มาแล้วค่าา พบกันอีกครั้งกับมิสซี่ ที่จะนำเสนอสิ่งดี ๆ มาฝากกับเพื่อน ๆ ทุกคนค่าา ก่อนอื่นเลยมิสซี่ต้องถามก่อนว่าใครประสบกับปัญหาผมเสีย ชี้ฟู ผมแตกปลาย หรือแม้กระทั่งผมที่ทำสี และใช้ความร้อนบ่อย ๆ ก็ส่งผลเสียไปจนถึงภายในเส้นผม ทำให้ผมช็อตหรือผมแห้งได้นะคะ
อย่างไรก็ตาม ปัญหาเส้นผมดังกล่าว สามารถฟื้นฟู และแก้ไขได้ค่ะ เพียงแค่งดกิจกรรมที่อาจทำลายเส้นผม และบำรุงด้วยทรีทเม้นท์บำรุงผมค่ะ เพื่อน ๆ สามารถเลือก ทรีทเม้นท์บำรุงผม ให้เหมาะกับสภาพผมของตัวเองค่ะ
เพราะหลาย ๆ แบรนด์ต่างก็ผลิตทรีทเม้นท์ออกมา เพื่อให้ตรงกับสภาพเส้นผมของผู้บริโภคมากที่สุด และสิ่งสำคัญที่สุด คือ การรู้จักเลือกบำรุงด้วยทรีทเม้นท์ที่เหมาะกับเส้นผมตัวเองค่ะ เพราะจะทำให้การบำรุงมีประสิทธิภาพ และเห็นผลมากยิ่งขึ้น
ในบทความนี้ มิสซี่จะมาแนะนำให้เพื่อน ๆ รู้จักกับ ทรีทเม้นท์ผม ยี่ห้อไหนดี ที่เพื่อน ๆ ควรไปลองใช้เพื่อบำรุงค่า
TOP 3 ทรีทเม้นท์ผมที่ดีที่สุด
#1 Tresemme Keratin Glazing Serum Conditioner
ราคา 229 บาท
#2 LOLANE Hair Treatment For Dry & Damaged Hair
ราคา 127 บาท
#3 Nigao Hair Treatment Guardian
ราคา 450 บาท
ทรีทเม้นท์ผม คืออะไร
ทรีทเม้นผม คือ ตัวช่วยในการแก้ปัญหาเรื่องเส้นผม ได้แก่ ผมหลุดร่วง ผมแห้ง รังแค ผมชี้ฟู ผมบาง เป็นต้น ซึ่งปัญหาดังกล่าวอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ไลฟ์สไตล์ พฤติกรรมการกิน ผลิตภัณฑ์ที่ใช้บำรุงผม และธรรมชาติของผม อย่างไรก็ตาม ปัญหาเส้นผมสามารถแก้ได้ หากใช้ผลิตภัณฑ์ทรีทเม้นท์ผมที่ดีที่สุด และเหมาะสมสำหรับเส้นผม
ทรีทเม้นท์ผมช่วยอะไร
ทรีทเม้นท์ผม ช่วยให้สาว ๆ มีสุขภาพผมที่แข็งแรง การที่มีผมที่นุ่มสลวย และเงางาม ถือเป็นความต้องการของสาว ๆ หลายคนเลยค่ะ เพราะการมีผมสวยก็จะบำรุงผมง่าย แถมยังเพิ่มความมั่นใจให้กับใครหลาย ๆ คน แต่การบำรุงผมให้มีสุขภาพที่ดีได้ จำเป็นต้องใช้ตัวช่วยอย่างทรีทเม้นท์ผมค่ะ เพราะทรีทเม้นต์ผมเป็นเหมือนอาหารสำหรับผม ดังนั้น เราจะมาดูกันค่ะว่า ทรีทเม้นท์ผมมีประโยชน์สำคัญอะไรบ้าง ได้แก่
1. ป้องกันผมเสีย
การทำทรีทเม้นท์ผม สามารถป้องกันผมเสียได้ดีเลยค่ะ เพราะทรีทเม้นท์จะแทรกซึมเข้าสู่เส้นผม และหนังศีรษะ ทำให้เส้นผมเกิดความชุ่มชื้น ลดการหลุดร่วงของเส้นผม และป้องกันเส้นผมแตกปลาย
2. ให้ความชุ่มชื้นแก่เส้นผม
เพื่อน ๆ ทราบกันไหมคะว่า หนึ่งในการบำรุงผมที่ดี คือ การให้ความชุ่มชื้นแก่เส้นผมค่ะ การขาดความชุ่มชื้นทำให้เกิดรังแค และเส้นผมแตกหักได้ ทรีทเม้นท์ผมช่วยให้ผมมีน้ำมัน และมีโปรตีนจากธรรมชาติที่จำเป็นต่อเส้นผม
3. ช่วยเสริมความยืดหยุ่น
สาเหตุของผมร่วง อาจเกิดจากผมที่ขาดความยืดหยุ่น และเปราะบาง หากผมไม่ได้รับการบำรุงที่ดี และสารอาหารโปรตีนที่จำเป็น ก็จะทำให้สุขภาพผมอ่อนแอ หรือหลุดร่วงได้ง่าย ดังนั้น ทรีทเม้นท์ผมที่มีสารบำรุงมากมาย จึงตอบโจทย์ในเรื่องนี้ค่ะ
จะเลือกซื้อ ทรีทเม้นท์ผม ยี่ห้อไหนดี 2566
1.ทรีทเม้นท์ผม โดยรวมที่ดีที่สุด : Tresemme Keratin Glazing Serum Conditioner
ราคา 229 บาท
ข้อดี
+ ผมเงางามด้วยเทคโนโลยี Keratin Glazing
+ หาซื้อได้ง่าย
+ เห็นผลลัพธ์ชัดเจน
ข้อควรพิจารณา
– เนื้อครีมค่อนข้างเหนียวเหนอะหนะ
ทรีทเม้นท์ตัวแรก มาเริ่มกันที่ทรีทเม้นท์บำรุงผม จาก TRESemme หรือเทรซาเม่ผมตรง ซึ่งแน่นอนว่าเป็นแบรนด์ที่สาว ๆ หลายคนคงคุ้นหน้าคุ้นตากันดีนะคะ เป็นทรีทเม้นท์ผมตรง ที่ตอบโจทย์สาว ๆ ที่ประสบปัญหาผมหยิกฟู หวีผมยาก หรือกว่าจะจัดทรงเสร็จก็ใช้เวลานาน
เมื่อใช้บำรุงอย่างสม่ำเสมอ จะพบว่าผมมีความชุ่มชื้นมากขึ้น มีความเงางาม ทรงผมตรงสวย เพียงแค่สระผมตามปกติ บำรุงผมด้วยครีมนวดตัวนี้ ซึ่งใช้เทคโนโลยี Keratin Glazing บำรุงผม ทำให้ผมตรงสลวย เงางามดุจเคลือบแก้วเลยทีเดียวค่ะ
นอกจากนี้ ทรีทเม้นท์บำรุงผมตรงเทรซาเม่ ยังทำให้ผมลื่น หวีง่าย ผมไม่ชี้ฟู รู้สึกสนุกกับการจัดทรงผมมากขึ้นค่ะ เพื่อน ๆ คนไหนที่กำลังจะซื้อ ทรีทเม้นท์ผม ยี่ห้อไหนดี ที่เป็นทรีทเม้นท์ผมตรง มีน้ำหนัก ช่วยจัดทรงให้ผมตรงง่าย ๆ และอยู่ทรงได้หลายวัน ต้องลองบำรุงผมด้วยทรีทเม้นท์ตัวนี้เลยค่า ประทับใจเรื่องคุณภาพมาก ๆ ค่า
ปริมาณ 300 ml : ราคา 229 บาท (ตก ml ละ 0.76 บาท)
จุดเด่น | ผมไม่ฟูเมื่อเป่าผมเสร็จ จัดทรงอยู่ได้นาน ผมสวยไม่แข็งกระด้าน |
ส่วนผสมบำรุงผม | Keratin Glazing / Sunflower Seed Oil |
เหมาะกับสภาพผม | ผมจัดทรงยาก ผมชี้ฟู ผมแห้งเสีย |
2. ทรีทเม้นท์ ลดผมฟูที่ดีที่สุด : LOLANE Hair Treatment For Dry & Damaged Hair
ราคา 127 บาท
ข้อดี
+ หาซื้อง่าย
+ ช่วยลดผมชี้ฟู และผมเสียได้ดี
+ ราคาถูก เมื่อเทียบจากปริมาณ
ข้อควรพิจารณา
– ทรีทเม้นท์เนื้อเข้มข้น ต้องล้างดี ๆ
ทรีทเม้นท์อันถัดมา คือ ทรีทเม้นท์ผมจากแบรนด์ LOLANE สำหรับสาว ๆ ที่พบปัญหาผมเสีย หรือผมชี้ฟูไร้น้ำหนัก ต้องการบำรุงผมอย่างรวดเร็ว และได้ผลลัพธ์เป็นผมอันนุ่มลื่น ทรีทเม้นท์โลแลนตัวนี้ ตอบโจทย์ที่สุดค่ะ ตัวเนื้อทรีทเม้นท์ผมเป็นสีขาว เพราะเป็นรุ่นที่ทำออกมา เพื่อแก้ผมเสียโดยเฉพาะ มีนวัตกรรมมอยส์เจอร์ อินฟิวชั่นซีสเต็ม ทำให้ผมมีน้ำหนัก ลดการแตกปลายของเส้นผม ช่วยให้ผมไม่แห้งเสีย และผมหวีง่ายขึ้น
ความดีงามอีกประการของทรีทเม้นท์ตัวนี้ คือ ใช้เวลาบำรุงไม่นานค่ะ เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ไม่มีเวลา เพราะตัวครีมแทรกซึมเข้าเส้นผมได้อย่างรวดเร็ว แต่หากจะชโลม และบำรุงไว้นาน ๆ ก็ให้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นค่ะ โดยรวมแล้ว มิสซี่ประทับใจมาก ทั้งในเรื่องคุณภาพ ราคาสบายกระเป๋า และเมื่อบำรุงแล้ว ผมสวยขึ้น อยู่ทรงได้ทั้งวันเลยค่ะ
เพื่อน ๆ คนไหนที่มีปัญหาผมชี้ฟู ผมเสียจากการทำสีผม จำเป็นต้องรีบเติมสารอาหารแก่เส้นผมโดยด่วน หากเพื่อน ๆ คนไหนกำลังมองหา ทรีทเม้นท์ผม ยี่ห้อไหนดี มิสซี่แนะนำให้เพื่อน ๆ ลองใช้ตัวนี้ดูค่า
ปริมาณ 500 กรัม : ราคา 127 บาท (ตกกรัมละ 0.25 บาท)
จุดเด่น | เนื้อครีมมีความนุ่ม แทรกซึมเข้าเส้นผมได้ไว ใช้เวลาในการบำรุงไม่นาน ใช้แทนครีมนวดผมได้ เหมาะกับทุกสภาพเส้นผม |
ส่วนผสมบำรุงผม | Jojoba oil / Silk protein / Glycerin |
เหมาะกับสภาพผม | ผมแห้งเสีย ชี้ฟู |
3.ทรีทเม้นท์บำรุงผม สารสกัดจากธรรมชาติที่ดีที่สุด : Nigao Hair Treatment Guardian
ราคา 450 บาท
ข้อดี
+ สกัดจากธรรมชาติ
+ มีทั้งขนาดซองและขนาดขวด
+ เหมาะสำหรับผมทำสี
ข้อควรพิจารณา
– ไม่มีจำหน่ายในร้านทั่วไป ต้องสั่งซื้อผ่านทาง Official Shop ออนไลน์
เป็นทรีทเม้นท์ผมอีกยี่ห้อ ที่คู่ควรสำหรับสาว ๆ ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผมจากการทำสี หรือบำรุงผมที่อ่อนแอ ทรีทเม้นท์ จากแบรนด์ Nigao ตัวนี้ช่วยบำรุงเส้นผมที่มีปัญหาเหล่านี้ได้เป็นอย่างดีค่ะ
ทรีทเม้นท์ยี่ห้อนี้ ตอบโจทย์สาว ๆ ที่ผมเสียจากการทำสีผม หรือผมได้รับสารเคมีบ่อย ทรีทเม้นท์ตัวนี้สกัดจากธรรมชาติ ช่วยฟื้นฟูให้ผมนุ่มสวยได้อีกครั้ง แม้ว่าจะทำสีผมบ่อย ความดีงามอีกอย่างของทรีทเม้นท์ตัวนี้ คือ เนื้อครีมสามารถแทรกซึมเข้าสู่แกนชั้นในผม ทำให้เห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่แรกใช้ค่ะ
นอกจากนี้ ทรีทเม้นท์ตัวนี้ยังมี HVP (Hydrolyzed Vegetable Protein) หรือโปรตีนจากผัก ทำให้ปลอดภัยต่อการใช้งาน ดังนั้น เพื่อน ๆ ไว้วางใจเรื่องความปลอดภัยได้เลยค่ะ สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังมองหา ทรีทเม้นท์ผม ยี่ห้อไหนดี มาเป็นตัวช่วยในการ แก้ผมเสีย มิสซี่เชียร์ให้เพื่อน ๆ ไปตำทรีทเม้นท์ตัวนี้มาใช้ค่า
ปริมาณ 500 ml : ราคา 450 บาท (ตก ml ละ 0.9 บาท)
จุดเด่น | มีสารสกัดจากธรรมชาติ ออกแบบมาเพื่อบำรุงผมเสียจากสารเคมีโดยเฉพาะ เห็นผลตั้งแต่ใช้ครั้งแรก |
ส่วนผสมบำรุงผม | Hydrolyzed Vegetable Protein / ถั่วเหลือง / ข้าวสาลี / ข้าวโพด |
เหมาะกับสภาพผม | ผมแห้งเสีย ผมที่ทำสี ยืด และดัดบ่อย |
4. ทรีทเม้นท์บำรุงผม รีวิวเยอะที่ดีที่สุด : Pantene Collagen Repair
ราคา 179 บาท
ข้อดี
+ ใช้เวลาบำรุงไม่นาน
+ ผมนุ่มลื่นตั้งแต่แรกใช้
+ แบรนด์ดัง หาซื้อง่าย
ข้อควรพิจารณา
– ต้องใช้เวลาบำรุงสักระยะ สำหรับผมแห้งเสียมาก
ทรีทเม้นท์บำรุงผม ที่รีวิวเยอะ หลายคนรู้จักเป็นอย่างดี ต้องยกให้ตัวนี้เลยค่ะ ทรีทเม้นท์ Pantene สูตรนี้ ออกแบบมาสำหรับเพื่อน ๆ ที่ต้องการความสะดวก และรวดเร็วในการบำรุงผมค่ะ ใช้เวลาบำรุงเพียง 5 นาที สัปดาห์ละครั้ง แต่ได้ผลลัพธ์ผมที่สวยกว่าเดิมค่ะ ทรีทเม้นท์รุ่นนี้มีคุณสมบัติในการเปลี่ยนผมแห้งเสีย หรือผมเปราะบาง ให้กลายเป็นผมสุขภาพดี เส้นผมนุ่มขึ้น จากสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการบำรุงเส้นผม ถือว่าเป็นสูตรพิเศษโดยเฉพาะของแพนทีนเลยค่ะ
ความพิเศษของทรีทเม้นท์บำรุงผมเสียยี่ห้อนี้ คือ การเสริมด้วยคอลลาเจน ทำให้เส้นผมที่เปราะบาง กลับมาหนานุ่ม ดูสุขภาพดีกว่าเดิม โดยรวมแล้วถือว่าเป็นทรีทเม้นท์ที่น่าใช้มากเลยค่ะ กลิ่นหอมติดทนนาน เนื้อครีมล้างออกง่าย สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่กำลังเลือกซื้อ ทรีทเม้นท์ผม ยี่ห้อไหนดี ที่บำรุงไม่นาน แต่ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ มิสซี่แนะนำทรีทเม้นท์ผมตัวนี้ค่า
ปริมาณ 170 ml : ราคา 179 บาท (ตก ml ละ 1.05 บาท)
จุดเด่น | เป็นสูตรพิเศษในการบำรุงเส้นผม ตัวทรีทเม้นท์มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ล้างออกง่าย เพิ่มสารบำรุงที่ดีต่อการฟื้นฟูผม |
ส่วนผสมบำรุงผม | คอลลาเจน |
เหมาะกับสภาพผม | ผมแห้งเสีย |
5. ทรีทเม้นท์บำรุงผม สกัดจากทองคำที่ดีที่สุด : Bio Extra Super Cream Gold Treatment
ราคา 150 บาท
ข้อดี
+ เส้นผมมีความชุ่มชื้นมากขึ้น
+ มีเคราตินบำรุงผม
ข้อควรพิจารณา
– ไม่มีร้าน Official ต้องเลือกร้านออนไลน์ดี ๆ
มาต่อกันที่ทรีทเม้นท์ผม เคราติน สูตรสีทองจากแบรนด์ Bio Super Treatment เป็นสูตรที่สกัดจากสารสกัดทองคำ เคราติน และเซราไมด์ อันมีส่วนช่วยให้เคราตินเรียงตัวกันเป็นอย่างดี และไม่ทำให้หนังศีรษะระคายเคือง เมื่อบำรุงผมด้วยทรีทเม้นท์ตัวนี้ จะรู้สึกถึงถึงความนุ่มของเนื้อสัมผัส และตัวทรีทเม้นท์จะทำงานโดยเก็บความชุ่มชื้นไว้ให้กับเส้นผม
ทรีทเม้นท์ตัวนี้ตอบโจทย์เพื่อน ๆ ที่ผมเสียจากการทำเคมี ทำให้เส้นผมกลับมามีน้ำหนัก นุ่มลื่น และเงางาม แก้ผมชี้ฟู กลิ่นหอมติดทนนาน ใช้แล้วมั่นใจในสุขภาพผมค่ะ เพราะผมนุ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อใช้บำรุงอย่างต่อเนื่อง สาว ๆ คนไหนที่เส้นผมขาดการบำรุงจนต้องหามองหา ทรีทเม้นท์ผม ยี่ห้อไหนดี มิสซี่เชียร์ให้เพื่อน ๆ ไปลองใช้ทรีทเม้นท์สูตรนี้กันดูค่า
ปริมาณ 500 ml : ราคา 150 บาท (ตก ml ละ 0.3 บาท)
จุดเด่น | เคลือบผมแห้งเสียจากการทำสี ผมเรียงเส้นกันมากขึ้น ผมนุ่มขึ้น ชี้ฟูน้อยลง |
ส่วนผสมบำรุงผม | สารสกัดจากทองคำ / เซราไมด์ / เคราติน |
เหมาะกับสภาพผม | ผมแห้งเสีย ชี้ฟู |
6. ทรีทเม้นท์บำรุงผม สกัดจากมะพร้าวที่ดีที่สุด : Tropicana Coconut Hair Mask
ราคา 290 บาท
ข้อดี
+ ไม่มีพาราเบน
+ แบรนด์ไทย คุณภาพสูง
+ เห็นผลตั้งแต่แรกใช้
ข้อควรพิจารณา
– กระปุกเล็ก ปริมาณค่อนข้างน้อย
ทรีทเม้นท์มะพร้าว ที่หลายคนกำลังมองหา ทรีทเม้นท์จากแบรนด์ Tropicana สกัดจากมะพร้าวแท้ ๆ เป็นผลผลิตจากเกษตรกร ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมแบรนด์ของคนไทย ที่ผลิตออกมาอย่างเข้าใจสุขภาพผม ราคาย่อมเยา มีคุณสมบัติช่วยให้เส้นผมมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น บำรุงให้ผมสวยเงางาม ผมหวีง่าย ไม่พันกัน
ความดีงามของทรีทเม้นท์ตัวนี้ คือ สกัดจากมะพร้าว มีส่วนผสมของน้ำมันอาร์แกน และอุดมไปด้วยวิตามินอี ซึ่งช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ และทำให้เส้นผมเติบโตอย่างแข็งแรง เพื่อน ๆ คนไหนที่ชอบทำสีผม มิสซี่ต้องบอกเลยว่าทรีทเม้นท์ตัวนี้เอาอยู่ค่า คุณภาพตรงปกสุด ๆ เลยทีเดียว
ที่น่าประทับใจอีกอย่าง คือ นอกจากการสกัดจากธรรมชาติแล้ว ทรีทเม้นท์ตัวนี้ไม่มีพาราเบน ซึ่งเป็นสารกันเสียชนิดหนึ่งที่ควรหลีกเลี่ยง ถือว่าทางแบรนด์ได้ตระหนักถึงความปลอดภัยของผู้บริโภคจริง ๆ หากเพื่อน ๆ คนไหนที่กำลังลังเลว่า ทรีทเม้นท์ผม ยี่ห้อไหนดี ที่บำรุงผมอย่างเป็นธรรมชาติ มิสซี่แนะนำให้เพื่อน ๆ ไปลองใช้ทรีทเม้นท์ตัวนี้กันดูค่า
ปริมาณ 250 g : ราคา 290 บาท (ตกกรัมละ 1.16 บาท)
จุดเด่น | สกัดจากธรรมชาติ มีสารอาหารที่จำเป็นต่อการบำรุงผม ล้างออกง่าย ไม่มีสารพาราเบน หรือสารที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ราคาถูก |
ส่วนผสมบำรุงผม | น้ำมันมะพร้าว / น้ำมันอาร์แกน |
เหมาะกับสภาพผม | ผมแห้งเสีย ผมแตกปลาย |
7. ทรีทเม้นท์บำรุงผม แก้ผมร่วงที่ดีที่สุด : AloEx Natural Hair Mask
ราคา 399 บาท
ข้อดี
+ ไม่มีสารที่อันตราย
+ ช่วยบำรุงหนังศีรษะ
+ มีความออร์แกนิค
ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างแรง เมื่อเทียบกับปริมาณ
ทรีทเม้นท์บำรุงผมตัวนี้ เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่กำลังมองหาทรีทเม้นท์แก้ผมร่วง ด้วยส่วนผสมจากน้ำมันหอมระเหย เลมอน ลาเวนเดอร์ ทำให้เส้นผมมีความชุ่มชื้น ช่วยบำรุงเส้นผม และหนังศีรษะให้แข็งแรง และลดการหลุดร่วงได้ในที่สุด
นอกจากนี้ ทรีทเม้นท์บำรุงผม AloEx ยังมีความออร์แกนิค มั่นใจได้เรื่องความปลอดภัยได้เลยค่ะ เพราะมีสารสกัดจากข้าวเหนียวดำ เซลล์ผมทำงานได้ดีขึ้น ส่งผลให้ผมยาวไวขึ้นค่ะ
แบรนด์นี้ไม่ใส่สารที่อาจก่ออันตรายแก่ร่างกายอย่าง พาราเบน ซิลิโคน แอลกอฮอล์ น้ำหอม และสาร SLS ถือว่าเป็นทรีทเม้นท์ที่ช่วยเรื่องผมร่วงได้ดี และไม่ต้องกังวลเรื่องสารเคมีเลยค่ะ
เพื่อน ๆ ที่มีปัญหาผมร่วง มิสซี่คิดว่าทรีทเม้นท์ยี่ห้อนี้ตอบโจทย์มากเลยค่ะ เมื่อใช้แล้วผมร่วงน้อยลง ตัวทรีทเม้นท์มีความอ่อนโยน แถมยังพบว่าอาการคันหนังศีรษะน้อยลงอีกด้วยค่ะ หากเพื่อน ๆ กำลังตัดสินใจว่าจะซื้อ ทรีทเม้นท์ผม ยี่ห้อไหนดี ที่แก้ผมร่วง และส่วนผสมมีความออร์แกนิค มิสซี่เชียร์ให้เพื่อน ๆ ลองบำรุงผมด้วยทรีทเม้นท์ตัวนี้ค่ะ
ปริมาณ 200 g : ราคา 399 บาท (ตกกรัมละ 1.9 บาท)
จุดเด่น | มีความออร์แกนิค สกัดจากสมุนไพรหลายชนิด ไม่มีส่วนผสมของพาราเบน ซิลิโคน น้ำหอม และสารลดแรงตึงผิว |
ส่วนผสมบำรุงผม | Oryza Sativa Extract / Lemon Lavender Oil / Rosmarinus Officinalis (Rosemary) Leaf Extract / Chamomilla Recutita Flower Extract |
เหมาะกับสภาพผม | ผมขาดหลุดร่วง |
8. ทรีทเม้นท์ผม บำรุงผมตรงที่ดีที่สุด : Dove Intense Repair Treatment Mask
ราคา 159 บาท
ข้อดี
+ หาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาเก็ต ร้านสะดวกซื้อทั่วไป
+ ผมนุ่มขึ้นจริง
+ ผมที่ดัดอยู่ทรงได้นาน
ข้อควรพิจารณา
– ค่อนข้างล้างออกยาก
ทรีทเม้นท์บำรุงผม จากแบรนด์ Dove ที่ได้รับการยอมรับด้านการบำรุง และดูแลเส้นผม หากเพื่อน ๆ กำลังมองหาทรีทเม้นท์ที่ตอบโจทย์ผมดัด หรือผมทำสีบ่อยที่ต้องการบำรุง ต้องเป็นตัวนี้เลยค่ะ เป็นทรีทเม้นท์เคราตินที่ราคาถูก หาซื้อได้ง่าย แต่คุณภาพเกินราคาค่า
ทรีทเม้นท์สูตรนี้มีความพิเศษในการบำรุง คือ ช่วยฟื้นฟูผมที่ดัด และทำสีบ่อย เมื่อได้ลองใช้แล้วพบว่าผมหยุดชี้ฟูนานหลายชั่วโมง เป็นการบำรุงผมอย่างล้ำลึก เนื่องจาก ส่วนผสมจากน้ำมันดอกทานตะวัน มีสรรพคุณเพิ่มความชุ่มชื่นแก่เส้นผม และทำให้ผมสวยเงางาม อีกทั้งมีเคราติน ทำให้เส้นผมแข็งแรงมากขึ้น เมื่อออกไปข้างนอก ก็ไม่ต้องกลัวว่าผมจะเปลี่ยนทรง เพราะเคราตินมีคุณสมบัติปกป้องเส้นผมจากรังสี UV จึงมั่นใจได้เลยว่าผมจะอยู่ทรงได้นานค่ะ
เพื่อน ๆ คนไหนที่โปรดปรานการดัดผมอยู่บ่อย ๆ ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทรีทเม้นท์ผมนะคะ เพราะนอกจากจะช่วยจัดทรงให้อยู่ได้นานแล้ว ยังช่วยบำรุง และฟื้นฟูให้ผมมีสุขภาพดีอยู่เสมอ หากเพื่อน ๆ กำลังอ่านรีวิวทรีทเม้นท์ผม และกำลังมองหาว่าจะใช้ ทรีทเม้นท์ผม ยี่ห้อไหนดี มิสซี่เชียร์ให้เพื่อน ๆ ไปสอยตัวนี้มาใช้กันค่า
ปริมาณ 180 ml : ราคา 159 บาท (ตก ml ละ 0.88 บาท)
จุดเด่น | เส้นผมมีน้ำหนัก ไม่พันกัน จัดทรงได้ง่าย ผมอยู่ทรงได้นาน |
ส่วนผสมบำรุงผม | เคราติน น้ำมันเมล็ดทานตะวัน |
เหมาะกับสภาพผม | ผมแห้งเสีย ชี้ฟู |
9. ทรีทเม้นท์บำรุงผม แก้ผมช็อตที่ดีที่สุด : Joico K – PAK Deep Treatment
ราคา 900 บาท
ข้อดี
+ แก้ผมช็อตได้ดี
+ เส้นผมเนียนเรียบขึ้น
ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างสูง
ทรีทเม้นท์ Joico ตัวนี้ เป็นทรีทเม้นท์แก้ผมช็อต มีส่วนผสมของเคราติน ทำให้บำรุงลึกถึงภายในเส้นผม เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ต้องการตัวบำรุงผมเสียจากเคมี การดัดผม หรือการยืดผมค่ะ ทรีทเม้นท์บำรุงผมตัวนี้อ่อนโยนต่อผมช็อต ผมเสียแตกปลาย ช่วยทดแทนเคราตินในเส้นผมที่ถูกทำลาย
ในวิธีการบำรุงนั้น ทำได้ง่าย ๆ เลยค่ะ เพียงแค่ใช้ลูบไล้ให้ทั่วผม บำรุงทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที ทรีทเม้นท์ตัวนี้สามารถใช้โดยไม่ต้องอบไอน้ำ หรือใช้ความร้อน เนื่องทั้งสองอย่างนี้เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดผมเสียได้ง่ายค่ะ หากบำรุงอย่างถูกวิธี ก็จะฟื้นฟูสภาพผม สร้างความยืดหยุ่นให้แก่ผม และแก้ผมช็อตได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
เพื่อน ๆ คนไหนที่พบปัญหาผมช็อต มิสซี่แนะนำว่าควรงดทำสีผม และใช้ความร้อนกับเส้นผมค่ะ และที่สำคัญ คือ ควรบำรุงผมด้วยทรีทเม้นท์เป็นประจำ การแก้ผมช็อตจำเป็นต้องใช้เวลา หากฟื้นฟู และบำรุงด้วยทรีทเม้นท์ Joico ก็ช่วยฟื้นฟูผมช็อตให้กลับมาสุขภาพดีได้ค่ะ เพื่อน ๆ ที่กำลังเลือกซื้อ ทรีทเม้นผม ยี่ห้อไหนดี ที่แก้ผมช็อตได้จริง มิสซี่แนะนำให้เพื่อน ๆ บำรุงด้วยทรีทเม้นท์ตัวนี้ค่า
ปริมาณ 250 ml : ราคา 900 บาท (ตก ml ละ 3.6 บาท)
จุดเด่น | บำรุงลึกถึงแกนผม สุขภาพผมดีขึ้นทันทีที่ใช้ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแก่เส้นผม |
ส่วนผสมบำรุงผม | เคราติน |
เหมาะกับสภาพผม | ผมช็อต ผมเสียจากสารเคมี |
10. ทรีทเม้นท์บำรุงผม แบรนด์เกาหลีที่ดีที่สุด : MISE EN SCENE Perfect Treatment
ราคา 420 บาท
ข้อดี
+ บำรุงตามปัญหาเส้นผม
+ มีรีวิวเยอะ เป็นที่รู้จักในแวดวงช่างทำผม
ข้อควรพิจารณา
– ต้องใช้ต่อเนื่อง ถึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
มาถึงทรีทเม้นท์ตัวสุดท้ายค่ะ เป็นทรีทเม้นท์ผมเกาหลี จากแบรนด์ Mise En Scene เป็นแบรนด์เกาหลีชื่อดังที่มีผลิตภัณฑ์ เพื่อเส้นผมมากมาย ทางแบรนด์ได้ทำออกมาถึง 4 สูตร เพื่อน ๆ สามารถเลือกบำรุงได้ตามสภาพผมได้เลยค่ะ โดยแต่ละสูตร ได้แก่ สูตร Original สูตร Aging Care สูตร Damage Care และสูตร Shine Care โดยรวมแล้วทรีทเม้นท์แต่ละสูตรจะมีความนุ่มลื่น เมื่อใช้หมักผมแล้ว จะรู้สึกได้ว่าผมหวีง่ายขึ้น ไม่พันกันเลยค่ะ
สูตร Original เหมาะสำหรับเพื่อน ๆ ที่ต้องการบำรุงโดยทั่วไป เช่น ฟื้นฟูผมเสีย แก้ผมแตกปลาย ผมมีความเงางามมากขึ้น แถมยังหวีง่ายไม่พันกันค่ะ สำหรับสูตร Aging Care เป็นสูตรที่ตอบโจทย์คนที่มีปัญหาผมขาดร่วงค่ะ เมื่อใช้แล้วผมดูหนา และมีน้ำหนักมากขึ้นอีกด้วยค่ะ ส่วนสูตร Damage Care จะเป็นทรีทเม้นท์สําหรับผมยืด ดัด หรือผมทำสี เนื่องจากผมที่ถูกความร้อนหรือสารเคมี จะมีความเสียหายกว่าผมปกติทั่วไป จึงจำเป็นต้องได้รับการบำรุงผมที่เข้มข้น และสุดท้าย คือ สูตร Shine Care เมื่อใช้บำรุงแล้ว ผมเงางามอย่างเป็นธรรมชาติ
เมื่อทดลองใช้แต่ละสูตรแล้วผลลัพธ์ออกมาน่าพึงพอใจค่ะ ด้วยความที่คนเรามีปัญหาเส้นผมที่แตกต่างกัน โดยอาจเกิดจากสภาพอากาศ มลพิษในชีวิตประจำวัน หรือกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทำร้ายสุขภาพผมของผู้คน ถือว่าแบรนด์ Mise En Scene ได้ทำออกมาดีมากเลยค่ะ เพราะได้เจาะจงถึงปัญหาของเส้นผมจริง ๆ หากสาว ๆ กำลังมอง ทรีทเม้นท์ผม ยี่ห้อไหนดี มิสซี่เชียร์ให้เพื่อน ๆ ไปลองทรีทเม้นท์จากแบรนด์นี้ดูค่า
ปริมาณ 330 ml : ราคา 420 บาท (ตก ml ละ 1.27 บาท)
จุดเด่น | มีหลายสูตร มีให้เลือกทุกสภาพผม บำรุงตรงจุด |
ส่วนผสมบำรุงผม | สกัดจากน้ำมันธรรมชาติ |
เหมาะกับสภาพผม | ผมแห้งเสีย ชี้ฟู |
วิธีเลือก “ทรีทเม้นท์ผม”
วิธีเลือก ทรีทเม้นท์ผม ยี่ห้อไหนดี เพื่อให้บำรุงได้ผลที่สุด ต้องเลือกจากสภาพเส้นผมของตัวเองค่ะ
- ผมบาง
สาว ๆ คนไหนที่ประสบปัญหาผมบาง ไม่ควรใช้ทรีทเม้นท์ที่มีเนื้อครีมหนา หรือเข้มข้นเกินไป ควรเลือกใช้ทรีทเม้นท์ที่ให้ความชุ่มชื้น และมีน้ำหนักเบาค่ะ โดยอาจเลือกจากทรีทเม้นท์ที่มีส่วนผสมของ น้ำมันโจโจ้บา น้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันอัลมอนด์ ซึ่งส่วนผสมดังกล่าวมีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูเส้นผมที่บางได้ค่ะ
- ผมหยาบกระด้าง
สำหรับสาว ๆ ที่มีผมหยาบกระด้าง ควรเช็คก่อนเลยค่ะ ว่าผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมตอนนี้ มีเป็นเนื้อซิลิโคนหรือไม่ เพราะซิลิโคนในผลิตภัณฑ์บำรุงผมทำให้ผมเรียบแบน และดูดซับสารบำรุงที่จำเป็นต่อเส้นผมได้น้อยลง และเมื่อใช้ไปนาน ๆ อาจทำให้ผมร่วงได้ เพราะเซลล์ผมทำงานผิดปกติ ดังนั้น ผมหยาบกระด้างควรเลือกใช้ทรีทเม้นท์บำรุงผม ที่เนื้อทรีทเม้นท์เข้มข้น หรือมีส่วนผสมต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อเส้นผมหยาบกระด้าง อันเป็นส่วนผสมที่ทำให้ผมนุ่มขึ้น เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันอัลมอนด์ อะโวคาโด หรือเชียบัตเตอร์ เป็นต้น
- ผมแห้งเสีย
ปัญหาผมแห้งเสีย ผมมีความเปราะบาง และขาดความชุ่มชื้น อาจมีสาเหตุมาจากการใช้ความร้อนกับผมมากเกินไป ควรเลือกใช้ทรีทเม้นท์บำรุงผมที่มีสารสกัดจากธรรมชาติอย่างน้ำมันจากผลไม้ หรือเสริมด้วยโปรตีนเคราติน กรดไฮยาลูโรนิก เชียบัตเตอร์ ซึ่งจะช่วยซ่อมแซมผม ทำให้ผมมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
- ผมทำสี
ผมทำสี มักจะมีลักษณะที่ขาดน้ำ จำเป็นต้องได้รับการบำรุงด้วยทรีทเม้นท์อย่างสม่ำเสมอ ควรเลือกใช้ทรีทเม้นท์ที่มีส่วนผสมสกัดมาจากธรรมชาติ หรือมีส่วนผสมของมะกอก หรือเชียบัตเตอร์ ซึ่งผลไม้ทั้งสองชนิดนี้ มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ มีวิตามิน และแร่ธาตุ ที่จำเป็นต่อการบำรุงผมทำสี
หวังว่าเพื่อน ๆ คงได้ไอเดียการเลือกซื้อ ทรีทเม้นท์ผม ยี่ห้อไหนดี กันแล้วนะคะ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับทรีทเม้นท์ผม
ทรีทเม้นท์ผม ใช้ยังไง?
ทรีทเม้นท์ผม มีวิธีใช้ง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้ที่บ้าน ดังนี้
ขั้นตอนแรก หลังจากสระผม นวดผมด้วยคอนดิชั่นเนอร์ บำรุงผมด้วยทรีทเม้นท์ตรงบริเวณกลางเส้นผม ชโลมไปจนถึงปลายเส้นผม ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที แล้วล้างออก โดยใช้บำรุงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
ทรีทเม้นท์ผม ใช้ดีไหม?
ทรีทเม้นท์ผม ใช้ดีค่ะ เป็นตัวช่วยที่ป้องกันผมเสีย เมื่อบำรุงด้วยทรีทเม้นท์ผม ตัวทรีทเม้นท์จะแทรกซึมเข้าสู่หนังศีรษะ เส้นผมมีความชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น หากผมขาดความชุ่มชื้น อาจส่งผลให้เกิดรังแคและผมแตกหักได้ นอกจากนี้ การใช้ทรีทเม้นท์ผม ทำให้ผมมีน้ำมันมากขึ้น และโปรตีนในทรีทเม้นท์จะสร้างความแข็งแรง เพิ่มความยืดหยุ่นให้เส้นผมได้ การใช้ทรีทเม้นท์จึงทำให้ลดปัญหาผมหลุดร่วง แตกปลาย ผมแห้งเสีย และปัญหาผมเสียอื่น ๆ ได้
ทรีทเม้นท์ผม ใช้บ่อยแค่ไหน?
ทรีทเม้นท์ผม ใช้บำรุง 1-2 ครั้ง ต่อสัปดาห์ โดยบำรุงทิ้งไว้ 5-10 นาที ในกรณีที่ผมเสียมาก สามารถใช้บำรุงได้ทุกวันค่ะ
ทรีทเม้นท์ผม ซื้อที่ไหน?
เพื่อน ๆ ที่กำลังมองหาทรีทเม้นท์ผม สามารถหาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อ หรือซุปเปอร์มาเก็ตใกล้บ้านค่ะ หรือช่องทางออนไลน์ สามารถหาซื้อได้ที่
– Shopee
– Lazada
ช่องทางสั่งซื้อออนไลน์เลยค่ะ เพียงแค่สั่งซื้อ และรอรับสินค้าอยู่ที่บ้าน เพื่อน ๆ สามารถสั่งซื้อทรีทเม้นท์ผมได้ง่าย ๆ จากช่องทางดังกล่าวได้เลยค่ะ
ดังนั้น ทรีทเม้นท์บำรุงผม ก็เป็นอีกหนึ่งไอเทม ที่จำเป็นต่อตัวเรามาก ๆ ค่ะ สำหรับคนที่ประสบปัญหาผมเสีย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผมของเพื่อน ๆ บางคนอาจจะไม่ได้ทำสีผม หรือใช้ความร้อนกับเส้นผม แต่ในหนึ่งวัน เราออกไปใช้ชีวิต ทำกิจกรรมนอกบ้านมากมาย อาจเจอความร้อน และแสงแดดอาจทำลายเส้นผม ทำให้เส้นผมหยาบกร้านได้ หากบำรุงเส้นผมไม่ทั่วถึง หรือละเลยการบำรุง ก็อาจเกิดปัญหาเส้นผมตามมาได้
ดังนั้น มิสซี่จึงอยากแนะนำให้เพื่อน ๆ ศึกษาจากรีวิว ทรีทเม้นท์ผม ยี่ห้อไหนดี และหันมาบำรุงเส้นผมด้วยทรีทเม้นท์ เพื่อให้ผมมีสุขภาพที่ดีและเงางามค่ะ
อ้างอิง
https://www.healthline.com/health/keratin-treatment-pros-and-cons