วันนี้มิสซี่ก็รวบตึง 10 อันดับ กันแดดเคาน์เตอร์แบรนด์ ยี่ห้อไหนดี 2023 มาให้เพื่อนๆ เลือกใช้กันตามสภาพผิว พร้อมบอกจุดเด่นที่นอกจากคุณสมบัติเด็ด ที่น่าสนใจแล้ว ใครสาวกแบรนด์ hi-end ห้ามพลาดค่า!
จุดเด่นของกันแดดเคาน์เตอร์แบรนด์
✔️มีหลายประเภทให้เลือกใช้
✔️เนื้อสัมผัสดี เกาะผิวแน่น ตามสไตล์ hi-end
✔️มีส่วนผสมบำรุงผิวในตัว
ทำไมถึงควรใช้ครีมกันแดดเคาน์เตอร์แบรนด์
แค่ทาครีมกันแดด ก็ลดปัญหาผิวได้สารพัดเลยนะคะ! นอกจากจะป้องกันหน้าหมองคล้ำ ผิวแสบไหม้ได้แล้ว ยังมีการศึกษาพบว่าช่วยป้องกันมะเร็งผิวหนัง ช่วยหน้าขาวใส ลดรอยดำ ชะลอริ้วรอยได้ง่ายๆ เลย และความปังของกันแดดเคาน์เตอร์แบรนด์ส่วนใหญ่มักจะกันฝุ่น PM 2.5 ได้ด้วย ใครเป็นสิวเพราะแพ้ฝุ่น ต้องจัดค่ะ
เพราะผลเสียของการไม่ทาครีมกันแดด คือ รังสี UVA UVB จะพุ่งมาทำร้ายเซลล์ผิวสวยๆ จนเกิดฝ้า กระ ทำลายคอลลาเจนจนผิวเหี่ยว ปัญหาผิวอื่นๆ ก็ตามมาได้อีกมากมายเลยล่ะ
จะเลือกซื้อ กันแดดเคาน์เตอร์แบรนด์ ยี่ห้อไหนดี 2566
1.กันแดดเคาน์เตอร์แบรนด์ สำหรับผิวมัน : Kiehl’s Ultra Light Daily UV Defense SPF50 PA++++ Anti-Pollution
ราคา 1,800 บาท
ข้อดี
+ ไม่อุดตัน เบา สบายหน้า
+ มีสมุนไพรบำรุงผิว พร้อมป้องกันฝุ่นมลภาวะต่างๆ
+ ไม่มีน้ำหอม ผิวแพ้ง่ายใช้ได้
ข้อควรพิจารณา
– ผิวมันมากใช้รุ่นสีฟ้าจะเหมาะกว่า
สยบปัญหาคราบขุยด้วย กันแดด kiehl’s สีส้มรุ่นนี้เลยค่า เนื้อบางเบา ไม่เหนียว ไม่วอก ไม่อุดตันผิว แถมยังทา 2 ข้อนิ้วรอด ไม่เป็นคราบขาวและไม่ทำให้รองพื้นเป็นคราบและเปลี่ยนสีอีกด้วย
มาพร้อมสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยลดผลเสียจากรังสี UVA UVB ป้องกันผิวคล้ำเสียได้ดีงาม คู่ควร ช่วงซัมเมอร์เลยค่ะ!
ปริมาณ 30 ml : ราคา 1,800 บาท (ตก ml ละ 60 บาท)
ประเภท | Chemical Sunscreen |
ส่วนประกอบสำคัญ | Baicalin |
กันน้ำ กันเหงื่อ | ❌,❌ |
เหมาะกับ | ทุกสภาพผิว และผิวแพ้ง่าย |
2.ครีมกันแดดเคาน์เตอร์แบรนด์ จากเกาหลี : Jungsaemmool Masterclass Ampoule Sun
ราคา 1,350 บาท
ข้อดี
+ เกลี่ยง่าย แต่งหน้าต่อผิวยิ่งสวยกว่าเดิม
+ หน้าไม่วอก ไม่ลอย
+ ชุ่มชื้นแต่หน้าไม่มัน ไม่เป็นคราบระหว่างวัน
ข้อควรพิจารณา
– มีกลิ่นค่อนข้างชัด
ให้ฟินิชหน้าฉ่ำ โกลว์สวย เอาใจสายขี้เกียจลงสกินแคร์หลายขั้นตอน เพราะเขามัดรวมส่วนผสมที่มีคุณสมบัติดีๆ 3 อย่าง
ป้องกันริ้วรอย และหน้าขาวใส อัดแน่นมาในกันแดดเนื้อเซรั่มตัวนี้เลยค่า บอกเลยว่าใช้ก่อนแต่งหน้า ช่วยให้ลงเมคอัพต่อง่ายกว่าเดิม ผิวดูสวยเหมือนลงไพรเมอร์เลยล่ะ
ปริมาณ 50 ml : ราคา 1,350 บาท (ตก ml ละ 27 บาท)
ประเภท | Chemical Sunscreen |
ส่วนประกอบสำคัญ | Niacinamide, Hyaluronic Acid |
กันน้ำ กันเหงื่อ | ❌,❌ |
เหมาะกับ | ทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวแห้ง ผิวผสม |
3.ครีมกันแดดเคาน์เตอร์แบรนด์ สำหรับไปทะเล : Supergoop! Play Everyday Lotion SPF 50 with Sunflower Extract
ราคา 950 บาท
ข้อดี
+ เกลี่ยง่าย หน้าไม่วอก ไม่เป็นคราบขาว
+ เหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้ง ออกแดดจัด
+ ใช้ได้ทั้งหน้าและทาตัว
ข้อควรพิจารณา
– ไม่คุมมัน
– อาจรู้สึกหนักผิวหน้าได้บ้างในบางสภาพผิว
แดดแรงแค่ไหนก็ไม่กลัว! เพราะกันแดด Supergoop ตำนานครีมซันสกรีน ที่ดาราใช้ ออกแดดจัดแค่ไหนก็หน้าไม่ดำขึ้นเลย ด้วยสูตร Very Water resistant จึงกันน้ำได้ถึง 80 นาที ใครสาย Outdoor ต้องตัวนี้สิคะถึงจะคุ้ม!
เพื่อนๆ คนไหนกำลังเลือกซื้อ ครีมกันแดด แบรนด์ เคาน์เตอร์ ยี่ห้อไหนดี สำหรับดำน้ำ ไปทะเล ออกกำลังกายกลางแจ้ง ต้อง Supergoop! เท่านั้นค่า
ปริมาณ 71 ml : ราคา 950 บาท (ตก ml ละ 13.3 บาท)
ประเภท | Chemical Sunscreen |
ส่วนประกอบสำคัญ | Avobenzone, Homosalate |
กันน้ำ กันเหงื่อ | ✔️,✔️ |
เหมาะกับ | ทุกสภาพผิว |
4.กันแดดเนื้อเจล เคาน์เตอร์แบรนด์ : Lancome UV Expert Youth Shield Aqua Gel SPF50 PA++++
ราคา 2,500 บาท
ข้อดี
+ เนื้อเจลบางเบามาก สบายผิวสุดๆ
+ กันฝุ่นและกันแสงสีฟ้าได้
+ ช่วยคุมมันระหว่างวัน
ข้อควรพิจารณา
– มีน้ำหอมและแอลกอฮอล์
ป้องกันฝ้า กระ แก้หน้าหมองคล้ำอย่างมีประสิทธิภาพด้วย Lancome สูตรเจลกันค่า การันตีเลยว่าป้องกัน UVA UVB ได้ยืนหนึ่งไม่แพ้ใครเพราะเขาใช้สารอย่าง Mexoryl® SX+XL
เป็นเนื้อเจลแต่ให้ความชุ่มชื้นดี ฟินิช Matte หน้าไม่มัน มิสซี่เองก็หลงรักความเบาสบายผิวตัวนี้มาก
ปริมาณ 30 ml : ราคา 2,500 บาท (ตก ml ละ 83.3 บาท)
ประเภท | Chemical Sunscreen |
ส่วนประกอบสำคัญ | Mexoryl® SX+XL |
กันน้ำ กันเหงื่อ | ❌,❌ |
เหมาะกับ | ทุกสภาพผิว |
5.ครีมกันแดดเคาน์เตอร์แบรนด์ เหมาะกับผิวแพ้ง่าย : IPSA Protector Sun Shield E SPF50+ PA++++
ราคา 990 บาท
ข้อดี
+ บางเบา ซึมไวมาก เหมาะกับคนเร่งรีบ
+ มีสมุนไพรญี่ปุ่นช่วยต้านอนุมูลอิสระ
+ ผิวแพ้ง่ายใช้ได้ ไม่มีน้ำหอม
ข้อควรพิจารณา
– ปริมาณต่อหลอดค่อนข้างน้อย ใช้หมดไว
ครีมกันแดด Ipsa รีวิวว่าเป็นทั้งกันน้ำ กันเหงื่อ หน้าไม่วอก ทา 2 ข้อนิ้วก็ไม่รบกวนเมคอัพใดๆ แต่งหน้าต่อก็ไม่เป็นขุย เนื้อครีมไม่มัน แถมยังช่วยคุมมันอีกแรง ใช้ต่อเนื่องก็ไม่อุดตันผิว สิวไม่ถามหาเลยค่ะ
รุ่นนี้ ยังมีสารบำรุงผิวมาช่วยลดระคายเคืองจากมลภาวะอีกด้วย กล้าพูดเลยว่าตัวนี้เบาสบายผิวที่สุด
ปริมาณ 30 ml : ราคา 990 บาท (ตก ml ละ 33 บาท)
ประเภท | Hybrid Sunscreen |
ส่วนประกอบสำคัญ | Scutellaria Root Extract, Sodium Hyaluronate |
กันน้ำ กันเหงื่อ | ✔️,✔️ |
เหมาะกับ | ทุกสภาพผิว |
6.กันแดดหน้าเคาน์เตอร์แบรนด์ โทนอัพผิวดี : SULWHASOO UV WISE Brightening Multi Protector SPF50+/PA++++
ราคา 2,500 บาท
ข้อดี
+ มี 2 สูตรให้เลือก ทั้งผิวแห้ง ผิวมัน
+ กันฝุ่น บำรุงและโทนอัพผิวได้ในตัวเดียว
+ ผ่านการทดสอบแล้วว่าอ่อนโยนต่อผิวและดวงตา
ข้อควรพิจารณา
– มีน้ำหอม
Sulwhasoo รุ่นนี้ออกมาเอาใจสาวๆ ทั้ง 2 สภาพผิวเลยทีเดียว เน้นทั้งกันแดดและกันฝุ่น PM 2.5 พร้อมกับส่วนผสมสมุนไพรเกาหลีสุดพรีเมียมสไตล์ Sulwhasoo ช่วยฟื้นฟูผิว ลดระคายเคืองจากความร้อนด้วย Cooling Effect
และเสริมความปังในสูตร Milky Tone Up ด้วยคุณสมบัติกันแสงสีฟ้าอีกด้วยน้า ใครชอบหน้าเงา กระจายแสงสวยสไตล์เกาหลี ต้องลองกันแดดเคาน์เตอร์แบรนด์ตัวนี้ค่า
ปริมาณ 50 ml : ราคา 2,500 บาท (ตก ml ละ 50 บาท)
ประเภท | Chemical Sunscreen |
ส่วนประกอบสำคัญ | Melasolv – ลดเม็ดสีเมลานิน ปรับผิวขาวใส |
กันน้ำ กันเหงื่อ | ❌,❌ |
เหมาะกับ | No.1 ผิวแห้ง (ฟินิช Glow) No.2 ผิวผสม ผิวมัน (ฟินิช Matte) |
7.กันแดดเคาน์เตอร์แบรนด์ จากญี่ปุ่น: THREE Balancing UV Protector R SPF40/PA+++
ราคา 1,900 บาท
ข้อดี
+ เหมาะกับผิวแพ้ง่าย เป็นสิว
+ เกาะผิวดี เหงื่อไหลไม่เป็นคราบขาว
+ กันฝุ่น PM 2.5 กันแสง Blue Light ได้
ข้อควรพิจารณา
– เนื้อครีมสีขาวปรับสีผิวเล็กน้อย
THREE ตัวนี้ ใช้แล้วไม่เป็นสิว หน้าไม่มัน ไม่วอก ด้วยเนื้อครีมที่อัดแน่นไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติถึง 94% กลิ่นหอมอ่อนๆ จากออยล์สกัดจากพืชและดอกไม้นานาชนิด ทำให้รู้สึกผ่อนคลายขณะใช้
ปริมาณ 30 ml : ราคา 1,900 บาท (ตก ml ละ 63.3 บาท)
ประเภท | Physical Sunscreen |
ส่วนประกอบสำคัญ | Patchouli Essential Oil |
กันน้ำ กันเหงื่อ | ✔️,❌ |
เหมาะกับ | ทุกสภาพผิว |
8.ครีมกันแดด หน้าไม่มัน เคาน์เตอร์แบรนด์ที่ดีที่สุด : CLARINS UV PLUS [5P] ANTI-POLLUTION SPF50 PA+++
ราคา 2,150 บาท
ข้อดี
+ มี 3 สีให้เลือก Translucent, Rose, Lavender
+ มีส่วนผสมบำรุงผิวถึง 74%
+ เจลครีมเกลี่ยง่าย เซตตัวแล้วไม่มันวาว
ข้อควรพิจารณา
– มีน้ำหอม
ยุคที่เต็มไปด้วยมลภาวะ แค่กันแดดอย่างเดียวคงไม่พอ Clarins สูตรนี้จึงจัดเต็มปกป้องผิวจาก 5 มลภาวะ ทั้งแดด ฝุ่น แสงสีฟ้า ละอองเกสร มลภาวะภายในบ้านและแสงแดดแบบเต็มสตรีม
พร้อมสารสกัดพืชออร์แกนิคบำรุงผิวชุ่มชื้น ป้องกันริ้วรอยก่อนวัยอย่างอ่อนโยน เหมาะกับคนชอบส่วนผสมจากธรรมชาติมากเลยค่ะ
ปริมาณ 30 ml : ราคา 2,150 บาท (ตก ml ละ 71.6 บาท)
ประเภท | Hybrid Sunscreen |
ส่วนประกอบสำคัญ | Organic Mango Leaf |
กันน้ำ กันเหงื่อ | ❌,❌ |
เหมาะกับ | ทุกสภาพผิว |
9.ครีมกันแดด เคาน์เตอร์แบรนด์ สำหรับผิวแห้ง : La Mer La Mer The SPF50 UV Protecting Fluid PA+++
ราคา 5,650 บาท
ข้อดี
+ ทาทับเครื่องสำอางได้
+ เนื้อโลชั่น บางเบามาก ไม่ทิ้งคราบขาว
+ ล้างออกง่าย ไม่อุดตันผิว
ข้อควรพิจารณา
– ราคาสูงกว่าตัวอื่นพอสมควร
ครีมกันแดดจากลาแมร์ มาพร้อมกับสูตรลับเฉพาะระดับ Hi end ด้วย Miracle Broth™ สารสกัดจากสาหร่ายเคลป์ที่ทางลาแมร์จดเอกสิทธิ์เฉพาะ
เข้าบำรุงผิวหน้าให้อ่อนเยาว์และปลอบประโลมผิวไปในตัว ฟินิชผิวดิวอี้สุขภาพดี บอกเลยว่าเป็นกันแดด Hi End ที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใครเลยค่ะ
ปริมาณ 50 ml : ราคา 5,650 บาท (ตก ml ละ 113 บาท)
ประเภท | Chemical Sunscreen |
ส่วนประกอบสำคัญ | Miracle Broth™ |
กันน้ำ กันเหงื่อ | ❌,❌ |
เหมาะกับ | ผิวแห้ง-ผิวผสม |
วิธีเลือกซื้อ “กันแดดเคาน์เตอร์แบรนด์”
เลือกจากประเภท
- แบบ Physical หรือ Mineral Sunscreen เป็นเหมาะกับคนเป็นสิว ผิวแพ้ง่าย เพราะทำงานเสมือนชั้นฟิล์มเคลือบป้องกันผิวชั้นบน กันรังสียูวีด้วยการ “สะท้อน” ออกไป จึงไม่มีการซึมซาบเข้าสู่ผิวหน้านั่นเอง โดยจะใช้สาร Zinc Oxide Titanium Dioxide ในการปกป้องผิวจากแสงแดด
- แบบ Chemical คือครีมกันแดดที่ “ดูดซับ” รังสียูวีไว้บนผิว และเปลี่ยนเป็นความร้อนแทน โดยความร้อนนั้นก็จะถูกปล่อยออกมาทางผิวหนังค่ะ ข้อดีคือ เนื้อดีกว่า ส่วน Physical ซึมง่ายกว่า ไม่วอก สบายหน้ามากกว่า ใครไม่ใช่ผิวแพ้ง่ายใช้แบบนี้ดีเลยค่า
- แบบ Hybrid คือลูกผสมจากสองตัวด้านบน
เลือกจากเนื้อสัมผัส
มีหลายเนื้อสัมผัสให้เลือก หากชอบความเบาสบาย ลงเมคอัพต่อแบบชิลๆ ซึ่งเนื้อเจล เนื้อเซรั่ม เนื้อน้ำนม จะเซตกับผิวได้ดี ส่วนคนผิวแห้ง หันมาใช้เนื้อครีมหรือฟินิชโกลว์ จะเป็นตัวเลือกที่ช่วยให้ผิวดูสุขภาพดีมากกว่าค่ะ
เลือกจากค่ากันแดด
สงสัยไหมว่า ค่า SPF, ค่า PA +++ คืออะไร?
- ค่า SPF คือ ค่าป้องกันผิวจาก UVB วายร้ายอันดับ 1 ที่ทำให้ผิวหมองคล้ำ ผิวไหม้ แดง แสบร้อน รวมถึงสาเหตุของมะเร็งผิวหนังได้เลย ยิ่ง SPF สูง ก็ยิ่งป้องกันได้มาก โดยแนะนำ SPF 30 ขึ้นไปจะดีที่สุด หากต้องการการป้องกันจัดเต็ม ไม่อยากเป็นฝ้า กระหรือกำลังทาครีมลดฝ้า สกินแคร์ผลัดเซลล์ผิวอยู่ เลือก SPF 50 ที่บล็อกแสงยูวีได้ถึง 98% ไปเลยจะปกป้องผิวดีกว่าค่ะ
- ค่า PA คือ บอกถึงการป้องกันรังสี UVA ที่ทำร้ายผิวดำคล้ำโดยไม่รู้สึกแสบร้อนเหมือน UVB เปรียบเสมือนนักล่าเงียบที่มุ่งเข้าทำร้ายผิวโดยที่เราไม่ทันรู้ตัว โดยค่า PA+++ (3บวก) ถือว่าปกป้อง UVA ระดับสูงแล้ว แต่เพื่อความสบายใจ หากออกแดดจัด เลือกแบบ PA++++ (4บวก) ไปเลยจะดีกว่าค่ะ
เลือกจากความติดทนและกิจกรรมในแต่ละวัน
ต่อให้มีค่า SPF สูง PA++++ แต่หากเกาะผิวได้ไม่ดี ก็หลุดง่าย ปกป้องผิวไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้น หากมองหากันแดดไปทะเล เน้นเลือกตัวที่มีเทคโนโลยียึดเกาะผิวแน่นๆ
เลือกจากราคา
แม้จะเป็นกันแดดเคาน์เตอร์แบรนด์ แต่ครีมกันแดด ถูกและดีก็มีนะค้า อย่าง Supergoop Play และครีมกันแดด Ipsa ราคาไม่ถึงหนึ่งพันบาท หรือครีมกันแดด Jung Saem Mool รีวิวว่าราคาคุ้มค่ากับปริมาณ ถือว่าน่าสนใจสำหรับคนงบหนึ่งพันต้นๆ ค่ะ
บทส่งท้าย
เต็มอิ่มกับ รีวิว 10 อันดับ ครีมกันแดดเคาน์เตอร์แบรนด์ ยี่ห้อไหนดี 2023 กันไหมคะสาวๆ เห็นชัดๆ กันไปเลยว่าครีมกันแดด Counter Brand แต่ละแบรนด์ ส่วนประกอบขคุณภาพดีกินกันไม่ลงจริงๆ
แนะนำว่าเลือก Luxury Sunscreen ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์และความชอบส่วนตัวจะดีที่สุดค่ะ อย่าลืมปกป้องผิวจากรังสี UVA UVB กันเป็นประจำทุกเช้านะคะ จะได้หน้าใส ไร้ฝ้า กระ ไปนานๆ เลย
อ้างอิง