ใครที่เป็นสายใช้ความร้อนในการจัดแต่งทรงผมทั้งเป่าผม ดัดผม หรือม้วนผมเพื่อให้เรามีลุคที่แตกต่างกันไปในแต่ละวัน มิสซี่บอกเลยว่าถ้าไม่ดูแลผมให้ดี ก็มีผลเสียทำให้ผมอ่อนแอ ผมแห้งกรอบ ไร้น้ำหนัก และหลุดร่วงได้ง่าย ฉะนั้นเพื่อน ๆ ไม่ควรมองข้ามผลิตภัณฑ์ที่ช่วยป้องกันผมจากความร้อนอย่าง “Heat Protection Spray” ติดโต๊ะเครื่องแป้งเอาไว้เลย
สเปรย์กันความร้อน นอกจากช่วยป้องกันความร้อนผมแล้ว ก็ยังทำให้ผมมีวอลลุ่ม ดูมีน้ำหนัก และจัดทรงง่าย อยู่ทนตลอดทั้งวันเลยล่ะค่ะ วันนี้มิสซี่ไม่ได้มาบอกเฉยๆ แต่มารีวิวสเปรย์ฉีดผมกันความร้อน ยี่ห้อไหนดี และนำทริคการใช้สเปรย์ฉีดผมก่อนหนีบดี ๆ มาฝากทุกคนด้วยค่ะ
TOP 3 สเปรย์ฉีดผมกันความร้อนที่ดีที่สุด
#1 Dcash Intouch Spray Conditioner
ราคา 90 บาท
#2 NIGAO Hair Nutrient Leave-on Aqua
ราคา 189 บาท
#3 Bsc Hair Care Nourishing Hair Spray
ราคา 125 บาท
สเปรย์ฉีดผมกันความร้อน คืออะไร
สเปรย์ฉีดผมกันความร้อน คือ ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดความเสียหายของเส้นผมที่เกิดจากความร้อนที่ปล่อยออกมาจากอุปกรณ์จัดแต่ทรงผม อย่างเช่น ไดร์เป่าผม ที่หนีบผม ที่ม้วนผม
โดยการทำงานของสเปรย์ป้องกันความร้อน คือ เนื้อผลิตภัณฑ์จะเคลือบเสมือนเกราะป้องกันเส้นผม จึงช่วยชะลอการนำความร้อนไปสู่ผมของเพื่อน ๆ ได้นั่นเองค่ะ
ตารางเปรียบเทียบ “สเปรย์ฉีดผมกันความร้อน” แต่ละยี่ห้อ
สินค้า | เช็คส่วนลดที่ | จุดเด่น |
Dcash Intouch Spray Conditioner 90 บาท |
| |
NIGAO Hair Nutrient Leave-on Aqua 189 บาท |
| |
Bsc Hair Care Nourishing Hair Spray 125 บาท |
| |
Berina Hair Heat Protector 79 บาท |
| |
Lesasha Heat Protecting & Curling Spray 279 บาท |
| |
Oriental Princess Cuticle Professional Hair Care Heat Protection Spray 185 บาท |
| |
Lolane Pixxel Care Heat Protection Volume Spray 135 บาท |
| |
Kerastase Fluidissime Anti Frizz Spray 1,820 บาท |
| |
Haxon Milky Hair Spray 499 บาท |
|
จะเลือกซื้อ สเปรย์ฉีดผมกันความร้อน ยี่ห้อไหนดี 2566
1. สเปรย์ฉีดผมกันความร้อน โดยรวมที่ดีที่สุด : Dcash Intouch Spray Conditioner
ราคา 90 บาท
ข้อดี
+ ผมนุ่มลื่น อยู่ทรงหลังจากเป่า
+ กลิ่นหอมนาน เหมือนทำผมที่ร้านเลย
+ มีวิตามินอี บำรุงผม
ข้อควรพิจารณา
– ฝาที่ปิดขวดค่อนข้างหลวม อาจทำให้น้ำไหลออกมา
– ไม่ได้ระบุความร้อนที่ป้องกันได้
สเปรย์ฉีดผม dcash ต้องยกให้เป็นที่ 1 ของสเปรย์ฉีดผมกันความร้อนที่การันตีจากหลายร้อยรีวิว ว่าถูกและดีของจิง ซึ่งสูตรสีชมพูขวดนี้ มีจุดเด่นคือวิตามินอีเข้มข้น ปกป้องเส้นผมจากความร้อนได้ดี ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด ความร้อนจากการไดร์เป่าผม และช่วยบำรุงเส้นผมให้กลับมาแข็งแรง มีน้ำหนักมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีกลิ่นหอมติดทนนานถึง 18 ชั่วโมง เป็นสเปรย์กันความร้อนผม วัตสัน เซเว่น มีขาย หาซื้อง่าย ใช้งานสะดวก ใครที่กำลังมองหา heat protection spray ยี่ห้อไหนดี เริ่มจากยี่ห้อนี้ก็ได้นะคะ เหมาะกับมือใหม่มากๆ ค่ะ ถ้าอยากรู้ว่าสเปรย์กันความร้อน dcash ดีไหม ต้องลองค่า!
ปริมาณ 220 ml : ราคา 90 บาท (ตก ml ละ 2.4 บาท)
จุดเด่น | มีวิตามินอีเข้มข้น ช่วยบำรุงผมเสีย |
ส่วนประกอบสำคัญ | วิตามินอี |
เหมาะกับ | ผมแห้งเสีย |
2. สเปรย์ฉีดผมกันความร้อน ญี่ปุ่นที่ดีที่สุด : NIGAO Hair Nutrient Leave-on Aqua
ราคา 189 บาท
ข้อดี
+ หัวกดใช้งานง่าย สเปรย์ละเอียด
+ ผมไม่แห้งฟู นุ่มลื่น หวีง่าย
+ มีเส้นใยโปรตีนที่สกัดจากธัญพืช ซึมเข้าสู่เส้นผมได้ดี
ข้อควรพิจารณา
– ต้องใช้ปริมาณเยอะ เพื่อให้ครบทั้งศีรษะ
– มีหนืดนิดหน่อย
ยี่ห้อ Nigao ขึ้นชื่อความเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผมมากมาย และผลิตภัณฑ์ปกป้องผมจากความร้อน การทำเคมี หรือการฟอกสีตัวนี้ ช่วยฟื้นฟูผมแห้งเสีย กักเก็บความชุ่มชื้น และเพิ่มความแข็งแรงให้กับโครงสร้างของเส้นผมได้อย่างดีเยี่ยม ช่วยลดปัญหาที่กวนใจคนชอบใช้อุปกรณ์ความร้อนกับผมได้ดีเลยค่ะ
เป็นที่ฉีดผมกันความร้อนสเปรย์ละเอียด ซึมเข้าเส้นผมได้ดี ซ่อมแซมเกล็ดผมให้แข็งแรงขึ้นด้วยค่ะ ใครที่กำลังมองหาสเปรย์ฉีดผมกันความร้อนดี ๆ มิสซี่เชียร์ยี่ห้อนี้ เพราะครบจบจริงๆ ค่ะ ช่วยลดความกระด้าง ไม่มีน้ำหนัก หรือผมแตกปลายได้ด้วยนะ
ปริมาณ 150 ml : ราคา 189 บาท (ตก ml ละ 1.2 บาท)
จุดเด่น | ลดปัญหาผมร่วงจากการใช้ความร้อน |
ส่วนประกอบสำคัญ | Squalane Olive / Pantothenic Acid / Keratin Amino Acid |
เหมาะกับ | ผมตรง ผมแห้งเสีย ผมชี้ฟู |
3. สเปรย์ฉีดผมกันความร้อน กลิ่นหอมที่ดีที่สุด : Bsc Hair Care Nourishing Hair Spray
ราคา 125 บาท
ข้อดี
+ มี Ceramide บำรุงผมไม่ให้แตกปลาย
+ กลิ่นหอมมาก ไม่ฉุน ติดผมยาวนาน
+ คุ้มค่า คุ้มราคา
ข้อควรพิจารณา
– สเปรย์ขวดค่อนข้างใหญ่ พกพาไม่สะดวก
ใครตามหา สเปรย์ฉีดผมหอม รีวิวปัง ๆ ต้องลอง สเปรย์ฉีดผมกันความร้อน Bsc ตัวนี้เลย! อีกหนึ่งยี่ห้อที่มีผลิตภัณฑ์บำรุงผมหลายแบบ ตอบโจทย์กับทุกสภาพเส้นผม อย่างตัวนี้เหมาะกับผมแตกปลาย หรือผมแห้งเสีย ผมขาดร่วงง่ายเพราะใช้เครื่องจัดแต่งทรงผมด้วยความร้อนเป็นประจำ
สเปรย์ขวดนี้จะมีส่วนผสมอย่างโปรตีนเคราติน และเซราไมด์ ที่เข้ามาบำรุงส่วนที่แตกปลายให้กลับมามีสุขภาพดี เพิ่มความชุ่มชื้น ดูแลเส้นผมของเราให้มีความเงางาม จัดทรงง่าย ปกป้องผมจากแสงแดดและความร้อนได้ดีขึ้นเมื่อเทียบกับตอนที่ไม่ใช้ มิสซี่บอกเลย ต้องมีนะ
ปริมาณ 300 ml : ราคา 125 บาท (ตก ml ละ 2.4 บาท)
จุดเด่น | เสริมผมให้แข็งแรง ไม่แห้งเสีย แตกปลาย |
ส่วนประกอบสำคัญ | Ceramide / Amino Acids / Keratin |
เหมาะกับ | สภาพผมแตกปลาย ผมเสีย |
4. สเปรย์ฉีดผมกันความร้อน ถูกและดีที่สุด : Berina Hair Heat Protector
ราคา 79 บาท
ข้อดี
+ ใช้กันความร้อนผมดีมาก
+ ผมนุ่ม ไม่แห้ง
+ ป้องกันการแตกของปลายเส้นผมได้ดี
ข้อควรพิจารณา
– กลิ่นออกฉุน
สเปรย์กันความร้อนเบอริน่าขวดนี้ ราคาน่ารัก ร้านทำผมส่วนใหญ่ก็ใช้ยี่ห้อนี้กันนะคะ สูตรนี้จะมีความพิเศษคือช่วยป้องกันผมเสีย แห้งกรอบ เพราะมีส่วนผสมอย่าง Provitamin B5
ยิ่งใครที่ชอบใช้ความร้อนกับเส้นผมเป็นประจำ บอกเลยว่าจำเป็นต้องมี เพราะทุกครั้งที่เราไดร์ผม หรือหนีบผม ความร้อนที่เราจับแล้วยังว่าร้อน แล้วเส้นผมของเราละคะ จะเป็นยังไง ฉะนั้นสเปรย์ฉีดผมกันความร้อนเบอริน่าขวดนี้จะเข้ามาช่วยลดความแห้งเสียจากตรงนี้ได้ด้วย
วิธีใช้ก็แสนง่าย แถมไม่ต้องล้างออกให้ยุ่งยากเลย แค่จัดผมเป็นช่อๆ แล้วใช้สเปรย์ค่อยๆ ฉีดให้ทั่ว ทีละชั้น แล้วค่อยหนีบ หรือไดร์ผมได้เลยค่ะ ใครงบน้อย มิสซี่เชียร์แบรนด์นี้ ราคาน่ารักและคุ้มค่ามากๆ ค่ะ
ปริมาณ 230 ml : ราคา 79 บาท (ตก ml ละ 0.3 บาท)
จุดเด่น | ป้องกันผมเสียแห้งกรอบจากความร้อนได้ดี |
ส่วนประกอบสำคัญ | Provitamin B5 |
เหมาะกับ | ผมแห้งเสีย |
5. สเปรย์ฉีดผมกันความร้อน ป้องกันผมเสียที่ดีที่สุด : Lesasha Heat Protecting & Curling Spray
ราคา 279 บาท
ข้อดี
+ กลิ่นหอม ไม่ฉุน
+ สเปรย์ม้วนผมลอนอยู่ทรงนาน
+ ปกป้องผมจากความร้อนได้ดี
ข้อควรพิจารณา
– หัวสเปรย์ไม่ค่อยกระจายตัว
– ไม่ค่อยช่วยเรื่องจัดแต่งทรงผมเท่าไหร่
อีกหนึ่งสเปรย์บำรุงผม กันความร้อนก่อนหนีบผม เป่าผม หรือม้วนผม ต้องยี่ห้อเลอชาช่าเลยค่ะ เหมาะกับคนที่ม้วนผม เพราะช่วยปกป้องเส้นผมจากความร้อนได้ถึง 180 องศา เมื่อใช้แล้วจะทำให้ผมลอนเด้ง สปริงตัวสวย
และยังมีสารสกัดอัญมณีทัวร์มาลีน ที่ช่วยให้ผมนุ่มลื่น มีน้ำหนัก และเรียบลื่น เข้าทรงทั้งวัน ใครที่ม้วนผมเป็นประจำ บอกเลยว่าคุ้มค่ากับการลองแน่นอนค่ะ ป้องกันความร้อนได้ดีจริง ๆ ค่า
ปริมาณ 150 ml : ราคา 279 บาท (ตก ml ละ 1.8 บาท)
จุดเด่น | ทนความร้อนได้มากถึง 180 องศา |
ส่วนประกอบสำคัญ | Silicone Quart / Tourmaline Powder / Polyquaternium / Provitamin B5 / Aloe Barbadensis |
เหมาะกับ | ผมตรง ผมแห้งเสีย |
6. ที่ฉีดผม กันความร้อนได้ดีที่สุด : Oriental Princess Cuticle Professional Hair Care Heat Protection Spray
ราคา 185 บาท
ข้อดี
+ ป้องกันความร้อนได้ได้ถึง 240 องศา
+ ขวดเล็กพกพาสะดวก
+ แบรนด์ดัง หาซื้อง่าย
ข้อควรพิจารณา
– ควรฉีดให้ห่างจากหนังศีรษะ เพื่อหลีกเลี่ยงอาการระคายเคือง
สเปรย์ฉีดผม oriental princess ขวดนี้ช่วยปกป้องเส้นผมจากการทำความร้อนได้สูงถึง 240 องศา ลดปัญหาผมแห้งเสีย กระด้าง หรือหากเราใช้เครื่องจัดแต่งทรงผมแล้วผมเริ่มแตกปลาย หรือขาดร่วงง่าย ให้รู้ได้เลยว่าผมของเราเริ่มเสียแล้วค่ะ ให้รีบหา heat protection spray มาใช้ด่วนๆ ค่ะ
อย่างยี่ห้อนี้มีสารสกัดอย่าง KELP และ Keratin และ Vitamin E ที่ดูแลเส้นผมทุกเส้น ใช้แล้วผมเรียบสวยขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแน่ค่ะ มิสซี่ก็จะบอกว่าสเปรย์ฉีดผมกันความร้อน oriental รีวิวเยอะ หลายเสียงบอกว่าดีเลิศ เจอแบบนี้เราจะไม่ลองหรอคะ ได้เวลาจัดมาเลยค่ะ
ปริมาณ 100 ml : ราคา 185 บาท (ตก ml ละ 1.8 บาท)
จุดเด่น | ลดผมแห้งกรอบจากความร้อนได้จริง |
ส่วนประกอบสำคัญ | สารสกัดจาก KELP / Natural Keratin / Vitamin E |
เหมาะกับ | ผมตรง ผมแห้งเสีย |
7. สเปรย์กันความร้อนก่อนหนีบผมที่ดีที่สุด : Lolane Pixxel Care Heat Protection Volume Spray
ราคา 135 บาท
ข้อดี
+ ละอองละเอียด ไม่เหนียว
+ ช่วยยกโคนผม ใช้จัดผมให้อยู่ทรงได้นาน
+ ไม่มีแอลกอฮอล์
ข้อควรพิจารณา
– ไม่มีหน้าร้าน official
หากไม่รู้จะใส่อะไรก่อนหนีบผม ต้องลองสเปรย์กันความร้อน กลิ่นหอมนาน และมีคุณสมบัติพิเศษคือเป็น 3 in 1 ทั้งบำรุง จัดแต่งทรง และป้องกันความร้อนได้ภายในขวดเดียวแบบนี้เลยค่า คุ้ม!
มีสารสกัดจาก Argan Oil และ Amino Acids ที่ฟื้นฟูผมแห้งเสีย และทำให้ผมเงางาม และจัดทรงง่าย และยังช่วยป้องกันความร้อนได้สูงถึง 220 องศาเลยค่ะ ใครสายรีบ ไม่ค่อยมีเวลา ไม่ได้สระผมก่อนก็ใช้ตัวนี้ได้ค่ะ ใช้ได้ขณะที่ผมหมาดและผมแห้งเลย
เวลาใช้จะรู้สึกเหมือนมีอะไรเคลือบเส้นผม แต่ไม่ได้รู้สึกหนืดหรือเหนียวเลยค่ะ ใครที่กำลังมองหา สเปรย์กันความร้อนผม ยี่ห้อไหนดี มิสซี่มองว่ายี่ห้อนี้ตอบโจทย์เลยค่ะ
ปริมาณ 200 ml : ราคา 135 บาท (ตก ml ละ 1.4 บาท)
จุดเด่น | ช่วยบำรุง จัดแต่งทรง พร้อมกันความร้อนได้ในขวดเดียว |
ส่วนประกอบสำคัญ | Ceramide Protein / Amino Acids / Argan Oil |
เหมาะกับ | ผมตรง ผมแห้งเสีย |
8. สเปรย์ฉีดผมกันความร้อน ลดผมฟูได้ดีที่สุด : Kerastase Fluidissime Anti Frizz Spray
ราคา 1,820 บาท
ข้อดี
+ กลิ่นหอม
+ ลดผมชี้ฟูได้ดีมาก
+ ใช้เป็นประจำ ผมนุ่มลื่นขึ้นด้วย
ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างสูง
สเปรย์อีกหนึ่งยี่ห้อที่คนรักเส้นผมต้องมี คือ แบรนด์ Kerastase อย่างสูตรนี้จะเหมาะกับ การดูแลผมเส้นเล็ก ผมชี้ฟูง่าย ทำให้จัดทรงยาก ขวดนี้ตอบโจทย์เลยค่ะ เพราะมีส่วนผสมของเคราติน ที่บำรุงเส้นผมล้ำลึกไปยันโครงสร้างผม ทำให้ผมมีความชุ่มชื้น นุ่มลื่น
สเปรย์ kerastase รีวิวว่าทำให้ผมจัดทรงง่าย วิธีใช้เพียงแค่ฉีดก่อนเป่าไดร์ การหนีบ หรือม้วนลอนเท่านี้ ผมของเพื่อน ๆ ก็จะดูมีน้ำหนัก เป็นลอนสวยแน่นอน เป็นสเปรย์ฉีดผมกันความร้อนระดับพรีเมียม กลิ่นหอมหรูแถมลดผมฟูดีสุดๆ เลยค่ะ
ปริมาณ 150 ml : ราคา 1,820 บาท (ตก ml ละ 12.3 บาท)
จุดเด่น | เสริมผมให้แข็งแรง จัดทรงได้ง่าย ลดการชี้ฟู |
ส่วนประกอบสำคัญ | Keratin |
เหมาะกับ | สภาพผมแห้งเสีย ชี้ฟู |
9. สเปรย์ฉีดผมกันความร้อน จัดแต่งทรงผมได้ดีที่สุด : Haxon Milky Hair Spray
ราคา 499 บาท
ข้อดี
+ กลิ่นหอม ติดทนทั้งวัน
+ จัดทรงผมให้อยู่ทรงสวยและนาน
+ กันความร้อนได้ดี
ข้อควรพิจารณา
– หากฉีดมากไป ผมจะมีความมันเล็กน้อย
ใครที่ชอบม้วนผม ดัดลอนผมเป็นประจำ มิสซี่ขอแนะนำ สเปรย์ฉีดผมกันความร้อน Haxon แบรนด์น้องใหม่มาแรง จุดเด่นของยี่ห้อนี้คือ ช่วยบำรุงเส้นผมด้วย Argan Oil ซึ่งช่วยลดปัญหาผมแห้งเสียได้ถึง 80% นอกจากนี้ยังช่วยซ่อมแซมเส้นผมด้วย กลิ่นหอมน้ำนมอ่อนๆ
สามารถฉีดได้ทั้งก่อนและหลังการใช้อุปกรณ์ความร้อน และกันความร้อนได้ถึง 220 องศา ใช้แล้วจัดผมอยู่ทรงทั้งวัน ใครที่กำลังมองหา น้ำมันใส่ผม ยี่ห้อไหนดี มิสซี่บอกได้เลยว่าคุ้ม เรียกได้ว่าจะลุคไหน สไตล์ไหนก็ไม่ต้องกลัวผมเสียเลยค่ะ
ปริมาณ 110 ml : ราคา 499 บาท (ตก ml ละ 4.5 บาท)
จุดเด่น | กลิ่นหอมน้ำนม ป้องกันความร้อนได้ดี |
ส่วนประกอบสำคัญ | Moroccan Argan Oil |
เหมาะกับ | ผมแห้งเสีย ผมดัดลอน เหมาะกับทุกสภาพผม |
ประโยชน์ของ สเปรย์ฉีดผมกันความร้อน
ป้องกันผมแห้งเสียจากอุปกรณ์จัดแต่งทรงผม
ที่ฉีดผมกันความร้อน จะมอบความชุ่มชื้น และทำหน้าที่เคลือบเส้นผม เป็นเกราะป้องกันการสูญเสียน้ำภายในแกนผม ช่วยแก้ผมเสียจากการใช้ไดร์เป่าผม ที่หนีบผม หรือเครื่องม้วนผมได้ดีมาก ๆ เลยค่ะ
ผมสุขภาพดีและเงางาม
การดูแลผมไม่เพียงแต่ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมอย่างครีมนวด หรือทรีทเม้นท์ผมเพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะคนที่ชอบดัดผม การใช้สเปรย์กันความร้อน จะช่วยป้องกันเส้นผมจากความร้อน และบำรุงผมให้แข็งแรง โดยดูจากส่วนผสมอย่าง Argan Oil ก็ช่วยให้ผมดูเงางามมากขึ้นด้วย
จัดทรงง่าย และอยู่ทรงตลอดทั้งวัน
ไม่ว่าจะเป็นเซรั่มบำรุงผม ออยล์บำรุงผม รวมถึงสเปรย์ใส่ผมกันความร้อนบางยี่ห้อ จะมีส่วนผสมที่มีช่วยให้ผมนุ่มลื่น ปลายผมไม่เด้งเป็นหางเป็ด ทำให้เวลาเราใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ก็จะช่วยให้เราจัดแต่งทรงผมง่ายขึ้นด้วยค่ะ
ผมนุ่มสลวย มีวอลลุ่มที่ตรงใจ
ในส่วนผสมของที่ฉีดผมกันความร้อนส่วนใหญ่ จะมีส่วนผสมอย่าง เคราติน / วิตามิน E ที่ช่วยบำรุงผม และเพิ่มความชุ่มชื้นให้เส้นผม ทำให้เวลาเราใช้สเปรย์ใส่ผมกันความร้อนก่อนจัดแต่งทรงผม ทำให้ผมไม่เสียมากเท่ากับตอนที่ไม่ใช้แน่นอนค่ะ
วิธีเลือกซื้อ “สเปรย์ฉีดผมกันความร้อน”
วิธีเลือกซื้อสเปรย์ฉีดผมสำหรับสาวๆ หรือคนทั่วไปที่เพิ่งเริ่มใช้จำเป็นต้องรู้อะไรบ้าง เพื่อเป็นจุดสังเกตให้เราได้เลือกสเปรย์ที่มีประสิทธิภาพ และตรงใจกับความต้องการของเรามากที่สุด มีอะไรบ้าง ไปดูกันค่ะ
เลือกจากอุณหภูมิที่สเปรย์สามารถปกป้องได้
สเปรย์ฉีดผมกันความร้อนที่ดีควรป้องกันความร้อนได้ประมาณ 200 องศาขึ้นไป จะเหมาะสมและช่วยปกป้องผมจากความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ
เพราะสเปรย์ใส่ผมกันความร้อนแต่ละยี่ห้อไม่ได้มีคุณสมบัติที่ช่วยป้องกันความร้อนได้เท่าๆ กัน ยิ่งไปกว่านั้นบางยี่ห้อไม่ได้ระบุเอาไว้ว่าตัวผลิตภัณฑ์ช่วยปกป้องผมได้สูงสุดที่อุณหภูมิเท่าไหร่ เวลาเลือก สเปรย์ฉีดผมกันความร้อน เราควรดูตรงนี้ด้วยค่ะ
เลือกจากสภาพเส้นผมของคุณ
ผลิตภัณฑ์ปกป้องเส้นผมจากความร้อนส่วนใหญ่จะเป็นแบบสเปรย์ แต่ก็จะมีแบบครีมหรือเซรั่ม บาล์ม และอื่นๆ อีกมากมาย ฉะนั้นเลือกให้เหมาะกับสภาพผสมจะดีต่อผมของคุณที่สุดค่ะ
- สำหรับสภาพผมฟู ชี้เด้ง ควรใช้สเปรย์ที่ช่วยลดไฟฟ้าสถิตบนเส้นผม เช่น Kerastase Fluidissime Anti Frizz Spray จะเป็นสูตรลดผมฟูโดยเฉพาะ
- สำหรับผมแห้งเสีย แตกปลาย ควรเลือกที่ฉีดผมกันความร้อยที่เป็นน้ำมันใส่ผม หรือเนื้อน้ำนม เพราะบำรุงได้ล้ำลึกและแก้ผมแตกปลายได้ตรงจุด
- สำหรับสภาพผมหนา ควรเลือกใช้ heat protection spray ที่มี Ceramide จะช่วยให้ผมดูเงางาม และดูสลวย ไม่ชี้ฟู
หลีกเลี่ยงส่วนผสมที่ไม่เป็นมิตรต่อเส้นผม
เวลาเลือกซื้อสเปรย์ฉีดผมกันความร้อนอีกหนึ่งข้อคือ พยายามเลี่ยงส่วนผสมที่ทำให้ผมขาดความชุ่มชื้น หรือดึงความชุ่มชื้นออกจากผม เช่น ซัลเฟต และควรดูว่าส่วนผสมที่เป็นตัวซิลิโคนต้องเป็นแบบที่ละลายน้ำได้เท่านั้น และเลี่ยงซิลิโคนแบบที่ไม่สามารถละลายน้ำได้ นั่นคือ
- ซิลิโคนที่ละลายน้ำได้ เช่น ไซโคลไดเมทิโคน (cyclomethicone), ไดเมทิโคนโคโพลิออล (dimethicone copolyol)
- ซิลิโคนที่ไม่สามารถละลายน้ำ เช่น ไดเมทิโคน (dimethicone) และอะโมไดเมทิโคน(amodimethicone)
ส่วนผสมที่ช่วยบำรุงเส้นผม
การเลือกสเปรย์ฉีดผมกันความร้อนที่ช่วยบำรุงเส้นผมก็เปรียบเหมือนการเลือกสกินแคร์บำรุงผิวหน้าเลยค่ะ เลือกใช้ตามสภาพผม ก็จะยิ่งบำรุงผมได้ดีขึ้นด้วย ส่วนผสมที่ดีและเห็นได้ทั่วไปจะมีประมาณนี้ค่ะ
- Argan Oil ที่มีวิตามินอีช่วยเติมความชุ่มชื้นให้เส้นผม ป้องกันการเสียโปรตีนจากเส้นผม การทำสีหรือการใช้ความร้อนในการทำผมได้ดี
- Hyaluronic Acid ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นในเส้นผม และเพิ่มความชุ่มชื้นได้ดี
- Pro-Vitamin B5 ช่วยเคลือบเกล็ดผม คงความชุ่มชื้นให้เส้นผม แก้ผมแห้งเสีย
- Keratin เคราตินเป็นโปรตีนที่ช่วยแก้ปัญหาผมชี้ฟู ทำให้ผมดูเงางาม จัดทรงได้ง่าย
- Ceramide ช่วยให้ผมนุ่มลื่น ช่วบบำรุงผมโดยรวมให้สุขภาพดี
- Amino acids มีผลทดลองพบว่าสามารถบำรุงและเสริมความแข็งแรงเส้นผมจากการทำร้ายของอนุมูลอิสระได้
อ่านเพิ่มเติม: ผมแห้งเสีย แตกปลาย ไม่มีน้ำหนัก ใช้อะไรดี?
มีคุณสมบัติที่ช่วยปกป้องผมจากแสง UV
แสง UV ไม่เพียงทำร้ายผิวของเราเท่านั้นนะคะ โดยเฉพาะรังสี UVB มีส่วนทำให้โปรตีนของเส้นผมสูญเสียไป ดังนั้นการใช้สเปรย์ฉีดผมกันความร้อนจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยปกป้องผมจากอนุมูลอิสระจากแสงได้ และดูแลผมของคุณได้ เวลาเลือกผลิตภัณฑ์กันความร้อน จึงควรมองหาคุณสมบัติที่ช่วยปกป้องแสง UV ด้วยจะดีที่สุดเลยค่ะ
สเปรย์ฉีดผมกันความร้อน ใช้ยังไง
เคล็ดลับหนีบผมยังไงไม่ให้ผมเสีย มีขั้นตอนไม่วุ่นวาย แต่ต้องรู้จักวิธีใช้ให้ดี หากคุณเป็นคนที่เพิ่งเริ่มใช้ มิสซี่เลยมี วิธีใช้งานสเปรย์ฉีดผมกันความร้อน มาแนะนำเพื่อน ๆ ทุกคนให้ใช้ได้อย่างถูกต้อง มีอะไรบ้างไปดูกันเลย
- ทำความสะอาดผมให้เรียบร้อย ควรสระผมให้เปียกหมาด
- ใช้หวีสางผมก่อน เพื่อจัดการไม่ให้ผมพันกันเกินไป ค่อยๆ เริ่มจากปลายผมขึ้นไปถึงหนังศีรษะ
- ใช้สเปรย์ฉีดผมกันความร้อน โดยถือขวดสเปรย์ห่างจากหนังศีรษะประมาณ 1 ฟุต แล้วฉีดผมทีละส่วนจนครบ เพราะถ้าหากฉีดแค่เพียงโดยรอบ จะทำให้สเปรย์ไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
- จากนั้น สามารถเป่าผมให้แห้ง หรือใช้อุปกรณ์จัดแต่งทรงผมด้วยความร้อนได้เลย ไม่ว่าจะเป็นไดร์เป่าผม ที่หนีบผม หรือเครื่องม้วนผม ฯลฯ
- อีกหนึ่งทริค เซตผมด้วยลมเย็น จะทำให้ทรงผมอยู่ได้นานขึ้น
คำถามที่พบบ่อย
สเปรย์ฉีดผมกันความร้อน ดีไหม?
สเปรย์ฉีดผมกันความร้อน ดีต่อเส้นผมเมื่อเทียบกับตอนที่ไม่ใช้ เพราะผลเสียจากการไม่ใช้ป้องกันผมจากความร้อนคือ ผมขาดความชุ่มชื้น แห้งเสีย แตกปลาย และขาดเปราะง่ายมากขึ้น
แต่ทั้งนี้สเปรย์ใส่ผมกันความร้อน เป็นทางเลือกที่ช่วยลดความเสียหายเท่านั้น นอกจากนี้เราควรบำรุงผม เช่น ทำทรีตเมนต์เพื่อปรับสภาพเส้นผม ช่วยบำรุงซ่อมแซมเส้นผม จะเป็นวิธีที่ช่วยให้ผมมีสุขภาพดีได้อย่างยั่งยืนค่ะ
หนีบผมยังไงไม่ให้ผมเสีย?
วิธีหนีบผมไม่ให้ผมเสีย คือใช้สเปรย์ใส่ผมกันความร้อนเป็นประจำก่อนใช้อุปกรณ์จัดแต่งทรงผม เพราะนอกจากช่วยลดความเสียหายจากการที่เส้นผมเจอความร้อนแล้ว ในบางยี่ห้อก็มีส่วนผสมที่ช่วยในการบำรุงผมด้วย
หากไม่ใช้สเปรย์ใส่ผมกันความร้อน จะเกิดอะไรขึ้น?
หากไม่ใช้สเปรย์ฉีดผมกันความร้อน จะทำให้ผมแห้งเสีย เพราะเมื่อเราใช้อุปกรณ์จัดแต่งทรงผมที่มีความร้อนมากๆ ความร้อนจะดึงเม็ดสีในเส้นผมของเพื่อนๆ ออก และทำลายโปรตีนเคราตินที่ทำหน้าที่ให้ความเแข็งแรง และยืดหยุ่นในเส้นผมออกด้วย ทำให้ผมชี้ฟู และแห้งเสียได้ในที่สุด
สเปรย์กันความร้อน ใช้ตอนไหน?
ควรใช้สเปรย์ฉีดผมก่อนใช้อุปกรณ์จัดแต่งทรงผมใดๆ และควรใช้ทีละส่วน ควรหวีหรือการขยำผมเพื่อช่วยให้กระจายตัวสม่ำเสมอ
เป็นยังไงบ้างคะกับรีวิว 10 สเปรย์ฉีดผมกันความร้อน ยี่ห้อไหนดี ที่มิสซี่มาแนะนำ และยังมีทริคที่นำมาฝากกันด้วย มิสซี่เชื่อว่าคนที่เพิ่งเริ่มต้นใช้ มีความสนใจ อ่านแล้วต้องมียี่ห้อในใจแน่ๆ เลยใช่ไหมคะ แต่อย่างที่มิสซี่บอกไปว่าการใช้สเปรย์กันความร้อน เป็นการป้องกันอีกหนึ่งทางที่จำเป็นและไม่ควรมองข้ามเด็ดขาดค่ะ
ไม่เพียงแค่ใช้เพื่อป้องกันความร้อนจากการใช้อุปกรณ์จัดแต่งทรงผมเท่านั้น แต่ควรใช้ในวันที่เราเจอแดด หรือแสง UV ด้วย นอกจากนี้ควรใช้ เซรั่มบำรุงผม ในการบำรุงอย่างสม่ำเสมอ เพื่อทำให้เส้นผมแข็งแรง และเงางามนะคะ
อ้างอิง