หลายคนอาจกลัวการเกิดฝ้าน้อยกว่าปัญหาสิว เพราะรู้สึกไกลตัวกว่า แต่ความจริงคือ ตราบใดที่ใช้ชีวิตในประเทศไทยที่แดดแรงเบอร์นี้ ก็อย่ามองข้ามปัญหาฝ้าเด็ดขาด เพราะฝ้าเป็นปัญหาผิวที่เกิดจากเม็ดสีผิวเปลี่ยนจากปัจจัยต่างๆ จนเกิดเป็นจุดดำๆ อมน้ำตาลบนผิว และที่ทรมานจิตใจสาวๆ มากที่สุดคือถ้าเริ่มเป็นแล้วไม่รักษา รอยดำของฝ้าจะค่อยๆ ลึกลงไปใต้ชั้นผิวเรื่อยๆ ใช้เวลารักษานานมากเลยละ
ขั้นเริ่มต้นของปัญหาฝ้า เราจะสังเกตว่ามีจุดดำเล็กๆ เกิดขึ้นก่อน ถ้าสาวๆ ละเลย ไม่ทาครีมลดฝ้า ไม่ทากันแดด มันจะขยายใหญ่ขึ้นและมีจำนวนเพิ่มขึ้น คราวนี้ละ ได้เสียตังไปเลเซอร์แน่ เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา วันนี้ไปดูกันค่ะว่า ครีมทาฝ้ายี่ห้อไหนดี ตอบโจทย์ทุกปัญหาฝ้า กระ
TOP 3 ครีมทาฝ้าที่ดีที่สุด
#1 Eucerin Spotless Brightening Spot Corrector
ราคา 1,155 บาท
#2 Kiehl’s Clearly Corrective Dark Spot Solution
ราคา 3,650 บาท
#3 Melamii Anti-Melasma Perfect White Serum and Spot Corrector
ราคา 385 บาท
ตารางเปรียบเทียบ “ครีมทาฝ้า” แต่ละยี่ห้อ
สินค้า | เช็คส่วนลดที่ | จุดเด่น |
Eucerin Spotless Brightening Spot Corrector 1,155 บาท |
| |
Kiehl’s Clearly Corrective Dark Spot Solution 3,650 บาท |
| |
Olay Regenerist Retinol24 Anti-Aging Night Moisturizer Cream 15,900 บาท |
| |
Eucerin Spotless Brightening Booster Serum 2,100 บาท |
| |
Drunk Elephant A-Passioni™ Retinol Skincare Cream 2,980 บาท |
| |
Peach & Lily Transparen-C Pro Spot Treatment 1,850 บาท |
| |
NIVEA LUMINOUS630 SPOTCLEAR TREATMENT 990 บาท |
| |
Giffarine Hya Mela-Vite Spot Corrector Gel 260 บาท |
| |
Medi-peel Melanon X cream 1,990 บาท |
| |
Melamii Anti-Melasma Perfect White Serum and Spot Corrector 385 บาท |
| |
Yanhee Mela Cream 129 บาท |
| |
Clinique Even Better Clinical Radical Dark Spot Corrector + Interrupter 4,100 บาท |
|
สรุปรวมลิสต์ ครีมทาฝ้ายี่ห้อไหนดี?
1. ครีมทาฝ้า โดยรวมที่ดีที่สุด : Eucerin Spotless Brightening Spot Corrector
ราคา 1,155 บาท
ข้อดี
+ ลดรอยแดง รอยดำ
+ ลดเลือนจุดด่างดำของรอยฝ้า
+ ลดการผลิตเม็ดสีเมลานิน
+ ใช้งานง่าย สะดวก
ข้อเสีย
– ราคาค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับปริมาณ ดังนั้น ไม่ค่อยเหมาะกับคนที่มีปัญหารอยฝ้าที่ยังเยอะ กระจายทั่วหน้า
ถ้าปัญหาฝ้าที่เป็นอยู่ และยังมีขนาดไม่ใหญ่ มีลักษณะเป็นจุดเล็กๆ อยู่ เราแนะนำตัวนี้ที่เด่นดังในเรื่องการลดเลือนฝ้า ลดรอยสิว จุดด่างดำที่ฝังลึก เป็นเซรั่มรักษาฝ้าเฉพาะจุดเพื่อปรับสีผิวให้เรียบเนียนเสมอกัน
ส่วนผสมที่เด่นมากคือไทอามิดอล ที่ผ่านการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญแล้วว่ามีประสิทธิภาพในการลดเลือนรอยดำจากฝ้า จุดด่างดำ และลดการผลิตเม็ดสีเมลานินที่เป็นต้นตอของจุดด่างดำ รอยฝ้าต่างๆ ได้ เพราะฉะนั้น แท่งนี้ไม่ใช่แค่ลดรอย แต่ป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ หลายรีวิวคอนเฟิร์มว่ารอยค่อยๆ จางลงภายใน 2 วีค! ปังไม่ไหว!
ใครที่กำลังมองหาครีมทาฝ้าเฉพาะจุด ครีมทาฝ้าให้หายขาด (โดยเฉพาะคนที่ยังมีรอยฝ้าไม่เยอะ มีเป็นจุดๆ) มันต้องมีตัวนี้จริงๆ
ปริมาณ 5 ml : ราคา 1,155 บาท (ตกml ละ 231 บาท)
ส่วนผสมสำคัญในการรักษาฝ้า | 1. THIAMIDOL 2. Glycerides 3. Lactic Acid 4. Sodium Lactate |
2. เซรั่มลดฝ้าที่ดีที่สุด : Kiehl’s Clearly Corrective Dark Spot Solution
ราคา 3,650 บาท
ข้อดี
+ ลดเลือนจุดด่างดำ
+ ปรับสีผิวให้สว่างขึ้น เนียนขึ้น
+ ซึมไว เกลี่ยง่าย
ข้อเสีย
– ราคาค่อนข้างพรีเมี่ยม
– มีส่วนผสมของ Lavender Oil จริงๆ เป็น antioxidant ชนิดนึง แต่บางคนอาจแพ้ส่วนผสมชนิดนี้
อีกหนึ่งเซรั่มตัวดังของแบรนด์คีลส์ ตำนานเซรั่มลดจุดด่างดำ รอยแดงรอยดำต่างๆ ที่มักเป็นช้อยส์แรกๆ ของคนที่อยากแก้ปัญหารอยดำเสมอ ด้วยส่วนผสมเด็ดที่แบรนด์อย่าง Activated C ที่ทำหน้าที่ปรับผิวให้กระจ่างใส และกรดไซลิซาลิก ที่ปรับให้ผิวเนียนเรียบขึ้น และ 3-O Ethyl Ascorbic Acid เป็นวิตามินซีที่ค่อนข้างเสถียร สามารถบำรุงผิวเราได้ทันที
ถึงอย่างนั้น การรักษาจุดด่างดำ รอยฝ้า รอยดำต่างๆ ต้องใช้เวลา โดยเฉพาะบางจุดที่อาจลงลึกไปถึงชั้นผิวด้านในแล้ว ต้องใจเย็นๆ กับการรักษาหน่อยนะสาวๆ
ใครที่กำลังคิดว่าจะซื้อครีมรักษาฝ้าดีๆ เซรั่มทาฝ้าขวดนี้เป็นคำตอบของคนที่ผิวสว่างขึ้นเลย ลองใช้ตัวนี้สักครั้งแล้วจะติดใจค่ะ
ปริมาณ 100 ml : ราคา 3,650 บาท (ตกml ละ 36.5 บาท)
ส่วนผสมสำคัญในการรักษาฝ้า | 1. Activated C 2. Salicylic Acid 3. Glycerin 4. 3-O-Ethyl Ascorbic Acid |
3. ครีมรักษาฝ้าที่ดีที่สุด : Olay Regenerist Retinol24 Anti-Aging Night Moisturizer Cream
ราคา 1,199 บาท
ข้อดี
+ ผลัดเซลล์ผิว
+ เติมความชุ่มชื้นได้ตลอด 24 ชม.
+ ปรับผิวให้กระจ่างใส
+ ราคาไม่แรง
ข้อเสีย
– เนื้อค่อนข้างหนัก
– ทาได้เฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้น
อย่างที่เราอธิบายเมื่อตอนแรกของบทความ เรตินอล นอกจากช่วยกระชับผิว ปรับให้เรียบเนียน แต่ยังช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เป็นรอยคล้ำด้านนอกให้หลุดออกเร็วขึ้น นอกจากเรตินอลที่มีอยู่ในขวดนี้แล้ว ยังมีวิตามิน B3 หรือ Niacinamide ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว และปรับผิวกระจ่างใสไปพร้อมกัน คนที่ตามหาสูตรรักษาฝ้าเร่งด่วน แนะนำว่าควรมีเรตินอลไว้ในรูทีนสักหนึ่งนะ
ใครที่กำลังคิดว่าจะซื้อครีมหน้าขาวใส ลดฝ้า ก็ต้องกดกระปุกนี้แล้วละ! เพราะไม่ใช่แค่เรื่องรอยดำ แต่ช่วยจบปัญหาอื่นด้วย
ปริมาณ 50 g : ราคา 1,199 บาท (ตกกรัมละ 24 บาท)
ส่วนผสมสำคัญในการรักษาฝ้า | 1. Retinol Complex 2. Niacinamide 3. Glycerin 4. Palmitoyl Pentapeptide-4 |
4. ครีมแก้ฝ้า กระ จุดด่างดําที่ดีที่สุด : Eucerin Spotless Brightening Booster Serum
ราคา 2,100 บาท
ข้อดี
+ ลดรอยแดง รอยดำ
+ ลดเลือนจุดด่างดำของรอยฝ้า
+ ลดการผลิตเม็ดสีเมลานิน
+ ใช้งานง่าย สะดวก
ข้อเสีย
– ราคาค่อนข้างสูง
– เนื้อค่อนข้างหนัก คนผิวมันอาจแค่ตอนกลางคืน หากกลัวว่าผิวจะมัน
มีตัวแก้เฉพาะจุดของ Eucerin แล้วก็ต้องมีตัวสำหรับทั่วหน้า สำหรับคนที่ฝ้า กระที่กระจายอยู่ทั่วหน้า (รอบดำรอยแดงจากสิว ตัวนี้ก็เอาอยู่นะ) พูดเลยว่าครีมรักษาฝ้าขวดนี้คือตำนาน รีวิวครีมทาฝ้า ยูเซอรินคือเพียบ สูตรนี้เป็นสูตรล่าสุดที่เขาปรับมาใหม่แล้ว โดยผสมไทอามินอลและไฮยาลูรอนมาให้เสร็จสรรพ
ถึงขวดด้านในจะแบ่งครีมออกเป็นสองฝั่ง แต่หัวปั้มหัวเดียวของเขา ก็กดครีมออกมาได้พอดีทั้งคู่ ไม่มีปัญหากดแต่ละฝั่ง แล้วปริมาณออกมาไม่เท่ากัน ทาได้เช้า-เย็น ผ่านไปหนึ่งวีคจะเริ่มเห็นละว่าผิวหน้าสว่างขึ้น จากนั้น รอยฝ้าจะค่อยๆ จางลง ถือว่าเป็นครีมทาฝ้าอีกตัวที่ใช้แล้วหายจริง!
อย่างที่บอกว่าขวดนี้ตำนาน ใครที่กำลังคิดว่าจะลงทุนซื้อเซรั่มหน้าใส ลดฝ้า ยี่ห้อไหนดี ต้องตำกระปุกนี้แล้วนะ ต้องลองจริงๆ!
ปริมาณ 30 ml : ราคา 2,100 บาท (ตกml ละ 70 บาท)
ส่วนผสมสำคัญในการรักษาฝ้า | 1. THIAMIDOL 2. Sodium Hyaluronate 3. Glycyrrhiza Inflata Root Extract 4. Glucosylrutin 5. Sodium Ascorbyl Phosphate |
5. ครีมรักษาฝ้า ผิวแพ้ง่ายที่ดีที่สุด : Drunk Elephant A-Passioni™ Retinol Skincare Cream
ราคา 2,980 บาท
ข้อดี
+ กระชับรูขุมขน
+ ลดริ้วรอย
+ ปรับผิวให้กระจ่างใส
+ เสริมให้ผิวแข็งแรง
ข้อเสีย
– ราคาค่อนข้างแรง
– ผิวแพ้ง่ายต้องใช้อย่างระวัง เริ่มใช้วีคละน้อยครั้ง แล้วค่อยๆ เพิ่มความถี่
อีกตัวที่เราอยากแนะนำคือเรตินอลจากแบรนด์ช้างที่เป็น คลีนสกินแคร์เหมาะกับคนที่แพ้พวกสารที่ก่อการระคายเคืองอย่าง Essential Oils, Drying Alcohols, Silicones, Chemical Sunscreens, Fragrances/Dyes และ SLS
ขวดนี้เป็นครีมที่ผสานวีแกนเรตินอล 1% เข้ากับส่วนผสมซุปเปอร์ฟู้ด passionfruit, apricot, marula และ jojoba oils ที่ช่วยกระชับรูขุมขน ลดเส้นริ้วรอยลึก ปรับสีผิวให้กระจ่างใสให้สีผิวสม่ำเสมอกัน และสาร antioxidant ที่ได้จาก kale, winter cherry และ xanthophylls เพื่อเสริมให้ผิวแข็งแรงขึ้นไปพร้อมกัน เอาเป็นว่าครีมขวดนี้คุ้มทีเดียว แก้ปัญหาได้หลายจุดภายในขวดเดียว สาวๆ ที่กำลังคิดว่าจะซื้อครีมทาฝ้านี่ห้อไหนดีนะ พูดเลยว่า
สกินแคร์ขวดนี้ครอบจักรวาลอยู่ ดูแลได้หลายปัญหาในขวดเดียว ทั้งทาฝ้า ผิวแข็งแรง ขวดนี้เหมาะมากจริงๆ
ปริมาณ 30 ml : ราคา 2,980 บาท (ตกml ละ 99 บาท)
ส่วนผสมสำคัญในการรักษาฝ้า | 1. Passiflora Edulis Seed Oil 2. Retinol 1.0% 3. Vitamin E 4. Palmitoyl Tetrapeptide-7 |
6. เซรั่มแก้ฝ้า วิตามินซีที่ดีที่สุด : Peach & Lily Transparen-C Pro Spot Treatment
ราคา 1,850 บาท
ข้อดี
+ ปรับผิวให้กระจ่างใส
+ ผลัดเซลล์ผิว
+ อ่อนโยน ผิวแพ้ง่ายใช้ได้
+ ลดการผลิตเม็ดสีเมลานิน
+ เนื้อสัมผัสเบา
ข้อเสีย
– ต้องสั่งจากร้านที่นำเข้ามาหรือพรีออเดอร์
– ราคาค่อนข้างแรง
หลายคนอาจจะไม่คุ้นเคยกับแบรนด์นี้เท่าไหร่ เพราะยังไม่มีวางขายในไทยอย่างเป็นทางการ แต่แบรนด์นี้เป็น K-Beauty ที่วางขายที่ฝั่งอเมริกา เซรั่มวิตซีตัวนี้ติดอยู่ในคำแนะนำ Best Vitamin C ของ Allure ด้วยนะ
ถามว่า ความเจ๋งของมันอยู่ตรงไหน? ก็อยู่ที่วิตามินซีที่มีความเสถียร 20% ที่ช่วยปรับสีผิวบริเวณที่มีจุดด่างดำและรอยดำให้สว่างขึ้นอย่างเห็นได้ชัดและอ่อนโยนต่อผิว และยังมี kojic และ tranexamic acid ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน เพื่อผลลัพธ์ที่เร็วขึ้น และยังมี Ferulic Acid และ Vitamin E ที่เข้ามาเสริมเรื่องความกระจ่างใสด้วย
เรียกว่าแน่น ครบเรื่องกระจ่างใสในขวดเดียวมาก ตัวนี้วิตซีแน่นๆ ปรับผิวให้สว่าง ปรับรอยฝ้าให้จางแนะนำเลยค่ะ
ปริมาณ 20 ml : ราคา 1,850 บาท (ตกml ละ 92.5 บาท)
ส่วนผสมสำคัญในการรักษาฝ้า | 1. Vitamin C 20% 2. Kojic acid 3. tranexamic acid 4. Ferulic acid 5. Vitamin E |
7. ครีมรักษาฝ้าให้หายขาด รีวิวเยอะที่สุด : NIVEA LUMINOUS630 SPOTCLEAR TREATMENT
ราคา 990 บาท
ข้อดี
+ ฟื้นฟูถึงระดับเซลล์
+ ลดเลือนจุดด่างดำ และรอยดำต่างๆ
+ เติมความชุ่มชื้นให้ผิว
+ ราคาไม่แรง
+ รีวิวเยอะ
ข้อเสีย
– ครั้งแรกๆ ที่กด เนื้อเซรั่มออกมาไม่พร้อมกัน ต้องกดประมาณ 5 ครั้ง ถึงจะออกพร้อมกันทั้ง / หัว
แบรนด์คุ้นเคยที่เขาไม่ได้มีดีแค่กันแดดกับโลชั่นทาตัว แต่ครีมทาฝ้านีเวียตัวนี้ก็จึ้งควรได้รับการอวย เพราะหลายคนรีวิวว่าใช้ไป 4 วีคก็เริ่มเห็นว่าจุดด่างดำ รอยฝ้าต่างๆ ก็เริ่มจางลง นั่นเป็นเพราะส่วนผสมที่ชื่อ Luminous630 สารไวท์เทนนิ่งที่เข้าไปฟื้นฟูถึงระดับเซลล์ ซึ่งสารตัวนี้มีความน่าเชื่อถือสูงทีเดียว เพราะได้รับการตีพิมพ์ลงวารสารด้านวิทยาศาสตร์ด้วย
ส่วนเหตุผลที่เขาแยกเซรั่มออกเป็น 2 ส่วนแบบนี้ก็เพื่อความสดใหม่ของเซรั่ม คล้ายๆ กับการเซรั่มผสมสดนั่นเองค่ะ เพราะฉะนั้น คนที่กำลังมองหาว่าจะเอาครีมทาฝ้า เห็นผลลัพธ์ชัด เราแนะนำขวดนี้เลย เป็นอีกตัวหนึ่งที่ใช้แล้วหายจริง!
ปริมาณ 30 ml : ราคา 990 บาท (ตกml ละ 33 บาท)
ส่วนผสมสำคัญในการรักษาฝ้า | 1. Luminous630 2. Hyaluron 3. Vitamin E |
8. ครีมรักษาฝ้า กระ ที่ดีที่สุด : Giffarine Hya Mela-Vite Spot Corrector Gel
ราคา 260 บาท
ข้อดี
+ เนื้อสัมผัสเบา ใช้งานง่าย
+ ลดเลือนจุดด่างดำ และรอยดำต่างๆ
+ ราคาเบามาก
ข้อเสีย
– รีวิวน้อย
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่ากิฟฟารีนมีครีมสำหรับทาฝ้าด้วย! ใช่ค่ะ แถมยังติดอยู่ในลิสต์ที่คุณเชื่อชัย บิวตี้อินฟลูฯ แนะนำอีกต่างหาก เจลหลอดนี้ใช้สำหรับแต้มเฉพาะจุด ส่วนผสมที่สำคัญของหลอดนี้คือ Liposome Encapsulated 4-Butylresorcinol มีความเสถียรสูง ทำให้ซึมเข้าผิว ไปลดเลือนรอยดำ รอยฝ้า ให้สว่างขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ PKEK Peptide สารที่นำเข้าจากเยอรมัน สารเปปไทด์ที่ช่วยป้องกันและยับยั้งการเกิดฝ้า กระ จริงๆ สามารถทาเช้าและก่อนนอนได้เลยนะ
คนที่เพิ่งเริ่มเป็นฝ้า หรือกำลังมองหาครีมทาฝ้า ราคาไม่แรง เราแนะนำตัวนี้เลยค่ะ
ปริมาณ 15 ml : ราคา 260 บาท (ตกml ละ 17.3 บาท)
ส่วนผสมสำคัญในการรักษาฝ้า | 1. Liposome Encapsulated 4-Butylresorcinol 2. PKEK Peptide 3. Caviar Lime Extract 4. Vitamin B3 (หรือ Niacinamide) 5. Hyaluron 100% Natural (Ecocert) |
9. ครีมทาฝ้าเกาหลีที่ดีที่สุด : Medi-peel Melanon X cream
ราคา 1,529 บาท
ข้อดี
+ ปรับสีผิวให้สว่างขึ้น
+ ลดเลือนจุดด่างดำ และรอยดำต่างๆ
+ ลดริ้วรอย
+ เติมความชุ่มชื้นและล็อคผิวให้นุ่มฟู
ข้อเสีย
– ต้องเสริมสกินแคร์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเข้ามาหน่อย เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
– มีน้ำหอม
ครีมรักษาฝ้าเกาหลีตัวนี้ คนเกาหลีฮิตกันมาก เพราะใช้ได้ผลจริง ใช้ได้นาน แถมยังใส่สารที่ช่วยบำรุงผิวมาให้แบบจุกๆ Transexamic Acid ยับยั้งการทำงานของการผลิตเม็ดสีเมลานิน ช่วยฟิ้นฟูฝ้าที่ฝังลึกใต้ชั้นผิวให้ค่อยๆ จางลง และยังมี Ascobic Acid ที่เป็นวิตามินซีสด ช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใสขึ้น นอกจากนี้ ยังมีพวกสารที่ช่วยเติมความชุ่มชื้น สารที่ช่วยลดริ้วรอยอีก เพราะว่าคนที่โดนแดดมาเยอะๆ จะมีปัญหาริ้วรอยตามมาอยู่แล้ว แน่นแบบจุกจริง (นี่คือสรุปมาให้แล้วนะ ถ้าให้ใส่ทุกตัว เกรงว่าทุกคนจะอ่านกันไม่ไหว)
สายสกินแคร์เกาหลี ที่กำลังมองหาครีมทาฝ้าเกาหลีดีๆ ต้องตำหลอดนี้เลยค่ะ ส่วนผสมแน่นมากจริง
ปริมาณ 30 ml : ราคา 1,529 บาท (ตกml ละ 51 บาท)
ส่วนผสมสำคัญในการรักษาฝ้า | 1. Transexamic Acid 2. L-Cysteine 3. Ascobic Acid 4. Vitamin B3 5. Peptide 6. Witch Hazel Extract |
10. ครีมแก้ฝ้า ถูกและดีที่สุด : Melamii Anti-Melasma Perfect White Serum and Spot Corrector
ราคา 385 บาท
ข้อดี
+ เกลี่ยง่าย ซึมเข้าผิวหมด ไม่เหนอะหน้า
+ ทาแล้วรู้สึกว่าหน้าได้เติมน้ำ ฟูมาก
+ ใช้ไประยะหนึ่งรอยดำดูจางลง ผิวใสขึ้น
ข้อเสีย
– ช่วงแรกที่ทารู้สึกเหนียวนิดๆ อาจใช้เวลาสักนิด
– ราคาค่อนข้างสูง
ถ้าไม่มีรีวิวเมลามิ ครีมทาฝ้าคงไม่ได้ เพราะเจ้าหลอดจิ๋วอันนี้รีวิวแน่นมาก ว่าใช้ 7 วัน ก็เริ่มเห็นผลแล้ว จุดเด่นของตัวนี้ มีสารที่ชื่อว่า Melatein-x ที่ให้ประสิทธิภาพมากกว่าอาร์บูติน 80 เท่า ช่วยลดเลือนฝ้าเก่า ยับยั้งการผลิดเม็ดสีเมลานิน เพื่อป้องกันการเกิดซ้ำด้วย แถมยังมี Vitamin B3 หรือ Niacinamide ที่พร้อมบำรุงผิวให้สว่างขึ้นด้วย และมีไฮยาลูรอน ที่เติมความชุ่มชื้นให้ผิวไปในตัว เพราะฉะนั้น ถ้าทาตอนเช้า แค่ทาตัวนี้ แล้วตามด้วยกันแดดได้เลย (ถึงหลอดนี้จะมี SPF20 แล้ว แต่ถ้าใครต้องออกจากบ้าน ก็แนะนำให้ทากันแดดเพิ่มนะคะ เพราะปริมาณ SPF20 เพียงพอแค่ป้องกันแสงสีฟ้า และแสงจากหลอดไฟเท่านั้นค่ะ)
หลอดนี้เป็นอีกตัวที่เราแนะนำสำหรับคนที่กำลังคิดว่าจะซื้อครีมทาฝ้า ราคาไม่แรงมาก หลอดนี้เป็นครีมทาฝ้าที่ทำได้ทั้งตัวรักษาฝ้า พร้อมกับกันแดดอ่อนๆ สำหรับคนที่ต้องทำงานหน้าคอมที่บ้านเลยละ
ปริมาณ 100 ml : ราคา 3,650 บาท (ตกml ละ 36.5 บาท)
ส่วนผสมสำคัญในการรักษาฝ้า | 1. Melatein-x 2. Botanical Extract Complex B 3. Hyaluronic Acid 4. Vitamin B3 ( หรือ Niacinamide) |
ข้อดี | + เนื้อเข้มข้น + ลดเลือนจุดด่างดำ และรอยดำต่างๆ + ป้องกันการเกิดซ้ำ + ราคาเบา + รีวิวแน่น + ผิวแพ้ง่ายใช้ได้ |
ข้อเสีย | – เกลี่ยยาก ต้องใช้เวลานิดนึง แต่เกลี่ยเสร็จแล้ว ก็ไม่เหนอะหนะ |
ราคา | 385 บาท (ตกg ละ 25.67 บาท) |
ปริมาณ | 15 g |
11. ครีมลดฝ้า ถูกและดีที่สุด : Yanhee Mela Cream
ราคา 129 บาท
ข้อดี
+ ลดเลือนจุดด่างดำ และรอยดำต่างๆ
+ ผลัดเซลล์ผิว
+ ราคาเบา
+ รีวิวแน่น
ข้อเสีย
– เนื้อครีมค่อนข้างข้น ใช้เวลาในการเกลี่ย ซึมยาก
– ผิวแพ้ง่ายอาจจะแพ้ค่ะ เพราะมีกรดผลไม้ด้วย และถ้าผิวบางอยู่แล้ว ไม่แนะนำ เพราะผิวจะยิ่งบางลงไปอีก
ครีมทาฝ้ายันฮีตัวนี้ บางคนเรียกว่า ครีมลอกฝ้า เป็นเพราะส่วนผสมของเขาที่ชื่อ Transexamic Acid (ตัวเดี่ยวกับที่มีใน Medi-peel เลยค่ะ) ที่ช่วยยับยั้งการทำงานของการผลิตเม็ดสีเมลานิน ช่วยฟิ้นฟูฝ้าที่ฝังลึก และ Glycolic Acid กรดผลไม้ที่ผลัดเซลล์ผิวออกอย่างอ่อนโยน เพื่อเอาเซลล์ผิวที่ตายแล้วด้านนอกออกไป ให้สารบำรุงตัวอื่นๆ ทำงานได้ดีขึ้น
อีกอย่างที่ต้องโน็ตไว้ห้ามลืม คือ ตัวนี้ใช้สำหรับกลางคืนเท่านั้น ห้ามใช้ตอนกลางวันนะคะ เพราะมีกรดผลไม้ผสมอยู่ด้วย ถ้าทากลางวันจะทำให้ผิวเบิร์นง่ายนะคะ
คนที่มองหาว่าจะครีมทาฝ้า ถูกและดี เราแนะนำหลอดนี้เลยค่ะ ราคาไม่แรงเลย
ปริมาณ 20 g : ราคา 129 บาท (ตกกรัมละ 6.45 บาท)
ส่วนผสมสำคัญในการรักษาฝ้า | 1. Transexamic Acid 2. Licorice Extract 3. Glycolic Acid |
12. ครีมหน้าใส ลดสิว จุดด่างดํา ฝ้าที่ดีที่สุด : Clinique Even Better Clinical Radical Dark Spot Corrector + Interrupter (Best-Selling)
ราคา 4,100 บาท
ข้อดี
+ ลดเลือนจุดด่างดำ รอยดำต่างๆ รวมถึงรอยแผลเป็นจากสิว
+ ยับยั้งการเกิดของจุดด่างดำต่างๆ
+ เนื้อไม่หนึบ ทาง่าย ซึมเข้าผิวไว
ข้อเสีย
– เคาน์เตอร์แบรนด์ ราคาค่อนข้างสูง
เซรั่มตำนานของแบรนด์ ที่ขายดีติดอันดับ Top3 ตลอด ถามว่าทำไมถึงขายดีตลอด? เพราะว่าสูตรนี้ เขาปรับมาแล้วให้เป็นสูตรที่เป๊ะ ถึงขนาดที่แบรนด์กล้าพูดเลยว่า เป็นเซรั่มที่ดีที่สุดในรอบ 10 ปี เพราะว่าขวดนี้ เขาใส่ส่วนผสมที่ชื่อว่า CL302 Complex เป็นสูตรของแบรนด์เขาที่รวมเอาส่วนผสมที่ช่วยฟื้นฟูรอยดำ จุดด่างดำที่เกิดจากแสงแดดได้ แถมรวบยอดไปถึงรอยจากสิวอีกต่างหาก ส่วน interrupt complex คือส่วนผสมที่ช่วยยับยั้งการเกิดจุดด่างดำในอนาคต เพื่อให้สีผิวสม่ำเสมอกัน
หลายรีวิวเฟิร์มว่าใช้ติดต่อกันประมาณ 1 เดือน จะเริ่มเห็นผลว่ารอยดำค่อยๆ จางลง สิ่งที่เราชอบของขวดนี้คือ ความครบในการบำรุง มันไม่ใช่การลดจุดด่างดำ แต่ยังช่วยปลอบประโลมผิว เสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงขึ้นด้วย และเนื้อไม่หนัก ผิวแบบไหนก็ทาได้ อัดไปเลยเช้า-ก่อนนอนค่ะ
ใครที่กำลังคิดว่าจะตำครีมเคานเตอร์แบรนด์รักษาฝ้า ตัวนี้คือต้องตำค่ะ เป็นอีกตัวที่ท็อปฟอร์มมาโดยตลอด ได้ทั้งลดรอย และผิวกระจ่างใสเลยค่ะ แนะนำๆ
ปริมาณ 50 ml : ราคา 4,100 บาท (ตกml ละ 82 บาท)
ส่วนผสมสำคัญในการรักษาฝ้า | 1. CL302 Brightening Complex™ (ประกอบด้วย dimethoxytolyl propylresorcino, Salicylic acid, Vitamin C, Glucosamine และ Yeast extract) 2. Interrupter Complex (ประกอบด้วย camellia sinensis leaf และ Rice bran extract) |
วิธีเลือกซื้อ “ครีมทาฝ้า/ครีมรักษาฝ้า”
เลือกจากส่วนผสมสำคัญ
- Reinol ส่วนผสมสำคัญที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว ให้ผิวบริเวณที่เป็นฝ้า ถูกผลัดออกได้ไวขึ้น เพื่อเผยผิวใหม่ที่สว่างขึ้น เมื่อผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกไปเรื่อยๆ รอยฝ้าจะค่อยๆ จางลง แต่ข้อควรระวังคือ เรตินอลที่มีความเข้มข้นสูง เปอร์เซ็นต์ที่ผิวจะเกิดการระคายเคือง ก็มากตามไปด้วย
มือใหม่หัดใช้เรตินอล ให้เริ่มจากสัปดาห์ละครั้งแค่ตอนกลางคืน ระหว่างนั้น ต้องบำรุงด้วยมอยส์เจอไรซ์เซอร์สม่ำเสมอ พอผิวเริ่มชิน ค่อยเพิ่มความถี่เป็นสองครั้งต่อวีค และจากนั้นก็ขยับมาทาทุกคืน - สกินแคร์กลุ่ม brightening ที่มี Vitamin C (ความเข้มข้นที่ 10-20%) / Kojic Acid / tranexamic acid / glycolic acid เป็นต้น ส่วนผสมเหล่านี้ช่วยลดการผลิตเม็ดสีเมลานิน พร้อมกับปรับสีผิวบริเวณที่เป็นฝ้าให้สว่างขึ้น
วิธีรักษาฝ้าด้วยวิธีธรรมชาติ
สำหรับคนที่ผิวแพ้ง่าย หรืออยากหลีกเลี่ยงการใช้ครีมรักษาฝ้าที่มีสารเคมี อย่างเช่น คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือสาวๆ ที่ผิวแพ้ง่ายมาก ให้เลือกจากผลิตภัณฑ์สมุนไพรหรือสารสกัดจากธรรมชาติแทนได้ก่อน ค่อยเขยิบไปใช้สกินแคร์ที่เป็นเคมี (และอย่าลืมทดสอบการแพ้ก่อนใช้ด้วยนะคะ) เราเองก็มีสูตรรักษาฝ้าด้วยสมุนไพรมาฝากค่ะ
- ขมิ้น จะมีสารชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า Curcumin ที่ช่วยป้องกันรังสียูวี และยังเป็น antioxidant ป้องกันการระคายเคือง และมีงานวิจัยที่พบว่า ช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานิน
วิธีใช้คือ ผสมผงขมิ้น 2 ช้อนชา เข้ากับนมสดและน้ำมะนาว คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วทาลงบนบริเวณจุดด่างดำ ทิ้งไว้ 20 นาที แล้วใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดออก - เลมอน ผลไม้ชนิดนี้ขึ้นชื่อเรื่องอุดมไปด้วยวิตามินซีอยู่ละ ซึ่งน้ำเลมอนเองก็มีส่วนช่วยในการยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานิน เป็นอีกหนึ่งสูตรสมุนไพรรักษาฝ้า กระ จุดด่างดํา
วิธีใช้คือ บีบน้ำเลมอน 1-2 ช้อนชา ผสมกับน้ำเปล่า แล้วใช้คอตตอนบัต (cotton bud)แต้มน้ำเลมอนที่ผสมแล้วลงบนจุดด่างดำ หรือรอยฝ้าที่ต้องการ ทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วล้างออก - น้ำผึ้ง มีสาร polyphenol หลายตัวเลยค่ะ ซึ่งเป็นสารที่ช่วยปรับสีผิวให้สว่างขึ้น และยับยั้งการเกิดเม็ดสีเมลานิน
วิธีใช้คือ ผสมน้ำผึ้งสดกับโยเกิร์ต แล้วแต้มลงบนจุดด่างดำทิ้งไว้ 15-20 นาที แล้วค่อยล้างออก
วิธีป้องกันการเกิดฝ้า
– บำรุงด้วยครีมทาฝ้าไปเท่าไหร่ แต่ถ้าไม่ป้องกันด้วยการทากันแดด ที่ทำไปทั้งหมดก็ไม่มีความหมายค่ะ เพราะทุกครั้งที่ผิวคุณเจอกับแสงยูวี แสงสีฟ้า ผิวก็ยิ่งถูกทำร้าย รอยฝ้าก็ยิ่งลงลึกไปเรื่อยๆ และเมื่อคุณใช้รวมกับสกินแคร์บางตัวที่มี AHA/BHA กรดผลไม้ สารเหล่านี้จะทำให้ผิวบางลงเรื่อยๆ
– การทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ เพราะครีมกันแดด ทั้งช่วยป้องกันรอยดำจากแดด และยังช่วยป้องกันสาเหตุการเกิดริ้วรอยในอนาคตด้วย
– ถ้าวันไหนมีแพลนที่ออกไปทำกิจกรรมข้างนอก เช่น เดินช้อปปิ้งที่จตุจักร เล่นกีฬา อย่าลืมสวมหมวกป้องกัน หรือกางร่มเพื่อป้องกันแสงแดดเพิ่มอีกชั้นนึงด้วยนะคะ
คำถามที่พบบ่อย
สาเหตุของการเกิดฝ้า เกิดจากอะไร?
แน่นอนว่าสาเหตุหลักและเราคุ้นเคยกันดีคือมาจากรังสียูวีที่มาพร้อมแสงแดด นอกจากนี้ ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ผิวถูกกระตุ้นให้เกิดฝ้าเช่นกัน เพราะฉะนั้น คนที่ต้องทานยาคุม คนท้อง และคนที่ต้องรักษาด้วยทานยาฮอร์โมน ก็มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดฝ้าได้เช่นกัน
ประเภทของฝ้า มีอะไรบ้าง?
แต่ก่อนที่จะไปดูตัวช่วยในการรักษาฝ้า มารู้จักประเภทของฝ้าที่มีทั้งหมด 2 ประเภทก่อน
– ฝ้าแดด สาเหตุหลักของการเกิดฝ้าแดด มาจากการที่ผิวได้รับรังสี UV แสงสีฟ้าจากจอมือถือ จอคอมพิวเตอร์มากเกิน จนไปกระตุ้นการทำงานของเม็ดสีผิว (Melanin Pigment) ให้ทำงานมากเกินปกติ
– ฝ้าเลือด เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย เช่น คนที่ต้องทานยาคุมกำเนิด การตั้งครรภ์ การรักษาบางประเภทที่ต้องการทานยาฮอร์โมนสิ่งเหล่านี้ทำให้ผิว Sensitive กับแสงแดดง่ายกว่าเดิม ผิวแดงง่ายเมื่อเจอแสงแดด จนอาจเกิดฝ้าเลือด ที่มีสีแดงอมน้ำตาล
การดูแลฝ้าต้องใช้สกินแคร์ที่ดี ทากันแดด และต้องให้เวลาตัวเองในการฟื้นฟูด้วย เพราะรอยฝ้า จุดด่างดำ ต้องใช้เวลาในการรักษามากๆ เพราะฉะนั้น ต้องอดทน ทาบำรุงอย่างสม่ำเสมอ นี่แหละยากสุดแล้ว แต่ถ้าอยากผิวสวยขึ้น ผิวเรียบเนียน รอยฝ้าหายขาด ต้องท่องไว้ว่า ห้ามลืมทาสกินแคร์ลดฝ้า กระ จุดด่างดํา ทาครีมกันแดด อยู่เสมอนะคะ สู้ๆ ค่ะ 🙂
ที่มาข้อมูล:
https://www.cosmopolitan.com/style-beauty/beauty/a33421857/melasma-treatment/
https://www.byrdie.com/melasma-treatment-4842254
https://www.kaya.in/blog/6-completely-natural-ways-to-cure-acute-melasma/
https://www.healthline.com/health/melasma#risk-factors-and-causes