ผู้หญิงเราจะมีลิปสติกกี่แท่งก็ได้! สาว ๆ คนไหนแพ้ทางลิปสีสวย ๆ มาทางนี้เลยจ้า วันนี้มิสซี่มี ลิปสติกเคาน์เตอร์แบรนด์ แบบดีต่อใจมาแนะนำกันจุก ๆ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน!
ปัจจุบัน ลิปสติกแบรนด์ Hi-end สามารถเข้าถึงได้ไม่ยาก แถมยังคุณภาพชนะเลิศ ทาแล้วติดทนนาน ไม่ติดแมสก์ อย่างลิปสติก Chanel ลิปบาล์มมีสีอย่าง Dior Lip Glow ก็ปังมากค่ะสาว ใครกำลังมองหา ลิปเคาน์เตอร์แบรนด์ ยี่ห้อไหนดี ฉบับรีวิวจัดเต็ม รีบตามมิสซี่มาเลยค่ะ รับรองว่างานนี้มีเปย์แน่นอนน
TOP 3 ลิปเคาน์เตอร์แบรนด์ที่ดีที่สุด
#1 Dior Addict Lip Glow
ราคา 1,600 บาท
#2 MAC Powder Kiss Lipstick
ราคา 950 บาท
#3 CHANEL LE ROUGE DUO ULTRA TENUE
ราคา 1,800 บาท
จุดเด่นของลิปเคาน์เตอร์แบรนด์
จุดเด่นของ ลิปสติกเคาน์เตอร์แบรนด์ จะมีเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างโดดเด่น พิกเมนต์ที่สวยแน่น และมีมาตรฐานในการผลิต รองรับความปลอดภัยในการใช้งานของสาว ๆ นั่นเองค่ะ โดยหลัก ๆ แล้วเนื้อสัมผัสของ Lipstick High end จะมี..
- ลิปกลอส : จะมีความเปล่งประกาย สดใส แลดูเด็กลง เหมาะกับเฉดสีที่อ่อน ๆ ดูเป็นธรรมชาติ แต่ก็สามารถทาออกงานได้เช่นกัน
- ลิปสติกเนื้อครีม : เป็นเนื้อลิปที่เกลี่ยง่าย กลบสีปากได้ดี มักจะมีสารสกัดที่ช่วยบำรุงอยู่ด้วย จึงทำให้ไม่แห้งจนเกินไปค่ะ
- ลิปเนื้อเชียร์ : ตัวนี้จะมีน้ำมันเป็นส่วนผสมหลัก ทาแล้วให้ความมันวาว แต่ไม่จัดจ้าน ไม่ออกสีมาก เหมาะกับทาเป็น Everyday Look สบาย ๆ
- ลิปแมตต์ : เหมาะกับสาวที่ชอบความแน่น ติดทน พิกเมนต์สีชัด ใช้ได้ทั้งสีอ่อนและเข้ม กันน้ำ ไม่ติดแมส มั่นใจตลอดทั้งวันเลยค่า
- ลิปซาติน : จะเป็นลิปเนื้อกำมะหยี่นุ่ม ๆ สีสวยชัด ติดทนรองจากลิปแมตต์เล็กน้อย แต่ช่วยเติมเต็มร่องปากได้ดี เหมาะกับทุกเฉดสีเช่นกันค่ะ
- ลิปบาล์มมีสี และลิปมัน : เนื้อสัมผัสจะชุ่มชื้น มีส่วนผสมของขี้ผึ้งเป็นส่วนใหญ่ เน้นบำรุงปากเป็นหลัก แก้ไม่แห้ง ให้สีระเรื่อเป็นธรรมชาติ
- ลิปออยล์ : ลิปที่มีส่วนผสมของน้ำมันเป็นหลัก ให้ฟิล ปากฉ่ำ แก้ปากแห้ง ได้ดีมาก ๆ แถมยังมีบำรุง ช่วยให้ปากอวบอิ่มสุขภาพดี สามารถใช้เดี่ยว ๆ หรือใช้คู่กับลิปแมตต์ก็ได้นะคะ
จะเลือกซื้อ ลิปเคาน์เตอร์แบรนด์ ยี่ห้อไหนดี 2566
1. ลิปเคาน์เตอร์แบรนด์ โดยรวมที่ดีที่สุด : Dior Addict Lip Glow
ราคา 1,600 บาท
ข้อดี
+ ลิปบาล์มเปลี่ยนสีตามอุณหภูมิ
+ ไม่เหนียวเหนอะ
+ บำรุงปากชุ่มชื้นยาวนาน
ข้อควรพิจารณา
– ไม่ติดทนมาก ต้องทาซ้ำระหว่างวัน
– บางเฉดสี หายาก
ลิปเคาน์เตอร์แบรนด์ ยอดนิยม ที่สาว ๆ ทุกคนต้องอยากได้น้องมาใช้ นั่นก็คือ ลิป Dior Lip Glow นั่นเองค่า เขาเป็นแบรนด์ดังที่ทำตัวลิปบาล์มออกมาแล้วยอดขายถล่มทลายสุด ๆ เพราะตัว Package ที่น่ารักสดใส มาพร้อมกับเนื้อบาล์มบำรุง สีชมพูระเรื่อ ให้ฟิลเจ้าหญิงมากค่ะซิส เป็นลิปสติกดิออร์รุ่นดัง ที่สาว ๆ ควรหาพกติดตัวเอาไว้กันตายเลยนะคะ
ปริมาณ 3.2 g : ราคา 1,600 บาท (ตก g ละ 500 บาท)
ประเภท | ลิปบาล์ม |
ฟินิช | ฉ่ำวาว |
เฉดสี | มี 11 เฉดสี |
2. ลิปเคาน์เตอร์แบรนด์ ราคาไม่แพงที่ดีที่สุด : MAC Powder Kiss Lipstick
ราคา 950 บาท
ข้อดี
+ พิกเมนต์สวยชัด กลบสีปากมิด
+ เนื้อกึ่งแมตต์ เกลี่ยง่าย มีความฟุ้ง
+ ทาแล้วปากดูอวบอิ่ม
ข้อควรพิจารณา
– เน้นความทึบแสง ไม่เหมาะกับคนที่ชอบความฉ่ำวาว
ลิปสติก Mac ขึ้นแท่นเรื่องลิปสติกยอดนิยมมาอย่างยาวนาน ด้วยเฉดสีที่ผลิตออกมาหลากหลายมาก สาว ๆ สามารถใช้ได้ทุกโทนสีผิว เป็นเนื้อแมตต์แต่มีความฟุ้งและเบลอ ทาแล้วฟิลปากอวบอิ่ม เกลี่ยง่ายมากกก พร้อมทั้งบำรุงให้ปากไม่แห้ง ปากไม่ดำ มิสซี่บอกเลยว่า ลิปเคาน์เตอร์แบรนด์ Mac แท่งเดียวไม่เคยพอค่ะ!
ปริมาณ 3 g : ราคา 950 บาท (ตก g ละ 316.66 บาท)
ประเภท | ลิปสติก |
ฟินิช | กึ่งแมตต์ |
เฉดสี | มี 10 เฉด |
3. ลิปเคาน์เตอร์แบรนด์ ติดทนดีที่สุด : CHANEL LE ROUGE DUO ULTRA TENUE
ราคา 1,650 บาท
ข้อดี
+ มีสารสกัดช่วยบำรุงให้ปากไม่แห้ง
+ ลิปไม่ติดแมสก์
+ ติดทนนานถึง 8 ชม. โดยไม่จำเป็นต้องทาซ้ำ
ข้อควรพิจารณา
– หากทาหนามีหนึบปากบ้าง
– ควรบำรุงปากดี ๆ ก่อนทา ไม่อย่างนั้นอาจเป็นคราบได้
ลิปสติกยอดฮิต อีกแบรนด์ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย ต้องยกให้ ลิปสติก Chanel สูตรนี้เลยค่ะ เขาเป็นลิปสติก 2 ด้าน ฝั่งเนื้อน้ำทาแล้วได้เนื้อแมท สีสวยชัดมากกก อีกด้านเป็นลิปกลอสสำหรับทาทับเพื่อความติดทนแบบทวีคูณ ได้ลุคปากฉ่ำ ปากไม่แห้ง ไม่เป็นขุยเลย
เนื่องจากเขามีส่วนผสมของ ออยล์ และ ขี้ผึ้ง ช่วยบำรุงปากให้ชุ่มชื้น และยังติดทนยาวนาน เซตตัวแล้วลิปไม่ติดแมสก์เลยค่ะ พกลิปเคาน์เตอร์แบรนด์ Chanel Duo แท่งเดียวเอาอยู่ทุกงานแน่นอนค่ะสาว!
ปริมาณ 8 ml : ราคา 1,650 บาท (ตก ml ละ 206.2 บาท)
ประเภท | ลิปสติก |
ฟินิช | แมตต์ และ กลอส |
เฉดสี | มี 14 เฉด |
4. ลิปเคาน์เตอร์แบรนด์ ปากฉ่ำที่ดีที่สุด : YSL Rouge Volupte Shine Oil-in-stick Lipstick
ราคา 1,500 บาท
ข้อดี
+ เฉดสีครอบคลุมทุกโทนสีผิว
+ เนื้อชายน์ ทาแล้วปากฉ่ำ ดูมีมิติ
+ มีสารสกัดจากออยล์ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น
ข้อควรพิจารณา
– บางเฉดสีหาซื้อยาก
– ติดแมสก์ค่อนข้างง่าย
ลิปสติกแบรนด์ Hi-end ที่มีเฉดสีเยอะจนเลือกไม่ถูกเพราะสวยทุกสี! มิสซี่ขอยกให้ ลิปสติก Ysl เลยค่า รุ่นนี้จะเป็น ลิปสติก เนื้อชายน์ มีความวิบวับ ฉ่ำวาว ทาแล้วปากไม่แห้ง เพราะมีน้ำมันช่วยบำรุงอย่างล้ำลึก เฉดสีเข้ากับทุกโทนสีผิว แถมยังให้ความรู้สึกเบาสบาย ไม่หนักริมฝีปากเลยค่ะ ใครที่มองหา ลิปสติกที่นิยม ฟินิชลุคฉ่ำวาว แนะนำลิปเคาน์เตอร์แบรนด์ Ysl เลยนะคะ
ปริมาณ 3.2 g : ราคา 1,500 บาท (ตก g ละ 468.75 บาท)
ประเภท | ลิปชายน์ |
ฟินิช | ฉ่ำวาว |
เฉดสี | มี 26 เฉด |
5. ลิปเคาน์เตอร์แบรนด์ กึ่งแมตต์ที่ดีที่สุด : Bobbi Brown Luxe Lip Color
ราคา 1,490 บาท
ข้อดี
+ มีให้เลือกทั้งเนื้อแมท และเนื้อชายน์
+ เติมเต็มร่องปากได้เนียนกริบ
+ มีให้เลือกหลายเฉดสี
ข้อควรพิจารณา
– เน้นสีโทนเข้มมากกว่าโทนสีสว่าง
เสกปากอวบอิ่มน่าจูจุ๊บ ด้วย ลิป Bobbi Brown แบรนด์ดังตัวนี้กันค่ะทุกคน รุ่นนี้มีเป็นลิปสติดที่มีความชายน์เบา ๆ ให้ฟิลอิ่มฟู มีวิตามินซีและวิตามินอี ช่วยบำรุงให้ปากไม่ดำ และที่สำคัญคือสีเยอะมาก ๆ โดยเฉพาะสีโทนเข้ม บ่มแดดนิด ๆ ใครสายนี้ต้องกรี๊ดแน่นอนค่ะ ถ้าชอบลิปเคาน์เตอร์แบรนด์ แบบเรียบหรูดูโกลว์ แนะนำลิปสติก Bobbi Brown เลยนะคะ
ปริมาณ 3.8 g : ราคา 1,490 บาท (ตก g ละ 392.10 บาท)
ประเภท | ลิปสติก |
ฟินิช | กึ่งแมตต์ |
เฉดสี | มี 25 เฉด |
6. ลิปไม่ติดแมส เคาน์เตอร์แบรนด์ที่ดีที่สุด : Huda Beauty Liquid Matte Ultra-Comfort Transfer-Proof Lipstick
ราคา 900 บาท
ข้อดี
+ ติดทน กันน้ำ กันเหงื่อ
+ มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เหมาะกับ Vegan
+ โทนสีครอบคลุม
ข้อควรพิจารณา
– เนื้อค่อนข้างเข้ม ไม่ค่อยมีสีโทนอ่อน
ลิปเคาน์เตอร์แบรนด์ ราคาไม่แพง แถมยังมีเฉดสีให้เลือกแบบจุก ๆ ขอแนะนำ ลิปสติก Huda เลยค่ะสาว ๆ เขาเป็นลิปจิ้มจุ่ม เนื้อแมท ติดทน มากแบบเต็มสิบไม่มีหัก! กันน้ำได้ใจ ที่สำคัญ ลิปไม่ติดแมสก์ ด้วยนะเอ๊อ เหมาะกับสาวมั่น สาวแซ่บ ที่ไม่ชอบเติมลิประหว่างวัน เพราะพิกเมนต์เขาสวยชัด กลบสีปากเนียนกริบ รับรองว่าใช้แล้วจะหลงรักค่า
ปริมาณ 4.2 ml : ราคา 900 บาท (ตก ml ละ 214.28 บาท)
ประเภท | ลิปสติก |
ฟินิช | แมตต์ |
เฉดสี | มี 16 เฉด |
7. ลิปเคาน์เตอร์แบรนด์ เนื้อแมทที่ดีที่สุด : Tom Ford Beauty Lip Color Matte Lipstick
ราคา 2,200 บาท
ข้อดี
+ เนื้อสัมผัสลิปนุ่ม ดุจกำมะหยี่
+ เม็ดสีชัด กลบสีปากสนิท
+ มีสารสกัดจากธรรมชาติ ช่วยบำรุงปาก
ข้อควรพิจารณา
– เฉดสีค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น
– ติดทนกลาง ๆ อาจต้องเติมระหว่างวัน
เสกลุคสวยหรูภายในไม่กี่วิ ด้วยลิปทอมฟอร์ด ลิปสติกที่นิยมใช้กันทั่วโลก ด้วยเนื้อแมทกึ่งซาติน ให้สัมผัสที่นุ่มนวล ปาดลื่นไม่มีสะดุด ทั้งยังเม็ดสีสวยชัด เปลี่ยนสีริมฝีปากได้อย่างง่ายดายเลยค่ะ
แถม Lipstick High End รุ่นนี้เขายังมีสารสกัดจากน้ำมันที่มาจากดอกคาโมมายล์ ช่วยบำรุงปาก ทำให้ปากไม่แห้ง ดูสวยหรูทุกครั้งที่หยิบน้องขึ้นมาใช้เลยค่า เป็นลิปเคาน์เตอร์แบรนด์ที่มิสซี่นั่งยันนอนยันเลยว่าเนื้อดี สีสวยสุด ๆ ตำแล้วหลงรักแน่นอนค่า
ปริมาณ 3 g : ราคา 2,200 บาท (ตก g ละ 733.33 บาท)
ประเภท | ลิปสติก |
ฟินิช | กึ่งแมตต์ |
เฉดสี | มี 9 เฉด |
8. ลิปเคาน์เตอร์แบรนด์ เนื้อบางเบาที่สุด : Lancome Labsolu Rouge Drama Ink Semi Matte Lipstick
ราคา 1,650 บาท
ข้อดี
+ เม็ดสีชัดกว่าลิปปกติ 2 เท่า แต่ไม่หนักปาก
+ เนื้อกึ่งแมตต์ เบลนด์ง่าย ไม่เป็นคราบ
+ เฉดสีเหมาะกับทุกโทนสีผิว
ข้อควรพิจารณา
– ไม่ติดทนเท่าแมตต์ปกติ
ลิปเคาน์เตอร์แบรนด์ Lancome รุ่นนี้ให้ลุค Business Girl มากค่ะสาว! เขามาพร้อมเฉดสีที่มากถึง 13 เฉดสี ให้พิกเมนต์ชัดกว่าปกติถึง 2 เท่า แต่เมื่อทาแล้วกลับรู้สึกเบาสบายปากมากกว่าเดิม 4 เท่า มันดีงามมากจ้า ใครชอบลิปสติก กึ่งแมตต์ ไม่แห้งไป และไม่ฉ่ำจนเกินไป ทาแล้วปากไม่แห้ง มิสซี่บอกเลยว่า ลิป Lancome เอาอยู่มากค่า
ปริมาณ 3.4 ml : ราคา 1,650 บาท (ตก ml ละ 485.29 บาท)
ประเภท | ลิปสติก |
ฟินิช | กึ่งแมตต์ |
เฉดสี | มี 13 เฉด |
9. ลิปมันเคาน์เตอร์แบรนด์ที่ดีที่สุด : La Mer The Lip Balm
ราคา 3,700 บาท
ข้อดี
+ ช่วยลดเลือนริ้วรอยบนริมฝีปาก
+ ทาแล้วปากเปล่งประกาย สุขภาพดี
+ ช่วยผลัดเซลล์ผิว ปากอมชมพูเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง
ข้อควรพิจารณา
– ไม่มีสี
– ลิปกระปุก ควรดูแลความสะอาดก่อน-หลังใช้ ให้ดี
ลิปมันลาแมร์ เป็นลิปเคาน์เตอร์แบรนด์ที่เลอค่ามากค่ะสาว ๆ ตัวนี้โด่งดังในหมู่สาว ๆ เลย เพราะด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์สุดเข้มข้น ช่วยบำรุงริมฝีปากให้ชุ่มชื้น แต่ไม่แวววาว สามารถใช้เป็นเบสก่อนลงลิปสติกอื่น ๆ ต่อได้เลยแบบไม่เป็นขุย ปากไม่แห้ง และ ปากไม่ดำแน่นอน! ใครที่ปากมีร่องหรือริ้วรอย มิสซี่บอกเลยว่าลิปมัน La Mer กระปุกเดียวเอาอยู่ค่า
ปริมาณ 9 g : ราคา 3,700 บาท (ตก g ละ 411.11 บาท)
ประเภท | ลิปมัน |
ฟินิช | ชุ่มชื้น |
เฉดสี | ไม่มีสี |
10. ลิปเคาน์เตอร์แบรนด์ ราคาถูกที่ดีที่สุด : JUNGSAEMMOOL Lip-pression See-through Tint
ราคา 950 บาท
ข้อดี
+ เซตตัวแล้วไม่ติดแมสก์
+ ไม่เหนียว สบายปากมาก ๆ
+ ปากไม่ซีด มีสีลิปติดจาง ๆ หลังลิปหลุด
ข้อควรพิจารณา
– กลบสีปากไม่มิด 100%
ลิปทินท์ที่ดีที่สุด นาทีนี้ต้อง ลิป JUNGSAEMMOOL แบรนด์ดังจากเกาหลีมาแรงแซงทุกโค้ง เพราะเป็นลิปเคาน์เตอร์แบรนด์ ราคาถูกที่เสกสีปากธรรมชาติ ดูสุขภาพดีแบบโนฟิลเตอร์ได้ในพริบตา! รุ่นนี้เป็น Lip Tint ผสมมอยเจอร์ไรเซอร์ ทำหน้าที่บำรุงริมฝีปากให้นุ่ม อิ่มฟู และเติมเต็มร่องปากดีงาม
ที่สำคัญ ลิปสติกไม่ติดแมสก์เลยจ้าสาว ๆ หลังทานอาหารก็มีลิปสเตนติดปากระเรื่อ ๆ ไม่มีปากซีดระหว่างวันแน่นอน! ใครหาลิปเกาหลี จิ้มจุ่ม เบาสบาย ทาง่าย ไม่ติดแมสก์ มิสซี่แนะนำเลยค่า
ปริมาณ 5.7 ml : ราคา 950 บาท (ตก ml ละ 166.6 บาท)
ประเภท | ลิปทินท์ |
ฟินิช | แมตต์ |
เฉดสี | มี 6 เฉด |
วิธีเลือกซื้อ “ลิปเคาน์เตอร์แบรนด์”
เลือกลิปเคาน์เตอร์แบรนด์จากเฉดสี
การเลือกเฉดสีของลิปสติก เพื่อน ๆ ควรเลือกที่เข้ากับสีผิวและอันเดอร์โทนของเราจะดีที่สุดค่ะ ซึ่งปัจจุบัน ลิปสติกแบรนด์ดัง ก็มีเฉดสีอกมาให้เลือกช้อปกันเยอะมาก
โดยมิสซี่แนะนำว่า หากเพื่อน ๆ ผิวอันเดอร์โทนอุ่น เน้นลิปสติกสีส้มแทรกเข้ามา เช่น Coral จะช่วยให้หน้าสว่างขึ้น หากมีผิวอันเดอร์โทนเย็น ให้เลือกลิปสติกสีชมพูเป็นสีหลัก และมีติ่งสีโทนเย็นอย่างเม็ดสีน้ำเงินแทรกเข้ามาเล็กน้อย จะช่วยให้ปากไม่ลอยและเข้ากับผิวโทนนี้ที่สุดค่ะ
เลือกลิปเคาน์เตอร์แบรนด์จากเนื้อสัมผัส
เนื้อสัมผัสของลิปสติกเคาน์เตอร์แบรนด์ แต่ละแบบมักขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์และลุคในแต่ละวันที่เพื่อน ๆ ต้องการเลยค่ะ ยกตัวอย่างเช่น วันไหนอยากดูเป็นสาวหวาน อ่อนวัย ให้เลือกใช้ลิปกลอส หรือ ลิปเชียร์ บาง ๆ ในขณะที่วันไหนต้องการความมั่นใจ เป็นผู้ใหญ่ ออกงาน ก็สามารถเลือกเป็นลิปแมตต์ หรือ ลิปซาติน เพื่อให้ได้ลุคเป็น Boss girl ขึ้นมาแบบแซ่บ ๆ ไปเลยจ้า
คำถามที่พบบ่อย
สีลิปสติกมาแรง มีอะไรบ้าง?
สีลิปสติกมาแรง และยังคงความคลาสสิคอยู่เสมอ คงหนีไม่พ้นโทนสีโทนธรรมชาติ อย่าง สีโทนพีช / ลิปสีนู้ด / ชมพูกุหลาบ / หรือ โทนแดงก่ำ นั่นเองค่ะ เพราะจะเป็นสีกลาง ๆ แต่สามารถใช้ได้ทุกวัน และใช้ได้แทบจะทุกสถานการณ์
มิสซี่ขอยกตัวอย่าง ลิปสติก JUNGSAEMMOOL เป็นลิปเคาน์เตอร์แบรนด์ ราคาไม่แพง แถมยังมีเฉดสีที่เหมาะกับสาวผิวเอเชียอย่างเรา ๆ โดยแต่ละเฉดสีก็ยังมีโทนเข้ม-อ่อน ให้สาว ๆ ได้เลือกเล่นกันสนุก ๆ ไม่มีเบื่อแน่นอนค่า
สีลิปที่เข้ากับสีผิว เลือกยังไง?
• สีลิปที่เหมาะกับคนผิวขาวเหลือง : มิสซี่แนะนำเป็นโทนร้อนออกส้มนิด ๆ อย่างเช่น สีชมพูอมส้ม / สีอิฐ / สีส้มอมแดง เนื่องจากโทนสีนี้จะช่วยให้ผิวของสาว ๆ ดูเปล่งปลั่งและมีชีวิตชีวาขึ้นนั่นเองค่ะ
• สีลิปสติกที่เหมาะกับคนผิวสองสี : สำหรับสาว ๆ ผิวสองสี ควรเลือกลิปสติก โทนส้มนู้ด / แดงอมน้ำตาล / หรือสีแดงก่ำ เพื่อใส่ความนัวร์ลงไปในผิว ให้ดูมีเสน่ห์ น่ามอง ขึ้นกล้องแน่นอนค่า
• สีลิปสติกที่เหมาะกับคนผิวแทน : เนื่องจากคนผิวแทนจะมีเม็ดสีที่ค่อนข้างเข้ม จึงเหมาะที่จะเลือกลิปสติกสีเข้มอย่าง สีน้ำตาล / สีแดงเลือดหมู หรือ จะเปลี่ยนลุคไปทางโทนสีนู้ด เพื่อให้ดูสวยแบบเป็นธรรมชาติ ก็แซ่บไปอีกแบบน้า
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับ ลิปเคาน์เตอร์แบรนด์ ยี่ห้อไหนดี ที่มาพร้อมรีวิวจัดเต็ม มีลิปสติกตัวไหนที่โดนใจสาว ๆ กันบ้างไหมเอ่ย มิสซี่เชื่อว่า ไม่ว่าสาว ๆ จะมีสีผิวโทนอะไร ก็สามารถทาลิปให้สวยในแบบของตัวเองได้เสมอนะคะ แต่อย่าลืมเลือกเฉดสีที่เหมาะกับผิวและเนื้อสัมผัสที่เข้ากับไลฟสไตล์เราด้วยน้า รับรองว่าจะได้ลิปคู่ใจ พกติดตัวไปได้ยาว ๆ เลยค่า
ที่มาข้อมูล