6 ประโยชน์ของ Apple Cider Vinegar และข้อควรระวัง

ถ้าพูดถึงชื่อของแอปเปิ้ลไซเดอร์แล้ว เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงรู้สรรพคุณเด่น ๆ เช่น ช่วยลดน้ำหนักกันแน่ ๆ แต่จริง ๆ แล้ว Apple Cider Vinegar ทานแล้วมีประโยชน์มากกว่านั้นอีกนะ

Apple Cider Vinegar (ACV) คือน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล เกิดจากการหมักแอปเปิ้ล กับยีสต์ และน้ำตาล โดยไม่ผ่านความร้อน จึงได้รับเอนไซม์ และแร่ธาตุครบถ้วน มีคุณสมบัติเป็นกรด Acitic Acid 5% มีสีชา และมีกลิ่นฉุนที่เกิดจากการหมัก

ซึ่งปกติในน้ำส้มสายชู จะอุดมด้วยสารอาหารอย่าง โพแทสเซียม, แมกนีเซียม, แคลเซียม, ฟอสฟอรัส โดยในน้ำส้มสายชูบางชนิด ยังเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีด้วย ยิ่งมีความเข้มข้นเท่าไหร่ ก็มีมากเท่านั้น

แอปเปิ้ลไซเดอร์ หรือ น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล เริ่มเป็นที่สนใจ จากคุณประโยชน์ และสรรพคุณที่ค่อนข้างโดดเด่น แต่ด้วยรสชาติเฉพาะตัว ความเปรี้ยว และกลิ่นของตัวไซเดอร์ จึงอาจทำให้ไม่ได้รับความนิยมมากนัก

วันนี้เราจะมาแนะนำให้รู้จักกับ ประโยชน์ของ Apple Cider และวิธีการรับประทาน ข้อควรรู้ต่าง ๆ ทั้งข้อดี และผลข้างเคียง ที่อาจเกิดจากการรับประทานน้ำส้มสายชูหมักตัวนี้กัน

Table of Contents

ประโยชน์ของ Apple Cider [สรุป]

ช่วยลดน้ำหนัก
ช่วยลดน้ำตาลในเลือด
ช่วยลดโคเลสเตอรอล
ลดอาการผื่นผิวหนังอักเสบ
ช่วยฆ่าเชื้อโรคบางชนิด
บำรุงผิว

แอปเปิ้ลไซเดอร์ ช่วยอะไร

1. ช่วยลดน้ำหนัก

แอปเปิ้ลไซเดอร์ ประโยชน์ยอดฮิตที่หลาย ๆ คนอาจจะรู้มาบ้างแล้ว สำหรับการช่วยลดน้ำหนัก ลดพุง ลดไขมัน เราจึงอยากมาแชร์ผลการศึกษาต่าง ๆ เพื่อให้คุณเข้าใจถึงการทำงานของแอปเปิ้ลไซเดอร์มากขึ้น

มีการศึกษาระยะสั้น ด้วยอาสาสมัคร 32 คน พบว่า การทาน Apple Cider Vinegar วันละ 2 ครั้ง ช่วยให้คนที่กำลังควบคุมน้ำหนัก สามารถลดน้ำหนักได้เล็กน้อยภายใน 2 สัปดาห์

งานวิจัยบางส่วนพบว่า กรดอะซิติกในแอปเปิ้ลไซเดอร์ อาจจะไปช่วยเร่งระบบเผาผลาญ ซึ่งยังไม่มีข้อมูลชี้ชัดมาก บ้างก็ว่าตัวกรด อาจไปกระตุ้นให้รู้สึกผะอืดผะอม จึงทานอาหารได้น้อยลง

มีการศึกษาที่พบว่า หลังทานแอปเปิ้ลไซเดอร์พร้อมมื้ออาหารไป รู้สึกถึงความอยากอาหารน้อยลงถึง 120 นาที และไม่รู้สึกอยากทานของว่างมากเกินไปอีกด้วย

มีการศึกษาพบว่า ดื่มน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ 30 ml ต่อวัน 12 สัปดาห์ควบคู่กับทานอาหารแคลอรีต่ำ มีค่า BMI และไขมันหน้าท้องลดลง และรู้สึกความอยากอาหารน้อยกว่าผู้ที่ไม่ทาน

โดยสรุปแล้ว จากการศึกษาที่ผ่านมา แอปเปิ้ลไซเดอร์ สรรพคุณเรื่องลดน้ำหนักที่มีความเป็นไปได้ตรงกัน คือ เสริมความอิ่ม ลดความอยากอาหาร แต่ก็ยังมีข้อสันนิษฐานที่ยังต้องศึกษากันต่อไปอีก

หากคุณสนใจลดน้ำหนัก ลองอ่าน วิธีกินแอปเปิ้ลไซเดอร์ ลดพุง ฉบับละเอียดเพิ่มเติมได้จากในบล็อกของเรา

ซึ่งนอกจากรูปแบบของน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์แล้ว ยังมีในรูปแบบอื่น ๆ เช่น แบบเม็ด, แบบผง, แบบกัมมี่ เป็นต้น ลองเลือกทาน แอปเปิ้ลไซเดอร์ ในรูปแบบที่คุณชอบ แต่อย่าลืมทานตามขนาดที่ระบุในฉลากเท่านั้น

2. ช่วยลดน้ำตาลในเลือด

Apple Cider Vinegar มีส่วนเกี่ยวข้องต่อระบบอินซูลินและระดับน้ำตาลในแง่ของการควบคุม และลดระดับ เพราะมีการศึกษาหลายชิ้น ที่ระบุว่าการทานแอปเปิ้ลไซเดอร์ 1 – 2 ช้อนโต๊ะ สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดหลังมื้ออาหารได้

ซึ่งถือว่ามีประโยชน์มาก ๆ สำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 เพราะน้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ ช่วยให้การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดดีขึ้นได้

และบางงานวิจัยก็พบว่า ผู้ที่ทาน Apple Cider Vinegar เป็นเวลา 8-12 สัปดาห์ ตรวจพบระดับน้ำตาลในเลือดลดลงเล็กน้อยด้วย

3. ช่วยลดโคเลสเตอรอล

จากการศึกษาเดียวกับการลดน้ำหนัก พบว่าแอปเปิ้ลไซเดอร์ มีผลในการช่วยลดโคเลสเตอรอลในร่างกาย ลด LDL (โคเลสเตอรอลชนิดไม่ดี) และลดไตรกลีเซอไรด์ หรือพูดง่าย ๆ ว่าไขมันในเลือดลง

4. ลดอาการผื่นผิวหนังอักเสบ

ผู้ป่วยบางรายมีการใช้แอปเปิ้ลไซเดอร์ เพื่อช่วยรักษาโรคผื่นผิวหนังอักเสบ แต่ก็มีบางส่วนที่พบว่า มันทำให้ผิวหนังระคายเคือง จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้จะดีที่สุด

5. ช่วยฆ่าเชื้อโรคบางชนิด

เพราะ Apple Cider Vinegar มีความเป็นกรด จึงมีคุณสมบัติที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา เช่น พวกสิว, โรคผิวหนังอักเสบ (Eczema) และรังแคได้

และยังพบว่า การใช้แอปเปิ้ลไซเดอร์ ร่วมกับน้ำมะนาว สามารถช่วยฆ่าเชื้อโรค Salmonella ในผักสลัดได้

Dr. Gathers กล่าวว่ามีหลายคนใช้เป็นโทนเนอร์เช็ดเพื่อรักษาสิว แต่จริง ๆ แล้วยังไม่มีการศึกษาทางวิทยาศาสตร์เลย และแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผิวหนังในการรักษาก่อนจะดีกว่า

6. บำรุงผิว

ทราบไหมว่าใน Apple Cider Vinegar ประกอบด้วยกรดซิตริก กรด AHA ที่พบได้ในสกินแคร์ผลัดเซลล์ผิว ช่วยเรื่องผิวขาวกระจ่างใส แต่วิธีการนำแอปเปิ้ลไซเดอร์มาทำเป็นโทนเนอร์ ก็ไม่ได้เหมาะกับทุกคน เพราะอาจก่อให้เกิดการระคายเคือง หากรุนแรง อาจถึงขั้นผิวไหม้ได้เลย

ข้อควรระวัง

หากดื่มแบบไม่ผสม อาจทำให้หลอดอาหารเสียหาย หรือทำลายเคลือบฟันได้ เนื่องจากมีฤทธิ์เป็นกรด จึงควรดื่มแบบเจือจางเท่านั้น

อาจทำให้ท้องอืด หรือคลื่นไส้ ไม่ควรดื่มขณะท้องว่าง หากมีอาการไม่สบาย หรืออาเจียน ให้หยุดใช้ทันที

แอปเปิ้ลไซเดอร์ อาจไม่ควรใช้ร่วมกับยาบางชนิด เช่น ยาระบาย ยาขับปัสสาวะ อินซูลิน ฯลฯ ดังนั้นหากคุณมียาที่ต้องทานประจำ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ

หากคุณมีระดับโพแทสเซียมต่ำ ให้หลีกเลี่ยงการทานแอปเปิ้ลไซเดอร์ เพราะอาจส่งผลให้อาการแย่ลงได้

สำหรับผู้มีปัญหาเรื่องไต ให้ระวังการทานแอปเปิ้ลไซเดอร์มากเกินไป เพราะไตอาจไม่สามารถรับมือกับกรดปริมาณสูงได้

เจือจางแอปเปิ้ลไซเดอร์ทุกครั้ง ก่อนนำไปใช้ทาผิวหนัง เพราะกรดที่สูง อาจทำให้ผิวหนังไหม้ได้ เมื่อใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน และไม่ควรนำไปใช้รักษาบาดแผลด้วย

บทสรุป

ประโยชน์แอปเปิ้ลไซเดอร์นั้น แม้ว่าจะมีผลการวิจัยที่รองรับค่อนข้างน้อย แต่ก็นับว่าได้รับการยอมรับในด้านสรรพคุณ และถูกใช้ในแวดวงโภชนาการอย่างกว้างขวาง มีการใช้แอปเปิ้ลไซเดอร์ เป็นส่วนผสมในอาหารค่อนข้างหลากหลาย รวมทั้งยังมีจำหน่ายเป็นจำนวนมาก

หากค้นข้อมูลในอินเทอร์เน็ต ก็จะพบคุณประโยชน์ต่าง ๆ มากมาย รวมทั้งยังมีความปลอดภัยสูง เพียงแต่ต้องระมัดระวังในการใช้แบบเข้มข้น ซึ่งไม่น่ากังวลเลย หากได้นำมาเจือจางก่อนใช้ทุกครั้ง และปฏิบัติตามฉลากผลิตภัณฑ์ให้ถูกต้อง รับรองว่าแอปเปิ้ลไซเดอร์นั้น จะช่วยส่งเสริมสุขภาพให้ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน

อ้างอิง

https://www.webmd.com/diet/apple-cider-vinegar-and-your-health

https://health.clevelandclinic.org/exploring-the-health-benefits-of-apple-cider-vinegar/

https://www.medicalnewstoday.com/articles/323721#hair-and-skin-care

https://www.healthline.com/nutrition/6-proven-health-benefits-of-apple-cider-vinegar#skin-health