10 แคลเซียมเม็ดฟู่ ยี่ห้อไหนดี 2023 ทานง่าย บำรุงกระดูก

แคลเซียม (calcium) เป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายในทุกเพศ และทุกวัย เนื่องจากเป็นแร่ธาตุที่พบมากที่สุดในร่างกาย โดยเฉพาะในกระดูกและฟัน ซึ่งร่างกายคนเราไม่สามารถสร้างแคลเซียมขึ้นมาเองได้ ต้องได้รับจากการทานเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ผลไม้ หรือการทานอาหารเสริมแคลเซียม โดยแคลเซียมจะช่วยบำรุงกระดูก บำรุงข้อต่อ ช่วยเสริมกระดูก และยังช่วยเพิ่มความสูงได้อีกด้วยค่ะ

แน่นอนค่ะว่า ในรีวิวนี้ มิสซี่จะมาแนะนำแคลเซียมแบบเม็ดฟู่ ให้เหล่าสาว ๆ ที่กำลังมองหาแคลเซียมมาทานเสริมกัน ใครที่กำลังลังเลว่าจะเลือกซื้อ แคลเซียมเม็ดฟู่ ยี่ห้อไหนดี มิสซี่ได้รวบรวมมารีวิวให้แล้วค่าา

TOP 3 แคลเซียมเม็ดฟู่ที่ดีที่สุด

ประโยชน์ของแคลเซียม

แคลเซียม เป็นแร่ธาตุสำคัญต่อการเจริญเติบโตของกระดูกและฟัน อีกทั้ง ยังช่วยในการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น เป็นตัวช่วยส่งกระแสประสาท ช่วยหลั่งฮอร์โมนต่าง ๆ เป็นต้น ฉะนั้น แคลเซียมจึงมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง คือ

  1. บำรุงกระดูก เพราะแคลเซียมเป็นส่วนสำคัญในการสร้างกระดูกอ่อน และรักษากระดูกให้แข็งแรง ซึ่งอาหารเสริมแคลเซียม ใช้ในการรักษาและป้องกันโรคกระดูกพรุน
  2. ป้องกันความดันโลหิตสูง
  3. ควบคุมการไหลเวียนของเลือดและสารอาหารต่าง ๆ ในร่างกาย
  4. ควบคุมระดับแมกนีเซียม ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม
  5. ช่วยในการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
  6. ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่
  7. ช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ ทำให้หลับสบายมากขึ้น

ซึ่งโดยปกติแล้ว ปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับต่อวัน แบ่งตามช่วงอายุ คือ

อายุ 0-6 เดือนควรได้รับแคลเซียม 200 mg/วัน 
อายุ 7-11 เดือนควรได้รับแคลเซียม 260 mg/วัน
อายุ 1-3 ปีควรได้รับแคลเซียม 700 mg/วัน
อายุ 4-8 ปีควรได้รับแคลเซียม 1,000 mg/วัน
อายุ 9-18 ปีควรได้รับแคลเซียม 1,300 mg/วัน
อายุ 19-50 ปีควรได้รับแคลเซียม 1,000 mg/วัน
อายุ 51-70 ปีควรได้รับแคลเซียม 1,200 mg/วัน
อายุ 71 ปี ขึ้นไปควรได้รับแคลเซียม 1,200 mg/วัน

ส่วนคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร อาจจะต้องการแคลเซียมในปริมาณที่มากกว่าคนทั่วไป ซึ่งสามารถดูปริมาณแนะนำได้ตรงนี้เลยค่า 

ปริมาณแคลเซียมสำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์

อายุ 14-18 ปีควรได้รับแคลเซียม 1,000 mg/วัน 
อายุ 19-50 ปีควรได้รับแคลเซียม 1,300 mg/วัน

จะเลือกซื้อ แคลเซียมเม็ดฟู่ ยี่ห้อไหนดี 2566

1. แคลเซียมเม็ดฟู่โดยรวมที่ดีที่สุด : Mivolis Calcium

Mivolis Calcium แคลเซียมเม็ดฟู่ ยี่ห้อไหนดี

ราคา 120 บาท

ข้อดี
+ มีวิตามิน C และวิตามิน B รวม
+ ราคาเข้าถึงง่าย
+ รสชาติอร่อย ทานง่าย

ข้อควรพิจารณา
– ไม่เหมาะกับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี

แคลเซียมเม็ดฟู่อันดับ 1 ยกให้ Mivolis สัญชาติเยอรมันตัวนี้เลยค่ะ โดยใน 1 เม็ดฟู่ มีแคลเซียมเข้มข้น 400 mg มีส่วนผสมของวิตามิน C และวิตามิน B รวม ช่วยบำรุงข้อต่อ บำรุงกระดูก ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุนได้

ซึ่งตัวนี้ ไม่มีน้ำตาล มีรสชาติเปรี้ยวนิด ๆ อร่อย ทานง่าย ใครที่กำลังเลือกซื้อ แคลเซียมเม็ดฟู่ สงสัยว่า Mivolis calcium ดีไหม บอกเลยว่าคุณภาพดี แถมราคาถูกอีกด้วยค่ะ!

ปริมาณ 20 เม็ด : ราคา 120 บาท (ตกเม็ดละ 6 บาท)

ประเภทแคลเซียมCarbonate
ความเข้มข้นต่อเม็ด400 mg
ส่วนประกอบสำคัญแคลเซียม, วิตามิน C, วิตามิน B รวม

2. แคลเซียมเม็ดฟู่ เสริมกระดูกและฟันที่ดีที่สุด : CDR Calcium-D-Redoxon

CDR Calcium-D-Redoxon แคลเซียมเม็ดฟู่ ยี่ห้อไหนดี

ราคา 269 บาท

ข้อดี
+ มีวิตามิน C, วิตามิน D3 และวิตามิน B6
+ ดูดซึมได้ดี
+ หาซื้อง่ายตามร้านขายยาทั่วไป

ข้อควรพิจารณา
– มีปริมาณความเข้มข้นแคลเซียมค่อนข้างน้อย

มาดูรีวิวตัวที่ 2 กันบ้างค่ะ ตัวนี้มีปริมาณแคลเซียมเข้มข้นอยู่ที่ 250 mg อีกทั้ง ยังมีวิตามิน C, วิตามิน D3 และวิตามิน B6 ที่จะช่วยดูดซึมแคลเซียมได้ดียิ่งขึ้น ป้องกันโรคกระดูกเปราะ ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน เหมาะกับเด็กที่อยู่ในวัยเจริญเติบโต รวมทั้ง คุณแม่ตั้งครรภ์ หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตรด้วยค่ะ

โดยตัวนี้ ยังปราศจากสารแซ็กคาริน (Saccharin) ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ให้ความหวาน ชาวมิสซี่ที่ตามหา แคลเซียมเม็ดฟู่ที่คุ้มราคา CDR ตัวนี้ก็ดีเช่นกันค่า

ปริมาณ 15 เม็ด : ราคา 269 บาท (ตกเม็ดละ 17.93 บาท)

ประเภทแคลเซียมCarbonate
ความเข้มข้นต่อเม็ด250 mg
ส่วนประกอบสำคัญแคลเซียม,วิตามิน C, วิตามิน D3, วิตามิน B6

3. แคลเซียมเม็ดฟู่ L-threonate ที่ดีที่สุด : Swiss Energy Calcium CA Vitamin D3

Swiss Energy Calcium CA Vitamin D3 แคลเซียมเม็ดฟู่ ยี่ห้อไหนดี

ราคา 390 บาท

ข้อดี
+ ดูดซึมดีมาก ไม่ตกค้างในร่างกาย
+ มีวิตามิน D3

ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างสูง

ถ้าถามมิสซี่ว่าจะแนะนำ อาหารเสริมแคลเซียม ยี่ห้อไหนดี แคลเซียมเม็ดฟู่ของ Swiss ตัวนี้คือหนึ่งในนั้นค่ะ เป็นแคลเซียมแอล-ทรีโอเนต ซึ่งเป็นแคลเซียมจากข้าวโพด สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดีกว่าแคลเซียมอื่น ๆ ถึง 90% เลยค่ะ ช่วยบำรุงข้อเข่าเสื่อม บำรุงข้อต่อ และช่วยบำรุงกระดูก 

แถมยังมีวิตามิน D3 ช่วยเรื่องลำไส้ และช่วยให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สาว ๆ ที่กำลังเลือกซื้อ แคลเซียมเม็ดฟู่ คุณภาพแน่น มาตรฐานดีเยี่ยม ไม่เกิดการตกค้างในร่างกาย ต้องตัวนี้เลยค่ะ

ปริมาณ 20 เม็ด : ราคา 390 บาท (ตกเม็ดละ 19.5 บาท)

ประเภทแคลเซียมL-threonate
ความเข้มข้นต่อเม็ด500 mg
ส่วนประกอบสำคัญแคลเซียม, วิตามิน D3

4. แคลเซียมเม็ดฟู่ บำรุงข้อเข่าที่ดีที่สุด : Berocca Performance

Berocca Performance แคลเซียมเม็ดฟู่ ยี่ห้อไหนดี

ราคา 175 บาท

ข้อดี
+ มีวิตามิน และแร่ธาตุหลายชนิด
+ ราคาเข้าถึงง่าย

ข้อควรพิจารณา
– ปริมาณความเข้มข้นแคลเซียมค่อนข้างน้อย

สำหรับแคลเซียมเม็ดฟู่ตัวนี้ มีปริมาณความเข้มข้นต่อเม็ดอยู่ที่ 100 mg รวมทั้ง มีส่วนผสมของวิตามิน และแร่ธาตุหลายชนิดมากค่ะ ทั้งแมกนีเซียม, ธาตุเหล็ก, วิตามิน C, วิตามิน B, ไบโอติน และกรดโฟลิก ซึ่งนอกจากจะช่วยบำรุงข้อเข่า บำรุงกระดูกและฟันแล้ว ยังช่วยบำรุงระบบประสาทและสมองได้ด้วย

อีกทั้ง ยังช่วยเพิ่มพลังงานให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า สามารถต้านอนุมูลอิสระ และช่วยชะลอวัย สาว ๆ ที่กำลังหาซื้อ แคลเซียมเม็ดฟู่ ที่มีวิตามินและแร่ธาตุอื่น ๆ ด้วย ตัวนี้ตอบโจทย์มากค่ะ!

ปริมาณ 15 เม็ด : ราคา 175 บาท (ตกเม็ดละ 11.6 บาท)

ประเภทแคลเซียมCarbonate
ความเข้มข้นต่อเม็ด100 mg
ส่วนประกอบสำคัญแคลเซียม,แมกนีเซียม,ธาตุเหล็ก, วิตามิน C, วิตามิน B, ไบโอติน, กรดโฟลิก

5. แคลเซียม วิตามินดี ชนิดเม็ดฟู่ที่ดีที่สุด : Nutrakal Deli Cal-D-C 1000

Nutrakal Deli Cal-D-C 1000 แคลเซียมเม็ดฟู่ ยี่ห้อไหนดี

ราคา 260 บาท

ข้อดี
+ เป็นรสเลมอน ทานง่าย
+ มีวิตามิน C 1,000 mg และวิตามิน D

ข้อควรพิจารณา
– อาจทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหาร

เป็นวิตามินบำรุงกระดูก ที่ให้วิตามิน C มาในปริมาณ 1,000 mg ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในกระดูกเพิ่มขึ้น บำรุงข้อต่อ ลดการปวดข้อเข่า และมีวิตามิน D ช่วยในเรื่องของการดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้น

ซึ่งแคลเซียมเม็ดฟู่ของยี่ห้อนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวที่ทานง่าย เพราะเป็นรสเลมอน ใครอยากได้ประโยชน์แบบ 2 in 1 มิสซี่แนะนำตัวนี้เลยค่าา

ปริมาณ 30 เม็ด : ราคา 260 บาท (ตกเม็ดละ 8.6 บาท)

ประเภทแคลเซียมCarbonate
ความเข้มข้นต่อเม็ด625 mg
ส่วนประกอบสำคัญแคลเซียม, วิตามิน C, วิตามิน D

6. แคลเซียมเม็ดฟู่ จากเยอรมันที่ดีที่สุด : Demosana Calcium Mobility Refresh

Demosana Calcium Mobility Refresh แคลเซียมเม็ดฟู่ ยี่ห้อไหนดี

ราคา 145 บาท

ข้อดี
+ ราคาเข้าถึงง่าย
+ ไม่มีน้ำตาล แคลลอรี่ 0% 
+ ไม่มีส่วนผสมที่ผลิตจากสัตว์

ข้อควรพิจารณา
– ไม่มีแร่ธาตุ หรือวิตามินอื่น

แคลเซียมเม็ดฟู่ของ Demosana มีปริมาณแคลเซียมเข้มข้น 400 mg ช่วยเสริมกระดูกและฟัน ลดการอักเสบของข้อต่อ ช่วยบำรุงข้อต่อ ป้องกันความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน

ยี่ห้อนี้ไม่มีน้ำตาล แคลอรี 0% ไม่มีส่วนผสมของกลูเตน แลคโตส และไม่มีส่วนผสมที่ผลิตจากสัตว์ เพราะฉะนั้น คนที่มองหาแคลเซียมเม็ดฟู่ มังสวิรัติทานได้ สามารถเลือกทานตัวนี้ได้เลยค่าา

ปริมาณ 20 เม็ด : ราคา 145 บาท (ตกเม็ดละ 7.25 บาท)

ประเภทแคลเซียมCarbonate
ความเข้มข้นต่อเม็ด400 mg
ส่วนประกอบสำคัญแคลเซียม

7. แคลเซียมเม็ดฟู่ อร่อยและทานง่ายที่ดีที่สุด : Kal-Cee Orange

Kal-Cee Orange แคลเซียมเม็ดฟู่ ยี่ห้อไหนดี

ราคา 70 บาท

ข้อดี
+ ราคาถูก หาซื้อง่าย
+ มีความเข้มข้นแคลเซียมสูง
+ มีส่วนผสมของวิตามิน และแร่ธาตุอื่น ๆ หลายชนิด

ข้อควรพิจารณา
– อาจทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหาร

มาดูรีวิวยี่ห้อของไทยกันบ้างค่ะ ตัวนี้ให้ความเข้มข้นแคลเซียมต่อเม็ดมากถึง 625 mg แถมมีวิตามิน และแร่ธาตุอื่น ๆ เสริมเข้ามาให้ด้วย ทั้งวิตามิน C เข้มข้น 1,000 mg, วิตามิน D, วิตามิน B6 และกรดซิตริก ซึ่งจะช่วยเสริมกระดูกและฟัน บำรุงข้อต่อ ป้องกันหวัด และภูมิแพ้ได้

ตัวนี้สามารถดูดซึมได้ดี แถมมีรสส้มอีกด้วย สาว ๆ ที่กำลังหาซื้อ แคลเซียมเม็ดฟู่ อร่อย และทานง่าย แนะนำของ Kal-Cee ตัวนี้เลยค่ะ 

ปริมาณ 10 เม็ด : ราคา 70 บาท (ตกเม็ดละ 7 บาท)

ประเภทแคลเซียมCarbonate
ความเข้มข้นต่อเม็ด625 mg
ส่วนประกอบสำคัญแคลเซียม, วิตามิน C, วิตามิน D, วิตามิน B6, กรดซิตริก 

8. แคลเซียม แมกนีเซียม ชนิดเม็ดฟู่ที่ดีที่สุด : Effer Calcium + Vitamin D

Effer Calcium + Vitamin D แคลเซียมเม็ดฟู่ ยี่ห้อไหนดี

ราคา 170 บาท

ข้อดี
+ ราคาเข้าถึงง่าย
+ ปริมาณแคลเซียมเข้มข้นสูงมาก
+ มีแมกนีเซียม, วิตามิน D

ข้อควรพิจารณา
– ควรเช็คปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับก่อนทาน

แคลเซียมเม็ดฟู่ยี่ห้อ Effer นี้ มีแคลเซียมเข้มข้นมากถึง 1,566 mg และยังมีส่วนประกอบของแมกนีเซียม ช่วยลดการเกิดกระดูกเปราะ ป้องกันโรคกระดูกพรุน อีกทั้ง มีวิตามิน D เข้ามาช่วยในเรื่องของการดูดซึมให้ดียิ่งขึ้นค่ะ

นอกจากนี้ ยังช่วยในการทำงานของระบบกล้ามเนื้อ ระบบย่อยอาหาร และช่วยให้สารสื่อประสาททำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ใครที่ปรึกษาคุณหมอแล้ว มีอาการขาดแคลเซียมสูงกว่าคนทั่วไป กำลังตัดสินใจซื้อ แคลเซียมเม็ดฟู่ ยี่ห้อไหนดี ซื้อตัวนี้ไม่ผิดหวังแน่นอนค่าา

ปริมาณ 15 เม็ด : ราคา 170 บาท (ตกเม็ดละ 11.3 บาท)

ประเภทแคลเซียมCarbonate
ความเข้มข้นต่อเม็ด1,566 mg
ส่วนประกอบสำคัญแคลเซียม, แมกนีเซียม, วิตามิน D

9. แคลเซียมเม็ดฟู่ สำหรับหญิงตั้งครรภ์ที่ดีที่สุด : CalSource

CalSource แคลเซียมเม็ดฟู่ ยี่ห้อไหนดี

ราคา 330 บาท

ข้อดี
+ เหมาะกับคุณแม่ตั้งครรภ์
+ ป้องกันกระดูกพรุน กระดูกเปราะ

ข้อควรพิจารณา
– ไม่มีวิตามิน หรือแร่ธาตุอื่น

CalSource เป็นแคลเซียมเม็ดฟู่เข้มข้น 500 mg ซึ่งเป็นปริมาณที่กำลังดีในการทาน 1 ครั้ง เหมาะกับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่รู้สึกว่ามีภาวะขาดแคลเซียม จากการที่เด็กในครรภ์ดึงแคลเซียมไปใช้สร้างกระดูก ตัวนี้จะช่วยป้องกันภาวะกระดูกพรุนหลังคลอด ช่วยลดการเกิดตะคริวขณะตั้งครรภ์ได้

อีกทั้ง ยังช่วยลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ สามารถใช้รักษาโรคกระดูกอ่อนในเด็ก และผู้ใหญ่ได้อีกด้วย คุณแม่ตั้งครรภ์ที่กำลังหาซื้อ แคลเซียมเม็ดฟู่บำรุงร่างกาย ไปตำตัวนี้ได้ค่ะ!

ปริมาณ 20 เม็ด : ราคา 330 บาท (ตกเม็ดละ 16.5 บาท)

ประเภทแคลเซียมLactate Gluconate / Carbonate
ความเข้มข้นต่อเม็ด500 mg
ส่วนประกอบสำคัญแคลเซียม

10. แคลเซียมเม็ดฟู่ สำหรับเด็กที่ดีที่สุด : Swiss Energy Multi Vitamin – Calcium

Swiss Energy Multi Vitamin - Calcium แคลเซียมเม็ดฟู่ ยี่ห้อไหนดี

ราคา 690 บาท

ข้อดี
+ มีวิตามินอื่น ๆ หลายชนิด
+ ไม่ผสมน้ำตาล

+ เด็กที่แพ้นมวัวสามารถทานได้

ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับปริมาณ

ของ Swiss ตัวนี้ เป็นแคลเซียมเม็ดฟู่ สำหรับเด็ก อายุ 7 ปีขึ้นไป โดยใน 1 เม็ด มีปริมาณแคลเซียม 1000 mg และมีวิตามินรวม ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของร่างกายและสมอง ช่วยดูแลกระดูก เพิ่มความสูง เหมาะสำหรับเด็กที่ทานน้อย ทานยาก และไม่ชอบทานผัก 

โดยแคลเซียมเม็ดฟู่ตัวนี้ เด็กที่แพ้นมวัวก็สามารถทานได้ค่ะ คุณแม่ชาวมิสซี่ท่านไหนที่กำลังหาซื้อ แคลเซียมเม็ดฟู่ หรือ แคลเซียมเพิ่มความสูง ต้องไปตำตัวนี้เลยค่ะ กินแล้วสูง แถมปลอดภัยสุด ๆ 

ปริมาณ 20 เม็ด : ราคา 690 บาท (ตกเม็ดละ 34.5 บาท)

ประเภทแคลเซียมCarbonate
ความเข้มข้นต่อเม็ด1,000 mg
ส่วนประกอบสำคัญแคลเซียม, วิตามิน C, วิตามิน E, วิตามิน B รวม, วิตามิน D, ไบโอติน, อะซิเตท, กรดโฟลิก

วิธีเลือกซื้อ “แคลเซียม” 

เลือกซื้อตามปริมาณความเข้มข้น

เนื่องจาก แต่ละคนต้องทานในปริมาณที่แตกต่างกันตามช่วงอายุ หรือมีจุดประสงค์ในการทานที่แตกต่างกัน เช่น ทดแทนการสูญเสียแคลเซียม รักษาโรคเกี่ยวกับกระดูกพรุน ทั้งนี้ ก็ต้องปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชก่อนก่อนทานด้วยค่ะ

โดยปริมาณต่อเม็ดที่แนะนำให้เลือกซื้อคือ 600-800 mg เนื่องจาก ร่างกายจะสามารถดูดซึมสู่ร่างกายได้ดีกว่าการทานครั้งละปริมาณมาก ๆ 

เลือกซื้อตามประเภทของแคลเซียม

อาหารเสริมแคลเซียมมีหลากหลายประเภท ซึ่งชนิดที่โดดเด่น และนำมาทำอาหารเสริมแคลเซียม ได้แก่  แคลเซียมซิเตรต (Calcium citrate), แคลเซียมคาร์บอเนต (Calcium carbonate), แคลเซียมแอล-ทรีโอเนต (Calcium L-threonate) เป็นต้น

ซึ่งแต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติเฉพาะ หรือข้อดี-ข้อควรพิจารณา ที่แตกต่างกัน 

  • Calcium Carbonate : มีความสามารถในการดูดซึมได้ประมาณ 10% และเกิดผลข้างเคียงจากการทาน คือ ท้องอืด ท้องผูก
  • Calcium Citrate : ดูดซึมได้ 50% สามารถทำงานได้ดีเมื่อมีกรดในกระเพาะอาหาร ดังนั้น จึงควรทานพร้อมอาหาร จะสามารถดูดซึมได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
  • Calcium L-threonate : เป็นประเภทที่ดูดซึมได้ดีที่สุด คือ ดูดซึมได้มากถึง 90% และสามารถทานตอนท้องว่างได้ 

เลือกซื้อตามชนิดของแคลเซียม

  • ชนิดเม็ดหรือแคปซูล : เป็นแคลเซียมรูปแบบทั่วไป มีให้เลือกซื้อหลากหลายตามท้องตลาด ทานง่าย แต่ไม่เหมาะกับคนที่กลืนยายาก ซึ่งแคลเซียมชนิดนี้ จะดูดซึมได้ช้ากว่าแบบเม็ดฟู่ค่ะ
  • ชนิดเม็ดฟู่ชงดื่ม : เป็นแคลเซียมที่ทานโดยการละลายกับน้ำแล้วดื่ม ซึ่งเป็นชนิดที่ละลายได้ดีกว่าแบบเม็ดปกติ และสามารถดูดซึมได้ดีกว่า โดยในท้องตลาดมีให้เลือกหลายรสชาติ

เลือกซื้อตามส่วนประกอบของแร่ธาตุ และวิตามิน

เนื่องจาก แคลเซียมเม็ดฟู่แต่ละยี่ห้อ จะให้ส่วนประกอบของแร่ธาตุ และวิตามินมาแตกต่างกัน ซึ่งจะให้ประโยชน์ที่ตอบโจทย์ต่างกัน เช่น

  • วิตามิน C : เมื่อทานแคลเซียมกับวิตามิน C จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการออกฤทธิ์ มีประโยชน์ในการเพิ่มภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด และต่อต้านอนุมูลอิสระ 
  • วิตามิน D : เมื่อทานร่วมกับแคลเซียม จะช่วยดูดซึมแคลเซียมได้ดียิ่งขึ้น โดยหน้าที่หลักของวิตามิน D คือ ช่วยเพิ่มสมดุลของระดับแคลเซียมในร่างกาย ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคกระดูกพรุน
  • วิตามิน B : มีความสำคัญต่อระบบประสาทและสมอง เสริมสร้างการเจริญเติบโตในเด็ก ช่วยบำรุงประสาท และมีส่วนช่วยในการทำงานของกล้ามเนื้อ ไม่ให้เกิดโรคเหน็บชา อีกทั้ง ยังช่วยป้องกันโรคโลหิตจางได้
  • แมกนีเซียม : มีส่วนช่วยในการป้องกันภาวะกระดูกพรุน เมื่อทานคู่กับแคลเซียม จะช่วยควบคุมสมดุลของแคลเซียมในกระดูก และในเลือด นอกจากนี้ ยังมีประโยชน์ในการป้องกันหลอดเลือดในสมองตีบ รักษาไมเกรน ลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ 

เลือกซื้อยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ มีมาตรฐานการผลิต

เพราะเป็นอาหารเสริมที่ต้องทานเข้าไป ความปลอดภัยจึงเป็นเรื่องสำคัญ การเลือกซื้อแคลเซียมเม็ดฟู่ จึงควรเลือกยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ มีมาตรฐานการผลิต โดยเฉพาะตัวผลิตภัณฑ์ ต้องได้ตรารับรองมาตรฐาน อย. เพื่อการันตีว่าปลอดภัยนั่นเองค่ะ

ทำไมถึงควรทานอาหารเสริมแคลเซียม?

หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมเราถึงต้องทานอาหารเสริมแคลเซียม นั่นเป็นเพราะว่า ในชีวิตประจำวันของเราอาจจะทานอาหาร ผัก หรือผลไม้ ที่มีแคลเซียมเข้าไปได้ไม่เพียงพอต่อร่างกาย จึงควรทานอาหารเสริมแคลเซียมเข้าไปเพื่อไม่ให้ร่างกายเกิดการขาดแคลเซียมนั่นเองค่ะ

สำหรับกลุ่มคนที่อาจเกิดภาวะขาดแคลเซียม ได้แก่

  • ผู้ที่ทานมังสวิรัติแบบเคร่ง เนื่องจาก จะไม่ดื่มนม และไม่ทานอาหารทุกประเภทที่ผลิตจากสัตว์ 
  • ผู้ที่มีโรคไต หรือโรคตับวายเรื้อรัง
  • ผู้ที่เป็นโรคระบบทางเดินอาหารเรื้อรัง
  • ผู้ที่มีภาวะขาดวิตามิน D
  • สตรีวัยหมดประจำเดือน

ซึ่งหากร่างกายขาดแคลเซียม ก็จะส่งผลกระทบหลายอย่าง คือ

  • มีอาการนอนไม่หลับ อ่อนเพลีย และเหนื่อยง่าย
  • ปวดบริเวณหลัง แขน และขาเป็นประจำ
  • มีอาการเป็นตะคริว รู้สึกชาบริเวณมือ และฝ่าเท้าเป็นประจำ
  • กระดูกมีความเปราะบาง ทำให้ทรงตัวลำบาก
  • มีปัญหาเกี่ยวกับความทรงจำ และอารมณ์มีความแปรปรวนเปลี่ยนแปลงได้ง่าย
  • เสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคกระดูกพรุน เนื่องจากในช่วงอายุ 30-35 ปี ร่างกายของเราจะมีขั้นตอนของการสร้างและสลายกระดูกให้สมดุลกัน และเมื่อเข้าสู่ช่วงอายุ 40 ปี การสลายกระดูกจะเริ่มมีมากกว่าการสร้างอย่างชัดเจน ส่งผลให้กระดูกมีความเปราะบาง และอาจจะเกิดการแตกหักได้ง่ายมากขึ้นนั่นเอง

ดังนั้น มิสซี่แนะนำ อาหารเสริมแคลเซียม สำหรับผู้ที่มีอาการเหล่านี้นะคะ ร่างกายเพื่อน ๆ จะได้กลับมาแข็งแรงค่า

คำถามที่พบบ่อย

อาหารเสริมแคลเซียมเม็ดฟู่คืออะไร?

อาหารเสริมแคลเซียมเม็ดฟู่ คือ แคลเซียมแบบชงดื่มที่อยู่ในรูปแบบของเม็ดฟู่ที่ละลายน้ำได้ วิธีการกินก็คือ ละลายแคลเซียม 1 เม็ด ลงในน้ำ 1 แก้ว (ปริมาณ 200-300 ml) แล้วดื่มเหมือนดื่มน้ำปกติเลยค่ะ

แคลเซียมเม็ดฟู่ กินตอนไหนดี?

ควรกินแคลเซียมเม็ดฟู่พร้อมอาหารมื้อเย็น จะเกิดประสิทธิภาพสูงสุด เนื่องจาก ตัวยาอาจจะทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหาร และช่วงกลางคืน เป็นช่วงที่ร่างกายขับแคลเซียมออกจากกระดูกมากที่สุด การทานแคลเซียมเสริมเข้าไป เพื่อให้ปริมาณแคลเซียมในกระดูกสูงขึ้น ซึ่งจะช่วยป้องกันการขับแคลเซียมออกจากกระดูก ไม่ให้กระดูกบางค่ะ

แคลเซียมเม็ดฟู่ ดีไหม?

แคลเซียมเม็ดฟู่ดีค่ะ ทั้งในแง่ของคุณประโยชน์ และในแง่ของรูปแบบการทาน เนื่องจาก มีส่วนช่วยอย่างมากในการบำรุงกระดูกและฟัน รวมถึงส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย ส่วนรูปแบบการทานแบบเม็ดฟู่ ก็จะทานง่าย มีหลายรสชาติให้เลือก และดูดซึมได้ง่ายกว่าแบบเม็ดปกติด้วยค่ะ

แคลเซียม ห้ามกินกับอะไร?

แคลเซียม ห้ามกินกับยาปฏิชีวนะ และยาความดันบางกลุ่ม เนื่องจาก แคลเซียมจะเข้าไปยั้งยังการออกฤทธิ์ของยาเหล่านี้ ทำให้ส่งผลต่อการรักษาได้ ดังนั้น หากใครที่มีโรคความดัน หรือต้องทานยาปฏิชีวนะ จะซื้อแคลเซียมมาทาน ต้องปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนค่ะ

อาหารที่มีแคลเซียมสูงมีอะไรบ้าง?

อาหารที่มีแคลเซียมสูง และสามารถหาทานได้ง่าย คือ

1. นม 
นม ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งของแคลเซียมชั้นดี มีแหล่งที่มาได้จากทั้งในสัตว์และพืช ซึ่งนมที่มาจากสัตว์ เช่น นมวัว จะมีปริมาณแคลเซียมสูงกว่านมที่มาจากพืช เช่น นมถั่วเหลือง และนมข้าวโพด โดยนมวัวจะมีปริมาณแคลเซียมสูงถึง 204.67 mg ต่อนมวัว 200 ml นอกจากนี้นมวัวยังมีกรดอะมิโนจำเป็น ที่มีส่วนช่วยในการสร้างกล้ามเนื้อ และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรออีกด้วย

2. ชีส
ชีส เป็นอาหารอีกหนึ่งอย่างที่อุดมไปด้วยแคลเซียม ช่วยในการบำรุงกระดูกให้แข็งแรง และช่วยป้องกันฟันผุ โดยชีสแบบ Parmesan นั้น จะมีปริมาณแคลเซียมสูงถึง 331 mg ซึ่งการนำชีสมารับประทานกับอาหารต่าง ๆ ในปริมาณที่เหมาะสม จะมีประโยชน์กับสุขภาพของเรามากกว่าการทานเพียงแค่ชีสเปล่า ๆ และนอกจากชีสจะมีแคลเซียมสูงแล้ว ยังมีสารอาหารอย่างโปรตีน กรดไขมัน โฟเลต วิตามินเอ และวิตามินดีอีกด้วย

3. โยเกิร์ต
โยเกิร์ต เป็นผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการนำนมมาหมักรวมกับแบคทีเรียดี ๆ ที่ยังมีชีวิต มีส่วนช่วยในการขับถ่าย และมีแคลเซียมกับฟอสฟอรัส ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง โดยกรดแลคติกในโยเกิร์ตจะมีส่วนช่วยในการย่อยแคลเซียมให้เล็กลง ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมแคลเซียมไปใช้งานได้ง่ายมากขึ้น อีกทั้ง โยเกิร์ตยังให้สารอาหารที่เป็นโปรตีนและแคลเซียมสูงกว่านมธรรมดาทั่วไปอีกด้วย

4. บรอกโคลี
บรอกโคลี เป็นผักสีเขียวที่มีรสชาติอร่อย และสามารถนำไปทำอาหารได้หลากหลายประเภท อีกทั้ง ยังอุดมไปด้วยสารอาหารต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของเรามากมายหลากหลายชนิด เช่น โปรตีน วิตามินซี วิตามินเอ วิตามินเค กรดโฟลิก โพแทสเซียม และแคลเซียม โดยบรอกโคลีสดปริมาณ 100 g จะมีปริมาณแคลเซียม 10 mg ซึ่งสามารถช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง มีส่วนช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน และยังสามารถช่วยบำรุงผิวพรรณได้อีกด้วย

5. น้ำส้ม
น้ำส้ม เป็นน้ำผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและร่างกาย โดยน้ำส้มจะมีแคลเซียม ช่วยในการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง และมีวิตามินซี กับวิตามินดี ช่วยทำให้ร่างกายของเราสามารถดูดซึมแคลเซียมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงและป้องกันแก้วตาจากโรคต้อกระจกได้อีกด้วย

6. งาดำ
งาดำ เป็นพืชที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส สังกะสี และเหล็ก โดยงาดำปริมาณ 100 g จะมีแคลเซียมประมาณ 975 mg และจากการที่งาดำมีสารอาหารต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของเรามากมายหลากหลายชนิด ทำให้การรับประทานงาดำ สามารถช่วยบำรุงร่างกายในส่วนต่าง ๆ ได้เกือบทุกสัดส่วน ไม่ว่าจะเป็น  การมีส่วนช่วยในระบบขับถ่าย บำรุงหัวใจ และเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก

สำหรับรีวิว แคลเซียมเม็ดฟู่ ยี่ห้อไหนดี ทั้ง 10 ตัวที่มิสซี่แนะนำในบทความนี้ สาว ๆ มิสซี่สามารถนำไปเป็นข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจเลือกซื้ออาหารเสริมได้เลยค่ะ ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดในการทานอาหารเสริมแคลเซียมก็คือ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร ก่อนการเลือกซื้อ เพื่อความปลอดภัย และเพื่อตอบโจทย์การทานให้ตรงจุดที่สุดค่าา ^^

อ้างอิง 

https://www.webmd.com/diet/supplement-guide-calcium

https://www.webmd.com/osteoporosis/calcium-supplements-tips

https://www.healthline.com/nutrition/best-calcium-supplement#how-we-chose

Chalita Chamnanmueang

Chalita Chamnanmueang

เบสท์จบการศึกษาจากคณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ปัจจุบันเป็น Editor และ Content writer ประจำ Mizzyreview มีประสบการณ์เขียน copywriting, แปลบทความอังกฤษ-ไทย และรับผิดชอบตรวจสอบเนื้อหา และตีพิมพ์บทความผ่าน WordPress คอยอัปเดตเนื้อหาหลายๆ ด้าน ทั้งบิวตี้ไอเทม สกินแคร์ อาหารเสริม และเทคโนโลยีต่างๆ ให้สาวๆ ได้เข้าถึงทุกเทรนด์ ทุกไอเทมเด็ดกันค่ะ