หลายคนน่าจะเคยเจอปัญหาในการเลือกที่ปัดแก้มกันบ้างใช่ไหมคะ เพราะนอกจากจะเป็นไอเทมที่ต้องมีติดตัวแล้ว Blush on สมัยนี้ก็มีให้เลือกหลากหลายแบรนด์ หลายประเภทมาก ๆ เลย ยกตัวอย่างเช่น เนื้อแมตต์ /แบบครีม / ชิมเมอร์ ฯลฯ และแบบอื่นอีกมากมายที่มิสซี่เชื่อเลยว่ามีเยอะจนเลือกไม่ถูกเลยค่ะ
วันนี้มิสซี่เลยขอแนะนำบลัชออน ยี่ห้อไหนดี ที่คัดสรรมาแล้วว่า รีวิวแน่น ดีจริง และคุณภาพดี แถมยังสีสวยแน่นอน มาป้ายยาเพื่อน ๆ แล้วค่า
ใครตามหาบลัชโทนสีผู้ดี สีบ่มแดด หรือสีชมพูตุ่นน่ารัก ๆ ห้ามพลาดอัปเดตเทรนด์บลัชออนสีสวย ๆ วันนี้กันนะค้า
TOP 3
#1 Nars Blush
ราคา 1,300 บาท
#2 4U2 For You Too Moji Blush
ราคา 259 บาท
#3 Clinique Cheek Pop
ราคา 1,100 บาท
บลัชออน ใช้ทําอะไรได้บ้าง?
- ช่วยเพิ่มสีสันต่าง ๆ ให้กับพวงแก้ม ดูมีมิติขึ้น และได้ฟินิชลุคที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน
- ใช้เป็นบรอนเซอร์ได้นะคะ โดยใช้สีโทน Warm แนวส้มอมน้ำตาลตุ่น ๆ ปัดกรอบหน้าแถวโหนกแก้มก็จะช่วยให้หน้ามีโทนอุ่น ๆ ได้ฟีล Summer makeup ค่ะ
- นำไปปรับใช้เป็นอายแชโดว์ก็เลิศ!
- ผสมกับลิปสติกก็ได้ด้วย
บลัชออนมี่กี่แบบ?
บลัชออนแบบฝุ่น
เหมาะกับสาวผิวผสม หรือ หน้ามัน ค่อนข้างจะชอบเลยค่ะ ด้วยเนื้อฝุ่นจะมีความเป็นแป้ง เกลี่ยง่าย กลืนเข้าผิวได้ง่าย ผิวมันใช้ดีเลยค่ะ เพราะเนื้อแป้งฝุ่น ยังช่วยคุมมันไปในตัวด้วย การปัดแก้มแบบฝุ่น จึงเหมาะกับทุกสภาพผิวเลยค่า
บลัชออนแบบครีม
เนื้อครีม สไตล์ Dewy ที่หลายคนหลงรักมาก ด้วยเนื้อครีมที่มีคุณสมบัติช่วยให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น มีชีวิตชีวา ทั้งยังติดทน สาวผิวแห้งสามารถใช้ได้ด้วย จัดว่าเป็น Blush on ที่เข้ากับการแต่งหน้าสไตล์เผยผิว แลดูแก้มใส สุขภาพผิวดีไปอีกจ้า
บลัชออนเนื้อเจล
สายสะดวกรวดเร็ว ใช้ง่าย เกลี่ยง่าย ถึงแม้ว่าสีของเนื้อผลิตภัณฑ์จะดูเข้ม แต่พอเกลี่ยแล้วกลับให้สีที่อ่อนระเรื่อกำลังดี แถมยังแห้งเร็วไม่เป็นคราบ จึงเหมาะที่จะใช้กับทุกสภาพผิวเช่นกัน
บลัชออนเนื้อน้ำ
ถูกใจสายงานผิว ติดทนดีเลยคะพอทาลงบนผิวแล้วจะดูโปร่ง กลืนไปกับผิวมาก ๆ แห้งเร็ว และติดทนนาน แทบไม่ต้องทาระหว่างวันเลย
จะเลือกซื้อ บลัชออน ยี่ห้อไหนดี 2566
1. บลัชออนโดยรวมดีที่สุด : Nars Blush
ราคา 1,300 บาท
ข้อดี
+ มีชิมเมอร์ในตัว ให้ความเป็นธรรมชาติ
+ สีชัดติดทน ไม่ต้องเติมระหว่างวัน
+ มีเฉดสีให้เลือกเยอะมาก
ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างสูง
– บางสีหาซื้อยาก ต้องสั่งออนไลน์
บลัชออนวิ้งๆ ยอดฮิตที่ไม่ว่าใครก็ต้องหามาใช้กันให้ได้ หนีไม่พ้นของ Nars จาดแบรนด์ดังที่ใครๆ ต่างก็หลงรัก! ด้วยเนื้อ Blush on ที่ละเอียดเนียนนุ่ม โปร่งแสง ทาแล้วกลืนเข้าผิวง่ายสุด ๆ ได้ฟินิชลุค ดิวอี้ งานผิว เป็นธรรมชาติ
ที่สำคัญคือ ติดทนแทบไม่ต้องเติมระหว่างวันเลยค่ะ คุณภาพเต็มสิบไม่มีหักแบบนี้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมตัวนี้ถึงเป็นไอเทมคู่ใจของหลายคน
เพื่อน ๆ หลายคนอาจจะเคยตั้งคำถามว่า บลัชออน Nars สีไหนสวย มิสซี่ก็ขอเชียร์สี Orgasm ที่ขายดีที่สุด เอาอยู่ทุกอันเดอร์โทนเลยค่ะ แถมบิวตี้บล็อกเกอร์ดัง ๆ หลายท่านคือยกนิ้วให้สีนี้จริง ๆ ค่า จริง ๆ รุ่นนี้มีหลายสีมาก แล้วแต่ละสีก็สวยไม่ไหว
ปริมาณ 4.8 g : ราคา 1,300 บาท (ตก g ละ 270.8 บาท)
จุดเด่น | เบลนง่าย ชิมเมอร์ละเอียด ไม่เน้นรูขุมขน ตอบโจทย์ทุกสีผิว |
ประเภท | ฝุ่น |
เฉดสี | มี 24 เฉด |
เหมาะกับ | ผิวแทน / ผิวขาวเหลือง / ผิวขาวอมชมพู |
2. บลัชออนเนื้อครีมที่ดีที่สุด : 4U2 For You Too Moji Blush
ราคา 259 บาท
ข้อดี
+ เนื้อครีมนุ่ม เกลี่ยง่าย
+ ติดทน
+ มีสีให้เลือกเยอะมาก
ข้อควรพิจารณา
– อาจต้องทาซ้ำหลายรอบ หากต้องการสีเข้ม ๆ
บลัชออน 4U2 รุ่นใหม่ ไฟแรงเวอร์! กับบลัชออนครีมเนื้อโมจินุ่ม ๆ แต่ติดทนมาก! แต่ละสีก็สวย ๆ ทั้งนั้นเลยค่ะทุกคน แบรนด์ดังสัญชาติไทยที่ขึ้นชื่อเรื่องความหลากหลายในเฉดสี
4U2 บลัชออนรุ่นใหม่ตัวนี้ จะเป็นเนื้อโมจิ เน้นความเด้งดึ๋ง นุ่มนิ่ม จิ้มแล้วฟินไปอี๊ก พอนำมาทาที่แก้มแล้วมีความเกลี่ยง่าย แถมยังได้สีที่สวยชัด ติดทน ตอบโจทย์สาวไทยอย่างเราแน่นอน!
ปริมาณ 5.5 g : ราคา 259 บาท (ตก g ละ 47.09 บาท)
จุดเด่น | เนื้อนุ่ม เกลี่ยง่าย สีชัดติดทน |
ประเภท | ครีม |
เฉดสี | มี 9 เฉด |
เหมาะกับ | ผิวขาวเหลือง / ผิวขาวอมชมพู |
3. บลัชออนสีธรรมชาติที่ดีที่สุด : Clinique Cheek Pop
ราคา 1,100 บาท
ข้อดี
+ เฉดสีเป็นธรรมชาติ ปัดแล้วได้แก้มใส ๆ
+ เนื้อเบา เกลี่ยง่ายมาก
+ มีเฉดสีให้เลือกเยอะ
ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างสูง
บลัชออน Clinique สามารถใช้ได้กับทุกสีผิว ด้วยเทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะของแบรนด์ ที่พัฒนามาจากของเหลว แล้วแปรรูปให้กลายเป็นแป้งด้วยกระบวนการอบอย่างช้า ๆ จึงทำให้ได้เนื้อ Blush on ที่ค่อนข้างละเอียด และเนียนนุ่มทุกครั้งที่สัมผัสที่ผิวแก้มกันเลยทีเดียว เรียกได้ว่าคุณภาพคุ้มราคาจริง ๆ ค่า
Clinique Blush on รุ่นนี้ ยังทำเฉดสีออกมาให้เลือกค่อนข้างเยอะเลยค่ะ ทั้งยังเน้นที่โทนสีธรรมชาติ ทาแล้วแก้มดูผิวสุขภาพดี ไม่โป๊ะ ไม่หนักผิว ส่วนสีที่หลายคนชอบกันจะเป็นสี Melon pop และ Nude pop ค่ะ ปัดแล้วนัว สีผู้ดีมากกก ต้องไปตำ มาลองใช้กันด่วน ๆ เลยนะคะ
ปริมาณ 3.5 g : ราคา 1,100 บาท (ตก g ละ 314.28 บาท)
จุดเด่น | สีติดทน / โทนสีธรรมชาติ |
ประเภท | ฝุ่น |
เฉดสี | มี 12 เฉด |
เหมาะกับ | ผิวแทน / ผิวขาวเหลือง / ผิวขาวอมชมพู |
4. บลัชออนติดทนที่ดีที่สุด : Maybelline Fit Me Blush
ราคา 269 บาท
ข้อดี
+ เนื้อนุ่มละเอียด
+ ติดทนจริงตามคำเคลม
+ ผิวแพ้ง่ายสามารถใช้ได้
ข้อควรพิจารณา
– เฉดสีค่อนข้างน้อย
ถ้าถามถึงบลัชออนถูกและดี รีวิวเยอะ จะไม่มีแบรนด์นี้ไม่ได้เลยค่า รุ่น Maybelline Fit Me สุดฮิตอีกรุ่นหนึ่งที่นิยมใช้กันเยอะเลยค่ะ ด้วยเฉดสีที่ทำออกมาเข้ากับผิวของสาวเอเชียมาก ๆ ปัดแล้วให้ลุคธรรมชาติ มีชีวิตชีวา ทั้งยังเคลมว่าติดทนยาวนานถึง 16 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว! สำหรับคนที่ไม่ค่อยชอบเติมหน้าระหว่างวัน จะต้องติดใจแน่นอนค่า
รีวิวก็ดีมาก ยังพูดถึงความนุ่มของเนื้อค่อนข้างเยอะเลยค่ะ เพราะเป็นที่ปัดแก้มแบบฝุ่นที่มีความละเอียด เนียนนุ่ม มือใหม่ก็ใช้ได้ไม่ยากเลย
แถมทางแบรนด์ยังผ่านการทดสอบทางผิวหนังแล้วว่า ผิวแพ้ง่ายสามารถใช้ได้ด้วย จึงเป็นบลัชออนผิวแพ้ง่ายใช้ได้เลยนะคะ ราคาถูก ติดทน ที่คุณภาพเกินราคามากค่า
ปริมาณ 4.5 g : ราคา 269 บาท (ตก g ละ 59.77 บาท)
จุดเด่น | ติดทนยาวนาน / สีธรรมชาติ / ผิวแพ้ง่ายใช้ได้ |
ประเภท | ฝุ่น |
เฉดสี | มี 6 เฉด |
เหมาะกับ | ผิวแทน / ผิวขาวเหลือง / ผิวขาวอมชมพู |
5. บลัชออน สีบ่มแดดที่ดีที่สุด : Charlotte Tilbury Cheek to Chic Blush
ราคา 1,580 บาท
ข้อดี
+ ปัดได้ถึง 3 สีในตลับเดียว
+ เบลนง่ายมากกก ปัดมั่ว ๆ ก็ยังสวย
+ ชิมเมอร์ละเอียดยิบ ไม่เน้นรูขุมขนเลย
ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างสูง
บลัชออน charlotte tilbury ได้ลุคสวยแพง แถมปัดทับได้หลายรอบ ไม่ว่าจะสายเกา หรือ สายฝ. ก็เอาอยู่ทุกลุคแน่นอนค่า ถ้าถามว่าบลัชออน charlotte สีไหนสวย ก็ต้องยกให้ Pillow Talk เลยค่า ตัวนี้มี 2 สี คือ โทนนู้ดชมพูอมส้ม+สีนู้ดอ่อน ๆ ถ้าปัดเบลนด์รวมจะเป็นสีบ่มแดดที่ไม่ส้มมาก คือสีผู้ดีสุด ๆ เลยค่ะ หรือทาแยกสีก็ได้อีก 2 ลุค สีนัวมาก
นอกจากนี้ ที่ปัดแก้มชาลอต ยังมีชิมเมอร์ที่ละเอียดมากกกก ปัดแล้วแก้มเล่นแสงกำลังดี ถ้าปัดถ่ายรูปพร้อมเอาหน้าอังแดดหน่อย คือสวย เลิศมากค่ะ ไม่เชื่อต้องลองไปตำมาใช้กันดูนะ มือใหม่ที่ยังไม่ชำนาญ ปัดแล้วไม่เป็นโป๊ะ แนะนำแบรนด์นี้เลยค่า
ปริมาณ 8 g : ราคา 1,580 บาท (ตก g ละ 197.5 บาท)
จุดเด่น | เบลนง่าย ไม่เป็นปื้น ปัดแล้วสีผู้ดีมาก เล่นแสงสวย |
ประเภท | ฝุ่น |
เฉดสี | มี 9 เฉด |
เหมาะกับ | เข้ากับทุกโทนสีผิว |
6. บลัชออน ญี่ปุ่น ติดทนที่ดีที่สุด : Canmake Glow Fleur Cheeks
ราคา 380 บาท
ข้อดี
+ เกลี่ยง่ายไม่เป็นคราบ
+ ติดทนนาน
+ แปรงในตลับใช้งานได้จริง
ข้อควรพิจารณา
– ไม่มีกระจกในตลับ
บลัชออนสีผู้ดี พิกเมนต์ชัดและติดทน มิสซี่ขอนำเสนอบลัชออน Canmake เลยค่า รุ่นนี้เป็นบลัชออนญี่ปุ่น ติดทนดีเลย เนื้อโปร่งแสง ไม่ทึบ จะได้แนวแก้มใส ๆ มีเลือดฝาด ดูสดใสเหมือนสาวญี่ปุ่นเลยล่ะ สามารถทาได้ทั้งก่อน และหลังลงแป้งเลยนะคะ สะดวกมากแม่!
มีแปรงในตลับที่ครบเลย พกไปเติมระหว่างวันสะดวกมาก มีชิมเมอร์กระจายแสง เสกงานผิวได้แบบฉ่ำมงลงที่สุด และยังติดทนแบบแทบไม่ต้องเติมระหว่างวันเลยด้วยนะคะอยากให้ลองใช้ Canmake กันดูน้า
ปริมาณ 5.7 g : ราคา 280 บาท (ตก g ละ 66.6 บาท)
จุดเด่น | ให้แก้มใสงานผิวสุขภาพดี ได้รางวัล Cosme ถึง 2 ปี (2014, 2017) |
ประเภท | ฝุ่น |
เฉดสี | มี 7 เฉด |
เหมาะกับ | ทุกสีผิว |
7. บลัชออน สีนู้ดที่ดีที่สุด : 3CE Mood Recipe Face Blush
ราคา 790 บาท
ข้อดี
+ เฉดสีนู้ดเป็นธรรมชาติ
+ เนื้อเนียน เกลี่ยง่าย
+ ดูผิวสุขภาพดีเหมือนไม่ได้แต่งหน้า
ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างสูง
คนไหนสาวกบลัชออนเกาหลี แนะนำเลยว่าต้องบลัชออน 3CE เท่านั้น! เชื่อว่าไม่มีสาว ๆ คนไหนไม่รู้จักแบรนด์เครื่องสำอางเกาหลีแบรนด์นี้แน่นอน เพราะโด่งดังมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็น ลิปสติก หรือ บลัชออนใด ๆ ก็ตาม โดยเฉพาะ Blush on รุ่นนี้ ขอบอกเลยว่า ไม่มีคือพลาดมากค่ะแม่!
ตัวนี้ให้ฟินิชลุคแมตต์ สีชมพูตุ่น ส้มตุ่น ๆ มินิมอล ไม่ดูป่วยด้วยน้า ถึงจะไม่มีชิมเมอร์ แต่พอปัดแล้วกลับให้ความรู้สึกละมุน เกาหลีเกาใจสุด ๆ ใครที่ชอบแต่งหน้าโทนสีนู้ดจะต้องเลิฟแน่นอน แนวสีเอิร์ทโทน ซึ่งจะเบลนด์กับคอนทัวร์ได้ดี ปัดแล้วได้ฟีลสวยละมุนมากค่ะ ให้ลุคแมตต์สวย ๆ ต้อง 3CE เท่านั้นนะคะ!
ปริมาณ 5.5 g : ราคา 790 บาท (ตก g ละ 143.6 บาท)
จุดเด่น | แมตต์ สีนู้ดละมุนฟุ้ง ๆ เป็นธรรมชาติ |
ประเภท | ฝุ่น |
เฉดสี | มี 9 เฉด |
เหมาะกับ | ผิวสองสี / ผิวขาวเหลือง |
8. บลัชออน สำหรับคนเป็นสิวที่ดีที่สุด : Kiko Milano Unlimited Blush
ราคา 649 บาท
ข้อดี
+ มีกระจกในตัว ใช้งานง่ายอ่อนโยน
+ มีให้เลือกทั้งเนื้อแมตต์และเมทัลลิค
+ ไม่อุดตัน ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างสูง
– หาซื้อค่อนข้างยาก ต้องสั่งออนไลน์เท่านั้น
บลัชออน Kiko สีสวยอีกแบรนด์หนึ่งที่ไม่ควรพลาดเลยค่ะ มีให้เลือกกันถึง 12 เฉดสี แถมทุกสียังเข้าได้กับทุกสภาพผิวเลยด้วยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นสาวผิวแทน / ผิวขาวเหลือง / หรือผิวขาวอมชมพู ก็เอาอยู่แน่นอนค่ะ
นอกจากสีจะสวยใสเป็นธรรมชาติแล้วยัง ติดทนยาวนานถึง 12 ชั่วโมง ทาครั้งเดียวก็เอาอยู่! หรือจะหยิบออกมาเติมระหว่างวันก็ได้ มีกระจกติดมาในตลับด้วย ใช้งานง่ายสุด ๆ เลยใช่ม้า รุ่นนี้ยังผ่านการทดสอบมาแล้วว่าปลอดภัย ไม่อุดตัน คนที่เป็นสิวง่ายใช้ได้ด้วยค่า
ปริมาณ 6 g : ราคา 649 บาท (ตก g ละ 108.1 บาท)
จุดเด่น | ติดทน / ไม่อุดตัน |
ประเภท | ฝุ่น |
เฉดสี | มี 12 เฉด |
เหมาะกับ | ผิวแทน / ผิวขาวเหลือง / ผิวขาวอมชมพู |
9. ครีมบลัชที่ดีที่สุด : Rare Beauty Soft Pinch Liquid Blush
ราคา 950 บาท
ข้อดี
+ มีทั้งฟินิชแมตต์และดิวอี้
+ เกลี่ยง่ายมาก
+ เม็ดสีชัด ติดทน
ข้อควรพิจารณา
– ราคาสูง
ถ้าให้พูดถึงบลัชออนเนื้อครีมที่ให้แก้มสวย แถมติดทนมาก! ต้อง Rare Beauty มีความทั้งฟินิชดิวอี้ที่ทาแล้วช่วยให้แก้ม ดูสว่างสดใส มีมิติ เล่นแสงสวยลื้ม! เแถมฟินิชแมตต์ก็ให้ฟีลสายฝอ แมตต์ติดทนดีมาก จะทาไปเที่ยว หรือออกงาน ก็โดดเด่นสะดุดตาแน่นอนค่า
เป็นบลัชออนเคาน์เตอร์แบรนด์ที่คุ้มค่าน่าลงทุนมาก ๆ นะคะ เพราะใช้นิ้วเกลี่ยก็สวยแล้ว มือใหม่ไม่ต้องกลัวเป็นคราบหรือเป็นก้อนเลย แถมใช้บนแก้มแค่ข้างละ 1 จุด ก็ได้สีปัง ๆ ทั้งแก้มแล้วค่ะ เป็นบลัชออนสีสวย ติดทน มิสซี่การันตีว่าต้องมีรุ่นนี้ติดตัวเลยค่ะซิส!
ปริมาณ 7.5 ml : ราคา 950 บาท (ตก ml ละ 126.6 บาท)
จุดเด่น | เบลนด์ง่ายมาก งานผิวฉ่ำเป็นธรรมชาติ |
ประเภท | ครีม |
เฉดสี | มี 11 เฉด |
เหมาะกับ | ผิวแทน / ผิวขาวเหลือง / ผิวขาวอมชมพู |
10. บลัชออน ราคาถูกและดีที่สุด : 2P Original Oh My Blush
ราคา 299 บาท
ข้อดี
+ มีทั้งเนื้อแมตต์และชิมเมอร์ในตัวเดียว
+ ปัดง่ายสำหรับมือใหม่
+ ถูกและดี
ข้อควรพิจารณา
– ผิวเข้มอาจต้องปัดซ้ำหลายรอบ
เพื่อน ๆ คนไหนกำลังมองหาบลัชออนสีส้มพีช แนวสีลูกคุณ นาทีนี้มิสซี่ต้องยกให้ Oh My Blush เลยค่า สำหรับรุ่นนี้จะเป็นรุ่นใหม่ สีสวยใสมาก ยังทำมาแบบ 2in1 คือมีทั้ง บลัชออนเนื้อแมตต์ และ บลัชออนชิมเมอร์ มาในตลับเดียวกัน ในราคานี้คือคุ้มจนอยากจะเหมามาทุกสีเลยแม่!
ไม่ใช่แค่สีที่สวยเท่านั้น แต่รีวิวว่าเฉดสีเยอะไม่แพ้แบรนด์อื่นเลยค่ะ เพราะทำมาให้เลือกช้อปกันถึง 15 สี จุก ๆ ราคาดีด้วย ห้ามพลาดเลย
ปริมาณ 3 g : ราคา 299 บาท (ตก g ละ 99.66 บาท)
จุดเด่น | 2in1 ทั้งแมตต์และชิมเมอร์ / สีสวย สีลูกคุณ |
ประเภท | ฝุ่น |
เฉดสี | มี 15 เฉด |
เหมาะกับ | ผิวแทน ผิวขาวเหลือง ผิวขาวอมชมพู |
วิธีเลือกซื้อ “บลัชออน”
เลือกจากเฉดสีที่เหมาะกับโทนสีผิว
Cool undertone : ผิวโทนชมพู (ขาวชมพู)
เข้ากับสีโทนเย็นอ่อน ๆ สีชมพู / สีชมพูอมม่วง / สีชมพูเข้ม อย่างเช่น Oh My Blush เบอร์ 01 จะชมพูอ่อนน่ารักม๊ากก หรือ Clinique Cheek Pop สี blush pop จะสีชมพูนม คนผิวขาวปัดแล้วหน้าเด็กเลยค่ะ
Neutral Undertone : ผิวโทนธรรมชาติ (ขาวเหลือง)
เข้ากับสีอมส้มค่ะ หากเป็นสีชมพูก็จะติ่งส้มนิด ๆ จะขับผิวกว่าชมพูอมม่วง ๆ เช่น Nars Orgasm หรือสีนู้ดติ่งส้มน้ำตาลอย่าง Clinique Nude pop ก็คือดีเลยค่ะ ดูแพงงง
Warm Undertone : ผิวโทนเหลือง (ผิวแทน/ผิวสองสี)
เข้ากับสีคล้ายบรอนเซอร์แต่จะอมส้มประกายทอง ๆ หน่อย จะเข้ากับผิว ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นค่ะ เช่น สีน้ำตาลอมส้ม / สีส้ม / สีนู้ด อย่าง บลัชออน Canmake เบอร์ 12 เป็นต้นค่า
เลือกจากประเภทของบลัชออน
ต้องเลือกบลัชออนจากรูปแบบของเนื้อผลิตภัณฑ์ ว่ารูปแบบไหนถึงจะเหมาะสมกับสภาพผิวมากที่สุด หรือต้องการฟินิชลุคแบบไหนนั่นเองค่ะ
- บลัชออนแป้งฝุ่น : สำหรับผิวมัน ชอบลุคแมตต์
- บลัชออนแบบครีม : สำหรับผิวแห้ง ต้องการการบำรุง
- บลัชออนเนื้อเจล : สำหรับทุกสภาพผิว เพราะเกลี่ยง่าย แห้งไว
- บลัชออนเนื้อน้ำ : สำหรับผิวที่ค่อนข้างชุ่มชื้น จะได้ไม่เป็นคราบ
เลือกจากความติดทน
ความติดทนของ Blush on แต่ละชนิดจะไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่าอยากได้แบบไหนนั่นเองค่ะ ยกตัวอย่างเช่น ต้องการบลัชออนครีมเพราะได้ลุคดิวอี้ งานผิว แต่อาจจะไม่ติดทนเท่ากับบลัชออนทินท์ที่ฟินิชลุคแมตต์กว่า แต่ก็อยู่แน่นทั้งวันกว่าเช่นกันค่ะ
เลือกจากงบประมาณ
มีทั้งบลัชออนถูกและดีไปจนถึงบลัชออนเคาน์เตอร์แบรนด์กันเลยทีเดียวค่ะ โดยเรทราคาก็จะแตกต่างกันไปอยู่ที่ว่าสะดวกในงบประมาณเท่าไหร่ ดังนั้นไม่ต้องกังวลเลยนะคะ เพราะไม่ว่าจะเรทราคาไหน ถ้าเลือกตามที่มิสซี่แนะนำ รับรองว่าต้องตอบโจทย์แน่นอนค่า
เทคนิคปัดแก้มให้เข้ากับรูปหน้า
- ใบหน้ารูปไข่ : ควรปัดจากโหนกแก้มให้เฉียงขึ้นไป โดยไม่ควรเริ่มปัดต่ำจากปีกจมูกนะคะ
- ใบหน้ากลม : ห้ามปัดเป็นวงกลมเด็ดขาด! ให้เริ่มปัดแก้มจากโหนกแก้มขึ้นไปถึงบริเวณขมับนะคะ
- ใบหน้าเรียวยาว : ปัด Blush on จากโหนกแก้มใต้ตา ขึ้นไปที่หางตา ลักษณะโค้งเป็นรูปตัว C เลยค่ะ
- ใบหน้าเหลี่ยม : ควรปัดเป็นแนวนอน หรือเป็น วงกลม แล้วเกลี่ยให้ฟุ้ง ๆ ให้ละมุน ๆ มีมิติมากขึ้น
- ใบหน้ารูปหัวใจ : แนะนำให้ปัดจากบริเวณโหนกแก้มแถวจมูก เฉียงขึ้นไปแนวสันกรามค่ะ
คำถามที่พบบ่อย
บลัชออน คืออะไร?
บลัชออน คือ เครื่องสำอางที่ช่วยเพิ่มสีสันให้กับแก้ม หรือที่เรียกกันว่า ที่ปัดแก้ม นั่นเองค่ะ มีให้เลือกใช้หลากหลายรูปแบบมาก ๆ ที่สำคัญคือบางแบบ สามารถนำมาใช้ทาได้ทั้งเปลือกตา แก้ม และ ปากเลยนะคะ
บลัชออน ดีไหม?
บลัชออน ทั้งดีและมีประโยชน์ กับการแต่งหน้าของมากค่ะ เนื่องจากเป็นเครื่องสำอางที่นอกจากจะเป็นเมคอัพ ช่วยแต่งแต้มสีสันให้กับใบหน้าแล้ว ยังทำให้ได้ฟินิชลุคที่แตกต่างกันแล้วแต่ความชอบของแต่ละคนด้วย ช่วยให้หน้าดูมีสีสัน ไม่ซีดเซียว ดูสุขภาพดีไปในตัวด้วยนะคะ
บลัชออน ทํามาจากอะไร?
บลัชออนทำมาจากพิกเมนต์สี หรือ ผงสี ที่นำมาผสมกับกรดไขมันสกัดและแป้ง และใส่สารประกอบต่าง ๆ ลงไปเพิ่มเติมเช่น ไมกา ที่ช่วยให้สีมีความชัดและเข้มขึ้น สามารถใช้แต่งแต้มบนผิวหน้า ได้ตามต้องการเลยค่ะ
บลัชออน แบบไหนดี?
บลัชออนแบบฝุ่น จะใช้งานง่ายและเหมาะสำหรับมือใหม่มาก ๆ ค่ะ เนื่องจากเป็นบลัชออนแบบแรก และเป็นเนื้อแป้งที่มีความเกลี่ยง่าย ปัดแก้มแล้ว ดูเป็นธรรมชาติ ทั้งยังใช้ได้กับทุกสภาพผิวเลย
แต่ถ้าใครชอบบลัชออนติดทน แต่ยังคงความเป็นธรรมชาติอยู่ มิสซี่แนะนำบลัชออนเนื้อครีมเลยค่ะ! เพราะจะมีความติดทนมากกว่า ให้ลุคผิวฉ่ำมากกว่า แต่อาจจะเกลี่ยยากกว่าแบบฝุ่นหน่อย
ปัดแก้มยังไงให้หน้าเรียว?
ปัดแก้มให้หน้าเรียวได้ง่าย ๆ ด้วยการเน้น ปัดเฉียงขึ้นไปประมาณ 45 องศา โดยปกติแล้วเพื่อน ๆ ควรรู้ก่อนว่ารูปหน้าของเราเป็นแบบไหน จากนั้นให้ใช้ที่ปัดแก้มไปในทิศทางที่เหมาะสม โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการปัดแบบ เฉียงขึ้นจากโหนกแก้มไปถึงขมับ เพื่อให้ใบหน้าดูเรียวยาว มีมิติขึ้นนั่นเองค่า
ปัดแก้มสีไหน ทำให้ดูหน้าเด็ก?
ปัดแก้มสีอ่อน ไม่ทึบแสง มีที่ใกล้เคียงกับ “สีผลไม้” จะช่วยให้ใบหน้าดูเด็กลงอย่างไม่น่าเชื่อเลยนะคะ! ยกตัวอย่างเช่น สีลูกพีชอย่าง บลัชออนเมย์เบลลีนสี Hopeful ที่เป็นชมพูพีชโปร่งแสง สวยม๊ากกก หรือ Rare Beauty สี Bliss คือสีพีชธรรมชาติ ไม่โป๊ะ หรือสี Happy เป็นสีชมพูสดใส หน้าเด็กจริงค่ะ
ยิ่งทาอ่อน ๆ แต่พองาม และไม่ต้องแต่งหน้าเยอะมาก จะยิ่งทำให้ดูเด็กลง โกงอายุลงไปเยอะเลยทีเดียว กลายเป็นเด็กวัยรุ่นหน้าใสวัยเอ๊าะได้ในพริบตาเลยน้า
บลัชออน ทาตาได้ไหม?
บลัชออนสามารถนำมาปรับใช้แทนอายแชโดว์ได้เช่นกันค่ะ หากเพื่อน ๆ ชอบแบบเนื้อบางเบาไม่หนักเปลือกตามาก มิสซี่แนะนำให้ใช้บลัชออนแบบฝุ่นทานะคะ แต่หากต้องการสีสันและความติดทนเป็นหลัก บลัชออนเนื้อครีมก็เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์เช่นกันค่า
บลัชออนผสมชิมเมอร์ดีไหม?
บลัชออนผสมชิมเมอร์ ดีสำหรับคนที่ต้องการลุคผิวฉ่ำมาก ๆ เลยค่ะ โดย Blush on ชนิดนี้จะแตกต่างกับบลัชออนไม่มีชิมเมอร์ ตรงที่จะมีความวิ้ง ๆ ดูเน้นแก้มมากขึ้น ไม่ต้องปัดไฮไลท์ก็ได้ หากต้องการแต่งหน้าออกงาน หรือ ต้องไปงานสำคัญ เป็นหลักค่ะ
บลัชออนสีม่วงอ่อน ช่วยอะไร?
บลัชออนสีม่วงอ่อน ช่วยขับผิวพร้อมทำให้ดูหน้าเด็กลงทันทีที่ทา! ด้วยสีม่วงอ่อน อมชมพูนิด ๆ เมื่อทาลงบนแก้วแล้วจะทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น ขับผิวให้ดูสดใส มีชีวิตชีวา ทาแล้วหน้าแลดูเด็กลงไปเป็นกองเลยน้า จัดเป็นที่ปัดแก้มสียอดฮิต ที่นิยมใช้กันมากเลยค่ะ ของ JUNGSAEMMOOL สี Blending Lavender คือปัดแล้วแก้มอมชมพูน่ารักสุด ๆ ค่า
ผิวสองสี ปัดแก้ม สีอะไร?
ผิวสองสีควรปัดแก้มสีโทนส้มหรือน้ำตาล เนื่องจากสีโทนนี้จะกลืนไปกับสีผิวจริงได้ดีและดูเป็นธรรมชาติที่สุด ที่สำคัญยังทำให้ผิวดูสุขภาพดี สีบ่มแดด สไตล์สาวฝ. ก็มาจ้ะแม่! นอกจากบลัชออนผิวสองสีควรจะเป็นโทนสีส้ม และสีน้ำตาลแล้ว บลัชออนสีนู้ด ก็จัดเป็นอีกสีที่สาวสองสีควรลองเลยนะคะ รับรองว่าจะต้องชอบค่า
ผิวขาวเหลือง ปัดแก้มสีอะไรดี?
สาวผิวขาวเหลือง มิสซี่แนะนำว่า ควรใช้ Blush on สีโทนธรรมชาติหน่อย เช่น บลัชออน สีส้มอิฐ หรือ สีแดงก่ำ เพราะเฉดนี้เหล่านี้จะใกล้เคียงสีธรรมชาติมาก ๆ และยังแมตต์กับผิวของสาวผิวขาวเหลืองได้ดีที่สุด ทำให้ได้ลุคมีชีวิตชีวา สดใส ผิวสุขภาพดี เหมือนดื่มน้ำวันละ 8 แก้วไปอีกจ้า
จบกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่า สำหรับบลัชออน ยี่ห้อไหนดี รีวิวจัดเต็มกันไปเลยเน้อะ แถมยังสีสวย คุณภาพดี ตามที่มิสซี่การันตีเอาไว้ตอนแรกเลยใช่ม้า ไหนใครมีตัวไหนที่เล็งไว้ในใจแล้วแอบกระซิบบอกกันบ้างนะคะ หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้สาวๆ เลือกซื้อบลัชออนดี ๆ ได้ง่ายขึ้นไม่มากก็น้อยน้า
ที่มาข้อมูล