การดูแลทรงผมเป็นสิ่งหนึ่งที่บ่งบอกถึงบุคลิกของสาวๆ ได้อย่างดีเลยค่ะ ไม่ว่าคุณจะอยู่บ้าน หรือออกไปทำงานที่มีความจำเป็นหรือไม่จำเป็นไปพบคนสำคัญก็ตาม ทรงผมของคุณจะช่วยทำให้เราดูดีขึ้นได้
การทำผมของสาวๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญมากค่ะ แต่จะให้เข้าร้านทำผมทุกวัน มิสซี่ว่าคงไม่ไหวแน่ และเชื่อว่าไอเทมที่หลายคนมีสำหรับทำผมในวันง่ายๆ คงไม่พ้น เครื่องม้วนผม, ไดร์เป่าผม, ที่หนีบผมอย่างแน่นอน แต่นอกจากนี้แล้วมิสซี่ยังมีอีกหนึ่งไอเทมที่ใช้ง่ายกว่านี้อีก นั่นคือ หวีไฟฟ้าที่สามารถใช้ยืดผมตรง ม้วนผมลอนก็ทำได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก
วันนี้มิสซี่เลยจะมาทำความรู้จักกับหวีไฟฟ้า พร้อมวิธีใช้งานง่ายๆ นะคะ พร้อมแล้วไปอ่าน รีวิว 10 หวีไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี หวีผมตรงสวย ลดฟู และไม่กินผมกันเลยดีกว่าค่ะ
TOP 3 หวีไฟฟ้าที่ดีที่สุด
#1 Dyson Airwrap ™ Hair Multi-styler Complete Long (Fuchsia/Nickel)
ราคา 21,900 บาท
#2 Lesasha Double Ionic Straight Brush LS1368
ราคา 2,390 บาท
#3 Philips Heated Straightening Brush
ราคา 1,690 บาท
มาทำความรู้จัก หวีไฟฟ้า
หวีไฟฟ้า คือ หวียืดผมไฟฟ้า เป็นเครื่องมือจัดแต่งทรงผมที่ช่วยเปลี่ยนผมชี้ฟู ไร้ทรงให้เรียบตรง ผมเงางาม โดยปกติแล้วหวีไฟฟ้าจะมีลักษณะที่คล้ายกับหวีทั่วไป เพียงแค่หวีไฟฟ้าจะมีซี่ของแปรงที่มีความร้อน เพื่อช่วยจัดทรงผมของคุณให้ตอบโจทย์ในลุควันนั้นได้พอใจขึ้นนั่นเอง
หวีไฟฟ้าทำอะไรได้บ้าง
หวีไฟฟ้า มีคุณสมบัติหลักคือ
- ช่วยหวีผมตรง แต่ไม่ทำให้ผมแห้งเสีย
- ช่วยลดความเสียหายของเส้นผมมากกว่าที่หนีบผม หรืออุปกรณ์ทำความร้อนอื่นๆ
- ลดความชื้นบนเส้นผม สาเหตุของกลิ่นอับและทำลายสุขภาพผมโดยรวม
- ลดผมชี้ฟูจากไฟฟ้าสถิตได้
- ตอบโจทย์คนที่ไม่ถนัดใช้ที่หนีบผม แต่ต้องการผมเงาเรียบสวย
- ประหยัดเวลาจัดทรงผมได้มากกว่าการหนีบผม
- ม้วนลอนปลายผมตัว C ได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องพึ่งเครื่องม้วนผม
นอกจากนี้หวีไฟฟ้ามีหลายประเภท ทั้งแบบหวีแบบแบน และหวีแบบแกนม้วน ที่จะช่วยจัดทรงผมให้เป็นลอนสวย และไม่ชี้ฟู อยู่ทรง เป็นธรรมชาติมากขึ้นนั่นเอง
สาว ๆ คงอยากรู้ข้อแตกต่างระหว่างหวีไฟฟ้า กับอุปกรณ์ทำผมอื่น ๆ แล้วใช่ไหมคะ ว่าจะตำตัวไหนก่อนดี มิสซี่สรุปมาให้แล้วว่า…
- ถ้าเน้นประหยัดเวลา ให้ผมตรงเรียบ ลดฟู เหมาะกับใช้ทุกวันโดยไม่ทำร้ายผม = หวีไฟฟ้า
- ถ้าต้องการผมเรียบตรง งานเป๊ะ อยู่ทรงนาน = เครื่องหนีบผม
- ถ้าอยากได้ลอนจริงจัง อยู่ทรงนานตลอดวัน ทำได้หลายลุค = เครื่องม้วนผม
- ถ้าชอบลอนกลางผมลงมาถึงปลาย ใช้งานง่าย = เครื่องม้วนผมอัตโนมัติ
จะเลือกซื้อ หวีไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี 2566
1. หวีไฟฟ้าโดยรวมที่ดีที่สุด : Dyson Airwrap ™ Hair Multi-styler Complete Long (Fuchsia/Nickel)
ราคา 21,900 บาท
ข้อดี
+ จัดแต่งที่หลากหลายทั้งเป่าผม ยืดผมตรง และลอนผม
+ มีระบบลมเย็น
+ ระบบไอออนประจุลบ ช่วยลดไฟฟ้าสถิตในเส้นผม
ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างสูง
หวีไฟฟ้า dyson ตัวดังที่ถูกการันตีจากสาวๆ ว่าเป็นหวีแปรงไฟฟ้าที่ดีที่สุด ออกแบบมาเพื่อให้สาวๆ อย่างเราสนุกกับการจัดแต่งทรงผมในแต่ละวันที่ดูดีไม่ซ้ำ จุดเด่นคือเป็นหวีไฟฟ้าไอออนลบ ช่วยลดไฟฟ้าสถิต ช่วยถนอมเส้นผม และสามารถปรับระดับความร้อนได้ทั้ง 3 ระดับ
ที่สำคัญในเซตนี้มีหัวแปรงให้ใช้ถึง 6 ชิ้น! ทำได้ทั้งไดร์เป่าผม เครื่องม้วนผม และหวีผมตรง แถมช่วยให้ผมมีวอลลุ่มสวยงาม ใครที่ผมหนายาวต้องลองไดร์ของไดสันเลยค่ะ แห้งเร็วม๊ากกกก ผมจะอยู่ทรงไม่ค่อยชี้ฟูแบบที่แตกต่างกับรุ่นอื่นจริงๆ ค่ะ
หวีไฟฟ้าไดสันคือใช้ได้ทุกสภาพผมเลยค่ะ ผมยาวหนาก็แห้งไว ผมสั้นก็ได้วอลลุ่มที่ดี ใครที่กำลังมองหาหวีไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี มิสซี่เชียร์รุ่นนี้ ยิ่งกว่าคุ้มค่ะ
ปริมาณ 6 ชิ้น : ราคา 21,900 บาท (ตกชิ้นละ 3,650 บาท)
จุดเด่น | มีอุปกรณ์จัดแต่งทรงผม 6 ชิ้น ทั้ง หัวเป่า, แกนม้วนผม, แปรงผมไฟฟ้า, แปรงกลมเพื่อสร้างวอลลุ่ม |
ฟังก์ชัน | – ระบบควบคุมความร้อนอัจฉริยะ – วัดอุณหภูมิได้ 40 ครั้งต่อวินาที – ป้องกันไม่ให้ความร้อนทำลายเส้นผม |
ปรับอุณหภูมิ | สูง ต่ำ และเป่าเย็น |
รับประกัน | 2 ปี |
2. หวีไฟฟ้าพกพาง่ายที่สุด : Lesasha Double Ionic Straight Brush LS1368
ราคา 2,390 บาท
ข้อดี
+ ช่วยลดความชี้ฟูของเส้นผม
+ เครื่องร้อนไว ผมตรงนาน
+ มีอาร์แกนออย์ช่วยถนอมเส้นผม
ข้อควรพิจารณา
– ตัวเครื่องหนักนิดหน่อย
รีวิวหวีไฟฟ้าอีกหนึ่งรุ่นของ lesasha ที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด เหมาะกับการพกพามากค่ะ ตัวทำความร้อนเป็นซี่หวีเคลือบทัวร์มาลีน ช่วยถนอมเส้นผม ไม่ทำให้ผมเสีย แถมใช้ง่ายมาก มือใหม่หัดใช้ก็ใช้ได้สบายค่ะ
ตัวเครื่องสามารถปรับความร้อนได้ 2 ระดับ ซึ่งใช้ได้กับทุกสภาพเส้นผมเลยนะคะ หากคุณมีผมที่หนา หรือหยักศกก็จะช่วยให้ดูเรียบ ตัวหวียืดผมให้ตรงมากขึ้นได้อย่างน่าประทับใจเลยค่ะ
ใครที่กำลังมองหาหวีไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี มิสซี่ว่าสายไปเที่ยวเหมาะแก่การพกไปใส่กระเป๋าไปทำทรงผมไม่ซ้ำกันไปเลยค่ะ
จุดเด่น | ซี่หวีเซรามิกเคลือยทัวร์มาลีน ช่วยให้ผมตรง เงางาม |
ฟังก์ชัน | – ปรับความร้อนได้ 2 ระดับ – ถนอมเส้นผมจากความร้อน เพราะหวีเซรามิกเคลือบทัวร์มารีนและอาร์แกนออยล์ |
ปรับอุณหภูมิ | 150-200 องศา |
รับประกัน | 1 ปี |
3. หวีไฟฟ้าหวีผมตรงที่ดีที่สุด : Philips Heated Straightening Brush
ราคา 1,690 บาท
ข้อดี
+ ใช้งานได้สะดวก รวดเร็วประหยัดเวลา
+ หวีผมตรง ตัวเครื่องร้อนเร็ว
+ หัวแปรงมีขนาดใหญ่ เหมาะกับคนผมหนา
ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างสูง
– ตัวหวีค่อนข้างหนัก
หวีแปรงไฟฟ้าที่เอาใจคนผมหนา ผมหยักศกต้องชอบแน่นอนค่ะ เพราะหวีไฟฟ้า philipsรุ่นนี้เขามีการเคลือบด้วยเซรามิคทัวร์มาลีน ทำให้ผมเงาเรียบลื่น ลดผมฟูได้แบบผมไม่เสียเลยค่ะ เทคโนโลยี ThermoProtect ช่วยควบคุมความร้อน ไม่ทำให้ผมได้รับความร้อนและแห้งเสีย ฉะนั้นผมหนาเอาอยู่ ไม่ไหม้ ไม่ช็อตด้วย นอกจากนี้ตัวขนแปรงมีการดีไซน์ออกมา 3 แบบให้ช่วยคลายเส้นผมที่พันกันได้อย่างนุ่มนวล ไม่กินผม
ส่วนเรื่องความปลอดภัยคือหายห่วง เพราะทางแบรนด์มีระบบตัดไฟอัตโนมัติมาให้ ถ้าวันไหนสาวรีบ หรือขี้หลงขี้ลืมว่าถอดปลั๊กหรือยังก็ไม่ต้องกลัวเลยค่ะ ใครที่กำลังมองหาหวีไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี ต้องหาซื้อแล้วไหม รีวิวแน่นขนาดนี้ ต้องจัดสักเครื่องแล้วค่ะ
จุดเด่น | ผมตรงสวยภายใน 5 นาที |
ฟังก์ชัน | – ระบบปิดเครื่องอัตโนมัติ – จอ LCD – สายไฟหมุน 360 องศา ยาวถึง 1.8 เมตร |
ปรับอุณหภูมิ | 170-200 องศาเซลเซียส |
รับประกัน | 2 ปี |
4. หวีไฟฟ้าไอออนลบที่ดีที่สุด : CoolAstyler หวีไฟฟ้า
ราคา 1,598 บาท
ข้อดี
+ สายหมุน 360 ไม่ปวดมือเลย
+ ร้อนไว ใช้งานง่าย ประหยัดเวลา
+ หวีผมได้แม้ขณะที่เส้นผมยังเปียกชื้นอยู่
ข้อควรพิจารณา
– คนผมแห้งมาก อาจยังมีความฟู เหมาะกับคนที่มีผมมีน้ำหนักมากกว่า
เครื่องหวีผมไฟฟ้าตัวดังเป็นกระแสอยู่พักใหญ่ มิสซี่เลยพามาเจาะความพิเศษของ หวีไฟฟ้า coolastyler รีวิวตัวนี้ว่าเด่นยังไงบ้างค่ะ ตัวเครื่องเป็นระบบประจุไอออนลบ และมี Essential Oil ที่ช่วยลดความชี้ฟูของเส้นผม นอกจากนี้ยังพิเศษตรงที่ใช้หวีได้ทั้งตอนผมเปียก และผมแห้ง ตัวอุณหภูมิก็สามารถปรับได้ 4 ระดับตามสภาพของเส้นผมด้วย
หากเพื่อนๆ คนไหนกำลังกังวลว่าหวีไฟฟ้าแบบนี้จะกินผมหรือไม่ มิสซี่บอกเลยว่ารุ่นนี้เขาใส่ใจขนาดที่ทำซี่ของหวีออกมาเป็นมุม 8 องศา ทำให้เพื่อนๆ หวีผมง่ายขึ้น ไม่กินผมชัวร์ค่ะ ใครที่กำลังมองหาหวีไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี มิสซี่ขอแนะนำหวีไฟฟ้า coolastyler รุ่นนี้ช่วยประหยัดเวลาให้สาวๆ ได้มากขึ้นแน่นอนค่ะ
จุดเด่น | ประจุไอออน 2 เท่า ช่วยลดไฟฟ้าสถิตไม่ทำให้ผมชี้ฟู |
ฟังก์ชัน | – ระบบปิดเครื่องอัตโนมัติ – ล็อกอุณหภูมิอัตโนมัติ |
ปรับอุณหภูมิ | 125-185 องศาเซลเซียส |
รับประกัน | 2 ปี |
5. หวีไฟฟ้า รีดผมตรงที่ดีที่สุด : Lesasha Double Amaze 2in1 Styler
ราคา 2,290 บาท
ข้อดี
+ ใช้งานง่าย จับถนัดมือ
+ ลอนม้วนสวยมาก ม้วนไม่ยาก
+ ร้อนเร็ว ปรับได้ 2 ระดับ
ข้อควรพิจารณา
– หากมีผมหนา ควรแบ่งช่อก่อนใช้งานจะดีสุด
มาต่อกันที่เครื่องทำผมยี่ห้อดังอย่างหวีไฟฟ้า lesasha ที่มียอดสั่งซื้อสูงมาก เพราะรุ่นนี้เป็น 2in1 จะมีความพิเศษคือ เป็นได้ทั้งที่หนีบผม และหวีไฟฟ้ารีดผมตรงค่ะ มาพร้อมกับฟังก์ชันปรับระดับความร้อนได้ 2 ระดับ เหมาะกับทุกสภาพเส้นผมทั้งหนาและบางก็ใช้ได้
และอีกหนึ่งจุดพิเศษ สำหรับการใช้หวีไฟฟ้าที่ดีกับผู้ใช้งานอย่างเราๆ นั่นคือหัวแปรงต้องไม่เป็นอันตรายกับเรา ในกรณีที่จับหมุนซ้าย หมุนขวาแล้วเผลอไปโดน เพราะรุ่นนี้เป็นหัวแปรง No-Burn Bristles ไม่ร้อนและไม่เป็นอันตรายต่อศีรษะค่ะ ใครที่กำลังมองหาหวีไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี มิสซี่ขอบอกเลยว่าหวีไฟฟ้า lesasha เครื่องนี้ตอบโจทย์แน่นอนค่ะ
จุดเด่น | เป็นได้ทั้งเครื่องหนีบและหวีไฟฟ้า |
ฟังก์ชัน | – หัวแปรง No-Burn Bristles ไม่เป็นอันตรายต่อศีรษะ – สายไฟหมุนได้ 360 องศา |
ปรับอุณหภูมิ | 200 องศาเซลเซียส |
รับประกัน | 2 ปี |
6. หวีไฟฟ้า ปรับอุณหภูมิได้ดีที่สุด : Haxon lonic Daily Brush
ราคา 999 บาท
ข้อดี
+ ตัวเครื่องร้อนไว ประหยัดเวลา
+ ใช้แล้วผมดูเข้าทรง สวยธรรมชาติสร้างมา
+ ปลอกแบบป้องกันการร้อนลวก
ข้อควรพิจารณา
– ไม่ค่อยเหมาะกับผมหนาฟูแห้งเสีย
– ตัวหวีมีแอบกินผมบ้างเล็กน้อย
หวีไฟฟ้ารุ่น S12 หลากสี รุ่นนี้บอกเลยไม่ธรรมดา ยี่ห้อน้องใหม่อย่างหวีไฟฟ้า haxon ก็ไม่พลาดที่ทำออกมาตีตลาดเด็กรุ่นใหม่ หรือคนที่ชอบความน่ารัก สีพาสเทลให้เลือกทั้งสีม่วง, สีชมพู, สีขาว, สีดำ, สีทอง และสีขาวทอง จุดเด่นนอกจากสีที่น่ารักจนใจเจ็บ ก็คือเลือกปรับอุณหภูมิได้ 16 ระดับ มีแถบจอ LCD ให้เห็นชัดๆ ไม่ต้องเดา แถมมีไอออนลบที่ช่วยถนอมเส้นผม ไม่ชี้ฟูภายใน 3 นาที
แถมมีไอออนลบบำรุงผม ไม่ต้องกังวลเรื่องผมแห้งเสียเลยค่ะ ผมไม่เสียแน่นอน ส่วนเรื่องระบบความปลอดภัยก็น่าสนใจ ตัวเครื่องจะปิดเองหากไม่มีการใช้งานใน 1 ชั่วโมง หายห่วงเลยค่ะ ถ้าเพื่อนๆ เป็นคนขี้ลืม ใครที่กำลังมองหาหวีไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี มิสซี่แนะนำเลยค่ะ ใช้ได้ทั้งผมสั้นผมยาวเลยล่ะ
จุดเด่น | หวีไฟฟ้า 2in1 เป็นได้ทั้งหวีไฟฟ้า และบำรุงผมด้วยไอออนลบ |
ฟังก์ชัน | – ระบบร้อนเร็วภายใน 20 วินาที – มือจับกันลื่น – จอ LCD – ควบคุมอุณหมูมิ 16 ระดับ – ปิดเครื่องอัตโนมัติ |
ปรับอุณหภูมิ | 80-230 องศา |
รับประกัน | 1 ปี |
7. หวีไดร์ผมไฟฟ้าที่ดีที่สุด : Lesasha Luxe Hybrid Hot Brush 500w รุ่น LS1379
ราคา 3,990 บาท
ข้อดี
+ ใช้ได้หลายแบบทั้งไดร์ หวี และยืดผม
+ ตัวเครื่องเบา ไม่หนักมือ
+ ฟังก์ชันปังสุดในหวีไฟฟ้าทุกรุ่นของเลอซาช่า
ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างสูง
– ด้ามมีขนาดใหญ่นิดหน่อย
สำหรับไดร์หวีผมไฟฟ้าเลอซาช่ารุ่นนี้ เรียกว่าครบจบในตัวเดียวเลยค่ะ เป็นหวีไดร์ผมไฟฟ้าแบบมัลติฟังก์ชัน ปรับได้ 3 โหมดตามต้องการ ทั้งไดร์เป่าผม หวีแปรงไฟฟ้า และรวมกันเป็นไดร์เป่าผมพร้อมหวีแปรงไฟฟ้า ทำให้ผมแห้งไว เข้าทรง ไม่ชี้ฟู นอกจากนี้รุ่นนี้ยังมี lonic ที่มีไอออนกว่า 20 ล้านตัว ลดความฟูของผม พร้อม Argen Oil ที่ช่วยถนอมเส้นผมให้ดูเงางาม
ที่สำคัญและคุ้มสุดคือ ใช้ได้กับทุกสภาพเส้นผม ผมเปียก ผมแห้งก็ใช้ได้หมด ไม่ร้อนเกินไปเท่าไดร์เป่าผมแรงๆ แถมจัดทรงง่าย ผมไม่ชี้ฟูด้วยค่ะ ใครที่กำลังมองหาหวีไดร์ผมเปียกแล้วกำลังเลือก หวีไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี มิสซี่บอกเลยว่ารุ่นนี้ตัวท็อป คุ้มมากค่ะ
จุดเด่น | หวียืดผมตรงแบบมัลติฟังก์ชัน ใช้ได้ทั้งยืด ไดร์ หวี |
ฟังก์ชัน | – อุณหภูมิสูงสุด 210 องศาในโหมดแปรงไฟฟ้า – ระบบไอออน ลดการชี้ฟูของเส้นผม |
ปรับอุณหภูมิ | 170-210 องศาเซลเซียส |
รับประกัน | 2 ปี |
8. หวีไฟฟ้าม้วนผมได้ดีที่สุด : Vivid&Vogue หวีไฟฟ้า 3In1
ราคา 2,000 บาท
ข้อดี
+ เครื่องร้อนไว ใน 45 วินาที
+ ใช้งานง่าย จับถนัดมือ
+ เหมาะกับการจัดผมหลายทรง
ข้อควรพิจารณา
– คนผมหนามาก ควรแบ่งช่อดีๆ
หวีไฟฟ้า vivi แบบ 3 in 1 เป็นได้ทั้งที่หนีบผม, ม้วนลอน, หวีแกนร้อน ครบในเครื่องเดียว และจุดเด่นของหวีไฟฟ้าแบรนด์นี้ เขาทำตัวแปรงหวีกันความร้อนแค่ 50 องศา ในขณะที่แกนหวีอุณหภูมิสูง เพื่อป้องกันการไหม้แขน เส้นผม หรือว่าเผลอไปโดนหน้า แถมให้อีกนิด รุ่นนี้จะมีปุ่มล็อกอุณหภูมิให้ด้วย เพื่อป้องกันเวลาเราเผลอไปโดนปุ่มแบบไม่ตั้งใจ
ขนาดของเครื่องไม่หนัก แถมจับถนัดมือ ตัวสายก็สามารถหมุนได้ 360 องศาเลยค่ะ สายไฟก็ยาว อยู่ไกลปลั๊กแค่ไหนก็ยังไหวอยู่นะ ใครที่กำลังมองหาหวีไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี มิสซี่ว่าด้วยราคาไม่แพง เหมาะกับผู้ลองใช้ แถมใช้ได้หลายทรง ยังไงก็มีแต่คุ้มค่ะ
จุดเด่น | ใช้ได้ทั้งลอนผม และหนีบตรง |
ฟังก์ชัน | -ระบบปิดเครื่องอัตโนมัติ -จอ LCD -ปรับระดับได้ 10 ระดับ |
ปรับอุณหภูมิ | 140-230 องศา |
รับประกัน | 1 ปี |
9. หวีไฟฟ้า ถูกและดีที่สุด : Gaabor Ceramic Electronic Hair Curl รุ่น GHC-N45A
ราคา 699 บาท
ข้อดี
+ ตัวเครื่องร้อนไว ไม่กินผม
+ จับถนัดมือ สายหมุนได้ 360 องศา
+ เหมาะกับการครีเอททรงผมได้ทุกวัน
ข้อควรพิจารณา
– หากผมหนาต้องใช้เวลาเยอะหน่อย
นอกจากหม้อทอดไร้น้ำมันที่ขายดีติดอับดับมาเยอะแล้ว แบรนด์นี้ก็ออกหวีไฟฟ้ามาด้วยค่ะ หวียืดผมตรงที่ครบจบในเครื่องเดียว ไม่ว่าจะเป็นหวีรีดผมตรง, ม้วนผมลอน, หรือทำวอลลุ่มก็เก๋ไม่ซ้ำใคร มิสซี่ว่ารุ่นนี้เหมาะกับมือใหม่ ใช้ทำผมออกมาได้หลายทรงไม่ซ้ำจำเจเลยค่ะ สามารถใช้ได้ทั้งผมตรงและผมหยักศกอีกด้วย
ตัวเครื่องร้อนไว แถมน้ำหนักเบาอีกด้วย ส่วนสายก็หมุนได้ 360 องศาไม่เกะกะค่ะ ใครที่กำลังมองหาหวีไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี บอกเลยห้ามพลาด เครื่องเล็ก สะดวกพกง่ายมากค่ะ
จุดเด่น | สามารถใช้ได้ทั้งผมม้วนลอนและผมยืดตรง |
ฟังก์ชัน | – ระบบปิดเครื่องอัตโนมัติ – ตะขอแขวนสำหรับจัดเก็บง่าย |
ปรับอุณหภูมิ | 200 องศาเซลเซียส |
รับประกัน | 1 ปี |
10. หวีไฟฟ้า หวีผมตรงดีที่สุด : Lesasha EZY Straight Brush รุ่น LS1152
ราคา 1,050 บาท
ข้อดี
+ ใช้งานง่าย ร้อนกำลังดี
+ ซี่หวีมีความหยืดหยุ่น สางผมไม่พันกัน
+ หวีได้ทั้งผมสั้น และยาว
ข้อควรพิจารณา
– ปรับอุณหภูมิไม่ได้
ตัวนี้เป็นอีกหนึ่งหวีไฟฟ้าขายดีของเลอซาช่าเลยค่ะ เพราะน้องเขาเป็นหวีไฟฟ้าราคาถูกและดี ไม่พอนะรุ่นนี้คือ สามารถใช้กับผมสั้น ผมยาวได้หมด ตัวแกนทำความร้อนเคลือบเซรามิก ตัวแกนร้อนไว ไม่กินผม เร่งแค่ไหนก็เอาอยู่ค่ะ
นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมีความกะทัดรัด พกพาง่าย ใครที่กำลังมองหาหวีไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี กำลังลังเลว่าหวีไฟฟ้า lesasha รุ่นไหนดี สายงบน้อย มือใหม่อยากลองแนะนำรุ่นนี้ แต่ถ้ามีงบขึ้นมาหน่อย มิสซี่ขอแนะนำรุ่นด้านบนที่ฟังก์ชันเยอะกว่าได้เลยค่ะ
จุดเด่น | เหมาะกับทั้งผมสั้น และผมยาว |
ฟังก์ชัน | – แกน และตัวซี่มีความหยืดหยุ่น ไม่ทำให้เส้นผมพันกัน – สายยาว 1.8 เมตร |
ปรับอุณหภูมิ | 200 องศา |
รับประกัน | 1 ปี |
วิธีเลือกซื้อ “หวีไฟฟ้า”
วิธีการเลือกซื้อหวีไฟฟ้าสมัยนี้ไม่ยากเลยค่ะ ถ้ารู้ 4 สิ่งนี้ วันนี้มิสซี่มีคำแนะนำที่คิดว่าเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ หรือว่าสาวๆ ที่เป็นมือใหม่หัดทำผมก็สามารถเลือกซื้อได้สบายๆ เลยค่ะ ว่าแต่จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย
เลือกหวีไฟฟ้าที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์การทำผมของเรา
ในวันที่เราเร่งรีบแล้วต้องการให้ผมเรียบตรง หรือวันที่ต้องการจัดแต่งทรงผมให้เป็นลอนสวยนั้นย่อมต่างกันแน่นอนใช่ไหมคะ ดังนั้นการเลือกหวีไฟฟ้าให้เข้ากับทรงผมจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องรู้ค่ะ มิสซี่ขอแยกออกง่ายๆ ดังนี้ค่ะ
- หวีไฟฟ้าแบบแกนม้วน จะเหมาะกับคนที่ชอบจัดแต่งทรงผมหลายๆ ทรงค่ะ เพราะหวีไฟฟ้าประเภทนี้จะมีหลายหัวแกนม้วนให้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็น หวีสร้างวอลลุ่ม, แกนม้วนลอนผม, หวีแปรงผมไฟฟ้า หรือในบางยี่ห้ออาจจะมีหัวแบบไดร์เป่าผมได้เช่นกันค่ะ ทำให้หวีไฟฟ้าแบบแกนม้วนเป็นที่นิยม แม้ว่าราคาต่อเซ็ตจะสูงกว่า แต่เมื่อเทียบกับคุณสมบัติแล้ว ถือว่าคุ้มค่ามากค่ะ
- หวีไฟฟ้าแบบแบน (แปรงพาย) จะมีลักษณะคล้ายกับหวีปกติเลย เพียงแต่จะเหมาะกับคนที่มีผมยาวประบ่า หรือผมยาวลงมามากกว่าผมสั้น เพราะหวีแบบแบนจะเหมาะกับการทำให้ผมเรียบตรง และไม่ชี้ฟู เพิ่มวอลลุ่มตรงปลายให้ดูเข้าทรงมากขึ้นด้วยค่ะ นอกจากนี้คือราคาน่ารัก และพกพาง่ายกว่าหวีไฟฟ้าแบบแกนม้วน ควรค่าแก่การครอบครองที่สุดค่ะ
เลือกหวีที่สามารถปรับระดับความร้อนได้
หวีไฟฟ้าที่ดีควรเลือกระดับความร้อนได้ เพื่อให้เราได้เบือกอุณหภูมิที่เหมาะกับสภาพเส้นผมของผู้ใช้ไม่ให้แห้งเสียจากความร้อนที่มากเกินไป หรือผมไม่เป็นไปตามทรงที่ต้องการเนื่องจากความร้อนไม่ถึงเกณฑ์นั่นเอง
- ผมเส้นหนา ใช้ความร้อนได้ไม่ควรเกิน 170 องศาเซลเซียส
- ผมเส้นเล็ก ใช้ความร้อนได้ไม่ควรเกิน 140 องศาเซลเซียส
- ผมปกติ ใช้ความร้อนได้ไม่ควรเกิน 160 องศาเซลเซียส
เลือกหวีไฟฟ้าที่ทำความร้อนได้เร็ว
การเลือกซื้อหวีไฟฟ้าก็เพราะใช้ในวันที่เร่งรีบ หรือวันที่ต้องการทำผมได้รวดเร็วที่สุด ดังนั้น หากคุณเลือกซื้อหวีไฟฟ้าที่ทำความร้อนได้ช้า อาจจะทำให้เราเสียเวลา และพลาดนัดสำคัญได้นะคะ
แปรงหวีผมไฟฟ้าที่ดีควรทำความร้อนได้ในเวลา 30-60 วินาทีเท่านั้น จะยิ่งช่วยให้คุณจัดแต่งทรงผมได้เร็วทันใจขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ
เลือกหวีไฟฟ้าที่จับถนัดมือ และมีวัสดุที่คงทนต่อความร้อนได้ดี
นอกจากความสำคัญในการเลือกตามไลฟ์สไตล์ผู้ใช้ หรือเลือกแบบปรับระดับความร้อนแล้ว อีก 2 สิ่งที่มองข้ามไม่ได้คือ ตัวด้ามจับของหวีไฟฟ้าค่ะ เพราะหวีไฟฟ้าจะต้องหวีจากโคนผมเลย ดังนั้นสาวๆ ต้องเลือกหวีไฟฟ้าที่เข้าถึงจุดที่เข้าถึงได้ยาก จะทำให้สาวๆ ใช้งานง่ายขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ
และที่สำคัญคือวัสดุของหวีไฟฟ้า มิสซี่ขอแนะนำวัสดุไทเทเนียม หรือไฮบริดค่ะ สิ่งเหล่านี้จะช่วยดูดซับความร้อนได้ดี ไม่ทำให้ผมแห้งเสีย ปลอดภัยระดับหนึ่งเลยค่ะ
วิธีใช้ หวีไฟฟ้า
การใช้หวีไฟฟ้าง่าย และสะดวกกับวันที่เร่งรีบของสาวๆ หรือผู้ที่ต้องการจัดแต่งทรงผมใหม่ๆ ได้ดีเยี่ยมมากค่ะ วันนี้มิสซี่นำวิธีใช้งาน 5 ขั้นตอนง่ายๆ มือใหม่ก็สามารถใช้ได้ ไม่ยุ่งยากมาฝากค่ะ ไปดูกันเลย
- เป่าผมให้แห้งสนิท เพื่อลดความแห้งเสียจากความร้อนที่ใช้กับผมโดยตรง และลดความเสียหายต่อตัวแปรงไฟฟ้าด้วย
- เมื่อผมแห้งดีแล้ว ให้ใช้สเปรย์ป้องกันความร้อน ฉีดชโลมทั่วเส้นผมทั้งด้านใน ด้านนอก วิธีนี้จะช่วยป้องกันความแห้งเสียจากการใช้หวีไฟฟ้ากับเส้นผมโดยตรง
- จัดการแบ่งผมออกเป็นส่วนๆ เพื่อให้หวีไฟฟ้าทำงานได้ง่ายขึ้น และความร้อนทำงานอย่างมีประสิทธิภาพขึ้นค่ะ
- เริ่มใช้หวีไฟฟ้าค่อยๆ หวีจากโคนผมใกล้ๆ กับหนังศีรษะ ไล่ตามความยาวของเส้นผมได้เหมือนตอนที่คุณใช้หวีธรรมดาหวีผมได้เลยค่ะ
- ทำขั้นตอนเหล่านี้จนกว่าจะครบรอบศีรษะ หรือใช้สเปรย์จัดทรงได้ตามต้องการ
เพียงเท่านี้สาวๆ ก็จะได้ทรงผมตามที่ต้องการเลยค่ะ แต่ทั้งนี้การใช้หวีไฟฟ้า หรืออุปกรณ์จัดแต่งทรงผมด้วยความร้อนควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผม เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผมเสมอ เพื่อป้องกันผมแห้งเสียที่อาจจะเกิดขึ้น เป็นสาเหตุทำให้ผมชี้ฟูได้ค่ะ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับหวีไฟฟ้า
หวีไฟฟ้า ดีไหม?
ดีแน่นอนค่ะ ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบจัดแต่งทรงผมในช่วงเช้าก่อนไปทำงาน มิสซี่แนะนำว่าควรมีหวีไฟฟ้าเอาไว้ เพราะหวีไฟฟ้าสามารถจัดแต่งได้หลายทรง ทั้งม้วน หรือยืดผมให้ตรง ก็สามารถทำได้ แถมความร้อนยังเร็วกว่าเครื่องจัดแต่งทรงผมแบบอื่นๆ เรียกได้ว่าเแปรงหวีผมไฟฟ้าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยทำให้คุณมีวันที่ complete look ยิ่งขึ้นแน่นอนค่ะ
หวีไฟฟ้า ใช้ทุกวันได้ไหม?
ใช้ได้ค่ะ หวีไฟฟ้าจะช่วยให้ความร้อนสัมผัสกับเส้นผมน้อยที่สุด และช่วยลดความเสียหายของเส้นผม แต่นอกจากนี้การใช้ผลิตภัณฑ์ความร้อนเกี่ยวกับเส้นผมบ่อยๆ อาจจะทำให้ผมเสียได้เร็วขึ้น มิสซี่แนะนำว่าควรใช้สเปรย์ฉีดผมกันความร้อน หรือควรใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม เพิ่มความชุ่มชื้น เพื่อลดความแห้งที่ทำให้เส้นผมแตกปลายได้ในอนาคตค่ะ
แปรงหวีไฟฟ้า ควรใช้ความร้อนเท่าไหร่?
ควรใช้ความร้อนจากแปรงหวีไฟฟ้าทั่วไปไม่ควรเกิน 230 องศาเซลเซียส แต่เราจะต้องดูสภาพของเส้นผมของเราด้วยว่าเป็นแบบไหน หากคุณมีสภาพผมหนาหรือหยักศก มิสซี่แนะนำให้ใช้อุณหภูมิสูงสุดที่ 230 องศาเซลเซียสเพื่อให้ผมตรงมากขึ้น แต่ถ้าคุณมีสภาพผมเส้นเล็ก มิสซี่แนะนำว่าควรใช้อุณหภูมิที่ต่ำลงมาอีกจะเหมาะสม และช่วยป้องกันความร้อนที่ทำร้ายเส้นผมได้ค่ะ
หวีไฟฟ้า แบบไหนดีสุด?
หวีไฟฟ้า แบบไหนดีสุด?
การเลือกใช้หวีไฟฟ้า ขึ้นอยู่กับสภาพผมและทรงผมที่เราต้องการจัดทรงค่ะ โดยหวีไฟฟ้าในปัจจุบันจะมีให้เลือกซื้อ 3 รูปแบบ คือ
1. หวีไฟฟ้าแบบแปรง เหมาะกับสำหรับคนที่ต้องการจัดทรงผมให้เรียบ ตรง ไม่ชี้ฟู
2. หวีไฟฟ้าแบบแกนม้วน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการจัดทรงผมแบบปลายงุ้ม หรือทรงผมที่มีวอลลุ่ม
3. หวีไฟฟ้าขนาดใหญ่ เหมาะสำหับคนที่มีสภาพผมหนา หรือผู้ที่ต้องการใช้ความร้อนไดร์ผมให้แห้งค่ะ
หวีไฟฟ้า กับ ที่หนีบผม แบบไหนดีกว่า?
ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการทำทรงผมออกมาแบบไหนในวันนั้นๆ และขึ้นอยู่กับสภาพเส้นผมของเราด้วย หากคุณต้องการรีดผมให้ตรง มิสซี่ขอแนะนำที่หนีบผม จะช่วยทำให้ผมตรงตอบโจทย์มากขึ้น
แต่ถ้าคุณต้องการเพิ่มวอลลุ่มให้ผมสวยธรรมชาติ ลดผมฟูได้แบบใช้เวลาน้อย และไม่ต้องใช้สกิลมากมาย มิสซี่แนะนำหวีไฟฟ้า จะช่วยเพิ่มวอลลุ่มและช่วยหวีผมตรงได้ดีเลยทีเดียวค่ะ
หวีไฟฟ้า ใช้กับผมเปียกได้ไหม?
ไม่ควรใช้หวีไฟฟ้าตอนผมเปียกจะดีที่สุด เพราะในช่วงที่ผมเปียก เส้นผมจะพองตัวขึ้นและมีความเปราะบาง ทำให้ผมขาดร่วงง่ายกว่าเดิม นอกจากนี้การใช้หวีไฟฟ้าควรเลือกใช้ยี่ห้อที่มีความน่าเชื่อถือ ความปลอดภัยต่อการใช้งานจะดีต่อเส้นผมและตัวผู้ใช้ด้วยค่ะ
หวีไฟฟ้าทำให้ผมเสียไหม?
หวีไฟฟ้าไม่ทำให้ผมเสีย หากคุณใช้อย่างถูกวิธี และเลือกความร้อนเหมาะกับสภาพเส้นผมของเราเอง นอกจากการใช้ตามขั้นตอนที่ถูกต้องแล้ว มิสซี่แนะนำให้ใช้ เซรั่มกันร้อน หรือสเปรย์กันความร้อน ร่วมกับการใช้หวีไฟฟ้า จะช่วยลดความร้อนจากอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีต่อเส้นผมโดยตรงค่ะ
ผมหนา ใช้หวีไฟฟ้าได้ไหม?
ผู้ที่มีผมหนาก็สามารถใช้หวีไฟฟ้าได้เช่นกัน เพราะตัวแปรงหวีผมไฟฟ้าจะช่วยยืดผมของผู้ใช้ให้อยู่ทรง ไม่ชี้ฟู และเส้นผมเงางามเหมือนเดิม เพียงแค่เวลาใช้แปรงหวีผมไฟฟ้า อาจจะต้องใช้เวลาในการยืดผมนานขึ้น
ทำความสะอาดหวีไฟฟ้ายังไง?
วิธีทำความสะอาดหวีไฟฟ้าไม่ยากอย่างที่คิดเลยค่ะ วันนี้มิสซี่มีเคล็ดลับดูแลแปรงหวีผมไฟฟ้ามาฝากเพื่อนๆ แค่ 3 วิธีเท่านั้น ไปดูกันค่ะ
1. หลังจากใช้งานหวีผมไฟฟ้าแล้ว ถอดปลั๊กวางไว้ให้เย็นลง
2. ค่อยๆ หยิบเศษผมที่ติดอยู่กับแปรงหวีผมไฟฟ้าออก
3. นำผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดคราบสกปรกออกจากแปรงหวีผมไฟฟ้า เพียงเท่านี้ก็ช่วยทำให้หวีไฟฟ้าของเราใช้งานได้คงประสิทธิภาพเหมือนใหม่แล้วค่ะ
หวีไฟฟ้า ซื้อที่ไหน?
หวีไฟฟ้า สามารถหาซื้อได้ตามช่องทางออนไลน์อย่าง shopee & lazada ได้เลยนะคะ เพื่อความสะดวกแก่ผู้ใช้งาน ทั้งนี้ยังสามารถเปรียบเทียบราคา และคุณภาพพร้อมรีวิวจากผู้ซื้อเพื่อพิจารณาเบื้องต้นก่อนได้อีกด้วยค่ะ ขอบอกว่า shopee lazada หวีไฟฟ้า มีโปรลดราคาตลอดปีเลย เรียกว่าสะดวกกับสาวๆ ยุคออนไลน์มากๆ เลยค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ หลังจากที่ได้อ่าน รีวิว 10 หวีไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี [หวีผมตรง ไม่กินผม] ที่มิสซี่นำมาฝากกันวันนี้ บอกเลยว่าใครเล็งยี่ห้อไหนไว้ ไม่มีผิดหวังแน่นอน เพราะผมของสาวๆ จะยิ่งดูสวยมีเสน่ห์ เสริมลุคให้ดูมั่นใจมากขึ้นด้วย แต่ส่งที่สำคัญที่ห้ามลืมจากการใช้หวีไฟฟ้าเด็ดขาดเลยก็คือ การดูแลเส้นผม การบำรุงเส้นผมด้วยผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้เส้นผมสุขภาพดีอยู่เสมอ เพื่อทำให้ผมสวยจากภายในสู่ภายนอก และเส้นผมสวยธรรมชาติไม่แห้งเสียนะคะ
อ้างอิง