การย้อมสีผมเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับสาว ๆ มาทุกยุคทุกสมัย สีผมสวย ๆ จะทั้งช่วยเพิ่มเสน่ห์ เสริมความมั่นใจ หรือแม้กระทั่งการเปลี่ยนสไตล์ให้เข้ากับลุคที่สาว ๆ ต้องการให้ เป๊ะ! ปัง! ดัง! สุด! ว่าแล้วก็จูงมือคู่หูของเพื่อน ๆ เข้าร้านอุปกรณ์เสริมสวยไปเลือกสีย้อมผมกันได้เลย!
อะ ๆ แต่เดี๋ยวก่อน หากเพื่อน ๆ ไม่มีเวลาไปร้านทำผม น้ำยาย้อมผม ที่ย้อมเองได้ที่บ้าน ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี ในการเปลี่ยนแปลงสไตล์ของตัวเอง ซึ่งนอกจากจะได้สีผมสวยๆ ติดทนนานแล้ว ยังช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าสตางค์ของเพื่อน ๆ ได้อีกด้วย
อ่านกันมาจนถึงตรงนี้ สาว ๆ คงอยากได้คำแนะนำสำหรับ ยี่ห้อสีย้อมผมที่น่าเสียเงินให้กัน เดี๋ยวมิสซี่จะขออาสา พาสาว ๆ ทุกคนไปดู ทั้งการดูแลให้ผมไม่เสีย พร้อมสีผมแซ่บ ๆ กับ รีวิว สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี กันเลยค่าา
TOP 3 สีย้อมผมที่ดีที่สุด
#1 L’oreal Excellence Creme
ราคา 399 บาท
#2 Schwarzkopf Freshlight Foam Color
ราคา 349 บาท
#3 Liese Hair Color Foam
ราคา 359 บาท
ประเภทของ “สีย้อมผม”
สีย้อมผมแบบครีม
ยาย้อมผมประเภทนี้ จะใช้งานโดยการใช้หวีหรือแปรงมาทาบนผม โดยพยายามแบ่งทาเป็นช่อ ๆ แล้วทิ้งไว้ 30 – 45 นาที แล้วล้างออก ก็จะได้สีผมติดทนนานคู่ความสวยของเพื่อน ๆ แล้วค่ะ
ซึ่งน้ำยาย้อมผมประเภทนี้ อาจจะต้องใช้ความชำนาญในการทำมากหน่อย เพื่อให้สีที่ออกมามีความสม่ำเสมอกัน มิสซี่แนะนำว่าให้ลองปรึกษาช่างทำผม เพื่อให้สีผมของเพื่อน ๆ ออกมาเป๊ะที่สุดนะคะ
ข้อดี | เม็ดสีแน่นทำให้ติดกับเส้นผมได้ดีหาซื้อง่าย |
ข้อเสีย | มีกลิ่นฉุนใช้งานยาก |
สีย้อมผมแบบสระ
สำหรับสีย้อมผมประเภทนี้ จะมีจุดเด่นที่ความง่ายในการใช้งาน เพียงแค่เพื่อน ๆ สระทิ้งไว้ 15 นาที ก็จะได้สีผมสวย ๆ ที่เพื่อน ๆ ต้องการแล้ว
นอกจากจะใช้งานง่ายแล้ว บางยี่ห้อจะมีขวดปั๊มเป็นเนื้อโฟมออกมา หรือบางยี่ห้อก็จะคล้าย ๆ ยาสระผมทั่วไปเลยด้วย เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่อยากประหยัดเวลา มิสซี่แนะนำให้มองหาสีย้อมผมแบบสระเลยค่าา
ข้อดี | ใช้งานง่ายประหยัดเวลา |
ข้อเสีย | สีหลุดง่าย |
และนอกจากจะแบ่งจากลักษณะของเนื้อครีมของสีย้อม จะมีการแบ่งเป็นอีกกลุ่มตามความคงทนของสี ได้แก่
ยาย้อมผมชนิดชั่วคราว
ยาย้อมผมชนิดชั่วคราว (Temporary Hair Dyes) ยาย้อมสีผมประเภทนี้มีทั้งแบบทาชโลมทิ้งไว้ หรือจะเป็นสเปรย์พ่นแล้วทิ้งไว้ให้แห้งก็มีเช่นกัน โดยปกติจะใช้เวลาเพียง 2 – 5 นาที แล้วล้างออก ก็จะได้สีผมที่เราต้องการแล้ว แต่ยาย้อมสีผมชนิดชั่วคราวจะไม่คงทนเท่าไหร่นัก เพียงแค่สระด้วยแชมพูสีผมก็พร้อมจะหลุดออกแล้ว
ยาย้อมผมชนิดกึ่งถาวร
ยาย้อมผมชนิดกึ่งถาวร (Semi – Permanent Hair Dyes) ส่วนประกอบของสีที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก สามารถซึมลึกเข้าไปในเส้นผม โดยไม่ต้องมีเพอร์ออกไซต์ ทำให้มีความคงทนของสีผมอยู่ที่ประมาณ 1 เดือน ขึ้นอยู่กับความถี่ที่เพื่อน ๆ สระผม โดยปกติยาย้อมสีชนิดกึ่งถาวรจะเหมาะกับสาว ๆ ที่ต้องการสีผมธรรมชาติ
ยาย้อมผมชนิดถาวร
ยาย้อมผมชนิดถาวร (Permanent Hair Dyes) จะใช้สีออกซิเดชั่น หรือสีพารา เป็นส่วนผสมสำคัญของสีย้อม ซึ่งจะให้สีติดในเส้นผมที่ค่อนข้างคงทนนานหลายเดือน ซึ่งสารประกอบหลัก ๆ คือ ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ และ แม่สี ซึ่งเวลาใช้จะทำการผสมสองตัวนี้เข้าด้วยกัน แล้วนำไปโกรกไว้ประมาณ 30 – 45 นาที ก็จะถือว่าเสร็จเรียบร้อย โดยปกติแล้วสีที่เกิดจากยาย้อมผมชนิดถาวรจะติดทนอยู่หลายเดือน
วิธีเลือก “สีย้อมผม”
เลือกจากประเภทของผลิตภัณฑ์
การเลือกสีย้อมผม หลัก ๆ ก็คงดูที่เนื้อผลิตภัณฑ์ ว่าตอบโจทย์กับความสะดวกของเพื่อน ๆ หรือไม่ ซึ่งทั้ง 2 ประเภทที่กล่าวไป ก็จะมีการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป
- สีย้อมผมแบบครีม ก็จะเหมาะกับสาว ๆ ที่ต้องการให้เส้นผมของตัวเองติดทนนาน สีไม่หลุด ให้อยู่ปังกับเส้นผมของเราไปนาน ๆ
- สีย้อมผมแบบสระ จะเหมาะกับสาว ๆ สายงานรัดตัว ไม่ค่อยมีเวลาว่าง หรือจะเป็นสายขี้เบื่อที่ชอบเปลี่ยนสีผมบ่อย ๆ ก็เหมาะเช่นเดียวกัน
เลือกจากความติดทนนาน
หลังจากที่สาว ๆ เลือกวิธีใช้งานของสีย้อมผมได้แล้ว ต่อไปก็มาเลือกความคงทนของสีกันต่อ เพื่อที่จะได้รู้ว่าเพื่อน ๆ ต้องการให้สีผมของตัวเอง อยู่คู่ไปนานแค่ไหน
- ยาย้อมผมชนิดชั่วคราว เหมาะกับคนที่ต้องการความรวดเร็วในการย้อมสี เพราะใช้เวลาไม่นานก็ได้สีที่ต้องการแล้ว อาจจะมีงานอีเวนต์ที่ต้องรีบเปลี่ยนลุคในคืนนี้ หรือสาว ๆ ขี้เบื่อที่อยากเปลี่ยนลุค ไม่ซ้ำในแต่ละวัน ก็เหมาะค่า เพราะสระไม่กี่ครั้งก็หลุด
- ยาย้อมผมชนิดกึ่งถาวร เหมาะกับสาว ๆ ไม่อยากให้ผมของตัวเองสุขภาพเสีย เพราะยาย้อมผมชนิดนี้ ไม่มีส่วนประกอบของเพอร์ออกไซต์ ที่จะทำให้เส้นผมของสาว ๆ ถูกทำลาย
- ยาย้อมผมชนิดถาวร สาว ๆ ที่มั่นใจแล้วว่า ฉันรักสีนี้ ต้องการแค่สีนี้เท่านั้น! ต้องยาย้อมชนิดถาวรเท่านั้นค่าา เพราะด้วยความที่ติดทนนานที่สุดในทุกชนิด และยังให้สีที่ค่อนข้างตรง จากการที่มีสารเคมีเข้าไปทำปฏิกิริยากับเส้นผม ให้สีสามารถเข้าไปติดได้ดียึ่งขึ้น ซึ่งอาจจะไม่ค่อยเหมาะกับสาว ๆ ที่ต้องการเปลี่ยนสีผมบ่อย ๆ เพราะอาจจะทำให้สุขภาพของเส้นผมเสียลงเรื่อย ๆ
หลังจากที่สาว ๆ รู้แล้วว่า ทำสีผมของตัวเองไปในทิศทางไหน อยากได้ความคงทนเท่าไหร่ ก็ลองมองผลิตภัณฑ์ในตลาดดูว่ามีที่ตรงความต้องการไหม แต่มิสซี่ต้องขอบอกก่อนเลยนะคะว่า ส่วนใหญ่แล้ว น้ำยาย้อมสีผมในไทย จะเป็นยาย้อมผมชนิดถาวรประมาณ 80 – 90% ไปแล้ว เพราะฉะนั้นหากเพื่อน ๆ หายาย้อมผมชนิดกึ่งชั่วคราว อาจจะหาได้ยากหน่อยนะคะ
เลือกจากโทนสีผิว
สำหรับสาว ๆ ที่ยังไม่แน่ใจว่าจะย้อมสีผมไปในโทนไหนดี มิสซี่มีเทคนิคการเลือกโทนสีผมให้เข้ากับสาว ๆ ทุกคนค่าา แต่ก่อนที่จะเลือกสีที่จะย้อม สาว ๆ ลองส่องกระจกดูก่อน ลองเช็คสีของผิวหน้าตัวเองว่าอยู่ในโทนประมาณไหน มิสซี่จะแบ่งโทนสีผิวเป็น 4 สีด้วยกันนะคะ ซึ่งการเลือกแบบนี้จะทำให้สีผมของเพื่อน ๆ ขับให้หน้าตาหน้าใจของเราออกมาสว่างมากยิ่งขึ้น
ผิวขาวอมชมพู
สาว ๆ สีผิวนี้เรียกได้ว่าขี้โกงมาก ๆ เพราะสามารถย้อมได้เกือบทุกเฉดสีเลยทีเดียว หน้าไม่มีหม่นกันเลยทีเดียว
สีผมแนะนำ – โทนน้ำตาล ทั้งน้ำตาลเข้ม และ น้ำตาลอ่อน – สีบลอนด์ ก็ให้ความฝ. ไม่น้อย สีฉูดฉาดอย่าง – ชมพูบานเย็น หรือ สีแดง เป็นเจ้าหญิงแอเรียล ก็ดูเก๋ไม่เบานะคะสาว ๆ! |
แต่สาวผิวขาวอมชมพู อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับโทนสีเข้ม ๆ เท่าไหร่เช่น ดำ น้ำเงินเข้ม เพราะอาจจะทำให้หน้าดูดุไปสักนิด
ผิวขาวอมเหลือง
สาว ๆ ในไทยส่วนใหญ่จะเป็นมีโทนผิวสีนี้ อยากรู้ว่าสีไหนเข้ากับผิว ก็มาดูกันเล้ย
สีผมแนะนำ – สีโทนแดง มะฮอกกานี – น้ำตาลประกายส้ม จะช่วยทำให้หน้าของสาว ๆ ดูสว่าง สดใส มีออร่า มากยิ่งขึ้น |
แต่สาวผิวขาวอมเหลือง จะไม่ค่อยเหมาะกับ โทนสีบลอนด์ หรือ โทนสีที่อ่อนกว่าสีผิวตัวเอง เพราะจะทำให้หน้าของสาว ๆ ยิ่งดูซีด
ผิวสีน้ำผึ้งหรือผิวสองสี
สาว ๆ ผิวสีนี้จะมาพร้อมกับความเซ็กซี่ร้อนแรง สู้กับแดดเมืองไทยได้อย่างสบาย ๆ ซึ่งสีผมที่เหมาะกับสาว ๆ ผิวโทนนี้จะเป็น
สีผมแนะนำ – สีน้ำตาลอ่อนน้ำตาลประกายทอง ช่วยเพิ่มเสน่ห์และความร้อนแรงให้กับสาว ๆ ยิ่งขึ้น – สีน้ำตาลเทา เพิ่มความน่าค้นหา |
ผิวสีเข้ม
สำหรับสาว ๆ โทนเข้มจะเหมาะกับโทนสีน้ำตาล เช่น
สีผมแนะนำ – น้ำตาลคาราเมล – น้ำตาลช็อกโกแลต ซึ่งจะช่วยขับผิวของสาว ๆ ไม่ให้ดูคล้ำจนเกินไป และช่วยทำให้สาว ๆ ดูมีออร่าขึ้นอีกด้วย |
ซึ่งสาว ๆ สายพาสเทลอาจจะต้องเสียใจนิดนึง เพราะผิวสีเข้มจะไม่ค่อยเหมาะสีพาสเทล หรือสีโทนสว่าง ๆ เท่าไหร่นัก เพราะจะทำให้สีผิวดูเข้มกว่าเดิม
ตรงนี้เป็นเพียงคำแนะนำเบื้องต้นของมิสซี่เท่านั้นน้า การย้อมสีผมยังเป็นการบ่งบอกตัวตนและเสริมความมั่นใจให้ตัวเพื่อน ๆ เอง เพราะฉะนั้นหากเพื่อน ๆ ชอบสีไหนก็จัดไปเลยค่า! ไม่ต้องกลัว เพราะผู้หญิงจะสวยก็ต่อเมื่อมั่นใจนะคะ
อ่านมาถึงตรงนี้แล้วใครอยากจะลองย้อมสีผมเปลี่ยนลุคให้กับตัวเอง ยกมือขึ้น! มิสซี่จะพาไปแนะนำ สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี พร้อมแล้วไปดูกันเลยค่าา
จะเลือกซื้อ สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี 2566
1. สีย้อมผม โดยรวมที่ดีที่สุด : L’oreal Excellence Creme
ราคา 399 บาท
ข้อดี
+ แบรนด์มีชื่อเสียง
+ มีสารช่วยในการฟื้นบำรุงเส้นผม
+ กลิ่นไม่ฉุน
ข้อควรพิจารณา
– มีราคาค่อนข้างสูง
– เนื้อครีมค่อนข้างเหลว
หนึ่งในแบรนด์อที่อยู่คู่คนไทยมายาวนานอย่าง L’oreal Paris มิสซี่ยกให้เป็นอันดับ 1 เลย ด้วยคุณภาพและ Review จากผู้ใช้มากมาย ซึ่งจุดแข็งของสีย้อมผมตัวนี้คือ การปกปิดผมขาวที่ทำได้อย่างดีเยี่ยม และยังไม่ทำให้ผมของสาว ๆ เสียอีกด้วย เพราะมีส่วนผสมของโปร-เคราติน เซราไมด์ และ ไอโอนินจี ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องและฟื้นฟูเส้นผมของสาว ๆ นั่นเอง
ใครที่กำลังมองหา สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี หรือ สีย้อมผมปิดผมขาวที่มีคุณภาพ แถมมีเคราตินบำรุงผม และเป็นแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจมายาวนาน มิสซี่ยกให้ตัวนี้เลยจ้าา
ปริมาณ 200 ml : ราคา 399 บาท (ตก ml ละ 2 บาท)
จุดเด่น | ปกปิดผมขาวได้ดี |
เนื้อผลิตภัณฑ์ | ครีม |
สารบำรุงผม | เคราติน, เซราไมด์, ไอโอนินจี |
เฉดสี | 25 เฉดสี |
2. สีย้อมผมแบบโฟมที่ดีที่สุด : Schwarzkopf Freshlight Foam Color
ราคา 349 บาท
ข้อดี
+ ใช้งานง่าย
+ ไม่แสบหนังศีรษะ
+ สีค่อนข้างตรง
ข้อควรพิจารณา
– กลิ่นค่อนข้างฉุน
– สีติดทนน้อยกว่าแบบครีม
สีย้อมผมของแบรนด์เมืองเบียร์อย่างเยอรมัน พร้อมกับแพคเกจจิ้งสุดคุ้นตา กับน้องตุ๊กตาบลายธ์ ซึ่งจะมาในรูปแบบของสีย้อมผมแบบสระเป็นโฟม ที่ใช้งานง๊ายง่าย เพียงแค่เติมน้ำยาย้อมสีผมลงในขวดปั๊มที่มีดีเวลลอปเปอร์ข้างใน นำไปสระทิ้งไว้ 30-45 นาที ก็จะได้ลุคตามที่สาว ๆ ต้องการแล้วค่า
สาว ๆ ที่มองหา สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี เพื่อจะปลี่ยนลุคให้ได้สีผมสวย ๆ เก๋ ๆ และต้องใช้งานได้ง่ายมิสซี่แนะนำยาย้อมสีผมของ Schwarzkopf ตัวนี้เลยค่าา
ปริมาณ 115 ml : ราคา 349 บาท (ตก ml ละ 3 บาท)
จุดเด่น | สีสวยตรงปก มีหลายเฉดสี ใช้งานง่าย |
เนื้อผลิตภัณฑ์ | โฟม |
สารบำรุงผม | Moisture Hair Mask |
เฉดสี | 20 เฉดสี |
3. สีย้อมผมแบบสระ แบรนด์ญี่ปุ่นที่ดีที่สุด : Liese Hair Color Foam
ราคา 359 บาท
ข้อดี
+ ใช้งานง่าย
+ ไม่แสบหนังศีรษะ
+ ผมไม่เสีย
ข้อควรพิจารณา
– กลิ่นค่อนข้างฉุน
– มีสีให้เลือกค่อนข้างน้อย
สีย้อมผมเองแบบโฟม จากแบรนด์แดนปลาดิบอย่าง Liese ตัวนี้วิธีใช้งานจะคล้าย ๆ กับ Schwarzkopf ตัวก่อนหน้า คือจะเป็นการผสมระหว่างสีและดีเวลลอปเปอร์ในขวดปั๊ม แล้วใช้เนื้อโฟมชโลมให้ทั่วทั้งศีรษะ ซึ่งจุดเด่นของตัวนี้คือ มี Royal Jelly และ Hydrolyzed Silk ช่วยบำรุงผมให้ชุ่มชื้น ไม่กลัวผมเสีย
ขอบอกเลยว่ายาย้อมผมแบบสระตัวนี้สีสวย ผมเป็นประกายมาก เหมาะมาก ๆ กับสาว ๆ ไม่ชอบความยุ่งยากในการย้อมผม ใครที่กำลังมองหา สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ที่ย้อมแล้วผมไม่เสีย มิสซี่ว่าตัวนี้ตอบโจทย์สาว ๆ อย่างแน่นอน
ปริมาณ 100 ml : ราคา 359 บาท (ตก ml ละ 3.5 บาท)
จุดเด่น | ใช้งานง่าย, ผมไม่เสีย |
เนื้อผลิตภัณฑ์ | โฟม |
สารบำรุงผม | Royal Jelly, Hydrolyzed Silk |
เฉดสี | 12 เฉดสี |
4. สีย้อมผม ไม่มีแอมโมเนียที่ดีที่สุด : Garnier Color Naturals
ราคา 354 บาท
ข้อดี
+ เนื้อครีมทาง่าย
+ มีกลิ่นหอม
+ ราคาถูก
ข้อควรพิจารณา
– ไม่มีอุปกรณ์เสริมในกล่อง
– มีสีให้เลือกน้อย
สาว ๆ หลายคนเห็นแบรนด์นี้แล้วคง เอ๊ะ! แบรนด์นี้เค้าทำสีย้อมผมด้วยหรอ คำตอบคือใช่แล้วค่า Garnier เป็นอีกแบรนด์ที่คุ้นหูคุ้นตาสาวไทยอย่างแน่นอน โดยเจ้าตัวนี้จะมีการผสมผสานหลากหลายชนิด และตัวนี้ยังไม่มีแอมโมเนียอีกด้วย เหมาะมากกับสาว ๆ ที่ผมเสียง่าย และยังมีสารสกัดจากน้ำมันธรรมชาติที่เข้มข้นถึง 10 เท่า ประกอบด้วยน้ำมันธรรมชาติ 3 ชนิด คือ Avocado, Olive & Almond
สาว ๆ คนไหนที่ผมเสียง่าย และกำลังมองหา สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ที่ไม่มีแอมโมเนีย ต้องตำตัวนี้เลยนะคะ มิสซี่เทใจให้เลยย ใช้ยาย้อมผมตัวนี้ ผมไม่เสียแน่นอน
ปริมาณ 400 ml : ราคา 354 บาท (ตก ml ละ 0.89 บาท)
จุดเด่น | ไม่มีแอมโมเนีย ย้อมแล้วผมไม่เสีย |
เนื้อผลิตภัณฑ์ | ครีม |
สารบำรุงผม | น้ำมันจาก Avocado, Olive & Almond |
เฉดสี | 5 เฉดสี |
5. สีย้อมผมถูกและดีที่สุด : Dcash Master Floral Mass
ราคา 75 บาท
ข้อดี
+ หาซื้อง่าย
+ ราคาถูก
+ ผมไม่เสีย
ข้อควรพิจารณา
– กลิ่นค่อนข้างฉุน
สาว ๆ Working Women ทุกท่านที่อยากจะเปลี่ยนลุคแต่ไม่มีเวลาไปช้อปปิ้งในห้าง มิสซี่ว่ายาย้อมสีผมของ Dcash ตัวนี้ตอบโจทย์เลย เพราะสามารถหาซื้อได้ที่ 7-11 ในราคาสุดย่อมเยา แถมยังมีอุปกรณ์ในกล่องอย่างครบครันอีกด้วย ไม่ต้องไปหาอุปกรณ์เพิ่มให้เสียเวลา และเจ้าตัวนี้ยังได้รับการปรับปรุงให้ไม่ทำให้ผมเสียจาก Argan Oil และเพิ่มความเย็นด้วยสารสกัดจากใบมิ้นท์
ตัวนี้เหมาะมาก ๆ สำหรับสาว ๆ ที่ไม่มีเวลาช้อปปิ้งหรือสายประหยัดพลังงานที่ไม่อยากเดินทาง และหา สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ที่มีขายใน 7-11 มิสซี่ก็แนะนำว่าลองไปเลือกสีดูนะคะ
ปริมาณ 60 ml : ราคา 75 บาท (ตกซองละ 1.25 บาท)
จุดเด่น | สีสวย หาซื้อง่าย |
เนื้อผลิตภัณฑ์ | ครีม |
สารบำรุงผม | Argan Oil |
เฉดสี | 16 เฉดสี |
6. สีย้อมผมแฟชั่นที่ดีที่สุด : Berina Hair Color Cream
ราคา 109 บาท
ข้อดี
+ มีสีให้เลือกเยอะ
+ สีค่อนข้างตรง
+ ไม่มีแอมโมเนีย
ข้อควรพิจารณา
– ไม่มี Official Shop ในไทย
ได้เวลารันเวย์แล้วคะสาว ๆ ! เพราะสีย้อมผม Berina ยกเฉดสีมาให้เปลี่ยนลุคกันถึง 47 สี ซึ่งมีตั้งแต่โทนสีน้ำตาลไปจนถึงสีสันแรง ๆ อย่างแดงหรือม่วง Berina เป็นแบรนด์จากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่มีโรงงานในประเทศไทยด้วยนะ ปังไหม มิสซี่ว่าปังอยู่น้าา
สาว ๆ สายแฟชั่นที่อยากจะได้สีผมสวย ๆ แซ่บ ๆ และมองหาสีย้อมผม ไม่มีแอมโมเนีย โดยไม่อยากเข้าร้านเสริมสวย มองหา สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี มิสซี่ยกให้ Berina เป็นอีกหนึ่งในแบรนด์ที่น่าตำมาก ๆ ทั้งถูกและดีจริง ๆ ค่าา
ปริมาณ 150 ml : ราคา 109 บาท (ตก ml ละ 0.73 บาท)
จุดเด่น | มีสีให้เลือกเยอะ |
เนื้อผลิตภัณฑ์ | ครีม |
สารบำรุงผม | – |
เฉดสี | 47 เฉดสี |
7. สีย้อมผมเกาหลีที่ดีที่สุด : Mise En Scene Hello Bubble Foam Color x Blackpink
ราคา 399 บาท
ข้อดี
+ เฉดสีแฟชั่น
+ ใช้งานง่าย
+ กลิ่นหอม ไม่ฉุน
ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างสูง
Blackpink In Your Hair! ที่มาเป็นพรีเซนเตอร์ให้แบรนด์อย่าง Miss En Scene จากประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งนอกจากจะได้สาว ๆ Blackpink มาเป็นโมเดลหน้ากล่องแล้ว คุณภาพของผลิตภัณฑ์ก็เลิศไม่แพ้กัน มาในโฟมเนื้อบางเบา ใช้งานง่าย แต่ให้สีผมที่ติดทนและค่อนข้างตรงปกเลยทีเดียว
สาว ๆ ท่านใดที่อยากตามรอยสี่สาว Blackpink หรืออยากได้ สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ที่มีเฉดสีที่แปลกไปกว่าแบรนด์อื่น ๆ มิสซี่ว่ายาย้อมสีผมของ Mise En Scene ก็ควรค่าแก่การตำอยู่น้าา แถมมีทรีทเม้นท์บำรุงผมในกล่องมาให้ด้วย ดีงามสุด ๆ ค่า
ปริมาณ 90 ml : ราคา 354 บาท (ตก ml ละ 4.4 บาท)
จุดเด่น | สีสวย ติดทน มีเฉดสีแฟชั่นให้เลือกเยอะ |
เนื้อผลิตภัณฑ์ | โฟม |
สารบำรุงผม | ทรีทเม้นท์เพอร์เฟค เซรั่ม ทรีมิน ซาลอน มาส์ก |
เฉดสี | 15 เฉดสี |
8. สีย้อมผม สูตรอ่อนโยนที่ดีที่สุด : Lolane Z-Cool Color Milk
ราคา 185 บาท
ข้อดี
+ บำรุงเส้นผมและไม่ทำให้ผมเสีย
+ มีกลิ่นหอม
+ เฉดสีค่อนข้างเยอะ
ข้อควรพิจารณา
– สีไม่ค่อยติดทน
เป็นน้ำยาย้อมสีผมอีกตัวที่มิสซี่แนะนำให้ลองใช้ดู เพราะสีย้อมผมของ Lolane ตัวนี้ต้องบอกเลยว่ากลิ่นหอมมากกก เพราะมีส่วนผสมของนมจากฮอกไกโด ช่วยฟื้นคืนความชุ่มชื้นให้เส้นผมแข็งแรงหลังจากทำสี และยังมีการนำเทคโนโลยี Micro Crystal ที่ช่วยดับกลิ่นสารเคมี แถมยังมีวิตามินซีและอี ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และทำให้สีผมของสาว ๆ เป็นประกายออร่ามากยิ่งขึ้นด้วยค่าา
สำหรับสาว ๆ ที่ยังลังเลว่าจะลอง สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี จะลองตัวนี้ดีไหม มิสซี่ขอบอกเลยนะคะว่าต้องโดนสักครั้ง แล้วจะติดใจกลิ่นนมหอม ๆ ตอนย้อมเลยล่ะค่ะ แถมผมไม่เสียอีกด้วย
ปริมาณ 40 ml : ราคา 185 บาท (ตก ml ละ 4.6 บาท)
จุดเด่น | ประกายสีผมสวย มีตัวช่วยบำรุงเส้นผมเยอะ |
เนื้อผลิตภัณฑ์ | ครีม |
สารบำรุงผม | นมฮอกไกโด, วิตามินซี, วิตามินอี |
เฉดสี | 27 เฉดสี |
9. สีย้อมผม เฉดสีเยอะที่ดีที่สุด : Farger Hce Hair Color Permanent Cream
ราคา 75 บาท
ข้อดี
+ กลิ่นไม่ฉุน
+ มีสีให้เลือกเยอะ
+ สีที่ได้ค่อนข้างตรง
ข้อควรพิจารณา
– ไม่มีถุงมือให้
สำหรับแบรนด์นี้หลาย ๆ คนอาจจะไม่ค่อยคุ้นหูสักเท่าไหร่ แต่มิสซี่ขอแอบกระซิบนะคะ ว่าช่างเสริมสวยหลายคน ก็แนะนำเจ้ายาย้อมผมตัวนี้มาเหมือนกัน ด้วยราคาที่ถูก แต่คุณภาพดี สีตรงปก มีสีให้เลือกเยอะ แถมผมยังไม่ค่อยเสียอีกต่างหาก สีย้อมผมถูกและดี มีอยู่จริงนะคะสาว ๆ
ถ้าใครกำลังมองหา สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ที่ทั้งถูกและดี แถมยังมีเฉดสีให้เลือกมากมาย ยาย้อมผม Farger เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มิสซี่แนะนำเลยจ้า
ปริมาณ 100 ml : ราคา 75 บาท (ตก ml ละ 0.75 บาท)
จุดเด่น | สีตรงหน้ากล่อง มีสีให้เลือกเยอะ |
เนื้อผลิตภัณฑ์ | ครีม |
สารบำรุงผม | – |
เฉดสี | 50 เฉดสี |
10. สีย้อมผมออแกนิคที่ดีที่สุด : Naturalite Organic Permanent Hair Colour
ราคา 890 บาท
ข้อดี
+ ปราศจากสารเคมีทุกชนิด
+ สีผมติดทนนาน
+ บำรุงสุขภาพเส้นผม
ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างสูง
มาเอาใจคนมองหายาย้อมผม สําหรับคนแพ้ง่าย กับแบรนด์ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมจากธรรมชาติอย่าง Naturalite ซึ่งเจ้าตัวนี้เป็นตัวเดียวในการจัดอันดับของเราที่ปราศจากสารเคมีทุกชนิด ไม่มีแอมโมเนียและพาราเบน ทำให้ไม่เกิดการระคายเคือง ไม่ทำให้แพ้ และยังทำให้ตัวน้ำยาไม่มีกลิ่นฉุนอีกด้วย และยังไม่พอยังมีส่วนประกอบจากธรรมชาติมากมายเพื่อบำรุงเส้นผมสาว ๆ กันด้วยนะค้าา
สำหรับสาว ๆ ที่ผมแพ้ง่ายหรือหนังศีรษะอ่อนแอ มองหา สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ที่เป็นยาย้อมผมออแกนิค มิสซี่แนะนำตัวนี้เลยน้า รับรองว่าไม่แพ้ ไม่แสบ แถมยังได้สีผมติดทนนานอีกด้วยย
ปริมาณ 110 ml : ราคา 890 บาท (ตก ml ละ 8 บาท)
จุดเด่น | ปราศจากสารเคมีทุกชนิด |
เนื้อผลิตภัณฑ์ | ครีม |
สารบำรุงผม | Argan Oil, น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์, น้ำมันโจโจ้บา, ว่านหางจระเข้, วีทโปรตีน, กรดซิตริค |
เฉดสี | 14 เฉดสี |
วิธีใช้ “สีย้อมผม” ให้ติดทนนาน
- เลือกผลิตภัณฑ์ที่ให้สีผมที่ติดทน โดยลองดูจากรีวิวและมิสซี่แนะนำว่า ส่วนใหญ่แล้วยาย้อมสีผมแบบครีมจะติดทนมากกว่าแบบโฟม
- เลือกปริมาณให้เหมาะสมกับตัวเอง ตรวจเช็คสภาพเส้นผมของสาว ๆ ถ้าหากมีเส้นผมหนาหรือยาวมาก ๆ อาจจะซื้อ 2 กล่องมาเผื่อไว้ก่อน เพื่อที่จะได้เพียงพอกับเส้นผมของเรา
- ควรสระผม 1 – 2 วันก่อนย้อมสี การสระผมก่อนที่จะย้อมจะทำให้เส้นผมของเรามีเวลาสร้างน้ำมัน ซึ่งจะช่วยให้สีผมติดทนมากยิ่งขึ้น
- ควรย้อมสีผมลงบนเส้นผมที่แห้งสนิท มิสซี่แนะนำว่าให้ย้อมสีลงบนเส้นผมที่แห้ง เพราะว่าหากเส้นผมของสาว ๆ เปียก อาจจะทำให้น้ำยาย้อมสีผมดูดความชื้นจากเส้นผม ทำให้สีผมจางกว่าปกติ ติดยากขึ้น ดังนั้นเพื่อน ๆ ควรสีย้อมตอนที่ผมแห้งสนิทนะคะ
- ควรแบ่งผมออกเป็นช่อเล็ก ๆ การแบ่งช่อผมก่อนจะลงสีย้อมผม จะทำให้สีติดทนมากยิ่งขึ้น และยังช่วยให้สีผมเสมอกันทั่วทั้งศีรษะอีกด้วย
- เว้นการสักผมสัก 3 – 4 วัน เพราะการใช้แชมพูและครีมนวด จะส่งผลให้สีผมเฟดลงได้เร็วยิ่งขึ้น
- ใช้ผลิตภัณฑ์แชมพูล็อกสีผม การใช้แชมพูช่วยล็อกสีผม จะทำให้สีผมของสาว ๆ ติดทน ไม่เฟดเร็วกว่าที่ควร ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็จะมีจุดเด่นแตกต่างกันไป ไว้วันหลังมิสซี่จะมาแนะนำให้ฟังนะคะ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสีย้อมผม
สีย้อมผม ใช้ได้บ่อยแค่ไหน?
สีย้อมผมใช้ได้บ่อยสุดคือประมาณ 1 ครั้งต่อสามเดือน ก่อนจะทำสีผมใหม่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็จะขึ้นอยู่กับสุขภาพเส้นผมของแต่ละคนด้วย ในปัจจุบัน ยังไม่มีงานวิจัยใดออกมาเสริมในส่วนนี้
สีย้อมผม ย้อมเองได้ไหม?
เราสามารถย้อมสีผมเองได้ที่บ้านเลย ซึ่งหากสาว ๆ ยังไม่เคยย้อมผมเอง หรือไม่มีความชำนาญ มิสซี่จะแนะนำให้ใช้เป็นยาย้อมสีผมแบบสระหรือแบบโฟม จะใช้ได้งานสะดวกกว่า
สีย้อมผม มีสีอะไรบ้าง?
สีย้อมมีหลากหลายเฉดสี ตั้งแต่สีน้ำตาลโทนต่าง ๆ สีบลอนด์ หรือแม่สีต่าง ๆ เช่นแดง น้ำเงิน เป็นต้น ทั้งนี้จะขึ้นอยู่แต่ละผลิตภัณฑ์ว่ามีสีใดบ้าง
ก่อนย้อมผม ห้ามทำอะไร?
ก่อนย้อมผม ไม่ควรสระผม และ งดเว้นการทำเคมี เช่น การยืด การดัด เพราะจะทำให้ผมเสียได้ค่ะ และเพื่อป้องกันผมเสีย มิสซี่จึงมีวิธีเตรียมผมก่อนทำสีมาฝาก
– บำรุงผมด้วยทรีทเม้นท์ อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง
– สระผมไม่ถี่มากนัก เพื่อให้เส้นผมมีน้ำมันธรรมชาติเคลือบอยู่
– ไดร์ผมด้วยลมเย็น เพื่อหลีกเลี่ยงความร้อน
เพียงเท่านั้นเพื่อน ๆ ก็สามารถใช้น้ำยาย้อมผมให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดได้แล้วค่า
หลังจากย้อมผมเสร็จ สระผมได้ไหม?
หลังจากย้อมผมเสร็จไม่ควรที่จะสระผมภายใน 48 ชั่วโมง หลังจากที่ย้อมเสร็จ เพื่อให้สีได้เซ็ตตัวและให้ความมันมาช่วยเสริม ให้สีผมติดได้ดีและทนมากยิ่งขึ้น
สีย้อมผมติดมือ ทำยังไง?
หากสีย้อมผมติดมือเพื่อน ๆ สามารถล้างออกได้หลายวิธีเลย
– ใช้แอลกอฮอล์เทลงบนสำลีและเช็ตน้ำยาออกจากผิวเบา ๆ แต่วิธีนี้ไม่เหมาะกับสาว ๆ ที่ผิวแพ้ง่ายนะคะ
– ใช้เบบี้ออยล์แปะทิ้งไว้อย่างน้อย 8 ชั่วโมง แล้วล้างด้วยน้ำอุ่นและสบู่เหลว
– ใช้เบกกิ้งโซดาผสมกับน้ำยาล้างจานและมะนาว ผอกไว้บริเวณที่เลอะสี แล้วลากออกด้วยน้ำอุ่น
– ใช้น้ำยาล้างเล็บเทบนสำลีก้อนแล้วเช็ดออกเบา ๆ ข้อควรระวังคือไม่ควรเช็ดนานเกิน 30 วินาที และควรใช้เช็ดเฉพาะบริเวณแขนและมือเท่านั้น
– ใช้ เมคอัพ รีมูฟเวอร์ เทใส่สำลีและพอกไว้ประมาณ 5 นาที และจึงล้างด้วยน้ำอุ่น
ใช้น้ำส้มสายชูเทลงในสำลี และจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด
สีย้อมผม ปลอดภัยไหม?
สีย้อมผมไม่ถึงกับปลอดภัย แต่ก็ไม่ได้เป็นอันตรายขนาดนั้น หากเพื่อน ๆ เลือกผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและได้มาตรฐาน ควรสวมถุงมือ และอยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก
ถึงแม้ว่าเราจะระวังตัวแค่ไหนแล้วก็ตามแต่ส่วนผสมของยาย้อมสีผมก็ยังเป็นสารเคมีอยู่ดี ดังนั้นการเลี่ยงการย้อมสีผมบ่อย ๆ ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน หรือหากสาว ๆ ท่านใดที่ชอบย้อมบ่อย ๆ การเลือกยาย้อมผมออแกนิคก็เป็นทางเลือกที่ช่วยหลีกเลี่ยงสารเคมีในน้ำยาย้อมสีผมได้ดีทีเดียว
นอกจากการย้อมสีผมให้เป๊ะปังตามลุคที่สาว ๆ ต้องการแล้ว การดูแลสุขภาพเส้นผมก็เป็นเรื่องที่สำคัญเช่นเดียวกัน มิสซี่เลยอยากแนะนำว่าสาว ๆ ที่ไม่เคยย้อมสีผมเองมาก่อน ให้เข้าร้านเสริมสวยร้านประจำ สอบถามพี่ ๆ เค้าสักนิดก็ไม่เสียหาย เพราะนอกจากจะได้เทคนิคดี ๆ แล้ว เราจะยังได้เส้นผมที่ยังสุขภาพดีอยู่แม้จะเปลี่ยนสีมาหลายครั้งก็ไม่หวั่น เพราะฉะนั้นก่อนเลือกซื้อ สีย้อมผม ยี่ห้อไหนดี ก็อย่าลืมตรวจสอบวิธีใช้ข้างกล่องรวมไปถึงรีวิวจากในเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้ด้วยนะคะ
อ้างอิง
https://www.byrdie.com/best-at-home-hair-color
https://www.healthline.com/health/does-dying-your-hair-damage-it#takeaway