รีวิว 10 แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี 2023 คุมมัน หน้าผ่อง [แนะนำ!]

แป้งพัฟ หรือ แป้งตลับ เป็นอีกหนึ่งไอเทมที่ในปัจจุบันไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชาย ก็ควรมีติดกระเป๋าไว้ เพราะนอกจากจะช่วยปกปิด อำพรางรอยดำ รอยแดงต่าง ๆ บนใบหน้าของเราแล้ว ยังช่วยคุมความมันให้เราในระหว่างวันได้

ลองจินตนาการดูสิคะ ว่าถ้าหากเราไม่ได้ทาแป้งเลยในหนึ่งวัน แล้วต้องเจอสภาพอากาศและมลภาวะภายนอกต่าง ๆ ทั้งแดดเอย ทั้งฝุ่นเอย หน้าของเพื่อน ๆ จะมันและหมองขนาดไหน ยิ่งถ้าคนที่มีปัญหาผิวมันง่ายด้วยล่ะก็ คงเป็นอะไรที่กวนใจอยู่ไม่ใช่น้อยเลยใช่ไหมคะ 

วันนี้มิสซี่จึงขอยกขบวน แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี รวมแป้งพัฟที่ดีที่สุด มาให้เพื่อน ๆ ทั้งหมด 10 อันดับ ที่คัดมาแล้วว่าดีจริง การันตีในคุณภาพและความน่าเชื่อถือ แต่หลาย ๆ คนอาจยังไม่รู้ว่าเจ้า แป้งพัฟนั้นมีมากมายหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น แป้งฝุ่นอัดแข็งไม่ผสมรองพื้น หรือ แป้งพัฟผสมรองพื้น เพื่อน ๆ จึงควรเลือกให้เหมาะสมกับสภาพผิวของตัวเองมากที่สุด ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ ว่าการเลือกแป้งพัฟที่จะเหมาะกับสภาพผิวของเพื่อน ๆ นั้นมีอะไรบ้าง

TOP 3 แป้งพัฟที่ดีที่สุด

#1 Maybelline Fit Me Matte + Poreless Powder

Maybelline Fit Me Matte + Poreless Powder

ราคา 149 บาท

#2 Laura Mercier Foundation Powder

Laura Mercier Foundation Powder

ราคา 1,950 บาท

#3 Jung Saem Mool Masterclass Powder Foundation

Jung Saem Mool Masterclass Powder Foundation

ราคา 1,700 บาท

วิธีเลือกแป้งพัฟ 

เลือกให้เหมาะกับสีผิว 

ควรลองทาที่ผิวหน้าโดยตรง หรือบริเวณสันกราม เพราะเป็นช่วงต่อระหว่างลำคอกับใบหน้า หากทาแล้วรู้สึกกลืนไปกับผิวหน้า แสดงว่าเหมาะกับสีผิวของเราค่ะ แต่หากทาแล้วสีแป้งดูโดดขึ้นมาหรือดูดรอปลงกว่าสีผิวของเรา ก็ไม่ควรเลือกค่ะ

แต่ขอแนะนำว่า ควรจะเลือกสีแป้งที่กลืนไปกับสีผิวจริงของเรามากกว่า ไม่จำเป็นต้องเผื่อให้สว่างกว่าหน้าเรานะคะ

เลือกให้เหมาะกับอันเดอร์โทน 

นอกจากรู้จักสีผิวของเราแล้ว เรายังต้องรู้อันเดอร์โทนของเราด้วยนะคะ ไม่อย่างงั้นหน้าเราอาจจะเทาหรือลอยได้ค่ะ วิธีเช็คง่าย ๆ  ให้ยกมือขึ้นมาสังเกตสีเส้นเลือดที่ข้อมือ

เส้นเลือดสีเขียวอันเดอร์โทนอุ่น
เหมาะสำหรับสีแป้งโทนเหลือง
เส้นเลือดสีเขียว-ม่วงผสมกันอันเดอร์โทนกลาง
อาจเหมาะสำหรับแป้งสีโทนเหลืองหรือชมพูก็ได้ 
เส้นเลือดสีน้ำเงินหรือม่วงอันเดอร์โทนเย็น
เหมาะกับแป้งสีโทนชมพู

เลือกให้เหมาะกับสภาพผิว 

  • ผิวแห้ง เหมาะกับแป้งพัฟผสมรองพื้น เพราะแป้งประเภทนี้จะมีส่วนผสมของรองพื้น กันแดดและบำรุงผิวรวมอยู่ในตลับเดียว จึงให้ความชุ่มชื้นแก่ใบหน้า หรือเลือกแป้งที่ผสมชิมเมอร์ เพราะจะทำให้หน้าดูฉ่ำวาว
  • ผิวมัน ควรเลือกแป้งพัฟที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน หรือประเภท Oil free หรือเลือกแป้งที่มีความเป็นเนื้อแมตต์ ควรหลีกเลี่ยงแป้งที่มีส่วนผสมของชิมเมอร์ เพราะจะยิ่งทำให้หน้าดูมันวาวขึ้นไปอีก
  • ผิวผสม คือ คนที่มีความมันเฉพาะช่วง T-zone ตั้งแต่หน้าผาก จมูก และปลายคาง สาว ๆ กลุ่มนี้จึงควรลือกแป้งที่ช่วยควบคุมความมัน ที่สามารถปรับสมดุลทั้งความชุ่มชื้นและความมันบนใบหน้าไปพร้อมกันได้

เลือกจากระดับความปกปิด 

หากเพื่อน ๆ ต้องการความปกปิดในระดับปานกลาง-มาก ควรเลือกแป้งพัฟผสมรองพื้น เพราะมีคุณสมบัติช่วยปกปิด และเบลอรูขุมขน แต่หากเน้นความเป็นธรรมชาติก็อาจจะเลือกแป้งฝุ่น หรือแป้งฝุ่นอัดแข็งแบบไม่ผสมรองพื้นแทน เพราะมีความโปร่งใส บางเบา ไม่ดูหนาจนเกินไป

เลือกแป้งที่มีเนื้อแน่นละเอียด 

แป้งพัฟที่ดี ควรมีเนื้อแน่น เนียน ละเอียด ไม่ร่วงเป็นผง เพราะถ้าหากแป้งติดพัฟขึ้นมาเป็นก้อน ก็จะทำให้แป้งเกลี่ยยาก หนาบ้าง บางบ้าง ทำให้หน้าของเพื่อน ๆ ดูไม่สม่ำเสมอเอาได้นะคะ

เมื่อเพื่อน ๆ รู้วิธีเลือกแป้งตลับกันแล้ว ก็ถึงเวลาไปดู รีวิว แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี แล้วค่า ขอบอกว่าคัดมาเฉพาะตัวเด็ดเลยล่ะ อยากรู้ว่าจะตำแป้งตลับยี่ห้อไหนดี ก็ตามมิสซี่มาเล้ยยย

ตารางเปรียบเทียบ “แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี”

ชื่อสินค้า

Maybelline Fit Me Matte + Poreless Powder

Laura Mercier Foundation Powder

Jung Saem Mool Masterclass Powder Foundation

MAC Studio Fix Powder Plus Foundation

Srichand Bare to Perfect Translucent Compact Powder

Cute Press Evory Retouch Oil Control Foundation Powder SPF 30 PA+++

Chanel Ultra Le Teint Ultrawear All-Day Comfort Flawless Finish Compact Foundation

Sulwhasoo Timetreasure Radiance Powder Foundation

Kate Zero Feeling Powder Foundation

Covermark Silky Fit

รูปสินค้า

คุณสมบัติ

  • กันแดด SPF สูง

  • เนื้อแป้งเนียนมาก

  • คุมมันระดับหนึ่ง

  • ผิวสวยเป๊ะตลอดวัน

  • กระจายแสงดี

  • ปกปิดได้หลายระดับ

  • เบาสบายหน้ามาก

  • ให้งานผิวเนียนสวย ไม่หนา

  • แป้งเนียนกลืนไปกับผิว

  • สีไม่ดรอป

  • ติดทนทั้งวัน

  • หน้าเนียนสวย ปดปิดเลิศ

  • เบลอผิวดี 

  • เซตรองพื้นเลิศ

  • ช่วยดูดซับความมัน

  • ปกปิดดีเกินราคา

  • กันน้ำ กันเหงื่อ

  • เบลอรูขุมขนได้ดี

  • หน้าผ่อง ติดทนทั้งวัน

  • กระจายแสงดีมาก

  • หน้าไม่ดรอป

  • เบลอผิวดีมากกก

  • อณูแป้งละเอียดสุดๆ

  • ช่วยเบลอริ้วรอย

  • ปกปิดดีเกินคาด

  • ผิวเนียนสวยทั้งวัน 

  • มีให้เลือกหลายเฉดสี

  • ที่สุดของการเบลอรูขุมขน

  • เนื้อบางเบา

  • ติดทน ไม่หลุดง่าย

ราคาเต็ม

149 บาท

1,950 บาท

1,700 บาท

1,800 บาท

320 บาท

359 บาท

2,600 บาท

3,200 บาท

640 บาท

2,200 บาท

ปริมาณ

6 กรัม

7.4 กรัม

9.5 กรัม

15 กรัม

10 กรัม

12 กรัม

13 กรัม

13 กรัม

9.5 กรัม

6.5 กรัม

ตก g ละ

24.8 บาท

263.5 บาท

179 บาท

120 บาท

32 บาท

30 บาท

200 บาท

246 บาท

67 บาท

338 บาท

ความคุ้มค่า

เช็คส่วนลดที่

จะเลือกซื้อ แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี 2566

1. แป้งพัฟ โดยรวมที่ดีที่สุด : Maybelline Fit Me Matte + Poreless Powder

Maybelline Fit Me Matte + Poreless Powder แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี

ราคา 149 บาท

ข้อดี
+ กันแดด SPF สูง
+ เหมาะกับผิวหน้ามัน
+ ผ่านการทดสอบความปลอดภัยต่อผิว (dermatologist tested)

ข้อควรพิจารณา
 อาจแมตต์ไป สำหรับผิวแห้งมาก

แป้งพัฟผสมรองพื้นของแบรนด์ Maybelline ตัวนี้ ได้แฮชแท็กว่าเป็นแป้งพัฟถูกและดี เพราะเจ้าตัวนี้มีเนื้อแป้งละเอียด เนียน นุ่ม ทาแล้วไม่รู้สึกหนักหน้า ไม่เป็นคราบ ไม่หมองคล้ำระหว่างวัน พร้อมผสมกันแดด SPF 28  PA+++ เหมาะกับอากาศร้อน แดดเปรี้ยงอย่างบ้านเรามากค่ะ 

และ แป้งตลับนี้ใช้เทคโนโลยี ไมโครพาวเดอร์ ที่สามารถคุมความมันบนผิวหน้าได้นาน 12 ชั่วโมง เรียกได้ว่าทาครั้งเดียวก็เอาอยู่ทั้งวันเลยจริง ๆ ค่ะ สาว ๆ คนไหนที่คิดจะเริ่มใช้แป้งพัฟผสมรองพื้น แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะใช้ แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี มิสซี่ขอแนะนำแป้งเมย์เบอลีน Fit me Oil Control ตัวนี้เลยค่ะ เพราะนอกจากจะหาซื้อง่ายแล้ว ยังราคาไม่แพงด้วย

ปริมาณ 6 กรัม : ราคา 149 บาท (ตกกรัมละ 24.8 บาท)

จุดเด่นคุมความมันได้ดีมากให้ความปกปิด แต่บางเบา ไม่อุดตันผิว
ส่วนประกอบสำคัญTalc / Perlite / Triisostearin / Phenyl Trimethicone / Magnesium Stearate / Caprylyl Glycol
จำนวนเฉด5 เฉดสี
กันแดดSPF 28  PA+++

2. แป้งพัฟ ปกปิดดีที่สุด : Laura Mercier Foundation Powder

Laura Mercier Foundation Powder แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี

ราคา 1,950 บาท

ข้อดี
+ กระจายแสงดี หน้าดูมีออร่า
+ เหมาะกับทุกสภาพผิว
+ ปกปิดได้หลายระดับ สามารถเลเยอร์ได้

ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างแรง

แป้งพัฟ Luara Mercier ที่สาว ๆ หลายคนน่าจะรู้จักกันดี เพราะนอกจากแป้งฝุ่นทรานส์ลูเซนท์ของเขาที่ฮิตใช้กันทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว ก็ยังมี แป้งพัฟผสมรองพื้น ตัวนี้ที่หลาย ๆ คนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ใช้แล้วปกปิด แถมหน้าดูสว่างมีออร่ามาก ๆ เพราะมีส่วนผสมพิเศษ Light Reflecting ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์ ทำหน้าที่กระจายแสง ปกปิดจุดบกพร่องบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี 

สาว ๆ คนไหนอยากได้ finish look แบบแมตต์ สว่าง เนียน ดูมีออร่า แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะซื้อ แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี มิสซี่ขอแนะให้ลองแป้งพัฟปกปิดดี่เยี่ยมของ Laura Mercier ตัวนี้เลยค่ะ รับรองว่าจะได้ลุคงานผิวที่ดูดีแบบสุด ๆ 

ปริมาณ 7.4 กรัม : ราคา 1,950 บาท (ตกกรัมละ 263.5 บาท)

จุดเด่นมี Light Reflecting ช่วยกระจายแสง ทำให้หน้ามีมิติ ดูมีออร่า
ส่วนประกอบสำคัญTalc / Mica / Dimethicone / Lauroyl lysine
จำนวนเฉด3 เฉดสี
กันแดด

3. แป้งพัฟเกาหลีที่ดีที่สุด : Jung Saem Mool Masterclass Powder Foundation

Jung Saem Mool Masterclass Powder Foundation แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี

ราคา 1,700 บาท

 

ข้อดี
+ เบาบาง ไม่หนักหน้า
+ ฟองน้ำนุ่ม เกลี่ยง่าย
+ งานผิวเนียนสวย ไม่หนา

ข้อควรพิจารณา
มีเฉดสีให้เลือกน้อย

แป้งพัฟผสมรองพื้น Jung Saem Mool ตัวนี้ เป็นแบรนด์นำเข้าจากเกาหลี ที่เหล่าบิวตี้บล็อกเกอร์กำลังพูดถึงเป็นอย่างมากในขณะนี้ เพราะต่างรีวิวเป็นเสียงเดียวกันว่า ทาแล้วเบาสบายผิวมากที่สุด เนียนกลืนไปกับผิว ประดุจว่าเป็นผิวจริง ๆ ของเราเอง และยังทำให้หน้าดูมีมิติ ให้งานผิวแบบ glass skin ทาแล้วหน้าไม่ดูแบน 

นอกจากนี้ตัวฟองน้ำที่ทางแบรนด์ให้มา จะเป็นนวัตกรรมฟองน้ำสองด้าน ด้านนึงเป็นฟองน้ำสำหรับคนที่ต้องการการปกปิดแบบธรรมชาติ ส่วนอีกด้านเป็นกำมะหยี่ สำหรับคนที่ต้องการปกปิดที่เยอะกว่า หากเพื่อน ๆ คนไหนกำลังมองหา แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี แบบผสมรองพื้น ที่เบาสบายผิวที่สุด และมีงบประมาณนึง มิสซี่ขอแนะนำแป้งพัฟเกาลี JungSeamMool ตัวนี้เลย รับรองไม่ผิดหวังค่า

ปริมาณ 9.5 กรัม : ราคา 1,700 บาท (ตกกรัมละ 179 บาท)

จุดเด่นเนื้อแป้งนุ่มขั้นสุด สบายผิวหน้า นวัตกรรมฟองน้ำสองด้าน ให้ระดับการปกปิดที่ต่างกันตามความต้องการ
ส่วนประกอบสำคัญTalc / Mica / Titanium Dioxide / Silica / Caprylic
จำนวนเฉด3 เฉดสี
กันแดด

4. แป้งพัฟแบรนด์ดังที่ดีที่สุด : MAC Studio Fix Powder Plus Foundation

MAC Studio Fix Powder Plus Foundation แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี

ราคา 1,800 บาท

ข้อดี
+ มีให้เลือกหลายเฉดสี
+ เนื้อแป้งเนียนละเอียด
+ ปกปิดกริบมาก คุมมันขั้นสุด

ข้อควรพิจารณา
พัฟฟองน้ำค่อนข้างแข็ง

แป้งพัฟแบรนด์ดังจากเคาน์เตอร์แบรนด์สุดหรู ที่ฮิตติดอันดับตลอดกาล และยังเป็นแป้งพัฟที่ดารานิยมใช้ ด้วยเนื้อแป้งที่เนียนละเอียดขั้นสุด จึงช่วยอำพรางริ้วรอย รูขุมขน  ไม่แห้งตึงเวลาทา เหมาะกับทุกสภาพผิวโดยเฉพาะผิวมัน ทาแล้วจะทำให้ผิวหน้าของเพื่อน ๆ ดูใส ไบรท์ ไม่มันแต่ก็ไม่โกลว์จนเกินไป แถมยังมีให้เลือกถึง 14 เฉดสีกันเลยทีเดียว บอกเลยว่าใส่ใจสาว ๆ ทุกสีผิวเลยล่ะ 

สาว ๆ คนไหนที่อยากครอบครองแป้งพัฟของแบรนด์ดังที่ช่วยให้หน้าผ่อง ติดทนทั้งวัน แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อ แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี เราขอแนะนำของ M.A.C ตัวนี้เลยค่ะ รับรองว่าจะได้แป้งพัฟที่ถูกใจทั้งคุณภาพและผลลัพธ์เลย 

ปริมาณ 15 กรัม : ราคา 1,800 บาท (ตกกรัมละ 120 บาท)

จุดเด่นเนื้อแป้งเนียนละเอียด ติดทนนาน ปกปิดดีมาก ไม่ทำให้เกิดสิว
ส่วนประกอบสำคัญTalc / Silica / Isostearyl Palmitate / Methicone
จำนวนเฉด14 เฉดสี
กันแดด

5. แป้งพัฟ ถูกและดีที่สุด : Srichand Bare to Perfect Translucent Compact Powder 

Srichand Bare to Perfect Translucent Compact Powder แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี

ราคา 320 บาท

ข้อดี
+ ฝาปิดแบบแม่เหล็ก
+ เหมาะกับผิวแพ้ง่าย
+ เบลอผิวดี เซตรองพื้นเลิศ

ข้อควรพิจารณา
– ไม่ผสมกันแดด

เพื่อน ๆ คนไหนมีปัญหาผิวมัน มิสซี่ยกให้แป้งพัฟศรีจันทร์ตัวนี้ ตอบโจทย์ที่สุดเลยค่ะ ตัวนี้จะเป็นแป้งพัฟโปร่งแสง หรือเรียกว่า เป็นแป้งฝุ่นอัดแข็งไม่ผสมรองพื้นก็ได้ค่ะ มีความโปร่งแสง บางเบา เนียนละเอียด มี Sebum Sensor หรือตัวที่จะช่วยดูดซับความมันบนผิวหน้า ทำให้ควบคุมความมันได้ยาวนานถึง 12 ชั่วโมงเลย แต่ก็ยังคงความชุ่มชื้นเอาไว้ ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ ไม่แห้งกร้าน ดูเป็นธรรมชาติสุด ๆ

นอกจากนี้ตัวตลับของเค้ายังมีดีไซน์สวยหรู และออกแบบมาให้มีขนาดกะทัดรัด พกพาง่าย หากใครที่กำลังมองหา แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี มิสซี่ขอแนะนำแป้งศรีจันทร์ตัวนี้เลยค่ะ ถูกและดีขนาดนี้ ควรมีติดกระเป๋าไว้อย่างยิ่ง!

ปริมาณ 10 กรัม : ราคา 320 บาท (ตกกรัมละ 32 บาท)

จุดเด่นคุมความมันได้ดี เนื้อแป้งบางเบา
ไม่ผสมน้ำมัน น้ำหอม พาราเบน และแอลกอฮอล์
ส่วนประกอบสำคัญEncapsulated Sodium Hyaluronate / Thyme / Camellia Seed Oil
จำนวนเฉด1 เฉด Translucent
กันแดด

6. แป้งพัฟวัยรุ่นที่ดีที่สุด : Cute Press Evory Retouch Oil Control Foundation Powder SPF 30 PA+++

Cute Press Evory Retouch Oil Control Foundation Powder SPF 30 PA+++ แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี

ราคา 359 บาท

ข้อดี
+ ราคาไม่แพง 
+ เหมาะสำหรับผิวมัน
+ ปกปิดดีเกินราคา

ข้อควรพิจารณา
พัฟฟองน้ำค่อนข้างแข็ง

แป้งพัฟตัวถัดมาเป็นแบรนด์ไทย ที่ทำออกมาเพื่อตอบโจทย์สภาพผิวคนไทยโดยเฉพาะ เจ้าแป้งพัฟ Cute Press ตัวนี้เป็นแป้งผสมรองพื้นที่ให้การปกปิดดีมาก ได้รับการรีวิวดี ๆ จากเหล่าช่างแต่งหน้าและบิวตี้บล็อกเกอร์เยอะเลยค่ะ เหมาะกับทุกสภาพผิว สามารถควบคุมความมันได้ถึง 12 ชั่วโมง กันน้ำ กันเหงื่อ เนื้อแป้งเนียน ละเอียด สามารถปกปิด เบลอรูขุมขนได้ดี แถมยังมีให้เลือกถึง 6 เฉดสีเลยทีเดียว

เหมาะกับคนที่กำลังมองหาแป้งพัฟวัยรุ่น ที่ปกปิดดีและราคาสบายกระเป๋า จะใช้พัฟแบบชุบน้ำหมาด ๆ หรือแบบแห้งก็ให้ผิวกริบได้ หากสาว ๆ คนไหนยังไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อ แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี มิสซี่ขอแนะนำแป้งพัฟผสมรองพื้นของ Cute Press ตัวนี้เลยค่า รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน!

ปริมาณ 12 กรัม : ราคา 359 บาท (ตกกรัมละ 30 บาท)

จุดเด่นปกปิดเนียน เหมือนรีทัชผิว คุมความมัน กันน้ำ กันเหงื่อ คุมมันนาน 12 ชั่วโมง
ส่วนประกอบสำคัญTalc / Mica / Silica / Titanium dioxideI, Zinc oxide
จำนวนเฉด6 เฉดสี
กันแดดSPF 30  PA+++

7. แป้งพัฟเคาน์เตอร์แบรนด์ที่ดีที่สุด : Chanel Ultra Le Teint Ultrawear All-Day Comfort Flawless Finish Compact Foundation

Chanel Ultra Le Teint Ultrawear All-Day Comfort Flawless Finish Compact Foundation แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี

ราคา 2,600 บาท

  

ข้อดี
+ งานผิวสวย ดูมีมิติ
+ คุมมันได้ระดับหนึ่ง
+ ฟินิชผิวสวยแบบไม่เหมือนใคร

ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างสูง

แป้งพัฟตัวนี้จัดเป็นไอเทมตัวท็อปของ Chanel เลยก็ว่าได้ เป็นแป้งพัฟผสมรองพื้นงานผิว ที่มีเนื้อแป้งอนุภาคขนาดเล็ก ช่วยให้ผิวเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ หน้าไม่ดรอป ระหว่างวัน ปกปิดรอยดำ รอยแดงได้กลาง ๆ นะคะ จะเน้นงานผิว กระจายแสงให้หน้าผ่องมากกว่า และเนื้อแป้งยังทำหน้าที่เป็น Absorbent ช่วยดูดซับความมันส่วนเกินบนใบหน้าได้ดี ทำให้เมคอัพติดทนนานตั้งแต่เช้าจรดเย็นเลยค่ะ 

นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้น Hydrophobic และ Amino acid ยิ่งทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง ให้ลุคแมตต์ที่กำลังดี ไม่ดูผิวแห้งจนเกินไป หากเพื่อน ๆ คนไหนกำลังมองหา แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี มิสซี่ขอแนะนำแป้งพัฟ Chanel ตัวนี้เลยค่ะ ถ้าอยากรู้ว่าแป้งพัฟ chanel ดีไหม ก็ต้องสอยมาลองแล้วค่า รับรองจะได้คุณภาพที่คุ้มราคามาก ๆ ฟินิชผิวเห็นถึงความแตกต่างจริง ๆ ค่ะ

ปริมาณ 13 กรัม : ราคา 2,600 บาท (ตกกรัมละ 200 บาท)

จุดเด่นช่วยให้เมคอัพติดทน ให้งานผิวแมตต์กำลังดี เนื้อแป้งเนียนนุ่ม สบายผิว
ส่วนประกอบสำคัญTalc / Silica / Boron Nitride / Dimethicone / Magnesium Myristate
จำนวนเฉด16 เฉดสี
กันแดดSPF 15

8. แป้งพัฟเกาหลี เบลอผิวได้ดีที่สุด : Sulwhasoo Timetreasure Radiance Powder Foundation 

Sulwhasoo Timetreasure Radiance Powder Foundation แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี

ราคา 3,200 บาท

ข้อดี
+ มีส่วนผสมช่วยปกปิดริ้วรอย
+ เหมาะกับทุกสภาพผิว
+ เบลอผิวดีมากกก

ข้อควรพิจารณา
มีเฉดสีให้เลือกน้อย

แป้งตลับ Sulwhasoo ตัวนี้ เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของเมคอัพเบสที่โดดเด่น โดยที่แป้งพัฟผสมรองพื้นตัวนี้ ให้ความรู้สึกเบาสบายผิวประดุจเหมืองแป้งฝุ่น  เพราะมีอณูเนื้อแป้งที่เนียน ละเอียดมาก ๆ และตรงกลางตลับของเขายังผสมเพชรแท้ ทำให้ finish look ดูเปล่งประกาย ผิวหน้ากระจายแสงดูมีออร่า

มากไปกว่านั้นแป้งพัฟตัวนี้เขายังผสมอย่างสนแดง ช่วยในเรื่องเบลอริ้วรอยได้ สาว ๆ คนไหนที่กำลังมองหา แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี ในคุณภาพระดับพรีเมียม เสกให้ผิวดูแพง เน้นความปกปิดแต่บางเบา มิสซี่ขอแนะนำแป้งตลับโซลวาซูตัวนี้เลยค่า

ปริมาณ 13 กรัม : ราคา 3,200 บาท (ตกกรัมละ 246 บาท)

จุดเด่นผสมกากเพชรแท้ ทำให้หน้าดูโกลว์ มีมิติผสมสารบำรุง 6 ชนิด ในกลุ่ม Anti Aging
ส่วนประกอบสำคัญTalc / Boronite / Mica / Silica / Polymethylmethacrylate
จำนวนเฉด2 เฉดสี
กันแดด

9. แป้งพัฟแบรนด์ญี่ปุ่น เนื้อแมตต์ที่ดีที่สุด : Kate Zero Feeling Powder Foundation

Kate Zero Feeling Powder Foundation แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี

ราคา 640 บาท

ข้อดี
+ เหมาะกับคนผิวมัน
+ ไม่อุดตันรูขุมขน
+ มีให้เลือกหลายเฉดสี

ข้อควรพิจารณา
ตลับใหญ่ พกยาก

มาถึงแป้งตลับนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ความดีงามของแป้งพัฟ Kate ตัวนี้คือคุมมันได้ดีมาก เพราะมีตัวช่วยดูดซับน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้า ทำให้หน้าไม่เยิ้ม ไม่เป็นคราบ อีกทั้งเนื้อแป้งมีความละเอียด เนียนนุ่ม ให้ความรู้สึกบางเบา แต่ก็ยังปกปิดได้เรียบเนียนเป็นธรรมชาติ และสามารถบิลด์เพิ่มได้อีกด้วยค่ะ 

สาว ๆ คนไหนที่ยังไม่รู้ว่าจะซื้อ แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี ที่จะช่วยเผยผิวกระจ่างใส และให้ลุคแมตต์กำลังดี มิสซี่ขอแนะนำแป้งพัฟ Kate ตัวนี้เลยค่ะ จะลงรองพื้นก่อน หรือจะทาแต่แป้งเดี่ยว ๆ ก็มั่นใจหมดกังวลเรื่องหน้าดรอประหว่างวันไปเลยค่า

ปริมาณ 9.5 กรัม : ราคา 640 บาท (ตกกรัมละ 67 บาท)

จุดเด่นคุมมันได้ดี เนื้อแป้งเนียนละเอียด เกลี่ยง่าย ให้ลุคแมตต์ดี
ส่วนประกอบสำคัญTalc / Mica / Acrylates crosspolymer / Zinc oxide (nano)
จำนวนเฉด6 เฉดสี
กันแดดSPF 20 PA++

10. แป้งพัฟคุมมันที่ดีที่สุด : Covermark Silky Fit 

Covermark Silky Fit แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี

ราคา 2,200 บาท

ข้อดี
+ เหมาะกับผู้มีรูขุมขนกว้าง
+ เนื้อบางเบา
+ ผสมสารบำรุง

ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างสูง

ตัวสุดท้ายเป็นแป้งตลับผสมรองพื้นของ covermark ที่ทำมาเพื่อแก้ปัญหาสำหรับผู้ที่มีริ้วรอย หรือมีรูขุมขนกว้างโดยเฉพาะ เนื่องจากเนื้อแป้งมีอนุภาคขนาดเล็กและเนียนละเอียดมาก ๆ ผ่านวิธี Micro Press ในการอัดแป้ง ซึ่งเป็นวิธีเฉพาะของทางแบรด์เองเลย ทำให้เมื่อเกลี่ยลงบนผิวหน้าแล้ว เพื่อน ๆ จะสัมผัสได้ถึงความนุ่ม บางเบา เนื้อแป้งจะช่วยเข้าไปเติมเต็มผิวที่ไม่เรียบเนียนได้เป็นอย่างดี 

ด้วยสูตร Double Fix ของแป้งพัฟตัวนี้ ทำให้แป้งติดทน ไม่หลุดง่าย ไม่เป็นคราบเยิ้ม แถมยังช่วยเซตรองพื้นได้ดีอีกด้วยค่ะ สาว ๆ รีวิวว่าเลิศไม่ไหว หากเพื่อน ๆ คนไหนที่กำลังมองหา แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี ที่เบลอรูขุมขนจึ้ง ๆ เจ้า covermark ตัวนี้ตอบโจทย์มากค่ะ ถ้าถามว่าตัวนี้เป็นแป้งพัฟไม่ติดแมสไหม ก็บอกเลยว่าติดน้อยมากค่ะ ยังงี้ต้องสอยยย

ปริมาณ 6.5 กรัม : ราคา 2,200 บาท (ตกกรัม 338 บาท)

จุดเด่นเนื้อแป้งนุ่ม สบายผิว ปกปิดและเบลอรูขุมขนดีมาก ผสมสารบำรุงผิว
ส่วนประกอบสำคัญTalc Powder / Diphenyl dimethicone / Cellulose / Boron nitride / Zinc Oxide
จำนวนเฉด6 เฉดสี
กันแดดSPF 32 PA+++

วิธีทาแป้งพัฟไม่ให้เป็นคราบ

Step 1 : ลงครีมบำรุงก่อนแต่งหน้า

ขั้นตอนนี้สำคัญมาก! ไม่ว่าจะผิวมันหรือผิวแห้งก็ไม่ควรละเลย เพราะถือเป็นการเตรียมผิว ทำให้ผิวหน้ามีความชุ่มชื้น ไม่แห้ง ทำให้ครีมที่จะทาตัวต่อไปสามารถยึดเกาะได้ดี เพื่อน ๆ สามารถเลือกทาได้เช่น เซรั่มบำรุงผิว มอยเจอร์ไรเซอร์ สเปรย์น้ำแร่ โลชั่น ออยเซรั่ม อายครีม หรือครีมบำรุงผิวหน้าใด ๆ ก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของเพื่อน ๆ เลยค่ะ แต่ยังไงก็แล้วแต่ห้ามข้ามข้อนี้เด็ดขาด 

Step 2 : เบสเมคอัพ และ ไพรเมอร์

อย่าลืมทิ้งช่วงให้สกินแคร์ step 1 ซึมลงสู่ผิวก่อนนะคะ มาถึงขั้นตอนนี้จะเหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวรูขุมขนกว้าง และมีร่องผิว เพราะ ไพรเมอร์ จะช่วยเข้าไปเติมเต็มรูขุมขนเหล่านั้น

  • ซึ่งหากเพื่อน ๆ เป็นคนผิวมันก็ให้เลือกไพรเมอร์ที่ช่วยคุมความมัน
  • ถ้าหากเป็นคนผิวแห้งก็เลือกไพรเมอร์ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นนะคะ 

Step 3 : ทาแป้งพัฟด้วยการกดเบา ๆ 

ใช้ฟองน้ำ ลูบแป้งขึ้นมาให้ติดฟองน้ำในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะหากลูบมามากเกินไป อาจจะทำให้เกลี่ยแล้วไม่สม่ำเสมอได้ ค่อย ๆ กดแป้งลงบนผิวหน้า เริ่มจากแถวร่องจมูกที่มันง่ายก่อน แล้วค่อย ๆ ตบไปตามจุด T-zone อย่างหน้าผาก สันจมูก และปลายคางจนทั่วหน้า 

หรือหากเพื่อน ๆ คนไหนที่แต่งหน้าโดยลง รองพื้น มาก่อนแล้ว การลงแป้งพัฟในขั้นตอนนี้อาจจะไม่ต้องใช้พัฟฟองน้ำก็ได้นะคะ แต่สามารถเปลี่ยนมาใช้แปรงพุ่มใหญ่ ๆ แทน โดยใช้แปรงพุ่มหมุนวนบนตลับแป้ง เพื่อให้ติดเนื้อแป้งออกมา จากนั้นเคาะเอาแป้งออกเพื่อไม่ให้แป้งเกาะหนาจนเกินไป จากนั้นค่อย ๆ เกลี่ยลงบนผิวหน้าให้ทั่วจนพอใจได้เลยค่ะ วิธีนี้จะช่วยให้สาว ๆ ที่ลงรองพื้นมาแล้วหน้าไม่ดูหนา ไม่ดูโบ๊ะ จนเกินไปค่ะ

Step 4 : ฉีดสเปรย์น้ำแร่ล็อกเครื่องสำอาง

ข้อดีของสเปรย์เซ็ตเมคอัพ คือ จะเข้าไปช่วยลดความร้อนใบหน้าของเรา ที่เกิดจากการโดนแสงแดดร้อน ๆ ทำให้ต่อมไขมันใต้ผิวหนังผลิตน้ำมันออกมาเยอะขึ้น เป็นสาเหตุให้เครื่องสำอางบนใบหน้าของเราไหลเยิ้มได้ในระหว่างวัน จึงเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่น่าพกติดไว้ในกระเป๋าของเพื่อน ๆ ค่ะ

ซึ่งสเปรย์น้ำแร่ในปัจจุบันก็ผลิตมามีหลายวัตถุประสงค์ เช่น ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ช่วยลดการอักเสบ หรือช่วยลดความร้อนใต้ผิวหนังเมื่อเจอแสงแดด ก่อนซื้อใช้จึงควรอ่านดี ๆ เพื่อจะได้ตรงตามความต้องการของเราที่สุดค่า  

Step 5 : แนะนำพกกระดาษซับมัน

ในระหว่างวันแน่นอนว่าต้องมีความมันเกิดขึ้นบนผิวหน้าของเรา เพื่อน ๆ  จึงควรซับความมันด้วยกระดาษซับมันออกก่อน แล้วค่อยเติมแป้ง ซึ่งจะช่วยให้แป้งมีความสม่ำเสมอ ไม่เกิดคราบจากความมันบนใบหน้านั่นเอง 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับแป้งพัฟ

ทาแป้งพัฟยังไง ?

ทาแป้งพัฟมี 2 วิธีค่ะ นั่นคือ การใช้ พัฟฟองน้ำ หรือ แปรงพุ่ม  

การทาโดยใช้ฟองน้ำ 
ให้ปาดเนื้อแป้งในตลับขึ้นมาในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่หนาจนเกินไป หรือหากปาดขึ้นมาเยอะแล้ว ก็สามารถเคาะออกก่อนได้ จากนั้นค่อย ๆ ตบลงบนผิวหน้า โดยเริ่มจากแนวร่องจมูกก่อน จากนั้นค่อย ๆ ไล่ไปตามจุด T-zone อย่างหน้าผาก สันจมูก และปลายคางจนทั่วหน้า หากจุดไหนมีปัญหารอยสิว รอยดำ รอยแดง ก็สามารถบิวท์เพิ่มแป้งตรงจุดที่มีปัญหาได้เลยค่ะ 

นอกจากนี้แป้งพัฟผสมรองพื้นบางตัว ยังสามารถประยุกต์ใช้พัฟฟองน้ำโดยการนำไปชุบน้ำหมาด ๆ ก่อนนำมาใช้จะทำให้ได้ลุคผิวสวยแบบธรรมชาติได้อีกด้วย

การทาโดยใช้แปรงพุ่ม
วิธีนี้เหมาะกับสาว ๆ ที่ไม่ได้ต้องการให้หน้าดูหน้าหนาโบ๊ะจนเกินไป แต่ถ้าหากต้องการการปกปิดขึ้นมาหน่อยในระดับกลาง ๆ ก็ควรจะลงรองพื้นก่อน แล้วค่อยใช้แปรงพุ่มปาดแป้งขึ้นมา ค่อย ๆ ปัดลงบนผิวหน้าของเราจนได้ฟินิชลุคที่พอใจ

ข้อควรระวัง :  ไม่ควรใช้วิธีการปาดแป้งลงบนผิวนะคะ เพราะนอกจากจะทำให้เมคอัพต่าง ๆ ที่เราลงไปเขยื้อนแล้ว ยังจะทำให้ผิวหน้าของเราอักเสบได้อีกค่ะ เพราะฉะนั้นการกด ๆ ตบ ๆ จึงทำให้แป้งไปเติมเต็มรูขุมขนได้มีประสิทธิภาพกว่า

ข้อแนะนำ : ตรงไหนมีรอยสิว รอยคล้ำ เพื่อน ๆ สามารถลงคอนซีลเลอร์ก่อนที่จะลงแป้งได้ค่ะ แล้วค่อยกดแป้งลงทับอีกที จะช่วยเพิ่มการปกปิดได้ดียิ่งขึ้น

แป้งพัฟใช้ได้นานแค่ไหน ?

แป้งพัฟ จะใช้ได้นานประมาณ 2 ปีหลังจากเปิดใช้ค่ะ ทั้งนี้ควรสังเกตสัญลักษณ์ที่อยู่ใต้กระปุก โดยจะขึ้นด้วยตัวเลขแล้วตามด้วยตัว M อยู่ในรูปกระปุกเปิดฝา 

ยกตัวอย่างเช่น 24M แปลว่า หลังจากเปิดใช้งานแป้งตลับตัวนี้แล้ว จะสามารถใช้ไปได้อีก 24 เดือน ซึ่งสัญลักษณ์เหล่านี้ จะเรียกว่า PAO (Period After Opening) หรือระยะเวลาที่สามารถใช้งานได้หลังจากเปิดใช้นั่นเองค่ะ 

ทาแป้งแล้วเป็นคราบ เกิดจากอะไร ?

ทาแป้งพัฟแล้วเกิดคราบ เกิดจากหลายสาเหตุ ดังนี้

– ไม่ลงครีมบำรุง : ไม่ว่าจะเป็นคนผิวมัน ผิวแห้ง หรือผิวผสม ก็ควรทาตัวบำรุงก่อนแต่งหน้า เพราะจะไปช่วยให้เครื่องสำอางยึดเกาะได้ดีขึ้น โดยเฉพาะสาว ๆ ผิวแห้ง หรือผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง การลงครีมบำรุงก่อน จึงช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และช่วยเติมเต็มรูขุมขนและร่องต่าง ๆ ทำให้ไม่เป็นคราบ ไม่เป็นขุย

– เลือกแป้งพัฟที่ไม่เหมาะกับผิว : ปัญหาทาแป้งแล้วเป็นคราบส่วนใหญ่จะเกิดกับสาว ๆ ที่มีผิวมัน ดังนั้น ผู้ที่มีปัญหาผิวมัน ควรเลือกแป้งที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน (Oil free) และควรมีสารที่ช่วยดักจับความมันบนส่วนเกินบนผิวหน้า 
ซึ่งในระหว่างวันต่อมไขมันใต้ผิวหนังจะผลิตน้ำมันออกมาเยอะ ดังนั้นก่อนที่จะหยิบแป้งขึ้นมาเติมเลยนั้น จะต้องใช้กระดาษซับมันหรือทิชชู่ซับความมันส่วนเกินออกไปก่อนแล้วค่อยเติมแป้ง ไม่อย่างงั้นหากทาแป้งทับลงไปเลย จะยิ่งทำให้หน้าของเพื่อน ๆ เป็นคราบได้

– ใช้พัฟฟองน้ำไม่มีคุณภาพ : พัฟฟองน้ำเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม ควรเลือกพัฟฟองน้ำที่มีคุณภาพ มีเนื้อสัมผัสที่นุ่ม ถ้าทำจากฝ้ายหรือกำมะหยี่จะยิ่งดีมาก และแนะนำให้เปลี่ยนพัฟฟองน้ำทุก 3 เดือน เพราะเมื่อพัฟฟองน้ำเริ่มเสื่อมสภาพแล้ว ต่อให้แป้งของเพื่อน ๆ จะดียังไง ประสิทธิภาพในการกลบลงบนผิวก็จะน้อยลงค่ะ

ทาแป้งพัฟ ไม่ทารองพื้นได้ไหม ?

สามารถทาแป้งพัฟ แล้วไม่ทารองพื้นได้ค่ะ เหมาะกับคนที่ไม่ได้ต้องการการปกปิดมาก การลงครีมบำรุง+กันแดด แล้วตามด้วยแป้งพัฟผสมรองพื้นเดี่ยว ๆ จึงให้ลุคผิวที่ดูเป็นธรรมชาติ ดูไม่หนาโบ๊ะ 

ส่วนใครที่ต้องการการปิดปิดแบบ full coverage จึงอาจจะต้องลงรองพื้นก่อน แล้วตามด้วยแป้งฝุ่นอัดแข็ง หรือ แป้งพัฟแบบไม่ผสมรองพื้น ก็เพียงพอแล้วค่ะ เพราะจริงอยู่ที่สาว ๆ ต้องการการปกปิดขั้นสุด แต่การใช้รองพื้นร่วมกับแป้งพัฟผสมรองพื้น จะยิ่งทำให้หน้าดูหนา ดูวอก เป็นคราบได้ง่าย ที่สำคัญแป้งพัฟผสมรองพื้นอาจไปทำให้สีรองพื้นของเราเพี้ยน เผลอ ๆ อาจทำให้ดูหน้าเทาโดยไม่รู้ตัวเลย จะแก้ยากเอานะคะ

ทาแป้งพัฟ หรือแป้งฝุ่นก่อน ?

ควรใช้แป้งฝุ่นก่อนลงแป้งพัฟค่ะ โดยแป้งฝุ่นจะลงหลังจากที่ทาครีมบำรุง กันแดด คอนซีลเลอร์ใด ๆ เสร็จแล้ว แนะนำให้ใช้แปรงพุ่มใหญ่ ๆ แทนการใช้ฟองน้ำ เพราะเราต้องการแค่ให้แป้งฝุ่นเคลือบหน้าของเราบาง ๆ เพื่อดูดซับความมันส่วนเกิน จากนั้นจึงค่อยตามด้วยพัฟผสมรองพื้นโดยใช้ฟองน้ำ ค่อย ๆ กดให้สม่ำเสมอทั่วหน้า วิธีนี้จะช่วยให้หน้าไม่เยิ้ม และไม่เป็นคราบระหว่างวันได้ค่า

เป็นยังไงกันบ้างคะเพื่อน ๆ สำหรับรีวิว 10 แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี ที่มิสซี่คัดสรรมาให้ มีแต่แบรนด์ที่มีคุณภาพ เชื่อถือได้ และเป็นทีรู้จักของคนในเหล่าวงการช่างแต่งหน้าเลยนะคะ หวังว่าจะเป็นข้อมูลดี ๆ และเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจของเพื่อน ๆ ได้เลือกซื้อแป้งพัฟที่เหมาะสม และตรงตามความต้องการของเพื่อน ๆ ได้ดีที่สุดนะคะ ไว้มีอะไรดี ๆ ที่น่าสนใจ มิสซี่จะเอามาแบ่งปันให้เพื่อน ๆ อีกอย่างแน่นอน รอติดตามได้เลยค่า

ที่มา : 

https://www.herzindagi.com/beauty/compact-powder-benefits-evens-skin-tone-removes-excess-oil-article-168058

https://www.byrdie.com/how-to-apply-powder-foundation-5525403

Chalita Chamnanmueang

Chalita Chamnanmueang

เบสท์จบการศึกษาจากคณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ปัจจุบันเป็น Editor และ Content writer ประจำ Mizzyreview มีประสบการณ์เขียน copywriting, แปลบทความอังกฤษ-ไทย และรับผิดชอบตรวจสอบเนื้อหา และตีพิมพ์บทความผ่าน WordPress คอยอัปเดตเนื้อหาหลายๆ ด้าน ทั้งบิวตี้ไอเทม สกินแคร์ อาหารเสริม และเทคโนโลยีต่างๆ ให้สาวๆ ได้เข้าถึงทุกเทรนด์ ทุกไอเทมเด็ดกันค่ะ