วิธีเลือกคลีนซิ่งให้เหมาะกับผิวตัวเอง อัปเดต 2023

วันนี้เราจะพาทุกคนมารู้กับคลีนซิ่ง ความสำคัญของการใช้คลีนซิ่งทำความสะอาดผิวหน้า และวิธีเลือกคลีนซิ่งที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเองมากที่สุด

คลีนซิ่ง คืออะไร  

คลีนซิ่ง คือ ผลิตภัณฑ์เช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอาง หรือ ที่รู้จักกันในชื่อ makeup remover คลีนซิ่งถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นมาก ทั้งในคนที่แต่งหน้าและไม่แต่งหน้า 

เนื่องจากการล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าอย่างเดียวไม่เพียงพอ คลีนซิ่งจะเป็นตัวช่วยในการขจัดคราบเครื่องสำอาง ครีมกันแดด ที่กันน้ำ รวมไปถึงช่วยทำความสะอาดผิวหน้าจากฝุ่น ควัน มลภาวะที่เกาะบนผิวหน้าได้อีกด้วย 

ทำให้ผิวหน้าสะอาดหมดจด ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันจากสิ่งสกปรกจนเกิดสิว โดยคลีนซิ่งนั้นมีหลายรูปแบบ ทั้งสูตรน้ำ น้ำนม ออยล์ หรือบาล์ม ควรเลือกให้เหมาะกับสภาพผิว

ทำไมคลีนซิ่งจึงสำคัญ

คลีนซิ่งถือว่าเป็นขั้นตอนแรกของการดูแลผิวหน้า โดยหน้าที่หลักของคลีนซิ่ง คือ จะช่วยขจัดคราบสิ่งสกปรก ความมันส่วนเกิน รวมไปถึงช่วยขจัดคราบเครื่องสำอางบนใบหน้าของเรา ให้สะอาดหมดจด อีกทั้งยังเป็นการเตรียมผิวของเราให้พร้อม สู่ขั้นตอนการลงผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่น ๆ ในลำดับถัดไป

คลีนซิ่งมีสารทำความสะอาดที่เรียกว่า surfactants ซึ่งสารนี้จะมีส่วนที่ชอบน้ำ และไม่ชอบน้ำ โดยวิธีการดึงสิ่งสกปรกออกจากใบหน้า คือ ขณะทำความสะอาด ส่วนที่ไม่ชอบน้ำของสารลดแรงตึงผิวจะเกาะติดกับน้ำมันหรือไขมัน และส่วนที่ชอบน้ำจะเกาะติดกับน้ำและสร้างโครงสร้างที่เรียกว่า ไมเซลล์ 

วิธีการเลือกคลีนซิ่งที่ดี

เพื่อผิวสุขภาพดี ควรเลือกคลีนซิ่งที่มีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้

  • เนื้อคลีนซิ่งบางเบา 
  • อ่อนโยนต่อผิว
  • ปราศจากน้ำหอม
  • Non-comedogenic
  • Sulfate Free
Beauty tips: ควรทำความสะอาดผิวหน้าเป็นประจำทุกเช้า – เย็น และหลังจากออกกำลังกาย   

ประเภทของคลีนซิ่งกับสภาพผิว

คลีนซิ่งเจล

คลีนซิ่งเจลเหมาะกับ ผิวปกติ ผิวผสม ผิวมัน ผิวเป็นสิว เนื้อคลีนซิ่งเจลจะมีความบางเบา อ่อนโยน สามารถทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึก ช่วยขจัดความมันตามรูขุมขนได้อย่างดี และไม่ทำให้ผิวแห้งตึงเกินไปหลังล้างหน้าเสร็จ 

คลีนซิ่งบาล์ม

คลีนซิ่งบาล์มเหมาะกับ ผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย คลีนซิ่งบาล์มเนื้อจะมีความเข้มข้น ช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้ดีจึงเหมาะกับคนผิวแห้ง อ่อนโยนต่อผิว ไม่ต้องใช้กับสำลีทำให้ผิวไม่เกิดการเสียดสี คลีนซิ่งครีมเนื้อจะมีความหนัก ควรเลือกสูตร non-comedogenic เพื่อไม่ให้อุดตันรูขุมขน

คลีนซิ่งน้ำนม

คลีนซิ่งน้ำนม เหมาะกับ ผิวปกติ ผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย เนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม บางเบา อ่อนโยนต่อผิว คลีนซิ่งมิลค์สามารถขจัดสิ่งสกปรกได้ดี ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง เหมาะกับวันที่แต่งหน้าเบา ๆ ถ้าวันไหนแต่งหน้าจัดไม่แนะนำน้า 

คลีนซิ่งวอเตอร์

คลีนซิ่งวอเตอร์เหมาะกับ ผิวปกติ ผิวมัน ผิวผสม ผิวเป็นสิว สัมผัสคลีนซิ่งวอเตอร์แบบน้ำให้ความเบาสบายผิว เช็ดทำความสะอาดแล้วไม่เหนียวเหนอะเนอะ ไม่ทิ้งความมันไว้บนใบหน้า ควรเลือกใช้คู่กับสำลีที่อ่อนโยน ไม่บาดผิว 

คลีนซิ่งออย

คลีนซิ่งออยล์ เหมาะกับ ผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย เหมาะกับสาว ๆ ที่แต่งหน้าจัด คลีนซิ่งออยล์สามารถขจัดคราบสิ่งสกปรกได้ดียันรูขุมขน ขจัดได้แม้คราบเครื่องสำอางกันน้ำ การใช้ออยล์ทำความสะอาดหน้าถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่อ่อนโยน อีกทั้งยังช่วยปรับสมดุล และรักษาค่า pH ให้แก่ผิวอีกด้วย 

วิธีเลือกคลีนซิ่งผิวมัน

ผิวมัน เกิดจากการที่ต่อมไขมันในชั้นผิวหนังของผิวจะหลั่งไขมันมากกว่าปกติ เมื่อต่อมไขมันทำงานมากเกินไป จะผลิตน้ำมันส่วนเกินที่นำไปสู่ผิวมัน จนทำให้รูขุมขนบนใบหน้ากว้างขึ้น เพื่อให้น้ำมันระบายบนชั้นผิวได้ดีขึ้น เมื่อรูขุมขนกว้างขึ้น มักเกิดปัญหาของสิวตามมา โดยเฉพาะสิวอุดตัน ทำให้สาวผิวมันมีโอกาสที่จะเป็นสิว ได้ง่ายกว่าสภาพผิวอื่น ๆ 

มิสซี่เชื่อว่าสาว ๆ หลายคนคงเจอกับปัญหาผิวแบบแพ็คคู่นี้กวนใจอยู่แน่ ๆ เพราะ เมืองไทยมีอากาศที่ร้อน ทำให้หน้ามันไวนั่นเอง ลักษณะที่สังเกตได้ง่ายของ คนผิวมัน คือ ผิวดูวาว เยิ้มไวกว่าปกติ โดยเฉพาะเวลาหลังล้างหน้า ผ่านไปเพียง 1-2 ชม. หน้าก็เริ่มกลับมามันแล้ว 

ผิวมันจะเกิดได้หลายลักษณะ เช่น บางคนผิวมันเฉพาะช่วง T-zone หรือ ตั้งแต่หน้าผาก ไล่ลงมาที่จมูก จนถึงคาง มากกว่าจุดอื่น แต่บางคนมีความมันทั่วใบหน้าเท่ากัน โดยผิวมันอาจเกิดจากปัจจัยอื่น ๆ อีก เช่น พ้นธุกรรม การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน สภาพอากาศ ความเครียด 

รวมไปถึงการเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิว และ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว ที่ไม่เหมาะกับตัวเอง ดังนั้นการเลือกคลีนซิ่ง สำหรับคนผิวมัน ควรมีวิธีการเลือก ดังนี้

  • เลือกคลีนซิ่งที่สามารถกำจัดไขมันส่วนเกินได้ แต่ไม่ทำให้ผิวแห้งตึงจนเกินไป จะทำให้ผิวสะอาดหมดจด ไม่มีปัญหาสิวตามมา และไม่เป็นการทำร้ายผิว
  • เลือกคลีนซิ่งที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน หรือ Oil free เนื่องจากจะยิ่งทำให้ผิวมันเพิ่ม และเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสิวตามมา
  • เลือกคลีนซิ่งที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน เนื่องจากคนผิวมันจะมีรูขุมขนกว้าง ทำให้สิ่งสกปรกไปอุดตันได้ง่าย ถ้าหากทำความสะอาดไม่ดีพอ 
Beauty tips: สาวผิวมันแนะนำเลือกคลีนซิ่งสูตรน้ำ เนื้อบางเบา ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน

สิ่งที่ควรมีในคลีนซิ่ง สำหรับผิวมัน

-ควรมีสารที่สามารถขจัดความมันส่วนเกินได้ เช่น Salicylic Acid เป็นกรดเบต้าไฮดรอกซีที่ช่วยขจัดน้ำมันส่วนเกินออกจากผิวหนัง ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และ Benzoyl peroxide เป็นต้น 

– ควรมีสารที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว และลดการอุดตันของรูขุมขน เช่น Glycolic acid เป็นกรดอัลฟาไฮดรอกซี (AHA) ช่วยป้องกันการอุดตันรูขุมขนที่นำไปสู่การเกิดสิวนอกจากนี้ยังช่วยผลัดเซลล์ผิวได้อย่างดีเยี่ยม มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผิวมัน

-ควรมีค่า pH Balance ของคลีนซิ่ง ที่ใกล้เคียงกับผิวของเรามากที่สุด คือ ค่า ph 4.5-5.7 เพื่อไม่ให้ทำลายเกราะป้องกันผิว ทำให้ผิวแข็งแรง 

-ควรมีสารให้ความชุ่มชื้น เพื่อไม่ให้ผิวแห้งตึงเกินไป เช่น  Hyaluronic Acid , Ceramides , Glycerin หรือ น้ำมันจากธรรมชาติ เช่น Squalane , Shea Butter , Jojoba เป็นต้น

วิธีเลือกคลีนซิ่งผิวผสม

สำหรับคนผิวผสม เป็นผิวที่มีสองลักษณะ คือ 

1.มีความมันช่วงบริเวณ T-zone หรือ ช่วงหน้าผาก จมูก และคาง บริเวณเหล่านี้จะมีรูขุมขนกว้าง ทำให้เกิดการอุดตันของสิ่งสกปรกได้ง่าย 

2.ช่วงหน้าแก้มจะเป็นผิวธรรมดา จนถึงผิวแห้ง 

สาเหตุของผิวผสมเกิดจาก การผลิตน้ำมันของต่อมน้ำมันใต้ผิวหนัง ผลิตน้ำมันออกมามากเกินไปบริเวณ T-zone เนื่องจากบริเวณนี้ต่อมไขมันจะใหญ่กว่าปกติ และทำงานมากกว่าปกติ ทำให้เกิดปัญหาสิวตามมา เหมือนกันคนผิวมัน 

ส่วนช่วงหน้าแก้ม ไปจนถึงข้างแก้ม เกิดจากการที่สมดุลของไขมันผิดปกติ จนขาดน้ำมัน ทำให้หน้าแห้ง ขาดความชุ่มชื่น จนทำให้หน้าลอกเป็นขลุย ยิ่งหลังล้างหน้าเสร็จจะสังเกตได้ว่า บริเวณนี้จะแห้งเป็นพิเศษ 

ถือว่าต้องเลือกคลีนซิ่งให้ตอบโจทย์ กับผิวทั้งสองบริเวณ ดังนั้นการเลือกคลีนซิ่ง สำหรับคนผิวผสม ควรมีวิธีการเลือก ดังนี้

  • เลือกคลีนซิ่งที่สามารถกำจัดไขมันส่วนเกินได้ แต่ไม่ทำให้ผิวแห้งตึงจนเกินไป จะทำให้ผิวสะอาดหมดจด ไม่มีปัญหาสิวตามมา และไม่เป็นการทำร้ายผิว
  • เลือกคลีนซิ่งที่ปรับสมดุลให้กับผิว เนื่องจากผิวผสมถือว่าเป็นผิวที่รวมทุกประเภทของผิวไว้ในหนึ่งเดียว มีส่วนที่มันเฉพาะช่วง T-zone มีส่วนที่แห้งที่หน้าแก้ม ไปจนถึงข้างแก้ม 
  • เลือกใช้คลีนซิ่งได้มากกว่า 1 สูตร เพื่อให้เหมาะกับผิวหน้าบริเวณนั้น เช่น ผิวหน้าที่มีความมันเยอะ บริเวณ T-zone ให้ใช้คลีนซิ่งที่เหมาะกับคนผิวมัน เพื่อช่วยขจัดความมัน ที่จะไปอุดตันในรูขุมขน ส่วนผิวหน้าบริเวณหน้าแก้ม และข้างแก้ม ที่ค่อนข้างแห้งตึง จนเกิดขุย ให้ใช้คลีนซิ่งที่เหมาะกับคนผิวแห้ง เพื่อช่วยเติมความชุ่มชื่น ผิวไม่แห้งตึงหลังล้างหน้า
Beauty tips: แนะนำเลือกคลีนซิ่งสูตรน้ำนม หรือ คลีนซิ่งบาล์ม เพราะสามารถกำจัดความมันส่วนเกินได้ดี แต่ยังคงกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว

สิ่งที่ควรมีในคลีนซิ่ง สำหรับผิวผสม

-ควรมีสารที่ช่วยควบคุมความมัน สามารถขจัดความมันส่วนเกินได้ เช่น Zinc PCA , Niacinamide , Witch Hazel เป็นต้น หรือเลือกสูตรที่มีคำว่า Oil free ร่วมด้วย

-ควรมีค่า pH Balance ของคลีนซิ่ง ที่ใกล้เคียงกับผิวของเรามากที่สุด คือ ค่า ph 4.5-5.7 เพื่อไม่ให้ทำลายเกราะป้องกันผิว และผิวกลับมาสมดุล

-ควรมีสารให้ความชุ่มชื้น เพื่อไม่ให้ผิวแห้งตึงเกินไป เช่น  Hyaluronic Acid , Ceramides , Glycerin หรือ น้ำมันจากธรรมชาติ เช่น Squalane , Shea Butter , Jojoba เป็นต้น

วิธีเลือกคลีนซิ่งสำหรับคนเป็นสิว

สำหรับคนเป็นสิว สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดสิวมีด้วยกัน 3 อย่าง คือ 

1.การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น การเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น หรือ ก่อนการมีประจำเดือน เป็นต้น 

2. การผลิตน้ำมันในชั้นผิวมากเกินไป 

3.การอุดตันของสิ่งสกปรกในรูขุมขน อาจเกิดมาจากการแต่งหน้าด้วยเครื่องสำอาง การทาครีมกันแดด หรือแม้กระทั้งจากฝุ่น ควัน และมลภาวะ 

หากล้างหน้าหรือทำความสะอาดผิวหน้าไม่หมดจดพอ อาจทำให้เกิดการอุดตันและนำไปสู่การเกิดสิว ดังนั้นการเลือกคลีนซิ่งสำหรับคนเป็นสิว ควรมีวิธีการเลือก ดังนี้  

  • เลือกคลีนซิ่งสำหรับคนเป็นสิว เพราะจะมีส่วนประกอบสำคัญหลาย ๆ อย่างที่มีส่วนช่วยในการรักษาสิว เหมาะกับคนเป็นสิวโดยเฉพาะ
  • เลือกคลีนซิ่งสูตรอ่อนโยน อีกหนึ่งปัญหาของคนที่เป็นสิว คือ แพ้ส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ ทำให้เกิดการระคายเคืองของผิว เพราะฉะนั้นจึงต้องเลือกคลีนซิ่งสูตรอ่อนโยน เพราะ จะผ่านการทดสอบการระคายเคืองจากแพทย์ผิวหนัง จึงปราศจากสารที่ก่อให้เกิดความระคายเคืองผิว เช่น แอลกอฮอล์ , น้ำหอม , พาราเบน , SLS , Mineral Oil เป็นต้น 
  • เลือกคลีนซิ่งที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน หรือ Oil free เนื่องจากจะทำให้ผิวมันเพิ่ม ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดสิว  
  • เลือกคลีนซิ่งที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน เนื่องจากสิ่งสกปรกมักเข้าไปอุดตันในรูขุมขนได้ง่าย ถ้าหากทำความสะอาดไม่ดีพอ 
Beauty tips: แนะนำเลือกคลีนซิ่งวอเตอร์ หรือ คลีนซิ่งเจล เพราะเนื้อมีความบางเบา อ่อนโยนต่อผิว  

สิ่งที่ควรมีในคลีนซิ่ง สำหรับคนเป็นสิว 

– ควรมีสารกำจัดเชื้อแบคทีเรีย ที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว เช่น Tea Tree Oil , Copper sulfate , Zinc gluconate , Centella Asiatica เป็นต้น

-ควรมีสารที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว และเคลียร์รูขุมขน เช่น Salicylic Acid เป็นต้น รวมไปถึงการมี นวัตกรรมที่ช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน เช่น นวัตกรรม Micellar หรือเลือกที่มีคำว่า Non-Comedogenic  

-ควรมีค่า pH Balance ของคลีนซิ่ง ที่ใกล้เคียงกับผิวของเรามากที่สุด คือ ค่า ph 4.5-5.7 เพื่อไม่ให้ทำลายเกราะป้องกันผิว ทำให้ผิวแข็งแรง 

-ควรมีสารให้ความชุ่มชื้น เพื่อไม่ให้ผิวแห้งตึงเกินไป เช่น  Hyaluronic Acid , Ceramides , Glycerin หรือ น้ำมันจากธรรมชาติ เช่น Squalane , Shea Butter , Jojoba เป็นต้น

วิธีเลือกคลีนซิ่งผิวแพ้ง่าย

ผิวแพ้ง่าย เป็นผิวที่ไวต่อการกระตุ้นของสิ่งเราภายนอก มากกว่าผิวประเภทอื่น เช่น ฝุ่นควัน สารเคมี สำลี เครื่องสำอาง สกินแคร์ต่าง ๆ ทำให้เกิดการแพ้ขึ้นกับผิว 

ลักษณะของผิวแพ้ง่าย คือ จะบอบบางเป็นพิเศษ ระคายเคืองได้ง่าย มักมีผื่นแดงบริเวณที่แพ้ อักเสบง่าย และเกิดอาการแห้งลอก ทำให้คัน ผิวแพ้ง่ายเกิดจาก การที่เกราะป้องกันผิวไม่แข็งแรง มักเกิดหลังจากการสัมผัสจากสิ่งที่ทำให้แพ้ 

สาว ๆ ผิวแพ้ง่าย จึงควรหลีกเลี่ยงที่จะสัมผัส กับสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการแพ้เหล่านี้ ต้องระมัดระวังในการเลือก เครื่องสำอาง ครีมบำรุง ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ล้างหน้ามากขึ้น ว่าไม่มีสารที่ก่อให้เกิดการแพ้ 

อาจเลือกผลิตภัณฑ์สูตรสำหรับผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ เพราะจะผ่านการทดสอบจากแพทย์ผิวหนังแล้ว ว่าก่อให้เกิดการแพ้น้อย แต่ถ้าหากใช้ผลิตภัณฑ์ใดแล้วเกิดอาการแพ้ ให้หยุดใช้ผลิตภัณฑ์นั้น ๆ และควรไปปรึกษาแพทย์ถึงสาเหตุของอาการแพ้ 

ยิ่งเรารู้สาเหตุของอาการแพ้ หรือ รู้ว่าแพ้สารตัวใด จะยิ่งทำให้เราเข้าใจปัญหาของผิว แล้วเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ได้เหมาะกับผิวมากขึ้น ดังนั้นการเลือกคลีนซิ่ง สำหรับคนผิวแพ้ง่าย ควรมีวิธีการเลือก ดังนี้

  • เลือกคลีนซิ่งสูตรสำหรับ ผิวแพ้ง่าย เพราะจะมีส่วนประกอบที่ไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองง่าย และ มีคุณสมบัติที่ช่วยปลอบประโลมผิวได้ดี 
  • เลือกคลีนซิ่งสูตรอ่อนโยน ปัญหาของผิวแพ้ง่าย คือ จะแพ้ส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ ทำให้เกิดการระคายเคืองของผิว เพราะฉะนั้นจึงต้องเลือกคลีนซิ่งสูตรอ่อนโยน เพราะ จะผ่านการทดสอบการระคายเคืองจากแพทย์ผิวหนัง จึงปราศจากสารที่ก่อให้เกิดความระคายเคืองผิว
Beauty tips: แนะนำเลือกคลีนซิ่งสูตรเจล หรือ คลีนซิ่งน้ำนม เพราะเนื้อบางเบา ไม่ไปรบกวนผิว และ ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวระคายเคือง 

สิ่งที่ควรมีในคลีนซิ่ง สำหรับผิวแพ้ง่าย

-ควรเลือกคลีนซิ่งที่ปราศจากสารที่ก่อให้เกิดความระคายเคืองผิว เช่น แอลกอฮอล์ , น้ำหอม , พาราเบน , SLS , Mineral Oil เป็นต้น 

-ควรเลือกคลีนซิ่งที่มีสารช่วยให้ผิวแข็งแรง เพราะเป็นการเสริมให้เกราะป้องกันผิวดีขึ้น ถ้าเกิดผิวแข็งแรง จะทำให้เกิดอาการแพ้น้อยลง สารที่ช่วยให้ผิวแข็งแรง เช่น Ceramella , Ceramides เป็นต้น

-ควรมีค่า pH Balance ของคลีนซิ่ง ที่ใกล้เคียงกับผิวของเรามากที่สุด คือ ค่า ph 4.5-5.7 เพื่อไม่ให้ทำลายเกราะป้องกันผิว ปลอบประโลมผิว ทำให้ผิวแข็งแรง

วิธีเลือกคลีนซิ่งผิวแห้ง

ผิวแห้ง จะมีลักษณะผิวแห้งตึง เพราะขาดความชุ่มชื้น ระคายเคืองง่าย ผิวแตก หรือ แห้งจนลอกเป็นขุยได้ง่าย ผิวแห้งเกิดจาก การที่ผิวผลิตน้ำมันออกมาน้อยกว่าปกติจากต่อมไขมันใต้ผิว เนื่องจากขาดกรดไขมันในชั้นผิว ที่ช่วยรักษาความชุ่มชื้น และช่วยสร้างเกราะป้องกันให้ผิวแข็งแรง 

เมื่อมีน้ำมันออกมาน้อยกว่าปกติ จึงทำให้ผิวแห้งตึงบริเวณนั้น และยังเกิดจากการสูญเสียน้ำ ผ่านต่อมเหงื่อมากเกินไป อันเนื่องมาจากสภาพอากาศ หรือ ความเครียด นั้นเอง 

ผิวแห้งสามารถจำแนกได้เป็น 2 ระดับ ดังนี้ 

1.ผิวแห้งขาดความชุ่มชื้น

2.ผิวแห้งแตกเป็นขุย จะมีอาการแห้งรุนแรงกว่า จนสังเกตถึงรอยแตกได้

โดยจะพบปัญหาผิวแห้งในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย และยิ่งอายุเพิ่มมากขึ้น ผิวจะยิ่งแห้งขึ้นด้วย 

ถ้าหากปล่อยให้ผิวแห้งเป็นระยะเวลานาน อาจนำมาสู่การเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรได้อีกด้วย  ดังนั้นการเลือกคลีนซิ่ง สำหรับคนผิวแห้ง ควรมีวิธีการเลือก ดังนี้

  • เลือกคลีนซิ่งที่เติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดี เพื่อช่วยให้ผิวไม่แห้งตึง ลดการแตกของผิว หรือเกิดขุยบนผิว อาจมีส่วนผสมของน้ำมัน น้ำมันจากธรรมชาติ หรือ สารให้ความชุ่มชื้น 
  • เลือกคลีนซิ่งสูตรอ่อนโยน เพราะ ผิวแห้งจะเกิดการระคายเคืองได้ง่าย ถ้าหากผิวยิ่งถูกรบกวน ผิวจะยิ่งแดง แห้งแตกมากขึ้น ควรเป็นคลีนซิ่งที่ผ่านการทดสอบการระคายเคืองจากแพทย์ผิวหนัง หรือ แบรนด์เวชสำอางค์ จะยิ่งมั่นใจได้ว่าอ่อนโยน
Beauty tips: แนะนำเลือกคลีนซิ่งสูตรออยล์ ครีม หรือ คลีนซิ่งบาล์ม เพราะจะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้ดี แถมยังไม่รบกวนผิวมากไป

สิ่งที่ควรมีในคลีนซิ่งสำหรับผิวแห้ง

-ควรมีสารให้ความชุ่มชื้นได้เพียงพอ ซึ่งสำคัญต่อคนผิวแห้งมาก เช่น  Hyaluronic Acid , Ceramides , Glycerin หรือ น้ำมันจากธรรมชาติ เช่น Squalane , Shea Butter , Jojoba เป็นต้น

-ควรเลือกคลีนซิ่งที่มีสารช่วยให้ผิวแข็งแรง ถ้าหากผิวแข็งแรง จะช่วยให้รอยแตก และ ขุยลดลงได้ เช่น Ceramella , Ceramides เป็นต้น

-ควรมีค่า pH Balance ของคลีนซิ่ง ที่ใกล้เคียงกับผิวของเรามากที่สุด คือ ค่า ph 4.5-5.7 เพื่อไม่ให้ทำลายเกราะป้องกันผิว ทำให้ผิวแข็งแรง

คำถามที่พบบ่อย

คลีนซิ่งใช้ตอนไหน?

คลีนซิ่งใช้ก่อนล้างหน้า ตอนที่ผิวยังมีเครื่องสำอาง หรือ กันแดดอยู่ เพื่อเป็นการเช็ดทำความสะอาดผิวหน้า จากคราบเครื่องสำอางค์ กันแดด ฝุ่น ควัน หรือ มลภาวะต่าง ๆ ที่เจอมาตลอดทั้งวัน ก่อนที่จะล้างตามด้วยโฟมล้างหน้าอีกครั้ง 

คลีนซิ่งต้องล้างออกไหม?

คลีนซิ่งควรล้างออกด้วยน้ำสะอาด ถึงแม้บางแบรนด์จะเคลมว่าใช้คลีนซิ่งตัวเดียวโดยไม่ต้องล้างน้ำซ้ำ แต่เพื่อเป็นการทำความสะอาดอย่างหมดจด จึงยังควรล้างออกด้วยน้ำสะอาด หรือ ล้างตามด้วยโฟมล้างหน้าอีกครั้ง 

คลีนซิ่ง กับโทนเนอร์ ต่างกันยังไง?

คลีนซิ่ง คือ ผลิตภัณฑ์เช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางค์ หรือ ที่รู้จักกันในชื่อ makeup remover คลีนซิ่งจะสามารถขจัดคราบเครื่องสำอางค์ ครีมกันแดด ที่กันน้ำ ฝุ่น ควัน มลภาวะต่าง ๆ ที่เกาะบนผิวหน้าได้

โทนเนอร์ คือ ผลิตภัณฑ์เช็ดทำความสะอาดสิ่งสกปรกบนใบหน้าที่ยังหลงเหลืออยู่ จะช่วยปรับค่า pH ผิวให้อยู่ในสภาวะปกติ พร้อมเปิดรับการบำรุงจากสกินแคร์ ช่วยเติมน้ำให้ผิว รูขุมขนกระชับ 

โทนเนอร์กับคลีนซิ่งใช้อะไรก่อน?

ใช้คลีนซิ่งเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอาง หรือ ครีมกันแดดก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด หรือ โฟมล้างหน้า ซับหน้าให้แห้ง จึงค่อยตามด้วยโทนเนอร์

ตอนเช้าต้องใช้คลีนซิ่งไหม?

ตอนเช้าต้องใช้คลีนซิ่งไม่จำเป็นต้องใช้คลีนซิ่ง เพราะตอนเช้าหลังจากเราตื่น ผิวเรายังไม่ได้ทาครีมกันแดด หรือ มีเครื่องสำอางค์บนใบหน้า สามารถใช้แค่โฟมล้างหน้าอย่างเดียวก็ถือว่าเพียงพอ 

อ้างอิง

https://skinkraft.com/blogs/articles/best-cleanser-for-oily-skin

https://www.dermstore.com/blog/different-types-of-cleansers/

https://www.mankind.co.uk/blog/grooming-editor/choosing-the-right-cleanser-skin-type/

Metina Duangboon

Metina Duangboon

ฮัลโหลล ยินดีที่ได้รู้จักสาวๆมิสซี่ทุกคนนะคะ มิ้งเป็น Beauty Editor ของ MizzyReview จบการศึกษาจากมหาวิทยาเชียงใหม่ มีประสบการณ์ทำงานร่วมกับนิตยสารออนไลน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Sephora Thailand Vogue thailand Woman Trueid มิ้งมาอัพเดตสินค้าบิวตี้ ความสวยความงาม งานผิว เทรนด์ต่างๆ แชร์คอนเท้นสำหรับสาวๆที่ชอบรีวิวเครื่องสำอาง เมคอัพ สกินแคร์เป็นชีวิตจิตใจ!ป้ายยาทุกคนได้ให้เลือกช้อป เลือกใช้สินค้าดีๆ ที่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดกันค่า!