รีวิว 10 น้ำมันใส่ผม ยี่ห้อไหนดี 2023 บำรุงผม ลดฟู [แนะนำ!]

สำหรับสาว ๆ ที่ชอบทำผม ไม่ว่าจะไดร์ หนีบ หรือดัดลอน ทำให้เส้นผมโดนความร้อนเป็นประจำ แถมยังโดนแสงแดด โดนมลภาวะต่าง ๆ อย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก ส่งผลให้ผมแห้งเสีย ผมชี้ฟู แตกปลาย จัดทรงได้ยากขึ้นไปอี๊กก ดังนั้น จึงควรมีไอเทมบำรุงผม มาเป็นตัวช่วยป้องกันความร้อนอย่าง ออยล์บำรุงผม ช่วยบำรุงผม ให้ผมนุ่ม เงางาม ลดฟู และไม่แห้งเสียได้ค่ะ

ซึ่งแน่นอนค่ะว่า ไอเทมบำรุงผม ที่มิสซี่มารีวิวกันในบทความนี้ ก็คือ น้ำมันใส่ผม นั่นเองค่าา โดยสาว ๆ คนไหนที่กำลังคิดหนักว่าจะเลือกซื้อ น้ำมันใส่ผม ยี่ห้อไหนดี วันนี้มิสซี่มาช่วยรีวิว น้ำมันใส่ผม แก้ผมเสียให้ตัดสินใจกันแล้วค่ะ! ถ้าสาว ๆ อยากรู้ว่า ออยล์บํารุงผม ยี่ห้อไหนดี น้ำมันใส่ผม ยี่ห้อไหนหอม ห้ามพลาดค่า!

TOP 3 น้ำมันใส่ผมที่ดีที่สุด

#3 Schwarzkopf Extra Care SOS Hydro Elixir

Schwarzkopf Extra Care SOS Hydro Elixir

ราคา 299 บาท

ประโยชน์ของ น้ำมันใส่ผม

ช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง

ออยล์ใส่ผม ช่วยให้ผมสุขภาพดี แข็งแรงขึ้น ด้วยการลดการแตกหักของเกล็ดผม จึงช่วยลดผมเปราะบางหักง่าย รวมถึงช่วยลดผมฟูด้วยค่ะ 

ช่วยฟื้นฟูเส้นผมที่แห้งเสีย

การใช้น้ำมันบำรุงผมเป็นประจำ ช่วยให้ผมให้กลับมาดูสวย เงางาม และมีชีวิตชีวาอีกครั้ง

ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม 

เพราะออยล์บำรุงผม เต็มไปด้วย วิตามิน E และ กรดไขมันที่ดีต่อผม จึงช่วยเคลือบกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี ทำให้ผมนุ่มลื่น และป้องกันการชี้ฟูได้

ช่วยปกป้องผมจากแสงแดด และความร้อน 

เนื่องจากการทาน้ำมันใส่ผม จะช่วยเคลือบเปลือกผม และสร้างชั้นป้องกันให้กับแกนเส้นผม เมื่อใช้ร่วมกับสเปรย์ฉีดผมกันความร้อน จะทำให้ผมของเรามีความแข็งแรงมากขึ้น และไม่เปราะบางได้ง่าย จากการใช้ไดร์เป่าผม หรือเครื่องหนีบผมเป็นประจำ รวมไปถึงการออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานานด้วยค่ะ

ช่วยกระตุ้นการเกิด และการเจริญเติบโตของเส้นผมใหม่ 

โดยการนำเทคนิคการนวดมาใช้กับน้ำมันใส่ผม ซึ่งจะช่วยเพิ่มการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้สามารถนำสารอาหารต่าง ๆ ไปยังบริเวณรอบ ๆ หนังศีรษะได้อย่างทั่วถึง และยังมีส่วนช่วยในการบรรเทาความเครียดที่เกิดจากปัญหาผมร่วงได้อีกด้วยค่ะ

ช่วยเพิ่มความเป็นประกาย ความเงางามให้กับเส้นผม 

เพราะออยล์บำรุงผม จะเป็นเนื้อ oil-based ซึ่งจะมีความเงา สามารถทำให้ผมดูสวย สุขภาพดี และดูมีมิติมากขึ้น เหมือนการใช้เซรั่มบำรุงผมเลยค่ะ

ตารางเปรียบเทียบ “น้ำมันใส่ผม ยี่ห้อไหนดี”

ชื่อสินค้า

Olaplex No.7 Bonding Oil

Mise En Scene Perfect Serum

Schwarzkopf Extra Care SOS Hydro Elixir

Kerastase Elixir Ultime Oil

Dove Intense Repair Daily Hair Vitamin

L’Oreal Elseve Extraordinary Oil Botanical Hair Oil

Oriental Princess Cuticle Professional Hair Care

Yves Rocher BHC V2 Reparation Anti Breakage Serum

OGX Argan of Morocco Penetrating Oil

Bualuang Hair Coat Natural Herbs

รูปสินค้า

Laneige Neo Cushion Matte SPF 42 PA+++
Jovina Everyday Perfecting Cushion Long Wear SPF25 PA+++
Maybelline New York Fit Me Oil Control Cushion Matte+Poreless
The Face Shop Yehwadam hwansaenggo BB Cushion SPF50+ PA+++
4U2 Sahara Soft Matte Cushion SPF50 PA++++
ETUDE Double Lasting Cushion Glow SPF50+/PA+++
Innisfree No Sebum Powder Cushion SPF 29++ PA+++
Bbia Never Die Cushion
Rom&nd Nu Zero Cushion
Lilybyred Fitting Glow Cushion SPF 30 PA+++

คุณสมบัติ

  • ป้องกันความร้อนได้

  • กู้ผมแห้งเสีย ชี้ฟูดีมากกก

  • ซึมไว

  • เหมาะกับคนทำสีผม

  • กลิ่นหอมดอกไม้

  • บำรุงผมแตกปลายดี

  • ไม่เหนียว

  • กู้ผมแห้งขาดน้ำได้ดีมาก

  • ช่วยลดผมขาดร่วง

  • กลิ่นหอมหรู หอมแพง

  • ช่วยบำรุงผมเร่งด่วน

  • ผมนุ่มขึ้นมาก

  • กลิ่นหอมอ่อน ๆ

  • พกพาสะดวก

  • แบบแคปซูล แบ่งใช้ง่าย

  • ไม่ทิ้งความเหนียวไว้บนผม

  • ซึมเร็ว

  • กลิ่นหอมอ่อน ๆ

  • แก้ผมเสียได้ทุกประเภท

  • ปกป้องผมจากความร้อน

  • ลดผมชี้ฟู

  • แก้ผมเสีย

  • เหมาะกับใช้ก่อนหนีบผม

  • ผมนุ่มขึ้น

  • ไม่ทดลองผลิตภัณฑ์กับสัตว์

  • ไม่เหนอะหนะ

  • ผมมีน้ำหนักขึ้น

  • ปลายผมเรียบลื่น

  • กลิ่นหอมอ่อน ๆ

  • ราคาถูกและดี

ราคาเต็ม

1,400 บาท

379 บาท

299 บาท

1,595 บาท

59 บาท

349 บาท

395 บาท

549 บาท

329 บาท

80 บาท

ปริมาณ

30 ml

80 ml

80 ml

100 ml

6 แคปซูล

100 ml

125 ml

120 กรัม

100 ml

85 ml

ตกหน่วยละ

46.6 บาท

4.7 บาท

3.7 บาท

15.9 บาท

9.8 บาท

3.4 บาท

3.1 บาท

1.6 บาท

3.2 บาท

0.9 บาท

ความคุ้มค่า

เช็คส่วนลดที่

จะเลือกซื้อ น้ำมันใส่ผม ยี่ห้อไหนดี 2566

1. น้ำมันใส่ผม โดยรวมที่ดีที่สุด : Olaplex No.7 Bonding Oil

Olaplex No.7 Bonding Oil น้ำมันใส่ผม ยี่ห้อไหนดี

ราคา 1,400 บาท

ข้อดี
+ ช่วยแก้ผมเสีย ป้องกันความร้อน
+ ซึมเข้าสู่เส้นผมได้อย่างรวดเร็ว
+ มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ

ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างสูง

น้ำมันใส่ผมอันดับ 1 มิสซี่ยกให้ Olaplex ตัวนี้เลยค่ะ โดยมี Bis-aminopropyl Diglycol Dimaleate ที่จะช่วยแก้ผมเสียอย่างหนักจากความร้อน และการใช้สารเคมี พร้อมป้องกันความร้อน ส่วนสารสกัดหลักเป็นน้ำมันจากเมล็ดองุ่น และน้ำมันจากชาเขียว ที่จะช่วยบำรุงผมให้กลับมามีสุขภาพดี ไม่ขาดง่าย ลดฟู และผมนุ่มขึ้น 

ตัวออยล์บำรุงผมจะมีเนื้อบางเบา แต่มีความเข้มข้นมากกก ซึมเข้าสู่เส้นผมได้อย่างรวดเร็ว ไม่ทิ้งความเหนียวไว้ที่ผม ใครผมแห้งเสียขั้นสุด ต้องการบำรุงแบบเริ่ด ๆ กำลังเลือกซื้อ น้ำมันใส่ผม ยี่ห้อไหนดี มิสซี่แนะนำเซรั่มบำรุงผม แก้ผมเสียตัวนี้เลยค่า เลิศสมราคาจริง ๆ ค่ะ

ปริมาณ 30 ml : ราคา 1,400 บาท (ตก ml ละ 46.67 บาท)

จุดเด่นแก้ผมเสียและบำรุงผมแห้งเสียขั้นสุดจากความร้อน และการใช้สารเคมี ให้กลับมามีสุขภาพดี พร้อมป้องกันความร้อนจากที่หนีบผม
ส่วนประกอบสำคัญGrape Seed Oil, Fermented Green Tea Oil
เหมาะกับผมแห้งเสียขั้นสุด

2. ออยล์บำรุงผมเกาหลีที่ดีที่สุด : Mise En Scene Perfect Serum

Mise En Scene Perfect Serum น้ำมันใส่ผม ยี่ห้อไหนดี

ราคา 379 บาท

ข้อดี
+ มีกลิ่นหอมดอกไม้จาง ๆ
+ ฟื้นฟูผมเสียได้แบบเร่งด่วน
+
เน้นสารสกัดจากธรรมชาติ

ข้อควรพิจารณา
– ถ้าใช้เยอะไปอาจจะเหนอะหนะ

สาว ๆ ที่ตามหาเซรั่มบำรุงผมหอม ๆ มิสซี่แนะนำ ออยล์ใส่ผม mise en scene ตัวนี้เลย บอกเลยว่าฮอตมากก เพราะรีวิวดี รีวิวเยอะ ใครได้ลองก็ปลื้มกันทุกคน ซึ่งตัวนี้จะช่วยแก้ผมเสียได้เร่งด่วนภายใน 3 วัน! เหมาะกับคนที่ทำสีผม หรือผมแห้งชี้ฟูขั้นสุด ช่วยลดฟู ให้ปลายผมไม่พันกันค่ะ

โดยน้ำมันบำรุงผมตัวนี้ มีสารสกัดจากน้ำมันธรรมชาติ 7 ชนิด ที่จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เงางาม ลดความหยาบกร้านให้เส้นผม บำรุงผมแตกปลายให้ดีขึ้น ใครมีปัญหาผมแห้งมาก กำลังเลือกซื้อ น้ำมันใส่ผม ยี่ห้อไหนดี แนะนำ mise en scene ตัวนี้เลย เป็นน้ำมันใส่ผม แก้ผมเสียที่ดีมากจริง ๆ ค่ะ รับรองว่าปังค่าา 

ปริมาณ 80 ml : ราคา 379 บาท (ตก ml ละ 4.73 บาท)

จุดเด่นสูตรเข้มข้น ช่วยฟื้นบำรุงผมแห้งเสียได้ภายใน 3 วัน
ส่วนประกอบสำคัญArgan oils, Camellia oil, Olive oil, Jojoba oil, Coconut oil, Marula oil, Apricot oil
เหมาะกับผมแห้งชี้ฟู / ผมแตกปลาย 

3. น้ำมันใส่ผม แก้ผมเสียที่ดีที่สุด : Schwarzkopf Extra Care SOS Hydro Elixir

Schwarzkopf Extra Care SOS Hydro Elixir น้ำมันใส่ผม ยี่ห้อไหนดี

ราคา 299 บาท

ข้อดี
+ ไม่เหนียวเหนอะหนะ
+ ช่วยลดผมขาดร่วง
+ กู้ผมแห้งขาดน้ำได้ดีมาก

ข้อควรพิจารณา
– คนผมมันมาก ๆ ควรใช้แค่บริเวณปลายผม

น้ำมันใส่ผม schwarzkopf ตัวนี้ เหมาะกับคนที่ชอบดัดผม หรือผมทำสี เพราะน้องเขาสามารถป้องกันความร้อนได้ อัดแน่นไป Double Hyaluronic Acid ที่จะช่วยบำรุงผมได้อย่างล้ำลึก ซึมซาบเข้าสู่เส้นผมได้เร็ว ไม่ทิ้งความเหนอะหนะไว้ที่ผม และช่วยให้ผมเงางาม ดูสุขภาพดี

เมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง ออยล์ใส่ผม schwarzkopf จะช่วยบำรุงรากผมให้แข็งแรงขึ้น ลดผมร่วง ป้องกันผมบางได้ค่ะ ตัวนี้มีกลิ่นหอมจาง ๆ สาว ๆ ที่ผมโดนความร้อนประจำ จะซื้อ น้ำมันใส่ผม ยี่ห้อไหนดี ต้องไปลองตัวนี้ให้ได้เลยค่ะ

ปริมาณ 80 ml : ราคา 299 บาท (ตก ml ละ 3.74 บาท)

จุดเด่นกันความร้อนได้ ซึมซาบเข้าสู้เส้นผมได้รวดเร็ว บำรุงผมแห้งเสียได้อย่างล้ำลึก 
ส่วนประกอบสำคัญTriple amino acid, 19 Actives
เหมาะกับผมแห้งเสียขั้นสุด

4. น้ำมันใส่ผมหอมที่สุด : Kerastase Elixir Ultime Oil

Kerastase Elixir Ultime Oil น้ำมันใส่ผม ยี่ห้อไหนดี

ราคา 1,595 บาท

ข้อดี
+ ช่วยบำรุงผมเร่งด่วน
+ เพิ่มความเงางามให้เส้นผม
+ กลิ่นหอมหรู หอมแพง ติดผมยาวนาน

ข้อควรพิจารณา
– ราคาค่อนข้างสูง

ถ้าสาว ๆ ถามหา น้ำมันใส่ผม ยี่ห้อไหนหอม ก็ต้องตัวนี้เลยค่ะ Kerastase Elixir Ultime Oil รีวิวว่ากลิ่นหอมหรูดูแพงมาก ๆ แถมช่วยกู้ผมเสียได้แบบติดจรวดเลย โดยมีสารสกัดออยล์ล้ำค่า 5 ชนิด เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ที่จะช่วยบำรุงผมให้กลับมามีสุขภาพดี ป้องกันความร้อนขณะไดร์ผม แก้ผมแห้งเสีย แตกปลาย กลับมาเป็นผมนุ่มสลวย และเงางาม

น้ำมันใส่ผม Kerastase บอกเลยว่าปังมาก เรียกได้ว่า เป็นทั้งไอเทมแก้ผมเสีย และช่วยบำรุงผมในตัวเดียวเลยค่ะ ใครอยากบำรุงผมแบบเร่งด่วน จะซื้อ น้ำมันใส่ผม ยี่ห้อไหนดี มิสซี่แนะนำ น้ำมันใส่ผม kerastase ตัวนี้เลยค่ะ เพราะน้องเขาปังจริงไม่จกตา!

ปริมาณ 100 ml : ราคา 1,595 บาท (ตก ml ละ 15.95 บาท)

จุดเด่นช่วยฟื้นฟูผมแห้งเสียได้อย่างเร่งด่วน และช่วยบำรุงผมให้มีสุขภาพดี ผมเงางาม มีชีวิตชีวาขึ้น
ส่วนประกอบสำคัญArgan oil, Marula oil, Maize oil, Pracaxi oil, Camellia oil
เหมาะกับผมธรรมดา /ผมแห้งเสีย

5. น้ำมันใส่ผมหลังสระที่ดีที่สุด : Dove Intense Repair Daily Hair Vitamin

Dove Intense Repair Daily Hair Vitamin น้ำมันใส่ผม ยี่ห้อไหนดี

ราคา 59 บาท

ข้อดี
+ เป็นแบบแคปซูล แบ่งใช้ง่าย สะดวก
+ มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ
+ ราคาถูก

ข้อควรพิจารณา
– ผมหนา ต้องใช้มากกว่า 1 แคปซูล

น้ำมันใส่ผม โดฟ ตัวนี้จะพิเศษกว่ายี่ห้ออื่น ๆ ตรงที่มาในรูปแบบแคปซูล ใช้ง่าย พกพาสะดวกมากกก ใช้หลังสระผมในตอนที่ผมแห้งหมาด ๆ มี Botanic Extract จะช่วยบำรุงผมที่แห้งเสีย หรือผมอ่อนแอได้อย่างล้ำลึก พร้อมเพิ่มความแข็งแรงให้ผม ปกป้องผมจากแสงแดดและมลภาวะ

ตัวนี้มี Vitamin E เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้เส้นผม ผมนุ่ม เนื้อบางเบา แถมมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ตามเอกลักษณ์ของโดฟด้วยค่ะ สาว ๆ ที่ไม่ชอบความเหนอะหนะ กำลังเลือกซื้อ น้ำมันใส่ผม ยี่ห้อไหนดี ต้องไปโดนตัวนี้เลยค่าา

ปริมาณ 6 ml (6 แคปซูล) : ราคา 59 บาท (ตก ml ละ 9.8 บาท)

จุดเด่นใช้สะดวก บำรุงผมให้แข็งแรง ปกป้องผมจากแสงแดด และมลภาวะ 
ส่วนประกอบสำคัญBotanic Extract, Mineral Oil, Vitamin E
เหมาะกับผมแห้งเสีย /ผมที่โดนทำร้ายจากแสงแดดและมลภาวะเป็นประจำ

6. น้ำมันใส่ผม บำรุงผมที่สุด : L’Oreal Elseve Extraordinary Oil Botanical Hair Oil

L'Oreal Elseve Extraordinary Oil Botanical Hair Oil น้ำมันใส่ผม ยี่ห้อไหนดี

ราคา 349 บาท

ข้อดี
+ มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ สดชื่น ไม่ฉุน
+ เนื้อบางเบา ซึมเร็ว ไม่ทิ้งความเหนียวไว้บนผม
+ มีหลายสูตร เหมาะกับทุกสภาพผม

ข้อควรพิจารณา
– ต้องใช้มากกว่าปกติ สำหรับผมเสียหนัก ๆ

หาสาว ๆ ตามหาน้ำมันใส่ผม หอมๆ ล่ะก็ ต้องโดน น้ำมันใส่ผม ลอรีอัล ตัวนี้เลย เป็นน้ำมันใส่ผม loreal สีเขียว สูตร Botanical ค่ะ ซึ่งตัวนี้เป็นน้ำมันสกัดจากเปลือกส้ม และดอกลาเวนเดอร์ฝรั่งเศส เนื้อบางเบา แต่ช่วยบำรุงผมไม่ให้แห้งเสียได้อย่างล้ำลึก ปกป้องผมจากความร้อน ทำให้ผมนุ่มขึ้น 

เป็นน้ำมันใส่ผม ผมฟูต้องหลงรักเลย เพราะใช้บำรุงผมระหว่างวันได้ ช่วยลดฟูดีมากค่ะ มีให้เลือกหลายสูตร ที่เด่น ๆ คือ น้ำมันใส่ผม loreal สีเขียว สำหรับผมแห้ง / สีส้ม สำหรับผมเงางาม ลดผมร่วง / สีชมพู สำหรับผมนุ่มลื่น น้องเขากลิ่นหอมมากกก จะเป็นกลิ่นหอมแบบเฟรช ๆ สาว ๆ ที่อยากมีผมหอมตลอดวัน มองหา น้ำมันใส่ผม ยี่ห้อไหนดี ต้องไปตำตัวนี้เลยน้าา

ปริมาณ 100 ml : ราคา 349 บาท (ตก ml ละ 3.49 บาท)

จุดเด่นเนื้อบางเบา แต่บำรุงผมได้อย่างล้ำลึก ปกป้องผมจากความร้อนได้ กลิ่นหอมติดทนนาน
ส่วนประกอบสำคัญBotanical oil
เหมาะกับผมแห้งเสีย

7. น้ำมันใส่ผม เคราตินที่ดีที่สุด : Oriental Princess Cuticle Professional Hair Care

Oriental Princess Cuticle Professional Hair Care น้ำมันใส่ผม ยี่ห้อไหนดี

ราคา 395 บาท

ข้อดี
+ บำรุงผมได้ถึงโครงสร้างผมชั้นใน
+ แก้ผมเสียได้ทุกประเภท
+ หาซื้อง่าย

ข้อควรพิจารณา
– คนผมมันง่าย ไม่ควรใช้เยอะเกินไป

น้ำมันใส่ผม oriental princess รีวิวว่าเป็นน้ำมันใส่ผม เคราติน ที่สามารถบำรุงผมที่แห้งเสียจากทุกปัญหาเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นความร้อน แดด หรือมลภาวะ เพราะใช้เทคโนโลยี Natural Keratin Repair Plus E ช่วยฟื้นบำรุงเส้นผมเข้าไปถึงโครงสร้างชั้นใน ให้ผมกลับมามีชีวิตอีกครั้ง

อีกทั้งออยล์ใส่ผมตัวนี้ ยังมีส่วนผสมของ Pro Vitamin B5 และสารสกัดจากธรรมชาติถึง 10 ชนิด สาว ๆ ที่ผมแห้งเสียแบบจัด ๆ อยากบำรุงแบบล้ำลึก จะใช้ น้ำมันใส่ผม ยี่ห้อไหนดี มิสซี่แนะนำให้รีบไปสอย น้ำมันใส่ผม ออเรนทอล ตัวนี้ด่วนเลยค่าา

ปริมาณ 125 ml : ราคา 395 บาท (ตก ml ละ 3.16 บาท)

จุดเด่นเป็นเคราติน สามารถเข้าบำรุงเส้นผมได้ถึงโครงสร้างชั้นใน ปกป้องผมจากความร้อน แสงแดด และมลภาวะ
ส่วนประกอบสำคัญสารสกัดจากธรรมชาติ 10 ชนิด, Keratin, D-Panthenol, Pro Vitamin B5
เหมาะกับผมแห้งเสียขั้นสุด

8. น้ำมันใส่ผม ป้องกันความร้อนที่ดีที่สุด : Yves Rocher BHC V2 Reparation Anti Breakage Serum

Yves Rocher BHC V2 Reparation Anti Breakage Serum น้ำมันใส่ผม ยี่ห้อไหนดี

ราคา 549 บาท

ข้อดี
+ แก้ผมเสีย แห้งกรอบ ให้กลับมาชุ่มชื้น
+ กลิ่นหอมอ่อน ๆ
+ เหมาะกับใช้ก่อนหนีบผม

ข้อควรพิจารณา
– ต้องใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่องถึงจะเห็นผลชัดเจน

จะพลาดแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องไอเทมเกี่ยวกับการดูแลผมไปไม่ได้ สำหรับ ออยล์ใส่ผม Yves Rocher ตัวนี้ ส่วนผสมหลักจะเป็น Jojoba oil ซึ่งเป็นสารสกัดสารพัดประโยชน์ ช่วยบำรุงผมแห้งเสียขั้นสุด แก้ผมเสีย ผมกรอบ จนเสี่ยงต่อการขาดหลุดร่วง ให้กลับมาชุ่มชื้น สุขภาพผมดีขึ้น ผมนุ่มขึ้น

อีกทั้ง ออยล์บำรุงผมตัวนี้ ยังช่วยปกป้องเส้นผมจากความร้อนได้ด้วย และเมื่อใช้เป็นประจำ ผมจะแข็งแรงเพิ่มขึ้น 20 เท่า สาว ๆ ที่ผมแห้งเสียจนเกินเยียวยา จะซื้อ น้ำมันใส่ผม ยี่ห้อไหนดี หรือ สเปรย์ฉีดผมกันความร้อน ยี่ห้อไหนดี ออยล์บำรุงผมตัวนี้เริ่ดมากก!

ปริมาณ 100 ml : ราคา 549 บาท (ตก ml ละ 5.49 บาท)

จุดเด่นฟื้นบำรุงผมแห้งเสียขั้นรุนแรงให้ดีขึ้น ปกป้องผมจากความร้อนได้ เมื่อใช้อย่างต่อเนื่องผมจะแข็งแรงขึ้น 20 เท่า
ส่วนประกอบสำคัญJojoba oils, กรดไขมัน Omega 6 และ 9, Agave Fructans
เหมาะกับผมแห้งเสียขั้นสุด

​​​​9. น้ำมันใส่ผม Argan oil ที่ดีที่สุด : OGX Argan of Morocco Penetrating Oil

OGX Argan of Morocco Penetrating Oil น้ำมันใส่ผม ยี่ห้อไหนดี

ราคา 329 บาท

ข้อดี
+ ไม่ทดลองผลิตภัณฑ์กับสัตว์
+ หนังศีรษะไม่มัน
+ เนื้อเข้มข้นแต่ไม่เหนอะหนะ

ข้อควรพิจารณา
– คนที่ผมเสียหนัก ๆ จากการทำเคมี ต้องใช้เยอะกว่าปกติ

Argan oil ใส่ผม จาก OGX ตัวนี้ เป็นน้ำมันใส่ผม หอมๆ ที่มีอาร์แกนออยล์จากโมร็อกโก ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น Miracle oil เพราะประโยชน์สารพัดมากก โดยมี Vitamin E จากธรรมชาติ จะช่วยฟื้นบำรุงผม แก้ผมเสียให้แข็งแรง ลดฟู เพิ่มความเงางามให้ผม หลังใช้จะรู้สึกได้เลยว่าผมนุ่มขึ้น ดูมีน้ำหนักขึ้น

ความดีความชอบอีกอย่างหนึ่งก็คือ ออยล์ใส่ผมตัวนี้ จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตของหนังศีรษะได้ ช่วยเร่งผมยาว ลดผมร่วงได้ด้วย ใครกำลังเลือกซื้อ น้ำมันใส่ผม ยี่ห้อไหนดี ตัวนี้คือกลิ่นหอม ผมนุ่ม หนังศีรษะไม่มัน น้องเขาดีไม่แพ้ใครเลยค่ะ!

ปริมาณ 100 ml : ราคา 329 บาท (ตก ml ละ 3.29 บาท)

จุดเด่นบำรุงผมและหนังศีรษะให้แข็งแรง ลดฟู เพิ่มความเงางามให้ผม และช่วยเร่งผมยาว
ส่วนประกอบสำคัญArgan oil, Vitamin E
เหมาะกับผมแห้งชี้ฟู ผมขาดความเงางาม

10. น้ำมันใส่ผม ถูกและดีที่สุด : Bualuang Hair Coat Natural Herbs

Bualuang Hair Coat Natural Herbs น้ำมันใส่ผม ยี่ห้อไหนดี

ราคา 80 บาท

ข้อดี
+ ราคาถูกมาก
+ มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ
+ ปลายผมเรียบลื่น ไม่เด้งชี้ฟู

ข้อควรพิจารณา
– ถ้าใช้เยอะเกินไป ผมจะดูมัน

มาถึงรีวิวของ น้ำมันใส่ผม บัวหลวง ในตำนานกันบ้างค่ะ ตัวนี้ขึ้นชื่อเรื่องถูกและดี เป็นน้ำมันใส่ผมสกัดจากสมุนไพร มี Vitamin E ช่วยฟื้นฟูเส้นผมที่แห้ง แตกปลาย หรือชี้ฟู ให้กลับมาเงางาม มีน้ำหนัก จัดทรงง่าย ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้เลย

กลิ่นของตัวนี้ จะเป็นกลิ่นหอมอ่อน ๆ กลิ่นจะคล้ายกับร้านทำผมเลยค่ะ แนะนำให้ใช้ตอนผมหมาด ผมจะเงา ตรงสวย ไม่พันกัน ใครที่กำลังตัดสินใจซื้อ น้ำมันใส่ผม ยี่ห้อไหนดี ตัวนี้ถูกและดี ไม่ผิดหวังแน่นอนค่าา

ปริมาณ 85 ml : ราคา 80 บาท (ตก ml ละ 0.94 บาท)

จุดเด่นถูกและดี ช่วยบำรุงผมให้เงางามตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ ผมดูตรงสวย ไม่พันกัน
ส่วนประกอบสำคัญVitamin E
เหมาะกับผมแห้งชี้ฟู ผมแตกปลาย ผมขาดความเงางาม

วิธีเลือกซื้อ “น้ำมันใส่ผม”

เลือกน้ำมันใส่ผมจากลักษณะผม

  • ผมที่ไม่ผ่านการทำเคมีใด ๆ

คนที่ไม่เคยทำเคมีใด ๆ กับผม ผมจะไม่ค่อยแห้งเสียมากค่ะ แต่อาจจะโดนความร้อนจากแดด หรือมลภาวะ ยิ่งถ้าเป็นสาว ๆ ผมยาว ผมอาจแตกปลาย เนื่องจากน้ำมันจากหนังศีรษะ ไปเลี้ยงปลายผมไม่พอ เพราะฉะนั้น แนะนำให้เลือกน้ำมันบำรุงผมที่มีความบางเบา เพื่อไม่ให้หนักผมเกินความจำเป็น และเลือกที่มีคุณสมบัติในการปกป้องผม ทั้งจากความร้อน แสงแดด และมลภาวะได้

  • ผมยืดตรง

ลักษณะของผมจะมีความเรียบตรง ไม่ค่อยชี้ฟู เป็นทรงสวย แต่ผมลักษณะของผมจริง ๆ ก็คือ จะมีความแห้ง และแตกปลายหนักมากกก แถมเปราะขาดง่าย จึงควรเลือกใช้ออยล์ใส่ผม ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ลดผมแตกปลาย พร้อมกับมีสารช่วยบำรุงผมให้ผมเงางาม ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น และมีมิติมากขึ้น

  • ผมดัดลอน

คนที่มีผมดัดลอน มักจะมีเส้นผมที่มีความบอบบาง และมีความชุ่มชื้นน้อยกว่าคนที่มีผมตรง โดยน้ำมันที่ออกมาจากหนังศีรษะของคนที่มีผมดัดลอน จะเคลื่อนที่ได้ช้า และยากกว่าคนที่มีผมตรง ส่งผลให้เส้นผมมีความเปราะบาง ไร้ชีวิตชีวา และเกิดการแตกปลายได้ง่ายมากขึ้น

ดังนั้น น้ำมันใส่ผมที่เหมาะสำหรับคนที่มีผมดัดลอน คือ น้ำมันบำรุงผมสำหรับผมแห้ง เช่น Olaplex No.7 Bonding Oil, Yves Rocher Reparation Repair Antibreakage Serum เป็นต้น เพราะเป็นน้ำมันที่มีส่วนผสมแก้ผมเสีย ทำให้สามารถเติมความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม ช่วยฟื้นฟูผมที่แห้งเสีย และลดผมชี้ฟู ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังสามารถช่วยสร้างลอนผมที่เรียบลื่น และเป็นประกายเงางามได้อีกด้วยค่ะ

  • ผมทำสี

คนที่ผมทำสี ลักษณะผมจะแห้ง แตกปลาย เพราะเคมีกัดสีผม ยิ่งหากมีการกัดสีผม ผมจะมีความแห้งกรอบ บอบบางมากถึงมากที่สุด ทำให้ขาดง่าย ผมจะมีความสากและกระด้างมาก ๆ ขาดความเงางาม ซึ่งทำให้ผมจะพันกัน หวียาก 

ฉะนั้น แนะนำให้เลือกน้ำมันใส่ผมที่เข้มข้นมากเป็นพิเศษ หรือเป็นออยล์บำรุงผม สำหรับผมทำสีโดยเฉพาะ จะสามารถเข้าไปบำรุงผมได้อย่างล้ำลึก เติมความชุ่มชื้น และเพิ่มความเงางาม

2. เลือกน้ำมันใส่ผมจากเนื้อผลิตภัณฑ์

  • ออยล์บำรุงผม เนื้อบางเบา เช่น ตัว Olaplex No.7 Bonding Oil จะมีความเบาบาง ไม่เหนียวเหนอะหนะ เหมาะกับผมมันง่าย ผมเส้นเล็ก
  • ออยล์ใส่ผม เนื้อเข้มข้น เหมาะสำหรับคนผมหนา และผมแห้งเสียเป็นพิเศษ เพราะช่วยให้ผมดูเงางาม และบำรุงผมได้ขั้นสุดนั่นเอง

ทั้งนี้ น้ำมันใส่ผมแต่ละยี่ห้อ จะมีเนื้อที่แตกต่างกัน เพื่อแก้ปัญหาที่แตกต่างกัน ส่วนใหญ่เป็นการบำรุงผม แก้ปัญหาผมแห้งเสีย แต่บางยี่ห้อจะเป็นการจัดแต่งผม เพื่อลดฟู ดังนั้น ลักษณะเนื้อออยล์แต่ละประเภทก็จะมีความหนัก และความเบาบางแตกต่างกัน เพื่อน ๆ ก็สามารถเลือกได้ตามความชอบเลยค่าา

3. เลือกน้ำมันใส่ผมส่วนผสม

การพิจารณาส่วนผสม ควรดูว่าแต่ละยี่ห้อให้สารบำรุงอะไรมาบ้าง เพื่อเข้าไปช่วยแก้ปัญผมของเราให้ตรงจุด และโดยสารสกัดจากพืช และดอกไม้จากธรรมชาติที่ช่วยบำรุงผมได้ เช่น 

  • เคราติน บำรุงผมแห้งเสียได้ล้ำลึก
  • น้ำมันอาร์แกน ผมนุ่มชุ่มชื้น ลดผมฟู แก้ผมเสีย 
  • น้ำมันมะพร้าว ป้องกันผมเสียจากความร้อน
  • น้ำมันโจโจ้บา เพิ่มความชุ่มชื้น
  • น้ำมันดอกคามิลเลีย เป็นโปรตีนบำรุงผม ช่วยให้ผมนุ่มลื่น เป็นต้น 

ซึ่งหากสาว ๆ คนไหน ชอบที่จะให้มีกลิ่นหอมติดผม ก็อาจจะเลือกแบบที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากดอกไม้ก็ได้ค่ะ 

วิธีใช้ น้ำมันใส่ผม

น้ำมันใส่ผมมีวิธีการใช้งานที่หลากหลาย เช่น การนำใช้ร่วมกับทรีทเม้นท์บำรุงผม การใช้น้ำมันใส่ผมก่อนการจัดแต่งทรงผม เป็นต้น โดยเราสามารถนำน้ำมันใส่ผมมาใช้งานได้ตั้งแต่ตอนหลังสระผม ไปจนถึงการจัดแต่งทรงผมในระหว่างวันเลยค่ะ

วิธีใช้น้ำมันใส่ผมขณะผมเปียกหมาด ๆ 

การชโลมน้ำมันใส่ผมลงบนเส้นผมที่เปียกเล็กน้อยก่อนไดร์ผม เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการจัดการกับปัญหาผมแห้งเสีย โดยผมที่มีความเปียกเล็กน้อย จะสามารถดูดซับน้ำมันใส่ผมได้ดีกว่าผมที่แห้งสนิทแล้ว ซึ่งวิธีการใช้น้ำมันใส่ผมก่อนไดร์ผม มีดังนี้

  • หลังจากสระผมแล้ว ให้นำผ้าขนหนูมาซับน้ำออกจากเส้นผมและหนังศีรษะให้เรียบร้อย โดยเริ่มลูบจากด้านบนลงด้านล่าง และไม่ควรที่จะขยี้ผมแบบแรง ๆ เนื่องจากจะทำให้ผมร่วง เส้นผมพันกัน และยังทำให้ผมไม่เป็นทรงในเวลาที่ผมแห้งด้วยค่ะ
  • ชโลมน้ำมันใส่ผม 2-3 หยด ลงบนผมที่เปียกหมาด ๆ โดยเน้นที่ปลายผมไปจนถึงตรงกลางเส้นผม
  • ใช้ไดร์เป่าผมให้แห้ง หรือจะปล่อยให้ผมแห้งเองตามธรรมชาติก็ได้

วิธีการใช้น้ำมันใส่ผมขณะผมแห้ง 

ใช้ออยล์บำรุงผมแค่ 2 – 3 หยดเท่านั้น ถูให้กระจายทั่วฝ่ามือ และชโลมน้ำมันใส่ผมที่ปลายผม หรือบริเวณที่ผมชี้ฟู จะทำให้เส้นผมของเราไม่พันกันจนยุ่งเหยิง และยังช่วยให้สามารถจัดแต่งทรงผมได้ง่ายขึ้น โดยน้ำมันใส่ผมจะช่วยเคลือบเปลือกของเส้นผมเอาไว้ และจะไม่ซึมเข้าไปในผม ทำให้สามารถช่วยเพิ่มประกายความเงางามให้กับเส้นผมของเราได้ทันทีหลังจากที่ใช้งาน

วิธีนี้ สามารถใช้บำรุงผมระหว่างวันได้ด้วย สามารถช่วยให้ผมของเราดูสวย เงางาม และมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น โดยนอกจากน้ำมันใส่ผมจะช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง และดูสวยสุขภาพดีอยู่ตลอดเวลาแล้ว ยังช่วยให้ทรงผมของเราไม่เสียทรงได้ง่ายอีกด้วยค่ะ

วิธีใช้น้ำมันใส่ผมในการหมักผม

การใช้น้ำมันใส่ผมในการหมักผม จะช่วยบำรุงผมแห้งเสีย และผมแตกปลายได้เป็นอย่างดี โดยเราจะต้องชโลมน้ำมันใส่ผมลงในบริเวณเส้นผมที่แห้งเสีย และหมักทิ้งไว้เป็นเวลาประมาณ 15-30 นาที หลังจากนั้นก็ไปสระผมให้สะอาด เพียงเท่านี้เส้นผมของเราก็จะได้รับการบำรุง ทำให้ผมมีความแข็งแรงมากขึ้น และยังสามารถช่วยฟื้นฟูผมที่แห้งเสียให้กลับมาดูมีชีวิตชีวาได้อีกครั้ง

วิธีใช้น้ำมันใส่ผมก่อนสระผม

การใช้น้ำมันใส่ผมชโลมลงบนผม และทิ้งไว้เป็นเวลาประมาณ 10 นาที ก่อนสระผม จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และสามารถบำรุงเส้นผมของเราได้อย่างล้ำลึก โดยน้ำมันใส่ผมจะช่วยเคลือบแกนเส้นผมให้ยังคงมีความชุ่มชื้นจากน้ำมันธรรมชาติของหนังศีรษะอยู่ และทำให้เส้นผมของเรามีความนุ่มลื่นมากขึ้นด้วยค่ะ

วิธีใช้น้ำมันใส่ผมก่อนย้อมและกัดสีผม

การย้อม และการกัดสีผม จะทำให้เส้นผมเกิดความเปราะบาง แห้ง และแตกหักได้ง่ายมากขึ้น ดังนั้น เราจึงควรใช้น้ำมันใส่ผมหมักผมทิ้งไว้เป็นเวลาประมาณ 30 นาที ก่อน 1-2 วันที่จะย้อม หรือกัดสีผม เพื่อช่วยเพิ่มความแข็งแรง และความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม ก่อนที่จะไปเจอกับสารเคมีจากการย้อม และการกัดสีผม

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับน้ำมันใส่ผม

น้ำมันใส่ผม ดีไหม?

น้ำมันใส่ผมดีค่ะ เพราะช่วยแก้ผมเสีย ให้ผมนุ่ม ลดฟูได้ น้ำมันใส่ผมเป็นสิ่งที่สามารถช่วยบำรุงผมของเราให้มีความแข็งแรงมากขึ้น ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม ฟื้นฟูผมแห้งเสีย และสามารถช่วยลดผมชี้ฟูได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากน้ำมันใส่ผมจะช่วยบำรุงผมของเราให้นุ่มลื่น ดูสวย เงางาม และเป็นประกายแล้ว ยังช่วยปกป้องผมจากแสงแดด และความร้อนจากการจัดแต่งทรงผม ทำให้ผมของเราไม่เปราะบาง และแตกหักได้ง่ายอีกด้วยค่ะ

น้ำมันใส่ผม ใส่ตอนไหน?

เราสามารถใช้น้ำมันใส่ผมได้ขณะผมเปียกหมาด ๆ และผมแห้งค่ะ ตั้งแต่ตอนหลังสระผม ก่อนจัดแต่งทรงผม และหลังจัดแต่งทรงผม ไปจนถึงการนำน้ำมันใส่ผมมาบำรุงผมก่อนนอน และหากเราเลือกใช้น้ำมันใส่ผมที่มีส่วนผสมของน้ำมันที่มีเนื้อบางเบา เราก็ยังจะสามารถนำน้ำมันใส่ผมมาช่วยในการจัดแต่งทรงผมให้อยู่ทรง ดูสวย เงางาม และไม่ชี้ฟูในระหว่างวันได้อีกด้วยค่ะ

น้ำมันใส่ผม กับ เซรั่มบำรุงผม ต่างกันยังไง?

น้ำมันใส่ผม กับ เซรั่มบำรุงผม ต่างกันที่เนื้อผลิตภัณฑ์ ซึ่งเซรั่มจะเป็น Silicone-based ส่วนออยล์ใส่ผม เป็นเป็น Oil-based ค่ะ 

น้ำมันใส่ผม คือ ผลิตภัณฑ์ที่อุดมไปด้วยส่วนผสมของสารอาหารที่มีส่วนช่วยในการบำรุงเส้นผม และล็อกความชุ่มชื้นได้อย่างล้ำลึก สามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และฟื้นฟูผมที่แห้งเสียให้กลับมามีชีวิตชีวาได้อีกครั้ง ซึ่งจะแตกต่างจากเซรั่มบำรุงผมที่มีวิธีการใช้งานที่สะดวก และรวดเร็วกว่า เหมาะสำหรับคนที่ต้องการจะประหยัดเวลาในการบำรุง หรือจัดแต่งทรงผมให้ดูนุ่มลื่น สวย และเป็นประกายเงางาม

โดยเซรั่มบำรุงผม จะไม่สามารถเปลี่ยนโครงสร้างของเส้นผมได้ แต่จะช่วยเคลือบเส้นผมไว้เพียงแค่ภายนอกเท่านั้น เป็นตัวป้องกันความร้อนที่ดี ไม่เหนอะหนะ ช่วยปกป้องผมให้ไม่เปราะบางได้ง่ายจากแสงแดด และความร้อน

ใช้ออยล์บำรุงผมก่อนหนีบผมได้ไหม?

เราสามารถใช้น้ำมันบำรุงผมก่อนหนีบผมได้ค่ะ โดยการนำน้ำมันใส่ผมมาชโลมลงบนเส้นผม และหวีให้เรียบร้อยก่อนหนีบผม จะช่วยให้น้ำมันสามารถซึมเข้าสู่เส้นผมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจะทำให้เส้นผมไม่พันกันจนยุ่งเหยิง ส่งผลให้สามารถจัดแต่งทรงผมได้ง่ายมากขึ้น และยังช่วยปกป้องเส้นผมจากความร้อนของเครื่องหนีบผมได้อีกด้วยค่ะ

น้ำมันบำรุงผมจากธรรมชาติ มีอะไรบ้าง?

น้ำมันบำรุงผมจากธรรมชาติ มี น้ำมันมะพร้าว น้ำมันดอกคามิลเลีย น้ำมันโจโจ้บา น้ำมันอะโวคาโด น้ำมันอาร์แกน น้ำมันอัลมอนด์ เป็นต้น

จะมีส่วนผสมของสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อการบำรุงผมอยู่เป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่มักจะอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีคุณสมบัติในการช่วยปกป้องผม มีคุณค่าทางโภชนาการ และช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมใหม่ ซึ่งน้ำมันบำรุงผมจากธรรมชาติมีมากมายหลากหลายชนิดด้วยกัน 

น้ำมันใส่ผม ซื้อที่ไหน?

เราสามารถเลือกซื้อน้ำมันใส่ผมได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ตามช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ เช่น Shopee, Lazada หรือช่องทางออนไลน์อื่น ๆ ได้เลยค่ะ โดยจะมีทั้งโค้ดส่วนลด และโปรโมชั่นต่าง ๆ ให้เราได้เลือกใช้กันด้วยนะคะ

เป็นยังไงกันบ้างคะ กับออยล์ใส่ผมทั้ง 10 ตัว ที่มิสซี่นำมารีวิวให้ได้อ่านกัน โดยรีวิวมีทั้งจุดเด่นของแต่ละตัวว่าเหมาะกับใครบ้าง รวมถึงคำแนะนำต่าง ๆ เกี่ยวกับการใช้ออยล์บำรุงผมด้วย ซึ่งใครที่มีคำถามว่าจะเลือกซื้อ น้ำมันใส่ผม ยี่ห้อไหนดี หลังอ่านรีวิวนี้จบแล้ว มิสซี่รับรองว่าตัดสินใจเลือกซื้อที่ตอบโจทย์ของตัวเองได้แน่นอนค่ะ ^^

อ้างอิง

https://www.healthline.com/health/hair-oiling-benefits-oil-and-how-to

https://www.vogue.in/content/oiling-really-good-your-hair

https://www.hairstory.com/blog/how-to-use-hair-oil-what-you-need-to-know-to-soak-up-every-benefit/

https://www.today.com/shop/best-hair-oils-t243161

Bestiz Chalita

Bestiz Chalita

เบสท์จบการศึกษาจากคณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ปัจจุบันเป็น Editor และ Content writer ประจำ Mizzyreview มีประสบการณ์เขียน copywriting, แปลบทความอังกฤษ-ไทย และรับผิดชอบตรวจสอบเนื้อหา และตีพิมพ์บทความผ่าน WordPress คอยอัปเดตเนื้อหาหลายๆ ด้าน ทั้งบิวตี้ไอเทม สกินแคร์ อาหารเสริม และเทคโนโลยีต่างๆ ให้สาวๆ ได้เข้าถึงทุกเทรนด์ ทุกไอเทมเด็ดกันค่ะ