แนะนำ 14 แบรนด์เครื่องสําอางเกาหลี Hi End 2023 [ยอดนิยม!] 

เมื่อพูดถึงเรื่องความสวย ความงาม สาว ๆ หลายคนก็คงนึกถึงประเทศเกาหลีใต้เป็นอันดับต้น ๆ  เพราะเกาหลีใต้เรียกได้ว่าเป็นขุมทรัพย์ในด้านนี้อยู่แล้ว ทั้งหัตถการระดับเทพ และความโด่งดังของผลิตภัณฑ์ด้านความงามหลาย ๆ อย่าง 

ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอางเกาหลี อย่างเช่น ลิป คุชชั่น รองพื้น รวมไปถึงสกินแคร์ยอดนิยม อย่างมาร์คหน้า สลีปปิ้งมาร์ค หรือกันแดด ตัวไหนฮิต ตัวไหนติดกระแส เราก็ไม่พลาดที่จะซื้อมาลอง เพราะของมันต้องมี!

วันนี้เราจะพาไปอัพเดตกันว่าในปี 2023 นี้ มีแบรนด์เครื่องสําอางเกาหลี Hi End แบรนด์ไหนดี รีวิวปัง ยี่ห้อไหนกำลังเป็นที่นิยมที่สุดบ้างในตอนนี้

1. Laneige

แบรนด์เครื่องสําอางเกาหลี Hi End Laneige

เริ่มกันที่ Laneige แบรนด์ดังชั้นนำจากประเทศเกาหลีใต้ ก่อตั้งมายาวนานตั้งแต่ปี 1994 เป็นแบรนด์ลูกของ Amore Pacific มีไลน์เครื่องสำอางและสกินแคร์ให้เลือกซื้อมากมาย ไม่ว่าจะเป็น คลีนเซอร์ โทนเนอร์ มอยเจอร์ไรเซอร์ เซรั่ม และมาสก์

หนึ่งในสกินแคร์ลาเนจที่ได้รับความนิยมตลอดกาล คือ สลีปปิ้งมาร์คตัวดัง ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวตลอดคืน และ Lip Mask ที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็ยังคงฮิตไม่ตกแทรนด์

ในส่วนของเครื่องสำอางก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน คุชชั่นเกาหลี Laneige NEO Cushion Matte สำหรับผิวมัน และ Glow สำหรับผิวแห้งที่ใครๆ ใช้แล้วก็ติดใจ

อีกทั้งแป้งฝุ่นเบลอผิวก็มาแรงแซงโค้งสุดๆ เรียกได้ว่าเป็นเครื่องสำอางเกาหลีแบรนด์ดัง ที่ได้รับความนิยมทั้งในและนอกประเทศแบบไม่มีแผ่ว แถมราคาสบายกระเป๋าอีกต่างหาก

2. Sulwhasoo

แบรนด์เครื่องสําอางเกาหลี Hi End Sulwhasoo

พูดถึงเคาน์เตอร์แบรนด์เกาหลี ตัวดัง No.1 ขึ้นแท่นแบรนด์ยอดนิยมที่ได้รับความไว้วางใจจากสาว ๆ แทบทุกวัยในการเลือกมาเป็นตัวช่วยดูแลความงามของผิวก็ต้อง Sulwhasoo 

โซลวาซู เป็นแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลผิวแบบองค์รวม ในทุกผลิตภัณฑ์ถูกออกแบบมาแล้วอย่างดี ดูแลตั้งแต่ต้นตอของปัญหาผิวภายใน จุดเด่นในทุกผลิตภัณฑ์คือสารสกัดทรงคุณค่าจากโสมเกาหลี ควบคู่กับการวิจัยและพัฒนาขั้นสูงเพื่อมอบความงามระดับ Premium ให้แก่ผิวของเรา

เครื่องสำอางตัวดัง คือ Sulwhasoo Perfecting Foundation เนื้อบางเบาแต่ปกปิด ที่ได้ชื่อว่าเป็น “เมคอัพบำรุงผิว” อย่างแท้จริง และแป้งฝุ่นคุมมันสุดบางเบา ที่คงความชุ่มชื้นไม่ทำให้หน้าแห้งจนเกินไป

อีกทั้งยังมีเซรั่ม First Care ขายดีอันดับหนึ่ง ให้ความชุ่มชื้น และ Anti-aging เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์เลย ราคาแรงใช้ได้ แต่คุ้มค่ากับการลงทุนดูแลผิวมาก ๆ เลย

3. Jung Saem Mool

แบรนด์เครื่องสําอางเกาหลี Hi End Jung Saem Mool

นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักแบรนด์เครื่องสําอางเกาหลี Hi End อย่าง Jung Saem Mool โดยเฉพาะสาวก K-Beauty ที่ชื่นชอบการใช้คุชชั่นในการแต่งหน้างานผิว น่าจะคุ้นเคยกับแบรนด์นี้ดี

ความพิเศษคือผู้ก่อตั้งแบรนด์ ซึ่งก็คือคุณ Jung Saem Mool เป็น Make-up Artist ระดับ Iconic ของเกาหลี ไม่มีใครไม่รู้จัก ก่อตั้งแบรนด์นี้ขึ้นมาเพื่อให้สาว ๆ ได้เผยผิวที่ดูเป็นธรรมชาติ ทันสมัย และได้ลุคสวยแบบ Professional 

ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมสูงมาตลอด คือ คุชชั่น Skin Nuder Cover Layer ปกปิดสูงสุด คุมมันเลิศ แต่ยังให้งานผิวที่บางเบา ส่วนใครสาย Glass Skin ต้อง คุชชั่น Masterclass Radiant ใช้แล้วหน้าฉ่ำมง ปกปิดดี ติดทนนาน ไม่ดรอปด้วย

แถมเตรียมงานผิวอย่าง Mool Cream หรือ มาสคาร่ากันน้ำ กันเหงื่อ เสกขนตางอนเด้ง และแป้งผสมรองพื้นของแบรนด์นี้ ก็ติดท็อป Favorite ของเหล่าบิวตี้บล็อกเกอร์ดังๆ กันไม่หยุด ได้ลองแล้วหลงรักแน่นอน

4. The History of Whoo

แบรนด์เครื่องสําอางเกาหลี Hi End The History of Whoo

แค่ชื่อแบรนด์ก็ได้กลิ่นความเป็นผู้ดียุคโชซอน The History of Whoo เป็นเครื่องสำอางเกาหลี ระดับ Hi End ดูแพงตั้งแต่บรรจุภัณฑ์ไปจนถึงนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ผสมผสานความงามร่วมสมัยไว้ในผลิตภัณฑ์ทุกตัวของแบรนด์ ราคาก็แรงเช่นกัน แต่เพื่อความสวยเราจ่ายได้!

แบรนด์นี้เขามีการผสมผสานส่วนผสมโบราณอันทรงคุณค่าของเกาหลี ไม่ว่าจะเป็น โสม สนแดง และพวกสมุนไพรหายาก เข้ากับเทคโนโลยีการดูแลผิวที่ทันสมัย มีผลิตภัณฑ์ที่สาว ๆ นิยมใช้หลายตัว 

ลิปสติกเกาหลี เนื้อบาล์ม Gongjinhyang : Mi Glow มาพร้อมกับ SPF10 คืนความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก สกินแคร์เกาหลีที่สาว ๆ ชอบใช้กันก็แบรนด์นี้เลย ตัวดัง ๆ คือ เซรั่ม Bichup Self-Generating Concentrate ที่ช่วยลดริ้วรอย ให้ผิวดูเปล่งปลั่ง เลือดไหลเวียนดีขึ้น ใครสายสมุนไพรต้องแบรนด์นี้เท่านั้น

5. Hera

แบรนด์เครื่องสําอางเกาหลี Hi End Hera

อีกหนึ่งแบรนด์เครื่องสำอางที่อยู่คู่เกาหลีมานาน คือ Hera ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1995 มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ นวัตกรรม และเทคโนโลยีอยู่เสมอ เพื่อตอบสนอง Trend ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปทุกสมัย มีทั้งเครื่องสำอาง น้ำหอม และสกินแคร์ให้เลือกซื้อหลายตัว

แต่ที่หลายรีวิวบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าพลาดไม่ได้เลย นั่นก็คือ คุชชั่นตลับดำ ที่ให้ฟินิชกึ่งแมตต์ คุมมัน และติดทนมาก! เป็นตัวฮิตติดกระแส ที่ไม่ว่าใครก็ต้องเคยอยากจับจองแน่นอน เป็นรุ่นที่ยังคงถูกแนะนำอยู่เรื่อย ๆ และยังมีขายอยู่

หรือจะเป็นลิปสติก Hera รุ่น Sensual Powder Matte Liquid ที่หลายคนเรียกกันว่าลิปสติกเจนนี่ Blackpink ก็เฉดสีปัง ตุ่นๆ ละมุนใจ น่าตำไม่แพ้กันเลย

6. IOPE

แบรนด์เครื่องสําอางเกาหลี Hi End IOPE

IOPE แบรนด์ดังตัวท็อปอีกหนึ่งตัวของเกาหลี ในเครือของ Amore Pacific เช่นเดียวกับลาเนจ หลายคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นชื่อ แต่ถือเป็นอีกแบรนด์ที่ได้รับความนิยมสูง เป็น luxury skincare แบรนด์เกาหลีที่คนรักการดูแลผิวทั่วโลกนิยมใช้เลยน้า

แบรนด์ไอโอเป้จะเน้นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยดูแลผิวเฉพาะบุคคล ให้ความชุ่มชื้น ลดการเกิดริ้วรอย ล็อกผิวหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ สกินแคร์ตัวดังของเขา คือ IOPE Bio Essence Intensive Conditioning ช่วยให้ความชุ่มชื้น และความกระจ่างใสให้กับผิวหน้า

IOPE Air Cushion คุชชั่นไม่ติดแมสก์ของเขาก็ปังไม่แพ้กัน เรียกได้ว่าเป็นคุชชั่นผิวธรรมชาติ บางเบา ไม่มัน ไม่เยิ้ม ที่สาว ๆ หลายคนตามหา

7. Amore Pacific

แบรนด์เครื่องสําอางเกาหลี Hi End Amore Pacific

พาไปทำความรู้จักกับตัวลูกมาแล้ว 2 แบรนด์ภายในเครือ ตอนนี้มารู้จักกับ Amore Pacific บริษัทแม่ ตัวมารดา หนึ่งในบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมความงามของเกาหลี มีภาพลักษณ์ที่ให้ความรู้สึกหรูหรา การันตีคุณภาพด้วยชั่วโมงบินในวงการความงามของเกาหลีมานานกว่า 78 ปี!

อยู่มายาวนานและได้รับการยอมรับในระดับสากล ผลิตภัณฑ์ของเขาเน้นแต่คุณภาพระดับสูง สกินแคร์ตัวดังที่ไม่ซื้อไม่ได้แล้ว คือ น้ำตบชาเขียวตัวดัง ที่ครองใจผู้รักการดูแลผิวมายาวนาน แถมยังมี lip mask ตัวใหม่ที่ร่วมคอลแลปกับ BTS ช่วยมอบความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก

เครื่องสำอางและสกินแคร์ของแบรนด์ ล้วนออกแบบมาเพื่อความงามที่ไร้ที่ติ แถมยังเป็นแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับเรื่อง Sustainability อีกด้วย สาว ๆ รักษ์โลกต้องมาทางนี้

8. Su:m 37

แบรนด์เครื่องสําอางเกาหลี Hi End Su:m 37

แบรนด์เครื่องสําอางเกาหลี Hi End อีกตัวที่หลายคนก็คงไม่ค่อยคุ้นหู แต่เป็นบริษัทความงามระดับหรูชั้นนำของเกาหลี เจ้าของคือกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง LG พอได้เห็นชื่อนี้คงจะพอคุ้นขึ้นมาบ้าง

Su:m 37 เน้นการผลิตเครื่องสำอางด้วยการหมักตามธรรมชาติ เช่นเดียวกับชื่อแบรนด์ ส่วนผสมที่ผ่านการหมักมีข้อดี คือ สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้เร็วและง่ายขึ้น เพราะเขามีโมเลกุลขนาดเล็กมาก

จุดเด่นของแบรนด์ คือ การใช้สารสกัดจากพืชหมักหลายชนิด ไม่มีน้ำหอม และสารสังเคราะห์ คุชชั่นเกาหลีตัวดังจากแบรนด์นี้ ก็มีสารสกัดจาก Fermented Lotus  ช่วยให้ความชุ่มชื้น และติดทนบนผิวยาวนานหลายชั่วโมง

9. Huxley 

แบรนด์เครื่องสําอางเกาหลี Hi End Huxley 

แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว มีทั้งสกินแคร์และเครื่องสำอางเกาหลีที่คุมธีม มาในรูปแบบ Minimal สีเอิร์ธโทน ขาว ครีม สบายตา เรียบหรู หยิบจับตรงไหนก็ดูเก๋ไปหมด เป็นจุดเด่นที่ทำให้แบรนด์ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ทั้งโซนยุโรปและเอเชียหลายประเทศ หนึ่งในนั้นคือประเทศไทย

มีส่วนผสมระดับ Premium อย่าง Prickly Pear Seed Oil สกัดเย็นที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ฟื้นฟูเซลล์ผิว ให้ความชุ่มชื้นสูง เป็นเหมือนหัวใจในทุกผลิตภัณฑ์ของ Huxley ผสมอยู่ทั้งในเซรั่ม สลีปปิ้งมาร์ค ตัวดัง รีวิวแน่น เล่นเอาทวิตเตอร์แตกไปพักนึง 

ใครสายน้ำตบก็ต้อง Oil Essence ที่ช่วยบำรุงผิวหน้า ทำให้ผิวดูอิ่มฟู  และยังมีผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอื่น ๆ ของแบรนด์ ที่น่าซื้อมาลองใช้ค่ะ

10. Dear Dahlia

แบรนด์เครื่องสําอางเกาหลี Hi End Dear Dahlia

แบรนด์นี้ภูมิใจนำเสนอมากๆ Dear Dahlia เป็นแบรนด์เครื่องสำอางเกาหลี “วีแกน” ระดับ Hi End ของเกาหลี เป็นวีแกน 100% และไม่มีการทดลองกับสัตว์ หรือใช้ส่วนผสมที่มาจากสัตว์เลย อยากสวยแบบมีจรรยาบรรณต้องตำด่วน

เครื่องสำอางที่อยากแนะนำให้ตำมาใช้ มีหลายตัวมาก รองพื้นเกาหลีเนื้อบางเบา รุ่น Skin Paradise Sheer Silk มีถึง 11 เฉดสีให้เลือก เป็นข้อดีที่อยากอวยยศแบรนด์มาก สาวไทยแบบเราไม่ต้องห่วงเรื่องวอก ลอย อีกต่อไป

ส่วนสาวกลิปเกาหลีจะพลาดไม่ได้เลย กับ ลิปจิ้มจุ่มตัวดัง สีละมุนตุ้นละมุนใจ เกาหลีสุด ส่วนใครชอบลิปบาล์มเขาก็มีให้ ปากแลดูสุขภาพดีได้แบบไม่ต้องจ่ายแพงเลย

11. Dr. Jart+ 

แบรนด์เครื่องสําอางเกาหลี Hi End Dr. Jart+ 

สิ่งที่สาวเกาหลีทำกันเป็นกิจวัตรก็คือการมาสก์หน้า บำรุงผิวให้ดูดีขึ้นจากภายใน ซึ่ง Dr. Jart+ เป็นเวชสำอางแบรนด์ดัง ส่งตรงจากเกาหลี โดดเด่นในเรื่องการคัดสรรส่วนผสมจากธรรมชาติ ซ่อมแซมผิวจากชั้นในสุด เผยผิวที่ดูกระจ่างใส สุขภาพดี ไม่แพ้เครื่องสำอางเกาหลี Hi End ตัวอื่น ๆ

ไลน์สกินแคร์ยอดนิยมของแบรนด์ คือ Cicapair Calming เป็นเซตผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่องสิวโดยเฉพาะ ส่วนมาสก์หน้าตัวดังของเขาก็มีหลายสูตร มาร์คหน้าเกาหลี เพิ่มความกระจ่างใส บำรุงล้ำลึก เรียกได้ว่ามีหมด ครบทุกสูตรที่สาว ๆ ตามหา 

12. Glow Recipe

แบรนด์เครื่องสําอางเกาหลี Hi End Glow Recipe

แบรนด์เครื่องสําอางเกาหลี Hi End อีกตัวที่ผ่านการฟันฝ่ามาอย่างหนัก เพื่อก้าวขึ้นมาเป็นแบรนด์สกินแคร์เกาหลีที่ครองใจใครหลายคน แบรนด์ได้รับความนิยมมาจาก Collection ชื่อดัง อย่าง Watermelon Glow ได้ส่วนผสมหลักมาจากแตงโม ถือว่าโดดเด่น และมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร

ผลิตภัณฑ์ตัวดังของเขามีลูกเล่น มีความเก๋ เซรั่มแตงโมสุด Glow ที่สามารถเป็นได้ทั้งสกินแคร์และเครื่องสำอางได้ในชิ้นเดียว อัดแน่นด้วยสารบำรุงหลายตัวที่ดีต่อผิว ดีต่อใจ

ใครไม่ชอบแตงโมก็ยังมี Strawberry ไอเทมใหม่ เซรั่มผลัดผิวเนียนนุ่ม มีทั้ง BHA และ AHA แถมกลิ่นหอม น่าลองสุด ๆ

13. The Face Shop 

The Face Shop แบรนด์เครื่องสําอางเกาหลี Hi End

ถ้าพูดถึงแบรนด์เครื่องสําอางเกาหลี Hi End รองจาก Sulwhasoo หลายคนคงคุ้นเคยกับ The Face Shop เป็นอย่างดี การันตีคุณภาพด้วยสาขาที่อยู่ทั่วทุกมุมโลก ครอบคลุมถึง 29 ประเทศ กับอีก 2,000 กว่าสาขาทั่วโลก

The Face Shop เน้นการคัดสรรแต่ส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ ซึ่งมีมากถึง 600 ชนิดทั่วโลก พร้อมสารสกัดจากธรรมชาติอีกต่าง ๆ มากมาย เป็นอีกแบรนด์ที่มั่นใจได้เลยว่าอ่อนโยนต่อผิว 100% 

ผลิตภัณฑ์ของเขาก็มีตั้งแต่ สกินแคร์ เครื่องสำอาง ครีมกันแดด ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกาย และ Hair Care อีกหลายตัว แต่ตัวที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน คือ ไลน์ Yehwadam รวมสมุนไพรเกาหลีเลอค่าหลายชนิดในขวดเดียว และเมคอัพเบสเขียว ก็ขึ้นชื่อเรื่องคุมมันดีมาก อีกทั้งดินสอเขียนคิ้วก็ถูกและดี

ในปี 2023 ก็มีไลน์เครื่องสำอาง FMGT ที่ขนขบวนมาทั้งลิปทินท์เนื้อแมตต์ เบาสบาย / คุชชั่นไม่ติดแมสก์สูตร touch-proof และรองพื้นที่บอกได้เลยว่า เนื้อบางเบา เบลอรูขุมขนดีเกินคาดเลย

14. Peach & Lily

Peach & Lily แบรนด์เครื่องสําอางเกาหลี Hi End

แบรนด์เครื่องสําอางเกาหลี Hi End ตัวสุดท้ายที่อยากมาบอกต่อวันนี้ คือ Peach & Lily ชื่อน่ารักคูณสิบ! การนำเสนอสีส้มพีช กับสีขาว ก็ทำให้แบรนด์ดูน่ารักลงตัวกับชื่อ แม้จะเป็นแบรนด์ที่ไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไรในไทย แต่ถือว่าเป็นแบรนด์ที่น่าสนใจมากทีเดียวค่ะ

ในช่วงที่เทรนด์ Glass Skin มาแรง ใคร ๆ ก็อยากหน้าใส บางเบา ราวกับกระจกเหมือนไอดอล K-pop ตัวช่วยที่จะทำให้ไม่ต้องเสียเงินไปฉีดรีจูรันก็ต้องแบรนด์นี้เลยค่ะ ผลิตภัณฑ์ตัวดังของเขา คือ เซรั่ม Glass Skin เนรมิตผิวให้ใส เบลอรูขุมขน และดูเงาเป็นประกายแบบสาวเกาหลี ของมันต้องมีจริง ๆ นะ

วิธีเลือกซื้อเครื่องสําอางเกาหลี Hi End

1.เลือกซื้อแบรนด์เครื่องสําอางเกาหลี Hi End ให้เหมาะกับสภาพผิว

สิ่งสำคัญในการเลือกซื้อเครื่องสำอางเกาหลี รวมไปถึงสกินแคร์ คือ เราต้องรู้ว่าสภาพผิวของเราเป็นแบบไหน ผิวมัน ผิวแห้ง หรือผิวผสม เพื่อที่จะสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวของเราที่สุด 

ซึ่งข้อดีการเลือกซื้อเครื่องสำอางตามสภาพผิว คือ เวลาเราลงผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิว เมื่อลงบนผิวหน้าจะมีความติดทน และส่วนผสมได้ทำหน้าที่อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น 

ยกตัวอย่าง สาว ๆ ผิวมัน เวลาเลือกซื้อเครื่องสำอาง อาจต้องมองหา Primer และแป้งชนิด translucent หรือแป้งโปร่งแสง เพื่อเป็นตัวช่วยในการแต่งหน้า ล็อกความมัน ช่วยเบลอรูขุมขน ไม่ทำให้หน้าเยิ้มมันระหว่างวัน ทำให้ใบหน้าของเราเป๊ะปังตลอดทั้งวันค่ะ

2.เลือกซื้อแบรนด์เครื่องสําอางเกาหลี Hi End จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ

แน่นอนว่าการเลือกซื้อเครื่องสำอางเกาหลี โดยเฉพาะแบรนด์ Hi End ก็เบาใจในเรื่องของคุณภาพไปได้อยู่แล้ว เพราะหลาย ๆ แบรนด์มีความน่าเชื่อถือ และได้รับความนิยมวงกว้าง ทั้งในประเทศเกาหลี และประเทศอื่นในอีกหลาย ๆ ประเทศ

ดังนั้น สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนเสียเงินซื้อ คือ ตรวจสอบแหล่งที่มา ว่าเป็นร้านที่มีความน่าเชื่อถือมากหรือน้อย เพราะแบรนด์เครื่องสำอางเกาหลี หลาย ๆ แบรนด์ก็ยังไม่ได้มีเคาน์เตอร์แบรนด์ให้เดินเข้าไปซื้อได้สะดวกเหมือนกับแบรนด์ฝั่งตะวันตก

แนะนำว่าหากซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ ควรกดซื้อโดยตรงจากช่องทางการขายของแบรนด์ หรือซื้อกับร้านตัวแทนที่ได้รับการรองรับ เพื่อความปลอดภัยของคุณภาพสินค้าของเรา และมั่นใจว่าจะได้ของแท้แน่นอนค่ะ

3.เลือกซื้อแบรนด์เครื่องสําอางเกาหลี Hi End จากสินค้ายอดนิยม

แต่ละแบรนด์จะมีผลิตภัณฑ์ขายดียอดฮิตที่แตกต่างกัน มาดูกันดีกว่าว่า เครื่องสำอางหมวดไหน แบรนด์ไหนมาแรงกัยบ้าง

  • คุชชั่น : หากพูดถึงคุชชั่นเกาหลีระดับ Hi End ล่ะก็ จองแซมมุล Hera และ Laneige เป็นแบรนด์ที่พูดถึงมากที่สุด เรียกว่าเป็นคุชชั่นแพงแต่ดีสมราคา เพราะติดทนนาน เอาอยู่ในอากาศประเทศไทย และให้ฟินิชสวยฉ่ำสไตล์สาวเกาหลีอย่างน่าพอใจด้วย
  • เมคอัพเบส :  เบสเขียว เบสม่วง จาก Laneige ที่โดดเด่นเรื่องปรับสีผิว คุมมัน และครีมจองแซมมุลที่ยกระดับความฉ่ำโกลว์ให้ผิวลงรองพื้นต่อง่าย ๆ เป็นอีกหนึ่งกลุ่มเมคอัพเตรียมผิวที่สาว ๆ ไม่ควรพลาด

4.เลือกซื้อแบรนด์เครื่องสําอางเกาหลี Hi End จากนโยบายการคืนเงินและคืนสินค้า (Refund & Return Policy)

ข้อนี้เหมือนจะไม่สำคัญ แต่ก็สำคัญ มันชี้ให้เราเห็นว่าแบรนด์ที่เราเลือกมีการบริการหลังการขายอย่างไร ช่วยในการตัดสินใจซื้อครั้งต่อไปได้ดี และถ้าหากกรณีที่ผลิตภัณฑ์มีความเสียหาย หรือหากซื้อมาใช้แล้วแพ้ เราในฐานะลูกค้า ควรสามารถพูดคุยกับแบรนด์ได้ เพื่อหาทางออกให้กับทั้งลูกค้าและแบรนด์อย่างเป็นธรรม 

โดยส่วนใหญ่แล้ว แบรนด์เครื่องสำอางของเกาหลี โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบรนด์ระดับ Hi End มักจะระบุไว้อยู่แล้วว่าต้องทำอย่างไรบ้าง เช่น Sulwhasoo หากจะ Refund ต้องทำภายในระยะเวลา 14 วันหลังได้รับของ และจะต้องอยู่ในสภาพเดิม หรือถ้าหากใช้แล้วแพ้ ต้องมีใบรับรองแพทย์ยืนยัน เป็นต้น

ระยะเวลาการดำเนินการคืนเงินส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 15-30 วัน ถ้าใส่ใจตรงนี้มากขึ้นก่อนการเลือกซื้อเครื่องสำอาง ก็จะเป็นประโยชน์ต่อตัวผู้บริโภคเองค่ะ

คำถามที่พบบ่อย

แบรนด์เครื่องสําอางเกาหลี Hi End ดีไหม?

แบรนด์เครื่องสําอางเกาหลี Hi End ดีมาก เพราะด้วยวิธีการดูแลผิวของสาวเกาหลี ที่ถือว่ามีความอ่อนโยนต่อผิวมาก ๆ และส่วนผสมต่าง ๆ ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวของเกาหลี ไม่ว่าจะเป็นสกินแคร์ หรือเครื่องสำอาง ล้วนอ่อนโยนต่อผิวมากกว่าฝั่งตะวันตกมาก

ในฝั่งตะวันตกมักจะมีเทรนด์การดูแลผิวที่อาจจะระคายเคืองต่อผิวได้ง่าย เช่น การผลัดเซลล์ผิว ที่มักจะมีส่วนผสมของไกลโคลิก แลคติค และกรดซาลิไซลิก ปกติแล้วก็เป็นส่วนผสมที่ดี แต่ถ้าใช้ในปริมาณมากเกินไปผิวก็จะระคายเคือง และอักเสบได้ง่าย

สกินแคร์เกาหลีหลายแบรนด์ดังก็มีส่วนผสมข้างต้น แต่จะอ่อนโยนกว่า แต่โดยทั่วไปแล้ว ส่วนผสมส่วนใหญ่มักจะมาจากธรรมชาติ ซึ่งเหมาะมาก ๆ สำหรับสาว ๆ ที่มีผิวแห้ง แพ้ง่าย หรือเป็นสิวง่าย

ที่สำคัญอีกเรื่องเลยก็คือ ราคาเข้าถึงง่าย แม้จะเป็นเครื่องสำอาง Hi End แต่ราคาก็เป็นมิตรกับเงินในบัญชีสุด ๆ 

จบไปแล้วกับการอัปเดต K-Beauty เทรนด์ปี 2023 คัดมาแต่ Luxury แบรนด์ส่งตรงจากแดนกิมจิ ทำให้เห็นว่าประเทศเกาหลีเป็นขุมทรัพย์ด้านความงามจริง ๆ ทั้งเครื่องสำอาง และสกินแคร์จากเกาหลี ผ่านกระบวนการคิดและออกแบบมาอย่างดี ทั้งส่วนผสม และนวัตกรรมสมัยใหม่ เพื่อผิวที่สวย ใส ไร้ที่ติ 

โดยเฉพาะไลน์เครื่องสำอาง อย่างลิปเกาหลีหลายแบรนด์ที่เป็นที่นิยม รองพื้น คุชชั่นตัวดัง ส่วนใหญ่ก็เป็นแบรนด์เครื่องสําอางเกาหลี Hi End ที่สำคัญกว่านั้นคือราคาสบายกระเป๋ามากค่าซิส

สาว ๆ คนไหนสนใจหันมาลองใช้แบรนด์เครื่องสําอางเกาหลี Hi End หรือใครเป็นสาวก K-Beauty อยู่แล้ว แต่อยากลองเปลี่ยนแบรนด์ใหม่ ๆ บทความนี้มีคำตอบไว้ให้หมดแล้วค่า แบรนด์ไหนดัง รีวิวปัง ใช้แล้วต้องแนะนำ เราไม่พลาด! ลองเลือกซื้อมาใช้กันดูน้า ไม่มีผิดหวังแน่นอน 

อ้างอิง

https://toplist.info/top-list/best-luxury-korean-skincare-brands-11976.htm

https://www.refinery29.com/en-us/is-korean-skincare-better-expert-advice

Chalita Chamnanmueang

Chalita Chamnanmueang

เบสท์จบการศึกษาจากคณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ปัจจุบันเป็น Editor และ Content writer ประจำ Mizzyreview มีประสบการณ์เขียน copywriting, แปลบทความอังกฤษ-ไทย และรับผิดชอบตรวจสอบเนื้อหา และตีพิมพ์บทความผ่าน WordPress คอยอัปเดตเนื้อหาหลายๆ ด้าน ทั้งบิวตี้ไอเทม สกินแคร์ อาหารเสริม และเทคโนโลยีต่างๆ ให้สาวๆ ได้เข้าถึงทุกเทรนด์ ทุกไอเทมเด็ดกันค่ะ