หากพูดถึงชาเขียว คุณอาจจะนึกถึงชาเขียวชง ตามร้านขายน้ำ คาเฟ่ทั่วไป ที่มีน้ำชงขายหลายชนิด และอาจจะเป็นหนึ่งในเครื่องดื่ม เมนูโปรดของใครหลายคน เพราะชาเขียวมีรสชาติดี มีกลิ่นหอม ดื่มแล้วให้ความสดชื่น เป็นเครื่องดื่มที่กินง่าย คล่องคอ
ยิ่งถ้าหากใครเป็นคอชาเขียว อาจจะมองว่าชาเขียวเป็นศิลปะแขนงหนึ่งเลย ก็ว่าได้ เพราะชาเขียวที่เรากินกันบ่อย ๆ ไม่ได้มีแค่ชนิดเดียว มีหลากหลายประเภทมาก ๆ เช่น เกียวคุโระ เซนฉะ โฮจิฉะ หรือที่เรานิยมกินกันประจำ คือ มัทฉะ และยังมีประเภทอื่น ๆ อีกด้วย
แต่ละประเภทก็มีเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเอง แต่คุณเคยสงสัยไหม ว่าประโยชน์ของชาเขียว มีอะไรบ้าง นอกจากอร่อย สรรพคุณชาเขียวมีดีอะไรอีกบ้าง
จะกินชาเขียวทั้งที ควรรู้ข้อดีของชาเขียวเอาไว้ เพื่อประโยชน์ของร่างกายคุณเอง ไปดูกันเลย…
ประโยชน์ของชาเขียว [สรุป]
- ช่วยลดน้ำหนัก และการเผาผลาญไขมัน
- ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ในผู้ป่วยเบาหวาน ชนิดที่ 2
- ลดความเสี่ยงโรคกระดูกพรุน
- ช่วยลดความเครียด
- ช่วยลดความเสี่ยงจากมะเร็งบางชนิด
ชาเขียว ช่วยอะไร
1.ช่วยลดน้ำหนัก และการเผาผลาญไขมัน
ถ้าคุณเป็นคนที่สนใจ ในวงการการลดน้ำหนัก อาจจะเคยได้ยินมาบ้างว่า ชาเขียวลดน้ำหนักได้ และมีส่วนช่วยในการเผาผลาญไขมันด้วย
NCCIH ตั้งข้อสังเกตว่า ไม่มีหลักฐานเพียงพอ ที่จะพิสูจน์ได้ว่าการดื่มชาเขียว จะทำให้น้ำหนักลดลง ในผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกิน หรือเป็นโรคอ้วน
แต่ก็การศึกษาวิจัย เกี่ยวกับสารสกัดจากชาเขียว ที่แสดงให้เห็นว่ามีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักได้เช่นกัน
- ผลการศึกษา ที่ได้ตรวจสอบความเชื่อมโยง ระหว่างการกินชาเขียว กับการลดน้ำหนัก ว่าส่งผลต่อกันอย่างไร พบว่า คาเฟอีน และคาเทชินในชาเขียว อาจช่วยเร่งการเผาผลาญ และช่วยเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น
- มีการศึกษา พบว่า ผลกระทบของ green tea extract (GTE) ต่อการลดน้ำหนัก ทำให้น้ำหนักลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และดัชนีมวลกาย (BMI) ลดลงด้วย เมื่อบริโภคชาเขียว เป็นเวลา 12 สัปดาห์
ผู้เชี่ยวชาญ ได้แนะนำว่า แม้ชาเขียวจะมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักได้ แต่ไม่ควรใช้เป็นที่พึ่งเดียว คุณควรควบคุมการกินอาหารที่สมดุลด้วย ไม่ควรกินอาหารที่มีแคลอรีสูง และควรออกกำลังกายควบคู่ไป
2.ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ในผู้ป่วยเบาหวาน ชนิดที่ 2
อาจเคยได้ยินกันมาบ้างแล้ว ว่าประโยชน์ชาเขียวช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ และไม่ได้เหมาะสำหรับคนทั่วไปเท่านั้น แต่ยังเหมาะสำหรับ ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ชนิดที่ 2 ด้วย
ผู้ที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 จะมีน้ำตาลในเลือดสูง (Hyperglycemia) เนื่องจากภาวะหนึ่ง ที่เรียกว่า ภาวะดื้อต่ออินซูลิน ซึ่งเซลล์ กล้ามเนื้อ และตับ จะไม่สามารถดูดซึมกลูโคส เพื่อสร้างพลังงานให้กับร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
American Diabetes Association ระบุว่า โรคเบาหวานที่ได้รับการจัดการไม่ดี สามารถเพิ่มความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคหัวใจ โรคระบบประสาท ความเสียหายของเส้นประสาท ไปจนถึงการตัดแขน ขา และปัญหาสายตาได้
หากคุณมีความเสี่ยงที่จะเป็นเบาหวาน หรือต้องการป้องกันไว้ก่อน ชาเขียวจะช่วยได้มาก แต่ถ้าหากใครเป็นผู้ป่วยเบาหวาน ชนิดที่ 2 นี้ ชาเขียวก็เป็นตัวช่วยที่ดีเช่นกัน
มีการศึกษา ที่ได้ตีพิมพ์ใน Iranian Journal of Medical Sciences ระบุว่า ชาเขียวอาจช่วยลดภาวะดื้ออินซูลินได้ โดยผู้เข้าร่วม ที่บริโภค Green tea หรือ Sour tea ในปริมาณ 150 มิลลิลิตร 3 ครั้งต่อวัน เป็นเวลา 4 สัปดาห์ ให้ผลลัพธ์ในเชิงบวก
3.ลดความเสี่ยงโรคกระดูกพรุน
ประโยชน์ชาเขียว อีกหนึ่งอย่าง คือ อาจลดความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุนได้ ซึ่งเป็นโรคกระดูกที่เพิ่มความเสี่ยง ต่อกระดูกสะโพก กระดูกสันหลัง และกระดูกข้อมือหัก ใครที่มีสุขภาพกระดูกไม่แข็งแรง ก็อาจจะเสี่ยงต่ออาการเหล่านี้ได้
โดยเฉพาะ ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน มีความเสี่ยงสูงสุด ต่อโรคกระดูกพรุน การศึกษาชิ้นนี้ ชี้ให้เห็นว่า สารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีความเข้มข้นสูงในชาเขียว อาจช่วยเพิ่มการสร้างกระดูก และป้องกันการสูญเสียมวลกระดูกได้
4.ช่วยลดความเครียด
เป็นไหม ในเวลาเครียด ๆ ก็จะชอบหาน้ำหวานดื่ม ไม่ชา ก็กาแฟ แต่ถ้าจะให้ดีต่อสุขภาพอีกหน่อย ชาเขียวมีสรรพคุณดี ๆ ที่จะช่วยลดความเครียดของคุณได้
เพราะชามีกรดอะมิโน ที่เรียกว่า L-theanine ซึ่งช่วยบรรเทาความวิตกกังวล และความเครียด ช่วยให้คุณผ่อนคลาย ซึ่งชาเขียวจะมีความเข้มข้นของ L-theanine สูงสุด เมื่อเทียบกับชาดำ ชาอูหลง และชาขาว
การเติม L-theanine ให้ร่างกาย ในปริมาณ 200-400 มิลลิกรัมต่อวัน ช่วยลดความวิตกกังวล และความเครียดได้ มีการศึกษาที่ตีพิมพ์ในปี 2019 พบว่า ผู้ที่รับประทาน L-theanine 200 มิลลิกรัมต่อวันเป็นเวลา 4 สัปดาห์ จะช่วยให้อาการวิตกกังวล ซึมเศร้า ดีขึ้นมากขึ้น แถมนอนหลับได้ดีขึ้นกว่าเดิมด้วย
5.ช่วยลดความเสี่ยงจากมะเร็งบางชนิด
ชาเขียว อุดมไปด้วยโพลีฟีนอล ซึ่งช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และอาจช่วยปกป้องเซลล์ และ DNA ได้ โดยคุณสมบัติ ในการต้านอนุมูลอิสระในชาเขียว ยังมีบทบาทในการป้องกันมะเร็งอีกด้วย
ผลการวิจัย แสดงให้เห็นว่า สารต้านอนุมูลอิสระในชาเขียว อาจช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งบางชนิด ได้แก่
- มะเร็งเต้านม : การดื่มชาเขียวอาจลดความเสี่ยงของมะเร็งเต้านมได้ 15%
- มะเร็งลำไส้ใหญ่ : ผลการศึกษาพบว่าผู้ดื่มชาเขียวมีโอกาสเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ลดลง 30-40%
- มะเร็งในช่องปาก : การวิจัยชี้ให้เห็นว่า การบริโภคชาเขียวในระยะยาว ช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งในช่องปากได้
บทสรุป
แต่โปรดจำไว้ว่า ชาเขียวเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งเหล่านี้ได้ การรักษาพฤติกรรม การดำเนินชีวิตที่ดีต่อสุขภาพ เป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันสุขภาพของคุณจากโรคร้ายต่าง ๆ
เป็นอย่างไรกันบ้าง เห็นได้เลยว่า ชาเขียวประโยชน์คับแก้วจริง ๆ นอกจาก 5 ประโยชน์ของชาเขียวที่เราได้ยกมาวันนี้ ก็ยังมีสรรพคุณอื่น ๆ ที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมาย ถ้ากินในปริมาณที่พอดี และกินให้เหมาะสม ก็พูดได้เลยว่า สรรพคุณเหล่านี้ จะช่วยให้สุขภาพของคุณดีขึ้นได้ไม่มากก็น้อยแน่นอน
ที่สำคัญ หาซื้อได้ง่ายมาก ไม่ว่าจะเป็นชาเขียวชงดื่มทั่วไป หรือสารสกัดชาเขียว จะกินแบบไหน ซื้อยี่ห้อไหนดี เราก็มีคำตอบให้คุณ!
คำถามที่พบบ่อย
กินชาเขียวทุกวันอันตรายไหม
กินชาเขียวทุกวัน ไม่อันตราย โดยทั่วไปแล้ว คนส่วนใหญ่สามารถกินชาเขียวได้ทุกวัน โดยเป็นส่วนหนึ่งของมื้ออาหาร เพียงแต่ไม่ควรเป็นชาเขียวที่ผ่านการปรุงแต่งรส หรือเพิ่มน้ำตาล
แม้ว่าหลักฐานจะผสมปนเปกันไป แต่จากการศึกษาต่าง ๆ ดูเหมือนจะแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่า ที่จะเป็นอันตราย หากกินในปริมาณที่พอดี โดยการบริโภค 1-3 แก้วต่อวัน และไม่แนะนำให้ดื่มมากกว่า 6-8 แก้วต่อวัน เพราะในชาเขียวมีคาเฟอีนอยู่ แม้จะน้อยกว่ากาแฟ
อ้างอิง
https://www.healthline.com/nutrition/top-10-evidence-based-health-benefits-of-green-tea