มอยเจอร์ไรเซอร์ เป็นสกินแคร์อันดับต้น ๆ ที่ทุกคนนึกถึง เพราะเป็นตัวที่สำคัญกับผิวของเรามาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นคนผิวมัน ผิวแห้ง หรือผิวผสม ก็ยังจำเป็นต้องใช้มอยเจอร์ไรเซอร์อยู่
นอกจากความสามารถ ในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว และล็อกความชุ่มชื้นให้อยู่บนผิวแล้ว มอยเจอร์ไรเซอร์ ยังช่วยเรื่องของพวกริ้วรอยต่าง ๆ และบำรุงผิวให้เนียนนุ่มด้วยเช่นกัน
หากคุณรู้สึกลังเล ว่าจะใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ดีไหม จำเป็นหรือเปล่า สำคัญมากแค่ไหน ลองมาดูประโยชน์ของมอยเจอร์ไรเซอร์ดูก่อน ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อว่าสรรพคุณเด่น ๆ อะไรบ้าง
ประโยชน์ของมอยเจอร์ไรเซอร์ [สรุป]
- ช่วยปกป้องผิวจากความแห้งกร้าน ผิวแลดูอ่อนเยาว์
- ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย
- ช่วยลดการเกิดสิว ผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตัน
- ช่วยเสริมชั้นผิวให้แข็งแรง
- ช่วยลดรอยดำ ผิวขาวกระจ่างใส
- ช่วยลดการอักเสบของผิว
- ช่วยให้การแต่งหน้าดูเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น
มอยเจอร์ไรเซอร์ ช่วยอะไร
1.ช่วยปกป้องผิวจากความแห้งกร้าน ผิวแลดูอ่อนเยาว์
แม้เมืองไทยจะเป็นเมืองร้อน ไม่ใช่อากาศหนาว ๆ มีหิมะตก แต่ใช่ว่าผิวของเราจะรอดพ้นจากความแห้งกร้านได้ เพราะไม่ว่าอากาศจะหนาว หรือร้อน ตราบใดที่มีความชื้นอยู่รอบตัวเรา ผิวก็สามารถถูกดูดความชื้นออกไปได้โดยตรง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ
เป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมมอยเจอร์ไรเซอร์จึงมีความจำเป็น ขาดไม่ได้อย่างยิ่ง ใน Skincare routine ของคุณ เพราะถ้าหากคุณมีมอยเจอร์ไรเซอร์ที่ดี ไม่เพียงแต่ทดแทนความชุ่มชื้นที่เสียไปแล้วเท่านั้น แต่ยังช่วยป้องกันการสูญเสียความชื้นในอนาคตอีกด้วย
การให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว จะช่วยให้คุณดูอ่อนเยาว์ขึ้น มีผิวที่นุ่มนวล ดูสดใสมากขึ้น และช่วยให้ผิวของคุณชุ่มชื้นตลอดเวลา
การเติมน้ำให้ผิวทุกวัน จะช่วยป้องกันปัญหาผิวแก่ก่อนวัย ยิ่งถ้าใช้เซรั่มไฮยาลูรอน ยิ่งขาดมอยเจอร์ไรเซอร์ไม่ได้เด็ดขาด เพราะจะไม่มีตัวล็อกสารตัวนี้เอาไว้ ถ้าหากผิวขาดความชุ่มชื้น สกินแคร์อื่น ๆ ก็ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวแห้ง มักจะไวต่อความเสียหายต่าง ๆ ที่มีต่อผิวได้ง่าย เช่น รอยแตก สะเก็ด และการแห้งลอก ซึ่งอาจสร้างความเจ็บปวดได้ ในกรณีที่รุนแรง อาจทำให้ผิวแดง แสบ และอักเสบได้
ดังนั้น การบำรุงผิวด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ โดยเฉพาะคนที่มีผิวแห้ง จะช่วยเพิ่มความสามารถของผิว ในการซ่อมแซมตัวเอง ช่วยให้สร้างคอลลาเจนได้เพียงพอ ผิวกระชับ และดูมีชีวิตชีวา สุดท้าย จะช่วยให้คุณดูมีผิวที่อ่อนเยาว์ และเรียบเนียนยิ่งขึ้น
2.ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย
ปัญหาเกี่ยวกับริ้วรอย เป็นเหมือนปัญหาที่ดูไกลตัวของใครหลายคน โดยเฉพาะในตอนที่คุณยังไม่ได้มีอายุมากนัก คุณอาจจะกำลังคิดว่า ทำไมต้องคิดถึงเรื่องริ้วรอยตอนนี้ด้วย เพราะมันดูเร็วเกินไปที่จะคิด
แต่อยากให้คุณรู้ว่า การบำรุง เพื่อการชะลอริ้วรอยก่อนวัยอันควร ยิ่งเริ่มเร็วยิ่งดี เพราะถ้าหากไปเริ่มบำรุง ในตอนที่รู้ตัวช้า ริ้วรอยเริ่มมาแล้ว ก็อาจจะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างไป
ประโยชน์ของ Moisturizer อีกหนึ่งอย่าง ที่สำคัญมาก ๆ คือการช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้ หากผิวของคุณได้รับความชุ่มชื้นไม่ขาด ได้รับการบำรุงสม่ำเสมอ ผิวก็จะมีความอิ่มเอม และดูอ่อนเยาว์
Dr. Bowe แนะนำให้ บำรุงผิวด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ ที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิก แต่หากต้องการลดริ้วรอยระดับเซลล์ ครีมลดเลือนริ้วรอยที่มีส่วนผสมของ Retinol สามารถช่วยปรับสภาพผิว ริ้วรอยตื้น ๆ ให้เรียบเนียนมากขึ้นได้เช่นกัน
3.ช่วยลดการเกิดสิว ผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตัน
สกินแคร์ ที่ช่วยผิวต่อสู้กับสิว ไม่ได้มีแค่ AHA หรือ BHA แต่มอยเจอร์ไรเซอร์ก็เป็นหนึ่งในนั้น เพราะสาเหตุหลักของการเกิดสิว ก็มาจากการที่ผิวหนัง ผลิตน้ำมัน (Sebum) มากเกินไป ซึ่งทำให้เกิดการอุดตันรูขุมขน ทำให้เกิดสิวขึ้นมานั่นเอง
มอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับคนเป็นสิว ที่มักจะมี Active ingredient อย่าง BHA AHA กลุ่มนี้สามารถช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวให้ใบหน้าขาวกระจ่างใส โดยเฉพาะ BHA จะช่วยเสริมเรื่องลดการอุดตันจากน้ำมันในรูขุมขน
ผู้เชี่ยวชาญ แนะนำว่า มอยเจอร์ไรเซอร์ เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ๆ ในการบำรุงผิว ถ้าหากคุณกังวล ที่จะเริ่มใช้ เพราะกลัวว่าจะอุดตันผิวกว่าเดิม ให้เลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ ที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณ เช่น ผิวมัน ผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย เป็นต้น
สำหรับคนที่มีผิวเป็นสิวง่าย แนะนำให้ใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ ที่ปราศจากน้ำมัน น้ำหอม และสูตรอ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดสิว ควบคู่ไปกับการรักษาสิวด้วย จะช่วยให้ปัญหาสิวดียิ่งขึ้น
ใครไม่อยากเป็นสิวซ้ำ ๆ แนะนำว่าควรใช้มอยเจอไรเซอร์เป็นประจำ เพื่อเติมน้ำให้ผิว ลดการผลิตน้ำมัน
4.ช่วยเสริมชั้นผิวให้แข็งแรง
หากคุณเป็นคนผิวแห้ง ผิวลอก จะขาดมอยเจอร์ไรเซอร์ไม่ได้เด็ดขาด ผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า มอยเจอร์ไรเซอร์ มีความสำคัญมาก ในการเสริมชั้นผิวให้แข็งแรง ถ้าหากไม่ใช้เลย อาจเสี่ยงต่อการที่ผิวจะระคายเคืองง่าย ไปจนถึงแห้งมาก และแดงลอก
Dr. Stacy Chimento ระบุว่า การใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ จะช่วยเสริมชั้นผิวให้แข็งแรง โดยการเติมน้ำให้ผิว และที่สำคัญ มอยเจอร์ไรเซอร์ ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงแค่ให้ความชุ่มชื้น แต่ยังช่วยล็อกความชุ่มชื้นเอาไว้กับผิว และช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำด้วย
โดยวิธีการเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ เพื่อช่วยเสริมชั้นผิวให้แข็งแรง แนะนำให้มองหาส่วนผสมสำคัญ ๆ อย่างเซราไมด์ (Ceramides) ในการฟื้นฟูและบำรุงผิว
5.ช่วยลดรอยดำ ผิวขาวกระจ่างใส
ประโยชน์ของมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มี Active ingredient อย่าง AHA สามารถช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวให้ใบหน้าขาวกระจ่างใสได้ดีมาก ๆ
และครีมกันแดดบางยี่ห้อ ก็มีคุณสมบัติเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ในตัวอยู่แล้ว เพียงแค่คุณทากันแดดให้ถูกต้อง ผิวของคุณที่มีการผลัดผิวตามธรรมชาติ ก็จะดูหน้าใสขึ้นได้ง่าย ๆ เลย
6.ช่วยลดการอักเสบของผิว
ผิวชั้น corneum เป็นชั้นนอกสุดของผิวหนัง ประกอบเคราติน ที่ให้สารต้านอนุมูลอิสระ และเป็นเกราะป้องกันรังสี UV และยังเป็นส่วนสำคัญ ในการรักษาความชุ่มชื้นของผิว
แต่ในบางครั้ง ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมที่รุนแรง และสภาพผิวที่ไม่แข็งแรง อาจส่งผลต่อการทำงานของเกราะป้องกันผิว และทำให้ผิวแห้งมากเกินไป เมื่อถูกสัมผัสบ่อย ๆ ก็จะเสี่ยงต่อมลภาวะ และแบคทีเรีย ซึ่งจะกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกัน พยายามปกป้องผิวจากการคุกคาม ซึ่งนำไปสู่การอักเสบของผิวนั่นเอง
นอกจากนี้ เมื่อเราอายุมากขึ้น การอักเสบก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งทำให้สิ่งต่าง ๆ ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
มี ผลการวิจัย พบว่า การทามอยเจอร์ไรเซอร์ เป็นเวลา 30 วัน จะช่วยลดระดับไซโตไคน์ในเลือด แม้จะเป็นการศึกษาเล็ก ๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ ว่าการทามอยเจอร์ไรเซอร์เป็นประจำ ให้ประโยชน์ต่อผิว มากกว่าการที่ไม่ทาเลย
7.ช่วยให้การแต่งหน้าดูเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น
หากคุณเป็นคนหนึ่ง ที่มีปัญหาเวลาแต่งหน้า เช่น ลงรองพื้นแล้วเป็นขุย ทาแป้งพัฟแล้วเป็นคราบ ลงแป้งฝุ่นแล้วก็ไม่ติดหน้า แต่งหน้าไปแล้วก็รู้สึกว่าเมคอัพจะหลุดตลอดเวลา ดรอปง่ายระหว่างวัน ดูไม่เป็นธรรมชาติเลย
เหตุผลหนึ่งมาจาก ผิวของคุณขาดความชุ่มชื้น เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาต่าง ๆ ที่จะทำให้ลุคของคุณดูไม่เป็นธรรมชาติ และทำให้การแต่งหน้าของคุณดูสมบูรณ์แบบขึ้น คุณต้องเตรียมผิวให้ชุ่มชื้นก่อน
ซึ่งไอเทมหลัก ๆ ที่ต้องใช้ ก็คือมอยเจอร์ไรเซอร์นั่นเอง ผู้เชี่ยวชาญ แนะนำว่า ให้รอประมาณ 5 นาที ก่อนใช้รองพื้น เพื่อให้มอยเจอร์ไรเซอร์ หรือไพรเมอร์ของคุณซึมลงผิวได้อย่างพอดี ซึ่งจะไม่ทำให้เครื่องสำอางของคุณเป็นคราบ หรือตกร่องเลย
และทั้งหมดก็คือ 7 ประโยชน์ของ Moisturizer ที่เราได้นำมาแชร์ เพื่อให้อ่านแล้วรู้ถึงความสำคัญของมอยเจอร์ไรเซอร์ เพราะถึงแม้จะเป็นขั้นตอนหนึ่ง ในการลงสกินแคร์ บางคนอาจจะข้าม หรือไม่ข้ามก็ได้
แต่ถ้าหากเป็นไปได้ แนะนำว่าไม่ควรข้ามมอยเจอร์ไรเซอร์จะดีที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุด ที่ผิวของคุณจะได้รับจากการใช้มอยเจอร์ไรเซอร์อย่างสม่ำเสมอ
สำหรับใครที่มีผิวแพ้ง่าย เป็นสิว ไม่รู้จะใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ ยี่ห้อไหนดี เช็กลิสต์แนะนำได้ที่นี่
อ้างอิง
https://www.goodhousekeeping.com/beauty/anti-aging/a35094/face-moisturizer-benefits/
https://misumiskincare.com/blogs/news/9-amazing-benefits-of-moisturizing-your-face-daily
