แนะนำ 10 ออยทาผิว ยี่ห้อไหนดี 2023 [กลิ่นหอม ลดรอยแตกลาย!]

ออยล์ทาผิว หรือ Body Oil เป็นหนึ่งในขั้นตอนบำรุงผิวที่สำคัญ ขั้นตอนหนึ่งเลย เนื่องจากกิจกรรมต่าง ๆ อย่างเช่น การอาบน้ำอุ่น อยู่ในห้องแอร์นาน ๆ หรือเมื่อเจออากาศหนาว สามารถทำให้ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้นได้นั่นเองค่ะ 

ซึ่งในปัจจุบันมีออยล์ทาตัวหลายสูตรมาก ซึ่งถูกปรับให้ซึมเข้าผิวได้อย่างรวดเร็ว ไม่ทำให้ผิวเหนอะหนะจนเกินไป และมีสารบำรุงอื่น ๆ ที่ช่วยบำรุงผิวอีกด้วย

ไปดูกันว่า ออยทาผิว ยี่ห้อไหนดี ให้ผิวโกลว์สวย บำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื้นไม่แห้ง และลดรอยแตกลาย ออยล์ทาผิวหอม ๆ มีตัวไหนบ้างที่น่าโดน วันนี้ได้คำตอบแน่นอนค่ะว่า body oil ตัวไหนดี ที่น่าตำ! และมาพร้อมกับวิธีการเลือกออยทาตัวให้เหมาะกับทุกคนด้วย ห้ามพลาดค่ะ

TOP 3 ออยทาผิว

ประโยชน์ของออยล์ทาผิว

ช่วยควบคุมความมันส่วนเกิน  

ออยล์ทาผิว มีคุณสมบัติในการดูดซับความชุ่มชื้นได้ดี เนื่องจากส่วนผสมหลักของออยล์ทาผิว มาจากธรรมชาติ เช่น อะโวคาโด, โจโจ้บา และอัลมอนด์ ซึ่งมีความคล้ายกับน้ำมันในผิวของเรา เมื่อผิวมีน้ำมันเพียงพอ ก็ช่วยลดความมันส่วนเกินของผิวได้ค่ะ เพราะผิวไม่ต้องผลิตน้ำมัน มาทดแทนส่วนที่สูญเสียไปนั่นเอง

ช่วยสร้างเกราะป้องกันให้ผิว

เมื่อ Body oil ถูกดูดซึมเข้าสู่ผิวหนังชั้นบนสุด จะช่วยให้เกิดการซ่อมแซมของผิว และป้องกันไม่ให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น ตัวออยล์จะสามารถเคลือบล็อกความชุ่มชื้นบนผิวให้ชุ่มชื้นไม่แห้งเป็นอย่างดี

ลดปัญหาผิวได้เยอะเลย

ออยล์ทาผิว ช่วยให้รอยแผลเป็น และรอยแตกลายดูจางลง และปัญหาผิวอื่น ๆ ได้ โดยออยล์ทาผิวสามารถช่วยซ่อมแซมและรักษารอยแผลเป็น รักษาผิวที่ระคายเคือง ซึ่งจะขึ้นอยู่กับส่วนผสมที่อยู่ใน Body oil เช่นกัน 

ใช้สารสกัดจากธรรมชาติ 

ออยทาผิวส่วนใหญ่ มักมีส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ และสารเติมแต่งค่อนข้างน้อยกว่าครีมบำรุงอื่น ๆ ไม่มีสารกันบูด หรือสารเพิ่มความคงตัว ทำให้ออยล์ทาผิว สามารถซึมลึกเข้าสู่ผิว และบำรุงได้ล้ำลึก

การใช้บอดี้ออยสำหรับผิวกาย เป็นวิธีกู้ผิวแห้งที่ดีและประหยัด เพียงแค่ลงบนผิว ก็สามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวกาย และช่วยให้ผิวสุขภาพดี ใช้นวดลงบนผิวก็ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย และคลายความตึงเครียดของร่างกายได้อีกด้วยค่ะ หรือหากใครรอยแผลเป็นหรือรอยแตกลาย บอดี้ออย เป็นวิธีง่าย ๆ ในการช่วยให้รอยดูจางลง 

มาดูกันว่า ออยล์ทาผิว ที่แนะนำ มีอะไรบ้าง

1. ออยล์บำรุงผิวโดยรวมดีที่สุด : Clarins Huile Tonic Body Treatment Oil

Clarins Huile Tonic Body Treatment Oil ออยทาผิว ยี่ห้อไหนดี

ราคา 2,900 บาท

ข้อดี
+ ผลิตจากพืชธรรมชาติ 100%
+ ช่วยให้ผิวกระชับ
+ ให้ผิวนุ่มชุ่มชื้

ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างแพง

Clarins Body oil ตัวนี้ เป็นออยบำรุงผิวกาย ส่วนผสมที่สกัดมาจากพืชพรรณธรรมชาติ มีความบริสุทธิ์ถึง 100% ให้ผิวกระชับ เต่งตึง เพิ่มความยืดหยุ่นของผิว และลดรอยแตกลายได้ ด้วย Essential oil ที่สกัดเข้มข้น จาก Rosemary, Geranium และ Mint ทั้งยังช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น และช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นไม่แห้ง ด้วยน้ำมันเฮเซลนัท 

ใครที่เป็นสายออแกนิค ต้องการกระชับผิว รอยแตกลายตื้นขึ้น ผิวกระจ่างใสแล้ว ควรลองใช้ Clarins หลังอาบน้ำ ช่วยปกป้องผิวจากการขาดความชุ่มชื้นได้ดีด้วย มาพร้อมมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ช่วยผ่อนคลายอีกด้วย

ปริมาณ 100 ml : ราคา 2,900 บาท (ตก ml ละ 29 บาท)

จุดเด่นทำจากสารสกัดจากพืชธรรมชาติบริสุทธิ์ 100%
ส่วนประกอบสำคัญRosemary Leaf Oil, Hazel Seed Oil, Rosewood Wood Oil, Mentha Arvensis Leaf Oil
เหมาะกับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือผู้ที่มีรอยแตกลาย

2. ออยล์บำรุงผิว ซึมง่าย : Journal First Love Body Oil

Journal First Love Body Oil ออยทาผิว ยี่ห้อไหนดี

ราคา 1,090 บาท

ข้อดี
+ ซึมง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ
+ บำรุงผิวนุ่มชุ่มชื้
+
กลิ่นหอมแพงมาก หอมนานด้วย

ข้อควรพิจารณา
– หมดอายุหลังเปิดใช้งาน 6 เดือน

แนะนำ body oil บำรุงผิวให้นุ่ม ชุ่มชื้น ซึมง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ ต้องลองออยทาผิว Journal แล้วค่า เพราะมีส่วนผสมที่ซึมไว แถมกลิ่นหอมหวานผสมกับความหอมสดชื่น สดใส ของดอกพลับพลึง และลูกแพร์ โดยกรรมวิธีการผลิต ที่ดึงคุณสมบัติของน้ำมันจากธรรมชาติ มาเป็นส่วนผสมหลัก ทำให้กลิ่นและเนื้อสัมผัสลงตัวมาก ๆ ค่ะ

Journal Body oil เป็นออยทาตัวหอมผสมด้วยน้ำมันสกัดเข้มข้นจากธรรมชาติหลากหลายชนิด ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว ลดความหยาบกร้าน เติมความชุ่มชื้นให้ผิว อีกทั้งสามารถใช้นวด เพื่อความผ่อนคลายได้อีกด้วย ไม่ตำ ถือว่าพลาดนะคะ

ปริมาณ 180 ml : ราคา 1,090 บาท (ตก ml ละ 6.05 บาท)

จุดเด่นซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ เหมาะกับมือใหม่ กลิ่นหอมสดใส 
ส่วนประกอบสำคัญGrape Seed Oil, Argan Oil, Coconut Oil, Sunflower Oil, Sweet Almond Oil 
เหมาะกับทุกสภาพผิว

3. ออยล์บำรุงผิว ลดรอยแตกลาย : Bio Oil

Bio Oil ออยทาผิว ยี่ห้อไหนดี

ราคา 99 บาท

ข้อดี
+ ช่วยรอยแผลเป็น และรอยแตกลาย
+ ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
+ มีวิตามิน บำรุงผิว

ข้อควรพิจารณา
– ต้องใช้อย่างต่อเนื่อง จึงจะเห็นผล

body oil รอยแตกลายที่รีวิวยืนหนึ่ง ต้องนี่เลย! ออยทาผิว ไบโอ-ออยล์ ช่วยลดรอยแตกลาย รอยดำ และรอยแผลเป็นให้จางลง ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ด้วยสูตรของแบรนด์

โดยเฉพาะ ที่ประกอบไปด้วยส่วนผสมที่พิเศษ อย่าง PurCellin Oil™ ช่วยป้องกันรอยแตกลาย รอยดำ ซึมไวใช้ได้กับทุกสภาพผิว ไม่เหนียวเหนอะหนะ และมีส่วนประกอบของ Vitamin A และ Vitamin E เพิ่มความชุ่มชื้่นให้แก่ผิว รวมถึงปัญหาผิวอื่น ๆ ได้ 

ออยล์ทาผิวแตกลายตัวนี้ สามารถใช้ได้ทั้งใบหน้า และลำตัวหลังอาบน้ำ ปกป้องผิวแห้ง ลดรอยแผลเป็น ลดรอยแตกลาย และปรับสีผิว อ่อนโยน ปลอดภัยด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ก็สามารถใช้ได้ ช่วยลดรอยแตกลายได้ดี ควรตำออยล์ ตัวนี้ด่วน ๆ เลยค่า

ปริมาณ 25 ml : ราคา 99 บาท (ตก ml ละ 3.9 บาท)

จุดเด่นลดรอยแตกลาย ลดรอยแผลเป็น ปรับสีผิว
ส่วนประกอบสำคัญPurCellin Oil, Vitamin A, Vitamin E
เหมาะกับผิวแตกลาย มีแผลเป็น 

4. ออยล์ทาผิว ผ่อนคลาย : Johnson Baby Oil Bedtime

Johnson Baby Oil Bedtime ออยทาผิว ยี่ห้อไหนดี

ราคา 210 บาท

ข้อดี
+ สูตรอ่อนโยน
+ ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
+
ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นได้ถึง 10 เท่า

ข้อควรพิจารณา
– มีส่วนผสมของน้ำหอม

ออยทาผิว จอห์นสัน เป็นออยบำรุงผิวที่อ่อนโยนพิเศษ ด้วยสูตร Hypoallergenic ไม่ทำให้เกิดผื่นแพ้คัน ช่วยให้หลับง่ายขึ้น ด้วยกลิ่นหอมอโรม่าของดอกมะลิ และดอกลิลลี่ ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายจากความตึงเครียดได้ค่ะ พร้อมบำรุงผิวอย่างอ่อนโยน เหมาะกับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวบอบบาง บอดี้ออยตัวนี้ สามารถฟื้นฟูผิวที่แห้ง และลดการลอกเป็นขุยได้อย่างดี นอกจากนี้ยังสามารถใช้เช็ดเครื่องสำอาง บำรุงผม เล็บมือและเล็บเท้า ได้อีกด้วยนะคะ

ออยล์ทาผิวที่ซึมเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ เติมความชุ่มชื้นให้ผิว สารพัดประโยชน์ แถมยังหาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไปอีกด้วย บอกเลยว่า ออยทาผิว จอห์นสัน เบบี้ออย ตัวนี้ เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับมาก

ปริมาณ 300 ml : ราคา 210 บาท (ตก ml ละ 0.7 บาท)

จุดเด่นบำรุงผิวนุ่มชุ่มชื้น เหมาะสำหรับผิวบอบบาง ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ 
ส่วนประกอบสำคัญMineral Oil, Fragrance
เหมาะกับผิวแห้ง

5. ออยล์บำรุงผิวแห้ง: Neutrogena Body Oil Light Sesame Formula

Neutrogena Body Oil Light Sesame Formula ออยทาผิว ยี่ห้อไหนดี

ราคา 499 บาท

ข้อดี
+ ทาลื่น ซึมไว ไม่เหนอะผิว
+ สามารถใช้ขณะอาบน้ำได้
+ ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม

ข้อควรพิจารณา
– ทิ้งความมันบนผิวเล็กน้อย
– แอบมีกลิ่นน้ำมันมะกอกอ่อน ๆ

ออยทาผิว Neutrogena รีวิวว่าเพิ่มชุ่มชื้นให้ผิว ให้ผิวโกลว์สวยสุด ๆ แถมสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวเลยนะ โดยเฉพาะคนที่มีผิวแห้ง ใช้บำรุงผิวคือกู้ผิวแห้งได้ดี! ด้วยส่วนผสมจากสารสกัดน้ำมันงา บำรุงผิวที่แห้งกร้าน ให้สุขภาพดี เนียนนุ่ม และเปล่งปลั่ง ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้เลยล่ะ

เป็น Body oil สูตรเข้มข้น แต่เนื้อสัมผัสบางเบา ซึมง่าย หอมละมุน ใช้ขณะอาบน้ำหรือหลังอาบน้ำก็ได้ ช่วยประหยัดเวลาได้อีกด้วย ช่วยให้ผิวนุ่มเนียน ผิวกระชับขึ้น และบำรุงผิวแห้งเสียให้ชุ่มชื้น โกลว์ บอกเลยว่าไม่ควรพลาด ออยทาผิว Neutrogena เลยค่า

ปริมาณ 250 ml : ราคา 499 บาท (ตก ml ละ 1.99 บาท)

จุดเด่นผิวโกลว์ เด้งเงา ผิวเนียนละเอียด บำรุงผิว ชุ่มชื้นยาวนาน
ส่วนประกอบสำคัญSesamum Indicum (Sesame) Seed Oil, Vitamin E
เหมาะกับผิวแห้งกร้าน 

6. ออยล์บำรุงผิวอ่อนโยน : Palmer’s Cocoa Butter Formula Skin Therapy Oil

Palmer's Cocoa Butter Formula Skin Therapy Oil ออยทาผิว ยี่ห้อไหนดี

ราคา 750 บาท

ข้อดี
+ ลดรอยแผลเป็น รอยแตก
+ ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
+
ไม่มี Parabens และ Phthalates ที่ก่อให้เกิดอาการแพ้

ข้อควรพิจารณา
– ต้องใช้อย่างต่อเนื่อง

ตัวนี้เป็นออยล์ทาผิวแห้ง ลดรอยแตกลาย ขายดีอันดับ 1 ในอเมริกาเลยค่ะ! มอบความนุ่มชุ่มชื้นไม่แห้งแก่ผิวได้โดยไม่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ ด้วยส่วนผสม Costesomate-E ที่ซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย ปราศจากวิตามินเอที่อาจก่อการระคายเคือง และมีส่วนผสมจากธรรมชาติ 100% ได้แก่ Pure Cocoa Butter, Vitamin E และน้ำมันสกัดจากธรรมชาติ บอกเลยว่าอ่อนโยนขั้นสุด คุณแม่ต้องครรภ์ก็ใช้ได้เลยค่ะตัวนี้

คนไหนที่อยากได้ออยทาผิว ลดผิวแตกลาย ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดจุดด่างดำ รวมถึงริ้วรอยที่เกิดจากวัย พร้อมให้ความชุ่มชื้นยาวนาน มีสารสกัดจากธรรมชาติ แต่ยังไม่รู้จะเลือก ออยทาผิว ยี่ห้อไหนดี บอกเลยว่า ออยทาผิว Palmer’s ตัวนี้ ถือเป็นตัวเลือกที่พลาดไม่ได้เลยค่า

ปริมาณ 150 ml : ราคา 750 บาท (ตก ml ละ 5 บาท)

จุดเด่นช่วยให้ผิวนุ่ม ลดรอยแตกลาย ซึมดีมาก ไม่เหนอะผิวเลย
ส่วนประกอบสำคัญCocoa Butter, Cetesomate-E Complex, Vitamin E, Sesame Oil, RoseHip Oil
เหมาะกับผิวที่มีรอยแตกลาย แผลเป็น ผิวบอบบาง

7. ออยล์บำรุงผิว ถูกและดี : Babi Mild Ultra Mild Bioganik Baby Oil

Babi Mild Ultra Mild Bioganik Baby Oil ออยทาผิว ยี่ห้อไหนดี

ราคา 129 บาท

ข้อดี
+ ช่วยล็อกความชุ่มชื้นให้กับผิว
+ อุดมไปด้วยวิตามินอี
+
เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว

ข้อควรพิจารณา
– มีส่วนผสมของน้ำหอม

ออยทาผิว เบบี้มายด์ เหมาะสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ที่มีผิวบอบบาง ช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่ม ไม่แห้งกร้าน ด้วยความอ่อนโยนจากธรรมชาติ 2 ชนิด ได้แก่ อาร์แกนออยล์ และน้ำมันมะกอก ที่อุดมไปด้วยวิตามินอี บำรุงผิว ให้ดูสุขภาพดี และกรดไขมันจำเป็น ช่วยเคลือบผิว และกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว เมื่อใช้เป็นประจำ จะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นยาวนาน 

เนื้อออยล์ทาผิว บางเบา ซึมเร็ว และปรับสภาพผิวให้ชุ่มชื้นยาวนาน ทั้งยังผ่านการทดสอบ Hypoallergenic โดยแพทย์ผิวหนัง ว่าเป็นออยล์ทาผิวที่อ่อนโยนที่สุด ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์, Propylene Glycol, Lanolin และ Harsh Chemical 

ปริมาณ 200 ml : ราคา 129 บาท (ตก ml ละ 0.64 บาท)

จุดเด่นสูตรอ่อนโยน มีวิตามินอี และกรดไขมันจำเป็นช่วยให้ผิวนุ่มเนียน
ส่วนประกอบสำคัญParaffinum Liquidum, Argan Oil, Olive Oil
เหมาะกับผิวบอบบาง 

8. ออยล์บำรุงผิวขาว ลดริ้วรอย : Erb Wine & Roses Anti-Aging Body Oil

Erb Wine & Roses Anti-Aging Body Oil ออยทาผิว ยี่ห้อไหนดี

ราคา 1,700  บาท

ข้อดี
+ กักเก็บความชุ่มชื้น
+ มี Rose Absolute ช่วยผลัดเซลล์ผิวให้ขาวใสขึ้น
+
ฟื้นฟูผิวจากแสงแดด

ข้อควรพิจารณา
ทาแล้ว อาจมีความมันอยู่บนผิวหนังอยู่บ้าง

ออยทาผิวหอม ๆ ของ Erb ตัวนี้ เนื้อบางเบา ใช้นิดเดียวก็สามารถทาได้ทั่วทั้งตัว ไม่มันเยิ้ม และหนืดผิว ผิวสวยฉ่ำโกลว์ ปลอบประโลมผิวอย่างอ่อนโยน ด้วยส่วนผสมที่สำคัญอย่าง Rose Hip Oil กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ลดริ้วรอย ลดรอยหมองคล้ำ และอุดมไปด้วยสารอาหารตามธรรมชาติหลายชนิด เช่น วิตามินซี, วิตามินเอ, วิตามินอี และวิตามินบี คอมเพล็กซ์ ยังมี Evening Pimrose Oil บำรุงผิวที่แห้งกร้านและลอกเป็นขุยในผิว

ออยทาตัวผิวโกลว์ ตัวนี้ ยังมี Rose Absolute ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเก่า และสร้างเซลล์ผิวใหม่ แถมมาพร้อมกลิ่นหอมเย้ายวนใจ ด้วยกลิ่นกุหลาบเบาๆ ฟีลผู้ดี หอมติดทนนาน 

ครบเครื่องทั้งการดูแลให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น มีกลิ่นหอมผู้ดี พร้อมสารสกัดแน่น ๆ ขอแนะนำออยล์ทาผิว Erb ตัวนี้เลย ไม่ซื้อไม่ได้แล้ว

ปริมาณ 230 ml : ราคา 1,700 บาท (ตก ml ละ 7.39 บาท)

จุดเด่นออยบำนุงผิว กลิ่นกุหลาบ กักเก็บความชุ่มชื้น กอบกู้ริ้วรอย ความหมอง
ส่วนประกอบสำคัญRose Hip Oil, Evening Primrose Oil, Rose Absolute
เหมาะกับทุกสภาพผิว

9. ออยล์บำรุงผิว กลิ่นหอม : The Face Shop Perfume Seed Rich Body Oil

The Face Shop Perfume Seed Rich Body Oil ออยทาผิว ยี่ห้อไหนดี

ราคา 489 บาท

ข้อดี
+ กลิ่นหอม ติดทน
+ บำรุงผิวให้ชุ่มชื้นขึ้นหลังอาบน้ำ
+
เนื้อเกลี่ยง่าย ซึมไว

ข้อควรพิจารณา
– มีส่วนผสมของน้ำหอม

ออยทาผิว เกาหลีตัวนี้ เป็นออยล์บำรุงผิวหอม ที่เพิ่มความชุ่มชื้นยาวนาน เนื้อบางเบา ซึมไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ มีกลิ่นผ่อนคลายแบบดอกจัสมิน ที่สำคัญคือติดทนสุด ๆ เกือบเทียบเท่ากับการใช้น้ำหอมเลยล่ะค่ะ แถมยังได้รับการบำรุงจากส่วนผสมที่สำคัญของเมล็ดพืช อย่าง โจโจ้บาออยล์ และเชียบัตเตอร์ บำรุงผิวที่แห้งกร้าน กลับมาชุ่มชื้น และเปล่งประกายวิ้ง ๆ ขึ้นมาเลยค่า

นอกจากจะมีกลิ่นหอม ติดทนนาน ยังช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นแบบเห็นผลจริง พลาดไม่ได้แล้วนะคะแบบเนี้ย!

ปริมาณ 225  ml : ราคา 489 บาท (ตก ml ละ 2.17 บาท)

จุดเด่นออยทาผิวหอม กลิ่นติดทน เนื้อบางเบา ซึมไว 
ส่วนประกอบสำคัญJojoba Oil, Shea Butter, Soybean Oil
เหมาะกับทุกสภาพผิว

10. ออยทาตัว ผิวโกลว์ : Chanel N°5 The Gold Body Oil

Chanel N°5 The Gold Body Oil ออยทาผิว ยี่ห้อไหนดี

ราคา 4,250 บาท

ข้อดี
+ มีชิมเมอร์ขับผิวให้โกลว์สวยโดดเด่น
+ มีกลิ่นหอมแพง กลิ่นน้ำหอมชาแนลเลย!
+ บำรุงผิวให้นุ่ม
ขึ้น

ข้อควรพิจารณา
– มีส่วนผสมของน้ำหอม

จากรีวิว Chanel Body oil ตัวนี้ บอกเลยว่าผิวเงาสะท้อนแสงแบบสับ! เป็นออยล์ทาผิวชิมเมอร์ ที่ช่วยขับผิว ให้เปล่งประกาย ด้วยประกายมุกละเอียด สีทอง ผิวโกลว์ดูแพงมาก ๆ ค่ะ

และยังช่วยให้ผิวนุ่มนวล และมีกลิ่นหอม ที่เป็นเอกลักษณ์ของน้ำหอม N°5 ด้วยกลิ่นฟอรัล อัลดีไฮด์ ผสมผสานกับดอกเมย์โรส และจัสมิน ทั้งยังมีสารสกัดจากโจโจ้บาออยล์ และเมล็ดดอกทานตะวัน ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ด้วยแพคเกจที่หรูหรา สไตล์ชาแนล

กลิ่นมีความหรูหรา กลิ่นหอม ให้ความชุ่มชื้นบางเบา ไม่เหนอะผิว ซึมไว และเปล่งประกายด้วยชิมเมอร์ ขับผิวให้โดดเด่น เหมาะสำหรับออกงาน บอกเลยว่าใครพลาด Shimmer body oil ตัวนี้ จะต้องเสียดายแน่เลยค่ะสาว ๆ

ปริมาณ 250 ml : ราคา 4,250 บาท (ตก ml ละ 17 บาท)

จุดเด่นออยบำรุงผิว มีชิมเมอร์สีทอง ขับผิว เพิ่มความชุ่มชื้น 
ส่วนประกอบสำคัญHelianthus Annuus (Sunflower) Seed Oil, Simmondsia Chinensis (Jojoba) Seed Oil
เหมาะกับทุกสภาพผิว ผิวที่ต้องการความเปล่งประกาย

วิธีเลือกซื้อ “ออยทาผิว”

เลือกออยทาผิวจากสภาพผิว

ผิวแห้ง

สำหรับสภาพผิวแห้งตึง มีรอยแตกหรือขุย ผิวขาดน้ำ ควรเลือกออยทาผิวที่มีส่วนผสมของ Mineral Oil เพื่อช่วยกักเก็บเติมความชุ่มชื้น หรือ Body oil ที่มีส่วนผสมของวิตามินอี เพื่อช่วยให้ผิวแข็งแรง

ผิวมัน

จริง ๆ แล้ว สาเหตุที่ทำให้ผิวมัน อาจเกิดจากที่ผิวขาดความชุ่มชื้น จนทำให้ผิวขาดน้ำมันออกมา เพื่อชดเชยน้ำที่ขาดไป ดังนั้นเราควรเลือกออยทาผิว ที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ เพื่อให้บำรุงผิว และมีเนื้อที่บางเบา สบายผิว ไม่เหนียวเหนอะหนะ แต่ควรหลีกเลี่ยงจำพวก Oleic Acid ที่กระตุ้นให้เกิดน้ำมันในผิวและสิวมากขึ้น

ผิวแตกลาย แผลเป็น

ปัญหาผิวที่เราสามารถพบได้บ่อย ได้แก่ รอยแตกลาย รอยแผลเป็น ซึ่งบอดี้ ออยที่มี Rosehip Oil เป็นส่วนผสม ก็สามารถช่วยรักษาปัญหาผิวได้ เนื่องจากมีสารสกัดที่เข้มข้นสูง ฟื้นบำรุงผิวได้ดี 

และสามารถใช้ควบคู่กับสครับผิว เพื่อผลัดเซลล์ผิว และกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ได้ดียิ่งขึ้น

สีผิวไม่สม่ำเสมอ 

อีกหนึ่งปัญหาสำหรับคือสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ หรือรอยด่างดำ ออยล์ทาผิวเป็นอีกตัวช่วยที่สามารถปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดรอยด่างดำให้จางลงได้ เนื่องจากออยทาผิว มีประสิทธิภาพในการบำรุงอย่างล้ำลึก โดยเฉพาะเมื่อใช้คู่กับโลชั่นผิวขาว ที่มีคุณสมบัติปรับสีผิวให้ขาวกระจ่างใส สม่ำเสมอนั่นเอง

เลือกออยทาผิวจากสารบำรุง

ออยทาผิว มักมีส่วนผสมมากมาย นอกจาก Mineral Oil ที่นิยมใช้กันโดยทั่วไปแล้ว ยังมีน้ำมันที่สกัดจากธรรมชาติตัวอื่น ๆ เช่น

  • Jojoba Oil ช่วยต้านอนุมูลอิสระ บำรุงผิวที่แห้งกร้านอย่างอ่อนโยน
  • Rosehip Oil บำรุงให้ผิวกระชับ เต่งตึง ช่วยลดรอยแผลแตกลาย
  • Argan Oil ควบคุมความมันได้
  • Sesame Oil อุดมไปด้วย Vitamin E ช่วยบำรุงให้ผิวชุ่มชื้น
  • Sunflower Seed Oil ช่วยเสริมการป้องกันของเกราะป้องกันผิว
  • Almond Oil เติมความชุ่มชื้นแบบล้ำลึก
  • Canola Oil ช่วยปรับผิวให้สม่ำเสมอ

เลือกออยทาผิวจากกลิ่นและเนื้อสัมผัส

นอกจากการบำรุงผิวแล้ว ออยทาผิวยังสามารถเพิ่มความผ่อนคลายหลังจากการทำงาน หรือความตึงเครียดในแต่ละวัน ด้วยกลิ่นหอมต่าง ๆ ที่มีทั้งน้ำหอมสังเคราะห์ หรือน้ำมันหอมสกัดจากธรรมชาติ เช่น กลิ่นของดอกกุหลาบ กลิ่นน้ำมันอัลมอนด์ที่มีความนุ่นวล  กลิ่นน้ำมันงา เป็นต้น 

วิธีใช้ ออยทาผิว

  • ใช้ออยทาผิวหลังอาบน้ำ โดยลงออยทาผิว ในขณะที่ผิวหมาดเล็กน้อย เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น หลังการอาบน้ำ หรือทาออยล์บำรุงผิว ก่อนเช็ดตัวให้แห้ง เพราะเป็นช่วงที่ออยล์จะซึมลงผิวอย่างรวดเร็ว ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว และหากทำเป็นประจำ ผิวจะยิ่งนุ่ม ชุ่มชื้น
  • ใช้ออยล์ทาผิว ประมาณ 2-3 หยด เทลงในอ่างอาบน้ำ กลิ่นหอมของสารสกัดจากธรรมชาติ เช่น ซิตรัสหรือกุหลาบ สามารถทำให้การอาบน้ำ ผ่อนคลายมากขึ้น ปรับอารมณ์ให้รู้สึกดี และยังช่วยบำรุงผิวให้นุ่ม ชุ่มชื้น 
  • ทา Body Oil เล็กน้อยก่อนอาบน้ำ โดยเฉพาะผิวบอบบาง เนื่องจากการอาบน้ำ อาจดึงความชุ่มชื้นออกจากผิวที่แห้งและแพ้ง่ายได้ ออยทาผิวจะช่วยสร้างเกราะป้องกันของผิว เพื่อลดการสูญเสียน้ำบางส่วน
  • ผสมออยล์ทาผิว ประมาณ 2-3 หยดลงในขั้นตอนในการบำรุงผิว เช่น โลชั่น หรือครีมทาผิว ช่วยให้เนื้อเหลว ทาง่ายขึ้น และเพิ่มความชุ่มชื้นอย่างเข้มข้น แต่ไม่หนักผิว
  • ใช้ออยล์ทาผิว หลังจากใช้โลชั่นบำรุงผิว โดยใช้ออยทาผิวเพียงเล็กน้อย ออยล์จะล็อกความชุ่มชื้น และทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นได้ยาวนานขึ้น

คำถามที่พบบ่อย

ออยทาผิว ดีไหม?

ออยทาผิวดีค่ะ เนื่องจากเป็นน้ำมันทาผิว ช่วยกักเก็บน้ำในเซลล์ผิว และคงสภาพเซลล์ผิวได้เป็นอย่างดี รักษาให้ผิวชุ่มชื้น และกระชับผิวได้ ด้วยเหตุนี้ เราจึงควรใช้น้ำมันทาผิวนั่นเองค่ะ

ออยล์ทาผิว ช่วยอะไร?

ออยทาผิวช่วยบำรุงผิว ช่วยกักเก็บน้ำ เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ทดแทนไขมันตามธรรมชาติที่หายไป ซึ่งทำให้เซลล์ผิวมีความแข็งแรง ป้องกันและแก้ไขปัญหาผิว บำรุงผิวได้อย่างเข้มข้น และล้ำลึก

ออยล์ทาตัว ทาตอนไหน?

ออยล์ทาตัว ใช้ทาผิวตอนหมาด ๆ หลังอาบน้ำ ทาง่าย ลื่น แล้วซึมลงผิวได้ดีที่สุด ผิวจะชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน หรือใช้ผสมกับครีมอาบน้ำ ช่วงที่เร่งรีบ ประหยัดเวลา สามารถบำรุงได้ในขั้นตอนเดียว 

ออยล์ทาผิว ทาหน้าได้ไหม?

ออยล์ทาผิว ทาหน้าไม่ได้ค่ะ ออยทาผิวไม่ควรนำมาใช้ทาหน้า เนื่องจากมีเนื้อที่ค่อนข้างเข้มข้น เมื่อเทียบกับออยสำหรับใช้ทาหน้า และรบกวนสมดุลค่า pH ของผิว และทำให้อุดตันรูขุมขนได้

baby oil ทาผมได้ไหม?

สามารถทาผมได้ค่ะ เหมือนน้ำมันใส่ผมเลย ใช้ชโลมผม 3-5 นาที แทนทรีทเมนท์บำรุงผม แล้วล้างออก จะได้ผมนุ่มสวย หนังศีรษะไม่แห้ง เป็นขุยรังแค หรือหลังจากซับผมจนหมาด ก็ให้ใช้ชโลมก่อนเป่าผม สำหรับวันว่าง ๆ อาจจะใช้ทำสปาผม โดยการหมักทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วล้างออก 

baby oil ปลอดภัยไหม?

Baby oil ปลอดภัยค่ะ เนื่องจากออยทาผิว มีความบริสุทธิ์สูง และมีสารสกัดจากธรรมชาติ สามารถดูดซึมได้ง่าย แทบไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้เลยค่ะ 

ในปัจจุบันหลายคน อาจจะละเลยขั้นตอนการบำรุงผิว โดยเฉพาะการเติมความชุ่มชื้น ให้แก่ผิว ที่เป็นขั้นตอนการบำรุงที่สำคัญมาก เพราะออยทาผิวเอง จะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น และรักษาสมดุลให้กับผิวกาย สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ล้ำลึก

นอกจากนี้ยังมีประโยชน์สารพัด และสามารถประยุกต์ใช้ได้มากมาย ดังนั้นขอแนะนำให้สาวๆ ควรใช้ Body oil ทุกวัน หลังจากอาบน้ำ หรือจะใช้ตามที่แนะนำข้างต้นได้เลยค่ะ  แล้วก็ไม่ควรละเลยการบำรุงผิวขั้นตอนอื่น ๆ รวมถึงการพักผ่อน และดื่มน้ำอย่างเพียงพอ เพื่อความชุ่มชื้น และเพื่อผิวสวยนั่นเองค่ะ 

อ้างอิง

Matchamonraya Pathinonpipat

Matchamonraya Pathinonpipat

มัชช์ จบการศึกษาจากคณะเภสัชศาสตร์ หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง
หรือ cosmetic science เป็นทั้งนักวิชาการด้านวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง และเป็นนักเขียนประจำของเว็บไซต์เรา มีประสบการณ์ทำงานร่วมกับแบรนด์สินค้าออแกนิคมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Skin1004 THREE Origins เป็นต้น โดยมีความสนใจและความรู้ความเข้าใจในสกินแคร์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมมาจากธรรมชาติเป็นหลัก เน้นสร้างคอนเทนต์รวบรวมสกินแคร์ดีๆ แชร์ทริคการรักษาสิว ดูแลผิวแพ้ง่าย การชะลอวัย รวมทั้งหาผลิตภัณฑ์ใหม่มาแนะนำทุกคนกันค่ะ