แป้งพัฟ หรือ แป้งตลับ เป็นอีกหนึ่งไอเทมที่ในปัจจุบันไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชาย ก็ควรมีติดกระเป๋าไว้ เพราะนอกจากจะช่วยปกปิด อำพรางรอยดำ รอยแดงต่าง ๆ บนใบหน้าของเราแล้ว ยังช่วยคุมความมันให้เราในระหว่างวันได้
ลองจินตนาการดูสิคะ ว่าถ้าหากเราไม่ได้ทาแป้งเลยในหนึ่งวัน แล้วต้องเจอสภาพอากาศและมลภาวะภายนอกต่าง ๆ ทั้งแดดเอย ทั้งฝุ่นเอย หน้าของเพื่อน ๆ จะมันและหมองขนาดไหน ยิ่งถ้าคนที่มีปัญหาผิวมันง่ายด้วยล่ะก็ คงเป็นอะไรที่กวนใจอยู่ไม่ใช่น้อยเลยใช่ไหมคะ
วันนี้มิสซี่จึงขอยกขบวน แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี รวมแป้งพัฟที่ดีที่สุด มาให้เพื่อน ๆ ทั้งหมด 10 อันดับ ที่คัดมาแล้วว่าดีจริง การันตีในคุณภาพและความน่าเชื่อถือ แต่หลาย ๆ คนอาจยังไม่รู้ว่าเจ้า แป้งพัฟนั้นมีมากมายหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น แป้งฝุ่นอัดแข็งไม่ผสมรองพื้น หรือ แป้งพัฟผสมรองพื้น เพื่อน ๆ จึงควรเลือกให้เหมาะสมกับสภาพผิวของตัวเองมากที่สุด ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ ว่าการเลือกแป้งพัฟที่จะเหมาะกับสภาพผิวของเพื่อน ๆ นั้นมีอะไรบ้าง
TOP 3 แป้งพัฟที่ดีที่สุด
#1 Maybelline Fit Me Matte + Poreless Powder
ราคา 149 บาท
#2 Laura Mercier Foundation Powder
ราคา 1,950 บาท
#3 Jung Saem Mool Masterclass Powder Foundation
ราคา 1,700 บาท
วิธีเลือกแป้งพัฟ
เลือกให้เหมาะกับสีผิว
ควรลองทาที่ผิวหน้าโดยตรง หรือบริเวณสันกราม เพราะเป็นช่วงต่อระหว่างลำคอกับใบหน้า หากทาแล้วรู้สึกกลืนไปกับผิวหน้า แสดงว่าเหมาะกับสีผิวของเราค่ะ แต่หากทาแล้วสีแป้งดูโดดขึ้นมาหรือดูดรอปลงกว่าสีผิวของเรา ก็ไม่ควรเลือกค่ะ
แต่ขอแนะนำว่า ควรจะเลือกสีแป้งที่กลืนไปกับสีผิวจริงของเรามากกว่า ไม่จำเป็นต้องเผื่อให้สว่างกว่าหน้าเรานะคะ
เลือกให้เหมาะกับอันเดอร์โทน
นอกจากรู้จักสีผิวของเราแล้ว เรายังต้องรู้อันเดอร์โทนของเราด้วยนะคะ ไม่อย่างงั้นหน้าเราอาจจะเทาหรือลอยได้ค่ะ วิธีเช็คง่าย ๆ ให้ยกมือขึ้นมาสังเกตสีเส้นเลือดที่ข้อมือ
เส้นเลือดสีเขียว | อันเดอร์โทนอุ่น เหมาะสำหรับสีแป้งโทนเหลือง |
เส้นเลือดสีเขียว-ม่วงผสมกัน | อันเดอร์โทนกลาง อาจเหมาะสำหรับแป้งสีโทนเหลืองหรือชมพูก็ได้ |
เส้นเลือดสีน้ำเงินหรือม่วง | อันเดอร์โทนเย็น เหมาะกับแป้งสีโทนชมพู |
เลือกให้เหมาะกับสภาพผิว
- ผิวแห้ง เหมาะกับแป้งพัฟผสมรองพื้น เพราะแป้งประเภทนี้จะมีส่วนผสมของรองพื้น กันแดดและบำรุงผิวรวมอยู่ในตลับเดียว จึงให้ความชุ่มชื้นแก่ใบหน้า หรือเลือกแป้งที่ผสมชิมเมอร์ เพราะจะทำให้หน้าดูฉ่ำวาว
- ผิวมัน ควรเลือกแป้งพัฟที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน หรือประเภท Oil free หรือเลือกแป้งที่มีความเป็นเนื้อแมตต์ ควรหลีกเลี่ยงแป้งที่มีส่วนผสมของชิมเมอร์ เพราะจะยิ่งทำให้หน้าดูมันวาวขึ้นไปอีก
- ผิวผสม คือ คนที่มีความมันเฉพาะช่วง T-zone ตั้งแต่หน้าผาก จมูก และปลายคาง สาว ๆ กลุ่มนี้จึงควรลือกแป้งที่ช่วยควบคุมความมัน ที่สามารถปรับสมดุลทั้งความชุ่มชื้นและความมันบนใบหน้าไปพร้อมกันได้
เลือกจากระดับความปกปิด
หากเพื่อน ๆ ต้องการความปกปิดในระดับปานกลาง-มาก ควรเลือกแป้งพัฟผสมรองพื้น เพราะมีคุณสมบัติช่วยปกปิด และเบลอรูขุมขน แต่หากเน้นความเป็นธรรมชาติก็อาจจะเลือกแป้งฝุ่น หรือแป้งฝุ่นอัดแข็งแบบไม่ผสมรองพื้นแทน เพราะมีความโปร่งใส บางเบา ไม่ดูหนาจนเกินไป
เลือกแป้งที่มีเนื้อแน่นละเอียด
แป้งพัฟที่ดี ควรมีเนื้อแน่น เนียน ละเอียด ไม่ร่วงเป็นผง เพราะถ้าหากแป้งติดพัฟขึ้นมาเป็นก้อน ก็จะทำให้แป้งเกลี่ยยาก หนาบ้าง บางบ้าง ทำให้หน้าของเพื่อน ๆ ดูไม่สม่ำเสมอเอาได้นะคะ
เมื่อเพื่อน ๆ รู้วิธีเลือกแป้งตลับกันแล้ว ก็ถึงเวลาไปดู รีวิว แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี แล้วค่า ขอบอกว่าคัดมาเฉพาะตัวเด็ดเลยล่ะ อยากรู้ว่าจะตำแป้งตลับยี่ห้อไหนดี ก็ตามมิสซี่มาเล้ยยย
ตารางเปรียบเทียบ “แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี”
ชื่อสินค้า | Maybelline Fit Me Matte + Poreless Powder | Laura Mercier Foundation Powder | Jung Saem Mool Masterclass Powder Foundation | MAC Studio Fix Powder Plus Foundation | Srichand Bare to Perfect Translucent Compact Powder | Cute Press Evory Retouch Oil Control Foundation Powder SPF 30 PA+++ | Chanel Ultra Le Teint Ultrawear All-Day Comfort Flawless Finish Compact Foundation | Sulwhasoo Timetreasure Radiance Powder Foundation | Kate Zero Feeling Powder Foundation | Covermark Silky Fit |
รูปสินค้า | ||||||||||
คุณสมบัติ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ราคาเต็ม | 149 บาท | 1,950 บาท | 1,700 บาท | 1,800 บาท | 320 บาท | 359 บาท | 2,600 บาท | 3,200 บาท | 640 บาท | 2,200 บาท |
ปริมาณ | 6 กรัม | 7.4 กรัม | 9.5 กรัม | 15 กรัม | 10 กรัม | 12 กรัม | 13 กรัม | 13 กรัม | 9.5 กรัม | 6.5 กรัม |
ตก g ละ | 24.8 บาท | 263.5 บาท | 179 บาท | 120 บาท | 32 บาท | 30 บาท | 200 บาท | 246 บาท | 67 บาท | 338 บาท |
ความคุ้มค่า | ||||||||||
เช็คส่วนลดที่ |
จะเลือกซื้อ แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี 2566
1. แป้งพัฟ โดยรวมที่ดีที่สุด : Maybelline Fit Me Matte + Poreless Powder
ราคา 149 บาท
ข้อดี
+ กันแดด SPF สูง
+ เหมาะกับผิวหน้ามัน
+ ผ่านการทดสอบความปลอดภัยต่อผิว (dermatologist tested)
ข้อควรพิจารณา
– อาจแมตต์ไป สำหรับผิวแห้งมาก
แป้งพัฟผสมรองพื้นของแบรนด์ Maybelline ตัวนี้ ได้แฮชแท็กว่าเป็นแป้งพัฟถูกและดี เพราะเจ้าตัวนี้มีเนื้อแป้งละเอียด เนียน นุ่ม ทาแล้วไม่รู้สึกหนักหน้า ไม่เป็นคราบ ไม่หมองคล้ำระหว่างวัน พร้อมผสมกันแดด SPF 28 PA+++ เหมาะกับอากาศร้อน แดดเปรี้ยงอย่างบ้านเรามากค่ะ
และ แป้งตลับนี้ใช้เทคโนโลยี ไมโครพาวเดอร์ ที่สามารถคุมความมันบนผิวหน้าได้นาน 12 ชั่วโมง เรียกได้ว่าทาครั้งเดียวก็เอาอยู่ทั้งวันเลยจริง ๆ ค่ะ สาว ๆ คนไหนที่คิดจะเริ่มใช้แป้งพัฟผสมรองพื้น แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะใช้ แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี มิสซี่ขอแนะนำแป้งเมย์เบอลีน Fit me Oil Control ตัวนี้เลยค่ะ เพราะนอกจากจะหาซื้อง่ายแล้ว ยังราคาไม่แพงด้วย
ปริมาณ 6 กรัม : ราคา 149 บาท (ตกกรัมละ 24.8 บาท)
จุดเด่น | คุมความมันได้ดีมากให้ความปกปิด แต่บางเบา ไม่อุดตันผิว |
ส่วนประกอบสำคัญ | Talc / Perlite / Triisostearin / Phenyl Trimethicone / Magnesium Stearate / Caprylyl Glycol |
จำนวนเฉด | 5 เฉดสี |
กันแดด | SPF 28 PA+++ |
2. แป้งพัฟ ปกปิดดีที่สุด : Laura Mercier Foundation Powder
ราคา 1,950 บาท
ข้อดี
+ กระจายแสงดี หน้าดูมีออร่า
+ เหมาะกับทุกสภาพผิว
+ ปกปิดได้หลายระดับ สามารถเลเยอร์ได้
ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างแรง
แป้งพัฟ Luara Mercier ที่สาว ๆ หลายคนน่าจะรู้จักกันดี เพราะนอกจากแป้งฝุ่นทรานส์ลูเซนท์ของเขาที่ฮิตใช้กันทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว ก็ยังมี แป้งพัฟผสมรองพื้น ตัวนี้ที่หลาย ๆ คนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ใช้แล้วปกปิด แถมหน้าดูสว่างมีออร่ามาก ๆ เพราะมีส่วนผสมพิเศษ Light Reflecting ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์ ทำหน้าที่กระจายแสง ปกปิดจุดบกพร่องบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี
สาว ๆ คนไหนอยากได้ finish look แบบแมตต์ สว่าง เนียน ดูมีออร่า แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะซื้อ แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี มิสซี่ขอแนะให้ลองแป้งพัฟปกปิดดี่เยี่ยมของ Laura Mercier ตัวนี้เลยค่ะ รับรองว่าจะได้ลุคงานผิวที่ดูดีแบบสุด ๆ
ปริมาณ 7.4 กรัม : ราคา 1,950 บาท (ตกกรัมละ 263.5 บาท)
จุดเด่น | มี Light Reflecting ช่วยกระจายแสง ทำให้หน้ามีมิติ ดูมีออร่า |
ส่วนประกอบสำคัญ | Talc / Mica / Dimethicone / Lauroyl lysine |
จำนวนเฉด | 3 เฉดสี |
กันแดด | ✗ |
3. แป้งพัฟเกาหลีที่ดีที่สุด : Jung Saem Mool Masterclass Powder Foundation
ราคา 1,700 บาท
ข้อดี
+ เบาบาง ไม่หนักหน้า
+ ฟองน้ำนุ่ม เกลี่ยง่าย
+ งานผิวเนียนสวย ไม่หนา
ข้อควรพิจารณา
– มีเฉดสีให้เลือกน้อย
แป้งพัฟผสมรองพื้น Jung Saem Mool ตัวนี้ เป็นแบรนด์นำเข้าจากเกาหลี ที่เหล่าบิวตี้บล็อกเกอร์กำลังพูดถึงเป็นอย่างมากในขณะนี้ เพราะต่างรีวิวเป็นเสียงเดียวกันว่า ทาแล้วเบาสบายผิวมากที่สุด เนียนกลืนไปกับผิว ประดุจว่าเป็นผิวจริง ๆ ของเราเอง และยังทำให้หน้าดูมีมิติ ให้งานผิวแบบ glass skin ทาแล้วหน้าไม่ดูแบน
นอกจากนี้ตัวฟองน้ำที่ทางแบรนด์ให้มา จะเป็นนวัตกรรมฟองน้ำสองด้าน ด้านนึงเป็นฟองน้ำสำหรับคนที่ต้องการการปกปิดแบบธรรมชาติ ส่วนอีกด้านเป็นกำมะหยี่ สำหรับคนที่ต้องการปกปิดที่เยอะกว่า หากเพื่อน ๆ คนไหนกำลังมองหา แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี แบบผสมรองพื้น ที่เบาสบายผิวที่สุด และมีงบประมาณนึง มิสซี่ขอแนะนำแป้งพัฟเกาลี JungSeamMool ตัวนี้เลย รับรองไม่ผิดหวังค่า
ปริมาณ 9.5 กรัม : ราคา 1,700 บาท (ตกกรัมละ 179 บาท)
จุดเด่น | เนื้อแป้งนุ่มขั้นสุด สบายผิวหน้า นวัตกรรมฟองน้ำสองด้าน ให้ระดับการปกปิดที่ต่างกันตามความต้องการ |
ส่วนประกอบสำคัญ | Talc / Mica / Titanium Dioxide / Silica / Caprylic |
จำนวนเฉด | 3 เฉดสี |
กันแดด | ✗ |
4. แป้งพัฟแบรนด์ดังที่ดีที่สุด : MAC Studio Fix Powder Plus Foundation
ราคา 1,800 บาท
ข้อดี
+ มีให้เลือกหลายเฉดสี
+ เนื้อแป้งเนียนละเอียด
+ ปกปิดกริบมาก คุมมันขั้นสุด
ข้อควรพิจารณา
– พัฟฟองน้ำค่อนข้างแข็ง
แป้งพัฟแบรนด์ดังจากเคาน์เตอร์แบรนด์สุดหรู ที่ฮิตติดอันดับตลอดกาล และยังเป็นแป้งพัฟที่ดารานิยมใช้ ด้วยเนื้อแป้งที่เนียนละเอียดขั้นสุด จึงช่วยอำพรางริ้วรอย รูขุมขน ไม่แห้งตึงเวลาทา เหมาะกับทุกสภาพผิวโดยเฉพาะผิวมัน ทาแล้วจะทำให้ผิวหน้าของเพื่อน ๆ ดูใส ไบรท์ ไม่มันแต่ก็ไม่โกลว์จนเกินไป แถมยังมีให้เลือกถึง 14 เฉดสีกันเลยทีเดียว บอกเลยว่าใส่ใจสาว ๆ ทุกสีผิวเลยล่ะ
สาว ๆ คนไหนที่อยากครอบครองแป้งพัฟของแบรนด์ดังที่ช่วยให้หน้าผ่อง ติดทนทั้งวัน แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อ แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี เราขอแนะนำของ M.A.C ตัวนี้เลยค่ะ รับรองว่าจะได้แป้งพัฟที่ถูกใจทั้งคุณภาพและผลลัพธ์เลย
ปริมาณ 15 กรัม : ราคา 1,800 บาท (ตกกรัมละ 120 บาท)
จุดเด่น | เนื้อแป้งเนียนละเอียด ติดทนนาน ปกปิดดีมาก ไม่ทำให้เกิดสิว |
ส่วนประกอบสำคัญ | Talc / Silica / Isostearyl Palmitate / Methicone |
จำนวนเฉด | 14 เฉดสี |
กันแดด | ✗ |
5. แป้งพัฟ ถูกและดีที่สุด : Srichand Bare to Perfect Translucent Compact Powder
ราคา 320 บาท
ข้อดี
+ ฝาปิดแบบแม่เหล็ก
+ เหมาะกับผิวแพ้ง่าย
+ เบลอผิวดี เซตรองพื้นเลิศ
ข้อควรพิจารณา
– ไม่ผสมกันแดด
เพื่อน ๆ คนไหนมีปัญหาผิวมัน มิสซี่ยกให้แป้งพัฟศรีจันทร์ตัวนี้ ตอบโจทย์ที่สุดเลยค่ะ ตัวนี้จะเป็นแป้งพัฟโปร่งแสง หรือเรียกว่า เป็นแป้งฝุ่นอัดแข็งไม่ผสมรองพื้นก็ได้ค่ะ มีความโปร่งแสง บางเบา เนียนละเอียด มี Sebum Sensor หรือตัวที่จะช่วยดูดซับความมันบนผิวหน้า ทำให้ควบคุมความมันได้ยาวนานถึง 12 ชั่วโมงเลย แต่ก็ยังคงความชุ่มชื้นเอาไว้ ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ ไม่แห้งกร้าน ดูเป็นธรรมชาติสุด ๆ
นอกจากนี้ตัวตลับของเค้ายังมีดีไซน์สวยหรู และออกแบบมาให้มีขนาดกะทัดรัด พกพาง่าย หากใครที่กำลังมองหา แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี มิสซี่ขอแนะนำแป้งศรีจันทร์ตัวนี้เลยค่ะ ถูกและดีขนาดนี้ ควรมีติดกระเป๋าไว้อย่างยิ่ง!
ปริมาณ 10 กรัม : ราคา 320 บาท (ตกกรัมละ 32 บาท)
จุดเด่น | คุมความมันได้ดี เนื้อแป้งบางเบา ไม่ผสมน้ำมัน น้ำหอม พาราเบน และแอลกอฮอล์ |
ส่วนประกอบสำคัญ | Encapsulated Sodium Hyaluronate / Thyme / Camellia Seed Oil |
จำนวนเฉด | 1 เฉด Translucent |
กันแดด | ✗ |
6. แป้งพัฟวัยรุ่นที่ดีที่สุด : Cute Press Evory Retouch Oil Control Foundation Powder SPF 30 PA+++
ราคา 359 บาท
ข้อดี
+ ราคาไม่แพง
+ เหมาะสำหรับผิวมัน
+ ปกปิดดีเกินราคา
ข้อควรพิจารณา
– พัฟฟองน้ำค่อนข้างแข็ง
แป้งพัฟตัวถัดมาเป็นแบรนด์ไทย ที่ทำออกมาเพื่อตอบโจทย์สภาพผิวคนไทยโดยเฉพาะ เจ้าแป้งพัฟ Cute Press ตัวนี้เป็นแป้งผสมรองพื้นที่ให้การปกปิดดีมาก ได้รับการรีวิวดี ๆ จากเหล่าช่างแต่งหน้าและบิวตี้บล็อกเกอร์เยอะเลยค่ะ เหมาะกับทุกสภาพผิว สามารถควบคุมความมันได้ถึง 12 ชั่วโมง กันน้ำ กันเหงื่อ เนื้อแป้งเนียน ละเอียด สามารถปกปิด เบลอรูขุมขนได้ดี แถมยังมีให้เลือกถึง 6 เฉดสีเลยทีเดียว
เหมาะกับคนที่กำลังมองหาแป้งพัฟวัยรุ่น ที่ปกปิดดีและราคาสบายกระเป๋า จะใช้พัฟแบบชุบน้ำหมาด ๆ หรือแบบแห้งก็ให้ผิวกริบได้ หากสาว ๆ คนไหนยังไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อ แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี มิสซี่ขอแนะนำแป้งพัฟผสมรองพื้นของ Cute Press ตัวนี้เลยค่า รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน!
ปริมาณ 12 กรัม : ราคา 359 บาท (ตกกรัมละ 30 บาท)
จุดเด่น | ปกปิดเนียน เหมือนรีทัชผิว คุมความมัน กันน้ำ กันเหงื่อ คุมมันนาน 12 ชั่วโมง |
ส่วนประกอบสำคัญ | Talc / Mica / Silica / Titanium dioxideI, Zinc oxide |
จำนวนเฉด | 6 เฉดสี |
กันแดด | SPF 30 PA+++ |
7. แป้งพัฟเคาน์เตอร์แบรนด์ที่ดีที่สุด : Chanel Ultra Le Teint Ultrawear All-Day Comfort Flawless Finish Compact Foundation
ราคา 2,600 บาท
ข้อดี
+ งานผิวสวย ดูมีมิติ
+ คุมมันได้ระดับหนึ่ง
+ ฟินิชผิวสวยแบบไม่เหมือนใคร
ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างสูง
แป้งพัฟตัวนี้จัดเป็นไอเทมตัวท็อปของ Chanel เลยก็ว่าได้ เป็นแป้งพัฟผสมรองพื้นงานผิว ที่มีเนื้อแป้งอนุภาคขนาดเล็ก ช่วยให้ผิวเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ หน้าไม่ดรอป ระหว่างวัน ปกปิดรอยดำ รอยแดงได้กลาง ๆ นะคะ จะเน้นงานผิว กระจายแสงให้หน้าผ่องมากกว่า และเนื้อแป้งยังทำหน้าที่เป็น Absorbent ช่วยดูดซับความมันส่วนเกินบนใบหน้าได้ดี ทำให้เมคอัพติดทนนานตั้งแต่เช้าจรดเย็นเลยค่ะ
นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้น Hydrophobic และ Amino acid ยิ่งทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง ให้ลุคแมตต์ที่กำลังดี ไม่ดูผิวแห้งจนเกินไป หากเพื่อน ๆ คนไหนกำลังมองหา แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี มิสซี่ขอแนะนำแป้งพัฟ Chanel ตัวนี้เลยค่ะ ถ้าอยากรู้ว่าแป้งพัฟ chanel ดีไหม ก็ต้องสอยมาลองแล้วค่า รับรองจะได้คุณภาพที่คุ้มราคามาก ๆ ฟินิชผิวเห็นถึงความแตกต่างจริง ๆ ค่ะ
ปริมาณ 13 กรัม : ราคา 2,600 บาท (ตกกรัมละ 200 บาท)
จุดเด่น | ช่วยให้เมคอัพติดทน ให้งานผิวแมตต์กำลังดี เนื้อแป้งเนียนนุ่ม สบายผิว |
ส่วนประกอบสำคัญ | Talc / Silica / Boron Nitride / Dimethicone / Magnesium Myristate |
จำนวนเฉด | 16 เฉดสี |
กันแดด | SPF 15 |
8. แป้งพัฟเกาหลี เบลอผิวได้ดีที่สุด : Sulwhasoo Timetreasure Radiance Powder Foundation
ราคา 3,200 บาท
ข้อดี
+ มีส่วนผสมช่วยปกปิดริ้วรอย
+ เหมาะกับทุกสภาพผิว
+ เบลอผิวดีมากกก
ข้อควรพิจารณา
– มีเฉดสีให้เลือกน้อย
แป้งตลับ Sulwhasoo ตัวนี้ เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของเมคอัพเบสที่โดดเด่น โดยที่แป้งพัฟผสมรองพื้นตัวนี้ ให้ความรู้สึกเบาสบายผิวประดุจเหมืองแป้งฝุ่น เพราะมีอณูเนื้อแป้งที่เนียน ละเอียดมาก ๆ และตรงกลางตลับของเขายังผสมเพชรแท้ ทำให้ finish look ดูเปล่งประกาย ผิวหน้ากระจายแสงดูมีออร่า
มากไปกว่านั้นแป้งพัฟตัวนี้เขายังผสมอย่างสนแดง ช่วยในเรื่องเบลอริ้วรอยได้ สาว ๆ คนไหนที่กำลังมองหา แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี ในคุณภาพระดับพรีเมียม เสกให้ผิวดูแพง เน้นความปกปิดแต่บางเบา มิสซี่ขอแนะนำแป้งตลับโซลวาซูตัวนี้เลยค่า
ปริมาณ 13 กรัม : ราคา 3,200 บาท (ตกกรัมละ 246 บาท)
จุดเด่น | ผสมกากเพชรแท้ ทำให้หน้าดูโกลว์ มีมิติผสมสารบำรุง 6 ชนิด ในกลุ่ม Anti Aging |
ส่วนประกอบสำคัญ | Talc / Boronite / Mica / Silica / Polymethylmethacrylate |
จำนวนเฉด | 2 เฉดสี |
กันแดด | ✗ |
9. แป้งพัฟแบรนด์ญี่ปุ่น เนื้อแมตต์ที่ดีที่สุด : Kate Zero Feeling Powder Foundation
ราคา 640 บาท
ข้อดี
+ เหมาะกับคนผิวมัน
+ ไม่อุดตันรูขุมขน
+ มีให้เลือกหลายเฉดสี
ข้อควรพิจารณา
– ตลับใหญ่ พกยาก
มาถึงแป้งตลับนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ความดีงามของแป้งพัฟ Kate ตัวนี้คือคุมมันได้ดีมาก เพราะมีตัวช่วยดูดซับน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้า ทำให้หน้าไม่เยิ้ม ไม่เป็นคราบ อีกทั้งเนื้อแป้งมีความละเอียด เนียนนุ่ม ให้ความรู้สึกบางเบา แต่ก็ยังปกปิดได้เรียบเนียนเป็นธรรมชาติ และสามารถบิลด์เพิ่มได้อีกด้วยค่ะ
สาว ๆ คนไหนที่ยังไม่รู้ว่าจะซื้อ แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี ที่จะช่วยเผยผิวกระจ่างใส และให้ลุคแมตต์กำลังดี มิสซี่ขอแนะนำแป้งพัฟ Kate ตัวนี้เลยค่ะ จะลงรองพื้นก่อน หรือจะทาแต่แป้งเดี่ยว ๆ ก็มั่นใจหมดกังวลเรื่องหน้าดรอประหว่างวันไปเลยค่า
ปริมาณ 9.5 กรัม : ราคา 640 บาท (ตกกรัมละ 67 บาท)
จุดเด่น | คุมมันได้ดี เนื้อแป้งเนียนละเอียด เกลี่ยง่าย ให้ลุคแมตต์ดี |
ส่วนประกอบสำคัญ | Talc / Mica / Acrylates crosspolymer / Zinc oxide (nano) |
จำนวนเฉด | 6 เฉดสี |
กันแดด | SPF 20 PA++ |
10. แป้งพัฟคุมมันที่ดีที่สุด : Covermark Silky Fit
ราคา 2,200 บาท
ข้อดี
+ เหมาะกับผู้มีรูขุมขนกว้าง
+ เนื้อบางเบา
+ ผสมสารบำรุง
ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างสูง
ตัวสุดท้ายเป็นแป้งตลับผสมรองพื้นของ covermark ที่ทำมาเพื่อแก้ปัญหาสำหรับผู้ที่มีริ้วรอย หรือมีรูขุมขนกว้างโดยเฉพาะ เนื่องจากเนื้อแป้งมีอนุภาคขนาดเล็กและเนียนละเอียดมาก ๆ ผ่านวิธี Micro Press ในการอัดแป้ง ซึ่งเป็นวิธีเฉพาะของทางแบรด์เองเลย ทำให้เมื่อเกลี่ยลงบนผิวหน้าแล้ว เพื่อน ๆ จะสัมผัสได้ถึงความนุ่ม บางเบา เนื้อแป้งจะช่วยเข้าไปเติมเต็มผิวที่ไม่เรียบเนียนได้เป็นอย่างดี
ด้วยสูตร Double Fix ของแป้งพัฟตัวนี้ ทำให้แป้งติดทน ไม่หลุดง่าย ไม่เป็นคราบเยิ้ม แถมยังช่วยเซตรองพื้นได้ดีอีกด้วยค่ะ สาว ๆ รีวิวว่าเลิศไม่ไหว หากเพื่อน ๆ คนไหนที่กำลังมองหา แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี ที่เบลอรูขุมขนจึ้ง ๆ เจ้า covermark ตัวนี้ตอบโจทย์มากค่ะ ถ้าถามว่าตัวนี้เป็นแป้งพัฟไม่ติดแมสไหม ก็บอกเลยว่าติดน้อยมากค่ะ ยังงี้ต้องสอยยย
ปริมาณ 6.5 กรัม : ราคา 2,200 บาท (ตกกรัม 338 บาท)
จุดเด่น | เนื้อแป้งนุ่ม สบายผิว ปกปิดและเบลอรูขุมขนดีมาก ผสมสารบำรุงผิว |
ส่วนประกอบสำคัญ | Talc Powder / Diphenyl dimethicone / Cellulose / Boron nitride / Zinc Oxide |
จำนวนเฉด | 6 เฉดสี |
กันแดด | SPF 32 PA+++ |
วิธีทาแป้งพัฟไม่ให้เป็นคราบ
Step 1 : ลงครีมบำรุงก่อนแต่งหน้า
ขั้นตอนนี้สำคัญมาก! ไม่ว่าจะผิวมันหรือผิวแห้งก็ไม่ควรละเลย เพราะถือเป็นการเตรียมผิว ทำให้ผิวหน้ามีความชุ่มชื้น ไม่แห้ง ทำให้ครีมที่จะทาตัวต่อไปสามารถยึดเกาะได้ดี เพื่อน ๆ สามารถเลือกทาได้เช่น เซรั่มบำรุงผิว มอยเจอร์ไรเซอร์ สเปรย์น้ำแร่ โลชั่น ออยเซรั่ม อายครีม หรือครีมบำรุงผิวหน้าใด ๆ ก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของเพื่อน ๆ เลยค่ะ แต่ยังไงก็แล้วแต่ห้ามข้ามข้อนี้เด็ดขาด
Step 2 : เบสเมคอัพ และ ไพรเมอร์
อย่าลืมทิ้งช่วงให้สกินแคร์ step 1 ซึมลงสู่ผิวก่อนนะคะ มาถึงขั้นตอนนี้จะเหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวรูขุมขนกว้าง และมีร่องผิว เพราะ ไพรเมอร์ จะช่วยเข้าไปเติมเต็มรูขุมขนเหล่านั้น
- ซึ่งหากเพื่อน ๆ เป็นคนผิวมันก็ให้เลือกไพรเมอร์ที่ช่วยคุมความมัน
- ถ้าหากเป็นคนผิวแห้งก็เลือกไพรเมอร์ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นนะคะ
Step 3 : ทาแป้งพัฟด้วยการกดเบา ๆ
ใช้ฟองน้ำ ลูบแป้งขึ้นมาให้ติดฟองน้ำในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะหากลูบมามากเกินไป อาจจะทำให้เกลี่ยแล้วไม่สม่ำเสมอได้ ค่อย ๆ กดแป้งลงบนผิวหน้า เริ่มจากแถวร่องจมูกที่มันง่ายก่อน แล้วค่อย ๆ ตบไปตามจุด T-zone อย่างหน้าผาก สันจมูก และปลายคางจนทั่วหน้า
หรือหากเพื่อน ๆ คนไหนที่แต่งหน้าโดยลง รองพื้น มาก่อนแล้ว การลงแป้งพัฟในขั้นตอนนี้อาจจะไม่ต้องใช้พัฟฟองน้ำก็ได้นะคะ แต่สามารถเปลี่ยนมาใช้แปรงพุ่มใหญ่ ๆ แทน โดยใช้แปรงพุ่มหมุนวนบนตลับแป้ง เพื่อให้ติดเนื้อแป้งออกมา จากนั้นเคาะเอาแป้งออกเพื่อไม่ให้แป้งเกาะหนาจนเกินไป จากนั้นค่อย ๆ เกลี่ยลงบนผิวหน้าให้ทั่วจนพอใจได้เลยค่ะ วิธีนี้จะช่วยให้สาว ๆ ที่ลงรองพื้นมาแล้วหน้าไม่ดูหนา ไม่ดูโบ๊ะ จนเกินไปค่ะ
Step 4 : ฉีดสเปรย์น้ำแร่ล็อกเครื่องสำอาง
ข้อดีของสเปรย์เซ็ตเมคอัพ คือ จะเข้าไปช่วยลดความร้อนใบหน้าของเรา ที่เกิดจากการโดนแสงแดดร้อน ๆ ทำให้ต่อมไขมันใต้ผิวหนังผลิตน้ำมันออกมาเยอะขึ้น เป็นสาเหตุให้เครื่องสำอางบนใบหน้าของเราไหลเยิ้มได้ในระหว่างวัน จึงเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่น่าพกติดไว้ในกระเป๋าของเพื่อน ๆ ค่ะ
ซึ่งสเปรย์น้ำแร่ในปัจจุบันก็ผลิตมามีหลายวัตถุประสงค์ เช่น ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ช่วยลดการอักเสบ หรือช่วยลดความร้อนใต้ผิวหนังเมื่อเจอแสงแดด ก่อนซื้อใช้จึงควรอ่านดี ๆ เพื่อจะได้ตรงตามความต้องการของเราที่สุดค่า
Step 5 : แนะนำพกกระดาษซับมัน
ในระหว่างวันแน่นอนว่าต้องมีความมันเกิดขึ้นบนผิวหน้าของเรา เพื่อน ๆ จึงควรซับความมันด้วยกระดาษซับมันออกก่อน แล้วค่อยเติมแป้ง ซึ่งจะช่วยให้แป้งมีความสม่ำเสมอ ไม่เกิดคราบจากความมันบนใบหน้านั่นเอง
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับแป้งพัฟ
ทาแป้งพัฟยังไง ?
ทาแป้งพัฟมี 2 วิธีค่ะ นั่นคือ การใช้ พัฟฟองน้ำ หรือ แปรงพุ่ม
– การทาโดยใช้ฟองน้ำ
ให้ปาดเนื้อแป้งในตลับขึ้นมาในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่หนาจนเกินไป หรือหากปาดขึ้นมาเยอะแล้ว ก็สามารถเคาะออกก่อนได้ จากนั้นค่อย ๆ ตบลงบนผิวหน้า โดยเริ่มจากแนวร่องจมูกก่อน จากนั้นค่อย ๆ ไล่ไปตามจุด T-zone อย่างหน้าผาก สันจมูก และปลายคางจนทั่วหน้า หากจุดไหนมีปัญหารอยสิว รอยดำ รอยแดง ก็สามารถบิวท์เพิ่มแป้งตรงจุดที่มีปัญหาได้เลยค่ะ
นอกจากนี้แป้งพัฟผสมรองพื้นบางตัว ยังสามารถประยุกต์ใช้พัฟฟองน้ำโดยการนำไปชุบน้ำหมาด ๆ ก่อนนำมาใช้จะทำให้ได้ลุคผิวสวยแบบธรรมชาติได้อีกด้วย
– การทาโดยใช้แปรงพุ่ม
วิธีนี้เหมาะกับสาว ๆ ที่ไม่ได้ต้องการให้หน้าดูหน้าหนาโบ๊ะจนเกินไป แต่ถ้าหากต้องการการปกปิดขึ้นมาหน่อยในระดับกลาง ๆ ก็ควรจะลงรองพื้นก่อน แล้วค่อยใช้แปรงพุ่มปาดแป้งขึ้นมา ค่อย ๆ ปัดลงบนผิวหน้าของเราจนได้ฟินิชลุคที่พอใจ
ข้อควรระวัง : ไม่ควรใช้วิธีการปาดแป้งลงบนผิวนะคะ เพราะนอกจากจะทำให้เมคอัพต่าง ๆ ที่เราลงไปเขยื้อนแล้ว ยังจะทำให้ผิวหน้าของเราอักเสบได้อีกค่ะ เพราะฉะนั้นการกด ๆ ตบ ๆ จึงทำให้แป้งไปเติมเต็มรูขุมขนได้มีประสิทธิภาพกว่า
ข้อแนะนำ : ตรงไหนมีรอยสิว รอยคล้ำ เพื่อน ๆ สามารถลงคอนซีลเลอร์ก่อนที่จะลงแป้งได้ค่ะ แล้วค่อยกดแป้งลงทับอีกที จะช่วยเพิ่มการปกปิดได้ดียิ่งขึ้น
แป้งพัฟใช้ได้นานแค่ไหน ?
แป้งพัฟ จะใช้ได้นานประมาณ 2 ปีหลังจากเปิดใช้ค่ะ ทั้งนี้ควรสังเกตสัญลักษณ์ที่อยู่ใต้กระปุก โดยจะขึ้นด้วยตัวเลขแล้วตามด้วยตัว M อยู่ในรูปกระปุกเปิดฝา
ยกตัวอย่างเช่น 24M แปลว่า หลังจากเปิดใช้งานแป้งตลับตัวนี้แล้ว จะสามารถใช้ไปได้อีก 24 เดือน ซึ่งสัญลักษณ์เหล่านี้ จะเรียกว่า PAO (Period After Opening) หรือระยะเวลาที่สามารถใช้งานได้หลังจากเปิดใช้นั่นเองค่ะ
ทาแป้งแล้วเป็นคราบ เกิดจากอะไร ?
ทาแป้งพัฟแล้วเกิดคราบ เกิดจากหลายสาเหตุ ดังนี้
– ไม่ลงครีมบำรุง : ไม่ว่าจะเป็นคนผิวมัน ผิวแห้ง หรือผิวผสม ก็ควรทาตัวบำรุงก่อนแต่งหน้า เพราะจะไปช่วยให้เครื่องสำอางยึดเกาะได้ดีขึ้น โดยเฉพาะสาว ๆ ผิวแห้ง หรือผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง การลงครีมบำรุงก่อน จึงช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และช่วยเติมเต็มรูขุมขนและร่องต่าง ๆ ทำให้ไม่เป็นคราบ ไม่เป็นขุย
– เลือกแป้งพัฟที่ไม่เหมาะกับผิว : ปัญหาทาแป้งแล้วเป็นคราบส่วนใหญ่จะเกิดกับสาว ๆ ที่มีผิวมัน ดังนั้น ผู้ที่มีปัญหาผิวมัน ควรเลือกแป้งที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน (Oil free) และควรมีสารที่ช่วยดักจับความมันบนส่วนเกินบนผิวหน้า
ซึ่งในระหว่างวันต่อมไขมันใต้ผิวหนังจะผลิตน้ำมันออกมาเยอะ ดังนั้นก่อนที่จะหยิบแป้งขึ้นมาเติมเลยนั้น จะต้องใช้กระดาษซับมันหรือทิชชู่ซับความมันส่วนเกินออกไปก่อนแล้วค่อยเติมแป้ง ไม่อย่างงั้นหากทาแป้งทับลงไปเลย จะยิ่งทำให้หน้าของเพื่อน ๆ เป็นคราบได้
– ใช้พัฟฟองน้ำไม่มีคุณภาพ : พัฟฟองน้ำเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม ควรเลือกพัฟฟองน้ำที่มีคุณภาพ มีเนื้อสัมผัสที่นุ่ม ถ้าทำจากฝ้ายหรือกำมะหยี่จะยิ่งดีมาก และแนะนำให้เปลี่ยนพัฟฟองน้ำทุก 3 เดือน เพราะเมื่อพัฟฟองน้ำเริ่มเสื่อมสภาพแล้ว ต่อให้แป้งของเพื่อน ๆ จะดียังไง ประสิทธิภาพในการกลบลงบนผิวก็จะน้อยลงค่ะ
ทาแป้งพัฟ ไม่ทารองพื้นได้ไหม ?
สามารถทาแป้งพัฟ แล้วไม่ทารองพื้นได้ค่ะ เหมาะกับคนที่ไม่ได้ต้องการการปกปิดมาก การลงครีมบำรุง+กันแดด แล้วตามด้วยแป้งพัฟผสมรองพื้นเดี่ยว ๆ จึงให้ลุคผิวที่ดูเป็นธรรมชาติ ดูไม่หนาโบ๊ะ
ส่วนใครที่ต้องการการปิดปิดแบบ full coverage จึงอาจจะต้องลงรองพื้นก่อน แล้วตามด้วยแป้งฝุ่นอัดแข็ง หรือ แป้งพัฟแบบไม่ผสมรองพื้น ก็เพียงพอแล้วค่ะ เพราะจริงอยู่ที่สาว ๆ ต้องการการปกปิดขั้นสุด แต่การใช้รองพื้นร่วมกับแป้งพัฟผสมรองพื้น จะยิ่งทำให้หน้าดูหนา ดูวอก เป็นคราบได้ง่าย ที่สำคัญแป้งพัฟผสมรองพื้นอาจไปทำให้สีรองพื้นของเราเพี้ยน เผลอ ๆ อาจทำให้ดูหน้าเทาโดยไม่รู้ตัวเลย จะแก้ยากเอานะคะ
ทาแป้งพัฟ หรือแป้งฝุ่นก่อน ?
ควรใช้แป้งฝุ่นก่อนลงแป้งพัฟค่ะ โดยแป้งฝุ่นจะลงหลังจากที่ทาครีมบำรุง กันแดด คอนซีลเลอร์ใด ๆ เสร็จแล้ว แนะนำให้ใช้แปรงพุ่มใหญ่ ๆ แทนการใช้ฟองน้ำ เพราะเราต้องการแค่ให้แป้งฝุ่นเคลือบหน้าของเราบาง ๆ เพื่อดูดซับความมันส่วนเกิน จากนั้นจึงค่อยตามด้วยพัฟผสมรองพื้นโดยใช้ฟองน้ำ ค่อย ๆ กดให้สม่ำเสมอทั่วหน้า วิธีนี้จะช่วยให้หน้าไม่เยิ้ม และไม่เป็นคราบระหว่างวันได้ค่า
เป็นยังไงกันบ้างคะเพื่อน ๆ สำหรับรีวิว 10 แป้งพัฟ ยี่ห้อไหนดี ที่มิสซี่คัดสรรมาให้ มีแต่แบรนด์ที่มีคุณภาพ เชื่อถือได้ และเป็นทีรู้จักของคนในเหล่าวงการช่างแต่งหน้าเลยนะคะ หวังว่าจะเป็นข้อมูลดี ๆ และเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจของเพื่อน ๆ ได้เลือกซื้อแป้งพัฟที่เหมาะสม และตรงตามความต้องการของเพื่อน ๆ ได้ดีที่สุดนะคะ ไว้มีอะไรดี ๆ ที่น่าสนใจ มิสซี่จะเอามาแบ่งปันให้เพื่อน ๆ อีกอย่างแน่นอน รอติดตามได้เลยค่า
ที่มา :
https://www.byrdie.com/how-to-apply-powder-foundation-5525403