธีการเลือกสกินแคร์ให้เหมาะกับผิวของเราจึงเป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน
หากใช้ดีถือว่าคุ้มค่า แต่ถ้าใช้แล้วไม่ตอบโจทย์ผิวเลย แถมสร้างปัญหาผิวด้วยก็กลายเป็นความสิ้นเปลือง มาดูกันดีกว่า จะซื้อสกินแคร์เกาหลีทั้งที จำเป็นต้องดูอะไรบ้าง
1. เลือกตามสภาพผิว
- คนผิวมัน เลือกใช้สูตร Oil-Free จะช่วยลดปัญหาสิวอุดตันบนผิวได้ เพราะหน้าเรามีน้ำมันอยู่เพียงพออยู่แล้ว จึงไม่ควรใช้ครีมเนื้อหนักและมันเกินไป
- ส่วนสาวผิวแห้ง เลือกสูตรที่บาลานซ์น้ำมันและเติมน้ำให้ผิว เพื่อป้องกันผิวแห้งลอก และริ้วรอยก่อนวัย
จุดสังเกตคือ ประเทศเกาหลีเป็นประเทศที่มีสภาพอากาศค่อนไปทางหนาว ทำให้ครีมเกาหลีส่วนใหญ่จะเน้นให้ความชุ่มชื้น เนื้อสัมผัสจะเข้มข้น
ดังนั้น ก่อนซื้อขนาดจริงควรลองขนาดทดลองก่อน ว่าแพ้หรือไม่ หรือเข้มข้นไปจนเกิดการอุดตันหรือไม่
2. เลือกตามปัญหาผิวที่เป็น
เพราะแต่ละปัญหาผิวจะใช้ Active Ingredient ในการแก้ไขไม่เหมือนกัน ไม่เช่นนั้นอาจจะต้องมาลำบากฟื้นฟูผิวแบบนับหนึ่ง เพราะเลือกสกินแคร์ผิด เราจะต้องรู้ก่อนว่าปัญหาผิวของเราเป็นแบบไหน จะช่วยให้คุณเลือกสกินแคร์เกาหลีได้ง่ายขึ้น
3. เลือกตามส่วนผสมที่ช่วยแก้ไขปัญหานั้น ๆ
แบรนด์สกินแคร์เกาหลีส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญของส่วนผสมที่ช่วยแก้ปัญหาผิวเฉพาะจุดมาก ไม่ว่าจะส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้น ส่วนผสมลดความมันที่ก่อให้เกิดสิว หรือส่วนผสมที่ช่วยลดริ้วรอย
รวมไปถึงการหลีกเลี่ยงส่วนผสมที่ก่อให้ผิวหนังระคายเคืองได้ง่ายด้วย มาดูคร่าว ๆ กัน ว่าส่วนผสมแบบไหนช่วยดูแลปัญหาผิวแบบไหนบ้าง
- Hyaluronic Acid ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว ลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ
- Centella Asiatica จุดเด่นของใบบัวบก คือ เพิ่มความชุ่มชื้นพร้อมต้านอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ ลดรอยแดง ฟื้นฟูให้ผิวแข็งแรง
- Houttuynia Cordata หรือ Heartleaf มีจุดเด่นที่ช่วยปรับสมดุลผิว ปลอบประโลมผิวจากการแพ้ระคายเคือง และเพิ่มความชุ่มชื้นได้
- Peptide มีคุณสมบัติช่วยลดอายุผิว ลดการอักเสบของผิว
- AHA และ BHA สองตัวนี้เป็นตัวช่วยผลัดเซลล์ผิว โดย AHA จะเน้นให้ผิวเรียบเนียน หน้าขาวใส ส่วน BHA จะเด่นเรื่องลดสิว ลดหน้ามัน ลดการอุดตัน
โดยปริมาณความเข้มข้นแนะนำที่สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยคือ AHA ความเข้มข้น 10% หรือน้อยกว่า และ BHA ความเข้มข้น 1% ถึง 2%
4. เลือกจากแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ และมีการรับรองเท่านั้น
ทุกวันนี้เราเห็นแบรนด์เครื่องสำอางเกาหลี หรือสกินแคร์เกาหลีเยอะมาก หลายแบรนด์ให้เลือกไม่ถูก แต่คุณจะต้องระวังให้ดี แบรนด์มาจากเกาหลีไม่ได้หมายความว่าเป็นของแท้ทุกอย่าง
ก่อนซื้ออยากให้เลือกแบรนด์ที่เป็นที่รู้จัก หรือมีหน้าร้านเปิดที่ไทยก็จะช่วยกรองมาตรฐานของสกินแคร์ให้น่าเชื่อถือมากขึ้นด้วย
บทส่งท้าย
การเลือกสกินแคร์เกาหลี ไม่ใช่ว่าเราจะใช้ตามกระแสแล้วจะไม่ได้ผลเหมือนคนอื่น ๆ ไม่ได้แปลว่าสกินแคร์นั้น ๆ ไม่ดี เพียงแค่สภาพผิวเราอาจไม่เหมาะเท่านั้นเอง
แต่ใด ๆ คือห้ามขาด การล้างหน้าแบบดับเบิ้ล (คลีนซิ่ง+ล้างหน้า) การลงมอยเจอร์ไรเซอร์ และครีมกันแดด สำคัญที่สุด ได้ทริคตามนี้ถ้าใครทำตามได้ บอกเลยผิวแข็งแรง สิวหายไวมาก
อ้างอิง
- https://www.allure.com/gallery/korean-skin-care-products
- https://www.byrdie.com/korean-beauty-secrets
- https://www.stylecraze.com/articles/8-korean-beauty-secrets-you-should-definitely-know/
- https://www.stylecraze.com/articles/best-korean-skin-care-products/
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC4852572 - https://www.webmd.com/beauty/aha-bha-skin-exfoliate
- https://www.webmd.com/beauty/ss/slideshow-skin-products-dont-work