ถึงแม้ในยุคปัจจุบันจะต้องใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ เนื่องจากเวลาอันจำกัด ซึ่งอาจจะมีบางคน ที่ไม่ต้องการขั้นตอนวุ่นวายในการแต่งหน้า การเลือกใช้แป้งพัฟผสมรองพื้น ก็คงตอบโจทย์ไม่น้อย
ซึ่งแป้งพัฟแบรนด์ดังจากเคาน์เตอร์แบรนด์ ก็มีให้เลือกหลายรุ่น ให้การปกปิดหลายระดับ แถมให้ฟินิชลุคต่างกัน ทั้งแมตต์ หน้าฉ่ำ งานผิว เน้นเบลอรูขุมขน กลบจุดด่างดำ ช่วยให้ไม่หมองระหว่างวัน เสกผิวสวยแบบเป็นธรรมชาติ
ซึ่งในบทความนี้ เราได้รวบรวมและคัดสรร แป้งพัฟ เคาน์เตอร์แบรนด์ ยี่ห้อไหนดี 2023 รับประกันว่าคุณภาพสูง คุมมันดี มาเป็นตัวเลือกสำหรับการตัดสินใจ จะมีแป้งตลับ เคาน์เตอร์แบรนด์ ยี่ห้ออะไรกันน่าสนใจบ้าง ไปดูกันเลย
TOP 3 แป้งพัฟเคาน์เตอร์แบรนด์
#1 Charlotte Tilbury Airbrush Flawless Finish Setting Powder
ราคา 2,000 บาท
#2 Chanel Le Teint Ultra Tenue Ultrawear Flawless Compact Foundation
ราคา 2,600 บาท
#3 Covermark Moisture Veil LX
ราคา 2,200 บาท
มาทำความรู้จักกับแป้งพัฟ เคาน์เตอร์แบรนด์
แป้งพัฟ เคาน์เตอร์แบรนด์ คือ แป้งอัดแข็งจากแบรนด์ระดับ Hi-End ที่ประกอบไปด้วย
- เม็ดสี และแร่ธาตุต่าง ๆ
- สามารถให้การปกปิดตั้งแต่ระดับบางเบาไปจนถึงปานกลาง
- ให้ลุคที่ดูเป็นผิวสวยแบบธรรมชาติมากกว่าการลงรองพื้นชนิดเหลว
- ไม่ทำให้รู้สึกหนักหน้า
- ช่วยลดความมันบนผิวหน้า
ในปัจจุบัน แป้งพัฟ หรือ แป้งตลับ มีหลายยี่ห้อ หลายรูปแบบ แล้วควรเลือก แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี เป็นคำถามที่หลายคนกำลังคิดหนักกันน่าดู
วันนี้เรามีรีวิวแป้งพัฟ เคาน์เตอร์แบรนด์ แนะนำให้คุณได้ลองอ่าน พร้อมวิธีเลือกเนื้อแป้งให้ตอบโจทย์ตามความต้องการ
ตารางเปรียบเทียบ “แป้งพัฟ เคาน์เตอร์แบรนด์” แต่ละยี่ห้อ
สินค้า | เช็คส่วนลดที่ | จุดเด่น |
Charlotte Tilbury Airbrush Flawless Finish Setting Powder 2,000 บาท |
| |
Chanel Le Teint Ultra Tenue Ultrawear Flawless Compact Foundation 2,600 บาท |
| |
Covermark Moisture Veil LX 2,200 บาท |
| |
Laura Mercier Foundation Powder 1,950 บาท |
| |
Shiseido Synchro Skin Self-Refreshing Custom Finish Powder Foundation 1,550 บาท ไม่รวมตลับ |
| |
Bobbi Brown Skin Weightless Powder Foundation 2,000 บาท |
| |
MAC Studio Fix Powder Plus Foundation 1,800 บาท |
| |
LANCOME Teint Clarifique Compact Powder Foundation 1,950 บาท ไม่รวมตลับ |
| |
Dior Forever Natural Velvet 2,990 บาท |
| |
Estee Lauder Double Wear Stay In Place Matte Powder Foundation SPF 10 2,150 บาท |
|
จะเลือกซื้อ แป้งพัฟ เคาน์เตอร์แบรนด์ ยี่ห้อไหนดี 2566
1. แป้งพัฟ เคาน์เตอร์แบรนด์ แนะนำที่สุด : Charlotte Tilbury Airbrush Flawless Finish Setting Powder
ราคา 2,000 บาท
ข้อดี
+ เนื้อแป้งบางเบา เนียนละเอียด
+ ผิวแมตต์แบบมีมิติ
+ เติมระหว่างวัน ช่วยให้ผิวดูดีขึ้นมาก
ข้อควรพิจารณา
– ไม่มีพัฟมาให้
แป้งพัฟ เคาน์เตอร์แบรนด์ เบลอผิวดี ๆ ไม่มีแบรนด์ Charlotte ไม่ได้ เลยแม้จะไม่ใช่เนื้อแป้งพัฟผสมรองพื้น แต่เนื้อบางเบา เนียนละเอียด ตำนานแป้งเสกผิวสวยแมตต์แต่หน้าไม่แบน ไม่แห้งตัวจริง
แป้งอัดแข็งตัวนี้ไม่ได้เน้นปกปิด แต่ช่วยเบลอรูขุมขน ด้วยส่วนผสมของ Soft-focus nanoparticles ซึ่งเป็นอณูแป้งสีมุก ทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนมากขึ้น เหมาะกับทุกสภาพผิว คุมมันได้ดี หน้าดูไม่แห้งและตกร่องง่ายในระหว่างวัน
สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าควรจะเริ่มต้นที่แป้งพัฟ เคาน์เตอร์แบรนด์ ตัวไหนดี ไว้เติมระหว่างวันหรือเซตรองพื้น บอกเลยว่าแป้ง Charlotte ตัวนี้ เป็นตัวเริ่มต้นที่ดีสำหรับมือใหม่
ปริมาณ 8 กรัม : ราคา 2,000 บาท (ตกกรัมละ 500 บาท)
จุดเด่น | ผิวสวย เบลอรูขุมขน เนื้อแป้งเนียนละเอียด |
ส่วนประกอบสำคัญ | Talc / Mica / Polymethyl Methacrylate / Dimethicone |
จำนวนเฉด | 4 เฉด |
กันแดด | ✗ |
2. แป้งพัฟเคาน์เตอร์แบรนด์ หน้าผ่องที่ดีที่สุด : Chanel Le Teint Ultra Tenue Ultrawear Flawless Compact Foundation
ราคา 2,600 บาท
ข้อดี
+ ปกปิดแบบงานผิว สบายผิวมาก
+ ยิ่งเหงื่อออกยิ่งผ่อง
+ คุมมันระดับหนึ่ง ติดทนทั้งวัน
ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างสูง
แป้งพัฟ เคาน์เตอร์แบรนด์ตัวดังอย่างแป้งพัฟ Chanel รุ่นนี้ ให้ฟินิชกึ่งแมตต์ ผิวสวยมีมิติ หน้าผ่องสู้กล้อง ให้การปกปิด คุมมันระดับหนึ่ง ฟองน้ำมี 2 ด้าน ปรับใช้ได้ตามต้องการ
แป้งอัดแข็งชาแนล มีเม็ดสีแบบ Hydrophobic ช่วยให้ผิวดูฉ่ำ อำพรางรูขุมขน ทาแล้วเนียนกลืนไปกับผิว ไม่โบ๊ะ ไม่หนา ที่สำคัญติดทนตลอดวันเลย แถมตลับยังดูหรูหราด้วย
ใครที่กำลังมองหาแป้งพัฟ เคาน์เตอร์แบรนด์ ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ หน้าผ่องเด้ง ตบทีเดียวอยู่ แป้งพัฟผสมรองพื้น เคาน์เตอร์แบรนด์ Chanel ตัวนี้ ถือเป็นอีกตัวเลือกที่คุ้มค่าแน่นอน
ปริมาณ 13 กรัม : ราคา 2,600 บาท (ตกกรัมละ 200 บาท)
จุดเด่น | หน้าผ่อง ไม่หมองระหว่างวัน คุมมัน |
ส่วนประกอบสำคัญ | Talc / Silica / Boron Nitride / Dimethicone |
จำนวนเฉด | 16 เฉด |
กันแดด | ✗ |
3. แป้งพัฟเคาน์เตอร์แบรนด์ หน้าฉ่ำ : Covermark Moisture Veil LX
ราคา 2,200 บาท
ข้อดี
+ เซตตัวแล้วหน้าไม่แป้ง แนบผิวดี
+ มีสารกันแดด
+ ปกปิดดีมาก กริบ!
ข้อควรพิจารณา
– แป้งจะแข็งตัว หากใช้กับพัฟที่เปียกน้ำ
– ขายแป้งตลับกับฟองน้ำแยกกัน
แป้งพัฟ Covermark รุ่นนี้ เคลมว่าเป็นรองพื้นชนิดแป้ง ให้สัมผัสเหมือนรองพื้นเนื้อครีม เหมาะกับผิวแห้ง หรือคนที่ต้องการงานผิวชุ่มชื้น ฉ่ำวาว
เนื้อแป้งพัฟอัดแข็งตัวนี้ มีโครงสร้าง Moisture Coating ทำให้เนื้อนุ่มลื่น ช่วยเบลอรูขุมขน เรียบเนียน เกลี่ยง่ายสุด ๆ ปกปิดดีและกลมกลืนเหมือนผิวเราจริง ๆ ยิ่งเวลาผ่านไปก็จะยิ่งมีผิวสวยขึ้นด้วย
เป็นแป้งผสมรองพื้นที่ไม่ทำให้หน้าดูเหมือนทาแป้ง กลืนกับผิว ช่วยกลบจุดด่างดำ แถมคุมมันแบบหน้าไม่ Cakey หากใครชอบแป้งพัฟ เคาน์เตอร์แบรนด์ หน้าฉ่ำเหมือนใช้รองพื้นบางเบา คงหนีไม่พ้นตัวนี้แล้วล่ะ
ปริมาณ 8 กรัม : ราคา 2,200 บาท (ตกกรัมละ 275 บาท)
จุดเด่น | แป้งตลับ เคาน์เตอร์แบรนด์ กันแดด SPF 32 PA+++ ผิวสวยฉ่ำ ชุ่มชื้น กลืนไปกับผิว |
ส่วนประกอบสำคัญ | Mica / Talc / Titanium Dioxide |
จำนวนเฉด | 6 เฉด |
กันแดด | SPF 32 PA++++ |
4. แป้งพัฟเคาน์เตอร์แบรนด์ เน้นปกปิดดี : Laura Mercier Foundation Powder
ราคา 1,950 บาท
ข้อดี
+ มีสารบำรุงผิวอย่างวิตามินซีและวิตามินอี
+ แป้งบางเบา คุมมันได้ตลอดวัน
+ ปราศจากน้ำหอม แอลกอฮอลล์ และพาราเบน
ข้อควรพิจารณา
– มีเฉดสีให้เลือกน้อย
– ไม่มีสารกันแดด
รีวิวแป้งพัฟ Laura Mercier ตัวนี้กระแสดีจนต้องตำตาม เป็นแป้งพัฟแบรนด์ดังที่ให้ระดับการปกปิดตั้งแต่บางเบาจนถึง Full coverage ช่วยเบลอผิว อำพรางจุดบกพร่องบนผิวหน้า แต่ยังคงเบาสบาย เหมาะกับทุกสภาพผิวแม้ผิวแพ้ง่าย
สามารถลงได้ 2 แบบ แบบแห้ง แป้งอัดแข็งปกปิดบางเบา-ปานกลาง แต่ถ้าต้องการระดับความปกปิดมาก การลงแบบเปียก จะให้การปกปิดขั้นสุดเหมือนใช้รองพื้นคุมมัน
ใครชอบงานกริบ หน้าสวยเป๊ะไม่ต้องเติมบ่อย แป้งพัฟ เคาน์เตอร์แบรนด์ ปกปิดดี แป้งพัฟลอร่าตัวนี้ตอบโจทย์
ปริมาณ 7.4 กรัม : ราคา 1,950 บาท (ตกกรัมละ 263.5 บาท)
จุดเด่น | เนื้อแมตต์ ผิวสวยหายใจได้ แม้ปกปิดขั้นสุด |
ส่วนประกอบสำคัญ | Talc / Dimethicone / Zinc stearate |
จำนวนเฉด | 3 เฉด |
กันแดด | ✗ |
5. แป้งพัฟเคาน์เตอร์แบรนด์ญี่ปุ่นที่ดีที่สุด : Shiseido Synchro Skin Self-Refreshing Custom Finish Powder Foundation
ราคา 1,550 บาท
ข้อดี
+ คุมมันนาน 8 ชั่วโมง
+ ไม่อุดตันรูขุมขน
+ ปกปิดดีแต่ยังดูเป็นผิว
ข้อควรพิจารณา
– ตลับค่อนข้างใหญ่
แป้งพัฟชิเซโด้ เป็นแป้งแบรนด์ดังสัญชาติญี่ปุ่น ที่มีเฉดสีที่เหมาะกับสาวเอเชีย พร้อมคุณสมบัติกันแดด SPF 35 PA++++ กันน้ำ กันเหงื่อ คุมมันนาน 8 ชั่วโมง
สามารถปกปิดได้ตั้งแต่บางเบาไปจนถึงปานกลาง และหากต้องการเพิ่มความปกปิดมากขึ้นอีก ก็สามารถลงแบบเปียกได้ด้วย
เป็นแป้งพัฟ เคาน์เตอร์แบรนด์ นวัตกรรม ActiveForceTM ที่ช่วยให้แป้งพัฟผสมรองพื้นยืดหยุ่นไปตามผิวหน้า เนื้อแป้งไม่ตกร่อง ตอบโจทย์แสดงสีหน้าเยอะสุด ๆ
ปริมาณ 9.0 กรัม : ราคา 1,550 บาท ไม่รวมตลับ (ตกกรัมละ 172.2 บาท)
จุดเด่น | คุมมันยาวนาน เบลอรูขุมขนดีเยี่ยม ได้ลุคผิวสวย |
ส่วนประกอบสำคัญ | ActiveForceTM Technology / ActiGel / Time / Match Powder / Self-Repair Gel |
จำนวนเฉด | 9 เฉด |
กันแดด | SPF35 PA++++ |
6. แป้งพัฟเคาน์เตอร์แบรนด์ คุมมันที่ดีที่สุด : Bobbi Brown Skin Weightless Powder Foundation
ราคา 2,000 บาท
ข้อดี
+ สูตร Oil-free เหมาะสำหรับผิวธรรมดาถึงผิวมัน
+ แป้งเนื้อนุ่ม เกลี่ยง่ายมาก
+ บางเบา สบายผิว
ข้อควรพิจารณา
– อาจแมตต์ไป สำหรับผิวแห้งมาก
แป้งพัฟ เคาน์เตอร์แบรนด์คุมมันที่ทุกคนน่าจะรู้จักกันดี นั่นก็คือ แป้งพัฟ Bobbi Brown ให้ผิวแมตต์ แต่เป็นธรรมชาติ แลดูสุขภาพดี ไม่หนาโป๊ะ และยังเป็นสูตร Oil-free ที่ไม่อุดตันผิวอีกด้วย
เนื้อแป้งให้ความเบาสบาย ให้การปกปิดแบบปานกลาง แถมยังช่วยเบลอรูขุมขนและติดทนได้ดี ทนต่อสภาพอากาศเมืองไทย เป็นแป้งพัฟใช้ดีสำหรับสาวหน้ามันตัวหนึ่งเลย
ใครที่ต้องการแป้งคุมมันแต่บางเบาแล้ว ยังตัดสินใจเลือกแป้งพัฟเคาน์เตอร์แบรนด์ไม่ได้ ขอแนะนำแป้งพัฟแบรนด์ดัง Bobbi Brown รุ่นนี้จริง ๆ
ปริมาณ 11 กรัม : ราคา 2,000 บาท (ตกกรัมละ 181.8 บาท)
จุดเด่น | ให้ลุคเป็นธรรมชาติ คุมมัน สูตร Oil-free ไม่อุดตัน |
ส่วนประกอบสำคัญ | Talc / Synthetic Fluorphlogopite / Boron Nitride / Squalane |
จำนวนเฉด | 8 เฉด |
กันแดด | ✗ |
7. แป้งผสมรองพื้น เคาน์เตอร์แบรนด์ หน้าเนียนที่ดีที่สุด : MAC Studio Fix Powder Plus Foundation
ราคา 1,800 บาท
ข้อดี
+ มีเฉดสีหลากหลาย
+ ตลับพอดีมือ พกพาง่าย
+ สีไม่ดรอประหว่างวัน
ข้อควรพิจารณา
– เนื้อแป้งค่อนข้างหนัก
แป้งพัฟที่ดารานิยมใช้ รวมถึงช่างแต่งหน้าหลายคนต้องพกติดกระเป๋า คงหนีไม่พ้นแป้งพัฟ MAC แบรนด์ดังระดับตำนาน เป็นแป้งผสมรองพื้น ปกปิดดี คุมมัน ผิวสวยติดทนถึง 12 ชั่วโมง
ระดับการปกปิดได้ระดับปานกลางจนถึงสูง แถมเป็นสูตร Oil-free ที่ไม่ทำให้อุดตันรูขุมขน
แป้งเคาน์เตอร์แบรนด์ คุมมันดีตัวนี้ ให้ฟินิชลุคแบบแมตต์ หน้าไม่หมองระหว่างวัน เหมาะสำหรับคนที่จำเป็นจะต้องออกนอกสถานที่เป็นเวลานาน ๆ
แป้งพัฟ MAC ถือว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า เป็นอีกหนึ่งแป้งพัฟ เคาน์เตอร์แบรนด์ ปกปิด เบลอรูขุมขน กลบจุดด่างดำ ติดทนนาน ง่ายต่อการพกพา ที่แนะนำ
ปริมาณ 15 กรัม : ราคา 1,800 บาท (ตกกรัมละ 120 บาท)
จุดเด่น | ผิวสวนฉ่ำ หน้าเด้งไม่ดรอปทั้งวัน |
ส่วนประกอบสำคัญ | Talc / Silica / Isostearyl Palmitate / Methicone / Caprylyl Glycol |
จำนวนเฉด | 11 เฉด |
กันแดด | ✗ |
8. แป้งพัฟเคาน์เตอร์แบรนด์ ผิวสวยที่ดีที่สุด : LANCOME Teint Clarifique Compact Powder Foundation
ราคา 1,950 บาท
ข้อดี
+ ผิวดูสุขภาพดี
+ มี SPF 32 PA++++
+ เหมาะกับทุกสภาพผิว
ข้อควรพิจารณา
– หาซื้อยาก
– ขายแป้งกับตลับแยกกัน
แป้งพัฟ LANCOME ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเป็นแป้งที่น่าลองตัวหนึ่ง นอกจากจะเหมาะกับทุกสภาพผิวแล้ว ยังมีนวัตกรรม Aura-InsideTM ที่ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง โกลว์จากภายใน ผิวดูสวย ดูกระจ่างใส หน้าผ่อง แถมยังควบคุมความมันบนใบหน้าได้อย่างดีเยี่ยม
แป้งตลับ เคาน์เตอร์แบรนด์รุ่นนี้ มีเนื้อสัมผัสที่บางเบา เกลี่ยง่าย ช่วยเซตให้เมคอัพติดทนทั้งวัน ใครสายผิว Makeup No Makeup ที่กำลังตามหาแป้งพัฟ เคาน์เตอร์แบรนด์ หน้าผ่อง สายงานผิว ห้ามพลาดเลย
ปริมาณ 11.5 กรัม : ราคา 1,950 บาท ไม่รวมตลับ (ตกกรัมละ 169.5 บาท)
จุดเด่น | ช่วยให้หน้าผ่อง ดูสวยเป็นธรรมชาติ |
ส่วนประกอบสำคัญ | French Beech Buds / Vitamin B3 |
จำนวนเฉด | 3 เฉด |
กันแดด | SPF 32 PA++++ |
9. แป้งพัฟเคาน์เตอร์แบรนด์ ลุคธรรมชาติที่ดีที่สุด : Dior Forever Natural Velvet
ราคา 2,990 บาท
ข้อดี
+ ปกปิดดี ปิดรอยแดงไม่ต้องง้อคอนซีลเลอร์
+ ผสมสารบำรุงผิวในเนื้อแป้ง
+ เนื้อสัมผัสเบาสบาย
ข้อควรพิจารณา
– มีเฉดสีให้เลือกน้อย
แป้งพัฟเคาน์เตอร์แบรนด์งานผิวละมุนอีกตัว คือ แป้งพัฟ Dior ตลับนี้ เนื้อแป้งกำมะหยี่ บางเบา เนียนละเอียด เบลอรูขุมขนได้ดี เมื่อลงบนผิว ไม่ทำให้ผิวดูแห้งเกินไป และยังโดดเด่นในเรื่องของความติดทน และสามารถปกปิดได้ดีระดับหนึ่งเลย
ที่สำคัญ แป้งพัฟ Dior มีสารสกัดจากธรรมชาติถึง 90% ช่วยเบลอรูขุมขน ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ทำให้รู้สึกสบาย ไม่หนักหน้าเวลาใช้
หากกำลังตามหาแป้งผสมรองพื้นงานผิว แป้งพัฟ เคาน์เตอร์แบรนด์ ให้ลุคธรรมชาติ คุมมันระดับหนึ่ง และติดทนดี ขอยกให้ตัวนี้เลย!
ปริมาณ 10 กรัม : ราคา 2,990 บาท (ตกกรัมละ 299 บาท)
จุดเด่น | ให้ลุคธรรมชาติ มีสารบำรุงผิว ติดทน |
ส่วนประกอบสำคัญ | Synthetic Fluorphlogopite / Mica / Calcium Sodium Borosilicate / Silica |
จำนวนเฉด | 8 เฉด |
กันแดด | ✗ |
10. แป้งตลับ เคาน์เตอร์แบรนด์ ติดทนนานที่ดีที่สุด : Estee Lauder Double Wear Stay In Place Matte Powder Foundation SPF 10
ราคา 2,150 บาท
ข้อดี
+ สูตร Oil-free คุมมันขั้นเทพ
+ เนื้อแป้งเบาสบายผิว
+ พัฟใช้ได้ 2 ด้าน ให้ฟินิชลุคที่ต่างกัน
ข้อควรพิจารณา
– ตลับเงา มีรอยได้ง่าย
แป้งพัฟ Estee Lauder หนึ่งในแป้งพัฟติดทนนานที่สุด มีอณูแป้งที่เนียนละเอียด เบลอรูขุมขนได้อย่างดี กระจายแสงเยี่ยม เป็นแป้งผสมรองพื้น เคาน์เตอร์แบรนด์ ผิวสวยเนียน ไม่ตกร่องที่น่าจับตามอง
พัฟใช้ได้ถึง 2 ด้าน วันไหนอยากให้หน้าเนียนกริบ เบลอรูขุมขน แนะนำให้ใช้ด้านที่เป็นฟองน้ำ แต่ถ้าอยากแต่งหน้าแบบเบา ๆ ควรใช้ด้านกำมะหยี่แทน
แป้งตลับนี้ ยังใช้แบบเปียกได้ด้วย ให้ความรู้สึกเหมือนทารองพื้น แต่ไม่หนักหน้าเท่ารองพื้น ปกปิดดีมาก คุมมัน กันน้ำ กันเหงื่อ ติดทนขั้นเทพ เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาในการแต่งหน้านาน ๆ
ปริมาณ 12 กรัม : ราคา 2,150 บาท (ตกกรัมละ 179.2 บาท)
จุดเด่น | เบลอรูขุมขุนดี ให้ผิวสวย คุมมันนาน |
ส่วนประกอบสำคัญ | Boron Nitride / Polymethylsilsesquioxane / Octyldodecyl Stearoyl Stearate / Silica |
จำนวนเฉด | 8 เฉด |
กันแดด | SPF 10 |
วิธีเลือกซื้อ “แป้งพัฟ เคาน์เตอร์แบรนด์”
1. เลือกซื้อแป้งพัฟ เคาน์เตอร์แบรนด์ให้เหมาะกับสภาพผิว
- ผิวมัน – ควรเลือกเนื้อแป้งแบบ Oil-Free หรือเนื้อแมตต์ เนื่องจากผิวมันมักจะมีความมันส่วนเกินเกิดขึ้นบนใบหน้า การใช้แป้งพัฟทาหน้าสูตร Matte จะช่วยทำให้ความมันน้อยลง และสามารถควบคุมความมันที่เกิดขึ้นระหว่างวันได้ดี
- ผิวผสม – เนื่องจากจะมีความมันเกิดขึ้นบริเวณ T-Zone มากกว่าบริเวณอื่น ๆ ดังนั้น ควรเลือกเนื้อแมตต์ที่สามารถคุมมันระดับกลาง ๆ ก็เพียงพอแล้ว
- ผิวแห้ง – แนะนำให้ใช้เนื้อแป้งที่ให้ฟินิชลุคแบบฉ่ำวาวหรือมีชิมเมอร์ ทำให้ผิวดูสุขภาพดี แป้งตลับที่มีสารบำรุงผิวให้ความชุ่มชื้น จะช่วยให้แป้งไม่เกาะเป็นคราบ
สภาพผิวของผู้ใช้เป็นปัจจัยหลักที่เกี่ยวกับระดับความติดทนนาน หรือ แม้แต่การควบคุมความมันด้วยเช่นกัน ดังนั้น ควรเลือกสูตรให้ตรงกับสภาพผิวจะดีที่สุด
2. เลือกซื้อแป้งพัฟ เคาน์เตอร์แบรนด์ให้เหมาะสมกับอันเดอร์โทน
อันเดอร์โทน คือ สีผิวโทนธรรมชาติที่อยู่ภายใต้ผิวของเรา สามารถทำให้เราเลือกเฉดสีของแป้งพัฟที่เหมาะสมกับสีผิวของเราได้ดี
อันเดอร์โทนชมพู หรือ อันเดอร์โทนเย็น
- มีเส้นเลือดเป็น สีฟ้า หรือ สีม่วง
- ใส่เครื่องประดับที่มีสีเงิน แล้วทำให้ผิวดูดีขึ้น
- มีแนวโน้มที่จะมีอันเดอร์โทนสีชมพู เหมาะกับแป้งพัฟ Cool Tone
อันเดอร์โทนเหลือง หรือ อันเดอร์โทนอุ่น
- สีของเส้นเลือดเป็นสีออกเขียวมะกอก
- ใส่เครื่องประดับสีทองแล้วดูผ่องขึ้น
- อันเดอร์โทนสีเหลือง จะเหมาะกับแป้งพัฟ Warm Tone
อันเดอร์โทนกลาง
- เส้นเลือดทั้งสีฟ้าหรือสีเขียว ทั้งคู่
- สามารถดูดีได้ในเครื่องประดับทั้งเงินและทอง
- อันเดอร์โทนกลาง ใช้ได้ทั้งแป้งพัฟทั้งสีชมพูและสีเหลืองที่เม็ดสีแต่ละฝั่งไม่แน่นมากเกินไป
หากต้องการทดสอบสีของแป้งพัฟที่เข้ากับผิว แนะนำให้ลองแป้งกับแสงแดดธรรมชาติ ด้วยหน้าสด และลองลงแป้งบริเวณกรอบหน้า ซึ่งเป็นจุดที่ดีเพื่อดูว่าสีกลมกลืนเข้ากับใบหน้าและลำคอหรือไม่นั่นเอง
3. เลือกซื้อแป้งพัฟ เคาน์เตอร์แบรนด์จากระดับการปกปิด
เมื่อต้องเลือกระดับการปกปิด แนะนำให้ลองถามตัวเองก่อนว่าต้องการฟินิชลุคแบบไหน
ปกปิดน้อย = งานผิว เป็นธรรมชาติ
ถ้าไม่อยากโป๊ะ makeup no makeup แนะนำให้เลือก แป้งพัฟ เคาน์เตอร์แบรนด์ สูตร Sheer – Medium Coverage ปกปิดแบบบางเบาหรือแบบไม่ผสมรองพื้น
เนื่องจากส่วนผสมของเม็ดสีของแป้งไม่ได้มีมากนัก ช่วยปรับสภาพผิวให้หน้าเนียน หน้าผ่อง ได้ลุคใส ๆ เหมาะกับคนที่ต้องการเผยผิว
ปกปิดดี เบลอรูขุมขน
หากมีรอยสิว รอยคล้ำใต้ตา หรือรอยดำ ต้องการการปกปิดระดับหนึ่ง แนะนำให้เลือกแป้งผสมรองพื้นที่มีเม็ดสีชัดเจน ปกปิดระดับกลางและบิลด์ได้จนถึงปกปิดสูง เพื่อให้หน้าเนียนสวยขึ้น
หรือหากมีรอยเข้มมาก ๆ อาจต้องลงคอนซีลเลอร์ก่อน แต้มเฉพาะจุด แล้วค่อยตามด้วยแป้งผสมรองพื้น ก็จะได้ผิวกริบ ปกปิดขั้นสุดไม่แพ้ลงรองพื้น แถมผิวที่ได้ก็ไม่หนาโบ๊ะเกินไปอีกด้วย
4. อุปกรณ์หรือเทคนิคที่ใช้สำหรับลงแป้งพัฟก็สำคัญ
การทาแป้งพัฟด้วยอุปกรณ์ที่ไม่เหมือนกัน ทำให้เกิดความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง และสามารถทำให้แป้งพัฟตลับเดียวกัน ดูแตกต่างไปจากเดิมได้ง่าย ๆ เช่น
- ใช้ฟองน้ำแบบเปียก จะให้ได้การปกปิดขั้นสุด แต่ต้องเกลี่ยดี ๆ ไม่อย่างนั้นอาจเป็นคราบได้
- ใช้ฟองน้ำแบบแห้ง เพื่อให้ลุคที่ปกปิดแต่ยังเป็นงานผิวอยู่ เนื้อแป้งเกลี่ยง่าย และติดทนนานตลอดทั้งวัน
- ใช้แปรง เพื่อความบางเบาและเป็นธรรมชาติ เหมาะกับใช้เซตรองพื้น
วิธีทาแป้งพัฟไม่ให้เป็นคราบ
หลายคนอาจจะเป็นกังวลในเรื่องของการลงแป้งพัฟอย่างไรให้ถูกวิธี เพราะอากาศแบบบ้านเราทั้งร้อนทั้งชื้น แล้วจะทำอย่างไรให้แป้งติดทนนาน ไม่เป็นคราบ เราก็มีคำแนะนำดี ๆ มาให้ได้ลองทำตามกันดูแล้ว
1.เตรียมสภาพผิวให้พร้อม
การทำความสะอาดผิวหน้าก่อนการเริ่มบำรุงผิว ถือว่าเป็นขั้นตอนสำคัญเลย เป็นการขจัดความมันส่วนเกินของใบหน้า และปรับสภาพผิวหน้าให้พร้อมกับขั้นตอนต่อไป
โดยการล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์ที่อ่อนโยนต่อผิวด้วยน้ำอุ่น เน้นบริเวณ T-Zone เป็นพิเศษ ใช้ปลายนิ้วถูเพื่อความสะอาด และใช้ผ้าสะอาดซับให้แห้ง
2.ลงสกินแคร์ให้ผิวชุ่มชื้น
บำรุงผิวด้วยสกินแคร์เติมน้ำให้ผิวชุ่มชื้นหลังจากการล้างหน้าทันที เช่น มอยเจอร์ไรเซอร์และกันแดด โดยต้องเลือกเนื้อสัมผัสให้เหมาะกับสภาพผิวด้วย ไม่อย่างนั้นระหว่างวันอาจจะทำให้แป้งพัฟ เคาน์เตอร์แบรนด์เยิ้มได้
ขั้นตอนนี้ไม่สามารถข้ามไปได้เลย เพราะการทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น จะช่วยให้เนื้อแป้งเกาะผิวได้ดีนั่นเอง
3.ลงไพรเมอร์
หลังจากที่ครีมบำรุงผิวซึมลงบนใบหน้าแล้ว การลงไพรเมอร์ จะช่วยเบลอรูขุมขน และเติมเต็มร่องลึก แถมยังช่วยให้แป้งพัฟติดทนนานอีกด้วย
- ผิวแห้ง ผิวผสมค่อนข้างแห้ง ควรเลือกใช้ไพรเมอร์ที่ให้ความชุ่มชื้น
- ผิวมัน ผิวผสมค่อนข้างมัน ควรเลือกใช้ไพรเมอร์ที่ช่วยควบคุมความมันบริเวณ T-Zone
4.ทาแป้งพัฟด้วยการค่อย ๆ กด ไม่ปาดหรือถูลงบนผิว
ใช้ฟองน้ำ ซับ หรือ ตบแป้งเบา ๆ ให้ทั่วไปหน้าแบบบาง ๆ โดยเริ่มจากบริเวณจมูกก่อน จากนั้นค่อย ๆ ลงบริเวณ T-Zone ที่เหลือ โดยลงจากตรงกลางและค่อย ๆ ทาด้านนอก
หากต้องการปกปิดเยอะๆ เราสามารถที่จะใช้แป้งพัฟ เคาน์เตอร์แบรนด์ กดย้ำบริเวณที่เราต้องการปกปิดมากขึ้นได้
5. ใช้แปรงลงแป้งพัฟ เพื่องานผิวธรรมชาติ
หากกังวลว่าการลงด้วยรองพื้นจะหนาเกินไป แนะนำให้ลงแป้งพัฟ เคาน์เตอร์แบรนด์ด้วย แปรงคาบูกิ หรือ ทรงพุ่มกลม ๆ โดยกดแปรงลงบนเนื้อแป้งแล้ววนแปรงให้ทั่ว แล้วให้เคาะแปรง เพื่อไม่ให้แป้งพัฟติดบนแปรงเยอะจนเกินไป
หลังจากนั้นให้ปัดวน ๆ ลงให้ทั่วผิว เป็นวิธีที่จะช่วยให้ผิวดูไม่หนาและธรรมชาติ
เทคนิคนี้ใช้ได้ทั้งกับ แป้งฝุ่น แป้งอัดแข็ง เพื่อเซตรองพื้น
อ่านรีวิว แป้งพัฟ เคาน์เตอร์แบรนด์ ไปแล้ว คงจะได้เทคนิคการทาแป้งพัฟอัดแข็งให้ผิวสวยกันแล้วนะ ลองทำตามดูรับรองว่าเวิร์กสุด ๆ
คำถามที่พบบ่อย
ทาแป้งพัฟ ยังไง?
การทาแป้งพัฟ สามารถทาได้ 2 วิธี คือการใช้พัฟฟองน้ำ และแปรงพุ่มกลม
1. การลงแป้งพัฟด้วยพัฟฟองน้ำ
กดเนื้อแป้งขึ้นมาอย่างพอดี ไม่เยอะจนหนาไป จากนั้นค่อย ๆ กดลงบนผิวหน้า เริ่มจากบริเวณตรงกลางอย่างจมูกก่อน และค่อย ๆ ทาไปตามบริเวณ T-Zone เช่น สันจมูก ปลายคาง และหน้าผาก จนทั่วใบหน้า หากต้องการความปกปิดมากขึ้น สามารถย้ำในบริเวณนั้น ๆ ได้เลย
แถมแป้งพัฟ เคาน์เตอร์แบรนด์บางตัว ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้พัฟฟองน้ำแบบเปียก โดยการชุบน้ำให้หมาด และนำมาใช้เพื่อให้ผิวเรียบเนียน ให้ลุคที่สวยธรรมชาติได้อีกด้วย
2. การทาโดยใช้แปรงพุ่มกลม
วิธีการทาแป้งพัฟ เคาน์เตอร์แบรนด์รูปแบบนี้ เหมาะกับคนที่อยากได้ลุคแบบ Makeup No Makeup และไม่หนาจนเกินไป แต่ไม่แนะนำสำหรับคนที่ต้องการความปกปิด
แป้งพัฟใช้ได้นานแค่ไหน?
แป้งพัฟ สามารถใช้ได้ประมาณ 24 เดือนหรือ 2 ปีหลังจากเปิดใช้ครั้งแรก สามารถสังเกตได้จากสัญลักษณ์ประกอบอยู่ที่ตลับ หรือฉลากสินค้า โดยปกติจะแสดงอายุการเก็บเป็นหน่วยเดือน ซึ่งแทนด้วยตัว M นั่นเอง
ดังนั้น หากแป้งพัฟ เคาน์เตอร์แบรนด์ มีอายุการเก็บ 24 เดือน ก็จะแทนด้วยตัวอักษร 24M โดยสัญลักษณ์เหล่านี้ จะถูกเรียกว่า Period After Opening หรือ PAO บ่งบอกถึงวันหมดอายุของผลิตภัณฑ์หลังการเปิดใช้
ทาแป้งแล้วเป็นคราบ เกิดจากอะไร?
ทาแป้งแล้วเป็นคราบ เกิดจากผิวชุ่มชื้นไม่เพียงพอ เพราะผิวแห้งและขาดน้ำ จะทำให้แป้งผสมรองพื้นเกิดการเป็นคราบได้
ควรใช้ครีมบำรุงให้เหมาะกับสภาพผิว ช่วยให้ผิวถูกเติมเต็ม ชุ่มชื้นขึ้น ทำให้แป้งตลับ เคาน์เตอร์แบรนด์ เกาะกับผิวหน้าได้ดี ไม่เป็นคราบ และยังมีปัจจัยอื่นอีก เช่น
– ไม่ผลัดเซลล์ผิว
เป็นเซลล์ผิวเก่า เมื่อเราไม่ได้ผลัดเซลล์เลย ทำให้มีมีสิ่งสกปรกอยู่บนผิว เวลาที่เราแต่งหน้าหรือลงแป้ง ทำให้ผิวหน้าไม่เนียน เป็นคราบ
เพราะฉะนั้น ควรใช้สกินแคร์ที่มี AHA BHA เพื่อผลัดเซลล์ผิวเก่าออก อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เวลาแต่งหน้าจะได้ไม่เกิดขุย เป็นคราบ แถมยังทำให้ผิวใสขึ้นอีกด้วย
– ใช้อุปกรณ์ลงแป้งที่ไม่มีคุณภาพ
อุปกรณ์ที่เราใช้ลงแป้งพัฟ เคาน์เตอร์แบรนด์ ก็ควรที่จะมีคุณภาพ และเหมาะกับสภาพผิว รวมถึงแป้งผสมรองพื้น เคาน์เตอร์แบรนด์ ตัวที่เราใช้
ดังนั้น ควรเลือกพัฟฟองน้ำที่แน่น มีสัมผัสนุ่ม จิกแป้งได้ดี และควรเปลี่ยนฟองน้ำเมื่อเริ่มเสื่อมสภาพ เพราะจะมีประสิทธิภาพที่ต่ำลงนั่นเอง
ทาแป้งพัฟ ไม่ทารองพื้นได้ไหม?
ทาแป้งพัฟ ไม่ต้องทารองพื้นก็ได้ เพราะแป้งผสมรองพื้น มีเม็ดสีช่วยปกปิดในตัวอยู่แล้ว อาจจะอยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งให้ลุคผิวที่ดูเป็นธรรมชาติ ดูไม่หนาจนเกินไป
แต่หากใครที่ต้องการการปกปิดแบบขั้นสุด หรือ Full Coverage ควรลงรองพื้นก่อน แล้วตามด้วยแป้งฝุ่น หรือแป้งอัดแข็งไม่ผสมรองพื้นก็พอ เพราะถ้าเราใช้แป้งพัฟผสมรองพื้นหลังจากลงรองพื้นแล้ว จะทำให้ผิวดูหนา ไม่ธรรมชาติ เป็นคราบง่าย
ทาแป้งพัฟหรือแป้งฝุ่นก่อน?
ควรใช้แป้งฝุ่นก่อนแป้งพัฟ เคาน์เตอร์แบรนด์เพื่อเป็นการซับความมันของครีมบำรุง ครีมกันแดด หรือเมคอัพเบสต่าง ๆ ก่อน โดยลงแป้งฝุ่นบาง ๆ ด้วยแปรงพุ่มกลม เพื่อให้แป้งไม่หนาจนเกินไป หลังจากนั้นจึงตามด้วยแป้งพัฟผสมรองพื้น โดยแนะนำให้ใช้กับพัฟฟองน้ำ กดลงบนผิวหน้า จะช่วยให้ได้ผิวเนียนสวย ดูเป็นธรรมชาติ
หรืออาจใช้แป้งฝุ่นที่มีชิมเมอร์ ปัดบริเวณที่ต้องการกระจายแสงหลังแป้งพัฟ เคาน์เตอร์แบรนด์อีกที ก็จะทำให้ผิวดูมีมิติมากขึ้น
คงจะได้สาระดี ๆ จากรีวิว แป้งพัฟ เคาน์เตอร์แบรนด์ ยี่ห้อไหนดี 2023 กันไปเต็มพิกัดแล้ว ทางเราคัดสรรแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ และเป็นที่รู้จักของคนในเหล่าวงการบิวตี้อย่างดี หวังว่ารีวิวแป้งพัฟอัดแข็งนี้จะเป็นข้อมูลดี ๆ และช่วยให้คุณตัดสินใจซื้อแป้งพัฟที่เหมาะสม และตอบโจทย์กับความต้องการได้
แป้งพัฟ เคาน์เตอร์แบรนด์ ถือว่ามีคุณภาพสูง คุ้มค่าคุ้มราคากับการลงทุน สำหรับอากาศร้อน ๆ ฝน ๆ แบบนี้ อาจจะหาตัวช่วยอย่าง setting spray ในการล็อกเมคอัพเพิ่มเติมก็เป็นตัวเลือกที่ดีเลย หน้าเราจะได้สวยเป๊ะตลอดวัน
หากใครสนใจ วิธีแต่งหน้าแบบธรรมชาติ สามารถอ่านบทความนี้เพิ่มเติมได้เลย